ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⛔️ ด่วนนนนน ⛔️ Nike สั่งปิดทุกร้านค้าในอเมริกาแล้ว
    และอีกหลายๆสาขาในโลกไปจนถึงสิ้นเดือนนี้เพื่อป้องกันไวรัสระบาด และ ✈️ American Airline สั่งทยอยปิดการบินระหว่างประเทศลงถึง -75%

    บริษัทอุปกรณ์กี่ฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกตลอดกาลอย่าง Nike ได้สั่งปิดทุกร้านค้าในสหรัฐ และอีกหลายๆแห่งทั่วโลกอย่าง แคนนาดา ยุโรป ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว โดยเพิ่งประกาศออกมาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ของสหรัฐหรือเย็นวันนี้ของบ้านเรา

    Nike เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ล่าสุดตาม Apple ที่เพิ่งได้ประกาศปิดร้านค้าทั่วโลกจนถึงสิ้นเดือนนี้ (ยกเว้นที่จีน) เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการภาวะฉุกเฉินของประเทศสหรัฐที่ทรัมป์ประกาศออกมาเมื่อคืนวันศุกร์

    Nike เป็นบริษัทกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ด้วยการมีร้านค้าว่า 384 สาขาในอเมริกาแต่ทั้งหมดจะโดนสั่งปิดแล้วเมื่อเริ่มมีผลวันพรุ่งนี้จนถึงอย่างน้อยสิ้นเดือนนี้

    อีกหนึ่งบริษัทใหญ่ที่ได้ออกมาประกาศมาตรการสำคัญก็คือ #สายการบิน American Airline ได้สั่งทยอยปิดการบินระหว่างประเทศลงถึง -75% เพื่อกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสอาจเดินทางเข้ามาแพร่ในประเทศ

    อย่างที่ได้เรียน #ผลกระทบต่อตลาด ในการประกาศมาตรการฉุกเฉินต่างๆนั้นมองได้สองมุมแล้วแต่ตลาดจะรับรู้เลย ในระยะสั้นนั้นตลาดจะกระทบในทางลบแน่ๆ เพราะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว การใช้จ่ายน้อยลง แต่จะถือเป็นสิ่งที่ดีกับระยะยาวครับที่จะช่วยลดปัญหาที่ยืดเยื้อจากการกระจายของเชื้อและเป็นการเริ่มจัดการอย่างจริงจัง

    ⚠️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์บ่อยๆ หรือ กดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⚠️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระเบิดปรมาณู กองทุนดัชนี /โดย ลงทุนแมน
    หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 ตลาดทุนหลายแห่งทั่วโลก
    ก็ฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา

    แต่สิ่งที่ได้รับความนิยมควบคู่กับการฟื้นตัวของตลาดทุนก็คือ กองทุนดัชนี..

    กองทุนดัชนี (Index Funds) เป็นกองทุนในลักษณะเชิงรับ (Passive Fund) ที่เมื่อผู้ซื้อกองทุน ผู้จัดการกองทุนก็จะเข้าไปซื้อหุ้นที่อยู่ในดัชนีนั้น

    โดยปกติแล้ว กองทุนดัชนี จะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนประเภทอื่น เพราะผู้จัดการกองทุนไม่ต้องใช้เวลาในการคิดวิเคราะห์ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหาร

    กองทุนดัชนีจึงกลายมาเป็นเครื่องมือการลงทุนยอดนิยม สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับผลตอบแทนระดับเดียวกันกับตลาด

    ปี 2009 ดัชนีดาวโจนส์ 7,955 จุด
    ปี 2020 ดัชนีดาวโจนส์ 28,508 จุด

    จะเห็นได้ว่าตลอด 11 ปี ไม่ว่าเราจะลงทุนกองทุนดัชนีประเทศสหรัฐอเมริกาตอนไหน
    เราก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งนั้น

    อย่างไรก็ตาม กองทุนอิงดัชนีก็ได้สร้างความเสี่ยง
    ประเภทหนึ่งที่เราอาจคาดไม่ถึงขึ้นมา
    แล้วความเสี่ยงนั้นคืออะไร?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ----------------------
    <ad> “1-2-3 คำถาม Facebook” หนังสือที่รวบรวมคำถามและข้อสงสัยที่ถูกถามบ่อยๆ จากเหล่าเจ้าของธุรกิจ โดย Digital Tips Academy
    ----------------------
    ความเสี่ยงของกองทุนดัชนีนั่นก็คือ “สภาพคล่อง”

    กองทุนดัชนี คือ กองทุนที่มัดรวมหลายๆธุรกิจรวมกันไว้
    ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กองทุนดัชนีประเทศไทยส่วนใหญ่
    ก็จะประกอบไปด้วยเงินลงทุนในหุ้น เช่น PTT, AOT และ CPALL

    ในสภาวะปกติ เราจะไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้มากเท่าไหร่

    แต่เรื่องนี้กลับแสดงออกมาชัดเจนที่สุด
    ตอนตลาดหุ้นมีความเคลื่อนไหวรุนแรง
    ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสุดนั่นก็คือ ตอนนี้..

    สถานการณ์โรคระบาด
    สงครามราคาน้ำมัน
    สหรัฐฯ แบนไม่ให้เดินทางไปยุโรป

    ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้น ถูกแรงเทขายกระหน่ำทั่วโลก
    นั่นก็รวมไปถึงผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนดัชนีที่ต่างพร้อมใจกันเทหน่วยลงทุนทิ้งพร้อมกัน

    และเมื่อคนที่ถือกองทุนดัชนี ส่วนใหญ่จะถือหุ้นคล้ายๆกัน
    นั่นก็เหมือนว่ามีแต่คนอยากออก ทั้งที่ทางออกมีประตูเล็กๆอยู่บานเดียว
    สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การแย่งขายทุกราคา..

    ทีนี้ เราลองมาดูตัวอย่างเหตุการณ์ที่กองทุนดัชนีถูกเทขายที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

    ปี 2018 ดอนัลด์ ทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับประเทศจีน
    มูลค่าเทขายกองทุนดัชนี SPDR S&P 500 ETF คือ 7.6 แสนล้านบาทใน 1 สัปดาห์

    ปี 2020 โรคระบาด COVID-19 เริ่มระบาดหนักในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
    มูลค่าเทขายกองทุนดัชนี SPDR S&P 500 ETF คือ 6.3 แสนล้านบาทใน 1 สัปดาห์

    ในขณะที่ หุ้นในดัชนี S&P กว่า 266 บริษัทมีมูลค่าซื้อขายต่ำกว่า 4.6 พันล้านบาท ต่อหุ้นในแต่ละวัน

    หมายความว่า หากกองทุนเกิด Panic ขายสินทรัพย์พร้อมๆกัน
    สภาพคล่องของหุ้นในแต่ละบริษัทจะไม่พอต่อการซื้อขาย..

    เรื่องนี้ Michael Burry ผู้ทำนายวิกฤตซับไพรม์ปี 2008
    ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกองทุนดัชนีปลายปีที่ผ่านมา

    เขาให้ความเห็นว่ากองทุนดัชนีมีลักษณะคล้ายหลักทรัพย์ CDOs (Collateralized Debt Obligations) ที่นำสินเชื่อที่อยู่อาศัยคุณภาพดีมามัดรวมกับสินเชื่อด้อยคุณภาพ

    ซึ่งหลักทรัพย์ CDOs ก็เป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วทุกมุมโลก

    Michael Burry เปรียบเทียบสภาพคล่องกับโรงหนังที่มีแต่คนแห่เข้าไปดูมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
    แต่ทางออกก็ยังมีทางเดียวเหมือนเดิม..

    จริงอยู่ว่ากองทุนดัชนีประกอบด้วยหุ้นหลายบริษัทที่มั่นคง
    ต่างจากสินเชื่อด้อยคุณภาพเมื่อ 12 ปีก่อน
    ซึ่งยากที่จะกลายไปเป็นฟองสบู่

    อย่างไรก็ตาม การถูกถล่มเทขายพร้อมๆกัน
    มันก็เหมือนระเบิดปรมาณูถล่มเข้าใส่ตลาดหุ้นรุนแรง
    รุนแรงในระดับที่ดัชนี ลบระดับ 10% วันเว้นวัน..

    ปิดท้ายด้วยคำตอบของ Michael Burry
    กับคำถามที่ว่ากองทุนดัชนีจะกลายไปเป็นฟองสบู่เมื่อไหร่?

    “มันก็เหมือนวิกฤตฟองสบู่ทุกครั้ง
    ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน
    แต่ที่แน่ๆ ยิ่งปล่อยไปนานเท่าไร
    หายนะของมันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น..”
    ----------------------
    .
    ----------------------
    Reference
    -https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-09-04/michael-burry-explains-why-index-funds-are-like-subprime-cdos

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้าเราต้อง Work from Home จะใช้แอป LINE อย่างไรให้ Productive สุด
    สถานการณ์โรคระบาด อาจทำให้เราต้อง Work from Home แต่การที่เราจะ Work from Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กุญแจสำคัญก็คือ เครื่องมือสำหรับการสื่อสารที่มีคุณภาพ

    แล้ว LINE มีฟีเจอร์อะไรอีกบ้างที่นำมาตอบโจทย์เรื่อง Work from Home?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

    ถ้าถามว่าคนไทยใช้แอปพลิเคชันอะไรมากสุด รู้ไหมว่าคำตอบก็คือ LINE

    คนไทยใช้งานแอปพลิเคชัน LINE กว่า 45 ล้านคน
    คิดเป็นเกือบ 90% ของคนไทยที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ตโฟน
    หรือพูดง่ายๆคือ คนไทยแทบทุกคนจะมี LINE ติดเครื่องไว้

    สำหรับสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ทั่วโลกตอนนี้
    มีแนวโน้มที่จะลากยาวไปอีกหลายเดือน นั่นหมายความว่า
    ระบบเศรษฐกิจของเราก็มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวตามไปด้วย

    อย่างไรก็ตาม LINE เป็นแอปพลิเคชันที่มีต้นกำเนิดขึ้นจากเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น

    ประสบการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้ LINE เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาให้กับเรา โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    ในครั้งนี้เหตุการณ์โรคระบาดส่งผลโดยตรงกับหลายบริษัท หลายองค์กรที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราว

    หลายบริษัททั่วโลกจึงปรับกลยุทธ์ให้พนักงานในองค์กร Work from Home กันมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

    แต่รู้ไหมว่า.. จริงๆ แล้วเทรนด์ Work from Home เกิดขึ้นมานานแล้วโดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กหรือสตาร์ตอัปที่นำกลยุทธ์มาบริหารต้นทุนของบริษัท

    แน่นอนว่าสำหรับคนไทย เครื่องมือที่จะมาอัปเกรดการ Work from Home ได้ดีที่สุดก็คือ แอปพลิเคชัน LINE

    LINE มีฟีเจอร์ที่เพรียบพร้อมสำหรับการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจเริ่มตั้งแต่

    LINE Chat ที่เราใช้ติดต่อสื่อสารกันเป็นประจำทุกวัน

    LINE Group Chat สำหรับคุยงานเป็นกลุ่ม หรือจัดประชุมซึ่งสามารถรับได้สูงสุด 500 คน

    LINE Call ในรูปแบบ Voice หรือ VDO สำหรับจัดประชุมเรื่องสำคัญให้ทุกคน
    ได้รับรู้พร้อมกันทั้งเสียงและวิดีโอ โดยส่งได้สูงสุดครั้งละ 200 คนพร้อมกัน

    รวมไปถึงการ LIVE ที่จะทำให้การสื่อสารระหว่างองค์กรยังดำเนินต่อไปได้แบบเรียลไทม์

    ดังนั้นถ้าเราต้องการประชุมจากที่บ้าน เราก็ไม่จำเป็นต้องหาแอปอื่นให้ยุ่งยาก เปิด LINE ของเรานี่แหละ ในการประชุมงาน

    นอกจากจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารแล้ว
    LINE ก็ยังรองรับตัวช่วยการจัดการเอกสารดิจิทัล ยกตัวอย่างเช่น

    Drag & Drop Files Transfer ที่ช่วยให้เรารับส่งไฟล์สูงสุดวันละ 1GB ลองใช้ดูแล้วจะรู้ว่าสะดวกกว่าการส่งไฟล์แนบอีเมลแบบเก่า

    หรือหากต้องการใช้งานเอกสาร รูปภาพ หรือไฟล์ขนาดใหญ่ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ Scan QR และ Scan Text ที่สามารถสแกนข้อความตัวอักษรและคัดลอกได้ทันทีโดยไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา

    สำหรับเอกสารสำคัญ LINE ก็ยังมีฟีเจอร์ Notes หรือ Album
    เพื่อให้เราเข้าถึงได้ง่ายและเรียกดูได้ตลอดเวลาไม่มีหมดอายุ

    ซึ่งไฟล์เหล่านี้ก็จะสามารถถูกนำไปแชร์ผ่านหน้าจอโดยฟีเจอร์ Screen Sharing
    ระหว่าง VDO Call เพื่อประชุมภายในองค์กรได้ เช่นกัน

    จะเห็นได้ว่าฟีเจอร์ของ LINE สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์การ Work from Home ที่หลายองค์กรกำลังต้องเตรียมพร้อมรับมือ

    ที่สำคัญ LINE ยังช่วยให้เราสื่อสาร บริหารจัดการไฟล์ ประชุมเรื่องสำคัญ สามารถทำได้จบครบในแอปพลิเคชันเดียว

    และหากเราจะเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของ LINE ก็จำเป็นที่จะต้องอัปเดตแอปตลอดเวลา

    ดังนั้นเราก็อย่าลืมตรวจสอบกันว่า LINE บนสมาร์ตโฟนของเรา เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด (5.23) กันแล้วหรือยัง

    จะเห็นได้ว่า Work from Home แม้จะเป็นเรื่องที่สำคัญ
    แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เครื่องมือที่เราเลือกใช้

    แล้วถ้าถามว่าเครื่องมือไหน ตอบโจทย์คนไทยได้ดีที่สุด
    คำตอบก็คงหนีไม่พ้น LINE นั่นเอง..
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๓ กระทรวงสาธารณสุขแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-๑๙ ในยูเออีเพิ่มอีก ๑๒ ราย และสามารถทำการรักษาผู้ป่วยหายเพิ่มอีก ๓ ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสในยูเออีมีทั้งหมด ๙๘ ราย รักษาหายแล้ว ๒๖ ราย และอยู่ระหว่างการรักษาตัว ๗๒ ราย

    กระทรวงสาธารณสุขยูเออีระบุว่า ผู้ป่วยกลุ่มล่าสุดได้ถูกกักตัวเพื่อทำการรักษาตัว และทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์แล้ว

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ขอความอนุเคราะห์ชุมชนคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในยูเออี โปรดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ bit.ly/3d3qWJM และขอให้ติดตามข้อมูลความคืบหน้าต่าง ๆ จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบอย่างใกล้ชิด
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Announcement on the Temporary Suspension of Visa Exemptio and Visa on Arrival (VoA) for Certain Countries / Territory

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    #ด่วน! ดาวโจนส์เปิดตลาดไม่ถึง 3 วิเท่านั้น !!! ถึงต้อง “Circuit Breaker” ทันที

    ถึงกับ ระบบแตะเบรกไม่ทัน S&P500 จากที่ต้องเบรกไว้ที่ -7% แต่ ตกมาเลย จุดที่ -8.14%

    กราฟยังไม่ถูกวาดเลย ! ก็ต้องพักการเทรด 15 นาทีแล้ว

    • ถ้า S&P500 ตก -7% หยุดการเทรด 15 นาที
    • ถ้าตกต่ออีก -13% หยุดการเทรด 15 นาที
    • ถ้าตกต่อถึง -20% หยุดการเทรดครึ่งวัน

    ซึ่งเหตุเกิดจาก การที่ Fed ลดดอกเบี้ยอย่างโหด
    จาก 1.00-1.25% —> 0.00-0.25% เท่ากับตอนวิกฤตซับไพทร์ ปี 2009

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    ราคาทองดิ่งต่อเนื่อง จากยอด $1,700 ตอนนี้เหลือ $1,462 ดิ่งไปแล้วประมาณ 14%

    หลังจากหลุดแนวรับที่ $1,550 ไปแล้วก็ดิ่งยาวเลย

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มันจบแล้วครับนาย ...
    FB_IMG_1584368792604.jpg
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก ข่าวฮ่องกง

    Citybus ประกาศคนขับรถบัสติดเชื้อไวรัสโควิด-19

    ผู้ติดเชื้อรายล่าสุด เป็นพนักงานขับรถ Citybus ชายอายุ 32 ปี ที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตูนีเซีย อังกฤษ และสเปน ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 9 มีนาคม

    หลังเดินทางกลับมาจากการท่องเที่ยว เขาได้กลับมาทำงานและได้ขับรถบัสสาย 90, 96 และ 98 ที่วิ่งระหว่าง Aberdeen, Causeway Bay และ Central วันที่ 11-13 มีนาคม และได้เริ่มมีอาการไข้

    โดยพนักงานขับรถรายนี้ใส่หน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติหน้าที่

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


    Source : https://www.thestandard.com.hk/brea...-on-routes-90,-96-and-98--infected-with-virus

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก I Green

    ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง หลังจากอิตาลีประกาศปิดเมืองหนีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ปรากฎกว่าเมืองอุตสาหกรรมซึ่งเป็นพื้นที่ปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ที่อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดาวเทียมจับภาพเป็นสีเขียว
    .
    ข้อมูลใหม่จากดาวเทียม Copernicus Sentinel-5P ของสำนักงานอวกาศแห่งยุโรป เผยให้เห็นถึงการลดลงของมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะการปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ทั่วอิตาลี ในช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
    .
    การลดลงนี้จะสามารถมองเห็นได้โดยเฉพาะในภาคเหนือของอิตาลี ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการปิดพื้นที่ภาคเหนือเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส เนื่องจกาภาคเหนือเกิดการระบาดที่หนักที่สุดก่อนที่จะลุกลามไปทั่วประเทศและทำให้อิตาลีต้องประกาศกักกันทั้งประเทศ
    .
    ภาพจากดาวเทียมจับเคลื่อนไหวแสดงความผันผวนของการปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ทั่วยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 จนถึงวันที่ 11 มี.ค. 2563 โดยตรวจจับความเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยทุกๆ 10 วัน ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากเครื่องมือของ Tropomi บนดาวเทียม Copernicus Sentinel-5P ที่ทำแผนที่มลพิษทางอากาศทั่วโลก
    .
    ภาพที่เห็นคือก่อนการระบาดภาคเหนือของอิตาลีมีมลพิษหนาแน่นมาก โดยเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองข้ม เนื่องจากเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมหลักของประเทศ แต่เมื่อประกาศปิดเมือง พื้นที่สีแดง/ส้มก็เริ่มกลายเป็นสีเหลืองและบางแห่งกลายเป็นสีเขียว เนื่องจากโรงงานปิดตัวลง การหยุดความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ และการหยุดเดินทาง
    .
    Claus Zehner แห่งสำนักงานอวกาศแห่งยุโรป (ESA) ที่ดูแลโครงการ Copernicus Sentinel-5P แสดงความคิดเห็นว่า การลดลงของการปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์เหนือหุบเขาโป (Po Valley) ในตอนเหนือของอิตาลีนั้นชัดเจนเป็นพิเศษ
    .
    "แม้ว่าข้อมูลอาจมีความผันแปรจากการปกคลุมของเมฆและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอยู่บ้าง แต่เรามีความมั่นใจมากว่าการลดการปล่อยก๊าซที่เราสามารถสังเกตได้เกิดขึ้นพร้อมกับการปิดเมืองในอิตาลีซึ่งทำให้การจราจรลดน้อยลง"
    .
    ไนโตรเจนไดออกไซด์เป็นก๊าซพิษซึ่งปล่อยออกมาระหว่างการเผาไหม้เชื้อเพลิงและปล่อยออกมาโดยรถยนต์ โรงไฟฟ้า และโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลเสียต่อในปอด รวมถึงทางเดินหายใจอักเสบ และเกิดความเสี่ยงของการเป็นโรคหอบหืด

    อ้างอิง
    Dramatic satellite footage shows 'notable drop' in air pollution over Italy after coronavirus lockdown restricts transport and industrial activity
    Coronavirus, l'Italia ''ferma'' è meno inquinata: l'animazione dell'Esa mostra il calo delle emissioni

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    เป็นวันแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากประเทศจีน (88,400 กว่าคน) พุ่งแซงจีนไปที่เรียบร้อยแล้ว (ที่ 81,020 คน)

    โดยที่ยอดผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีน มีความรุนแรงขึ้น เริ่มวันที่ 6 มีนาคม เริ่มจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน สหรัฐ ยุโรป

    จน ณ ปัจจุบัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก ยอดไม่ขยับแล้ว จากการไล่ตรวจผู้ติดเชื้อทุกคน และคนใกล้ชิด จนหมด ซึ่งช่วยในการแพร่ไวรัสหยุดลงอย่างจริงจัง (ขอชื่นชมสุดๆ)

    --------------------------------------------------

    แต่ฝั่ง ยุโรป กับ สหรัฐ อาการสาหัสมากๆ และยังไม่มีท่าจะหยุดเลย แต่ในหลายๆเมือง ในยุโรปได้ประกาศปิดเมืองแล้ว เพียงได้แต่หวังว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะได้ลดลง

    แต่ต้องยอมรับว่า อายุเฉลี่ยของ คนยุโรป มีสูงมากถึง 42.6 ปี
    • ไทย มีอายุเฉลี่ย 40.1 ปี
    • สหรัฐ มีอายุเฉลี่ย 38.2 ปี
    • จีน มีอายุเฉลี่ย 37.0 ปี

    จึงมองได้เห็นว่า อายุขัย มีความแตกต่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตส่วนมากคือ ผู้สูงอายุ ดังนั้น ยุโรป มีความเสี่ยงของชีวิตมากกว่า ประเทศอื่นๆ

    เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อในจีน: 81,020 เสียชีวิต: 3,217 คน อัตราเสียชีวิต: 3.97%
    • อิตาลี ติดเชื้อ: 24,747 เสียชีวิต: 1,809 อัตราเสียชีวิต: 7.30%
    • ผู้ติดเชื้อทั้งหมด: 169,387 คน เสียชีวิต: 6,513 คน อัตราเสียชีวิต: 3.84%

    --------------------------------------------------

    แต่อาจจะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเสริมได้อยู่ว่า ทำไมมียอดผู้เสียชีวิตเยอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อายุขัย ก็มีความเกี่ยวข้องมากเช่นกัน

    ทำให้ตอนนี้เศรษฐกิจในยุโรป กำลังพังเละสุดๆ หลายประเทศอัดฉีดเงินเต็มที่มาตลอดทาง ต้องรอดูผลลัพธ์สุดท้ายจากนี้ จะเป็นเช่นใด!

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Environman

    โลกร้อนทำพิษ ทั่วโลกพบหมีออกจากจำศีลเร็วขึ้นราว 1 เดือน! เหตุอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นในฤดูหนาว หวั่นกระทบมนุษย์ จากที่มีขาดอาหาร

    อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และสัตว์ป่าทั่วโลก โดยมันส่งผลให้หมีออกจากจำศีลเร็วขึ้น ซึ่งเร็วกว่าปกติเกือบเดือน

    จากรัสเซีย ฟินแลนด์ จนถึงแคนาดา และสหรัฐอเมริกา มีการพบเห็นหมีมากมายทั่วโลก การพบเห็นหมีอาจดูเป็นเรื่องไม่ประหลาด แต่การพบเห็นหมีตั้งแต่ช่วงต้นปีแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ

    ปกติในช่วงฤดูหนาว ต้นปีบรรดาหมีจะอยู่ในช่วงจำศีล Hibernation การจำศีลเป็นเหมือนการนอนหลับอย่างลึกเพื่อกักเก็บและประหยัดพลังงาน และช่วยให้หมีสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในฤดูหนาว โดยไม่ต้องกินอาหารมากนัก

    เพื่อให้พวกมันอยู่รอดในช่วงฤดูหนาวที่ไม่มีอาหาร และน้ำโดยเมื่ออากาศอุ่นขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เจ้ามีจะออกมาจากช่องถ้ำที่อยู่ของมันและหาอาหาร

    แต่ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาในช่วงธันวาคมจนถึงมกราคม ยุโรปเผชิญกับฤดูหนาวที่ร้อนที่สุด ขณะที่สหรัฐก็ประสบกับอากาศที่อุ่นขึ้น

    จากการที่ฤดูหนาวอุ่นขึ้นซึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้บรรดาหมีออกมาเดินเตร็ดเตร่เร็วกว่าปกติ ซึ่งเหตุการณ์นี้พบโดยเจ้าหน้าท่ีในสวนสัตว์พวกมันพร้อมที่จะออกจำศีลเร็วกว่าปกติ รวมถึงรายงานจากแหล่งอื่นๆว่ามันออกจำศีลก่อนกำหนด ซึ่งโดยปกติมันควรจะออกจากจำศีลในช่วงต้นเมษายน

    โดย Alan Wright ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ป่าระบุว่าการที่หมีออกจำศีลเร็วไม่ส่งผลดีต่อทั้งหมีและมนุษย์

    Alan กล่าวว่าเรื่องใหญ่ของบรรดาหมีคืออาหาร หลังจากที่หมีออกจากการจำศีลมันจะต้องการอาหารอย่างเร็วที่สุด เพราะหลังจากนั้นจะเป็นฤดูผสมพันธุ์

    แต่พอหมีออกจากการจำศีลเร็วกว่าปกติ สัตว์ตัวเล็กหรือพืชอาจไม่เพียงพอ ทำให้อาหารอาจไม่พอรองรับพวกมัน

    และนอกจากนี้บรรดาลูกหมีหลายตัวที่จะเกิดมาในอนาคตอาจจะไม่มีชีวิตรอดไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิ เพราะแม่หมีไม่แข็งแรงพอที่จะเลี้ยงลูก หรือไม่สามารถให้อาหารที่ดีสำหรับพวกมันได้

    แม้โดยปกติแล้วเจ้าหมีไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ แต่จากปัญหาขาดแคลนอาหารอาจทำให้เราป๊ะกับเจ้าหมีอยู่บ่อย ๆ เพราะเจ้าหมีอาจลงมาหาอาหารในเขตที่อยู่อาศัยของมนุษย์มากขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาได้

    นอกจากนี้ในบางพื้นที่ก็พบว่าหมีไม่ได้จำศีลเลย อย่างในสวนสัตว์ Siberia ได้พบว่าแม้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หมีไม่ได้จำศีลเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงกว่า 10 องศาเซลเซียส

    ในปีที่ผ่านมาเมืองในรัสเซียประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากหมีขั้วโลกมากกว่า 12 ตัวลงมาหาอาหารในพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์

    โดยปกติแล้วเจ้าหมีไม่ได้เป็นสัตว์ที่ดุร้ายนะ น้องเป็นสัตว์ที่น่ารักมากกก น้องจะเข้ามาทำร้ายก็ต่อเมื่อเราเข้าไปยุ่มย่ามในพื้นที่ comfort zone ของน้อง หรือเมื่อน้องมีลูกน้อย หากเราไปเที่ยวแล้วเจอหมีก็ระวังอย่าเข้าใกล้เกินไปเพราะน้องจะตื่นกลัวได้นาาาา

    https://www.bbc.com/news/newsbeat-51836206

    https://www.cbsnews.com/news/climate-change-bears-come-out-of-hibernation-month-early/

    https://www.theguardian.com/world/2020/mar/11/mild-winter-bears-emerge-from-hibernation

    https://www.dailymail.co.uk/science...th-ahead-schedule-record-breaking-winter.html


    เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
    environman

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    ❗️[[ สำคัญ โปรดทราบ ]] ซิบหายสุดๆ! ดัชนี S&P 500 VIX พุ่งสูงทะลุ All-Time High

    เยอะกว่าวิกฤตที่ผ่านมาทุกอย่าง ของประวัติศาสตร์สหรัฐ เป็นตัวบ่งบอกว่า วิกฤตเศรษฐกิจกำลังมา

    ขณะนี้ดาวโจนส์ดิ่ง -2,006.92 (-8.66%)
    พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วง (-29.27%) เกือบแตะ All-Time Low อีกแค่นิดดดเดียว

    ขณะนี้ตลาดหุ้นทั่วโลก และทุกสินทรัพย์ ทอง bitcoin น้ำมัน กำลังอยู่ช่วงโกลาหล ของนักลงทุน ทั่วโลก

    ตอนนี้แนะนำให้ถือเงินสดไว้ก่อน เพราะตอนนี้มีโอกาสอย่างมากที่จะเกิดวิกฤตอย่างหนัก ปัจจัยหลักคือ หนี้ ทั่วโลกท่วมหนักสุดๆ ทั้ง สหรัฐ จีน ยุโรป ญี่ปุ่น โดยทุกวันนี้ตลาดหุ้น ทุกประเทศได้แค่ยืดเวลาของการล่มของเศรษฐกิจไปเท่านั้น

    เพราะหนี้มันสูงขึ้นทุกๆปี ไม่เคยมีลดเลย เป็นเหมือนระเบิดเวลาเท่านั้น เพียงแค่มีอะไรกระตุ้นมัน มันพร้อมระเบิดทันที!

    เช่น ตอนนี้ สงครามการค้าสหรัฐ-จีน + ไวรัสโควิด-19 เป็นตัวเร่งจุดชนวนทำให้วิกฤตเกิดขึ้นเร็วขึ้น

    จึงทำให้นักลงทุนคาดการณ์ ว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นแน่ๆ ทำให้ดัชนี VIX พุ่งดีดขึ้นอย่างที่เห็น

    ดังนั้น ทุกคนนักลงทุน โปรดทราบความเสี่ยงจุดนี้เสมอด้วย ถ้าเราพร้อมเสี่ยงก็เสี่ยงได้เสมอ แต่ต้องรู้จัก Stop Loss ด้วยนะคับ และรู้ความเสี่ยงนี้ด้วยนะ สู้ๆคับ

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    Volatility Index หรือ (VIX) คือดัชนีซึ่งคำนวณโดยตลาดซื้อขายอนุพันธ์ Chicago Board Options Exchange (CBOE)

    นักลงทุนในวงกว้างยอมรับกันในแง่ที่ว่า มันคือตัววัดความผันผวนของตลาดหุ้น

    สรุปคือ “VIX สูงๆ ตลาดหุ้นผันผวน”
    ส่วนถ้า “VIX ต่ำๆ ตลาดหุ้นก็เสี่ยงต่ำ”

    อ่าน VIX คืออะไรต่อได้ที่: https://www.finnomena.com/mr-messenger/vix/

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    ดาวโจนส์ลดลงเกือบ 3,000 จุด เนื่องจากการล่มสลายของ coronavirus วันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ ปี '87

    ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 2,999 จุดหรือ 12.9% 30- หุ้นดาวโจนส์ สั้นลงกว่า 3,000 จุดในช่วงนาทีสุดท้ายของการซื้อขาย S&P 500 ลดลง 12% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 - ในขณะที่ Nasdaq Composite ปิดลดลง 12.3% ในวันที่เลวร้ายที่สุด

    ค่าเฉลี่ยที่สำคัญลดลงสู่ระดับต่ำสุดหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์กล่าวว่าการระบาดที่เลวร้ายที่สุดอาจเกิดขึ้นจนถึงเดือนสิงหาคม นอกจากนี้เขายังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า“ อาจ” เป็นสหรัฐอเมริกาที่กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย

    การสูญเสียของวันจันทร์ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 31.7% จากระดับสูงสุดตลอดกาลและ S&P 500 และ Nasdaq มากกว่า 29% ต่ำกว่าบันทึกของพวกเขาเมื่อเดือนที่แล้ว
    FB_IMG_1584395913020.jpg FB_IMG_1584395916776.jpg
    Dow drops nearly 3,000 points, as coronavirus collapse continues; worst day since ’87

    The Dow Jones Industrial Average closed 2,999 points lower, or 12.9%. The 30-stock Dow was briefly down more than 3,000 points in the final minutes of trading. The S&P 500 dropped 12% — hitting its lowest level since December 2018 — while the Nasdaq Composite closed 12.3% lower in its worst day ever.

    The major averages fell to their lows after President Donald Trump said the worst of the outbreak could last until August. He also told reporters the U.S. “may be” heading into a recession.

    Monday’s losses put the Dow down 31.7% from its all-time high and the S&P 500 and Nasdaq more than 29% below their records last month.

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    ทรัมป์ได้ทวิตก่อน ตลาดหุ้นดาวโจนส์เปิด ตอน 19:41 เวลาไทย
    ว่า “#ขอให้พระเจ้าคุ้มครองสหรัฐอเมริกา!”

    แต่ผลคือ Circuit Breaker ตั้งแต่ 3 วินาทีแรกจ้า!!

    ตอนนี้ Dow Jones -2,516.2 จุด (-10.85%)
    FB_IMG_1584396260108.jpg
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    สหภาพยุโรป เสนอข้อห้าม ประชาชนในยุโรป เดินทางไปต่างประเทศ ถ้าหากไม่จำเป็น เป็นเวลา 30 วัน

    ซึ่งมาตรการนี้เป็นการสั่ง เพื่อไม่ให้ไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายไปทั่วโลก เนื่องจากตอนนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ของโลกคือ ชาวยุโรป ซึ่งมี 26 ประเทศ

    ผลกระทบมาแน่นอน! กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม การบิน ค้าปลีก ที่พึ่งพาลูกค้าชาวยุโรป ต้องลดลงแน่ๆ เป็นเวลา 30 วันนี้

    https://www.cnbc.com/2020/03/16/eu-...are|com.apple.UIKit.activity.CopyToPasteboard

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก PTT News

    News : "แคนดิเดต ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชูนโยบายชี้ชะตาอนาคตราคาน้ำมันผันผวน"
    ดูเหมือนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ของอเมริกาในปลายปีนี้ กำลังจะร้อนระอุเสียแล้ว เนื่องจาก นาย เบอร์นี แซนเดอร์ส และ นางเอลิซาเบธ วอร์เรน 2 ตัวเต็งผู้ท้าชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ต่างชูนโยบาย “ห้ามขุดเจาะน้ำมันดิบชั้นหินดินดาน (Shale Oil)” และ “ห้ามส่งออกน้ำมันดิบออกนอกประเทศ” เพื่อลด ‘ภาวะโลกร้อน’

    --ผลกระทบจากนโยบายนี้--
    หากเป็นเช่นนั้นจริง จะกระทบต่อสถานะผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิ (net oil exporter) ของสหรัฐฯในปัจจุบัน ทั้งนี้ การที่รัฐบาลอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ยกเลิก “กฎหมายห้ามส่งออกน้ำมันดิบ” ที่ใช้กันมา 4 ทศวรรษ เมื่อเดือน ธ.ค. 58 ผนวกกับหลังจากนั้นรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติสัมปทานขุดเจาะน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ท้ายที่สุด ตั้งแต่เดือน ก.ย. 62 เป็นต้นมา สหรัฐฯ จึงกลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิ (น้ำมันในที่นี้ คือ รวมทั้งน้ำมันดิบ และ น้ำมันสำเร็จรูป)

    --การขุดเจาะน้ำมันส่งผลต่อโลกร้อน--
    ปกติแล้ว กระบวนการขุดเจาะน้ำมันดิบ เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วที่จะต้องปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ยิ่งอุตสาหกรรมนี้เฟื่องฟู ก็ยิ่งก่อมลภาวะ
    ยิ่งกว่านั้น น้ำมันดิบชั้นหินดินดาน (shale oil) ต้องขุดเจาะด้วยวิธีที่ เรียกว่า hydraulic fracturing (fracking) ซึ่งต้องใช้น้ำมหาศาลในการผสมกับสารเคมีแล้วปั๊มอัดเข้าไปเพื่อเซาะให้น้ำมันแตกออกมาจากซอกหิน ถึงจึงจะดูดขึ้นมาได้ มีการโดนโจมตีทั้งเรื่องสูบน้ำไปใช้เยอะ แล้วยังปล่อยน้ำเสียจากการขุดเจาะด้วย แถมมีนักวิทยาศาสตร์โยงว่าการขุดเจาะประหลาดโลกแบบนี้อาจก่อนให้เกิด “แผ่นดินไหว” อีกต่างหาก

    --แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อมา?--
    สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) ประเมินว่าถ้าฝั่งเดโมแครตชนะเลือกตั้ง ได้ตำแหน่งประธานาธิบดีขึ้นมา แล้วดำเนินนโยบายที่ว่าจริง จะทำให้เม็ดเงินมูลค่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ อันตรธานไปจากเศรษฐกิจอเมริกา ในช่วง 10 ปีถัดจากนี้ และยิ่งกว่านั้น อเมริกาก็อาจจะพลิกกลับไปกลายเป็นต้องนำเข้าสุทธิ (หมายความว่าจะหลับหูหลับตาคว่ำบาตรอิหร่านไม่ได้ เพราะไม่งั้นโลกอาจจะเผชิญภาวะน้ำมันขาดตลาด)

    บทวิเคราะห์โดย :
    International Market Analysis Team
    PTT Trading Business Unit

    #PTTNews
    #America
    #ราคาน้ำมัน

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Aroonrat Preamsiriampai

    #มาเลเซียปิดประเทศ!

    ข่าวล่าสุดวันนี้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้ประกาศว่า มาเลเซียจะปิดประเทศสกัดไวรัส Covid-19 แล้วนะคะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมนี้ ไปจนถึง 31 มีนาคม

    เป็นประเทศแรกในย่านอาเซี่ยน ที่ยกระดับการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าด้วยการปิดทั้งประเทศ หลังจากที่ทางฟิลิปปินส์ประกาศปิดเฉพาะกรุงมะนิลาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ยอดผู้ติดเชื้อในมาเลเซียในวันนี้อยู่ที่ 553 คน ซึ่งเป็นยอดที่เพิ่มมาจากผู้ที่เข้าร่วมงาน Jhor Qudamak & Ulamak งานเทศกาลประจำปีที่ มัสยิด ศรีปาเตลิง ในกัลลาลัมเปอร์ ถึงกว่า 190 คน

    และน่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ มีชาวไทยนับ 100 ที่ไปเช้าร่วมงานนี้ด้วย

    ด้วยสถานการณ์น่าวิตกเช่นนี้ ทางนายกฯมูห์ยิดดินตัดสินใจประกาศปิดประเทศ เป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

    ในช่วงเวลานี้ มาเลเซียจะปิดพรมแดน ไม่ให้ชาวมาเลเซียเดินทางออกนอกประเทศ และไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศเช่นกัน ยกเว้นชาวมาเลเซียที่เดินทางกลับประเทศ สามารถเข้าได้ แต่ต้องกักตัวเอง 14 วัน

    การเดินทางภายในประเทศก็งดเช่นเดียวกัน

    ในประเทศงดกิจกรรม งานอีเว้นท์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา กีฬา

    สถานศึกษาทุกระดับหยุดเรียนทั้งหมด

    ห้างร้าน ธุรกิจ ขอให้หยุดกิจการชั่วคราว สถานที่ราชการ เอกชน เปิดทำการเท่าที่จำเป็น อาทิ ซุปเปอร์มาร์เก็ต โรงไฟฟ้า ประปา สถานพยาบาล ร้านขายยา ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน ไปรษณีย์ ยังคงเปิดให้บริการ

    นายกรัฐมตรีมูห์ยิดดินย้ำว่า อย่าแตกตื่น เรื่องหน้ากากอนามัย ของใช้ ในประเทศมีเพียงพอสำหรับช่วงปิดประเทศ

    จึงแจ้งด่วนมาสำหรับท่านใด ที่ยังทำธุระอยู่ในมาเลเซีย ให้รีบกลับไทยก่อนวันพุธนี้ ไม่งั้นต้องติดอยู่นานถึงสิ้นเดือนเลยนะคะ ส่วนใครที่รู้ตัวว่าไปร่วมงานที่มัสยิด ศรีปาเตลิง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รีบรายงานตัวตรวจเชื้อเลยนะคะ เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ตรวจเชื้อได้ฟรีนะค้า

    อ้างอิง
    https://www.thestar.com.my/news/nat...ovement-measure-after-spike-in-covid-19-cases
    https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/malaysia-to-impose-lockdown-from-wednesday-to-march-31
    https://www.scmp.com/week-asia/heal...rus-malaysias-prime-minister-muhyiddin-yassin

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก หรรสาระ By Jeans Aroonrat

    #เจลล้างมือLouis_Vuitton
    #อีกระดับของการป้องกันไวรัส

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา บริษัท LVMH เจ้าของแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ของฝรั่งเศส ได้ออกมาประกาศว่า ทางบริษัทจะผลิตเจลล้างมือรุ่นพิเศษ กลิ่นหอม ถนอมมือ เพื่อส่งมอบให้กับหน่วยงานสาธารณสุข และโรงพยาบาลในฝรั่งเศสให้ใช้ฟรีๆ

    อันเนื่องจากประเทศฝรั่งเศสก็กำลังมีปัญหากับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อวิ่งขึ้นไปถึง 5423 คน เสียชีวิตถึง 127 คน ทั้งหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะในโรงพยาบาลที่มีความจำเป็นต้องใช้

    เครือบริษัทเจ้าของแบรนด์หรู LVMH เลยตัดสินใจผลิตเจลล้างมือรุ่นพิเศษ เพื่อส่งให้กับโรงพยาบาลในประเทศ และด้วยภาพลักษณ์ระดับ High End เจลล้างมือรุ่นพิเศษนี้จึงไม่ธรรมดา เพราะบริษัทจะใช้กลิ่นน้ำหอมของ 3 แบรนด์หรูในเครือของบริษัท ได้แก่ Christian Dior Guerlain และ Givenchy เอามาใส่ในเจลล้างมือด้วย

    ถามว่ากลิ่นน้ำหอมหรูจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้หรือไม่

    อันที่จริง มันก็ได้ได้ช่วยอะไรในสรรพคุณหรอกนะค้า ก็เป็นเจลล้างมือตามมาตรฐานท้องตลาดทั่วไป แต่เนื่องจากที่นี่คือฝรั่งเศส แดนน้ำหอม ยอมที่ไหน กับภาพลักษณ์แบรนด์อันหรูหรา ก็ต้องใส่ความ Luxuary ลงไปเสียหน่อย

    แต่หากมองในอีกแง่หนึ่ง การที่เจลล้างมือจะมีกลิ่นหอม High End มันก็น่าจะช่วยสร้างความรื่นรมย์ และผ่อนคลายได้ในระดับหนึ่ง ให้แก่บุคลากรในโรงพยาบาล และคนไข้ ดีกว่าที่จะได้แต่กลิ่นแอลกอฮอลล์ฉุนๆ ที่ยิ่งดม ยิ่งชวนให้หดหู่ ภายใต้วิกฤติที่ผู้คนตื่นตระหนก แต่ถ้าเข้าโรงพยาบาลมาเจอคุณหมอ คุณพยาบาลมือหอมๆ ก็น่าจะช่วยให้หายกลัวไปได้บ้างนะคะ

    ซึ่งทาง LVMH แจ้งว่าจะเริ่มแจกจ่ายเจลล้างมือรุ่นพิเศษได้ตั้งแต่วันจันทร์นี้ โดยเริ่มจากโรงพยาบาลของรัฐ 39 แห่งในปารีสก่อน และทางบริษัทตั้งใจที่จะผลิตเจลล้างมือออกมาจำนวนมาก พอที่จะแจกไปให้ได้มากที่สุด

    และทันทีที่มีข่าวว่าจะมีเจลล้างมือ Louis Vuitton ออกมา ก็เริ่มมีคนสอบถามว่าพอจะหาซื้อได้ใน eBay หรือเปล่า

    ขอย้ำแทนเจ้าของบริษัทนะคะว่าล็อตนี้ เขาตั้งใจที่จะผลิตเพื่อแจกฟรีตามโรงพยาบาล Not for sale นะแจ๊ะ อย่าไปแอบปั๊มใส่ขวดกลับบ้านมาใช้ต่อ หรือแอบไปขายต่อใน eBay ไม่ดีนะยูว์

    แต่ถ้าเกิดเจลล้างมือรุ่นพิเศษเกิดฮิตขึ้นมา จนทางบริษัทเห็นช่องทางในการทำตลาดใหม่ สำหรับคนที่ต้องการป้องกันตัวเองด้วย และอยากสัมผัสความหรูหราด้วย ก็ค่อยว่ากันอีกทีนะคะ

    แหล่งข้อมูล
    https://www.theguardian.com/world/2...ke-hand-sanitiser-to-give-to-french-hospitals
    https://thehill.com/policy/healthca...s-vuitton-dior-to-make-free-hand-sanitizer-at
    https://www.nytimes.com/reuters/2020/03/15/business/15reuters-health-coronavirus-lvmh.html

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก หรรสาระ By Jeans Aroonrat

    #แอบส่องมาตรการสเปนปิดเมือง
    #เตรียมรับแรงกระแทก

    วันนี้ นายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชส หลังจากที่ประชุม ครม. เรื่องสถานการณ์ไวรัสเมื่อวานนี้ ก็ได้ออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเห็นว่าสเปน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปิดเมือง Lock down ประเทศตามอิตาลี เพื่อสู้วิกฤติไวรัสโคโรน่า

    สเปน เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อทะลุไป 6,394 คนแล้วในวันนี้ เสียชีวิตไปแล้วกว่า 198 คน อยู่ในอันดับ 5 ของโลกก็จริง แต่ถ้าคิดเฉพาะในโซนยุโรป สเปนมาเป็นที่สอง รองจากอิตาลีเท่านั้น แถมผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในแมดริด ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ

    สถานการณ์ล่อแหลมมาก ทางรัฐบาลกลางสเปนจึงตัดสินใจใช้มาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญสเปนออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ปิดประเทศเป็นเวลา 14 วันเพื่อสกัดการแพร่กระจายของไวรัส Covid-19

    โดยมาตรการนี้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ กับชาวสเปนกว่า 47 ล้านคน ถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านจากรัฐบาลท้องถิ่นของบางแคว้นอย่าง กาตาลุญญ่า และ บาสก์ บ้าง แต่สถานการณ์เช่นนี้ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ

    ซึ่งมาตรการนี้ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 7 นาฬิกา เช้าวันจันทร์ที่ 16 มีนาคมนี้ จะไม่มีการเดินทางเข้า - ออก ประเทศ ชาวสเปนยังสามารถออกจากบ้านได้ในบางกรณีเท่านั้น ได้แก่

    - ออกมาซื้ออาหาร เครื่องใช้ และยาที่จำเป็น
    - ออกมาพบแพทย์ ตามสถานพยาบาล
    - ออกไปทำงาน
    - ออกไปดูแลลูกๆ คนชราๆ หรือคนพิการ
    - เกิดเหตุฉุกเฉิน

    ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ปั๊มน้ำมัน ร้านขายอาหารสัตว์ ยังสามารถเปิดได้ นอกเหนือจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง คือ ปิดทั้งหมด

    ขนส่งสาธารณะ ยังคงมีให้บริการ เพราะรัฐบาลไม่ได้ห้ามคนออกไปทำงาน แต่จะลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง และแนะนำให้เปลี่ยนไปทำงานที่บ้านจะดีกว่า

    ส่วนสถานศึกษาทุกระดับ หยุดการสอนชั่วคราวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

    มาตรการ lock down ประเทศเบื้องต้น 2 สัปดาห์ แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็มีสิทธิ์ขยายได้

    และภาคธุรกิจ เอกชน ห้างร้าน ต้องเตรียมแผนรับแรงกระแทกจากภาวะเศรษฐกิจถอถอยหลังจากนี้ให้ดี เพราะมีแน่ แต่รัฐบาลสัญญาว่าจะออกมาตรการช่วยเหลือ ชดเชยให้ แต่ยังไม่บอกรายละเอียดในตอนนี้

    และหลังจากที่นายกรัฐมนตรีสเปน แถลงข่าวไม่นานก็มีข่าวด่วนแทรกเข้ามาว่า เบกอนญา โกเมซ ภรรยาของนายกฯ เปโดร ซานเชส ติดไวรัส Covid-19 ไปอีกคน

    เป็นเครื่องยืนยันว่า สถานการณ์ไวรัสที่นั่น รุนแรงจริงๆ

    โชคยังดีที่ตัวนายกฯ ซานเชส ยังไม่ติดไวรัส

    อย่างที่เคยแชร์ไปแล้วว่า หากที่อิตาลีมีการระบาดของไวรัสโคโรน่าหนัก จะกระทบประเทศในยุโรปทั้งหมด เพราะชาว EU เขาเดินทางข้ามประเทศกันเป็นเรื่องปกติ แล้วสถานการณ์ก็เลวร้ายจริงๆ

    อิตาลีปิดเมือง สเปนปิดแล้ว ประเทศไหนจะเป็นรายต่อไป

    แต่ต้องทำความเข้าใจนิดนึงว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และปิดเมือง เป็นหนทางสุดท้าย ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ ถึงต้องทำ

    และถ้าทำแล้ว ต้องไปให้สุด กฏเกณฑ์ต้องเข้มงวดกิจการ ห้างร้านที่นอกเหนือจากความจำเป็นในปัจจัย 4 ต้องหยุดกิจการ ภาคธุรกิจหยุดนิ่ง ประชาชนเดินทางออกนอกพื้นที่ไม่ได้ การค้าระหว่างประเทศปิดตาย ภาคการท่องเที่ยวล่มสลาย

    หากเราไม่อยากให้บ้านเราไปถึงจุดนั้น ก็ต้องช่วยกัน ด้วยการป้องกันตัวเอง อย่าไปในพื้นที่เสี่ยง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากาก และรีบไปตรวจหากมีไข้ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เพื่อความแน่ใจ และที่สำคัญ ดูแลสุขภาพกันนะค้า

    แหล่งข้อมูล
    https://www.aljazeera.com/news/2020...lockdown-bid-coronavirus-200314233749980.html
    https://www.theguardian.com/world/2...-set-to-order-nationwide-coronavirus-lockdown
    https://abcnews.go.com/Internationa...-prime-minister-tests-positive-virus-69600935

     

แชร์หน้านี้

Loading...