@@นโมโพธิสัตวา กษิติครรภโพธิสัตว์ /ร่างกายอาศัยเป็นเรือ..จิตใจ คือผู้สร้างบารมี@@

วันที่ 10 พค.2561 เพจค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วงได้ร่วมสืบสาน
จิตปณิธานแห่งพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์

เนื่องด้วยทางพระวิศวภัทร (釋廣度法師)
ประธานอารามวัตรมหายาน มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย ได้น้อมถวาย พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ สูง 2.5 เมตร สลักจากหินแกรนิตสีเขียว อัญเชิญมาจากประเทศจีน แด่พระอาจารย์คม อภิวโร วัดป่าธรรมคีรี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

พระอาจารย์คมท่านสั่งแต่เช้าว่า

วันนี้เวลาองค์พระมาถึงวัด ฟ้าจะร้อง ฝนจะตก และฟ้าจะผ่าสามครั้ง ดังนี้

1.เมื่อยกองค์พระตั้งเสร็จ
2.เมื่อเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์
3.เมื่อเสร็จพิธี

ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น !

วันนี้แดดจ้า ท้องฟ้าสดใสดี เมื่อรถบรรทุกอัญเชิญองค์พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หินแกะสลักเดินทางมาถึงวัดป่าธรรมคีรี เพียงแค่ผ่านเข้าประตูวัด ฝนเริ่มตกทันที ฟ้าร้องเสียงดัง และฟ้าผ่าตรงตามที่พระอาจารย์คมท่านบอกไว้

ท้ายพิธีพระอาจารย์คมได้กล่าวว่า

" เป็นนิมิตมงคล เป็นบุญบารมียิ่งใหญ่ของพระอาจารย์วิศวภัทร ท่านอธิษฐานเป็นพระโพธิสัตว์ผู้กรุณา อันสั่งสมมาดีแล้วหลายภพชาติ แบกรับภาระฉุดช่วยคนให้พ้นทุกข์ เป็นบุญสัมพันธ์ของพระอาจารย์วิศวภัทรกับสรรพสัตว์ โดยมีองค์พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เป็นผู้นำ และเป็นผู้สื่อแผ่คุณความดีนั้น "

หมายเหตุ : ในระหว่างประกอบพิธี มีงูสีเขียวมรกต เลื้อยมาที่องค์พระ และเลื้อยวนเวียนอยู่รอบองค์ท่านเช่นนั้น นอกจากนี้ท้องฟ้ามีสีสวยงาม ปรากฏเมฆรูปคล้ายตี้ทิง พาหนะขององค์พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์อีกด้วย

ทุกอย่างยืนยันชัดเจน
ในอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย

โอม กษิติราชะ สรวะ สิทธิ ฮุม
Cr. เพจค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง


เปิดดูไฟล์ 4561420

เปิดดูไฟล์ 4561421


เปิดดูไฟล์ 4561422


เปิดดูไฟล์ 4561814

ฝนตกหนักทันทีที่มาถึง และทำการเคลื่อนย้ายองค์พระเข้าวัด


เปิดดูไฟล์ 4561815

เมฆรูปสัตว์พาหนะขององค์พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์

 

งานหล่อฯ3/6/2561ท่านที่จะเอาทองคำแท้ หรือ แผ่นทองมาหย่อนลงเบ้าหลอม ในงานเททองหล่อพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ 4องค์ ที่พุทธจักษุวิชชาลัย #ให้หย่อนลงเบ้าก่อน 9.00น.

เวลานัดหมายมาเจอกันคือ 8.30น. จะมาก่อนก็ดีนะคะ มากราบพระกษิติครรภ์องค์ใหญ่ มาเขียนชื่อบนก้อนทองคำ มาทานอาหารโรงทานเจ ที่มีกว่า 20โรงทาน....





***********************************

https://www.facebook.com/saruttayarose?hc_location=group_dialog

 

บุญเริ่มแล้ว !!! หล่อพระกษิติครรภ์ราชามหาโพธิสัตว์ เนื้อทองเหลือง 4 องค์ สูง 2.5 ม. ขอทุกท่าน ร่วมมหาโมทนา เบื้องบนมาร่วมโมทนาในมหากุศลแล้ว ปิติยิ่ง ครับ

ขอสรรพสัตว์ ทั้งปวง จงมีสุข จงพ้นทุกข์ จงถึงธรรม

 

พระอาจารย์วิศวภัทร ในนามของอารามวัตรมหายาน มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย ได้มอบพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ หินแกรนิตแกะสลัก ให้แด่โรงเจฮุยกวงกักฮ่วง เพชรเกษม 77/5 (慧光覺苑)

โดยมีพระภิกษุณีเสี่ยฮ้ง （聖鴻法師主持）เจ้าสำนัก พร้อมทั้งสาธุชน ได้ประกอบพิธีอัญเชิญและประดิษฐาน เมื่อวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2561 （農歷四月初八日本師佛聖誕) ที่ผ่านมา เพื่อให้สาธุชนทั่วไปได้กราบสักการะสืบไป


***********************************************

 

เหตุแห่งพระมหาปณิธาน

...หลายภพที่ท่านได้เกิดมา ล้วนมีเหตุต่างๆให้ท่านตั้งปณิธานฉุดช่วยสรรพชีวิต และ นี่คือเหตุหนึ่ง( ความกตัญญู )

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม 2561 เวลา 9.00 น.
คุณกัลยาณี รัตนปรีชาเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ไทยมาสเตอร์แพค จำกัด พร้อมทั้งผู้บริหารทุกแผนกและพนักงาน รวมทั้งเพื่อนๆ กัลยาณมิตร
และคู่ค้า ผู้มีความเลื่อมใสในมหาปณิธานแห่งพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ ได้เป็นประธานพิธีถวายพุทธบูชา และฟังธรรมเทศนา

โอกาสนี้ ได้น้อมถวายเทียนจำนำพรรษา กับทั้งของบริวารต่างๆ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง หลอดไฟ เป็นต้น

ขอกราบอนุโมทนากับทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ครับ

 

กตัญญูให้เหนือวัฒนธรรม

นะโม กษิติครรภายะ โพธิสัตวายะ มหาสัตวายะ
เวลาพ่อแม่มีชีวิตอยู่ลูกหลานก็เอาแต่มอบของกินอร่อยๆ
ทำให้พวกท่านอิ่มหนำ แต่ไม่อิ่มบุญตอบแทนความกตัญญู

นะโม กษิติครรภายะ โพธิสัตวายะ มหาสัตวายะ
เวลาที่ท่านอยู่ ยังแข็งแรงก็ไม่พาไปสร้างบุญกุศล ไปสร้างพระสร้างวัด สร้างพระธรรมคัมภีร์ กษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตรกล่าวว่า จะได้รับอานิสงส์ครบถ้วน ได้รับทุกส่วนที่กระทำ เป็นบุญปัจจัยให้พระโพธิสัตว์ พระพุทธเจ้าทั้งหลายคุ้มครองการเดินทางไปในสังสารวัฏ

นะโม กษิติครรภายะ โพธิสัตวายะ มหาสัตวายะ
เวลาพ่อแม่กำลังจะจากไป เคยเห็นสังฆทานถังสุดท้ายไหม๊
ถังสุดท้าย บางคนที่กำลังจะจากไปอาจจะเป็นถังแรกที่ลูกหลานมอบให้ มันอาจไม่มีกำลังนำพาท่านไปเกิดในภพภูมิที่ดีหรอก แต่เพียงแค่สร้างกำลังใจ ก่อนพ่อแม่จะจากไป
ทั้งๆที่ท่านก็แทบจะไม่มีสติที่จะรับรู้ด้วยซ้ำ
เราต้องถามตัวเองว่าเรากตัญญูช้าไปรึเปล่า

นะโม กษิติครรภายะ โพธิสัตวายะ มหาสัตวายะ
พ่อแม่สิ้นลมเหลือเพียงเถ้ากระดูกป่นๆ ก็ทำบุญทำกุศลเป็นการใหญ่ ตอบแทนบุญคุณ มันก็ดีอยู่ดีต่อคนที่ยังอยู่ แต่ช่วยเหลือคนที่ตายไปแล้วแทบไม่ได้เลย เพราะบางคนก็เวียนไปสู่ทุคติทันที บุญที่ทำไปก็ได้สักหนึ่งในเจ็ดส่วน เหมือนน้ำน้อยแพ้ไฟไฟแห่งวิบากกรรมไม่ทันกาล

นะโม กษิติครรภายะ โพธิสัตวายะ มหาสัตวายะ
บุคคลทั้งหลายแต่แรกอยู่ไม่อยากเข้าใจ ไม่อยากรู้จัก
ไม่อยากอ่าน ไม่สนใจกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตรหรอก
เพราะเขากลัว กลัวความตาย กลัวการสูญเสีย
แม้พระสูตรจะบอกว่า เธอทั้งหลายพึงเชื่อเถิด
ตถาคตไม่กล่าวเท็จ กษิติครรภโพธิสัตว์ คือนาบุญแห่งโลก
คือนาบุญแห่งสรรพสัตว์ แต่นี่แหละคน นี่แหละมนุษย์
สิ่งที่รวมทุกข์ทั้งหกภูมิไว้ในตัวเอง
ฟังธรรมง่าย แต่น้อมใจเชื่อยากยิ่งกว่า!!!

มนุษย์เราน่าสงสารถูกวัฒนธรรมประเพณีกักขัง
ให้เราสร้างบาปกรรมโดยไม่จำเป็น ซาแซ โหงวแซ
ไหว้แล้วรวย *^*
สุดท้ายก็รวยเหมือนกัน คือ ร่ำรวยความเบียดเบียน!!!

#น่าสังเวชไหว้พ่อแม่ปู่ย่าตายายอากงอาม่าในจานอาจเป็นบรรพชนผู้เวียนตายเวียนเกิด
#ไหว้อาเหล่ากงฆ่าอาเหล่ากงลูกหลานบางคนก็กินเนื้ออาเหล่ากงด้วยความเอร็ดอร่อย
#ไหว้อาเหล่ามาฆ่าอาเหล่าม่าน่าสลดใจอาเหล่าม่านอนคว่ำในถาดทองลูกหลานไหว้อย่างสุดกตัญญู
#ตอบแทนคุณตั้งแต่ยังอยู่สร้างแสงสว่างสำหรับการเดินทางไกลให้พวกท่านดีกว่า
#ให้แสงแห่งพระรัตนตรัยสว่างส่องชี้นำตั้งแต่ยังมีชีวิตดีกว่า

 

พรุ่งนี้วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2561 ตรงกับวันพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ （農曆七月三十日地藏菩薩聖誕）

อารามวัตรมหายาน มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย จัดพิธีถวายพุทธบูชาแด่พระรัตนตรัย พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ พร้อมทั้งพญายมราชทั้ง 10 ณ พุทธวิหารชั้น 2 และลานพระโพธิสัตว์ด้านล่าง เวลา 10.00-10.45 น.

ขอเรียนเชิญสาธุชนร่วมพิธีถวายสักการะ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันและเวลาดังกล่าวครับผม ...ดูเพิ่มเติม
— ที่ มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย วัดพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์

 

วันนี้ที่สิงห์บุรี

เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลถวายหนังสือพระสูตรมหายานแปลไทย ปฏิมากรพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ และร่วมสมทบทุนเพื่อโรงเรียนพระปริยัติธรรม ในพิธีถวายผ้าพระกฐิน






******************************************

 

วาดภาพที่ขาดหัวใจ

สมัยราชวงค์ซ่งที่วัดคงกวน
มีพระเถระรูปหนึ่งมีชื่อว่า "เซ่อติ้งฝ่า"
ได้ออกบวชบำเพ็ญปฏิบัติ
โดยบำเพ็ญภาวนาในองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์เป็นสรณะ

ทุกเดือนจะวาดภาพองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์เป็นประจำ แล้วน้อมถวายสักการะบูชา อธิษฐานขอให้ได้พบเห็นองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์

พอครบสามปีเต็ม ก็มีสามเณรน้อยรูปหนึ่งมาที่วัดเพื่อขอพักค้างคืน พระติ้งฝ่าก็ออกมาต้อนรับและสอบถาม
หลังจากพูดคุยกันไม่กี่คำ สามเณรที่ว่าจะมาขอพักแรมก็เดินออกมาทางวิหารใหญ่ ครู่เดียวก็ไม่รู้หายไปไหน

พระในวัดรู้สึกแปลกใจมาก จึงถามพระติ้งฝ่าว่า
"สามเณรน้อยที่จะมาขอพักแรมนั้นพูดอะไรกับท่านหรือ"

พระติ้งฝ่าจึงบอกว่า สามเณรน้อยพูดกับฉันว่า
"ปณิธานดีเลิศเต็มแล้ว แต่ทำไมเจตนารมณ์กลับพร่องเช่นนั้น"

ทุกคนเมื่อได้ยินดังนั้นก็พูดกับพระติ้งฝ่าว่า
"ท่านขอให้ได้พบองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์ แต่ไม่หมั่นสวดภาวนาถึงพระองค์ ดังนั้นพระกษิติครรภโพธิสัตว์ถึงได้พูดว่า "ทำไมเจตนารมณ์กลับพร่องเช่นนั้น"

ดังนั้นพระติ้งฝ่าจึงบังเกิดโพธิจิต
ตั้งจิตด้วยความปิติยินดีขอให้ได้บรรลุพระสัทธรรมอันสูงส่ง

ต่อมาไม่กี่วัน พระติ้งฝ่าก็ฝันเห็นพระกษิติครรภโพธิสัตว์
แปลงกายมาในรูปของสามเณรน้อยรูปนั้น.

พระกษิติครรภโพธิสัตว์ตรัสว่า
เธอขอให้ได้พบเรา แต่จิตใจไม่เกิดโพธิจิต
ดังนั้นเราจึงมาเตือนเพื่อให้เธอได้รู้ตื่น
เธอวาดภาพของเราเป็นจำนวนมากมายแล้ว
ผลในที่สุดจะไม่ตกลงสู่อบายภูมิสามตลอดไป

หลังจากจบชีวิตก็จะได้ไปจุติยังสวรรค์ชั้นดุสิต
รอถึงวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงเสด็จลงมาประสูติ
ยังโลกมนุษย์ เพื่อเธอจะได้รับธรรมแห่งสัมมา
เราจะติดตามเธอ เหมือนดังเงาที่ติดตามกาย

หลังจากพระติ้งฝ่าได้ตื่นขึ้นมาจากฝัน
ก็ร้องไห้น้ำตานองหน้าด้วยความซาบซึ้ง
ในความเมตตากรุณาของพระกษิติครรภโพธิสัตว์เป็นอย่างยิ่ง

จากบันทึกเรื่องราวข้างต้นนี้ทำให้พวกเราได้รู้ว่า
องค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์นั้น
ท่านไม่เคยทอดทิ้งผู้เคารพ
คอยติดตามดูแลผู้บำเพ็ญปฏิบัติ ดังเงาที่ติดตามกาย
พวกเราทำไมไม่พึ่งพาอาศัยพลานุภาพ
ของพระกษิติครรภโพธิสัตว์กันเล่า
พวกเรากลับชอบอาศัยกำลังของเราคนเดียว
ไปสู้รบกับกองทัพมารในสังสารวัฎ

แปลถวายพระรัตนตรัยโดย อี้จู๋หลิน

#สองตาประดุจโคมทองส่องสว่างถ้วนทั่วในตรีกาล
#มารนอกมารในบราบด้วยกำลังของโพธิสัตว์
#ขยันรังสรรค์เขียนภาพด้วยจิตต้องเร่งส่งใจไปพร้อมกับภาพ
#เช่นนั้นจึงพบพระพุทธเจ้าทั่วทั้งตรีกาลกำเนิดขึ้นในจิตตน




************************************

 

ความฝันจากพระกษิติครรภ์ราชันย์

ในกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร
ได้กล่าวถึงการพบเจอพระกษิติครรภโพธิสัตว์ในความฝัน
พระกษิติครรภโพธิสัตว์จะปรากฏขึ้น
เพื่อสนองปณิธานของผู้ปฏิบัติบูชาพระองค์

แม้บรรดาพระโพธิสัตว์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน
ท่านทั้งหลายจะพบกับเราในความฝัน เป็นการสนับสนุนกำลังใจในการบำเพ็ญธรรม เตือนสติให้เราตั้งอยู่ในสัมมามรรค

แต่ความฝันบางครั้งก็เหมือนน้ำ
เมื่อจิตเราขุ่นมัวน้ำก็ขุ่นตาม ความฝันในเวลาที่จิตใจขาดความสมดุล ยากที่จะปราศจากความปรุงแต่ง

บรรดาผู้บำเพ็ญที่จิตแน่วแน่มั่นคง และควบคุมสติได้ยอดเยี่ยม ความฝันจึงเชื่อถือได้เพราะจิตไม่ปรุงปน ผิดกับนักบำเพ็ญช่วงครึ่งๆกลางๆ ที่แบ่งแยกแรงปณิธาน กับความปรุงแต่งออกจากกันไม่ได้

ทำให้ความฝันถูกสร้างจากตะกอนความคิดระหว่างวัน
บางครั้งถึงจะชัดเจน เสมือนจริง แต่ก็ยากที่จะแยกความปรุงแต่งที่แต่งแต้มลงไปในจิตทุกช่วงเวลาความคิดของวัน
เมื่อสนุกไปกับความฝัน เราก็ติดอยู่ครึ่งทางของการบำเพ็ญ

พระกษิติครรภโพธิสัตว์ตรัสแง่คิดเรื่องความฝันไว้ว่า
ความฝันเสมือนน้ำที่ตั้งอยู่บนเตาไฟ
เมื่อไม่ได้เติมถ่านไฟลงไปในเตา น้ำก็อยู่ในสภาวะอุณหภูมิปรกติ จะดื่มกิน หรืออาบชำระก็สามารถทำได้

แต่เมื่อเติมถ่านไฟแห่งความปรุงแต่ง เข้ามามีบทบาท
สร้างความรู้สึก ใส่ความคิด เพิ่มความร้อนในเตาจากแรงความคิด น้ำที่เคยเป็นธรรมชาติก็กลายเป็นน้ำร้อนบนเตาไฟทันที
ถึงแม้จะใช้ประโยชน์ได้ แต่สุดท้ายน้ำร้อนทั้งหลาย
ก็ต้องกลับสู่สภาวะปรกติอยู่ดี

พระกษิติครรภโพธิสัตว์ทรงเน้นย้ำในปณิธาน
ทรงเน้นย้ำให้เธอเชื่อมั่นในการกระทำ หากเธอเคารพและน้อมนำท่านมาเป็นแบบอย่าง ถึงแม้เธอไม่มีความฝัน
ก็เป็นที่แน่นอนว่า ทุกอย่างนั้นอยู่ในสายตาของท่านอย่างแน่นอน

การปฏิบัติตนเป็นพระโพธิสัตว์ในชีวิตความเป็นจริง
ย่อมทำให้เธอเข้าถึงปัญญา จริยาวัตร ปณิธาน และความกรุณาได้เป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน

#เมื่อเห็นภูเขาเป็นภูเขาย่อมรู้สึกว่าธรรมดาสามัญ
#เมื่อเห็นภูเขาลอยได้ย่อมสนุกสนานไปกับการแสดง
#เมื่อเห็นภูเขาเป็นภูเขาเหมือนเดิมย่อมเข้าใจหัวใจในมายา
#รู้จักภูเขาให้ครบทุกขั้นตอนจึงเข้าใจจิตแท้ด้วยใจจริง

 

ดิ้นรนกับเรื่องของตาย

บางคนเกิดมาไม่กี่อึดใจ
ความตายก็วิ่งมาดุจสายฟ้า ยังไม่ทันได้ร้องไห้เพราะความทุกข์เลยสักหนึ่งอึดใจ ตายตั้งแต่ยังไม่ได้รู้ความ

บางคนตายตั้งแต่ยังเด็กๆ
ตายไปพร้อมความน่ารักน่าชัง เกิดมาได้พอรู้ความ
รู้จักพ่อแม่บ้าง รู้จักการกินนอน ความตายก็เด็ดต้นไม้อ่อนๆ
ไปจากผู้ที่รัก ด้วยความตายของเด็กๆ

บางคนตายตอนวัยรุ่นๆ
ตายไปพร้อมความคาดหวังของพ่อแม่ รู้ความรู้โลก
เริ่มรู้จักสถานะความแตกต่าง ตายไปกับสิ่งที่เริ่มเข้าใจ
คือความสมมุติ ที่เริ่มปรุงปนชัดเจนขึ้นกว่าเด็กๆที่ยังไม่ปรุงแต่ง

บางคนตายตอนวัยผู้ใหญ่วัยทำงาน
เริ่มมีครอบครัว มีลูก มีหน้าที่การงาน มีภาระ ตายช่วงนี้คงทำลายความหวังทุกสิ่งในชีวิตได้ชัดที่สุด
ทำลายการเริ่มชีวิตที่หนึ่ง สอง สามที่สร้างเพิ่มขึ้นมา
บางคนดีมากมีแต่คนเสียดาย บางคนเลวเข้าขั้น
ความตายเหมือนกัน แต่คนดีกับเลว
ตายแล้ว เริ่มมีคุณค่าแห่งความตาย ที่แตกต่าง

บางคนตายช่วงเข้าสู่วัยกลางคน
ผ่านโลกมาหลากหลาย ห้าสิบ หกสิบปี
ครอบครัวเป็นรูปเป็นร่าง
ถึงตายเพราะโรค เพราะอุบัติเหตุ
แต่สุดท้ายก็ยังไง ก็คงไม่มีใครอยากตามภูติอนิจจังไปแน่นอน ช่วงนี้บางคนคงห่วงใยหลานๆแทนลูก
ยังตายไม่ได้ ไม่พร้อมที่จะตาย

บางคนตายเจ็ดสิบแปดสิบ
ถึงตอนนี้คงเพิ่งเริ่มต้นรับมือกับ"การต้องตาย"
เริ่มศึกษาธรรมะเพราะไปไหนไม่ไหว
เพิ่งเริ่มเห็นธรรมจากตัวแก่ๆ หนังเหี่ยว
แต่ก็ช้าไปสำหรับการปฏิบัติ เพราะความชราครอบงำ

ทุกช่วงเวลาของชีวิต มีความตายรออยู่เสมอ
กักอยู่ด้าน ตามอยู่หน้าหลัง
ทั้งนั่งและนอน ยืนและเดิน ตายได้เสมอ
หากในชาตินึง เราไม่พบเจอธรรมะ
ไกลพุทธองค์มากเท่าไร เราก็ขาดทุนมากเท่านั้น

หากเราพบธรรมเร็ว เข้าใจธรรมเร็ว เร่งรีบลงมือศึกษาธรรม
ไปในทุกช่วงเวลาของชีวิต และวางใจในพระรัตนตรัยให้มาก ถึงมากที่สุด ทุกเมื่อ ทุกกาล ทุกเวลา
เราก็อาจจะเป็นมนุษย์ที่เกิดมาแบบไม่ขาดทุน
ตราบเท่าเรายังมีลมหายใจ...

#ตายตายตายท่องๆไว้เพราะเราต้องหาเจอสักวัน
#ท่องไว้แต่ไม่หาธรรมไม่ค้นหาพุทธองค์ก็มีเรือแต่ไร้ไม้พาย
#เมื่อพบแล้วว่าน้ำนิ่งไม่มีมรสุมเราก็รีบพายเรือไปฝั่งกระโน้น
#ตาจ้องมองฝั่งมือรีบพายใจจดจ่อภาวนารีบไปก่อนความตายจะมาเยือนไม่ขาดทุนไม่ขาดทุนแน่นอน



************************************

 

รีบเจริญก่อนแก่

พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ได้ทูลพระพุทธองค์ว่า
ข้าแต่พระผู้มีพระภาค สรรพสัตว์ในปัจจุบันและอนาคต หากสามารถระลึกถึงและสรรเสริญพระนามของพระพุทธเจ้าองค์เดียวก็จะมีกุศลที่ประมาณไม่ได้

แล้วจะประสาใดกับการภาวนาพระนามของพระพุทธเจ้าหลายองค์สรรพสัตว์เหล่านั้นไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือสิ้นชีพไปแล้วต้นนั้นย่อมได้รับประโยชน์มหาศาลไม่ตกสู่อบายภูมิแม้ที่สุด

หากมีผู้กำลังจะสิ้นชีพแล้วในบ้าน มีเพียงบุคคลเดียวที่สามารถภาวนาพระพุทธนามด้วยเสียงอันดัง
แทนผู้ป่วยนั้น

ผู้ที่สิ้นชีพไปแล้วนอกจากได้ทำอนันตริยกรรมเอาไว้กรรมอื่นๆนอกจากนี้ย่อมมลายสิ้นไป
ก็อนันตริยกรรมนี้หากละเมิดแล้วย่อมเป็นกรรมใหญ่หลวงนัก แม้จะผ่านไปโกฏิกัลป์กันก็ไม่สามารถพ้นจากนรกได้

แต่หากครอบครัวของผู้นั้นได้ภาวนาพุทธะนามแทนผู้นั้นแล้วไซร้ วิบากกรรมที่หนักของผู้นั้นก็จะค่อยดับสิ้นไปแล้ว

จะประสาใดกับหมู่สัตว์ทั้งหลายที่ภาวนาพุทธะนามด้วยตนเองอีกเล่าเขาย่อมได้รับกุศลไม่มีประมาณและดับบาปที่ไม่มีประมาณด้วยตนเอง

นะโมอนันตกายะตถาคต
นะโมรัตนภาวะตถาคต
นะโมปัทมวิชัยตถาคต
นะโมสีหนาทตถาคต
นะโมกกุสันโทตถาคต
นะโมวิปัสสีตถาคต
นะโมประภูตรัตนตถาคต
นะโมรัตนลักษณตถาคต
นะโมกษายเกตุตถาคต
นะโมมหาอภิญญาคิรีราชตถาคต
นะโมศุทธิจันทรตถาคต
นะโมคิรีราชตถาคต
นะโมสุเมธะตถาคต
นะโมสุทธนามะตถาคต
นะโมเมธคูตถาคต
นะโมอนุตรตถาคต
นะโมศรีสัททะตถาคต
นะโมปูรณะจัทรตถาคต
นะโมจันทรมุขตถาคต

พุทธานุสติระลึกถึงปวงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
บังเกิดมหากุศล มิเข้าสู่อบาย เสวยสุขอันปราณีต
ท้ายที่สุดสามารถบรรลุพระโพธิญาณ

#คัดบางส่วน จากกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร
พระวิศวภัทร แปลครับ

#พุทธานุสติดับอกุศลมรรค
#พุทธานุสติคือการน้อมรับกายวาจาใจตถาคตมาใส่ตัว
#เจริญพุทธานุสติผลน้อยที่สุดคือมหากุศลมากที่สุดคือโพธิญาณ
#เจริญไว้ตั้งแต่แข็งแรงอย่ารอแก่แล้วค่อยทำ

 

พรหมชาลสูตร กล่าวว่า หากพุทธบุตร ด้วยจิตเมตตาเป็นเหตุให้ทำการปลดปล่อยชีวิตสรรพสัตว์ ด้วยเห็นว่าบรรดา(สรรพสัตว์)เพศบุรุษนั้นแลคือบิดาของตน และบรรดา(สรรพสัตว์)เพศหญิงนั้นคือมารดาของตน ในทุกภพชาติจะไม่ได้ถือกำเนิดจากสรรพสัตว์เหล่านี้ก็หาไม่ เหตุฉะนี้สรรพสัตว์ในภูมิทั้ง6 ล้วนเป็นบิดรมารดาของเรา การฆ่า การกินสรรพสัตว์เหล่านั้น ถือเป็นการฆ่าบิดรมารดาของตนเอง และยังคือการฆ่าตัวเองอีกด้วย เพราะว่าบรรดาดินและน้ำทั้งปวงนั้นคือกายของเรา ไฟและลมทั้งปวงก็คือสังขารของเรา เหตุนี้จึงมีจริยาวัตรปล่อยสัตว์เป็นนิจ ยังให้ทุกภพชาติเมื่อถือกำเนิด ย่อมดำรงอยู่ในธรรมประการนี้ แล้วยังสั่งสอนผู้อื่นให้ปล่อยสัตว์ด้วย ยามเมื่อเห็นบุคคลในโลกเข่นฆ่าสรรพสัตว์ จึงให้อุปายะช่วยเหลือให้(สรรพสัตว์) ได้รอดพ้นจากทุกข์ภัยนั้น. (พระวิศวภัทร ...แปลไทย)
《梵網經》云：「若佛子。以慈心故，行放生業，一切男子是我父，一切女人是我母，我生生無不從之受生，故六道眾生皆是我父母，而殺而食者，即殺我父母，亦殺我故身，一切地水是我先身，一切火風是我本體，故常行放生，生生受生，常住之法，教人放生。若見世人殺畜生時，應方便救護，解其苦難。」


----------------------------------------------------

 

เนื่องใน เทศกาลปฏิบัติบูชา
พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ ประจำปี 2563
https://www.facebook.com/187308651305297/posts/3258144434221688/

 

ขันติบารมี ตบะธรรมนำสู่นิพพาน
"ท่านจงอดทนต่อคำยกย่อง และคำดูหมิ่นทั้งปวง เปรียบเหมือน..แผ่นดินอดทนต่อสิ่งที่เขาทิ้งลงทุกอย่าง ทั้งสะอาดและไม่สะอาด ไม่แสดงความยินดียินร้าย บำเพ้ญขันติบารมีก้จักบรรลุสัมโพธิญาณได้"
ความอดทนเป็นอาวุธที่ทรงพลังในการต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะต้องอดทนต่อความลำบาก ตรากตรำ อดทนต่อทุกขเวทนาเจ็บไข้ได้ป่วย อดทน ต่อการกระทบกระทั่งกัน
ซึ่งเราอาจอดทนต่อถ้อยคำ ของคนที่เป็นใหญ่กว่าได้เพราะกลัว อดทนต่อถ้อยคำ ของคนเสมอกันเพราะอาศัยการแข่งดี ส่วนการอดทน ต่อถ้อยคำของผู้ต่ำกว่าได้ ถือเป็นความอดทนสูงสุด
ที่สำคัญต้องอดทนต่อกิเลสเย้ายวนใจ แล้วในที่สุดความอดทนที่สั่งสมมาดีจะกลายเป็นตบะธรรม แก่กล้าเผาผลาญทรมานกิเลสภายในใจให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน

 

ตี้ทิงคู่บารมีพระกษิติครรภ์


ณ เมืองเซี่ยงโจว ปี ค.ศ778
พระภิกษุเต้าหมิงแห่งวัดไคหยวน
ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
วิญญานของท่านไปปรากฏในนรกเพื่อถูกพิพากษา
แต่แล้วพญายมกลับพบว่ากุศลที่ท่านทำนั้น
สามารถยืดอายุไขออกไปได้อีกจึงส่งตัวท่าน
กลับมาบนโลกมนุษย์อีกครั้ง โดยสั่งให้ท่านเต้าหมิง
เดินออกมาจากประตูนรกด้านทิศตะวันตก
ท่านเต้าหมิงเดินออกมาได้สักพักก็พบกับสถานที่หนึ่ง
ซึ่งงดงามราวกับพุทธเกษตรของพระพุทธเจ้า
ที่นั้นท่านได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่บนดอกบัว
ที่ทำจากรัตนมณีอันล้ำค่าทั้งหลาย
ดวงตาของพระสงฆ์รูปนี้เป็นสีฟ้า
ใบหน้าก็งดงามเปี่ยมด้วยความเมตตา
ถึงแม้จะเป็นพระสงฆ์ท่านกลับสวมมงกุฎ
อันประดับด้วยเพชรนิลจินดาและทองคำสุกปลั่ง
จีวรก็ถักทอด้วยไหมทองคำงามระยับจับตา
ที่พระหัตถ์ก็สวมแหวนที่ทำจากเพชรและอัญมณีต่างๆ
เมื่อพระรูปนั้นเห็นท่านเต้าหมิงก็กล่าวว่า
“เจ้ารู้จักเราหรือไม่”
ท่านเต้าหมิงที่ไม่เคยเห็นพระรูปนี้มาก่อนก็ตอบว่า
“ดวงตาของข้าน้อยช่างต่ำช้ายิ่งนัก
ไม่บังอาจรู้จักผู้สูงศักดิ์อย่างท่านหรอกครับ”
พระภิกษุตอบกลับมาว่า
“ดูดีๆซิ ก็ไหว้เราอยู่ทุกวัน เราคือกษิติครรภ์โพธิสัตว์”
ท่านเต้าหมิงได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจและตอบไปว่า
“แต่ในโลกมนุษย์ท่านไม่ได้หน้าตาแบบนี้นะครับ”
พระโพธิสัตว์ถามต่อว่า
“แล้วเราดูเป็นอย่างไรในโลกที่เจ้าจากมา”
ท่านเค้าหมิงตอบว่า “ ก็เป็นพระสงฆ์ศรีษะโล้น
สวมจีวรธรรมดาครับ ไม่ได้มีมงกุฏ
หรือแต่งกายหรูหราอะไร”
พระโพธิสัตว์ยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบว่า
“ ตายล่ะ เห็นทีคนที่โลกมนุษย์
พอมาเจอเราคงจำไม่ได้กระมัง”
จากนั้นท่านก็เทศนาให้ท่านเต้าหมิงฟังว่า
“เต้าหมิง มาใกล้ๆเรา
จงจดจำรายละเอียดทุกอย่างที่เจ้าเห็น
พอเจ้ากลับไปยังโลกมนุษย์ให้ถ่ายทอดสิ่งนี้
ให้กับผู้คนทั้งหลาย จงบอกพวกเขาด้วยว่า
การสวดภาวนานามหรือมนตราของเรา
ด้วยความศรัทธาอันเป็นที่สุด
จะสามารถชำระบาปกรรมทั้งหลายของพวกเขาได้
นอกจากนี้หากผู้ได้ที่เห็นรูปกายของเรา
พรอันประเสริฐทั้งหลายของพระพุทธเจ้าทั่วทศทิศ
จะหลั่งไหลไปสู่ชีวิตของคนผู้นั้นมากมายไม่อาจประมาณ
เราได้ให้ปณิธานไว้ว่าใครก็ตามที่เห็นรูปกายของเรา
เราจะช่วยให้คนผู้นั้นรอดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง”
ท่านเต้าหมิงได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกปิติปราโมทย์
ก้มกราบนมัสการด้วยความเคารพ
แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆท่านเพื่อจดจำรายละเอียดต่างๆ
ขณะนั้นเองท่านเต้าหมิงก็เหลือบไปเห็น
“ตี้ทิง”สัตว์ในตำนาน หมอบอยู่ใกล้ๆกับพระโพธิสัตว์
ท่านเต้าหมิงจึงถามพระองค์ว่า
“เจ้าตัวนี้คือตัวอะไรหรอครับ
เหตุใดมันถึงมาอยู่กับพระองค์ได้ ”
พระโพธิสัตว์ตอบมาว่า
“เจ้าตัวนี้คือสัตว์พาหนะของเราเอง
แต่เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่ามันคือตัวอะไร
รู้แค่ว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นนิรมาณกาย
ของมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ก็พอ
เรากับมัญชุศรีลงมาที่นรกภูมิอันมืดดำ
เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่สิ้นหวังด้วยกัน”
พระโพธิสัตว์กล่าวต่อว่า
ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องกลับโลกมนุษย์แล้ว
ขอให้นำสิ่งที่พบเจอไปบอกมนุษย์ทั้งหลายด้วย”
สิ้นเสียงพระโพธิสัตว์สัตว์ ท่านเต้าหมิงก็รู้สึกวูปไป
สักครู่ก็กลับฟื้นคืนชีพที่โลกมนุษย์อีกครั้ง
หลังจากเหตุการณ์นี้ท่านเค้าหมิงก็วาดรูปพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ตามที่ท่านเห็นและเผยแผ่พระเกียรติคุณ
ของพระองค์ให้ขจรขจายไปทั่ว
เพื่อที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจะได้รับการโปรด
ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
ธรรมะนิยายมหายาน โดย ฉ๋วนหลิน
#ค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง
#ฟังแต่สิ่งที่เป็นกุศล
#มองแต่สิ่งที่เป็นกุศล
#พูดแต่สิ่งที่เป็นกุศล
#ที่เหลือต่อไปก็คือความไม่มีภัย