สายพระป่ากรรมฐานลป.บุญจันทร์ อุดรธานี ลป.บุญหนัก หนองคาย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    pic_098.jpg พระครูสุนทรวุฒิคุณ (หลวงพ่อพุฒ สุนทโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

    นามเดิมนั้นท่านมีชื่อว่า พุฒ นามสกุล หาญสมัย เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ปี จอ ณ บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บิดาของท่านชื่อ นายขำ หาญสมัย มารดาของท่านชื่อนางปาน หาญสมัย ซึ่งท่านมีพี่น้องด้วยกัน 5 คน คือ 1. นางสาวบุญรอด หาญสมัย (ถึงแก่กรรมแล้ว) 2. พระครูสุนทรวุฒิคุณ (หลวงพ่อพุฒ สุนทโร) 3. นางปุ่น นาคละมัย 4. นายปั่น หาญสมัย 5. นางบุญนาค กลั่นสนิท (ถึงแก่กรรมแล้ว)

    การศึกษาเล่าเรียนนั้น หลวงพ่อพุฒ ท่านได้ความรู้ติดตัวและได้เรียนมาจากวัด ซึ่งต่อมาหลวงพ่อพุฒได้จบการศึกษาสายสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ครอบครัวของท่านแต่เดิมมีอาชีพทำนา

    เมื่อท่านอายุได้ 20 ปี เข้ารับการคัดเลือกของราชการทหารให้เข้ารับราชการ หรือที่เราเรียกกันว่า “เกณฑ์ทหาร” ในที่สุดท่านก็ต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นทหารรักษาพระองค์อยู่ถึง 2 ปี ได้กลับมาช่วยครอบครัว บิดา มารดา ของท่านทำงานอย่างขยันขันแข็งจนผู้คนในหมู่บ้าน และละแวกใกล้เคียง ชื่นชมยินดีส่งเสริมให้การทำงานอย่างจริงจังของท่าน ชีวิตความเป็นอยู่ก็อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงามจนชาวบ้านในท้องถิ่นต่างเสนอให้ทางราชการแต่งตั้งท่านเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

    ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2489 ผู้ใหญ่พุฒก็ตัดชีวิตทางโลกเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรในรูปพระสงฆ์ ณ พัทธสีมา วัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของท่าน โดยมีเจ้าอธิการหิ่ม อินทโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เปลี่ยน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า สุนทโร

    เมื่อหลวงพ่อพุฒ หรือพระภิกษุพุฒในสมัยนั้น อุปสมบทใหม่ ๆ ท่านก็มีความมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรมวินัย และเมื่อท่านมีโอกาส ท่านก็ศึกษาตำรับตำราต่าง ๆ ซึ่งค่อนข้างจะแปลกกว่าพระรูปอื่น เพราะท่านไม่ชอบปล่อยเวลาให้ล่วงไปอย่างไร้ค่า ซึ่งตำรับตำราในสมัยนั้นก็หายากไม่มีมากมายเหมือนในสมัยปัจจุบัน หนังสือที่ท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษส่วนมากก็จะเป็นหนังสือประเภทธรรมะ และตำรายาแผนโบราณ และในปีแรกนั้น พ.ศ. 2489 ท่านก็สามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ต่อมาอีก 2 ปี คือในปี พ.ศ. 2491 ท่านก็สามารถสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกได้มาโดยลำดับ

    หลังจากที่หลวงพ่อพุฒได้อุปสมบทและศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ รวมทั้งได้ออกธุดงค์ได้เพียง 6 พรรษา ในปี พ.ศ. 2495 เจ้าอาวาสองค์ที่ 6 แห่ง วัดกลางบางพระได้มรณภาพลงตามสังขาร ทางคณะสงฆ์ ชาวบ้าน ตลอดจนกรรมการได้นิมนต์หลวงพ่อพุฒ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดกลางบางพระเป็นองค์ที่ 7 สืบต่อมา ได้รับนามว่า “พระอธิการพุฒ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 หลังจากที่พระอธิการพุฒ ในสมัยนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสของวัดกลางบางพระ ก็ได้ทำการพัฒนาวัด บูรณะปฏิสังขรณ์ เรื่อยมา โดยได้เริ่มมีการวางผังวัดใหม่เพื่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ ซึ่งในสมัยนั้นวัดเป็นที่ลุ่มพอสมควร ต้องทำการถมดินเป็นจำนวนมาก โดยได้รับแรงศรัทธาจากชาวบ้านในสมัยนั้น ซึ่งต้องใช้แรงงานคน ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต่อมาได้ทำการซ่อมแซมบูรณะพระอุโบสถขึ้นใหม่อีกครั้ง เพราะชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ซึ่งในอดีตพระอธิการดาได้ทำการบูรณะซ่อมแซมมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อบูรณะพระอุโบสถเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปี พ.ศ. 2497 ก็ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญของวัดกลางบางพระ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปีเศษ

    ในด้านการศึกษานั้น หลวงพ่อได้รับการแต่งตั้งให้ดูงานด้านการศึกษามาโดยลำดับ คือ พ.ศ. 2496 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดกลางบางพระ เป็นกรรมการสอบธรรมสนาม หลวง พ.ศ. 2500 เป็นกรรมการอุปถัมภ์โรงเรียนวัดกลางบางพระ พ.ศ. 2515 เป็นกรรมการอุปถัมภ์โรงเรียนสหศึกษาบาลี องค์พระปฐมเจดีย์ พ.ศ. 2529 เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล พ.ศ. 2530 เป็นหน่วยรับพิเศษของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง

    วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2542 หลวงพ่อมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลีย จึงไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลห้วยพลู ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2542 อาการของหลวงพ่อยัง ไม่ดีขึ้นระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย เริ่มไม่มีประสิทธิภาพ รุ่งเช้าวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2542 เวลาประมาณ 08.45 น. หลวงพ่อได้จากพวกเราไปด้วยอาการอันสงบ คณะศิษยานุศิษย์ได้นำศพของหลวงพ่อกลับมายังวัดกลางบางพระและได้รับพระราชทานน้ำสรงศพ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2542 เวลา 17.00 น. อย่างสมเกียรติท่ามกลางความอาลัยของคณะศิษยานุศิษย์ สิริรวมอายุของหลวงพ่อได้ 88 ปี 2 เดือน 8 วัน

    จากคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างสมปฏิบัติมา จึงได้รับพระราชทานสมศักดิ์ตามลำดับ คือ
    1. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูชั้นประทวน ในนามพระครูพุฒ สุน?ทโร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2509 อายุ 54 ปี พรรษา 20
    2. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในนามพระครูสุนทรวุฒิคุณ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2513 อายุ 58 ปี พรรษา 24
    3. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2518 อายุ 63 ปี พรรษา 29
    4. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 อายุ 80 ปี พรรษา 45
    5. ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์จากสมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 อายุ 82 ปี พรรษา 47

    วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้มีมากแต่ที่จะพอนำมากล่าวได้ก็คือ
    - เหรียญรุ่นแรก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 แจกเปิดโรงเรียนวัดกลางบางพระ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2509 เป็นเหรียญรูปทรงเสมาหลวงพ่อหน้าตรงครึ่งองค์ เห็นสังฆาฏิทำด้วยสตางค์แดงผสมทองแดง และอีกชนิดหนึ่งทำด้วยทองเหลืองฝาบาตร ซึ่งเป็นพิมพ์เดียวกัน หน้าเหรียญเขียนว่า “พระอธิการพุฒ สุน?ทโร” ซึ่งในปัจจุบันหายากพอสมควร
    - เหรียญรุ่นที่สองสร้างเมื่อ พ.ศ. 2513 เมื่อครั้งรับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี เป็นเหรียญเต็มองค์นั่งขัดสมาธิ เขียนใต้ฐานว่า “พระครูสุนทรวุฒิคุณ” บนเขียนว่าวัดกลางบางพระ
    - เหรียญรุ่นที่สามเป็นเหรียญเสมา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2522 เป็นเหรียญรูปหล่อหลวงพ่อครึ่งองค์ สร้างเป็นที่ระลึกในงานฉลองพระครูสัญญาบัตรชั้นโท
    - เหรียญรุ่นที่สี่เป็นเหรียญกลมหลวงพ่อครึ่งองค์ด้านหลังเป็นหนังสือ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2528
    - เหรียญรุ่นที่ห้าเป็นเหรียญเสมารูปหลวงพ่อเต็มองค์ นั่งถือไม้เท้า ด้านหลังเขียน “ที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นเอก” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
    - เหรียญรุ่นที่หกเป็นเหรียญเสมาหลวงพ่อเต็มองค์นั่งทับปืนและลูกระเบิด ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยมที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เหรียญปืนไขว้” หรือ “เหรียญนั่งทับปืน” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
    - เหรียญรุ่นที่เจ็ดเป็นเหรียญเสมารูปหลวงพ่อครึ่งองค์ด้านหน้าเขียนว่า “หลวงพ่อพุฒ อายุ 80 ปี” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
    - เหรียญรุ่นที่แปดเป็นเหรียญรูปไข่หลวงพ่อนั่งเต็มองค์ถือไม้เท้า ด้านหลังเขียนว่า “ที่ระลึกในงานฉลองพระเกตุจุฬามณี” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2534
    - เหรียญรุ่นที่เก้าเป็นเหรียญเสมาหล่อปืนไขว้ “นั่งทับปืน” มีทั้งเนื้อเงิน เนื้อนวะ และเนื้อทองแดง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
    - เหรียญรุ่นที่สิบเป็นเหรียญกงจักรหลวงพ่อนั่งทับปืน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
    - นอกจากนี้ยังมีวัวธนูบูชาและห้อยคอ ราหูอมจันทร์ แกะจากกะลาตาเดียวทั้งที่เป็นลูกและห้อยคอ พระผงรุ่นต่าง ๆ ตะกรุด สี และอื่น ๆ อีกมากที่หลวงพ่อท่านได้สร้างไว้ให้ลูกศิษย์ได้บูชา
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระนางพญาหลวงพ่อพุฒวัดกลางบางพระให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่ง 30 บาท ระบบflashหรือ j&t หรือ kerry
    IMG_20221127_014149.jpg IMG_20221127_014158.jpg IMG_20221127_014136.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2022
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้ จัดส่งเคอรี่
    1669532259692.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหยดน้ำหลวงพ่อปานวัดบางนมโคหลังยันต์เกราะเพชร บูชา 100 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่
    IMG_20221128_002105.jpg IMG_20221128_002118.jpg IMG_20221128_002038.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระปิดตาหลวงปู่บุดดานิตยสารศักดิ์สิทธิ์สร้างแจกพิธีใหญ่วัดบวรสมเด็จญาณสังวรพระสังฆราชหลวงปู่ชอบหลวงปู่บุดดาอธิษฐานจิตและอีกหลายครูบาอาจารย์ สภาพสวยเก่าเก็บซองเดิม
    ให้บูชา บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบflash หรือ j&t หรือเคอรี่(ปิดรายการ)

    IMG_20221128_004736.jpg IMG_20221128_004748.jpg IMG_20221128_004724.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2022
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1669484208092-jpg.jpg
    พระดี อย่ามองข้าม"
    หลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์
    หลวงพ่อไวทย์ อินทวังโส ท่านเป็นสหายกับ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อวาสน์ วัดบ้านแพน หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง และหลวงพ่อกุหลาบ วัดรางจระเข้
    หลวงพ่อไวทย์ ท่านเป็นพระที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่เคยดุ ไม่เคยด่า ใจดี เป็นพระที่สมถะเป็นอย่างมาก ขนาดท่านเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัด แต่กุฏิของท่านก็ยังคงเป็นเพียงกุฎิเล็ก ๆ เล็กขนาดที่ว่า คนที่สูง ๆ ยืนนี่หัวชนเพดาน หลวงพ่อไวทย์ เป็นพระเกจิมากครู มากอาจาย์ เก่งทั้งบุ๊นและบู๊
    วิชาดูดวง วิชาผูกดวงชะตา เป็นหนึ่งในวิชาที่ท่านชำนาญ
    สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ ฯลฯ (องค์นี้วิชาดูดวงเข้าขั้น ทำนายเหมือนตาเห็น) ท่านได้ สอนวิชาเหล่านี้ให้กับ หลวงพ่อไวทย์
    และในปัจจุบันวิชานี้ ก็ยังมีพระผู้ทรงวิทยาคมสืบทอดอยู่ก็คือ หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน เกจิดังที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยหลวงพ่อพูน เคยบอกไว้ว่า ฉันไปเรียนวิชาดูดวงมาจาก หลวงพ่อไวทย์
    นอกจากวัตถุมงคลของท่านแล้ว ของดีอีกอย่างก็คือ "ยาไวทย์ประสิทธิ์" แต่ชาวบ้านจะเรียกว่า "ยาลมหลวงพ่อไวทย์"
    คล้ายยา วาสนาจินดามณี ของสายวัดกลางบางแก้ว นครปฐม ยาไวทย์ประสิทธิ์ จึงเปรียบเสมือนดั่ง ยาจินดามณี ฉบับจังหวัดอยุธยา (วัตถุมงคลเนื้อผงของท่าน ก็มียานี้ผสมอยู่)
    ตำรายาจินดามณี ยาวาสนา น่าจะมาจากแหล่งวิชาเดียวกัน หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา กระทุ่มแบน สมุทรสาคร เรียนวิชาจากพระอาจารย์ของท่าน ที่เป็นน้องชายหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เลยได้วิชายาวาสนา
    นอกจากนี้ครั้งหนึ่งเคยมีลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ ถามหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ว่า
    "หลวงปู่รู้จัก หลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์ ไหมครับ"
    หลวงปู่ "เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยพบตัว"
    "ท่านมรณภาพแล้ว เมื่อวันพุธที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ นี้เอง"
    หลวงปู่ "ท่านเป็นพระอรหันต์นะ ข้าได้ยินกิตติคุณท่านว่าไม่เอาอะไรกับใคร"
    "หรือครับ แสดงว่าอยุธยาคงจะมีหลายองค์"
    หลวงปู่ "มี แต่ท่านหลบซ่อนกันอยู่"
    หลวงพ่อไวทย์เป็นพระดี พระแท้ พระเก่งอีกรูป ที่มีราคาพระเครื่อง ไม่สูงมาก ราคาถูก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนงบน้อย แต่อยากได้พระแท้ พระดี ไว้บูชา หลวงพ่อไวทย์ ท่านไม่ใช่พระเชียร์โฆษณา แต่เป็นพระประสบการณ์
    ครั้งหนึ่งตอนที่หลวงพ่อไวทย์ ไปขอเรียนวิชาจากหลวงพ่อจง
    ท่านถูกหลวงพ่อจงตำหนิ ตอนไปขอเรียนวิชาจากท่าน ท่านว่าคุณอยู่กับพระทองคำมาตั้งนาน แต่ไม่ขอเรียนอะไรมาจากท่านเลย หลวงพ่อห่วงน่ะ ท่านเป็นพระอรหันต์
    (หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท เป็นศิษย์พี่ ของหลวงพ่อจง เรียนวิชามาในสาย หลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคันธ์ บางบาล มาด้วยกัน)
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระปิดตามหาเศรษฐีหลวงพ่อไวย์ ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือj&T หรือ kerry
    img_20221127_010258-jpg.jpg img_20221127_010248-jpg.jpg img_20221127_010308-jpg.jpg img_20221127_010223-jpg.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ผ้ายันต์นกคุ้มและผ้ายันต์ตรีนิสิงเหเขียนมือ 2 ผืนเย็บติดกันไม่ทราบสำนักหรือวัดใดสร้าง สำหรับท่านที่ชอบวัตถุมงคลเครื่องรางเขียนมือจานอักขระเลขยันต์
    ให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่(ปิดรายการ)
    IMG_20221128_133156.jpg IMG_20221128_133212.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2022
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้ จัดส่งเคอรี่
    1669708556808.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน รุ่นสร้างศูนย์ศิลปาชีพ เสาร์ห้า สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆจากวัดครับ มีกำลังต้องรีบเก็บก่อนที่จะแพงกว่านี้ครับ
    ประวัติการสร้าง หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน รุ่นสร้างศูนย์ศิลปาชีพ เสาร์ห้า ปี 2537
    สืบเนื่องจากในวันที่ 21 - 24 ธันวาคม 2536 ท่านพลากร สุวรรณรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี (ในขณะนั้น)ได้รับพระ มหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้ขึ้นไปพำนัก ณ เรือนรับรองของพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร และได้ตามเสด็จ ฯเยี่ยมชมศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม จังหวัดสกลนคร และนับจากวันนั้นมา ท่านพลากรฯ ก็ได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ ที่จะสืบสานงานด้านศิลปาชีพให้เกิดขึ้นในจังหวัดปัตตานี...
    พระครูธรรมกิจโกศล หรือ พระอาจารย์นอง เจ้าอาวาสวัดทรายขาว และพระครูอนุกูลปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ได้กรุณาเมตตาอนุเคราะห์สนับสนุน อนุญาตให้ใช้ที่ธรณีสงฆ์ของวัดช้างให้ จำนวน 50 ไร่เศษ เป็นที่ตั้งโครงการ ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายไปจนถึงตระหนักในปัญหาเรื่องการแกไขความยากจนของ ประชาชน โดยการสร้างงานเพื่อเพิ่มรายได้ และการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น จึงก่อให้เกิดศูนย์รวมศรัทาและพลังในการปฏิบัติงานร่วมกันของทุกฝ่าย ทำให้การดำเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพ (วัดช้างให้) สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี...
    งบประมาณ ในการบริหารศูนย์ฝึกอาชีพ (วัดช้างให้) ได้ใช้เงินกองทุนศูนย์ฝึกอาชีพ (วัดช้างให้) หรือมูลนิธิศูนย์ฝึกอาชีพ (วัดช้างให้) ซึ่งได้มาจากภาคเอกชน และรายได้จากการให้เช่าบูชาวัตถุมงคล หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นสร้างศูนย์ศิลปาชีพ ซึ่งประกอบพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2537 โดยมีพระอาจารย์นองเป็นประธานจุดเทียนชัยในพิธีและนั่งปรกปลุกเสกให้ด้วย และท่านพลากร(องคมนตรี) เป็นประธานฝ่ายฆราวาสให้ พิธีใหญ่ รวมเกจิอาจารย์สายลป ทวดในยุคนั้น
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่

    IMG_20221129_232341.jpg IMG_20221129_232351.jpg IMG_20221129_232321.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2022
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1660820425203-jpg.jpg 1660820422101-jpg.jpg 1660820418084-jpg.jpg

    พระผงกลีบบัววัดถ้ำสระพงษ์ใหญ่ ลป.สรวง ลป.หมุน ลพ อุตตมะ ลป ชอบ ลป เจียม ลป หงษ์ ลป คำพันธ์ และเกจิอาจารย์ 108 องค์ สภาพสวยเดิมพร้อมกล่อง
    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย
    img_20220805_123250-jpg.jpg img_20220805_123307-jpg.jpg img_20220805_123321-jpg.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    “หลวงพ่อจอน วัฑฒจิตโต” เจ้าอาวาสวัดบุญฤทธิ์ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีใน จ.นครราชสีมา เป็นศิษย์พุทธาคมสายตรงของ “หลวงปู่โทน กันตสีโล” แห่งวัดเขาน้อยคีรีวัน ปัจจุบัน สิริอายุ 73 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาว ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2485 ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา เมื่ออายุครบตามเกณฑ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบุญฤทธิ์ (บึงบน) ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยมี หลวงปู่พัทธ วัดบึงบวรสถิตย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ในขณะนั้นเอง ท่านได้มีโอกาสไปฝากตัวเป็นศิษย์กับ หลวงปู่โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี ได้ศึกษาวิทยาคมอีกหลายแขนง รวมทั้งศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ คือ การเสกน้ำมันมนต์ประสานกระดูกจากหลวงปู่โทนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาต้องลาสิกขาออกมาช่วยงานครอบครัวหาเลี้ยงชีพ อย่างไรก็ตาม แม้จะลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตเยี่ยงคฤหัสถ์แล้วก็ตาม ในใจท่านยังระลึกอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งท่านต้องกลับมารับใช้พระพุทธศาสนาตามที่ใจตั้งมั่นไว้ให้ได้ เพียงเวลาไม่นาน ท่านก็สมปรารถนา ได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่วัดกลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มี พระครูอนุรักษ์วรันดร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ทองย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์นฤนาท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “วัฑฒจิตโต” หลังจากบวชครั้งนี้ ศึกษาเล่าเรียนในพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดมิตรภาพวนาราม จ.นครราชสีมา ต่อมา ได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานควบคู่กับการศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ที่เก่งในทางนี้ ท่านเคยเดินทางไปวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ตะเบง ภิกษุสงฆ์ชาวพม่า ซึ่งธุดงค์มาวิปัสสนาอยู่แถบรอยต่อระหว่าง อ.แม่สอด และประเทศพม่าอยู่ระยะหนึ่ง โดยหลวงพ่อจอนได้มีโอกาสรับถ่ายทอดวิชาความรู้ทางพุทธาคมกับภิกษุชาวพม่าท่านนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังได้มีโอกาสรับเอาตำรับการสร้างเครื่องรางของขลัง การนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในรูปแบบขอมโบราณ และรูปแบบต่างๆ จากหลวงพ่อจันภูมิ พระเกจิอาจารย์ชาวเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลวงพ่อจอนได้ตั้งปณิธานจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถึง ที่สุด โดยได้ช่วยพระอาจารย์สุวรรณ วณโพ เจ้าอาวาสรูปแรกพัฒนาบูรณะสำนักฝึกจิตนิมิตธรรม จนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์ ซึ่งก็คือวัดบุญฤทธิ์ในปัจจุบันนี้ โดยวัดได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2539 จากเริ่มแรกมีเพียงกุฏิไม้หลังเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาขึ้น จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด หลังจากสำนักสงฆ์เปลี่ยนเป็นวัดบุญฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว พระอาจารย์สุวรรณ เจ้าอาวาสรูปแรก ท่านได้จาริกธุดงค์ไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อจอนจึงได้เลื่อนเป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมา ซึ่งท่านก็ได้ทำนุบำรุงวัดบุญฤทธิ์ให้การปฏิสังขรณ์และพัฒนาก่อสร้าง อาคารเสนาสนะต่างๆ เรื่อยมา เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2528 จวบจนปัจจุบัน วัตถุมงคลหลวงพ่อจอน ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระชัยวัฒน์หลวงพ่อจอนวัดบุญฤทธิ์ปี 2541 ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash j&t หรือเคอรี่

    IMG_20221201_232534.jpg IMG_20221201_232543.jpg IMG_20221201_232518.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2022
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ มีวิชาไสยเวทย์แก่กล้า มีวาจาสิทธิ์ บรรลุญาณสมาบัติชั้นสูง บริสุทธิ์ ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรมปฏิปทาน่าเลื่อมใส ถือมักน้อยสันโดด และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาเอื้ออาทรปฏิบัติต่อพุทธศาสนิกชน ที่มานมัสการอย่างเสมอกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี เป็นพระสุปฏิปัณโนรูปหนึ่งที่กราบได้อย่างสนิทใจ ด้านไสยเวทย์พุทธาคมได้รับการถ่ายทอดและสืบสายจากหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อชั้น เกสโร วัดบางละแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี ล้วนเป็นเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์และมีชื่อเสียงวัตถุมงคลได้รับความนิยมสูงชาติภูมิ หลวงพ่อเกลื่อนมีนามเดิมว่า เกลื่อน ประสารทรัพย์ ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2467 (ปีกุน) เป็นบุตรคนโตในจำนวนทั้งหมด 2 คน คือ 1.หลวงพ่อเกลื่อน 2.นางบุญมา ของโยมพ่อกลั่น โยมแม่ง้อ ณ บ้าน รางฉนวน ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง การศึกษาจบ ป.4 ที่โรงเรียนวัดข่อย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่อจบแล้วได้มาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม

    อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดแสวงหา เมื่อปี พ.ศ.2491 โดยมีพระครูปัญญาสารคณี (หลวงพ่อบัว) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า คุตธมฺโม ศึกษาพุทธาคม เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้อยู่รับใช้หลวงพ่อบัวอยู่ 2 พรรษา ก็ได้ลาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดรางฉนวน ได้เรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ในพรรษาที่ 5 หลวงพ่อเกลื่อนได้เริ่มเดินทางไปกลับวัดแสวงหา ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์วิปัสสนากรรมฐาน ทำสมาธิบรรจุพลังบรรจุอาคมการหนุนธาตุจากหลวงพ่อบัว ตามตำราวิชาสายหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่เข้มขลังที่สุดและโด่งดังมากในยุคนั้น ตะกรุดดอกละหลายหมื่น ได้ชื่อว่าเทพเจ้าไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่ศรีเช่นกัน ที่จริงแล้วหลวงพ่อบัว ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดวิชามาครบถ้วนภายหลังหลวงพ่อบัว ถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อบัวก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเกลื่อนทั้งหมดเช่นกัน
    อยู่รับใช้หลวงพ่อบัวอยู่ 2 พรรษา ก็ได้ลาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดรางฉนวน ได้เรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ในพรรษาที่ 5 หลวงพ่อเกลื่อนได้เริ่มเดินทางไปกลับวัดแสวงหา ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์วิปัสสนากรรมฐาน ทำสมาธิบรรจุพลังบรรจุอาคมการหนุนธาตุจากหลวงพ่อบัว ตามตำราวิชาสายหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่เข้มขลังที่สุดและโด่งดังมากในยุคนั้น ตะกรุดดอกละหลายหมื่น ได้ชื่อว่าเทพเจ้าไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่ศรีเช่นกัน ที่จริงแล้วหลวงพ่อบัว ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดวิชามาครบถ้วนภายหลังหลวงพ่อบัว ถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อบัวก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเกลื่อนทั้งหมดเช่นกัน
    เมื่อได้เรียนวิชาจาก หลวงพ่อบัว แล้วได้เดินทางไปขอศึกษาไสยเวทย์จาก หลวงพ่อคำ จนฺทโชโต วัดหน่อพุทธางกูร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อคำเป็นอาจารย์เข้มขลังในไสยเวทย์ที่นับว่าเก่งมากองค์หนึ่งของสุพรรณบุรี เหรียญรุ่นแรกของท่านถูกยกย่องว่าเหนียวอยู่ยงคงกระพันที่สุดเหรียญหนึ่ง ยอดเกจิอาจารย์ต้นถึงพุทธกาลจากนั้นประมาณพรรษาที่ 14 ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพระลอย ต.ลั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้ขอศึกษาพุทธาคมจากพระครูประภัตรธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) ซึ่งหลวงพ่อแต้มได้สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา มีความเชี่ยวชาญด้านยันต์เกาะเพชร เหรียญรุ่น ๑ เป็นเหรียญดังของจังหวัดสุพรรณบุรีเช่นกัน ประสบการณ์มากมาย ค่านิยมเหรียญละหลายพันบาท เมื่อได้เรียนจากหลวงพ่อแต้ม แล้วก็ได้ไปเรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อชื้น วัดบางสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี


    เรื่องบุญฤทธิ์และพลังแห่งจิตที่ปรากฏ
    เรื่องอบายมุข และเรื่องดื่มสุราของเมาในเขตศาสนาสถานภายในวัดท่านจะห้ามเด็ดขาดในขั้นแรกท่านจะสอนว่ากล่าวตักเตือน ถ้าไม่เชื่อฟังท่านจะไล่ให้ออกไปจากเขตวัด หายปีที่ผ่านมาจังหวัดอ่างทองและอำเภอต่าง ๆ ในยุคนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจได้มาตั้งหน่วยปราบปรามอยู่ในพื้นที่วัดรางฉนวน ได้มีตำรวจปราบปรามท่านหนึ่งชื่อ จ่าทร แสงรุ่ง บ้านอยู่หมู่3 ต.ศรีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้มาสังกัดอยู่ที่สถานีปราบปรามภายในวัด พอตกเย็นก็ดื่มสุราจนเมามาย หลวงพ่อเกลื่อนทราบเข้าก็ไปว่ากล่าวตักเตือน แต่จ่าทร เป็นคนดื้อไม่เคยยอมใคร กลับนำเอาสุรามาเลี้ยงกันภายในวัดหนักยิ่งขึ้น มีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านและลูกเมียชาวบ้าน หลวงพ่อเกลื่อนได้ขับไล่ให้ออกไปจากวัด จ่าทรโกรธมากและกำลังเมาได้แบกปืนเล็กยาววิ่งมายังกุฏิหลวงพ่อจะยิงหลวงพ่อ หลวงพ่อกลัวว่า ถ้าจะยิงอาตมา ให้ยิงต้นสะเดาต้นนี้ก่อนพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่ต้นสะเดาข้างกุฏิ จ่าทรหันปืนแล้วยิงไปที่ต้นสะเดาจริง ๆ ปรากฏว่าปากกระบอกปืนแตกเป็น 2 ซีก จ่าทรตกตลึงถึงกับเข่าอ่อน ทิ้งปืน ทรุดตัวลงคุกเข่าแล้วค่อย ๆ คลายเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อ เรื่องนี้ชาวบ้านที่อยู่ข้างวัดทราบรายละเอียดดี
    ท่านหนึ่งได้มาขออาบน้ำมนต์ บนให้หลวงพ่อฟังว่า ภาวะตลาดข้าวไม่ดี ทำโรงสีขาดทุน เป็นหนี้ธนาคาร 10 กว่าล้าน มาให้หลวงพ่อช่วยอาบน้ำมนต์ชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดไป และว่าถ้าโชคดีหลุดหนี้จะมาทำบุญช่วย หลวงพ่อสร้างศาลา หลวงพ่อได้นั่งหลับตาสักครู่ แล้วก็ทำน้ำมนต์อาบให้ พอหลวงพ่อรดน้ำมนต์เสร็จทานก็กล่าวว่า ต้นเดือนหน้าเอ็งจะมีลาภได้เงินก้อนใหญ่ อยู่ที่กล้าแค่ไหน เถ้าแก่โรงสีผู้นั้นคุยว่า กลับไปนอนคิดพิจารณาว่าภาวะอย่างนี้ข้าวก็ตุนไม่ได้ จะมีลาภจริงก็ต้องเสี่ยงซื้อสลากกินแบ่งและหวยใต้ดิน ด้วยแรงศรัทธาหลวงพ่อเกิดความมั่นใจได้ซื้อสลากทั้ง 2 อย่างได้ถูกเป็นเงินถึง 30 ล้านบาท

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงหลวงพ่อเกลื่อนวัดรางฉนวนให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบฝากซื้อ j&t หรือ kerry

    IMG_20221202_120439.jpg IMG_20221202_120455.jpg IMG_20221202_120425.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อโสธรวัดชวดบัวนครนายกปี 2542 ผมดูแล้วเป็นเหมือนเนื้อนวโลหะ แต่อาจจะเป็น นวะโรงงาน
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่

    IMG_20221202_123053.jpg IMG_20221202_123105.jpg IMG_20221202_123121.jpg
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1670215983635.jpg
    ๕ ธันวาคม ๒๕๖๕
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1670383856896.jpg

    หลวงพ่อจวนอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ณ วัดบ้านสร้าง ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูนิเทศน์ธรรมกถา (หลวงปู่พัน ธมฺมทินโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านสร้างและเจ้าคณะแขวงอำเภอ เป็นพระอุปชฌาย์ เจ้าอธิการออด ธมฺมทินโน(พระครูสันทัตธรรมคุณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านช้าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์ปลอดฐิตธมฺโน วัดบ้านสร้าง เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายานามว่า “เวโรจโน ภิกขุ”ตลอดระยะเวลาที่จำพรรษา หลังจากได้เป็นพระภิกษุแล้ว หลวงพ่อได้ศึกษาเรียนรู้พระธรรมวินัยการปฏิบัติธรรม ควบคู่ไปกับด้านพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมโท – เอก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๒เพราะความสามารถและเฉลียวฉลาดของหลวงพ่อจวน ทำให้พระครูนิเทศน์ธรรมกถา เจ้าอาวาสวัดบ้านสร้าง เห็นแววว่าหลวงพ่อจะเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาได้ดี จึงได้สั่งสอนแนะนำวิชา
    คาถาอาคม ที่เรียกว่า วิชาทางไสยเวทหรือไสยศาสตร์ เช่น เสกแป้ง ทำน้ำมนต์วิเศษ ดูฤกษ์ยามทางโหราศาสตร์ ตลอดจนตำรายาสมุนไพรแผนโบราณส่วนวิชาเมตตามหานิยม ได้รับความเมตตาจากพระครูสันทัตธรรมคุณ (หลวงพ่อออด ธมฺมทินโน) ถ่ายทอดวิชาความรู้เกี่ยวกับมหาอุตม์ อยู่ยงคงกะพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม มีโชคลาภ ป้องกันภูตผีปีศาจ และป้องกันคุณไสยให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากพระครูสันทัตธรรมคุณ (หลวงพ่อออด ธมฺมทินโน) มีชื่อเสียงด้านนี้มากในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านสร้างใน ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นพระอุปัชฌาย์ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระผงหลวงพ่อจวนวัดบ้านสร้างให้บูชา100บาท ค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่
    IMG_20221207_102533.jpg IMG_20221207_102544.jpg
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    https://m.oknation.net/post/detail/634d53353ef932e54f64c1c0
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ปิดตาจัมโบ้รุ่นแรกหลวงพ่อนพวรรณวัดเสนานิมิตรอยุธยาให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่
    IMG_20221208_161523.jpg IMG_20221208_161537.jpg IMG_20221208_161510.jpg
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่สุภา วัดศีลสุภาราม ภูเก็ต
    พระมงคลวิสุทธิ์ (สุภา กนฺตสีโล) หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน พระชุดนี้สร้างเมื่อครั้งหลวงปู่อายุ111ปีเมื่อปี 2548 เนื้อมวลสารที่ผสมไปมีได้แก่พระผงเสด็จกลับปี 2506 รุ่นแรกจำนวน 6องค์บดผสมลงไป ผงแก้วสามดวงของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และ ผงทะลุกระดานหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงินฯ พระชุดนี้ได้ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่ทั้งหมด 7 วาระ 7 พิธีกรรมด้วยกัน รับรองว่าเข้มขลังและศักศิทย์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระเสด็จกลับปี2506อย่างแน่นอนครับ
    รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล เนื้อผงว่าน รุ่น 111 ปี พิธีมหาพุทธาภิเษก
    วันที่ 20 กันยายน 2552 ณ อุโบสถ วัดเขารังสามัคคีธรรม อ.เมือง จ.ภูเก็ต
    รายนามพระเกจิอาจารย์ร่วมนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสก

    1.พระมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล) วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต
    2.หลวงปู่แดง วัดหัวยฉลอง จ.อุตรดิตถ์
    3.หลวงปู่ช่วง วัดจันทราวาส จ.สุพรรณบุรี
    4.หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ จ.สุราษฎร์ธานี
    5.หลวงพ่อจ่าง วัดน้ำรอบ จ.สุราษฎร์ธานี
    6.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    7.หลวงพ่อเหิม วัดช้างแล่น จ.ตรัง
    8.หลวงพ่อสะอิ้ง วัดประตูโขง จ.สระแก้ว
    9.หลวงพ่อเจน วัดปรางหมู่ใน จ.พัทลุง
    10.พม.สมาน สุมงฺคโล วัดสุวรรณาราชวรวิหาร กทม.
    11.หลวงพ่อสุพจน์ วัดเดิมเจ้า จ.สุราษฎร์ธานี
    12.พระครูสุนทรกิตยานุกุล วัดในหาร จ.ภูเก็ต
    13.พระอาจารย์ประดิษฐ์ วัดดักคะนน จ.ชัยนาท
    14.พระอาจารย์แดง วัดไร่ จ.ปัตตานี

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่สุภา 111 ปีให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ Flash หรือ j&t หรือ kerry .
    IMG_20221208_162451.jpg IMG_20221208_162504.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2022
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    lpyoad.gif
    วิชาไหมเบญจรงค์ 5 สี หรือไหม ๕ สี นี้ดังเดิมเป็นของ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ โดยในยุคของหลวงปู่ใจจะสร้างจากไหมญี่ปุ่นจำนวน ๕ สี ได้ความหมายว่าเป็นศีลห้า...นำมาถักขวั้นกัน โดยใช้คาถาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆ์คุณ กำกับเวลาขวั้นไหม..วิชาไหม ๕ สีนี้เมื่อตกทอดมาสู่หลวงพ่อหยอด จึงได้เปลี่ยนมาใช้ไหมเทียม โดยโรงงานทำไหมเทียมซึ่งเป็นของลูกศิษย์ท่าน โดยวันหนึ่ง หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มีโอกาสพบกับ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมเกิดชอบใจในวิชาการขอดเชือกจึงได้ขอความเมตตาเรียนจากหลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อหยอดก็ได้นำ ตัวขอด นี้มาไว้เป็นส่วนหนึ่งในส่วนของไหม ๕ สี. ในยุคสมัยของหลวงพ่อหยอดรูปร่างหน้าตาของไหม ๕ สี
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ไหม 5 สีหลวงพ่อหยอดวัดแก้วเจริญขนาดบูชา บริเวณปมเชือกจระเข้ขบฟันจะมีตะกรุดขนาดความยาวประมาณ 4-5 นิ้วสอดอยู่ ให้บูชา 3,500 บาท

    IMG_20221208_180709.jpg IMG_20221208_180728.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2022
  18. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,987
    ค่าพลัง:
    +6,893
    ขอจองครับ
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติหลวงพ่อนิ่ม(มังคโล)วัดเขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

    ...ในระหว่างที่หลวงพ่อทองศุข อินทโชโต เป็นเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงนั้น มีพระคู่ใจของท่านเสมือนพระเลขาอยู่สององค์คือ ...(หลวงพ่อนิ่ม) ซึ่งต่อมาไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาน้อย และอีกองค์หนึ่งคือ ...(หลวงพ่อจันทร์) ต่อมาไปเป็นเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน...

    ...ทั้งสององค์นี้ได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อทองศุขเอาไว้มาก เสมือนศิษย์รุ่นน้องอีกสององค์คือ ...(หลวงพ่อแผ่ว) ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวง และ...(หลวงพ่อย้อน) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงองค์ปัจจุบัน...

    ...นอกจากนี้ลูกศิษย์ของหลวงพ่อทองศุขในเพชรบุรีมีอีกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร, หลวงพ่อหวล วัดนิคม, หลวงพ่อเฮง(ห่วย) วัดห้วยทรายใต้, หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง, หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เป็นต้นฯ...

    ...หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย ท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดก้นกุฏิของ หลวงพ่อทองศุข ท่านได้จำพรรษาอยู่รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อทองศุข ที่วัดโตนดหลวงอยู่นานถึง 20 ปี...

    ...หลวงพ่อนิ่ม สถานะเดิมชื่อ นิ่ม นามสกุล วัฒนพิชัย เกิดวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2452 ที่ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ใช้ชีวิตในวัยเด็กช่วยบิดา-มารดาทำงานจนอายุได้ 22 ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโตนดหลวง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี พระครูแช่ม วัดนายาง จ.เพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวัน วัดหนองศาลา จ.เพชรบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูพินิจสุตคุณ (ทองศุข อินทโชโต) วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า (มังคโล)...

    ...หลังจากนั้นหลวงพ่อนิ่มได้อยู่จำพรรษา ณ วัดโตนดหลวง รับใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อทองศุข ในฐานะพระเลขา ดูแลการทำงานแทนหลวงพ่อ ขณะเดียวกันก็ศึกษาวิชาพุทธาคมจากหลวงพ่อทองศุข โดย หลวงพ่อทองศุขเมตตาไว้ใจและมอบวิชาพุทธาคมที่มีอยู่ทั้งหมดให้หลวงพ่อนิ่ม รวมทั้งอบรมกรรมฐานและวิปัสสนา จนหลวงพ่อนิ่มมีความเชี่ยวชาญทำของได้ขลัง...

    ...นาย เชิด วันเต็ม ชาวบ้านปากน้ำ อ.ปราณบุรี เล่าว่า มงคลวัตถุของหลวงพ่อนิ่มนั้นทุกรุ่น ล้วนมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น โดยเฉพาะ พระปิดตาเนื้อผง เนื้อขี้ควาย เด็กในตลาดปราณบุรีทุกคนที่แขวน เมื่อไปหาหมอจะฉีดยาไม่เข้า จนต้องถอดพระออกจากคอ ส่วนตะกรุด ของหลวงพ่อนั้น นายเชิดว่าสามารถลอยน้ำได้ ลุงสนิท พลอยน้อย ผู้ร่วมสร้างวัดกับหลวงพ่อนิ่มเล่าว่า ผ้ายันต์ ของหลวงพ่อนิ่มมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ทุกครั้งเมื่อมีการจัดงานที่บ้านจะต้องเอาผ้ายันต์ของหลวงพ่อนิ่มขึ้นไว้ ปลายเสาจุดธูปบอก รับรองว่าฝนไม่ตกทำให้งานเสีย...

    ...นอกจากนั้นลุงสนิท พลอยน้อย ได้เล่าว่า ขณะสร้างวัดเขาน้อยกับหลวงพ่อนิ่มนั้น ได้มีพ่อของ ครูแล ชื่นโม ร.ร.วัดเขาน้อย ขุดพบพระพุทธรูป สมัยอมราวดี ปางประทานพร เนื้อสัมฤทธิ์ หัก จึงเก็บไว้ในบ้าน หลังจากนั้นพ่อของครูแลก็ป่วยรักษาเท่าใดก็ไม่หาย หลวงพ่อนิ่มถามว่าที่บ้านมีพระหักๆ อยู่ไหม ครูแลบอกว่ามี จึงให้เอามาถวายไว้ที่วัด ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นานก็หายป่วย พระองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก คนตาบอดมาอธิษฐานขอให้หายก็หายได้ หลวงพ่อนิ่มจึงได้สร้างองค์ใหญ่ไว้ และได้สร้างเหรียญรูปพระอมราวดีประทานพรไว้ด้วย ต่อมา นายดี จันทรเสน ได้ขุดพบรอยพระพุทธบาทที่บริเวณเขาน้อย หลวงพ่อนิ่มจึงได้สร้างมณฑปใส่ไว้และมีงานประจำปีทุกปี แสดงว่าบริเวณวัดเขาน้อยอาจมีร่องรอยเป็นสถานที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง มาแต่ในอดีตกาล...
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อนิ่มวัดเขาน้อยครบ7รอบพระสวยเดิมๆ 2535 ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry
    IMG_20230110_180325.jpg IMG_20230110_180338.jpg
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,787
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติโดยย่อ
    พระศรีอาริยเมตไตร วัดไลย์ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
    -พระศรีอริยเมตไตรย" ประดิษฐานวัดไลย์ ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มีพุทธลักษณะศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 92 เซนติเมตร สูง 107 เซนติเมตร วัสดุสำริดลงรักปิดทอง
    ทั้งนี้ วัดไลย์เป็นวัดเก่าแก่อย่างยิ่งวัดหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางขาม สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่แรกตั้งกรุงศรีอยุธยาหรืออาจถึงสมัยสุโขทัย วัดนี้มีศิลปวัตถุที่น่าดูน่าชมหลายสิ่ง อาทิ พระวิหารเก้าห้องที่เก่าแก่พอกับวัดและมีลวดลายปูนปั้นที่ยังงดงามสมบูรณ์อยู่จนปัจจุบันแต่สิ่งที่ทำให้วัดไลย์เป็นที่รู้จักกันมากเห็นจะได้แก่ รูปหล่อพระศรีอาริย์ หรือพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งหล่อแบบพุทธสาวก คือ ศีรษะโล้น ไม่มีเปลวรัศมี ลักษณะคล้ายมนุษย์สามัญนั่งขัดสมาธิคล้ายปางมารวิชัยตามตำนาน เล่าว่า ได้หล่อขึ้นแทนองค์พระศรีอริยเมตไตรยซึ่งได้เคยจุติลงมาเกิดในท้องถิ่นและบวชอยู่ ณ วัดไลย์แห่งนี้ หลังจากที่ได้บำเพ็ญกิจแห่งพุทธศาสนาจนบริบูรณ์แล้ว ก็ดับขันธ์กลับสู่ภพภูมิสวรรค์ชั้นดุสิตชาวบ้านทั้งหลายมีความโศกเศร้าเสียใจอาลัย ในพระศรีอาริย์เป็นอย่างยิ่งจึงร่วมใจกันสร้างรูปเหมือนของท่านไว้สักการะแทนสืบมารูปหล่อพระศรีอาริย์ที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ เป็นรูปสร้างใหม่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเกิดไฟป่าไหม้พระวิหาร รูปพระศรีอาริย์ชำรุดมาก พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ส่งมายังกรุงเทพฯ เพื่อให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการทรงซ่อมสร้างขึ้นใหม่ส่วนรูปเดิมนั้นกล่าวกันว่าสร้างในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชศรัทธาสร้างรูปพระศรี อาริย์ไว้หลายรูป และนัยว่ารูปพระศรีอาริย์ ในรุ่นเดียวกันยังหาดูได้ที่วัดในพระนคร ศรีอยุธยาอีกสองวัด คือ วัดชุมพลนิกายาราม อำเภอบางปะอิน และวัดใหม่ อำเภอนครหลวงพระศรีอาริย์ เป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัดไลย์และเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านท่าวุ้งและท้องถิ่นใกล้เคียงอย่างยิ่งมาเป็นเวลานับร้อยปี งานแห่พระศรีอาริย์ที่จัดขึ้นในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และแสดงออกซึ่งความร่วมใจของคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
    วัดไลย์กำหนดงานนมัสการพระศรีอาริย์เป็นประจำปีละ 3 ครั้ง
    ครั้งที่ 1 วันขึ้น 14 ค่ำ ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3
    ครั้งที่ 2 วันขึ้น 14 ค่ำ ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 6 โดยเฉพาะวันขึ้น 14 ค่ำ จะมีประเพณีแห่พระศรีอาริย์ตั้งขบวนแห่จากวัดราว 9 นาฬิกา แห่ไปตามถนนสายบางงา-บ้านหมี่ไปหยุดที่วัดท้องคุ้ง บ้านหมี่ ระยะทางราว 5 กิโลเมตร แล้วแห่กลับ ถึงวัดราว 15 ถึง 16 นาฬิกา
    ครั้งที่ 3 วันแรม 4 ค่ำ ถึงแรม 6 ค่ำ เดือน 11
    นับว่าเป็นประเพณีเทศกาลที่เก่าแก่ที่สุดที่คณะกรรมการจัดให้มีมาแต่ครั้งโบราณกาล ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง พระศรีอริยเมตไตรย เป็นปูชนีย์ที่สำคัญยิ่งของชาวลพบุรีและประชาชนคนทั่วไป คณะกรรมการและเจ้าอาวาสวัดจะจัดให้แห่และอัญเชิญรูปหล่อของพระศรีอาริย์นี้ให้สาธุชนได้สักการบูชา ปัจจุบัน พระศรีอริยเมตไตรย ประดิษ ฐานอยู่ที่มณฑป ง่ายต่อการที่ประชาชนจะเข้าไปนมัสการได้ทุกโอกาส
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญพระศรีอารย์วัดไลย์ปี 2515 พิธีใหญ่ ให้บูชา150 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่
    IMG_20230110_183203.jpg IMG_20230110_183215.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...