<SPAN>ชมรมขุนแผนระฆังทอง&เจดีย์ทอง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ (โชว์ภาพและประสบการณ</SPAN

ไม่เป็นไรครับ ตัวเลขไม่ใช่สำคัญอะไร ผมเองก็จำไม่ได้หมดหรอก แต่แค่นี้ก็นับว่าสุดยอดแล้วล่ะครับ

 

เยอะมากครับพี่พิธีปลุกเสกที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาตร์ ผมรอได้ครับของดีที่ต้องอดทนพี่วุธอย่าลืมของผมนะเอาใจช่วยครับสู้ๆๆๆ

 

ผมรอได้ตามเจตนาผู้สร้างเลยครับ
เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเลย แค่รอเฉยๆ
คุณวุธสิคงต้องอดทนมากเพราะเห็นในแต่ละพิธีทำได้ลำบากจริงๆ

 

กราบหลวงปู่ครับ

ตอนนี้ปูเสื่อนอนรอแหล่ว
นั่งรอมานานเมื่อยอะดิ
ขอนอนรอเด้อ
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
รอจ้าาาาาาาาาาาา
อิอิ

 

ข้อห้ามและข้อพึงปฏิบัติในการใช้พระเครื่อง​

หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระเคร่ง เป็นพระถือปฏิบัติข้อห้ามบางอย่าง ผมเองก็พอทราบมาบ้าง แต่ก้อไม่รู้ว่ามีข้อห้ามใดที่หลวงปู่ถือเป็นสัญญาไว้บ้าง แต่ที่ผมนำข้อความนี้เท่าที่นึกได้และถือปฏิบัติเฉพาะตนเองมานาน ใครอ่านจะเอาไปปฏิบัติตามก็ไม่ว่ากัน
1.ห้ามด่าพ่อแม่ของเราและของเขา เพราะเป็นการเปิดประตูทอง ไม่เหนียวแน่นอนในวินาทีอันตราย
2.ห้ามใส่พระเครื่องขณะนอนมีเพศสัมพันธ์ พระเสื่อมแน่นอนครูบาอาจารย์ที่ท่านเคร่งท่านไม่อยู่แน่ ควรถอดไว้ที่สูง
3.ก่อนใส่พระคล้องคอ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดหัวจรดเท้า อารธนาคุณพระรัตนไตร
4.ห้ามนำพระเข้าซ่องโสเภณี
5.ห้ามมุดสะพานหัวเดียว ไม่มุดใต้ถุน
6.ห้ามมุดไม้ค้ำกล้วย ไม่รอดราวตากผ้าของต่ำ
7.ห้ามเป็นชู้กับเมียคนอื่น
8.ห้ามผู้หญิงมีประจำเดือนจับพระเครื่องโดยตรง(ใส่กรอบไม่เป็นไร)
9.ไม่ซักเสื้อผ้าผู้ชายรวมกับกางเกงในหรือกระโปรงผู้หญิงเพราะไม่ต่างอะไรเหมือนเอากางเกงในผู้หญิงมาคล้องคอแล้วสวมสร้อย ให้ซักผ้าแยกจากกัน ผ้าส่วนบนคือส่วนบน ผ้าส่วนล่างไว้ส่วนล่าง
10.ผ้าเช็ดหน้า-เช็ดหัว ไม่ควรเอาผ้าที่เช็ดเบื้องล่างมาเช็ดหัวและหน้า เพราะจะทำให้ตนเองไม่มีศิริ
11.หมั่นภาวนาบริกรรมพระพุทธคาถาและปลุกของอยู่เนื่องๆ
12.เมื่อจำเป็นต้องมุดในสิ่งที่ไม่แน่ใจ ควรใส่หมวก และรำลึกถึงครูบาอาจารย์บอกกล่าวให้ท่านรับทราบ บางท่านใช้คาถาเชิญครูออกก่อน คือ อาคัจฉามูลหิ เมื่อเข้าไปแล้วออกมา เชิญครูเข้า อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ
13.เมื่อมีเพศสัมพันธุ์ อุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกเช่น เตียง ผ้าปูที่นอน หมอน แม้แต่กลอนประตู ก็อกน้ำ หรืออื่นๆ ควรซักทำความสะอาด เพราะมือเราจับสิ่งสกปรกแล้วมาจับพระเครื่อง ถือว่าไม่เคารพครูบาอาจารย์ ควรทำความสะอาดตนเองหัวจรดเท้าก่อนใส่สร้อยพระ
14.หมั่นรักษาศิล 5 ให้อยู่เป็นนิจ เพราะเมื่อคนศักดิ์สิทธิ์พระเครื่องย่อมสามารถคุ้มครองได้อย่างเต็มที่ ยากที่จะคัด ถอน สูบ สำหรับคนเล่นของ
15.คนเล่นพระมีของมีครูจะใช้ของขึ้นสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ลิ้นปากฟันห้ามแตะหรือเลียของต่ำของผู้หญิง
16.เมื่อเราไม่มั่นใจว่าพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังของเรายังคงความศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมหรือลดน้อยถอยลงไปหรือไม่ ให้นำพระเครื่องวางบนพาน ดอกไม้ธูปเทียนบูชาครู กล่าวบทคาถาขอขมาครูบาอาจารย์อันเชิญครู หรือนำพระเครื่องไปวางไว้ในรูปปั้นในพระวิหารหลวงปู่หลวงพ่อนั้นๆ กล่าวคำขอขมา กล่าวขออัญเชิญคุณพระรัตนไตร ครูบาอาจารย์ เทพเทพวา ให้พระเครื่องมีความเข้มขลังเหมือนเดิมและคุ้มครองผู้ใช้ได้

เคร่งไว้ก่อนไม่เสียหายอะไร อะไรที่ไม่ค่อยเคร่งมันมักจะอืดหรือด้อยประสิทธิภาพออกดอกออกผลช้ากว่าเขาหรือเฉยไม่รู้สึกอะไร

พลังพระพุทธคุณในพระเครื่องไม่มีวันเสื่อมสลาย แต่พลังพระพุทธคุณมีความเคลื่อนคลายออก หรือจืดจางออกไป ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน วัตถุมงคลไม่ใช่สิ่งมีชิวิต แต่ทำให้มีจิตมีชีวิตได้ชั่วขณะ ถึงวันโลกแตกสลาย พลังงานย่อมคืนสู่อนูอากาศธาตุที่พระพุทธองค์ทรงอธิฐานจิตไว้

แจกแจงข้อ10.นิดครับ ผ้าเช็ดตัวผมแบ่งเป็น 1เช็ดหัว เ2ช็ดหน้า(อันนี้อาจจะใช้ร่วมเป็นผืนเดียวกันกรณีมีผืนเดียว) 3เช็ดตัว 4เช็ดส่วนล่าง....เช็ดส่วนล่างก็จะไม่มาเช็ดตัว ผู้ชายไม่เท่าไหร่ครับ โดยเฉพาะผู้หญิงบางคนใช้ผืนเดียวด้วยเช็ดหมดทุกอย่าง อีกอย่าง ถังใส่น้ำบางทีใช้อาบน้ำกับชำระงเวลาถ่ายหนักไม่แยกกัน อันนี้ผมก็ถือครับไม่มาใช้ปนกันเวลาอาบน้ำ ต้องแยกเป็นถังไป ใช้ฝักบัวง่ายสุด คนโบราณเขามีวิชา เขาเสกน้ำก่อนอาบน้ำด้วยซ้ำไป ใครจะว่าผมเคร่ง ใช่ครับเครงมาเป็นยี่สิบกว่าปีแล้ว555

ถอน คือการถอดถอนอาคมของตนเองหรือผู้อื่นได้ ผู้ที่ถอนผู้อืนได้ต้องจะต้องเก่งกว่า มีความรอบรู้ทันกัน
คัด คือ พระเกจิหรือฆารวาสที่เก่งๆเมื่อเสกของแล้วจะมีการล็อคอาคมมนต์ขลังไว้เป็นสูตรอักขระยันต์ที่ถูกซ่อนหรือหายไปเป็นเฉพาะของตนที่ถนัด อาจารย์นั้นๆจะไม่บอกใครซึ่งเป็นจุดอ่อน เพื่อไม่ให้ผู้มีวิชาอาคมผู้อื่นถอดถอนแก้คัดวิชาได้ แต่สำหรับผู้ทีเหนือกว่า รอบรู้กว่า ญาณสูงกว่า ศิลสูงกว่า คัดออกได้ แต่สำหรับพระอภิญญาอันสูงสุงตามลำดับของอริยบุคคล 4 จำพวก อวิชาใดๆก็มิอาจะทำอะไรได้
สูบ คือวิชาสูบอาคม ผู้ที่เก่งมากสามารถสูบอาคมของผู้มีอาคมด้อยกว่ามาไว้ในตัวได้ แต่ข้อเสีย ถ้าผู้โดนสูบเรียนวิชามนต์ดำไม่ดีเข้ามาด้วย ของนั้นก็จะอยู่ปนอยู่กับผู้สูบ ถ้าผู้สูบไม่ระดับจริงก็จะมีภัยกับตนเอง


อีกข้อที่นึกได้ เวลาผมไปค้างโรงแรม ผมไม่ใช้ผ้าเช็ดหัวและเช็ดตัวของโรงแรมที่พัก ถ้าจำเป็นต้องเช็ดแกเพียงส่วนล่าง ไม่มีผ้าก็เสื้อเราเช็ดหัวตัว เพราะผ้าเช็ดของโรงแรมเป็นของมือสองที่ผ่านการเช็ดล้างจากผู้ใช้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ใช้เช็ดทำความสะอาด การซักผ้าผมก็ไม่จ้างเขาซัก บางร้านก็ซักรวมมิตร รีดผ้าผมก็ไม่ให้เอาเตารีบที่รีดกระโปรงหรือกางเกงผู้หญิงมาใช้ปะปนกันแยกเป็นส่วนๆ ส่วนใครจะหาว่าผมสำอางหรือบ้าเกินเคร่งเกินก็ไม่ว่ากันเพราะเป็นอย่างนี้มานานแล้ว บางครั้งผมก็แลดูสกปรกไม่อาบน้ำหลายวัน(สมัยไปอาฟริกา)ก็มีขึ้นอยู่กับเหตุผลและความสบายใจส่วนตัว แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นการทำเช่นนี้ผมคือเป็นการเคารพครูบาอาจารย์ในลักษณะกายปฏิบัติ ส่วนใครคิดจะปฏิบัติทางใจอย่างเดียวก็สุดแท้แต่ไม่ได้บังคับ หรือเห็นว่าเคร่งมากไปมนุษย์เราทำลำบากตรงนี้ก็เข้าใจดี ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับหลักเหตุผลและเจตนาในความจำเป็นขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆด้วย บอกกล่าวครูบาอาจารย์ก่อนท่านก็เข้าใจเราและพออนุโลมกันได้ในเรื่องสุดวิสัย

 

ผมตัดสินใจรอรับพระพร้อมเพื่อนๆสมาชิกครับ
แต่หวังว่าคราวนี้คงไม่เลื่อนออกไปอีกนะครับ


ปล. ผมกลัวพระรานอ่ะ :'(

 

หลวงปู่นามท่านจะเสกด้วยหรือเปล่าครับพี่วุธ..^-^

 

ในการทัวร์ปลุกเสกผมตั้งใจไว้หลายอาจารย์ แต่ติดอุปสรรคน้ำท่วมต้องดูจังหวะอีกที ทางสุพรรณน้ำยังท่วมอยู่หรือเปล่า ทางวัดเข้าได้ไหมครับ ถ้าเข้าได้วันไหนบอกด้วยนะครับ เรื่องการปลุกเสก ผมก็อยากไปหลายที่แต่ติดตรงน้ำท่วมครับ เรื่องการเลื่อนกำหนดหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของผมแต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้อยู่กับเสียงท้วงติงเพียงสองสามคน คนส่วนใหญ่หมู่มากต้องการให้ผมนำไปเสกอีกหลายที่ และขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญที่ยังไม่ได้เสกในวันเพ็ญและอาจารย์เก่งๆ ซึ่งต้องให้ความสำคัญมากกว่ากับคนที่มาทำบุญที่วัดในวันหน้า ไม่ใช่แค่คนในเน็ตไม่กี่คน ซึ่งการปลุกเสกหลายพิธีตรงนี้ผมเองก็ทราบเข้าใจครับ แต่การเดินทางไปย่อมมีค่าใช้จ่ายเยอะและสิ้นเปลือง ผมจึงทำชุดเหรียญมาเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายที่หายไป และให้วัดมีรายได้เพิ่มมากกว่าพระเนื้อผง ซึ่งการปลุกเสกหลายที่และราคาเช่าพระบูชาที่ไม่แพงซึ่งไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน อย่างขุนแผนองค์ละ200บาท ตำครกกดมือนั่งกดเองเป็นของดีราคาย่อมเยาว์และมากด้วยความเข้มขลังถ้าเทียบกับพระสมัยใหม่ที่จ้างโรงงานเนื้อปูนหมักสำเร็จรูปมวลสารคนละเรื่องกันเลย การทำพระเจดีย์ทองครั้งนี้จึงเหนื่อยกว่าพระชุดระฆังทองหลายเท่า ทั้งปริมาณที่มากกว่าแต่ราคาถูกกว่า พิธีที่มากกว่า อุปสรรค และ อื่นๆ ที่มีมากกว่า เป็นเพราะความตั้งใจของผู้ร่วมสร้างกันไว้ว่าจะต้องทำให้ดีที่สุดไม่ให้แพ้รุ่นระฆังทอง
ในพิธีวันเพ็ญเดือน12โบราณจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า เป็นวันที่มีพลังแห่งความเมตตามหาเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งมากที่สุดในรอบ 1 ปี ซึ่งพระเครื่องถ้าได้ปลุกเสกในวันหรือคืนนั้นตามฤกษ์ยามพระเครื่องนั้นก็จะมีอิทธิ์บุญฤทธิ์มากด้วยความเมตตาเสน่หาใครนำไปใช้ก็จะเป็นที่รักของฝูงชน วันนี้ผมได้โทรคุยกับเจ้าอาวาส ท่านรับทราบและจัดดำเนินการให้ ปลุกเสกพระเครื่องเจดีย์ทองและพิชิตมารท่ามกลางแสงจันทร์ เท่ากับพระขุนแผนเจดีย์ทองปลุกเสกถึงสองจันทร์เพ็ญปีขาลและปีเถอะซึ่งเป็นปีเกิดหลวงปู่ทิม
ผมเองไม่รู้ว่าหลวงปู่นามท่านจะมาได้ไหมวันวันลอยกระทง แต่จะลองไปนิมนต์ท่านดู ถ้าท่านไปไม่ได้ก็คงให้ท่านเสกที่วัดท่านวันใดวันหนึ่ง คงต้องรอน้ำลดก่อนถึงจะไปหาท่านได้
ส่วนที่วัดละหารไร่ หลวงพ่อสินท่านอาจารย์เชยท่านนิมนต์ให้เสกให้อยู่แล้ว ซึ่งท่านขอบารมีหลวงปู่ทิมลงมาทำให้ได้อย่างแน่นอน เหมือนเมื่อครั้งปลุกเสกขุนแผนเจดีย์ทองตะกรุดทองคำในวันนั้น ฟ้าใสๆไม่มีทีท่าฝนจะตกแต่อย่างใด ฟ้าได้คำรามสามครั้ง เมื่อตอนปลุกเสกหลวงพ่อสินท่านถามว่ามีพระอะไรพิมพ์อะไรบ้างแล้วท่านก็ถามใช้ยันต์อะไร พอตอนเสกฝนฟ้าก็ได้เทลงมา ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะผมเองก็มั่นใจว่าหลวงปู่ทิมลงมาทำให้ด้วยเพราะบอกกล่าวหลวงปู่ทิมในพระวิหาร และเชื่อทุกครั้งที่ผมไปเสกที่ไหนก็ตามหลวงปู่ท่านลงมาช่วยทำให้ตามเจตนารมณ์ของผู้สร้างหลวงปู่ทิมท่านผมทราบดี ผมเองก็ใช้พระเครื่องของหลวงปู่ทิมในคอเป็นสื่อถึงท่าน และมั่นใจทุกครั้งที่ทำ
และในคืนวันเพ็ญที่วัดละหารไร่มีงานลอยกระทงประจำปี และปีนี้จะมีสรงน้ำรูปปั้นหลวงปู่ทิม ซึ่งตามประวัติ หลวงปู่ทิม ท่านจะสรงน้ำปีละ 1 ครั้ง ที่วัดละหารไร่ ติดกับแม่น้ำบ้านค่าย มีบรรไดลงไปลอยกระทง เชิญมาเที่ยวทำบุญกันได้ครับ....ทางเจ้าอาวาส พระอาจารย์เชย ท่านปรารถกับคณะผู้สร้าง ว่าทางวัดยังขาดปัจจัยอีกมาก ทางคณะจึงอยากให้สร้างพระบูชาปูนปั้นถวาย เป็นพิมพ์ย้อนยุคมาเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างถาวรวัตถุ อาทิ วังสามพญา พระมหาเจดีย์ โรงเรียนปริยัติธรรม เคลื่อนโบสถ์ทำสองชั้น รูปปั้นที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งค่าแรงคนงานและอื่นๆอีกมาก ทางคณะผู้สร้างซึ่งเป็นช่างทำพระจึงอาสาทำพระบูชาปูนปั้น 3 พิมพ์ถอดพิมพ์จากของแท้โดยเปลี่ยนแปลงฐานชื่อให้เป็นเอกลักษณ์เสียใหม่ และอุดผงเก่าที่ได้จากเจ้าอาวาส ชื่อรุ่นว่า "จันทร์เพ็ญ เจดีย์ทอง" ส่วนรายละเอียดและภาพจะมาให้ชมกันทีหลังครับ

 

ดีครับ ผมจะได้ชื่อว่ามี "พระหลวงปู่ทิม" ไว้ห้อยคอกับเขาซักองค์นึง ซึ่งมีทั้งเหรียญย้อนยุคและพระขุนแผนผงพรายกุมาร

 

​

ตอนนี้ผมอยู่ปราจีนบุรีครับ มาตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ไปกราบหลวงพ่อโสฬส วัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรีมาครับ หลวงพ่อโสฬสตอนนี้ท่านอายุ97ย่าง98ปีแล้วครับ ลูกศิษย์ท่านมาหาอยู่เนื่องๆ ได้ข้อมูลจากคนพื้นที่ว่า ทหารขึ้นลงกับท่านมาก มาขอของดีไปใช้มีประสบการณ์ทีใต้ และโชว์รอยกระสุนปืนที่ยิงไม่เข้ามาแล้ว ท่านเป็นศิษย์ที่เรียนวิชาจาก หลวงพ่อจาด บางกระเบา หลวงพ่อเส็ง ประจันตคาม หลวงพ่อเอีย บ้านด่าน ครับ ตามข้อมูลที่ผมเคยโพสต์ไว้ให้ทุกท่านดู ในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีปลุกเสกและเทหล่อรูปเหมือนหลวงปู่โสฬส เป็นการหล่อแบบเบ้าทุบ และมีเหรียญให้บูชา ท่านใดว่างก็ไปเที่ยวทำบุญกันนะครับ ที่วัดทางเข้าได้สองทาง ทางค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อหน่อย เข้าไปแถวนั้นเป็นป่าเป็นทุ่งนาครับ หาพระดีพระเก่งก็อย่างนี้ครับ ช้างเผือกก็ต้องอยู่ในป่า ผมเข้าไปกราบท่านและก็ได้บอกความจำนงค์ไปว่า ผมมาจากจันทบุรีได้มีโอกาสได้สร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อดีตเจ้าอาวาส เพื่อนำรายได้ไปสร้างพระมหาเจดีย์ และพระอีกส่วนหนึ่งทำไปแจกทหารชายแดน วันนี้ผมมากราบหลวงปู่ ทราบข่าวว่าพรุ่งนี้ทางวัดจะมีพิธีปลุกเสก จึงอยากจะขอความเมตตาจากหลวงปู่เมตตาปลุกเสกวัตถุมงคลในครั้งนี้ให้ด้วย........ท่านก็รับทราบไม่ว่าอะไร เหมือนท่านรู้มาก่อนล่วงหน้ายังไงอย่างนั้น ท่านไม่ค่อยสบายนัก ลูกศิษย์ท่านบอกว่า ท่านไอและปอดติดเชื้อและเข้าโรงพยาบาลมา นี่ค่อยดีแล้ว ผมจึงลาท่านกลับให้หลวงปู่ท่านพักผ่อน
หลังจากกลับมาผมก็ไปวัดต้นโพธ์ศรีมหาโพธิ์เพื่อไปเดินเวียนสามรอบ ต้นโพธิ์นี้เป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุ2000 ปี เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยได้นำมาจากประเทศอินเดียครับ

 

ดูข้อมูลเก่าครับ พระเครื่องหลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี | บทความพระเครื่อง

พระเครื่องหลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี
รุ่นเสาร์ 5 มหาเศรษฐี
<DL class="wp-caption aligncenter"><DT class=wp-caption-dt></DT><DD class=wp-caption-dd>พระเครื่องหลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี</DD></DL>
หลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี


พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “พระครูธำรงโพธิเขต หรือ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร” วัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์ทอง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ศิษย์ธรรมทายาทหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปัจจุบันอายุ 95 ปี พรรษา 74
ท่านเป็นศิษย์ ผู้สืบทอดวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ดังในอดีต เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจาด แห่งวัดบางกระเบา พระเถรา จารย์ขมังเวทผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโดจีน แต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยของหลวงพ่อจาดแล้ว จึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจากพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองนามในท้อง ถิ่นย่านนั้นอีกรูปหนึ่งคือ หลวงพ่อเส็ง วัดประ จันตคาม และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็งมากมาย เนื่อง จากมีใจรักและฝักใฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้ว
มีความเชี่ยวชาญทั้งอักขระ ขอมไทย และอักขระขอม ลาว และยังมีความสามารถด้านโหราศาสตร์ และด้านสมุนไพรไทยอีกโสตหนึ่ง นับได้ว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครและไม่เสียทีที่เป็นศิษย์ผู้สืบทอด เวทยาคมสืบทอดมาจาก บูรพาจารย์ผู้โด่งดังในอดีตในย่านนั้นคือหลวงพ่อจาดแห่งวัดบางกระเบาวัตถุ มงคลที่ท่านจัดสร้างขึ้นก็มีประสบการณ์มากมายจากผู้บูชานำไปใช้


<DL class="wp-caption aligncenter"><DT class=wp-caption-dt></DT><DD class=wp-caption-dd>พระเครื่องหลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี รุ่นเสาร์ 5 มหาเศรษฐี </DD></DL>
พระเครื่องหลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี
รุ่นเสาร์ 5 มหาเศรษฐี
​

พระเครื่องยอดนิยมโดยเฉพาะเหรียญรุ่น แรกที่ท่านสร้างแจกทหารหาญผู้อาสาสมัครไปปฏิบัติราชการ ณ สงครามเกาหลี ในปีพุทธศักราช 2495 ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโพธิ์ทองและเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทองอยู่ใน ขณะนั้น และเหรียญนี้ก็ได้แจกจ่ายให้ทหารหาญเรื่อยมาในราชการสงครามเวียดนาม ลาว เขมร และในราชการสงครามปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบคือราชการชายแดน เรียกกันว่าเหรียญ 5 สมรภูมิ มีประสบการณ์มากมายมิต้องกล่าวถึงขณะนี้เป็นที่เสาะแสวงหาของประชาชนในท้อง ถิ่นข้างเคียงเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2553 เวลา 09.09 น. ตรงกับวันเสาร์ 5 คือ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ถือเป็นฤกษ์มงคลที่สุดของการปลุกเสกพระเครื่อง หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ได้จัดพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลรุ่น เสาร์ 5 มหาเศรษฐี ในอุโบสถ โดยมีพระสวดชยันโตจำนวน 8 รูป
พระเครื่องที่จัดสร้างในครั้งนี้ ทุกรายการ หลวงปู่โสฬสได้กำหนดแบบพิมพ์พระเครื่องรุ่นนี้เองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบวัตถุมงคล เนื้อหาและมวลสารต่างๆ ที่ได้นำมาจัดสร้าง ทุกรายการถือเป็นงานระดับชั้นครู โดยได้จำลองแบบของอาจารย์แต่ละท่าน อาทิ เหรียญรุ่นพิเศษ ได้จำลองแบบหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปี 2518 ผงรูปเหมือน 5 พยัคฆ์ ได้นำเนื้อมวลสารยอดนิยมที่สุดของหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน คือเนื้อไร่ควายและสีผึ้งรุ่นแรก ที่หลวงปู่โสฬสเก็บไว้ มอบให้มาผสมสร้างพระเครื่อง พญาหมูป่ามหาลาภ ได้นำแบบหมูหลวงปู่เส็ง วัดบางนา ซึ่งท่านได้แบบตอนปลุกเสกรุ่น โสฬสมหามงคลไตรมาส 52 ตะกรุดเสาร์ 5 (สิริโสฬสเดิม) ถือว่าเป็นสุดยอดตะกรุดที่ได้นำยันต์ 3 แผ่นเอาไว้ในหนึ่งเดียว อาทิ เกราะเพชร ตันหลวง ตันน้อย เป็นต้น
พระเครื่องที่จัดสร้างในครั้งนี้ประกอบด้วย 1.เหรียญรุ่นพิเศษ 2552 ซึ่งได้จำลองแบบเหรียญรุ่นพิเศษของหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปี”19 ถือว่าเป็นแบบเหรียญที่สวยที่สุดเหมือนหลวงปู่ที่สุดอีกเหรียญหนึ่ง 2.พระมหาเศรษฐี 9 หน้า 3.ผงรูปเหมือน 5 พยัคฆ์ 4.พญาหมูป่ามหาลาภ เหยียบเรือสำเภาทอง 5.พญาหมูทองแดง ขนาดติดตัว ปัจจัยจากการบูชาในครั้งนี้จะนำไปถวายหลวงปู่โสฬสเพื่อนำไปสมทบทุนในการ สร้างพระใหญ่ ในวันสรงน้ำของหลวงปู่โสฬส วันที่ 23 พฤษภาคม 2553 ต่อไป
​

 

เคยไปคุยกับหลวงปู่ฬสครับท่านว่าคาถาท่านคือคาถาไล่ควาย ซึ่งเป็นสุดยอดคาถาด้านแคล้วคลาดที่สืบทอดมาจากหลวงพ่อเอีย(หลวงปู่ฬสท่านจะพูดภาษาอิสาน) ยินดีกับพระชุดนี้ครับที่ได้อาคมสายปราจีนขั้นสูงประจุพุทธคุณ

 

รอชมภาพ พิธีปลุกเสกครับพี่วุธ

 

พี่วุธครับผมรบกวนพี่ดูให้หน่อย...ทันหลวงปู่เสกไหม๊ครับ..ผมจะได้เอาไปเลี่ยม..ขอบคุณครับพี่

 

ผมดูไม่ค่อยเก่งไม่ค่อยชำนาญครับ:'( ส่วนตัวผมดูไม่ดีครับ รอคุณวุธเซียนใหญ่ฟันธงละกันนะครับ

 

เก๊ท่าพระจันทร์ครับผม..องค์ล่ะ20บาท..ฝีมือยังห่างชั้นมากๆๆครับ..ฟันธง

 

ขอบคุณมากครับพี่..:'(

 

ยังไงก็รบกวนพี่วุธอย่าเลื่อนวันรับพระอีกเลยนะครับ เลื่อนมาหลายรอบ รอมานานมาแล้วครับ:'( อยากได้พระมาใช้สักที
ว่าแต่พระขุนแผนเจย์ดีทองรุ่นนี้มี พ่อพรายเหมือนรุ่นระฆังทองไหมครับพี่วุธ ผมใช้รุ่นระฆังทองเจอเรื่องดีๆเยอะเหมือนกันครับ

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=VHXLmt64y6Q"]หลวงพ่อโสฬส วัดโคกอู่ทอง ปราจีนบุรี - YouTube[/ame]

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา ทางคณะ คุณสุภาฤทธิ์คณะผู้จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น "สมปรารถนา" โดยขออนุญาตหลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี ปลุกเสก ทางคณะศิษย์หลวงปู่ทิมได้รับเกียรติจากผู้จัดสร้างให้นำพระเครื่องหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รุ่น "เจดีย์ทอง (สร้างพระมหาเจดีย์ภาวนาภิรัต)" และ รุ่น "พิชิตมาร (ช่วยทหารชายแดน)" เข้าพิธีในครั้งนี้ด้วย

พระครูธำรงโพธิเขต (หลวงปู่โสฬส ยโสธโร) อายุ ๙๗ พรรษาที่ ๗๖

วัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

ศิษย์ธรรมทายาทหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม

หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ฯลฯ

หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร ปัจจุบันอายุ ๙๗ ปี พรรษาที่ ๗๖ หลวงปู่ โสฬส นับว่าเป็นพระสงฆ์สุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้เคารพเป็นอย่างยิ่งด้วยอายุกาลพรรษาด้วยคุณวุติที่เป็นนักการศืกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตรเป็นนักการปกครองกล่าวคือได้ดำรงตำแหน่งทางด้านการปกครองสงฆ์ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาจารย์และเจ้าคณะตำบลมายาวนานตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2490 ในด้านพุทธเวทย์ไสยยาคมก็ไม่เป็นสองรองผู้ใดเนื่องจากเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิทยาคมจากพระเกจิดังผู้เรืองนามในอดีตคือได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจาดแห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทย์ผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโดจีนแต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจาดแล้วจึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจากเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่นย่านนั้นอีกรูปหนึ่งคือหลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็ง มากมายเนื่องจากมีใจรักและฝักไฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้วนอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านการศืกษาและบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ได้หาโอกาสไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านกฤติยาคมในยุคนั้นอีกหลายรูปคือหลวงพ่อเอียแห่งวัดบ้านด่าน ศึกษาวิชาปรอทจากหลวงปู่อวน จากวัดหนองพลับ อ.หนองแซง จ.สระบุรี ศึกษาวิชาเสือปรอทจากพระอาจารย์ วัน เขาวงถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี ศึกษาวิชาอาคมทางสายอีสานจากอาจารย์ พรหมมา อาจารย์หมอธรรมผู้เรืองนามใน จ.นครราชสีมา ศึกษาวิชาอาคมจากอาจารย์ ชื่นอาจารย์ฆราวาสผู้มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน ฯลฯ ท่านมีความเชี่ยวชาญทั้งอักขระขอมไทย และอักขระ ขอมลาว และยังมีความสามารถด้านโหราศาสตร์ และด้านสมุนไพรไทยอีกโสตหนึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครและไม่เสียทีที่เป็นศิษย์ผู้สืบทอดเวิทยาคมสืบทอดมาจากบูรพาจารย์ผู้โด่งดังในอดีตในย่านนั้นคือหลวงพ่อ จาดแห่งวัดบางกระเบาวัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างขื้นก็มีประสพการณ์มากมายจากผู้บูชานำไปใช้ โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกที่ท่านสร้างแจกทหารหาญผู้อาสาสมัครไปปฏิบัติราชการ ณ สงครามเกาหลี ในปีพุทธศักราช 2495 ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโพธิ์ทองและเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทองอยู่ในขณะนั้น และเหรียญนี้ก็ได้ทำการแจกจ่ายให้ทหารหาญเรื่อยมาในราชการสงครามเวียตนาม ลาว เขมร และในราชการสงครามปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบคือราชการชายแดน เรียกกันว่าเหรียญ 5 สมรภูมิ มีประสพการณ์มากมายมิต้องกลาวถึงขณะนี้เป็นที่เสาะแสวงหาของประชาชนในท้องถิ่นข้างเคียงเป็นอย่างยิ่งสามารถสอบถามดูได้ ต่อไปจะได้กล่าวถึงอัตตะชีวประวัติ และผลงานด้านการปกครองศึกษาและพัฒนาอันเป็นภาระทางด้านการพระพุทธศาสนาที่ท่านได้กระทำมาโดยตลอดตราบจนปัจจุบัน

อัตตะและชีวประวัติ หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร

สถานะเดิม หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร นามเดิมว่า รส นามสกุล ไชยยันต์

บิดามีนามว่า ทองแดง มารดานามว่า นาก เกิดเมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2457 ตรงกับวันเสาร์ แรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง เกิดที่ ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

อุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พุทธศักราช 2477 อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เวลา 15.05 น.

เจ้าอธิการ ตาล เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการ วุ้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการ ศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า ยโสธโร แปลว่า ผู้มียศ เมื่ออุปสมบทแล้วจำพรรษา ณ วัดโคกอู่ทอง มาตลอด

การศึกษา พ.ศ. 2479 สอบได้ชั้นนักธรรมตรี ณ สำนักเรียนวัดบ้านโง้ง ปราจีนบุรี

ทางด้านการพัฒนาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการณ์แทนเจ้าอาวาสแทนเจ้าอธิการ ศรีที่
สึกหาลาเพศไป จากนั้นก็เริ่มงานด้านพัฒนาและด้านการศึกษาตามลำดับดังนี้
เริ่มสร้างกุฏิสงฆ์และเสนาสนะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 จนถึง พ.ศ. 2484 เนื่องจากย้ายวัดมาจากที่เดิมเพราะเป็นที่น้ำท่วม พ.ศ. 2489 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการศึกษา ต.โพธิ์งาม
พ.ศ.2490 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลโพธิ์งามและในปีเดียวกันได้รับการแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์
พ.ศ. 2492 จัดตั้งสำนักเรียนปริยัติธรรม ณ วัดโคกอู่ทอง
พ.ศ. 2493 เริ่มก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังเก่า
พ.ศ. 2494 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทองและตำแหน่งครูสอนปริยัติธรรม
พ.ศ. 2495 เริ่มการก่อสร้างขยายกุฏิสงฆ์เสนาสนะขื้นอีกเพื่อรองรับพระภิกษุที่มาอุปปสมบทและเล่าเรียน
พ.ศ. 2498 ทำการซื้อที่ดินจำนวนสองแปลง 16 ไร่เศษขยายที่วัด
พ.ศ. 2500 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการศึกษาพระปริยัติ จ.ปราจีนบุรี

พ.ศ. 2505 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมณะศักดิ์ พระครูชั้นประทวน พระครูธำรงโพธิเขต
และในปีเดียวกันได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาจารย์
พ.ศ.2510 ริเริ่มให้มีการจัดตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนในวัดโคกอู่ทอง
พ.ศ.2511 สร้างศาลาการเปรียญแล้วเสร็จ
พ.ศ.2523 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณะศักดิ์ชั้นพระครูสัญญาบัตร
พ.ศ. 2532 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณะศักดิ์ชั้นพระครูชั้นโท
พ.ศ. 2541 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณะศักดิ์ชั้นพระครูชั้นเอกมาจนปัจจุบัน

ปัจจุบันแม้จะมิมีหน้าที่ทางด้านการปกครองสงฆ์ในตำแหน่งเจ้าคณะตำบลแล้วเนื่องจากเกษียณอายุแต่ก็ยังมีตำแหน่งอยู่ในฐานะที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลอยู่ตราบจนปัจจุบัน จึงนับว่าเป็นเกียรติมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของบรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์และผู้เคารพนับถือในพระเดชพระคุณ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร เป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำเสนอเรื่องราวอัตตะชีวประวัติของท่านผู้สมควรได้รับการขนานนามว่า พระดีแห่งศรีประจันตคาม โดยแท้จริง ในด้านวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านจัดสร้างก็เป็นที่เชื่อถือได้ในด้านประสพการณ์เป็นที่ประจักษ์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2493 แล้ว จึงมิขอกล่าวถึง เนื่องในโอกาสที่หลวงปู่ มีปรารภในการสร้างซุ้มประตูเข้าวัด จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาอีกครั้งอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “โสฬสมหามงคล” และได้ทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถวัดโคกอู่ทอง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2548 จึงเปิดให้ทำบุญบูชาที่วัดโคกอู่ทอง และศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป หลังจากนั้นไม่นาน วัตถุมงคลที่เปิดให้บูชาที่จัดสร้างออกเพียงเล็กน้อย ก็ค่อยหมดไปทีละอย่างสองอย่าง โดยเฉพาะ ตะกรุดสิริโสฬส ยาว ๕ นิ้ว ที่ร่วมเอาพระยันต์องค์ครูสามยันต์ รวมเป็นหนึ่งเดียว จนเป็นที่ต้องการเสาะหาของหมู่ลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก
ถ้าจะเอ่ยถึงประวัติของหลวงปู่โสฬส และประสบการณ์ต่าง ๆ ของวัตถุมงคลนั้น มีมากมาย จากปากของชาวบ้านในละแวกนั้น หรือศิษย์ที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ไป ต่างมาเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้หลวงปู่ฟัง แต่เผอิญที่วัดไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่คอยจดหรือบันทึก จึงไม่ค่อยได้นำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ สู่สายตาของลูกศิษย์เท่าไหร่นัก หลังจากที่หลวงปู่โสฬส จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น โสฬสมหามงคล ขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากนั้นหลวงปู่ยังได้จัดสร้างขึ้นมาอีกหลายรุ่น แต่ไม่ค่อยได้ประชาสัมพันธ์เท่าไหร่ แต่ก็มีศิษย์ที่รูปกิตติศัพท์ของท่านตามเก็บสะสมเอาไว้ทุกรุ่นหรือเรียกอีกอย่างว่า “แฟนพันธุ์แท้” ตราบจนถึงปัจจุบัน​

<!-- google_ad_section_end -->

 

ผมตั้งใจว่าจะให้พระเกจิที่เก่งๆปลุกเสก แต่ไม่คิดว่าจะติดน้ำท่วมไปไหนไม่ได้ ที่ตั้งใจไว้ที่ท่านยังไม่ได้เสกเหรียญเพื่อนำไปแจกทหารของคนรับใช้ชาติหมู่ใหญ่ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันกับผู้จองพระ พระเกจิที่ตั้งใจไว้ได้แก่ หลวงปู่นะ วัดหนองบัว ชัยนาท หลวงพ่อเร่ง วัดดงแขวน หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส หลวงปู่บุญหนา วัดโสตถิผล สกลนคร หลวงพ่อเกิด วัดสะพาน นครนายก และอีกหลายองค์ไม่ได้อย่างไรคงต้องเปลี่ยนแปลงตามสถาณการณ์ ก็จะพยายามให้ทุกท่านได้พระเร็วที่สุด เพราะในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน นี้เป็นวันเพ็ญเดือน12 ผมได้จัดพิธีอีกครั้งที่วัดละหารไร่ครับ