ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ราคาน้ำมันสหรัฐกลายเป็นติดลบ... แต่บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐหายห่วง ! เพราะว่าทรัมป์ได้ทวีตออกมาสัญญาว่าจะช่วยอุ้มบริษัทน้ำมันไม่ให้ล้มละลาย !

    มาติดตามกันว่า #ทรัมป์จะสามารถช่วยตลาดน้ำมัน ไว้ได้อีกรอบหรือไม่ ?

    เมื่อเวลา 20.33น. ประธานาธิปดีทรัมป์ได้ทวีตออกมาว่า

    "We will never let the great U.S. Oil & Gas Industry down. I have instructed the Secretary of Energy and Secretary of the Treasury to formulate a plan which will make funds available so that these very important companies and jobs will be secured long into the future !"

    "เราจะไม่มีวันปล่อยให้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของ สหรัฐที่ยิ่งใหญ่นี้ล้มลงไปได้ ผมจึงได้สั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังจัดหาแผนเงินทุนช่วยเหลือแก่บริษัต่างๆและปกป้องงานที่สำคัญเหล่านี้ไว้ให้ได้ในอนาคต !"

    ทรัมป์ได้เคยช่วยตลาดน้ำมันไว้หลายรอบแล้ว

    หลังจากที่ได้เกิดสงครามราคาน้ำมันขึ้นเมื่อเดือนก่อน และหลายฝ่ายนั้นเชื่อว่าน้ำมันเชลล์ออยของสหรัฐจะเป็นผู้เสียหายที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูงที่สุดอยู่ที่เฉลี่ย 30-50 เหรียญต่อบาร์เรล

    ต่อมาไม่นานก็ได้เริ่มมีบริษัทขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐออกมาประกาศฟ้องล้มละลาย (Chapter 11) ทางทรัมป์ก็ได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝัน ทวีตออกมาขอให้ผู้นำทุกชาติโดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียและรัสเซียออกมาร่วมมือกันลดกำลังการผลิต !

    และมันก็ได้ผลจริงๆ ! เพราะทุกฝ่ายตกลงร่วมกันที่จะลดกำลังการผลิตกว่า 10-15 ล้านบาร์เรลต่อวันทั่วโลก มาจากทั้งฝ่ายโอเปก ประเทศพันธมิตร และประเทศในกลุ่ม G20 ด้วย กลายเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดน้ำมัน

    แต่ก็ได้ผลอยู่แค่ไม่นาน... สุดท้ายไวรัสโควิดนั้นก็ยังกัดกินการใช้น้ำมันในประเทศสหรัฐลงไปเรื่อยๆ... ประกอบกับรอบสัญญาซื้อขาย Future ที่กำลังสิ้นสุดสัญญาลง จนล่าสุดเมื่อคืนนี้ได้กดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI นั้นร่วงลงไปติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ! ตั้งคำถามให้หลายๆคนคิดว่าปล้วบริษัทขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐจะอยู่ได้อย่างไร

    วันนี้ทางทรัมป์จึงพยายามออกมาปกป้องตลาดน้ำมันอีกครั้งครับ อย่างน้อยก็ปกป้องตลาดภายในประเทศสหรัฐโดยการให้เงินอัดฉีดช่วยเหลือ

    จะมีการช่วยเหลืออย่างไร ?

    ที่แน่ๆนั้นทางรัฐบาลสหรัฐจะมีการให้เงินกู้แน่ๆ และอาจจะมีการช่วยมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดถังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของประเทศเพิ่มเป็นปริมาณ 75 ล้านบาร์เรล ให้ช่วยดึงน้ำมันจากผู้ผลิตในประเทศเก็บเข้าถังเพื่อบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาด

    และเรายังได้ยินข่าวลือมาว่าทางสหรัฐนั้นอาจจะมีการจ่ายเงินสดให้กับบริษัทน้ำมันที่พร้อมจะหยุดการผลิตเพื่อที่ว่าราคาตลาดโดยรวมนั้นจะได้ไม่ปรับตัวลดลงมามาก

    ทำไมคืนนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ถึงลงหนัก ?

    1️⃣ แรงเทขายทางเทคนิค - หลังจากราคา Brent หลุดแนวรับระดับต่ที่สุดของปีที่ 24 เหรียญในวันนี้ ทำให้มีแรงเทขายเข้ามามากเพราะใน 18 ปีที่ผ่านมาราคา Brent ไม่เคยเทรดอยู่ในระดับนี้มาก่อน ตลาดจึงไม่แน่ใจว่าแนวรับใหม่ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ไหน

    2️⃣ ตลาดกังวลว่าถังเก็บน้ำมันทั่วโลกจะล้นในเร็วๆนี้ และสัญญา Brent Jun'20 ที่กำลังจะ Expire อาทิตย์หน้านี้อาจเจอเหตุการณ์เหมือน WTI ที่ลงไปจนติดลบ

    3️⃣ มีรายงานว่า Floating Storage ทั่วโลกขึ้นสูงถึง 250 ล้านบาร์เรลแล้ว ทำให้ค่าขนส่งทางเรือแพงขึ้น เมื่อค่าขนส่งแพงขึ้นราคาน้ำมันดิบก็ต้องลดลงมา

    4️⃣ มีข่าวลือในตลาดว่าซาอุอาจจะเริ่มลดการผลิตช้าลงกว่าที่กำหนดไว้ด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกับข่าวที่เราได้รับจาก Wall Street Journal เมื่อคืนนี้

    ต้องมาติดตามดูครับว่า #ทรัมป์จะสามารถช่วยตลาดน้ำมันไว้ได้อีกรอบหรือไม่ เพราะทางที่จะช่วยผู้ผลิตน้ำมันในประเทศไว้ได้จริงๆนั้นคือการทำให้ราคาน้ำมันดีดขึ้นสูงอีกครั้ง เพื่อให้บริษัทต่างๆนั้นมีรายได้ ไม่ใช่การแค่แจกเงินอัดฉีดเพียงอย่างเดียว

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วนนน ⚠️ กลุ่มโอเปกอาจจัดประชุมพิเศษขึ้นอีกรอบในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อถกเรื่องการลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกรอบ !

    โดยหลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ติดลบ และวันนี้น้ำมันดิบ Brent ก็โดนเทขายอีก -20% ลงมาสู่ระดับต่ำกว่า 20 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

    ทางกลุ่มโอเปกจึงรู้สึกได้แล้วว่าการลดกำลังการผลิตเพียงเท่านี้อาจจะไม่พอที่จะรักษาระดับราคาน้ำมันไว้แน่ๆ ถังน้ำมันทั่วโลกอาจจะเต็มได้ จึงเตรียมเรียกประชุมครั้งใหญ่อีกรอบ

    แต่.... หากจะมีขึ้นอีกในอีก 3 สัปดาห์จะทันการหรือ ?!?!

    ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรระหว่างทางเลยอาจจะนานไปแน่ๆ แต่ทางซาอุและรัสเซียออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะลดกำลังการผลิตฉุกเฉินทุกเมื่อหากจำเป็น และทางกลุ่มรัฐมนตรีพลังงานของประเทศในโอเปกอาจจะมีการโทรปรึกษากันเรื่องตลาดในวันอังคารหน้านี้ (28 เมษายน) ก่อนในเบื้องต้น

    ทางด้านความเคลื่อนไหวของราคานั้น Brent ได้ดีดขึ้นไป 1 เหรียญเมื่อข่าวออกมาแต่ตอนนี้ก็ยังเกาะๆไม่ห่างจากแถว 20 เหรียญครับ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ตลาดน้ำมันเมื่อคืนที่ราคาติดลบนั้นว่าน่ากลัวแล้ว... แต่คืนนี้ยังน่ากลัวกว่า...

    WTI ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 21 พ.ค.) เทรดต่ำสุดติดลบ -60% ลงไปต่ำสุดที่ 6.5 เหรียญต่อบาร์เรล และปิดตลาดที่ประมาณ 11.5 เหรียญ ลบลงไป -8.7 เหรียญ (-40%)

    Brent ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 30 เม.ย.) เทรดต่ำสุดติดลบ -30% ลงไปต่ำสุดที่ 17.5 เหรียญต่อบาร์เรล และปิดตลาดที่ประมาณ 19.06 เหรียญ ลบลงไป -6.5 เหรียญ (-23%)

    โดยในคืนนี้นั้นทั้งราคา WTI ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 21 พ.ค.) และ Brent ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 30 เม.ย.) นั้นยังไม่ได้ใกล้หมดสัญญาเลยและสภาพคล่องยังสูงอยู่ แปลว่าผลกระทบของการลงของน้ำมันในวันนี้นั้นจะมีผลระทบต่อราคาน้ำมันในที่ต่างๆของโลกมากกว่าเมื่อวานนี้ (รวมถึงไทยด้วย)

    และสรุปได้ว่า #โลกกำลังกลัวการล้นของถังน้ำมันทั่วโลกอยู่จริงๆ

    เหตุผลที่ราคาน้ำมันดิบโดนเทขาย

    1️⃣ แรงเทขายทางเทคนิค - หลังจากราคา Brent หลุดแนวรับระดับต่ที่สุดของปีที่ 24 เหรียญในวันนี้ ทำให้มีแรงเทขายเข้ามามากเพราะใน 18 ปีที่ผ่านมาราคา Brent ไม่เคยเทรดอยู่ในระดับนี้มาก่อน ตลาดจึงไม่แน่ใจว่าแนวรับใหม่ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ไหน

    2️⃣ ตลาดกังวลว่าด้วยการใช้น้ำมันที่โดนกระทบโดยไวรัสทั่วโลกยังไม่กลับมาเป็นปกติ ถังเก็บน้ำมันทั่วโลกอาจจะล้นในเร็วๆนี้ โดยปริมาณถังทั่วโลกนั้นถึงจะตามดูได้ยาก แต่ในคืนวันพุธนี้ทาง EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐให้ได้เห็นกันและเราสามารถนำมาเป็นตัวเลขเปรียบเทียบได้

    3️⃣ มีรายงานว่า Floating Storage ทั่วโลกขึ้นสูงถึง 250 ล้านบาร์เรลแล้ว ทำให้ค่าขนส่งทางเรือแพงขึ้น เมื่อค่าขนส่งแพงขึ้นราคาน้ำมันดิบก็ต้องลดลงมาเพื่อที่ผู้ซื้อจะได้รับซื้อได้

    4️⃣ มีข่าวลือในตลาดว่าซาอุอาจจะเริ่มลดการผลิตช้าลงกว่าที่กำหนดไว้ด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกับข่าวที่เราได้รับจาก Wall Street Journal เมื่อคืนนี้ ที่กล่าวว่าทางซาอุอาจจะเร่งการลดกำลังการผลิต

    5️⃣ กลุ่มโอเปกอาจจัดประชุมพิเศษขึ้นอีกรอบในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อถกเรื่องการลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกรอบ แต่ตลาดอาจมองว่ายังอีกนานไปหน่อย และทางซาอุก็จะไม่เข้าร่วมการต่อสาย Conference Call ด่วนของกลุ่มรัฐมนตรีพลังงานจากประเทศในโอเปกในวันที่ 28 เมษายน นี้จึงทำให้ตลาดกังวลได้

    6️⃣ ทรัมป์ออกมาประกาศว่าอาจจะเปิดถังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของประเทศเพิ่มเป็นปริมาณ 75 ล้านบาร์เรล ให้ช่วยดึงน้ำมันจากผู้ผลิตในประเทศเก็บเข้าถังเพื่อบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาด และจะทำการช่วยอุ้มบริษัทน้ำมันในประเทศไม่ให้ล้มละลาย แต่ก็ยังไม่มีผลบวกต่อตลาด

    ถังน้ำมันล้นแล้วทำไมถึงไม่สร้างเพิ่ม ?

    มีหลายท่าน Inbox เข้ามาถามคำถามนี้นะครับ โดยตอบสั้นๆก็คือโดยปกติแล้วน้ำมันนั้นมี Convenience Yield หรือประโยชน์ในการเก็บไว้ในมือ ทำให้ราคาในปัจจุบันจะแพงกว่าอนาคตเป็นส่วนใหญ่ (Backwardation) ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บน้ำมันนั้นมีต้นทุนที่สูง และหากต้องการรักษามูลค่าของน้ำมันในถังโดยการป้องกันความเสี่ยงต่อราคาน้ำมันขาลง ก็ต้องทำการ Hedging และอาจทำให้เกิดการสูญเสียมูลค่าออกไปได้ทุกเดือนจากการ Roll สัญญา ทำให้ไม่มีใครอยากจะเก็บน้ำมันเกินความจำเป็นในยามปกติอยากจะเก็บให้น้อยที่สุด จึงไม่มีความต้องการสร้างถังเพิ่มเว้นแต่ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นถังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์

    แต่เนื่องจากสภาพตลาดตอนนี้ไม่ปกติ พอมีอุปทานสูงกว่าอุปสงค์เยอะก็ทำให้ราคาในปัจจุบันปรับตัวลงไปถูกกว่าอนาคต (Contango) ราคาต้องปรับรูปเป็นเช่นนี้เพื่อที่จะทำให้ผู้ซื้อมีแรงจูงใจเพียงพอในการเก็บน้ำมัน โดยความ Contango ของ Brent นั้นตอนนี้สูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี

    ใครอยากเข้าใจรายละเอียดคงต้องเข้าไปอ่านบทความ "พลังของเวลา" ที่แนบไว้ให้ในคอมเม้นท์นะครับ

    เพราะฉะนั้นหากถังน้ำมันมีแนวโน้มจะเต็มไปอีกนานก็อาจจะมี #การลงทุนในถังทั่วโลกเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ แต่วันนี้นั้นคงสร้างไม่ทันเก็บน้ำมันที่ล้นแล้ว...

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่วงนี้ป่วยอยู่น่ะครับนอนแล้วหัวหมุนตั้งใจว่าค่ำๆ จะไปหาหมอครับ
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทางสองแพร่งในชีวิต

    Infect Everyone : How Herd Immunity Could Work for Poor Countries

    • การปล่อยให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ 'เป็นการให้ประชาชนส่วนใหญ่ติดเชื้อแล้วหายเอง'...อาจเป็นวิธีรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เหมาะสมกับประเทศยากจน...และทำให้ผู้คนยากลำบากน้อยกว่าการใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด

    • นักระบาดวิทยาชาวอินเดียคนหนึ่งชี้ว่า 'ประเทศที่มีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคนอย่างอินเดียไม่สามารถใช้มาตรการปิดเมืองเป็นเวลานาน การปล่อยให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ไปถึงจุดหนึ่งอาจช่วยหยุดการระบาดได้...โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อกลุ่มผู้สูงอายุ'

    • คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในสหรัฐอเมริการ่วมกับศูนย์นโยบาย เศรษฐศาสตร์ และพลวัตรด้านโรคซึ่งเป็นกลุ่มสุขภาพในนิวเดลีและวอชิงตันระบุว่า 'อินเดียเป็นประเทศที่น่าจะใช้ยุทธศาสตร์นี้ได้ผล เพราะประชากรร้อยละ 93.5 อายุต่ำกว่า 65 ปี มีความเสี่ยงต่ำที่จะต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต'

    • การปล่อยให้ไวรัสโคโรนาระบาดอย่างมีการควบคุมในช่วง 7 เดือนข้างหน้า...จะทำให้ประชากรร้อยละ 60 เกิดภูมิต้านทานหมู่ เมื่อนั้นจะหยุดยั้งการระบาดได้ และอัตราการเสียชีวิตก็จะไม่มากเมื่อเทียบกับยุโรปบางประเทศ วิธีนี้เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนาที่ยากจน...เพราะไม่สามารถใช้มาตรการปิดเมืองและรักษาระยะห่างทางสังคมเหมือนประเทศพัฒนาแล้ว

    • อีกทั้งยังไม่มีชุดตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง จึงแนะนำให้ 'อินเดีย' ผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองที่รัฐบาลขยายไปถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 ให้คนอายุต่ำกว่า 60 ปีกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ 'แต่รักษาระยะห่างทางสังคมเท่าที่ทำได้ สวมหน้ากากอนามัย ห้ามการรวมตัวกลุ่มใหญ่' หาทางเพิ่มการตรวจหาเชื้อให้มาก แยกผู้ป่วยและผู้ต้องสงสัยป่วย

    • ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและพฤติกรรมสุขภาพทักท้วงว่า 'เป็นแนวคิดที่เสี่ยงเกินไป เพราะ 'อินเดีย' ยังไม่มีศักยภาพมากพอในการแยกผู้ป่วยและดูแลผู้ป่วยหนัก อาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากก่อนเกิดภูมิต้านทานหมู่'

    • อีกทั้ง 'อินเดีย' ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศและประชากรเป็น

    ❶ โรคอ้วน และ น้ำหนักตัวเกิน : Obesity and Overweight

    ❷ มีภาวะเป็นเบาหวาน : Diabetes Mellitus ทั้ง

    2.1 เบาหวานชนิด 1 : Diabetes Mellitus Type 1

    2.2 เบาหวานชนิด 2 : Diabetes Mellitus Type 2

    2.3 เบาหวานขณะตั้งครรภ์ : Gestational Diabetes Mellitus

    • ที่สูงมากแม้อายุน้อย ข้อมูลจาก 'สหพันธ์เบาหวานนานาชาติ' หรือ The International Diabetes Federation (IDF) เพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากขึ้น

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.bloomberg.com/news/arti...trategy-could-actually-work-in-youthful-india

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซื้อหวยทำไมไม่ถูกนะ ว่าแล้วฝรั่งมาแนวนี้จริงๆ
    FB_IMG_1587541929107.jpg
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Breaking News : ไทยติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดติดเชื้อสะสม 2,826 ราย

    โควิด 19 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ประจำวันที่ 22 เมษายน 2563

    รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมรวม 2,826 ราย รักษาหายแล้ว 2,352 ราย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสีนชีวิตสะสม 49 ราย

    The post Breaking News : ไทยติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดติดเชื้อสะสม 2,826 ราย appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อย่าดีใจที่ทุนสำรองยังคงสูงในขณะนี้ เพราะต้องรู้ที่มาที่ไปก่อนถึงจะเข้าใจ ได้มาจากค่าเงินที่แข็งค่า ซึ่งต้องแลกกับการส่งออกลดลง และอุตสาหกรรมบางอย่างย้ายฐานการผลิต

    1.การบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนของธปท. ในการชะลอการแข็งค่าของเงินบาท ธปท. จะเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์ และขายเงินบาท โดยดอลลาร์ที่ซื้อเข้ามาอยู่ในรูปของเงินสํารองฯ เงินสํารองฯ ก็จะเพิ่มขึ้น หากต้องการชะลอการอ่อนค่า ธปท.จะขายดอลลาร์ที่อยู่ในเงินสํารองฯเพื่อซื้อเงินบาทเงินสํารองฯ ก็จะลดลง ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเงินสํารองฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้ในปัจจุบันไทยมีเงินสํารองฯมากติด อันดับต้นๆของโลก สะท้อนว่าแบงก์ชาติได้มีการเข้าดูแลค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดด้วยการซื้อเงินดอลลาร์ต่อเนื่อง

    ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือระหว่างปี 2558-2562 เงินทุนสํารองฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งถือเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้จากการค้าขายสินค้าและบริการกับต่างประเทศ หากธปท.ไม่ได้มีการเข้าดูแลค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา เงินทุนสํารองฯ ก็จะไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทก็อาจจะแข็งกว่าระดับปัจจุบัน
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘อนุทิน’ สั่งการผ่านไลน์ ผู้บริหาร สธ. ทำแผนใช้งบเงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน แก้ปัญหาโควิด 19

    โควิด19 มีรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความลงใน กลุ่มไลน์ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ที่มี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการ โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขนิเทศก์ ทั้ง 12 เขต (ทั่วประเทศ) เกี่ยวกับการนำเสนอโครงการตามงบประมาณ เงินกู้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับจัดสรรมา เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินจำนวน 45,000 ล้านบาท โดยมีเนื้อหา ดังนี้

    เรียนพี่น้องผู้บริหารสธ.ทุกท่านครับ กระทรวงสาธารณสุขของเราจะต้องนำเสนอ งบประมาณในวงเงิน 45,000 ล้านบาท เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 จากนี้ไป งบประมาณนี้ได้รับการจัดสรรมาตามมติ ครม. ที่อนุมัติในที่ประชุมเมื่อวานนี้ เราควรต้องจัดการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งกระทรวงต้องการให้ผู้บริหารทุกท่าน มีส่วนร่วมและนำเสนอข้อแนะนำดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และความก้าวหน้าของกระทรวงสาธารณสุข

    ผมอยากเน้นให้ทุกท่านได้ใช้หลักการพิจารณา โดยคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจที่เสียหายไปและการช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชนในช่วงนี้ หากงบประมาณนี้ จะได้ถูกหมุนเวียนใช้เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเงินภายในประเทศได้มากที่สุด ก็จะเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือประชาชนในขณะเดียวกันด้วย พยายามใช้ของที่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศให้น้อยที่สุด อุดหนุนกิจการของคนไทยให้มากที่สุด

    กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นที่ศรัทธา และเชื่อมั่นของประชาชนอย่างล้นหลาม เราดูแลประชาชนในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องการสาธารณสุขเท่านั้น เยียวยาทุกอาการ ผมในฐานะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกระทรวงนี้ จึงขอให้ทุกท่านได้ร่วมกันคิดให้ละเอียดและนำเสนอมาตามสายงานบังคับบัญชาเพื่อนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด หากเป็นไปได้ จะขอเชิญประชุมร่วมภายในปลายสัปดาห์หน้าครับ เพื่อที่ท่านทั้งหลายจะได้มีเวลาเตรียมตัวให้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านเริ่มดำเนินการทันทีนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

    สำหรับแผนงานตามที่ ครม.อนุมัติดังกล่าว กำหนดไว้ ประกอบไปด้วย

    1.แผนงานหรือโครงการที่รองรับค่าใช้จ่าย ค่าเยียวยา ค่าชดเชย และค่าเสี่ยงภัย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการจัดหาผู้นำชาญการทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    2.เพื่อจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ยารักษาโรค วัคซีนป้องกันโรค และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์

    3.แผนงานหรือโครงการเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการบำบัดรักษา ป้องกัน ควบคุมโรค รวมทั้งการวิจัยพัฒนาทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อการฟื้นฟูด้านการสาธารณสุขของประเทศ

    4.แผนงานหรือโครงการเพื่อการเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการกักตัวผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

    5.แผนงานหรือโครงการด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

    The post ‘อนุทิน’ สั่งการผ่านไลน์ ผู้บริหาร สธ. ทำแผนใช้งบเงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน แก้ปัญหาโควิด 19 appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    21 เมษายน 2020 Magnetopause ทันใดนั้น
    April 21, 2020. Magnetopause. Suddenly.
    FB_IMG_1587542315894.jpg FB_IMG_1587542319387.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พิษโควิด-19 ลามถึงพระเณรลำบาก กระทบวัดเล็กๆ ไร้คนทำบุญไม่มีกิจนิมนต์
    พิษโควิด-19 เบียดเบียนพระเณร วัดเล็กๆ ใน อ.พาน จ.เชียงราย จนเดือดร้อนหลังชาวบ้านลำบาก ยากจนไม่มาทำบุญ ไม่มีกิจนิมนต์ให้กับพระสงฆ์ ล่าสุด เจ้าคณะอำเภอพาน เร่งมอบปัจจัยเยียวยาเบื้องต้น
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  12. jutikidecha

    jutikidecha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +52
    อากาศมันเปลี่ยนและค่อนข้างร้อน. รักษาสุขภาพน๊ะครับ
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขอบคุณครับ วันอาทิตย์เกือบแย่น่ะครับตื่นขึ้นมาบ้านหมุน แต่พอลุกรู้ตัวว่าถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างแย่แน่ เลยรีบหาที่ขูดกัวซาแผ่นเขาจามรีมาขูดหลังคอ และรูดไม่หยุดน่าจะช้ำๆเพราะแม่ก็เส้นเลือดสมองแตกมาก่อน เลยศึกษาษามาพอสมควร แต่วันอาทิตย์ และวันจันทร์ก็ดีขึ้น แต่ตื่นมาวันอังคารก็พยายามฝืนไปทำงาน แต่ทำไม่ไหวเพราะตาจะหลับตลอด วันนี้เลยหยุดหลับตลอด เย็นนี้ก็เลยไปหาหมอมาแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [ที่ต้องพัฒนากันหลายๆประเทศ หลายๆทาง เพราะเชื่อกันว่าการพัฒนาวัคซีนเพื่อรักษาไวรัสตัวนี้อาจจะทำไม่สำเร็จ มีหลายๆประเทศมาร่วมกันพัฒนา อาจจะมีบางประเทศทำสำเร็จก็ได้]

    "อนุทิน" ขีดเส้น 3 เดือน แผนพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ต้องชัด ย้ำ ขอเข้าถึงก่อน
    "อนุทิน" รมว.สธ. ขีดเส้น แผนพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ต้องชัดเจนใน 3 เดือน เผย ไทยคุมโรคได้ดี รักษาได้ แต่ยังขาดแค่วัคซีน เห็นชอบ ร่วมต่างประเทศพัฒนาวัคซีน ย้ำ ต้องไม่เสียเปรียบเข้าถึงวัคซีนหลัง
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เป็นกำลังใจให้สองคุณหมอเยอะๆเลยครับ
    .
    1/ เป็นข่าวที่กำลังอยู่ในกระแส เมื่อสื่อทั่วโลกรายงาน แพทย์จีน 2 ท่าน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ารับการรักษาจนสีผิวเปลี่ยนไป เพราะผลข้างเคียงจากยา
    .
    2/ นายแพทย์ทั้งสองคือ หมออี้ ฝาน และหมอหู เหว่ยเฟิง ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้ออย่างใกล้ชิด ที่โรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น
    .
    3/ แต่หมอจีนทั้งสองกลับติดเชื้อและได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จริงเมื่อวันที่ 18 มกราคม หมอทั้งสองเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลปอดอู่ฮั่น
    .
    4/ หมออี้ (คนซ้ายในรูป) เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ ไวรัสทำให้การทำงานของหัวใจและปอดผิดปกติ จนเข้าสู่ภาวะวิกฤต จึงได้รับการรักษาโดยใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด ที่เรียกว่า ECMO
    .
    5/ ECMO จะให้เข้าไปแทนที่การทำงานของหัวใจและปอด ด้วยการสูบฉีดออกซิเจนเข้าสู่เลือด เพื่อให้ร่างกายค่อยๆฟื้นคืนกลับมา หมออี้มีอาการดีขึ้นในระยะเวลา 39 วัน
    .
    6/ ส่วนหมอหู (คนขวาในรูป) นั้น มีอาการรุนแรงในระบบทางเดินปัสสาวะ ได้รับการรักษาเป็นเวลา 99 วัน จนอาการดีขึ้น
    .
    7/ หมอหลี่ ซูเซิง หมอผู้ดูแลหมออี้และหมอหูบอกว่า ทำการรักษาหมอทั้งสองอย่างเต็มที่ เพื่อประคองและรักษาชีวิต แต่การที่สีผิวของหมอทั้งสองเปลี่ยนไปจากผิวขาวเหลืองเป็นดำคล้ำ เป็นผลข้างเคียงจากตับและยา
    .
    8/ การที่ตับได้รับความเสียหายจากไวรัสและยังไม่ฟื้นคืนปกติ ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน ผิวสีจึงเปลี่ยนไป
    .
    9/ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้สีผิวของหมอทั้งสองเปลี่ยนไปคือ ในช่วงแรกของการรักษา หมอทั้งสองได้รับยาขนานหนึ่ง ซึ่งผลข้างเคียงของยานั้นคือ ทำให้สีผิวคล้ำ
    .
    10/ หมอหลี่ยืนยันว่า สีผิวของหมอทั้งสองจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อตับกลับมาทำงานอย่างสมบูรณ์
    .
    11/ หมออี้และหมอหูเคยทำงานร่วมกับหมอหลี่ เหวินเหลียง หมออู่ฮั่นท่านแรกที่เตือนการระบาดของโรค แต่กลับถูกตำรวจอู่ฮั่นสอบสวนและกล่าวหาว่าปล่อยข่าวลือ
    .
    12/ หมอหลี่ เหวินเหลียงนั้น รักษาผู้ป่วยจนตัวเองติดเชื้อและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ต่อมาในวันที่ 4 เมษายน วันไว้ทุกข์แห่งชาติของจีน มีพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศ หมอหลี่ เหวินเหลียงได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นวีรบุรุษแห่งมาตุภูมิ
    .
    **เรื่องนี้เตือนใจให้รู้ว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้เกี่ยวกับการรักษาและต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 / China Report ASEAN – Thailand ขอส่งกำลังใจให้คุณหมอทั้งสองมากๆเลยครับ ขอให้คุณหมอฮีโร่ทั้งสองแข็งแรงไวๆ เอาชนะไวรัสร้ายให้ได้ครับ สู้ๆ**
    .
    ที่มา: Chinese doctors’ skin turns dark after coronavirus recovery
    https://nypost.com/2020/04/21/chinese-doctors-skin-turns-dark-after-coronavirus-recovery/
    https://www.standard.co.uk/news/wor...ur-change-coronavirus-treatment-a4420071.html
    .

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปี 2020 | ปีสุดท้าย สุดท้าทาย ท่ามกลางวิกฤตโควิด กับภารกิจ 'ขจัดความยากจน'
    .
    1/ อังคารที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ลงพื้นที่มณฑลส่านซี เยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่
    .
    2/ สี จิ้นผิง ให้ความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนยังคงยืนยันเป้าหมายการขจัดความยากจนให้เป็นไปตามแผนคือ ขจัดความยากจนให้หมดไปจากประเทศภายในสิ้นปีนี้ แม้จีนจะยังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ก็ตาม
    .
    3/ ยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนของรัฐบาลจีนเริ่มขึ้นเมื่อปี 2559 รัฐบาลจีนมีหน้าที่นำพลเมืองจีนในพื้นที่ห่างไกลหลายสิบล้านคน ให้หลุดพ้นจากสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี (พ.ศ.2559 - 2563)
    .
    4/ วีดิโอที่นำมาให้ได้ชมนี้ เป็นหนึ่งในวิธีของรัฐบาลจีนที่ส่งเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล ช่วยเหลือพี่น้องชาวจีนให้หลุดพ้นความยากจน
    .
    5/ การแก้ไขความยากจนของรัฐบาลจีนนั้น ประสบความสำเร็จเห็นชัดเป็นรูปธรรม / พฤศจิกายนปีที่แล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ยืนยันการส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยไปยังประเทศจีน เพื่อเรียนรู้แนวทางการต่อสู้กับความยากจน
    .
    6/ ทำไมถึงส่งไปจีน? เพราะจีนเป็นประเทศที่ลดความยากจนของประชาชนได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เรื่องนี้ยืนยันโดยสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
    .
    7/ ยูเอ็นบอกว่า เป้าหมายหนึ่งของภารกิจของยูเอ็นคือ ลดความยากจนในโลกให้ได้ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้บรรลุเป้าหมายแล้ว เพราะจำนวนคนยากจนทั่วโลกที่เคยมีอยู่ 1.9 พันล้านคนในปี 1990 ลดลงมาเหลือ 836 ล้านคนในปี 2015
    .
    8/ จำนวนคนยากจนในประเทศต่างๆที่ลดลงไปนั้น เกินครึ่งเป็นประชากรจีน ทำให้จีนกลายเป็นประเทศผู้มีส่วนร่วมลดความยาดจนของโลกรายใหญ่
    .
    9/ เมื่อมีข้อมูลยืนยัน จึงมีคำถามว่า จีนทำได้ยังไง? การต่อสู้กับความยากจนเป็นความสำเร็จของจีนที่โดดเด่นมาก ตอนที่จีนประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะขจัดความยากจนให้หมดไปจากประเทศภายในปี 2020 คนจีนเองและหลายๆคนทั่วโลกมองว่า เป็นความคิดที่เฟ้อฝัน แต่มาถึงวันนี้ จีนทำได้แล้ว
    .
    10/ จีนมีความตั้งใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ‘การบรรเทาความยากจนต้องก้าวหน้า สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ’
    .
    11/ ดังนั้นนอกจากนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตปีละ 10% ร่วม 30 ปี ทำให้ชาวจีนมีรายได้ต่อคนเพิ่ม 20 เท่าตัวแล้ว รัฐบาลจีนยังใช้นโยบาย ‘ส่งเจ้าหน้าที่รัฐ’ เข้าไปในพื้นที่ชนบทที่มีแต่ความยากจนข้นแค้น เพื่อพลิกฟื้นผืนดิน สร้างงาน สร้างรายได้ จากดินแดนที่ไร้ความหวัง ให้กลับกลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความหวัง ดั่งที่ปรากฏเรื่องราวในวีดิโอชุดนี้
    .
    12/ ‘การเพิ่มเงินทุน’ เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจน
    .
    13/ รัฐบาลจีนไม่ได้ใช้วิธี ‘แจกเงิน’ นะครับ แต่มอบเงินพิเศษเข้ากองทุนบรรเทาความยากจนเกือบ 1 ล้านล้านบาท เพื่อทำทุกวิถีทางให้ชาวจีนพ้นความยากจน ทั้งสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะในชนบท สร้างสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ดี ให้พื้นที่ยากจนมีการเติบโตที่รวดเร็ว
    .
    14/ ทุกวันที่ 17 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันบรรเทาความยากจนแห่งชาติ (National Poverty Relief Day) ของจีน นอกจากจะมีการแถลงถึงนโยบายแก้ปัญหาความยากจนแล้ว ‘ตัวเลขจำนวนชาวจีนที่ยังยากจน’ เป็นข้อมูลที่ทุกคนรอฟัง
    .
    15/ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนบอกว่า ชาวจีนที่มีความเป็นอยู่ยากจน ลดลงจาก 770 ล้านคนในปี 1978 เหลือ 55.75 ล้านคนเมื่อสิ้นปี 2015 และเหลือเพียง 16.6 ล้านคนเมื่อสิ้นปี 2018
    .
    16/ แต่ภารกิจ ‘ขจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020’ ของจีนท้าทายมาก ถ้านับเดือนนี้ด้วย เหลือเวลาอีกเพียง 8 เดือนเท่านั้นก็จะหมดปี 2020 แต่จากผลงานที่ผ่านมา ด้วยวิธีของจีนที่แก้จนอย่างจริงจังและจริงใจ จีนต้องทำได้
    .
    17/ จีนยินดีแบ่งปันประสบการณ์การลดความยากจนกับประเทศต่างๆ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลไทยจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปเรียนรู้แนวทางการต่อสู้กับความยากจน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังประเทศจีน
    .
    18/ เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยจะได้ศึกษาต้นแบบการแก้ปัญหาความยากจนของจีน เพื่อนำมาปรับใช้กับกลุ่มประชาชนที่ยากจนในไทย ประเทศที่มีประชากร 67 ล้านคน แต่ส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
    .

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ...ทรัมป์ในศึกโควิด-19...

    ถึงวันนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกเกินกว่า 2,500,000 คนแล้ว เกือบ 1 ใน 3 อยู่ในอเมริกาด้วยจำนวนกว่า 825,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 45,000 ราย (จากทั้งโลก 177,000 ราย)

    สถานการณ์ในอเมริกาหนักหนาสาหัสที่สุดในโลก

    สาเหตุสำคัญคือประธานาธิบดีทรัมป์

    จากผู้ติดเชื้อคนแรก 20 มกราคม จนทะลุหลักพัน 11 มีนาคม ทรัมป์บอกว่าจัดการได้ พอถึง 19 มีนาคม ทะลุหลักหมื่น ทรัมป์ชักไม่ไหวแล้ว หันไปโทษจีนและ WHO

    ยิ่งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยิ่งมาก ทรัมป์ยิ่ง "โยนบาป" ไปให้จีนและฮู จนถึงขั้นตัดเงินสนับสนุนฮู 400 ล้านดอลลาร์

    ทุกคนมองออกว่า โควิดกำลังทำให้ทรัมป์ล้มละลายทางการเมือง ความหวังจะเป็นปธน.สมัยที่ 2 หริหรี่ลงทุกที เขาจึงต้องหา "แพะรับบาป" โดยเร็วที่สุด

    ถ้าทรัมป์จัดการตั้งแต่ต้นมือ ไม่ห่วงเศรษฐกิจมากไป
    สถานการณ์จะไม่เลวร้ายมากขนาดนี้

    ดวงชะตาทรัมป์บอกอะไร ?

    โดนัลด์ ทรัมป์เกิด 14 มิถุนายน ค.ศ. 1946 เวลา 10:54 น. ที่นิวยอร์ค

    ลัคนาอยู่ที่ 6:52 องศาสิงห์ สิงห์คือราศีแห่ง Self-center อังคารที่กุมลัคน์และอาทิตย์-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ในพฤษภ-ภพ 10 ทำให้ทรัมป์เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการตัดสินและกระทำการต่าง ๆ

    อาทิตย์กุมราหู-มฤตยูสนิท เกิดเป็น “มฤตยูดับ (ร่วมคราส)”
    เพราะเขาเกิดก่อนจันทรคราสเพียง 4 ชั่วโมง

    มฤตยูคือแปลก วิตถาร นอกกรอบ เหนือคาดหมาย ฯลฯ ทรัมป์เป็นคนทำอะไรแปลก ๆ ไม่อยู่กับร่องกับรอย เพี้ยน ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอาแต่ใจตัวเองสุดโต่ง ไม่แคร์ผู้คนและสังคม

    พุธเมถุน 90 เนปจูนกันย์ ชอบเพ้อฝันและคิดเอาเอง (แต่หัวไว เจรจาต่อรองเก่ง)

    เสาร์กรกฎในภพ 12 รวมกับอาทิตย์ราหูในภพ 10 บอกถึงแรงกดดันมหาศาลและปมในอดีตจากพ่อ

    พฤหัสกันย์ในภพ 2 ไม่เข้มแข็งและไม่ถึงลัคน์จันทร์ พฤหัสคือจิตใจที่เปิดกว้าง เมตตา คุณธรรม ฯลฯ เขาเอาแต่ตัวเอง แล้งน้ำใจ ไม่คิดถึงคนอื่น และทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด

    จุดอ่อนสำคัญคือ ศุกร์-ดาวเจ้าเรือนภพ 10 กุมเสาร์-ดาวเจ้าเรือนภพ 6 ในกรกฎ-ภพ 12 (วินาศ)

    ชี้ถึงศัตรูลับที่ร้ายกาจเข้ามาบ่อนทำลายการงานและขัดขวางความสำเร็จ หรือเขาทำการลับ ๆ ล่อ ๆ เอง จนกลายเป็นปัญหา (เช่น กรณียูเครน จนถูก Impeachment)

    ผู้ติดเชื้อรายแรกกลับถึงอเมริกา 15 มกราคม เรารู้ว่า เกิดจันทรคราสที่ 25:52 องศาเมถุนในวันที่ 11 (เวลาอเมริกา) เหตุการณ์จึงอยู่ภายในหน้า 7 หลัง 7 วันของคราส

    จันทรคราสนี้ 90 พฤหัสเดิมสนิท กระตุ้นความห่วงกังวลเรื่องเงินทองเศรษฐกิจ (ทรัมป์เซ็นลงนามข้อตกลงสงบศึกทางการค้ากับจีน 15 มกราคม)

    ภพ 2 หมายถึง Sense of Value อันเป็นเรื่องค่านิยม พฤหัสประในภพ 2 บอกถึงความโลภ-ไร้น้ำใจ จันทรคราสทำให้ทรัมป์หมกมุ่นกับเศรษฐกิจ (และผลงานของตน) จนไม่สนใจโควิดที่เริ่มระบาด

    เสาร์เข้ามังกร 24 มกราคม เล็ง 180 ศุกร์เสาร์เดิม ชี้ถึงปัญหาหนักจาก "ศัตรูลับ" ซึ่งหมายถึงไวรัสที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอย่างโคโรนา

    วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พลูโตยกเข้ามังกร-ร่วมเล็งศุกร์เสาร์อีกดวง สถานการณ์มีแต่หนักขึ้น

    วันที่ 22 มีนาคม อังคารยกเข้ามังกร-ร่วมเสาร์พลูโต ทรัมป์เดินหน้าเต็มที่ในการหาใครสักคนมาเป็น "แพะรับบาป" ซึ่งก็คือจีนและ WHO

    วันที่ 30 มีนาคม พฤหัสเข้ามังกร-เป็นนิจจ์ซ้ำอีกดวง ทรัมป์ยิ่งสูญเสียสติสัมปชัญญะ ทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด ถึงขั้นกล่าวหาว่า ไวรัสโคโรนาหลุดจากแล็ปจีน และ WHO ผิดพลาดในการให้คำแนะนำแก่อเมริกา

    สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ?

    วันที่ 11, 14, และ 25 พฤษภาคม เสาร์-พฤหัส-พลูโตจะวิกลคติพักร (หยุดนิ่งเพื่อถอยหลัง) เล็งศุกร์เสาร์เดิม ปัญหาจะหนักหน่วงร้ายแรงยิ่งขึ้น

    วันที่ 13 พฤษภาคม ศุกร์-ดาวเจ้าเรือนภพ 10 วิกลคติพักรในพฤษภ ทรัมป์จะแก้ปัญหาอย่างสะเปะสะปะ-ตามใจฉัน จนสถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม (เช่น ยุให้ประชาชนต่อต้านการ Lock Down)

    สรุปคือ จากวันนี้ถึง 30 มิถุนายนที่พฤหัสพลูโตถอยกลับธนู สถานการณ์โควิด-19 ในอเมริกาจะเลวร้ายลง

    ทรัมป์จะงุนงง-แก้ปัญหาผิดทิศผิดทาง จนถึง 29 กันยายน ที่เสาร์วิกลคติเสริด (หยุดนิ่งเพื่อเดินหน้า) ในภพ 6 (ปัญหาอุปสรรค)

    ที่น่าสนใจคือ เมื่อดูจากดวงทรัมป์ สรุปว่าโควิด-19 ในอเมริกาจะย่ำแย่หนัก 30 มีนาคม - 30 มิถุนายน ตรงกับที่ธนูเกณฑร์ทำนายไว้ในบทความ "วิกฤติไวรัสถล่มโลก" ในนสพ.กรุงเทพธุรกิจ 3 มีนาคม

    (https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/649610)

    ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับทรัมป์ อเมริกา และโควิด ซึ่งจะอธิบายขยายความต่อไปครับ

    ธนูเกณฑร์ (22/4/2020)

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ...การวางฤกษ์ดวงเมือง...

    วันนี้เป็นวันคล้ายวันสถาปนาองค์พระหลักเมือง ครบรอบ 238 ปี กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดวงเมืองไทยอายุครบ 238 ปี

    เรื่องราวเกี่ยวกับดวงเมืองไทยยังเป็นที่สนใจของผู้คนเสมอ

    ธนูเกณฑร์เคยค้นคว้าและเขียนบทความเกี่ยวกับดวงเมืองไว้นานแล้วเมื่อ 10 เมษายน 2558

    เนื้อหายังคงทันสมัยอยู่เสมอ ดังนี้

    "...การทำนายอนาคตคือหน้าที่หลักของทุกศาสตร์พยากรณ์

    แต่มีอีกหน้าที่หนึ่งซึ่งยากขึ้นไปอีกและมีเฉพาะโหราศาสตร์เท่านั้น นั่นคือการวางฤกษ์

    การวางฤกษ์ (Electional Astrology) คือการคำนวณหา “เวลา” ที่ดีที่สุดสำหรับ "เริ่มต้น" กิจการต่าง ๆ เช่น เปิดร้านค้า ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ฯลฯ

    แต่ละฤกษ์ย่อมมีความหมายในตัวเอง ดังนั้น จะวางฤกษ์ได้ ต้องอ่านและทำนายดวงให้แตกเสียก่อน จึงถือกันว่า การวางฤกษ์นั้นยากและสูงกว่าการทำนายอีกขั้น

    ไม่เพียงเท่านี้ การวางฤกษ์ยังมีกฎเกณฑ์ ข้อห้าม ข้อบังคับอีกมากมาย

    ด้วยเหตุนี้ การวางฤกษ์ไม่เพียงเป็น “ศาสตร์” แต่ยังเป็น “ศิลปะ” อีกด้วย

    คนจำนวนมากไม่เข้าใจเหตุผลของฤกษ์ ซ้ำยังยกพุทธพจน์ “สุนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํ”

    ที่แปลว่า “สัตว์ทั้งหลาย ประพฤติสุจริตเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็นฤกษ์ดีมงคลดี” ขึ้นมากล่าวอ้างอีกด้วย

    อันที่จริง เรื่องฤกษ์ไม่ได้ขัดกับพุทธพจน์

    ทำดีเวลาใด เวลานั้นคือฤกษ์ดี ข้อนี้ถูกต้องที่สุด ทำดีไม่ต้องรอฤกษ์

    แต่ถ้าทำเรื่องกลาง ๆ เช่น เปิดร้านค้า แต่งงาน ฯลฯ หาเวลาดี-ฤกษ์ดีที่เหมาะสม จะดีกว่าไหม

    มนุษย์ที่อยู่ในโลกีย์วิสัย ย่อมต้องดิ้นรนเลี้ยงชีพ จึงต้องการความสะดวกราบรื่นและความสำเร็จในชีวิต นี่คือเหตุผลธรรมดา

    การวางฤกษ์ช่วยได้ในประเด็นนี้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลงมงายแต่อย่างใด

    ฤกษ์เป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานาน ฤกษ์สำคัญที่สุดของประเทศไทยคือดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ หรือ “ดวงเมืองไทย” นั่นเอง

    ในปูมโหรโบราณบันทึกไว้ เป็นวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช 1144 เวลารุ่งแล้วเก้าบาท

    ซึ่งตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เวลา 6:54 น.

    ดวงพระฤกษ์นี้เมื่อเฉลิมเป็นรูปดวงชะตาแล้ว ได้ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ-ร่วมด้วยอาทิตย์ อังคารพฤษภ จันทร์กรกฎ พฤหัส-เสาร์อยู่ธนู พุธ-ศุกร์-ราหูอยู่มีน (มฤตยูเมถุน เนปจูนกันย์ พลูโตมังกร)

    เมื่อวิเคราะห์ดวงเมืองไทยแล้ว เราพบว่า โหราศาสตร์ไทยยุคนั้นได้รับอิทธิพลโหราศาสตร์ภารตะอย่างชัดเจน

    มีหลายจุดที่บ่งชี้ เช่น จันทร์ในนักษัตรฤกษ์ที่ 8 (ปุษยะ) อันเป็น “ราชาฤกษ์” โดยมีพระพฤหัสบดีเป็นเทพผู้ครองฤกษ์ รวมถึงพฤหัส-เสาร์ที่กุมกันในราศีธนู ฯลฯ

    ดวงเมืองไทยมีบันทึกในปูมโหร จึงปราศจากข้อโต้แย้งใด

    แต่จุดที่น่าสงสัยคือ ใครคือผู้กำหนดดวงพระฤกษ์ดังกล่าว ?

    คำถามนี้กลับไม่พบคำตอบที่กระจ่างชัดเจน

    มีผู้ให้คำตอบหลายทาง ได้แก่ (1) รัชกาลที่ 1 (2) รัชกาลที่ 1 ร่วมกับคณะโหราจารย์ (3) หมู่พราหมณ์โหราจารย์ ซึ่งมีเค้าเงื่อนด้วยกันทั้งสิ้น

    คำตอบล่าสุดที่ (ธนูเกณฑร์) ได้พบคือ พระยาตักกะโตโหร

    ผู้เป็นพราหมณ์ที่สืบตระกูลจากพระมหาราชครูรามินทร์ ซึ่งเป็นพราหมณ์พฤฒิบาศในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ และต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็น เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช

    (จากหนังสือ “พลิกประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ 10 ยุค” ของอ.ปรเมศวร์ วัชรปาณ)

    นี่คือแนวทางให้ค้นคว้ากันต่อไป

    ยังมีอีกคำถามที่คนสงสัยคือ กรณีรัชกาลที่ 4 ประดิษฐ์ฐานเสาหลักเมืองใหม่ ในวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือนอ้าย จ.ศ. 1214 ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม 2395 เวลา 8:48 น. และกรณีเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง

    ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้เปลี่ยนแปลงอิทธิพลดวงเมืองเดิมหรือไม่ ?

    ใน 3 ดวงนี้ เราควรเลือกใช้ดวงเมืองใด ?

    คำตอบคือดวงเมืองเดิม

    เพราะดวงเมืองแรกสุดเปรียบได้ดั่งโครงสร้าง-สถาปัตยกรรมหลักของบ้าน

    การเปลี่ยนแปลงที่ตามมาเป็นเสมือนการปรับปรุง-ต่อเติมเท่านั้น และสถิติการพยากรณ์ที่ผ่านมา ก็สนับสนุนยืนยันคำตอบนี้

    เรายังสามารถใช้ดวงเมืองเดิมได้ (อย่างมั่นใจ) ต่อไป

    การวางฤกษ์ดวงเมืองมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ราชวงศ์-อาณาจักรมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง ความเชื่อนี้ไม่ได้ปรากฏเฉพาะเมืองไทย

    ในประวัติศาสตร์โลก มีการบันทึกเหตุการณ์สร้างบ้านแปลงเมือง-สถาปนาอาณาจักรหลายครั้ง

    ครั้งสำคัญที่สุดเกิดขึ้นในราชวงศ์ "อับบาสิยะฮ์" แห่งอาณาจักรอิสลาม

    ปีค.ศ. 750 หลังจากราชวงศ์อุมัยยะฮ์ (Umayyads) ถูกโค่นล้ม ราชวงศ์อับบาสิยะฮ์ (Abbasid) ขึ้นปกครองอาณาจักรอิสลามแทน

    กาหลิบ อัล-มานเซอร์ (Caliph Al-Mansur) ได้พบชัยภูมิที่โดดเด่นบริเวณลุ่มแม่น้ำไทกริส จึงโปรดให้ย้ายเมืองหลวงจากดามัสกัส (เมืองชาม) ในซีเรีย มาตั้งใหม่ที่นี่ที่ชื่อว่า “แบกแดด” ในอิรักในปีค.ศ. 762

    การตั้งเมืองหลวงใหม่ที่แบกแดดมีเหตุผลหลายประการ

    ที่สำคัญสุดคือใกล้กับเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียเดิม ที่ครอบครองดินแดนกว้างใหญ่และรุ่งเรืองด้วยวิทยาการทั้งปวง

    พระองค์ต้องการให้อาณาจักรเจริญรุ่งเรือง สืบทอดความยิ่งใหญ่ของเปอร์เซีย เพื่อให้สมดั่งประสงค์ จึงต้องมีการวางฤกษ์ดวงเมือง

    ในหนังสือ The Chronology of Ancient Kingdoms ของ "อัล-บีรูนี" โหราจารย์ชาวอาหรับช่วงศตวรรษที่ 11 ได้บันทึกดวงเมืองแบกแดดเอาไว้

    กาหลิบมอบหมายให้โหรหลวง "นาว์บาคห์" เป็นผู้วางฤกษ์ และด้วยความช่วยเหลือจาก "มัสซา อัลล่าห์" กับโหราจารย์หลายท่าน

    กำหนดฤกษ์ได้เป็นช่วงบ่ายต้น ๆ ของ 4 Jumada I A.H. 145 หรือวันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 762 (ปฏิทินจูเลี่ยน)

    ดวงเมืองแบกแดดมีลัคนาอยู่ราศีธนู

    พฤหัสกุมลัคน์สนิท พฤหัสเป็นดาวเจ้าเรือนลัคน์และภพ 4 ทำให้อาณาจักรเข้มแข็งมั่นคง อาทิตย์สิงห์ตรีโกณ 120 กับลัคน์-พฤหัสสนิท

    แบกแดดกลายเป็นศูนย์กลางการปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกยุคนั้น เคียงคู่กับอาณาจักรไบแซนไทน์ (โรมันตะวันออก) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นครคอนสแตนตินโนเปิล

    พฤหัสหมายถึงความมั่งคั่งและวิทยาการ แบกแดดยังเป็นศูนย์รวมวิทยาการและความมั่งคั่งร่ำรวย

    ยุคราชวงศ์อับบาสิยะฮ์ถือเป็น “ยุคทองของอิสลาม (Islamic Golden Age)” เลยทีเดียว

    มีหลายจุดที่น่าสงสัยในดวงฤกษ์แบกแดด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะแนวทางของวิชาอาจแตกต่างกัน หรือมีเคล็ดลับที่ปกปิดซ่อนเร้น

    แต่ที่แปลกที่สุดคือ อังคารเมถุนเล็งลัคน์สนิทในภพที่ 7

    นั่นหมายถึงศัตรู (ที่เปิดเผย) และสงครามที่เลี่ยงไม่ได้ เหตุใดโหราจารย์ท่านจึงวางฤกษ์เช่นนี้ ?

    คำตอบอยู่ที่ “สถานการณ์” ของยุคสมัย

    ในยุคนั้น การแก่งแย่งช่วงชิงดินแดนและสงคราม ถือเป็นเรื่องปกติ มันเป็นไปไม่ได้ที่อาณาจักรจะสงบสุขอย่างสมบูรณ์

    ในเมื่อจังหวะดาวไม่มีดีกว่านี้ ก็จำต้องวางไว้ในตำแหน่งนี้ แต่ก็วางพฤหัสให้เข้มแข็งมาก เพื่อคุ้มครองป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

    แบกแดดผ่านช่วงเวลาที่รุ่งเรืองและร่วงโรย แต่ก็ประคองตัวรอดมาได้เกือบ 500 ปี จนสุดท้ายถูกกองทัพมองโกลบุกตีและเผาทำลายในปีค.ศ. 1258

    นี่คืออานุภาพแห่งดวงฤกษ์-ชะตาเมือง

    โหราศาสตร์เป็นมรดกทางปัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ
    ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ลึกซึ้ง ย่อมตระหนักถึงความจริงข้อนี้..."

    บันทึกเพื่อประโยชน์แก่ผู้เรียน / ผู้สนใจทุกท่านครับ

    ธนูเกณฑร์ (21/4/2020)

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #พลูโตวิกลคติพักร #มฤตยูดับ
    14.4.63 ในระยะ 23 – 24 วันนี้ (ทั่วโลก) มักเกิดภัยธรรมชาติ (แผ่นดินไหว) อัคคีภัย และอุบัติเหตุใหญ่ ทั้งมักมีเหตุยุ่งยากในตลาดหุ้น ตลาดการเงิน และการลงทุนต่างๆ / 26.4.63 พลูโตวิกลคติพักร เวลา 1.54 น. มฤตยูดับ เวลา 16.01 น. / จากปฏิทินโหรฯประจำปี 63 แบบไดอารี่ ตามแนวท่านอ.เทพย์ สาริกบุตร

    #ดาวพลูโตจร ที่โคจร ณ ราศีมังกร 0 องศา 51 ลิปดา วิกลคติพักร เพื่อเดินถอยหลัง / และในช่วง 20 เมย. – 1 พค. #ดาวมฤตยูจร ที่โคจรเข้ากุม (0 องศา – มุมร้าย) กับอาทิตย์จร ณ ราศีเมษ 12 องศา 27 ลิปดา เกิด “มฤตยูดับ” #ผู้ที่ในพื้นดวงชาตา มีดาวเคราะห์ ราหูสารัมภ์ ลัคนา หรือจุดศูนย์กลางเรือนต่างๆ อยู่ในขอบข่าย องศา – ลิปดา ดังกล่าว (+ / - 3 องศา 20 ลิปดา) ณ ราศีมังกร และกรกฎ 0 องศา 51 ลิปดา (พลูโตพักร) ควรรอบคอบเอาไว้ด้วย / และ ณ ราศีเมษ และตุลย์ 12 องศา 27 ลิปดา (มฤตยูดับ) ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

    #สำหรับแผนที่ดวงดาว ในวันที่เกิด “พลูโต วิกลคติพักร” 26.4.63 / ที่น่าจับตามอง เพื่อศึกษาและเก็บข้อมูล ได้แก่ประเทศ และประเทศที่ใกล้เคียง กับแนวเส้นดาวพลูโต / และแนวเส้นดาวมฤตยู ที่เกือบจะทับกันสนิทกับแนวเส้นอาทิตย์ ทั้งทางด้านขวา (น่าจะรุนแรงกว่า) และทางด้านซ้าย

    #มฤตยูดับ (ช่วง 20 เมย. – 1 พค.) คราวนี้ มีผลกระทบถึง “ดวงเมือง” ของเราด้วย... อาจเกิดเหตุที่คาดไม่ถึง หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้ บรรยากาศของประเทศไม่ค่อยดี และทำลายความสงบสุขของปชช. / จะมีการโจมตีผู้นำประเทศ –คณะรัฐบาล อย่างรุนแรงเป็นพิเศษ โดยใช้การโฆษณาชวนเชื่อ การปล่อยข่าวลวงข่าวเท็จไปทั่ว ซึ่งจะทำให้ปชช. หลงเชื่อได้เป็นจำนวนมาก ทั้งอาจเกิดเหตุที่สร้างปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน อีกด้วย
    #และจาก “แผนที่ดวงดาว” มีแนวเส้นดาวจันทร์ เฉียดแนวชายแดนทางด้านตะวันออก ของประเทศสยามเรา... ซึ่งอาจทำให้เกิดพายุโซนร้อน พายุฝนตกรุนแรง จนเกิดเป็นอุทกภัย สร้างความยุ่งยากลำบากกับผู้คนแถวนั้น
    Samphand Phuaksakon 21.4.63

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทบ.แจง ซื้อ “สไตร์เกอร์” หั่นงบฯ63 ซื้อครึ่งเดียว โว เฉือนกว่าหมื่นล้าน
    ทบ.แจง ปมซื้อ “สไตร์เกอร์” หั่นเงินปี 63 ซื้อเหลือครึ่งเดียว เหตุเป็นงบฯผูกพัน โว เฉือนเงินซื้ออาวุธ-รถถัง ช่วยโควิด-19 กว่าหมื่นล้าน วอน โซเชียลเสนอข้อมูล อย่าทำปชช.สับสน บอกไม่อยากฟ้องร้อง
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     

แชร์หน้านี้

Loading...