ปรารถนาพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จันทโค, 13 พฤศจิกายน 2009.

  1. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ท่านน้องต้นละ ส่งที่อยู่มาทาง อีเมลล์นี้น้า timetime_1แอดhotmailดอทcom
     
  2. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ส่งเมลล์ที่อยู่ ไปแล้วนะครับ
    เมื่อวาน อ่านหลวงพ่อฤาษี ตอบ สนุกมากเลยนะครับ เอามาให้ท่านพี่อ่านด้วยครับ


    ปฏิปทาพระโพธิสัตว์

    ผู้ถาม อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า ปฏิปทาของพระโพธิสัตว์ ที่เป็นฆราวาสกับพระแตกต่างกันอย่างไร...และจะมีวิธีสังเกตได้อย่างไรครับ?
    หลวงพ่อ
    ปฏิบัติคนละทาง ชาวบ้านกินข้าวได้ไม่เลือกเวลา พระต้องเลือกเวลา อย่างอื่นจะต่างกันตรงไหนเล่า...มันเหมือนกันนั่นแหละ จิตใจกว้างขวางเหมือนกัน แต่กำลังบารมีแค่ไหน สังเกตอีกทีนะ พระโพธิสัตว์ไม่หวังความสุขของตัวเอง มุ่งความสุขของผู้อื่น ถ้าหากว่าท่านช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขได้ท่านพอใจมาก



    ผู้ถาม แล้วผู้ที่เป็นพระอริยะแล้ว ถ้าปรารถนาพุทธภูมิจะสามารถสำเร็จได้ อันนี้จริงหรือเปล่าครับ?
    หลวงพ่อ ถ้าเป็นพระโสดาบันแล้ว ไม่มีใครเขาปรารถนาพุทธภูมิ จะมีความเข้มแข็งขนาดไหนก็ตาม อย่างเก่งก็แค่ฌานโลกีย์เท่านั้น ถ้าเป็นพระอริยะไปแล้วก็ถือว่าเป็นสาวกไปแล้ว...ไม่มีทาง! ก็คิดปรารถนาให้โง่ทำไมล่ะ พระพุทธเจ้าก็ปรารถนานิพพาน พระสาวกก็ปรารถนานิพพาน เราก็ปรารถนานิพพานเสียเลยไม่ดีรึ...ถ้าแม้ยอมเสียเวลาก็เป็นไม่ได้ เพราะว่าเป็นพระอริยะแล้ว






    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 7



    ผู้ชายปรารถนาพุทธภูมิ



    ผู้ถาม
    หลวงพ่อครับ ผมดูหนังทางโทรทัศน์เรื่อง พระเวสสันดร ดูแล้วเกิดความเลื่อมใส นั่งดูด้วยความเคารพ โดยคิดว่าเป็นพระเวสสันดรองค์จริง เมื่อท่านให้ทานต่าง ๆ เพื่อปรารถนาพระโพธิญาณ ผมก็ยกมืออนุโมทนาด้วยความยินดี และตั้งจิตอธิษฐานว่า... "ด้วยกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้อนุโมทนา ในการสร้างบารมีของพระเวสสันดรในครั้งนี้ แม้พระเวสสันดร ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเพียงไร ขอให้ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญบารมีจนครบถ้วน ๓๐ ทัศ และได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลองค์หนึ่งเหมือนกับพระเวสสันดรด้วยเถิด"


    กระผมอยากจะทราบว่าการตั้งใจปราถนาของกระผมจะสำเร็จสมความตั้งใจไหมครับ?





    หลวงพ่อ
    จะเริ่มเป็นพุทธภูมิทันทีเมื่อตัดสินใจ คือว่าเรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่นะ คนที่ถามนี่ใครนะ เข้มแข็งมากนี่ คือว่าเรื่องความปรารถนาพุทธภูมินี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ ถ้าตั้งใจที่จะปรารถนาพุทธภูมิเป็นพระโพธิสัตว์เดี๋ยวนั้นนะ แล้วก็ถ้าตั้งใจแบบนี้นะ ถ้าคิดว่าจะไปนิพพานชาตินี้ต้องลาพุทธภูมิ ความจริงปรารถนาพุทธภูมิดี...ดีมาก จะเล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่งเอาไหม แต่เคยเล่าทีไรมันได้แสนบาทนี่...(หัวเราะ) คือว่ามีพระอรหันต์องค์หนึ่ง เป็นปฏิสัมภิทาญาณในสมัยพระพุทธเจ้า ฉันก็จำชื่อไม่ได้เสียแล้ว ท่านมีสามเณรองค์เล็ก ๆ อายุ ๗ ขวบอยู่องค์หนึ่ง เวลาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าท่านก็เอาสามเณรไปด้วย เวลาไปหาพระพุทธเจ้าท่านก็กราบพระพุทธเจ้าหลายครั้ง"

    ต่อมาเวลาขากลับเณรน้อยก็เดินตามหลัง เณรน้อยก็คิดว่าอาจารย์ของเราเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ เป็นอรหันต์อันดับสูงสุด ในด้านของความสามารถอรหันต์อีก ๓ เหล่าสู้ไม่ได้ แต่ทว่าอาจารย์ของเรายังต่ำกว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้านั่งสูงกว่า...สู้ไม่ได้ ต่อไปนี้เราปรารถนาพุทธภูมิดีกว่า เราคิดว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าต่อไป พอแกคิดเสร็จอาจารย์ก็หยุด บอก..."เณร! เดินข้างหน้า"
    เณรก็เดินไปเดินมาแล้วก็นึก เอ...เป็นพระพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญบารมีมาก เป็นอรหันต์ปกติสาวกบำเพ็ญบารมีแค่ ๑ อสงไขยกับแสนกัปถึงจะเป็นอรหันต์ได้ พระพุทธเจ้าขั้น ปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขย กับแสนกัป ศรัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขยกับแสนกัป วิริยาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป จึงเข้านิพพาน เราเป็นอรหันต์ธรรมดาดีกว่า อาจารย์บอก..."เณร! เดินหลัง" อาจารย์ทำแบบนี้ ๓ เที่ยว เณรก็ถามว่า
    "อาจารย์ครับ ประเดี๋ยวให้ผมเดินหน้า ประเดี๋ยวให้ผมเดินหลัง มันเรื่องอะไรกันครับ?"
    อาจารย์ก็ถามว่า "ขณะที่ฉันให้เธอเดินหน้า เธอคิดอะไร?"
    เณรบอก "ผมคิดอยากเป็นพระพุทธเจ้าครับ"
    อาจารย์บอก "นั่นแหละ...มันเป็นกันตั้งแต่ตอนนี้ เริ่มเป็นเมื่อคิด" ไป ๆ มา ๆ ไม่เอาดีกว่า เป็นสาวกดีกว่า
    ก็รวมความว่า...ถ้ามีความตั้งใจปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า เริ่มเป็นพระโพธิสัตว์ตั้งแต่เริ่มตัดสินใจ อย่าไปคิดว่ายังไม่เป็นนะ






    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 7



    ผู้หญิงปรารถนาพุทธภูมิ
    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ถ้าผู้หญิงจะปรารถนาพุทธภูมิบ้างอย่างนี้จะปรารถนาแบบไหน...นานไหมเจ้าคะกว่าจะได้เป็น?
    หลวงพ่อ สองวันก็ได้เป็น!
    ผู้ถาม พุทธภูมินี่นะ...
    หลวงพ่อ ใช่...ความจริงประเดี๋ยวเดียวนะ แป๊บเดียวได้เลย
    ผู้ถาม ก็ไหนเขาบอกว่าต้องบำเพ็ญบารมีเป็นอสงไขยกำไรแสนกัป
    หลวงพ่อ ไม่ใช่หรอก...มีปากกาด้ามหนึ่ง กระดาษแผ่นหนึ่งเขียน "พุทธภูมิ" ได้เลย ก็บอกแค่ปรารถนานี่...ไม่ได้บรรลุนี่
    ผู้ถาม แหม...เสียท่า
    หลวงพ่อ คือปรารถนาพุทธภูมิได้ จะบรรลุเมื่อไร ฉันพยากรณ์ไม่ได้หรอก ถ้าเราปรารถนาพุทธภูมิยังว่าลอย ๆ ยังไม่พบพระพุทธเจ้าพยากรณ์ใช่ไหม...ยังไม่ถือว่ามีคติแน่นอน ต้องพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์น่ะ...มีคติแน่นอน ถ้าเป็น ปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีต่อไป ๔ อสงไขยกับแสนกัป ถ้าเป็น ศรัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขยกับแสนกัป ถ้าเป็น วิริยาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป สบายมาก จะเป็นไหม...? ก็เป็นสาวกภูมิก็พอแล้ว รีบไปดีกว่า แต่อย่าไปขัดคอกันนะ อย่าไปคิดว่าของเขาจะช้าเพราะกำลังเขาพอใช่ไหม...



    ผู้ถาม ครับ ๆ ๆ มิน่าเล่าเจอพระบางองค์ พอคุยถึงเรื่องมโนมยิทธิ โอ๊ย! ไม่ดีหรอก...เราปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าอยู่ อย่าไปคุยเรื่องนั้นเลย
    หลวงพ่อ ดี...ดีมาก
    ผู้ถาม แสดงว่า...
    หลวงพ่อ พระยายมเขาจะได้ไม่ว่างไง!
    ผู้ถาม ทำไมล่ะครับ?
    หลวงพ่อ ปรารถนาพุทธภูมิไม่มีความเป็นพระอริยะ มีแต่ฌานโลกีย์เพื่อคุ้มครอง ถ้าคนจะเป็นพระพุทธเจ้าต้องพิสูจน์ทุกอย่าง ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาต้องรู้หมด
    ผู้ถาม รู้หมดที่หลวงพ่อว่านี่หมายความว่า...
    หลวงพ่อ คือหมายความว่า ถ้าบารมียังต่ำขั้นต่ำฌานโลกีย์ยังคุมไม่ถึง ฌานขั้นต้นฌานก็ไม่มั่นคง ใช่ไหม...ยังมีโอกาสพลาดลงอบายภูมิ ต่อมาถ้าบารมีเป็น อุปบารมี ก็ปลอดบ้างไม่ปลอดบ้าง ถ้าเป็นปรมัตถบารมี นี่ปลอดหมด กว่าจะเลื้อยได้แต่ละบารมีนี่ โอ้โฮ!.ฉันลองดูแล้ว
    ผู้ถาม เป็นยังไงครับ?
    หลวงพ่อ แหม...ไม่มีเหงื่อจะไหล มันไหลเสียจนหาเหงื่อไหลไม่ได้
    ผู้ถาม โอ...หนักจริง ๆ นะ" (พระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่เรารู้จักกันดี คือพระเวสสันดร การบำเพ็ญบารมีของท่านในชาติสุดท้าย กระทำได้ยากอย่างยิ่ง)
     
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    หลวงพ่อท่านตอบได้ถูกใจผมมากเลยนะครับ เสียดายที่ไม่ได้สนทนาธรรมกับท่านนะครับ
     
  4. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ถาม : ขอถามปัญหาเรื่องเดียวกัน การที่เคยได้ยินว่าบางนิกายเขามีผู้มีบารมีสูงๆ สามารถที่จะแบ่งภาคอมตะมันเป็นยังไงครับ ในการที่จะแบ่งจิต ?

    ตอบ : อันนั้นเป็นการเชื่อของเขา จริงๆ แล้วจิตเดียวกายเดียว ถ้าหากว่าคุณจะลงมาเกิด คุณก็ต้องเอาจิตของคุณลงเมื่อเพื่อหากายใหม่ ไม่สามารถที่จะแบ่งออกมาหลายอย่าง หลาย ๆ สถานที่ พร้อมๆ กันได้ แต่ว่าถ้าหากในลักษณะที่ว่าอยู่ในกายทิพย์อย่างเช่น เทวดา พรหม หรือพระบนนิพพานนี่ท่านสามารถที่จะแบ่งจิตเพื่อรับรู้เรื่องต่างๆ ได้หลายเรื่องพร้อมกัน เพราะฉะนั้นประเภทลงมาเกิดเป็นหลายๆ คนเป็นไปไม่ได้

    แต่คราวนี้เขาเชื่ออย่างนั้น ในเมื่อเป็นความเชื่อคือทิฐิของเขาอย่างนั้น เราก็ค้านเขาไม่ได้ซะด้วย เพราะเขาไม่เชื่อเราหรอก แล้วมาตอนหลังก็พยายามล้มล้างซะด้วย บอกว่าพระพุทธเจ้าก็คือปางหนึ่งของพระนารายณ์ เป็นพุทธาวตาร แหม ! ร้ายมากเลย มันกลืนสนิทเลย นารายณ์ ๑๐ ปางมีอะไรบ้างเคยศึกษามั้ย ? นั่นแหละเขาเล่นเอาพระพุทธเจ้าเป็นปางหนึ่งคือพุทธาวตาร เขาจะมีกูรมาวตารแปลงเป็นเต่าอวตารลงมาเป็นเต่าเพื่อที่จะรองเขาพระสุเมรุตอนที่เทวดากวนเกษียรสมุทรไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันจะทิ่มจักรวาลทะลุ วราหาวตารเป็นหมู หมูป่าตัวใหญ่ขึ้นไปปราบยักษ์ นรสิงหาวตารเป็นมนุษย์ครึ่งสิงห์กับยักษ์เหมือนกันรามาวตารนี่มันมากเลยรบกับทศกัณฑ์....ยักษ์อีกเหมือนกัน ตกลงว่ายักษ์ในฮินดูนี่หาดียาก ยักษ์ในฮินดูที่มีดีรู้สึกว่าจะมีท่านพิเภกอยู่องค์เดียวมั้ง ? นารายณ์ ๑๐ ปางเขาจัดพุทธาวตารยัดเข้าไปด้วยอวตารเป็นพระพุทธเจ้า

    วันก่อนฟังหลวงตาบัว ท่านว่าศาสนาอื่นๆ ไม่ใช่ของแท้ ไม่ใช่ของจริงสามารถจับผิดโกหกกันได้ แต่ศาสนาพุทธนี่เขาเอหิปัสสิโก ท้าให้มาดูเลย (หัวเราะ) ถ้าหากว่าทำก็จะได้ผลตามนั้น เอหิปัสสิโกเรียกร้องให้สัตว์ทั้งหลายมาดู ก็คือท้าพิสูจน์ ท้าพิสูจน์อยากจะจับผิดอะไรก็เชิญ สิ่งที่ฉันว่าไป ถ้าหากว่าเธอทำได้แล้วยังผิดอยู่ก็ยอมรับว่าผิด แต่คราวนี้ว่าถ้าคนทำได้ไม่มีใครว่าผิดนี่

    ถาม : บอกว่าเทวดาท่านอยากจะรู้ไปที่ต่างๆ ท่านจะส่งจิตออกไป ?

    ตอบ : สามารถแยกจิตเป็นกายทิพย์หลายๆ กายออกไปพร้อมๆ กันได้ สามารถรู้ได้สมบูรณ์แล้วทำหน้าที่จำเพาะตรงจุดนั้นๆ ได้สมบูรณ์ทุกอย่างด้วย

    ถาม : ในเวลาเดียวกัน ?

    ตอบ : ในเวลาเดียวกัน

    ถาม : อย่างเช่นเทวดาที่วัดพระแก้ว ?

    ตอบ : ทำไมล่ะ

    ถาม : รับเรื่องเยอะ ?

    ตอบ : อ๋อ ! ไม่เยอะก็ไม่ได้ ก็แหม ....มันอธิษฐานกันเพียบเลย เป็นเทวดาที่วัดพระแก้ว ก็ยุ่งมาก มันคนทั้งประเทศและต่างประเทศเลย ก็อย่างว่า....หน้าที่ของท่านนี่






    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนธันวาคม ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    ฝากชมรม คุณความดีพรหม-เทวดาในศาสนาพุทธ

    เพื่อศึกษาพรหม-เทวดาในศาสนาพุทธ รวบรวมบทความเกี่ยวความดีของพรหม-เทวดาในศาสนาพุทธ เพื่อแก้ข้อสงสัยว่าพรหมเทวดาเคารพบูชาได้รึไม่ และ ทำอย่างไรจึงจะเกิดเป็นพรหม-เทวดา ตามหลักพุทธ พุทธศาสนา
     
  5. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603


    อนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  6. prapang

    prapang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +956
    "พระพุทธเจ้าก็ปรารถนานิพพาน พระสาวกก็ปรารถนานิพพาน เราก็ปรารถนานิพพานเสียเลยไม่ดีรึ" หลวงพ่อฤาษีท่านตรัสไว้ถูกที่สุดเลยน๊า
     
  7. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    วันนี้ผม ได้บูรณะพระพุทธรูปที่วัด( ด้วยมือตัวเองด้วยกาวตราช้าง) จำนวน ๑๔ องค์
    ด้วยบุญนี้จงสำเร็จแก่ ท่านพี่ทามทาม องค์นิตะโพธิสัตว์ทั้งหลายในเทวโลก องค์อนิตะโพธิสัตว์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุและองค์อนิตยะในบอร์ดพุทธภูมิทั้งหลาย และเวนัยสัตว์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุและแสนโกฏิจักรวาล และจงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้าทั้งในอดีตนานแสนนานและในปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ
    ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้เป็นน้องร่วมบิดาร่วมมารดาของ " องค์พระทศพลพระองค์ปัจจุบัน พระทศพลทั้งหลายในอดีตนานแสนนาน และองค์พระทศพลทั้งหลายในอนานคตกาลนี้ด้วย เทอญ "สาธุๆๆๆๆๆๆ


    " พุทธบูชา มหาเตชะ วันโต " การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจอย่างยิ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มกราคม 2010
  8. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373

    สุดยอดเลย ท่านน้องต้นละ ทำบุญทุกอย่าง ได้เป็นปกติของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เลยย ว้าว นับถือ นับถือ

    " พุทธบูชา มหาเตชะ วันโต " การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจอย่างยิ่ง
    กราบอนุโมทนา สาธุครับ
     
  9. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    มหาชาดก (ทศชาติ) โดยหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ คลิกๆๆเพื่อฟัง

    ใครที่ปรารถนาพุทธภูมิ ถ้าไม่ได้ฟังหลวงพ่อเล่า นี้เสียใจมาก ท่านเล่าตามตำรา บางทีก็เล่า ตามเสียงที่มาบอก เสียงมาจากไหน เสียงก็มาจากเจ้าของทศชาติ...

    พระชาติที่เสวยเป็น พระมโหสถ ท่านใช้ปัญญายังไง ก็ลองฟังดู ยุคนั้นไฟฟ้ายังไม่มี แต่พระมโหสถ ท่านผลิตกระแสไฟฟ้าได้ก็คิดดูเอาจ้า
     
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ ผมกราบอนุโมทนากับท่านพี่ด้วยนะครับ
    ท่านพี่ครับ ดีวีดี ส่งมารึยังครับ
     
  11. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ท่านพี่ทามทามครับ ขอบคุณสำหรับ อิทธิบาท 4 นะครับ
    ผมขอน้อมปฏิบัติทั้งกาย วาจา ใจ ครับ
    ผมเองก็มีอะไรให้ท่านพี่ทามทามด้วยครับ จะได้ทำแก้เหงาเวลาทำงาน( แก้ง่าง )
    ธรรมของพระโพธิสัตว์ ( ประจำใจพระโพธิสัตว์อยู่เสมอทุกชาติ )
    ธรรมเหล่านี้สัมพันธ์กันตลอดเวลาไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย เพราะธรรมแต่ละข้อนั้นต่างอาศัยกันและกันเกิดขึ้น.....
    เมื่อพระโพธิสัตว์ให้ ทาน จุดมุ่งหมายในการให้ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ผู้รับไม่มีคิดที่จะเป็นเหตุให้เกิดการเบียดเบียนผู้อื่น
    การไม่มีความคิดที่จะเบียดเบียนผู้อื่นทั้งกาย วาจา ใจ นี้จัดเป็น ศีล
    เมื่อเกิดความคิดในการให้ทาน จิตใจย่อมผ่องใสปราศจากนิวรณ์
    การที่จิตปราศจากนิวรณ์ จัดเป็น เนกขัมมะ
    แน่นอน ในการบำเพ็ญทานนั้น ย่อมตั้งใจใช้การพินิจพิจารณาเหตุผล เพื่อให้ทานเกิดประโยชน์มากที่สุด
    การพินิจพิจารณาเช่นนี้ จัดเป็น ปัญญา
    ความตระหนี่เป็นอุปสรรคสำคัญในการบำเพ็ญทาน พระโพธิสัตว์จำต้องพยายามละความตระหนี่ที่เกิดขึ้นขัดจังหวะอยู่ตลอดเวลา
    การพยายามละความตระหนี่เช่นนี้ จัดเป็น วิริยะ
    นอกจากพยายามละความตระหนี่ซึ่งเป็นบาปที่คอยขัดขวางไม่ให้การทำความดีก้าวหน้าแล้ว พระโพธิสัตว์จะต้องยอมทนทุกข์ทรมานจากการเสยสละ
    เพราะในบางครั้งสิ่งที่สละนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากหรือเสมอด้วยชีวิต แต่เมื่อเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับ ถึงตนเองจะต้องลำบากท่านก็ยอมสละให้ได้
    การยอมทุกข์ทรมานเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุขเช่นนี้ จัดเป็น ขันติ
    พระโพธิสัตว์ เมื่อตัดสินใจให้ทานแล้วก็ย่อมทำตามการตัดสินใจ หรือเมื่อพูดว่าจะให้อะไรแก่ใครแล้ว ท่านก็พร้อมจะให้เสมอ ไม่เคยกลับคำ
    การพูดหรือทำตรงตามการตัดสินใจนั้น จัดเป็น สัจจะ
    การทำอย่างที่พูดหรือตัดสินใจไปแล้วนั้น บางครั้งทำไปแล้ว อาจจะมีอุปสรรคเกิดขึ้นขัดขวางซึ่งทำใหเกิดความท้อถอยแต่พระโพธิสัตว์จะยึดมั่นอยู่ในสัจจะนั้น พยายามฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้
    ความมั่นคงแน่วแน่เช่นนี้ จัดเป็น อธิฐาน
    การให้ของพระโพธิสัตว์ย่อมตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปรารถนาดี และเป็นความปรารถนาดีชนิดที่เป็นอัปปมัญญา ไม่มีขอบเขตจำกัดไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นความปรารถนาดีที่แผ่ไปให้แม้กระทั้งศัตรู
    ความรักความปรารถนาดีอย่างกว้างขวางนี้ จัดเป็น เมตตา
    แน่นอนว่า ในการให้นั้น พระโพธิสัตว์ย่อมมิได้มุ่งหวังผลตอบแทนหรือเพื่อเกียรติยศชื่อเสียง ท่านสามารถบังคับใจให้อยุ่เหนือสิ่งตอบแทนทางวัตถุเหล่านี้ ทั้งนี้เป็นเพราะท่านรู้จักปล่อยวางประคับประคองใจให้เป็นกลาง
    การวางใจให้เป็นกลางได้เช่นนี้ จัดเป็น อุเบกขา
    จากเหตุผลดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่า ธรรมะเหล่านี้ย่อมสัมพันธ์กันอยู่เสมอ เพื่อเกื้อหนุนให้พระโพธิสัตว์ได้บรรลุถึงพระนิพพานอันเป็นจุดหมายปลายทาง ฉะนั้น จึงเรียกว่า " บารมี " แปลว่า " คุณธรรมเครื่องช่วยให้ถึงฝั่งคือพระนิพพาน
    ขอมอบ ให้ท่านพี่ทามทาม และเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในบอร์ดนี้อ่านนะครับ (แก้ง่วง อิอิ)


    ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^

    ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอจงจาริกไป
    เพื่อประโยชน์สุขของมหาชน
    จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มกราคม 2010
  12. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373


    กราบอนุโมทนา สาธุอย่างสูง กับธรรมทาน ครับ
     
  13. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ยังจ้า เพื่อนยังไม่ออน M เลย

    ถ้าส่ง DVD ไปแล้ว จะฝากข้อความไปจ้า
     
  14. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม
    จะรอครับ
     
  15. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ด้วยบุญกุศลผมที่ได้ทำในวันนี้ ( บูรณะพระพุทธรูปจำนวน ๔ องค์ ด้วยกาวตราช้าง ) จงสำเร็จแก่พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายในบอร์ด และ ทั้งหลายในเทวโลก และเวนัยสัตว์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุและแสนโกฏิจักรวาล ด้วยเทอญ.......ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  16. dnpo16

    dnpo16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,183
    เรียนท่านต้นละ

    เท่าที่ผมทราบมาจาครูบาอาจารย์ ชั้นพระอนาคามีนี้ไม่มีการเกิดแล้ว จะมีก็เพียงแต่ตัดกิเลสตัวโมหะให้หมดไม่ได้เท่านั้น รอเพียงแต่ตัดกิเลสให้หมดเท่านั้น ซึ่งในประเด็นนี้ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมานานแล้ว แต่โดยส่วนตัวนั้นผมก็ไม่ได้รู้อย่างถ่วงแท้นะครับ
    หากข้อมูลที่เรียนให้ทราบมีความผิดผลาด ประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

    Dnpo16 - Danail
     
  17. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ที่ว่าเกิดนะครับ
    เกิดในชั้นพรหมนะครับ เกิดในชั้นพรหมอีก ๑ ชาติ ไม่ใช่โลกมนุษย์ ครับ ( ผิดถูกประการใดอภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ )
    สังโยชน์ ๑๐

    1. สักกายทิฏฐิ - หมดความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา หมดความยึดมั่นถือมั่นในระดับหนึ่ง
    2. วิจิกิจฉา - หมดความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร หรือนำศีลและพรตไปใช้เพื่อเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีลเพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่าคนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงการหมดความเชื่อถือในพิธีกรรมที่งมงายด้วย
    4. กามราคะ - หมดความติดใจในกามคุณ
    5. ปฏิฆะ - ไม่มีความกระทบกระทั่งในใจ

    6. รูปราคะ - ไม่มีความติดใจในวัตถุหรือรูปฌาน
    7. อรูปราคะ - ไม่มีความติดใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทั้งหลาย
    8. มานะ - หมดความยึดมั่นถือมั่น
    9. อุทธัจจะ - ไม่มีความฟุ้งซ่าน
    10. อวิชชา - ไม่มีความไม่รู้จริง
    พระโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 ข้อต้นได้
    พระสกทาคามี ทำสังโยชน์ข้อ 4 และ 5 ให้เบาบางลงด้วย
    พระอนาคามี ละสังโยชน์ 5 ข้อต้นได้หมด
    พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ
     
  18. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สาธุครับ พระอนาคามีคือผู้ไม่กลับมาอีก เมื่อละขันธ์จะไปบังเกิดเป็นอริยพรหมชั้นสุทธาวาส
    แบ่งตามอินทรีย์ ดังนี้
    ...
    1)พระอนาคามี ที่มี สัทธินทรีย์(ความเป็นใหญ่ในความเชื่อมั่น) กล้ากว่าอินทรีย์อื่น เมื่อตายจากกายนี้แล้ว ย่อมไปอุบัติที่ อวิหาสุทธาวาสพรหมโลก

    2)พระอนาคามี ที่มี วิริยินทรีย์
    (ความเป็นใหญ่ในความเพียร) กล้ากว่าอินทรีย์อื่น เมื่อตายจากกายนี้แล้ว ย่อมไปอุบัติที่ อตัปปาสุทธาวาสพรหมโลก

    3)พระอนาคามี ที่มี สตินทรีย์
    (ความเป็นใหญ่ในความระลึกรู้) กล้ากว่าอินทรีย์อื่น เมื่อตายจากกายนี้แล้ว ย่อมไปอุบัติที่ สุทัสสาสุทธาวาสพรหมโลก

    4)พระอนาคามี ที่มี สมาธินทรีย์
    (ความเป็นใหญ่ในความตั้งมั่น) กล้ากว่าอินทรีย์อื่น เมื่อตายจากกายนี้แล้ว ย่อมไปอุบัติที่ สุทัสสีสุทธาวาสพรหมโลก

    5)พระอนาคามี ที่มี ปัญญินทรีย์
    (ความเป็นใหญ่ในการเห็นตามความเป็นจริง) กล้ากว่าอินทรีย์อื่น เมื่อตายจากกายนี้แล้ว ย่อมไปอุบัติที่ อกนิฏฐสุทธาวาสพรหมโลก


    เสริมครับ...

    พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 44

    ๑. สุทธิกสูตร ว่าด้วยอินทรีย์ ๕

    [๘๔๓] สาวัตถีนิทาน. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระ-

    พุทธพจน์นี้ ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน

    คือ สัทธินทรีย์ ๑ วิริยินทรีย์ ๑ สตินทรีย์ ๑ สมาธินทรีย์ ๑ ปัญญินทรีย์ ๑

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้แล.

    จบสุทธิกสูตรที่ ๑

     
  19. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา สาธุ แก่ธรรมทานที่ทุกท่านได้กระทำด้วยนะครับ ^^

    สนทนาธรรมกันน่าสนุกดีนะครับ...
     
  20. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ อนุโมทนาด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...