พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิดครับ

    IMG_7500.jpeg IMG_7501.jpeg IMG_7502.jpeg IMG_7499.jpeg

    เหรียญหน้าแก่ หลวงปู่สี

    แกะจากเลี่ยมทองออกมา รับประกันสวย เมื่อก่อนต้องมี 14,000 ขึ้น

    บูชา 12,500 บาท ราคานี้เนตเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2025 at 07:47
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7505.jpeg IMG_7506.jpeg IMG_7504.jpeg IMG_7507.png
    IMG_7541.png

    พระร่วงหลังรางปืน หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2514

    บูชา 900 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2025 at 21:49
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิดครับ

    IMG_7508.jpeg IMG_7509.jpeg

    เหรียญมหาลาภหลวงปู่สี

    บูชา 6,500 บาท รับประกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2025 at 15:06
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิด

    IMG_7510.jpeg IMG_7511.jpeg IMG_7512.jpeg IMG_7515.jpeg IMG_7518.jpeg IMG_7517.jpeg IMG_7516.jpeg IMG_7514.jpeg

    ปลัดขิกไม้แกะอุดผง

    เก่าจัด สังเกตุจากเชือกที่พันรอบปลายด้านนึง มีการลงรักใว้ อายุไม่ต่ำกว่า 70-80 ปี ไม่ทราบเกจิ บางคนบอกว่าถึงยุคหลวงพ่ออี๋ แต่ด้วยขนาดที่ไม่มาตรฐาน แต่รับประกันเก่าจริง

    บูชา 5,000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2025 at 10:30
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128

    รับทราบ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2025 at 08:07
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7543.jpeg IMG_7544.jpeg IMG_7545.jpeg IMG_7546.jpeg IMG_7547.jpeg IMG_7549.jpeg

    ลูกดินในดง หลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต คีรีสมบัติ

    หลวงพ่ออภิชิโต (อาจารย์ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ) เป็นพระสงฆ์ผู้เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์ทั้งในด้านประวัติการศึกษาวิชาความรู้ทางไสยเวทย์และวัตรปฏิบัติของท่านเอง มีผู้รู้เห็นเป็นพยานในความมหัศจรรย์ทางอำนาจจิตของท่านมากนับร้อยคน ดังปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่างๆในสมัยก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่คนใกล้ชิดจะรับรู้กันดีเสมอมาคือ แม้ว่าท่านจะดุหรือเข้มงวดกับการพูดและการกระทำของศิษย์มากสักเพียงใด แต่ท่านไม่เคยปฏิเสธการช่วยเหลือคนที่ไปกราบอ้อนวอนขอให้ท่านช่วยเลยสักรายเดียว ศิษย์บางรายไปบ่นให้ท่านฟังว่าเป็นหนี้มาก อยากมีโชคสักครั้งเพื่อจะได้ไถ่ถอนบ้านที่กำลังจะถูกยึดแล้ว ท่านก็ถามว่าเป็นหนี้สักเท่าไร เมื่อรู้ตัวเลขแล้วท่านก็เขียนเช็คส่วนตัวของท่านให้ไปทันทีพร้อมบอกว่า โชคลาภลอยเป็นของได้ยากหากไม่มีวาสนาหรือยังไม่ถึงเวลา ท่านช่วยด้วยวิธีนี้เร็วกว่าจะมัวรอโชค และเงินสดที่ท่านมีอยู่นั้นก็มากกว่าร้อยล้านบาท (ในสมัยปี 2515) และไม่ใช่มาการจำหน่ายวัตถุมงคลหรือรับบริจาคใดๆ เพราะท่านมีแต่แจกฟรีตลอดมาไม่ว่าจะพระสมเด็จวัดระฆังแท้ๆ ที่ดินหรือเงินก้อนโตส่วนตัวของท่าน แต่เงินของท่านนั้นเป็นเงินจากบรรพบุรุษต้นตระกูลที่แบ่งให้ท่านมา เพราะสมบัติของตระกูลท่านนี้ก็มีมากกว่าพันล้านบาทแล้วในปี 2500 บางรายท่านให้การช่วยเหลือด้วยเงินเป็นหลักล้านบาทสมัยนั้น เพราะธุรกิจล้มลงด้วยการบริหารที่ไม่เป็นระบบดีมากพอเช่นโรงสีของลูกศิษย์ท่านหนึ่ง และบางคนก็ล้มเพราะถูกพิษการลดค่าเงินบาทครั้งแรกทำให้ต้องปิดกิจการ
    สิ่งที่ทุกคนจดจำไว้ในใจตลอดมาจนถึงทุกวันนี้คือ ท่านห่วงใยศิษย์ของท่านเสมอ ท่านคอยถามสารทุกข์สุขดิบ ความเป็นอยู่ในการดำเนินชีวิตว่ายังดีหรือสบายหรือไม่ ท่านไม่เคยลืมว่าใครขออะไรท่านไว้แม้จะนานหลายๆปี เมื่อถึงเวลาท่านจะเรียกไปพบและให้การช่วยเหลือหรือมอบของที่เคยเอ่ยปากขอไว้เมื่อนานปีมาแล้ว แม้ศิษย์ทั้งพระหรือฆราวาสก็เล่าไว้ตรงๆกันคือ ตบะอำนาจของท่านนั้นแข็งแกร่งแรงกล้าและมีมาก จนไม่มีใครกล้าสบตาท่าน หากเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแล้วก็จะเข่าอ่อนใจสั่นกลัวท่านกันทุกคน แม้พระมหาเหลื่อม ผู้ที่ท่านส่งไปศึกษายังต่างประเทศที่น่าจะสนิทชิดเชื้อท่านไม่น้อย ก็ยังไม่กล้าแม้จะพูดเล่าเรื่องที่อยากขอความช่วยเหลือจากท่าน ต้องพึ่งพาคุณลุงจุก(ศิษย์เอกคู่ใจผู้ใกล้ชิดมากที่สุด) ที่ถือว่าเป็นคนที่กล้าพูดกับท่านมากที่สุดในสมัยนั้นคอยถ่ายทอดคำพูดให้ท่านฟัง ในวงในของลูกศิษย์ท่านทั้งหมดนั้น ศิษย์ท่านนี้ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่เหมือนทหารเอกคู่ใจ และสนิทกับท่านมากที่สุด คอยรับใช้มานานจวบจนวันสุดท้ายของหลวงพ่อเลยทีเดียว หลวงพ่อจึงให้ความเอ็นดูและเมตตาศิษย์ท่านนี้พร้อมครอบครัวไม่น้อยเช่นกัน
    ในตลอดเวลาที่ท่านอาจารย์ชาญณรงค์ ศิริสมบัติยังทรงสังขารอยู่นั้น ท่านได้อนุญาตให้สร้างวัตถุมงคลไม่กี่ครั้ง ที่อนุญาตเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ มีเพียงการสร้างพระผงรุ่นสุดท้ายในปี2529 ครั้งเดียว ที่จัดพิธีปลุกเสกและมีคนอื่นๆช่วยทำในขั้นตอนต่างๆเป็นที่รับรู้ ได้เห็นได้ยินกันมากหลายคน นอกนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านจะทำจะด้วยตัวเองเงียบๆหรือปลุกเสกอธิษฐานให้กับของที่บรรดาศิษย์ไปจัดทำขึ้นมากันเอง ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์รูปเหมือนเนื้อทองเหลือง สตางค์รูโบราณหรือเหรียญเบญจพิทักษ์ แต่วัตถุมงคลบางอย่างที่ท่านทำเองเงียบๆด้วยตนเองและมีจำนวนไม่มากนักเช่น สมเด็จดำ สมเด็จแดง สมเด็จเขียว สมเด็จขาว สมเด็จน้ำตาล ที่มีจำนวนน้อยชิ้นและหาได้ยากนั้น กลับมีราคาแพงมากในทุกวันนี้เพราะด้วยประสบการณ์ฉกาจฉกรรจ์เป็นเอกอุในด้านต่างๆและเป็นที่ประจักษ์กับผู้เคยได้มีติดตัว และไม่ทำให้ผู้มีไว้บูชาผิดหวังแม้แต่น้อย
    แต่ด้วยปริมาณที่แบ่งปันกันได้ไม่ทั่วถึง แม้คนที่อยากได้จะมีกำลังทรัพย์หรือรู้จักคนมากเพียงใดก็ตามที และเป็นที่เล่าขานเรื่องราวมหัศจรรย์แปลกประหลาดอันเกิดขึ้นกับผู้มีไว้บูชา จนมีการเสาะหากันมาตั้งแต่ครั้งที่หลวงพ่ออภิชิโตยังทรงสังขารอยู่เมื่อครั้งก่อนเรื่อยมา ไม่ว่าจะเรื่องป้องกันภัยอันตรายที่เล่าจากสงครามลาว เวียดนาม ยุทธการเข้าค้อ เพชรบูรณ์ เรื่องทะเลเลือดที่เขากรุงชิง นครศรีธรรมราช หรือนาน้อย จังหวัดน่าน หรือความสำเร็จจากผลของการทำธุรกิจของเจ้าสัวใหญ่สิบกว่าราย ที่เป็นหัวแถวหน้าสุดของเมืองไทย การพลิกดวงชะตาครั้งใหญ่ของศิษย์อีกกว่าสามรายให้กลับมายิ่งใหญ่ระดับสูงสุดของเมืองไทย

    ลูกดินในดง หลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต คีรีสมบัติ ที่ท่านได้เห็นอยู่นี้ สร้างจากดินวิเศษสำคัญจากในดงลี้ลับ มีพลังสูงส่งทั้งทางบุญญาฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ เจ้าของเดิมใส่กรอบบูชามานานครับ

    บูชา 4,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2025 at 11:42
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7552.jpeg IMG_7550.jpeg IMG_7553.jpeg IMG_7554.jpeg IMG_7556.png IMG_7555.png

    ล็อกเก็ตหลวงปู่ทวด เสาร์ห้า วัดบวร ปี2540

    กรรมการ อุดผงพุทธคุณ ตะกรุดทองคำ สมเด็จญาณอธิฐานจิตปลุกเสก พิธีใหญ่ เลข ๙๖๖

    บูชา 900 บาท
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7557.jpeg IMG_7561.jpeg IMG_7560.jpeg IMG_7558.jpeg IMG_7559.jpeg IMG_7562.jpeg

    แหวนยันต์มงคล วัดมงคลบพิตร ปี 2485 เนื้ออัลปาก้า

    ในปี พ.ศ. 2485 ไ้ด้มีการจัดสร้างเหรียญพระมงคลบพิตรและแหวนยันต์มงคล เหรียญที่จัดสร้างขึ้นเป็น เหรียญปั๊ม 5 เหลี่ยม มีหูในตัว มีทั้งเนื้อทองแดง เนื้อเงิน และเนื้อทองแดงพระเกศเป็นทองคำ ซึ่งเป็นพระคะแนน พิธีกรรมยิ่งใหญ่ไม่แพ้การจัดสร้างพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เช่าบูชา ดังนี้

    - บริจาค 1 บาท ได้รับเหรียญพระมงคลบพิตร เนื้อทองแดง หรือแหวนยันต์มงคล อย่างใดอย่างหนึ่ง
    - บริจาค 2 บาท ได้รับแหวนยันต์มงคลเนื้อเงินขัดเงา 1 วง
    - บริจาค 3 บาท ได้รับเหรียญพระมงคลบพิตร เนื้อเงิน 1 เหรียญ
    - บริจาค 4 บาท ได้รับแหวนยันต์มงคลเนื้อเงินกะไหล่ทอง 1 วง
    - บริจาค 100 บาท ได้รับเหรียญพระมงคลบพิตรเนื้อทองแดง หรือแหวนยันต์มงคลเนื้อทองแดง อย่างใดอย่างหนึ่ง 110 ชิ้น และแถมพระมงคลบพิตรเนื้อทองแดง พระเกศทองคำ (เหรียญคะแนน)
    พิธีการสร้างเหรียญพระมงคลบพิตรและแหวนยันต์มงคล ปี พ.ศ. 2485 แบ่งเป็น 2 วาระ วาระแรกคือพิธีกรรมหลอมทอง กระทำ ณ วิหารพระมงคลบพิตร เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 พระญาณไตรโลกาจารย์ (ฉาย) วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานจุดเทียนชัย ไฟที่ใช้จุดเทียนชัยนี้ ไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่ใช้ล่อจากแสงอาทิตย์ ซึ่งนับว่าเป็นไฟฟ้าอย่างแท้จริง
    ในระหว่างพิธี ได้นำแม่พิมพ์ที่ใช้สร้างเหรียญพระมงคลบพิตรและแหวนยันต์มงคลไปถวายพระเถรา จารย์ ลงเลขยันต์ปลุกเสก และยังได้อาราธนาประชุมปลุกเสกพร้อมกัน ทั้งแม่พิมพ์และโลหะทั้งหมดที่จะนำไปหลอม ณ ที่เฉพาะพระพักตร์พระมงคลบพิตรอีกครั้งหนึ่ง

    โลหะที่นำไปหลอมจัดสร้างวัตถุมงคลใน ครั้งนั้น ประกอบด้วยแ่ผ่นทองจากพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมในจังหวัดต่าง ๆ ลงอักขระปลุกเสกและส่งมาร่วมในพิธี จำนวน 121 รูป โลหะเครื่องรางโบราณที่พบในบริเวณพระราชวังโบราณ คราวปรับปรุงเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาอีกมากชนิด เช่น ชินสังขวานรบนวิหารพระมงคลบพิตร ชินสังขวานรจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ ชินสังขวานรจากวัดป่าพาย ทองคำจากองค์พระมงคลบพิตร เนื้อสำริดกะเทาะจากองค์พระมงคลบพิตร พระชินขุนแผนจากวัดป่าพาย วัดสะพานเงินสะพานทอง พระชินกำแพงพันจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ พระปรุหนังวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระชินวัดขุนหลวงต่างใจ พระปิดทวารในเจดีย์พระราชวังโบราณ ลูกอมทองแดง วัดพระราม แผ่นทองกะเทาะจากองค์พระธาตุเชียงใหม่ ฯลฯ

    นอกจากนี้ ยังมีทองชนวนจากพิธีสำคัญของพระอารามต่าง ๆ เช่น ทองชนวนพิธี วัดอนงคาราม ทองชนวนพิธี วัดหิรัญรูจี ทองชนวนรุ่นพระอาจารย์ 108 ของพิธีวัดราชบพิธ พ.ศ. 2481 ทองชนวนนวโลหะ พิธีหล่อพระชัยของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธ ทองชนวนพระกริ่งวัฒนะ วัดกัลยาณมิตร ทองชนวนพระกริ่ง วัดชนะสงคราม ทองชนวนพระกริ่ง วัดสุทัศน์ ทองชนวนนวโลหะจากพิธีสำคัญต่าง ๆ ฯลฯ

    ในวันรุ่งขึ้น 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 ครั้นได้ปฐมฤกษ์ เวลา 10:21 น. หลวงปู่จาด วัดบางกระเบา เป็นประธานหย่อนแผ่นเงินจารึกดวงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน กับดวงฤกษ์ลงเบ้า เพื่อหลอมรวมกับทองชนวนและโลหะมงคลต่าง ๆ ซึ่งสุมรวมอยู่ในเบ้าอยู่ก่อนแล้ว ต่อมา ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ภริยา ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ใส่ทองคำหนัก 1 บาท (ทองคำนี้ได้อาราธนาพระเถราจารย์ลงอักขระปลุกเสกโดยเฉพาะทุกรูป) ลงเบ้าจนละลายเข้ากันดี แล้วหลวงปู่จาด จึงเริ่มเททอง โหรลั่นฆ้องชัย พิณพาทย์บรรเลง พระเถราจารย์ทั้งหลายเจริญชัยมงคลคาถา เมื่อดับเทียนชัยแล้ว พระเถราจารย์ทั้งหมดได้มาบริกรรมปลุกเสกทองที่หลอมเสร็จกับแม่พิมพ์อีกครั้ง หนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีหลอมทอง

    เหรียญพระมงคลบพิตรและแหวนยันต์มงคลทุกชิ้นที่สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออัลปาก้า,ทองแดงหรือเนื้อเงิน ล้วนได้เจือทองในพิธีผสมทั่วกันหมด

    หลังจากจัดสร้างเสร็จเป็นองค์พระเครื่องแล้ว ได้จัดให้มีพิธี พุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง ในวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 (วันเสาร์ห้า) ตรงกับวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2485 ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร
    พระคณาจารย์ 121 รูป ที่เมตตาลงอักขระปลุกเสกแผ่นทอง ส่งมาร่วมพิธี ล้วนเป็นพระเถระผู้ทรงวิทยาคมแห่งยุค อาทิเช่น
    สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์
    สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ (สมเด็จพระสังฆราช ชื่น) วัดบวรนิเวศวิหาร
    สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) วัดมหาธาตุ
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดเทพศิรินทราวาส
    พระญาณไตรโลกาจารย์ (ฉาย) วัดพนัญเชิง
    หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจนบุรี
    หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก
    หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
    หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า อรัญญิกาวาส ชลบุรี
    หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง ราชบุรี
    หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง
    หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเิชิงเทรา
    หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
    หลวงปู่จาด วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี
    พระครูอาคมสุนทร (มา) วัดราชบูรณะ กรุงเทพฯ
    พระครูพิทักษ์ธรรมโสภิต วัดแหลมฟ้าผ่า สมุทรปราการ
    หลวงปู่บ่าย วัดช่องลม สมุทรสงคราม
    หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร
    หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
    หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม
    หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ พระนครศรีอยุธยา
    พระอธิการจันทร์ วัดคลองระนง นครสวรรค์
    หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี
    หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม
    หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
    หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง นครปฐม
    หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค พระนครศรีอยุธยา
    พระอาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี
    ฯ ล ฯ
    นอกจากส่งแผ่นทองเข้าร่วมพิธีแล้ว พระเถระหลายท่านยังได้เมตตารับนิมนต์ร่วมทำพิธีหลอมทอง ณ วัดมงคลบพิตร และพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดราชบพิธอีกด้วย กล่าว ได้ว่า เหรียญพระมงคลบพิตร พ.ศ. 2485 เป็นหนึ่งในสุดยอดเหรียญที่เต็มเปี่ยมด้วยพุทธคุณ มีขั้นตอนการสร้างอันพิถีพิถันและงดงามยิ่ง

    บูชา 2,200 บาท
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7566.jpeg
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7567.jpeg IMG_7568.jpeg

    เหรียญหลวงพ่อกวยทำน้ำมนต์

    ศิษย์โตโยต้าสร้างถวาย วัดซับลำใย ลพบุรี หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน พระอาจารย์บวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อกวยอาจารย์ของท่านในพิธีปลุกเสกด้วย พ.ศ. 2543

    บูชา 1,900 บาท
     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7569.jpeg IMG_7570.jpeg

    เหรียญ 6 รอบ หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ จ.ชัยนาท ปี 2518

    เนื้อทองแดงรมดำ ประกันแท้ครับ

    บูชา 2,500 บาท
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7606.jpeg IMG_7608.jpeg IMG_7609.jpeg IMG_7607.jpeg

    พิมพ์เล็ก กล่องเดิม สร้างน้อย แทบไม่เจอ

    บูชา 600 บาท
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7738.jpeg IMG_7739.jpeg IMG_7619.png

    หลวงพ่อคง สุวัณณ วัดซำป่าง่าม อ.สนามชัยเขตจ.ฉะเชิงเทรา
    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะชาวเมืองฉะเชิงเทราและใกล้เคียง ถึงแม้ว่าในสมัยนั้น "วัดซำป่าง่าม" จะเป็นเพียงวัดเล็กๆ อยู่เข้าไปในป่าลึก แยกจากอำเภอพนมสารคาม ไปทางขวามือ การเดินทางลำบากมาก ลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพศรัทธาก็ยังดั้นด้นไปเพื่อกราบนมัสการท่าน แม้กระทั่งพระเกจิอาจารย์แห่งอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ยังเดินทางไปกราบนมัสการท่านทุกปี แสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงพ่อคงอย่างแท้จริง วัตถุมงคลที่ท่านสร้างล้วนเป็นที่นิยมและแสวงหาในแวดวงนักนิยมสะสมพระ เครื่องและเหรียญคณาจารย์ โดดเด่นที่สุดคือ "เหรียญรูปอาร์ม เนื้อเงินลงยา ปี พ.ศ.2483

    อัตโนประวัติ หลวงพ่อคง สุวัณณ เป็นชาวเขมร แขวงเมืองพระตะบอง เกิดประมาณ ปี พ.ศ.2377 บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 15 ปี จนอายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และเริ่มศึกษาพุทธาคมและไสยเวทจากพระคณาจารย์ชาวเขมรที่มีชื่อเสียงด้าน เวทมนตร์
    ในสมัยนั้น เมืองพระตะบองอยู่ภายใต้ราชอาณาจักรไทย มีเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) เป็นผู้สำเร็จราชการดูแลอยู่ ท่านมีความเคารพเลื่อมใสในหลวงพ่อคงเป็นอย่างสูง เมื่อจะเดินทางกลับเมืองไทย เนื่องจากต้องยกเมืองพระตะบองให้ฝรั่งเศส ท่านจึงนิมนต์หลวงพ่อคงให้ร่วมคณะกลับมาด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการเดินทางให้ราบรื่น เมื่อมาถึงแถบอำเภอพนมสารคามซึ่งเป็นป่าดงดิบ หลวงพ่อคงเห็นว่าเป็นอาณาบริเวณที่เงียบสงบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ท่านจึงขอพำนักในบริเวณดังกล่าว เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์จึงได้สร้างกุฏิและเสนาสนะถวาย หลวงพ่อคงก็จำพรรษาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ความที่ท่านเจริญด้วยวัตรปฏิบัติและด้วยอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ ปรากฏ ชาวบ้านเริ่มเดินทางไปกราบนมัสการ และร่วมกันปลูกสร้างศาสนสถานและเสนาสนะต่างๆ จนกลายเป็นพระอารามให้ชื่อว่า "วัดซำป่าง่าม" และเจริญรุ่งเรืองจนปัจจุบัน หลวงพ่อคงมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2485 สิริอายุ 108 ปี


    เหรียญหลวงพ่อคง วัดซําป่าง่าม จ.ฉะเชิงเทรา ปี2483 พิมพ์ 8กลับ เนื้อทองแดง

    หลังมีรอยจาร 2 ครั้ง ลงจารเหล็กโดยหลวงพ่อมิ และจารหมึกเมจิกอีกครั้งด้วยคำว่า ใช้ได้ หายาก เหรียญสวยแชมป์ แท้คมชัดดูง่ายทุกมิติ รับประกัน

    บูชา 4,500 บาท

    เหรียญแปดกลับ หลวงพ่อคง วัดชำป่าง่าม ปี 2497 หลวงพ่อมิศิษย์เอกของหลวงพ่อคงปลุกเสก
    หลวงพ่อมิ (พระปลัดมิ โชตรตโณ) ท่านเป็นศิษย์หลานแท้ ๆ ของหลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม ส่วนใหญ่ท่านจะเป็นผู้ดำเนินการและจัดสร้างวัตถุมงคลของ หลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม เกือบทั้งหมด แล้วนำไปให้หลวงพ่อคงท่านปลุกเสก ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชามาทั้งหมด ซึ่งในยุคนั้นท่านมักจะได้รับกิจนิมนต์ให้ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลในทุกงาน เนื่องจากว่าท่านมีวิชาอันแก่กล้าเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนนั่นเอง
    ศิษย์อีกคนคือหลวงพ่อสาย เจ้าอาวาสวัดชำป่างาม (ซำป่าง่าม เดิม)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2025 at 11:50
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7632.jpeg IMG_7633.jpeg

    เหรียญหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลังท้าวเวสสุวรรณ วัดท่าซุง ปี21

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา

    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ

    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช พระอาจารย์สายเขาอ้อ

    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์

    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก

    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ

    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ ฯลฯ ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…” นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    บูชา 3,500 บาท สวยๆ ต้องมี 7-8,000 ขึ้น
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7634.jpeg IMG_7636.jpeg IMG_7637.jpeg IMG_7638.jpeg IMG_7639.jpeg

    มีดหมอสาริกาหลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร

    บูชา 2,500 บาท แหนเงิน รับประกันแท้

    หลวงพ่อจ้อย อุปสมบทแล้วได้อยู่จำพรรษาเพื่อศึกษา พระปริยัติธรรมที่วัดดอนม่วง ตำบลวังม้า อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ จำพรรษาอยู่ ๕ พรรษา แล้วไปศึกษาพระอภิธรรม และปวิปัสสนากรรมฐานที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กับพระอาจารย์เจชินซึ่งมาจากประเทศพม่า และยังไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน กับท่านเจ้าคุณภาวนาภิราม (สุกปวโร) และหลวงปู่นาค ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งเป็นสายเดียวกันกับสมเด็จ พระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) โดยมีหลวงพ่อพิมพา วัดหนองตางู ก็ไปศึกษาที่นั่นด้วย ใช้เวลาศึกษาอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตารามรวมหลายปี จึได้กลับมาจำพรรษาและพัฒนาวัดศรีอุทุมพร หลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อจ้อย นิยมการออกธุดงค์รุกมูล (อยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร) ไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อแสวงหาความวิเวก ทดสอบความทดทน เพื่อเผาผลาญกิเลสตัณหา อันได้แก่ ความโลภ ความโกรธ และความหลง และเพื่อศึกษาสัจจธรรมอันเป็นหนทาง แห่งความหลุดพ้น ตลอดจน วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ ต่างๆ ที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงโด่งดัง หลวงพ่อจ้อย ได้ขึ้นไปตั่งต้นเดินธุดงค์ที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ลงมาจนถึงจังหวัดนครปฐม และศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับหลวงพ่อฉาบวัดคลองจัน อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครปฐม ได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้ต่างๆ แก่กัน และหลวงพ่อยังได้มีโอกาศไปศึกษาวิชาอาคม กับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ ชื่อดังในสมัยนั้น จากนันได้ศึกษาอักขระขอมลาวจนมีความรู้แตกฉานเป็นอย่างดี ในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕o หลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ เกิดอาการอาพาธอย่าง ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ที่ร้านข้าวสาร " บุญมาพานิช" ซึ่งเป็นร้านของหลานสาวของ หลวงพ่อจ้อย พระใบฏีกาสมศักดิ์ ปญฺญาธโร รองเจ้าอาวาส วัดศรีอุทุมพร พร้อมด้วยลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ได้นำพาหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ โดยมีรถจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์มารับ อาจากในระหว่างเข้ารับการรักษานั้น มีแต่ทรงกับทรุดหรือ บางครั้งดูเหมือนว่าจะดีขึ้น ลูกหลานและศิษยานุศิษย์เกิดความสงสารเห็น ท่านอยากจะกลับวัด ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕o ลูกหลานและศิษยานุศิษย์ จึงได้ขออนุญาตนายแพทย์ผู้รักษา นำหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ กลับวัดศรีอุทุมพรโดยมีรถจากโรงพยาบาลมาส่ง ถึงอาคารอเนกประสงค์วัดศรีอุทุมพร ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕o ในเช้าวันนี้เองหลวงพ่อจ้อย ให้สัญญาณว่า จะให้พาไปจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อไปพักผ่อนที่บ้านศิษยานุศิษย์ ผู้หนึ่ง แต่เมื่อถึงที่นั่นปรากฏว่าอาการยิ่งทรุดลงมาก ลูกหลานศิษยานุศิษย์ เลยต้องนำ หลวงพ่อจ้อย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปลาโลวชิรปราการ ระหว่างการรักษาที่แห่งนี้ อาการก็มีทั้งดีขึ้นบ้าง ทรุดลงบ้างสลับกันอยู่อย่างนี้จนกระทั่งนายแพทย์ผู้ให้การรักษาให้ความเห้นกับลูกหลานและ ศิษยานุศิษย์ว่า ควรย้ายหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล สะพานควาย กทม. ๑๓ มีนาคม ๒๕๕o หลวงพ่อจ้อย ได้รับการดูแลจากคณะแพทย์ แห่งนี้ด้วยดีตลอดมา อาการน่าเป็นห่วงและต่อจากนั้นในความเห้นของแพทย์ ลูกหลาน และศิษยานุศิษย์ ตกลงจะพา หลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ กลับวัด ตามความประสงค์ของ หลวงพ่อจ้อย "ซึ่งจะเหมือนคนชราทั่วไปที่กล่าวว่าถ้าจะตายขอให้ไปตายที่บ้านดีกว่า" ในเวลาเช้าวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕o แพทย์ได้นำพา หลวงพ่อจ้ยอ จนฺทสุวณฺโณ กลับวัดศรีอุทุมพร โดยรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล เวลาประมาณ ๑๑.o๙ น. รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลคันนั้นได้นำหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ ถึง วัดศรีอุทุมพร เครื่องช่วยกระตุ้นส่วนต่างๆ หยุดทำงานทันที ท้องฟ้าสีอันงดงามเป้นที่แปลกตาแปลกใจของผู้คนจำนวนมากที่ทราบข่าวแล้วมารอรับอยู่ที่วัด มีดปากกาหลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพรมหาเถระผู้ทรงคุณแลเป็นที่เคารพของชาวนครสวรรค์ผู้สืบทอดตำรามีดเทพศัสตราจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพซึ่งหาคณาจารย์ที่สืบทอดน้อยลงในปัจจุบัน หลวงพ่อจ้อยท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ,หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ,หลวงพ่อฉาบวัดคลองจัน ,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ,หลวงปู่นาค วัดระฆัง ,หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ การสร้างมีดหมอ(มีดอาคม) หลวงพ่อจ้อย จันทสุวัณโณ วัดศรีอุทุมพร นครสวรรค์ อายุ ๙๕ ปีศิษย์สืบสายพุทธาคมจาก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7641.jpeg IMG_7642.jpeg IMG_7643.jpeg

    ปรอทกรอเนื้อสำริดลูกเล็ก ตัวจริงรับประกันทุกสนาม

    บูชา 8,000 บาท เมื่อก่อน หมื่นขึ้นครับ สมบูรณ์ 100%

    ปรอทกรอเครื่องรางเตือนภัยล้านนา

    ปรอทกรอล้านนา หรือ ทางเหนือเรียกกว่า "หน่วยบะป่อย"นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องรางล้านนาที่ถือได้ว่าเป็นยอดเครื่องราง อันทรงค่าหายาก พบเจอได้น้อยชิ้น

    มีทั้งความเชื่อ ในทางด้าน ศาสนา
    และความเชื่อทางด้าน กลยุทธ์ การศึกสงครามโบราณ

    ความเชื่อในด้านศาสนา

    สมัยโบราณนั้นก็คือการสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว จิตใจ เชื่อกันว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิงสถิตอยู่ในนั้น ใช้ฝัง ต้านฐานอุโบสถ หรือ ศาสนสถาน สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
    เชื่อในเรื่องป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง รวมถึงโจรผู้ร้ายที่คิดจะมาขโมยของในวัดเมื่อมีขโมยหรือสิ่งผิดปกติเข้ามาปรอทกรอก็จะส่งเสียงดัง...

    ความเชื่อด้าน กลยุทธ์ ทางการศึกการสงคราม

    อีกในหนึ่ง จุดประสงค์ คนโบราณ การจัดสร้าง

    ปรอทกรอ มักใช้ในกลศึก เป็น เครื่องมือ หรือ เครื่องรางเตือนภัย ในยุคสงคราม ปรอทกรอจะทำหน้าที่ "สั่น " เมื่อมีภัยเข้ามาประชิด

    ปรอทกรอ สั่นสะเทือนได้ไหลลื่นเสียงดังยาว แปลว่า : ข้าศึกมีจำนวนค่อนข้างเยอะ และเข้าประชิดใกล้เข้ามามาก

    ปรอทกรอสั่นเสียงไม่ดังมาก แปลว่า: ข้าศึกมีจำนวนค่อนข้างน้อย และอยู่ไกล
    เพื่อเป็นสัญญาณ เตือนภัย ว่าข้าศึกมีจำนวนมากหรือน้อย หรืออยู่ไกลหรือใกล้.. นั่นเองครับ

    จากคำบอกเล่า จากชาวบ้าน, ผู้เฒ่าผู้แก่ ชาวล้านนา และ หลากหลายสถานที่

    หยิบยกมาเขียนมาเพื่อเล่าสู่กันฟัง กันน่ะครับ..

    ปรอทกรอภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็กไหล หรือปรอทเรียก หรือ ปรอทสำเร็จ ที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอาเป็นส่วนผสมของลูกกลมเล็กๆด้านในปรอทกรอ โดยนำเอามาหุงและหล่อเป็นลูกปรอทกายสิทธิ์ ฉะนั้นเวลาเขย่าปรอทกรอจะมีเสียงคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างในปรอทกรอนั่นก็คือลูกกลมเล็กๆที่ว่านี่เอง...

    สำหรับที่ค้นพบปรอทกรอนั้น ส่วนมากจะพบเป็นเคยเป็นบริเวณวัดเก่า หรือ ที่คนทางเหนือล้านนาเรียกว่า วัดร้าง หรือ วัดห่าง หรือ เมืองเก่า ที่รกร้าง ศาสนสถานที่สำคัญ..
    บ้างจะพบโดยบังเอิญจากการขุดพบจากการขุดที่
    ถมที่, ทำการเกษตรบ้าง, บ้างก็ฝนตกหลายวัน ตกหนักๆๆ ซะล้างหน้าดินเปิด ก็จะพบเจออะไรแนวนี้ครับผม..
    การพบเจอก็ผ่านกาลเวลา ร่วม หลายสิบปี ที่เจ้าของพบเจอมา
    และบางท่านก็ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย เก็บบูชา สืบทอด กันมาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงปัจจุบันนี้

    อ่า ^^^อ่าน พอสนุก นะครับ. ^^^

    ปัจจัย เหล่านี้ บ่งบอกถึง การสร้าง ได้เป็นอย่างดี..

    ยุคสมัย ที่พบเจอ ปรอทกรอ..

    – สมัยก่อนสุโขทัย ( ราวพุทธศตวรรษที่ 12 – พุทธศตวรรษที่ 17 )
    – สมัยสุโขทัย พ.ศ.1792 – พ.ศ.2006
    – สมัยอยุธยา พ.ศ.1893 – 2310
    – สมัยธนบุรี พ.ศ.2310 – 2325
    – สมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ.2325 ถึงปัจจุบัน

    วิธีการใช้ : ใช้ห้อยคอหรือ พกพาติดตัว(ไม่ควรต่ำกว่าระดับเอว) ใส่พานบูชา หิ้งพระ หรือ บรรจุบนหัวเสาเรือน

    อาณุภาพ : คนสมัยก่อนเชื่อกันว่าปรอทกรอจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้ และป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง เตือนเมื่อมีภัย บูชาไว้เป็นสิริมงคลให้ลาภ และคุ้มกันบ้านเรือนและผู้อาศัย เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง..

    (ยกตัวอย่าง)

    เมืองโบราณ เช่น เมืองหอดโบราณ ตั้ง อยู่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ หัวเมืองด้านนอก
    ซึ่ง ตั้งอยู่ ไกล จาก ตัวอำเภอ ถึง 90 กม.
    ยิ่งสมัยก่อน การคมนาคม การเดินทางก็ ค่อนข้างที่จะลำบาก เดินด้วยเท้าบ้าง, เดินทางด้วยม้าบ้าง, เดินทางด้วยช้างบ้าง การเดินทางค่อนข้างลำบาก อะไรประมาณนี้ น่ะครับ... ยิ่งหัวเมืองห่างไกล ก็ต้องมีความเจริญ ที่น้อยกว่า ในเมือง....
    การสร้างปรอทกรอ ทั้งวัสดุก่อสร้าง หรือ ระบบกลไก
    ก็ จะได้ ตามนี้ ..

    เราหยิบยกตัวอย่าง มา แบบ เรียบง่าย เข้าใจ ได้พอสังเขป...

    ปรอทกรอ มีระบบ และ ปรอทกรอแบบไม่มีระบบ ต่างกันยังไง

    วัดหลายวัด คนโบราณ เชื่อกันว่าหนึ่งวัดได้บรรจุของวิเศษแทนคนรักษาวัดวาอารามของวิเศษนี้ชื่อว่า "ปรอทกรอ" บรรจุไว้ใต้ฐานวิหาร หรือ อุโบสถ "วัดละหนึ่งลูกเท่านั้น" อันนี้พิเศษ หน่อย ถ้าเป็น "วัดหลวง" วัดที่มีขนาดใหญ่ ก็จะมีด้วยกัน 4 ลูก, 6ลูก ด้วยกัน ครับผม..หรือศาสนสถาน ที่สำคัญทางศาสนา แต่ละสถานที่ มีฝัง ไม่สามารถ ระบุได้ ว่ามี กี่ลูก..
    เพราะว่า บางหัวเมืองที่ห่างไกล , บางเมืองใกล้ บางเมือง เล็ก, ใหญ่ ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ นี้ปัจจัย เหล่านี้ด้วย....

    คนสมัยโบราณทางด้าน ศาสนา เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้อง
    เช่น เทพ, เทพารักษ์, เทวดา, เหล็กไหล, ปรอทสำเร็จ, บ้างก็เล่ากันนั่นนี่ หลากหลาย ต่างๆ นานา...
    จนผม ผู้เขียน ถ้าเขียนไป เดี๋ยวหาว่า over ไปป่ะ 555..
    เอาเป็นว่า เชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในปรอกรอ นั้น น่ะครับ

    คนโบราณจึงเชื่อกันว่ามีสิ่งวิเศษของดีปกป้องภัย เช่น กันภูตผีปีศาจร้าย กันขโมย สร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่ศัทธาลูกวัด ตามความเชื่อแต่ครั้งโบราณ เป็นต้น
    สันนิษฐานว่าน่าเป็น "ของวิเศษใช้ปกป้องคุ้มครองภัย"

    วัสดุที่พบเจอ แบ่งเป็นแต่ละชนิดๆ ดังนี้

    1. ปรอทกรอทองคำ
    2.ปรอทกรอเนื้อเงิน
    3.ปรอทกรอสำริดแก่ทองคำ
    4.ปรอทกรอเนื้อสำริด
    5.ปรอทกรอเนื้อตะกั่ว
    6.ปรอทกรอเนื้อดินเผา(พบเห็นน้อยมาก)

    และแบ่งเป็นขนาดๆ ที่พบเห็น คือ

    1.เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 2เซนติเมตร
    2.เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด1นิ้ว
    3.เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด1นิ้วครึ่ง
    4.เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด2นิ้ว
    5.เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 2นิ้วครึ่ง(พบเห็นน้อยมาก)

    ขนาดของปรอทรอ อาจจะไม่ระบุขนาดชัดเจน อันนี้ ขึ้นกับ ยุคสมัย และ ภูมิประเทศ ที่พบเจอ..

    ยกตัวอย่าง : เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม.
    อาจจะ 1.8 ซม. , 1.9 ซม. น้อยกว่า หรือ 2.1 ซม. , 2.2 ซม. มากกว่า ก็ เป็นไปได้...

    ทั้งน้ำหนัก มีหล่อหนา หรือ หล่อบาง แล้วแต่ ส่วนผสมก็ เป็นปัจจัย ในการสร้างในแต่ละ สถานที่ไป ...

    การสร้างปรอทกรอ คนโบราณสร้างกลไกที่สุดยอดที่คนปัจจุบันสร้าง ที่ทำเลียนแบบไม่ได้

    ปรอทกรอที่เสียงดังไหลลื่น คือ ปรอทกรอที่ไม่ตายจะมีเสียงดังดีไหลลื่นตลอดเป็นเวลานานๆ ส่วนมากแผ่นการเวลามานานบวกกับสภาพผิวของเมืองหรือวัดบางที่อาจสร้างอยู่ลุ่มน้ำ ทำให้แช่น้ำเป็นเวลานานๆ หรือขึ้นอยู่กับสภาพผิวดินในแต่ละที่ๆ เสียงดังไม่ดี เมืองที่มีความเจริญมาก เช่น "วัดหัวเมือง" ก็จะสร้างปรอกรอ เช่น ปรอทกรอทองคำ รองมาเป็นระดับๆ จนถึงปรอทกรอดินเผาซึ่งพบเห็นน้อยที่สุดมีก็ไม่สมบูรณ์ ข้อมูลความรู้จากนักสะสมของเก่า และชาวบ้าน คนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ ชาวล้านนา.. นำมาเล่าสู่กันฟัง

    ปรอทกรอเป็นเครื่องรางของขลังยุคโบราณที่หายากมากชนิดหนึ่งมีสร้างขึ้นตั้งแต่ หลายยุคสมัย อีกทั้งยังถือเป็นยุทธโธปกรณ์ทางการทหารในสมัยโบราณ และความเชื่อทางด้านศาสนา อีกด้วย

    ปัจจุบันเป็นเครื่องราง"เตือนภัย" แก่ผู้เป็นเจ้าของ และป้องกันสิ่งชั่วร้ายสิ่งอัปมงคลต่างๆ ทั้งยังเด่นด้านเมตตามหานิยมและนำโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้ครอบครอง

    แชร์แบ่งปัน ประสบการณ์ จากท้องถิ่นพื้นบ้านชาวล้านนา

    ผมเองได้เคยเห็น ปรอทกรอที่ชำรุด เห็น ฟันเฟืองคล้ายหวี ซ้อนกัน มีลูกโลหะมีลักษณะทรงเหลี่ยม นับแล้วมี 38เหลี่ยม แล้วมีการเชื่อม เข้าหากันเป็นรูปทรงกลม การเชื่อมมักใช้การเชื่อมแบบคนโบราณด้วยการประสานด้วยโลหะเงินบริสุทธิ์..

    .คนโบราณมักมีความเชื่อ เรื่อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอยู่ในนั้น ต่างมีความเชื่อแตกต่าง นานา .....ถึงเครื่องรางเตือนภัยนี้

    ผมเองยังเคยถามผู้รู้หลายๆท่าน บอกในแต่ละเนื้อ พบเจอแตกต่างกันไป และยัง มักจะพบเจอเมื์องที่มี ความเจริญ...แล้ว ไล่เรียง..กันมา บ้างก็ ว่า แล้วแต่ สถานที่ อาจมีการแลกเปลี่ยน ซื้อ-ขาย .. ภาวะแปรเปลี่ยนไม่เหมือนกัน และ ยังมีผิว แตกต่างกัน ขึ้นอยู่ ว่า สถานที่นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาบ้างก็ถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน และชั้นดิน

    บ่งบอกถึงยุคกาลเวลา ทำให้แต่ละชิ้นนั้นไม่เหมือนกัน บ้างก็เขย่าแล้วเสียงดังไหลลื่นดี บ้างก็เขย่าแล้วไม่ค่อยดังดีก็มี ในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละที่ที่.. ได้สอบถามมา....ล้วน เชื่อเป็นคำตอบเดียวกันทุกที่กระผมเคยสอบถามเจ้าของคนหนึ่ง ป้าป้า ลูกนี้ป้ามีไว้ทำอะไร มีไว้ทำไม ?

    .....ป้า นั่งนิ่ง แล้วบอกว่าเก็บกันมานานแล้ว พ่อเคยเป็นพ่อหมอ (เหนือ เรียก พ่อหนาน) มาก่อน แต่ผมสังเกตุโดยรอบ รวมๆแล้ว บ้านเค้าค่อนข้างมีฐานะดี ...ป้าตอบ พ่อเคยบอกไว้ว่า..เก็บไว้แล้วอยู่เย็นเป็นสุข ร่มเย็น และทั้งหมู่บ้าน ไม่เกิดอาเพศ และเภทภัยอันตรายใดๆ มากล่ำกลาย มนต์เสน่ห์เครื่องรางเตือนภัยโบราณ อันดับหนึ่ง.....

    ปล. ขออนุญาติ หยิบยก ประวัติความเป็นมาจากมาจาก เจ้าของเดิม ลุง ป้า น้า อา และชาวบ้านเมืองเหนือ ที่มอบเครื่องรางอันสูงค่า และความรู้ และสิ่ง ดีดี ที่ คนปัจจุบัน... นี้ มิ ได้ หาได้แล้ว ...

    สุดท้ายนี้ ขอยกพุทธคุณ.. แห่งสุดยอดเครื่องรางเตือนภัยโบราณ.. นี้ ..ปกปักรักษาท่าน และ คุ้มครอง ป้องกันภัย หนุนนำ เสริมดวง เสริมอำนาจวาสนา สร้างความเจริญก้าวหน้าในชีวิต มาให้ ทุกท่าน. ล้วนมีแต่ความสุขความเจริญ ด้วยเทอญ....สาธุ

    ข้อมูลท้องถิ่น พื้นบ้านชาวไทยใหญ่ และชาวล้านนา : ตู่ สาละวิน

    "รูปภาพ" และ "บทความ" นี้ ไม่อนุญาต ให้นำไปใช้โดย "พลการ"

    เรียบเรียงเขียน และ ค้นคว้าข้อมูล
    ตู่ สาละวิน
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7645.jpeg IMG_7646.jpeg IMG_7647.jpeg IMG_7648.png

    พระพุทธชินราช เนื้อแก้วสีน้ำเงิน หลวงพรหมโยธี ปี ๒๔๙๓
    เนื้อแก้วสีน้ำเงิน พบเจอน้อยสุด

    บูชา 1,500 บาท


    พระพุทธชินราช เนื้อแก้วสีน้ำเงิน หลวงพรหมโยธี ปี ๒๔๙๓ ท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์) วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม. ปลุกเสก เข้าพิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก ปี 2515 อีกครั้ง ณ.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ฯ จ.พิษณุโลก สภาพสวยเดิมๆ ใช้แทนพระพุทธอินโดจีนที่ราคาสูงๆได้ครับ

    พระพุทธชินราช ผลิตจากเนื้อแก้ว สั่งตรงจากโรงงาน Japan ประเทศญี่ปุ่น เป็นพระที่สั่งสร้างโดยหลวงพรหมโยธี ( อุ่ณห์ แต้กุล ) พ่อค้าวานิชนักประดิษฐ์หัวน้ำหอมแห่งสยามประเทศ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์) วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม. ปลุกเสก แล้วจึงนำไปประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้ง ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก ปี 2515 โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นมากมายมาร่วมพิธี

    พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก" ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
    จ.พิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์
    พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก
    ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
    พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ ๑ และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ในสมัยรัชกาลที่ ๙
    หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย
    เกจิอาจารย์ 108 รูป ดังนี้
    พระครูวิริยะโสภิต (หลวงพ่อทอง) วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี
    พระราชธรรมมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    พระครูจันทรโสภณ (หลวงพ่อนาค) วัดทัศนารุณสุนทริการาม กรุงเทพ
    พระครูญาณวิลาศ (หลวงพ่อแดง) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
    พระครูภาวนาณุโยค (หลวงพ่อหอม) วัดชากหมาก จ.ระยอง
    หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
    พระครูวิจิตนชัยการ (หลวงพ่อสด) วัดหางน้ำสาคร จ.ชัยนาท
    พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
    พระครูประดิษฐ์นวการ (หลวงพ่อบุญ) วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี
    พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะองค์ จ.สมุทรสาคร
    พระครูธรรมสาคร (หลวงพ่อกรับ) วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
    พระครูปัญญาโชติ (หลวงพ่อเจริญ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
    พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
    หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี
    พระครูสนิทวิทยการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
    พระครูปิยธรรมภูสิต (หลวงพ่อคำ) วัดบำรุงธรรม จ.สระบุรี
    พระครูกิตพิจารณ์ (หลวงพ่อผัน) วัดราษฎร์เจริญ จ.สระบุรี
    พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
    พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (หลวงพ่อมุ่ย) วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
    พระวินัยรักขิตาวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
    พระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    พระครูอภัยภาดาทร (หลวงพ่อขอม) วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
    พระครูกิตตินนทคุณ (หลวงพ่อกี๋) วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
    พระอาจารย์สมภพ เตชปุญโญ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี
    พระครูประกาศสมาธิคุณ (หลวงพ่อสังเวียน) วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพ
    พระเทพเจติยาจารย์ (อาจารย์วิริยัง) วัดธรรมมงคล กรุงเทพ
    พระเทพโสภณ (สมเด็จพระมหาธีราจารย์) (นิยม) วัดชนะสงคราม กรุงเทพ
    หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    พระครูสาธุกิจวิมล (หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
    พระวิสุทธิรังษี (หลวงพ่อเปลี่ยน) วัดชัยชุมพลฯ (วัดใต้) จ.กาญจนบุรี
    พระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    พระครูจันทสโรภาส (หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
    พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    พระอาจารย์ผ่อง (จินดา) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพ
    พระครูศรีปริยัตยานุรักษ์ (ครูบาใฝ) วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่
    พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิทย์ (ครูบาสิงห์คำ) วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่
    พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อคำตวง จ.เชียงใหม่
    หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่
    หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    พระครูสุเวทกิตติคุณ (หลวงพ่อบุญชุบ) วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง
    หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
    หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
    พระวิบูลวชิรธรรม (เจริญ) วัดท่าพุทรา (วัดคฤหบดีสงฆ์) จ.กำแพงเพชร
    หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
    หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
    พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
    พระครูไพโรจน์อรัญญคุณ (หลวงพ่อคัด) วัดท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท
    หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท
    พระครูสุจิตตานุรักษ์ (หลวงพ่อจวน) วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    พระครูสุวรรณสุตาคม (หลวงพ่อดวง) วัดทอง จ.สิงห์บุรี
    พระครูอาทรสิกขการ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดสระเกศไชโย จ.อ่างทอง
    พระครูสันทัศธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง จ.อยุธยา
    พระครูประภาสธรรมคุณ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดวังแดงเหนือ จ.อยุธยา
    พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
    พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
    พระครูสาธรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    พระครูวิเศษมงคลกิจ (หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพ
    พระครูอนุกูลวิทยา (หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงส์ กรุงเทพ
    พระครูพิริยกิจติ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพ
    พระครูภาวณาภิรมย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    พระครูโสภณกัลป์ยานุวัฒน์ (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพ
    พระครูพินิจสมาจารย์ (หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี
    พระครูภาวนาภิรัต (หลวงปู่ทิม อิสริโก) วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    พระครูวชิรรังสี วัดมฤคทายวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์
    พระครูวชิรคุณาญาณ วัดในกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    พระครูสุทธาจารคุณ (หลวงพ่ออ่ำ อินฺทโชโต) วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    พระครูอุดมศีลจารย์ (พ่อท่านเย็น) วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง
    พระครูพิศาลพัฒนกิจ (พ่อท่านพระครูปลัดบุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม จ.นครศรีธรรมราช
    พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    พระครูพิพัฒน์สิริธร (หลวงพ่อคง สิริมโต) วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร
    หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น
    หลวงปู่จันทร์ วัดสำราญ จ.อุบลราชธานี
    หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์
    หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    พระครูนันทิยคุณ (ครูบาตัน นนฺทิโย) วัดเชียงทอง จ.ตาก
    หลวงพ่อเกตุ สุวรรโณ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
    พระครูสุวิชานวรวุฒิ (หลวงพ่อปี้) วัดบ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
    พระครูคีรีมาสธรรมคุณ วัดวาลุการาม จ.สุโขทัย
    พระครูพิลาศธรรมคุณ (หลวงปู่โถม) วัดธรรมปัญญาราม จ.สุโขทัย
    พระครูไกรลาศสมานคุณ (หลวงพ่อย่น) วัดกงไกรลาศ จ.สุโขทัย
    พระอาจารย์พวง วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร จ.สุโขทัย
    พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร จ.สุโขทัย
    พระครูพินิจธรรมภาณ (สมจิตร) วัดวังแดง จ.พิจิตร
    พระครูพิมลธรรมานุศิษฐ์ (หลวงพ่อขวัญ) วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร
    พระอาจารย์ชัย วัดกลาง จ.อุตรดิตถ์
    หลวงพ่อบุญ อุตตโม วัดน้ำใส จ.อุตรดิตถ์
    พระครูนวการโฆษิต (หลวงพ่อจันทร์) วัดหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์
    พระพิษณุบุราจารย์ (แพ พากุโล) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนี วัดอรัญญิก) หลวงตาละมัย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    พระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สมฺปนฺโน) วัดสระแก้วปทุมทอง จ.พิษณุโลก
    พระครูอภัยจริยาภิรมณ์ วัดใหม่อภัยยาราม จ.พิษณุโลก
    พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา จ.พิษณุโลก
    พระครูประภาสธรรมมาภรณ์ (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
    พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไช่) วัดศรีรัตนาราม จ.พิษณุโลก
    หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    หลวงพ่อเฉลิม วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์โต วัดสมอแข จ.พิษณุโลก
    พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน จ.พิษณุโลก
    พระครูวิจารณ์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทอง จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์นวล วัดนิมิตธรรมาราม จ.พิษณุโลก
    พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา จ.พิษณุโลก
    พระราชมุนี (โฮม) วัดสระปทุม กรุงเทพ

    ว่ากันว่า ถ้าหา พระพุทธชินราชรุ่นอินโดจีน วัดสุทัศน์ ฯ ไม่ได้ หรือพระเครื่องพิธีมหาจักรพรรดิ์ไม่เจอ ก็ใช้ชินราชหลวงพรหมโยธีแทนได้ เพราะพุทธคุณไม่ด้อยไปกว่ากันเลย แถมขนาดเล็กแขวนบูชาได้กะทัดรัดกว่า ชินราชอินโดจีนองค์ใหญ่กว่าที่ราคาไป2-30,000
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2025 at 16:37
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7651.jpeg IMG_7650.jpeg IMG_7649.jpeg

    เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่มวัดนางใน

    ตัวจริง ถักลวดใช้มาแบบเดิมๆ รับประกันสากล

    บูชา 9,000 บาท อยู่กับมือใหญ่ ไม่มีราคานี้แน่นอนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2025 at 11:24
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7658.jpeg IMG_7660.jpeg IMG_7657.jpeg IMG_7659.jpeg IMG_7654.jpeg IMG_7656.jpeg

    พระขุนแผนบ้านกร่าง พิมพ์หน้ามงคล

    พร้อมทองอย่างดี เฉพาะทอง 6-7 กรัม พระ15,000 ขึ้น ทอง 14,000 เมื่อก่อนต้องมี 28,000 ครับ พร้อมบัตรการันตี 2 ใบ

    บูชา 24,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2025 at 11:44
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,744
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7674.jpeg IMG_7675.jpeg IMG_7676.jpeg IMG_7677.jpeg

    เหรียญพระประจำวันเกิด (วันศุกร์) หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา 2495 กะไหล่ทองเดิม ถึงยุค

    พระเกจิชื่อดังยุคสงครามอินโดจีน ของเมืองปราจีนบุรี ที่มีวิชาอาคมเข้มขลัง จนมีคนผูกชื่อท่านเป็น พระเกจิ 5 เสือแห่งอินโดจีน คือ จาด จง คง จัน อี๋ วัตถุมงคลของท่านโด่งดังทางมหาอุด คงกระพัน เป็นที่นับถือศรัทธากันมาช้านาน เหรียญรูปเหมือนท่านรุ่นแรกๆ ราคาไปไกลถึงหลักแสน สำหรับเหรียญพระประจำวันนี้ ราคาถือว่าเบามากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพระเครื่อง ของหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ไว้บูชา แถมราคาสบายกระเป๋า แต่ที่ราคาไม่แพงเพราะมีเสริมและย้อนยุคออกใาทีหลัง สำหรับองค์นี้ สร้างในปี 2495 สภาพสวย กระหลั่ยทองเดิมๆ สภาพตามรูปรับประกันแท้ ปางวันศุกร์ ถึงแม้จะไม่ตรงวันเกิดแต่ถือว่า บูชาแล้วจะมีแต่ความสุข ความเจริญครับ

    บูชา 1,200 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...