ติดตามสถานะการณ์

เพิ่มเติมครั้งที่ 4
ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก ภูเขาไฟตาอัล ( Taal) บนเกาะลูซอน ในเขตจังหวัดบาตังกัส ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากกรุงมะนิลา 50 กิโลเมตร
เบื้องต้น เกิดภูเขาไฟระเบิดรอบ 2
/ เพิ่มการยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 4 ในรัศมี 50 กม รอบภูเขาไฟ
/ ปิดสนามบินนานาชาติ 1 แห่ง
/ อพยพประชาชน 10 เมือง กว่า 500000 คน ได้รับผลกระทบ 8 แสน คน
/ เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย
/ แผ่นดินไหวขนาดรับรุ้ได้ 90 ครั้ง
/ ตั้งค่ายผู้อพยพ 20 แห่ง
/ ระบบพื้นฐานเสียหาย 50 % ระดับสีเหลือง
/ เฝ้าระวังพิเศษประเทศมาเลเซีย / ห้อง 62

 

แม่น้ำโขง : ลาวปลื้มรัฐบาลไทยสนับสนุนเขื่อนหลวงพระบาง คาดเริ่มก่อสร้างปีหน้า โดย ธันยพร บัวทองผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย
Image copyrightWASAWAT LUKHARANG/BBC THAI
คำบรรยายภาพปรากฏการณ์น้ำโขงสีคราม หรือน้ำหิวตะกอน เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิชาการ ชี้ว่า เป็นผลจากการที่เขื่อนกักเก็บตะกอนไว้ จากภาพเป็นแม่น้ำโขง บริเวณบ้านแสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เริ่มกระบวนการให้ข้อมูลเขื่อนหลวงพระบาง เขื่อนแห่งใหม่ของ สปป.ลาว ที่มีกำหนดก่อสร้างในปีหน้า โดยจัดที่ จ.นครพนมเป็นเวทีแรก ขณะที่ภาคประชาชน 8 จังหวัดแม่น้ำโขง เห็นว่ากระบวนการนี้จะเป็นเพียง "ตรายางให้สร้างเขื่อน"

"โครงการนี้อาจจะได้เดินหน้าปฏิบัติก่อนเขื่อนปากแบง และเขื่อนปากลายด้วยซ้ำ เพราะว่าทางรัฐบาลไทย ก็ให้การสนับสนุนพอสมควร" ดร.จันสะแหวง บุนยง อธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงานสปป.ลาว กล่าวในเวทีให้ข้อมูลโครงการก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางที่จัดขึ้นที่ จ.นครพนม วันนี้ (24 ธ.ค.) ซึ่งมีชุมชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียจาก จ.นครพนม หนองคาย และบึงกาฬ มาร่วมประมาณ150 คน

สปป. ลาว เสนอโครงการก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเขื่อนแห่งที่ 5 ในแม่น้ำโขงสายประธาน ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 1,460 เมกะวัตต์ มีกลุ่มบริษัท ช.การช่าง จากประเทศไทย เป็นผู้พัฒนาและดำเนินการก่อสร้าง

ขณะที่วานนี้ (23 ธ.ค.) เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อกระบวนการนี้ โดยชี้ว่าเวทีปรึกษาหารือฯ 4 โครงการที่ผ่านมา "พิสูจน์ชัดว่าเป็นกระบวนการที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และเป็นเพียงตรายางในการรับรองให้โครงการเขื่อนบนแม่น้ำโขงสายหลักสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ได้ใส่ใจต่อข้อกังวลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย" สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้จัดเวทีให้ข้อมูลโครงการตามกระบวนการแจ้ง ปรึกษาหารือล่วงหน้า (PNPCA) ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง ซึ่งตามนิยามของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ระบุว่า ในกระบวนการนี้ประเทศสมาชิกไม่มีสิทธิยับยั้งโครงการ

Image copyrightWASAWAT LUKHARANG/BBC THAI
คำบรรยายภาพเวทีให้ข้อมูลโครงการก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางในส่วนของไทย จัดขึ้นที่ จ.นครพนม เป็นเวทีแรก อีกสองเวทีจะจัดขึ้นที่ จ.อำนาจเจริญ และ จ.เลย ภายในเดือน ก.พ. ปีหน้า
ลาวเร่งผลักดันก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบาง

ดร.จันสะแหวง บุนยง อธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงาน สปป.ลาว กล่าวว่ารัฐบาลลาวให้ความสำคัญกับการพัฒนาไฟฟ้าเป็นลำดับต้น ๆ เพราะลาวไม่มีความสามารถในการแข่งขันด้านอื่น แต่มีข้อจำกัดว่าตลาดผู้ใช้ไฟฟ้าในลาวมีน้อย การพัฒนาจึงต้องขายให้กับประเทศอื่น

"ได้ขายไฟฟ้า และได้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ มีการสร้างถนนหนทางเอาน้ำเอาไฟไปให้ อันนี้คือสิ่งที่ได้กับประชาชนของลาว"

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สปป.ลาว ให้ข้อมูลโครงการเขื่อนหลวงพระบางว่าเป็นเขื่อนแบบน้ำไหลผ่าน (run-of-river) มีทางเดินเรือและทางขึ้นลงของปลาในลักษณะของลิฟต์ยกระดับ โครงการนี้ใช้บริษัทที่ปรึกษาที่เป็นมืออาชีพ ผ่านการออกแบบเขื่อนมาแล้วกว่า 2,000 แห่ง

ดร.จันสะแหวงกล่าวว่า โครงการเขื่อนหลวงพระบางเป็นโครงการที่มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ที่ทางรัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยสนับสนุนร่วมกัน โดยความคืบหน้าของสัญญาการซื้อขายไฟขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างทำข้อตกลงกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัท ช.การช่าง และคาดว่าจะมีการเริ่มก่อสร้างก่อนโครงการเขื่อนปากแบง และเขื่อนปากลาย ที่ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือฯ ไปแล้ว

ตัวแทนจากรัฐบาลลาวกล่าวอีกว่า จะนำข้อกังวลจากทุกฝ่ายไปพิจารณาและให้ผู้เชี่ยวชาญระดับชาติมาดู รวมทั้งจะรายงานผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่าง ๆ กลับมาให้ทั้ง 4 ประเทศได้รับทราบ

สทนช. ชี้เขื่อนหลวงพระบาง ยังต้องมีการปรับรูปแบบ

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า เวทีให้ข้อมูลและเสนอข้อห่วงกังวลนี้ จะนำมารวบรวมเป็นข้อมูลร่วมกับประเทศสมาชิกแม่น้ำโขงเพื่อหามาตรการในการป้องกันผลกระทบผ่านการวางแผนก่อสร้างและออกแบบรูปแบบของเขื่อนให้ชัดเจน โดยทั้งไทย เวียดนาม และกัมพูชา ในฐานะประเทศสมาชิกที่ใช้แม่น้ำโขงร่วมกัน เห็นตรงกันว่าก่อนเริ่มการก่อสร้าง ประเทศสมาชิกจะต้องมีข้อตกลงร่วมกัน (Joint Action Plan- JAP) ให้ได้ก่อน

จากข้อมูลโครงการที่ สปป.ลาว เสนอ เขื่อนหลวงพระบางมีการถอดแบบมาจากเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งมีการปรับแบบไปแล้วตามข้อเสนอแนะของประเทศสมาชิก แต่ก็ต้องมีการพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าเมื่อดำเนินการแล้วเกิดผลกระทบอย่างไร และจะมีผลกระทบให้น้อยกว่านี้ได้อย่างไร

Image copyrightWASAWAT LUKHARANG/BBC THAI
"ที่ผ่านมาเขื่อนไซยะบุรีอาจมีผลกระทบให้เห็นชัดเจนเรื่องการขึ้นลงของระดับน้ำ กรณีเขื่อนหลวงพระบางจึงอาจต้องมีการปรับรูปแบบเพื่อให้ลดผลกระทบ แต่ว่าเขื่อนหลวงพระบางอยู่เหนือเขื่อนไซยะบุรี ผลกระทบอาจไม่มากเท่าเขื่อนไซยะบุรี"

เกี่ยวกับข้อสังเกตจากภาคประชาชนว่าการให้ข้อมูลเขื่อนหลวงพระบางไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จากที่พิกัดการก่อสร้างใกล้กับ จ.เชียงราย เลขาธิการ สทนช. ชี้แจงว่า เขื่อนหลวงพระบางอยู่ใต้โครงการเขื่อนปากแบง ใน สปป. ลาว ซึ่งเมื่อครั้งเริ่มโครงการได้มีกระบวนการปรึกษาหารือไปแล้ว

สำหรับกรณีของปรากฏการณ์แม่น้ำโขงสีคราม หรือ น้ำหิวตะกอน ซึ่งนักวิชาการชี้ว่าเป็นผลจากเขื่อนเก็บกักตะกอนแม่น้ำไว้ และปัญหาการผันผวนของระดับน้ำท้ายเขื่อนไซยะบุรี ดร.สมเกียรติกล่าวว่า ประเทศไทยเตรียมเสนอไปยัง สปป.ลาว เพื่อให้แจ้งกับผู้พัฒนาเขื่อนให้ปรับการบริหารจัดการ รวมทั้งการติดตั้งจุดวัดน้ำและจุดวัดสังเกตตะกอน ซึ่งที่ผ่านมายังขาดความต่อเนื่อง

Image copyrightWASAWAT LUKHARANG/BBC THAI
"เมื่อก่อนน้ำมีปริมาณมาก พอมีปริมาณกระแสน้ำน้อยอาจจะทำให้ตะกอน สารแขวนลอยลดลงไป ต้องดูว่าการออกแบบระบบระบายตะกอนแบบนี้จะสามารถจะเพิ่มตะกอนยังไงได้บ้าง"

ประชาชน 8 จังหวัดน้ำโขง ซัดกระบวนการปรึกษาหารือฯ เป็นเพียง "ตรายาง" ให้สร้างเขื่อน

เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลว่า กระบวนการปรึกษาหารือฯ "จะยิ่งทำให้เกิดการรับรองในระดับภูมิภาคในการสร้างเขื่อนแม่น้ำโขงแห่งใหม่เพิ่มมากขึ้น" ขณะที่ปัญหาและผลกระทบจากเขื่อนไซยะบุรี และ เขื่อนดอนสะโฮง ยังไม่มีแนวทางการแก้ไข และมาตรการลดผลกระทบข้ามพรมแดนที่ชัดเจน ทั้งจากภาครัฐและเจ้าของโครงการ

กระบวนการปรึกษาหารือฯ ไม่สามารถนำเสียงของประชาชนสู่กระบวนการตัดสินใจในการจัดการแม่น้ำโขงได้อย่างแท้จริง และการจัดเวทีให้ข้อมูล ไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบทั้งหมดโดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนหลวงพระบางมากที่สุด

เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง เสนอว่ารัฐควรจะต้องดำเนินการปกป้องคุ้มครองประชาชน บนฐานของสิทธิชุมชน การมีส่วนร่วมของประชาชน และการป้องกันผลกระทบ โดยเฉพาะชุมชนที่อาจต้องแบกรับภาระต้นทุนและผลกระทบของโครงการในระยะยาว

Image copyrightWASAWAT LUKHARANG/BBC THAI
คำบรรยายภาพกระบวนการปรึกษาหารือฯ ตามกลไกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ประเทศสมาชิกไม่มีสิทธิยับยั้งโครงการที่ประเทศอื่นเสนอ
"แม้จะไม่ใช่โครงการของรัฐบาลไทยโดยตรง แต่รัฐบาลไทยก็ถือเป็นผู้ซื้อไฟฟ้ารายใหญ่ของโครงการเขื่อนบนแม่น้ำโขงตามแผนทั้งหมด" เครือข่ายประชาชนฯ ระบุในแถลงการณ์

เขื่อนหลวงพระบาง และกระบวนการปรึกษาหารือฯ ที่ประเทศลุ่มน้ำโขงไม่มีสิทธิยับยั้ง

พื้นที่ก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางอยู่บนแม่น้ำโขงตอนบนของนครหลวงพระบาง 25 กิโลเมตร เป็นโครงการเขื่อนแบบน้ำไหลผ่าน (run-of-river) แบบขั้นบันไดในแม่น้ำโขง มีแผนก่อสร้างในปี 2563 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการระบบผลิตไฟฟ้าในปี 2570 พื้นที่อ่างเก็บน้ำคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่ จ.อุดมไซ และหลวงพระบาง

ในการให้ข้อมูลที่เวทีประชุมปรึกษาหารือและให้ข้อมูลระดับภูมิภาค ครั้งที่ 8 (Regional stakeholder forum) เมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้แทนกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของ สปป. ลาว เปิดเผยว่าของโครงการมีมูลค่าสูงถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้ดำเนินการ คือ บริษัท ไฟฟ้าหลวงพระบาง จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง สปป.ลาว และบริษัท PetroVietnam Power Corporation และมีผู้พัฒนาจากไทย คือ ช.การช่าง

เอกสารข้อมูลโครงการระบุว่า โครงการมีความยาวของโรงไฟฟ้า 275 เมตร กว้าง 97 เมตร และสูง 80 เมตร มีการก่อสร้างทางผ่านปลา และช่องทางเดินเรือบริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำ มีสายส่งไฟฟ้า ไปยังเวียดนามและไทย

Image copyrightWASAWAT LUKHARANG/BBC THAI
คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ระบุว่ากระบวนการปรึกษาหารือฯ มิใช่สิทธิในการ "ยับยั้ง" หรือสิทธิในการดำเนินการ "ฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น" และไม่ได้เป็นกระบวนการตัดสินใจต่อโครงการว่า"ให้หรือไม่ให้ก่อสร้าง" แต่เป็นการให้ประเทศสมาชิกอื่นตกลงกำหนดมาตรการร่วมกันในการป้องกันผลกระทบข้ามพรมแดน

"ไม่ใช่การอนุมัติโครงการ ไม่ใช่การให้คำตอบว่าให้หรือไม่ให้ก่อสร้าง ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก อย่างเช่นในกรณีเขื่อนไซยะบุรีและดอนสะโฮง" เจ้าหน้าที่ MRC กล่าวที่เวทีในกรุงเวียงจันทน์ เมื่อต้นเดือน พ.ย.

สุริยา โคตะมี ภาคประชาสังคมจากลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำสงคราม จ.นครพนม แสดงความกังวลต่อกระบวนการในการบรรเทาปัญหาผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำโขง ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ ทั้งปัญหาน้ำไม่พอใช้ สัตว์น้ำลดลง และการขึ้นลงผิดปกติของน้ำ

"ในฐานะเป็นผู้เสียสละกับผลประโยชน์คนส่วนใหญ่ เสียสละวิถีชีวิตไป เจ้าของโครงการได้ประโยชน์ แล้วเราได้ไหม ค่าไฟเราก็ยังเสียเหมือนเดิม"

ด้าน ศ.ดร. ทวนทอง จุฑาเกตุ นักวิชาการจาก ม.อุบลราชธานี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ซึ่งให้ความเห็นต่อร่างรายงานทบทวนทางด้านเทคนิคของโครงการ กล่าวว่า รายงานยังมีข้อมูลที่ไม่เพียงพอเกี่ยวกับการศึกษาผลกระทบระบบนิเวศสัตว์น้ำและปัญหาการกักตะกอน

เขาชี้ว่าข้อสังเกตที่สำคัญต่อรายงานฉบับนี้ คือ จำนวนของชนิดปลาที่มีการสำรวจแค่เดือนเดียว แต่ปลาอพยพไปมาและไม่ได้สำรวจในฤดูกาลที่เหมาะสม ซึ่งควรจะเป็นช่วงเดือน พ.ค- มิ.ย. ทำให้ขาดข้อมูลที่สำคัญที่อาจส่งผลต่อการตีความระดับความรุนแรงของปัญหา

"ข้อมูลไม่เห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในรอบปี ทั้งชนิดปลาในบริเวณนั้นและผลการจับปลาในช่วงฤดูกาล"


https://www.bbc.com/thai/thailand-5...PQ9Suzvzo4sGPmsw2RB5hH2cmywd0AflIO0h5AFgmDSLI

 

หยุด เขื่อนไซยะบุรี(stop Xayaburi Dam)

ภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบแม่น้ำโขงในจุดเดียวและช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 และ 2562 แสดงชัดเจนเรื่องสีของน้ำที่ต่างกันมาก
ที่ของภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์




https://graphics.reuters.com/MEKONG...L990w4IlMkP-OYCL-ORlwp4_xyaTyGz9ZqZbwmTuFUlt8

 

เติมไฟให้กัน

75% ของพลังงานของโลกที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตมาจากพลังงานไฟฟ้า Gas และ Renewable แต่ในปี 2050 เกือบครึ่งของพลังงานไฟฟ้าจะมาจาก Wind และ Solar

# Source : PTT Group, BloombergNEF, BP Energy Outlook

 

สุดท้ายนี่คือสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าไม่ใช่ น้ำก็จะกลายเป็นน้ำทะเลหมด
แม่น้ำ เจ้าพระยา
แควไหลมา รวมกันสี่สาย
ปิงวังยมน่าน หลั่งไหล
รวมสี่สาย ที่ปากน้ำโพ
รวมสี่สาย ที่ปากน้ำโพ

แจ้งข่าว อุบลราชธานี

จะอยู่กันอย่างไรเมื่อไม่มีน้ำเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง คาดรุนแรงกว่าทุกๆปี
Cr. Likhit sanethes

 

แดง วงศ์ทวิชาติ

ฟิลิปปินส์ : ผู้พักอาศัยในเขตเทศบาลเมืองTaal ในBatangas รู้สึกประหลาดใจในเช้าวันพุธเมื่อแม่น้ำPansipitแห้งลงทันทีแม่น้ำสายนี้เชื่อมต่อกับทะเลสาบ Taal
ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีรอยร้าวเกิดขึ้นหลายจุด ปรากฏขึ้นในเขตเทศบาลใกล้กับภูเขาไฟ Taal

 

คลิปเผยม้านำเที่ยวติดเกาะภูเขาไฟตาอัลผจญเถ้าหนาทึบน่าเวทนา
14 มกราคม 2563 - 14:51 น.


เรนาโต โซลิดุม ผู้อำนวยการสถาบันแผ่นดินไหวและภูเขาไฟวิทยาฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การปะทุของภูเขาไฟตาอัลครั้งก่อน กินเวลานานหลายเดือน เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่กิจกรรมภูเขาไฟอย่างที่เป็นเวลานี้จะยุติลง ประกาศเตือนภัยระดับ 4 ที่หมายถึงการระเบิดอาจเกิดได้ทุกเมื่อ จะยังอยู่ต่อไปอีกหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นับจากวันอาทิตย์เป็นต้นมา เกิดแผ่นดินไหว 212 ครั้ง จำนวนนี้ 81 ครั้งเกิดขึ้นใกล้กับภูเขาไฟ และบางระลอกเป็นแรงสั่นสะเทือนมกนิจูด 5

คำเตือนล่าสุดหมายความว่า ชาวบ้านราว 3 หมื่นคน ต้องพำนักในศูนย์พักพิงอย่างไม่รู้ชะตากรรม หลังจากต้องอพยพจากบ้านอย่างกะทันหัน ตามประกาศของทางการ ตัดใจทิ้งปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงไว้เบื้องหลัง ซึ่งมีรายงานว่า ล้มตายแล้วจำนวนมาก

ฟิลิปปินส์ เดลีย์ อินไควเรอร์ รายงานว่า ชาวบ้านบนเกาะตาอัลส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง เลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงม้าไว้บริการท่องเที่ยว ขี่ชมทัศนียภาพปากปล่องภูเขาไฟ ชาวบ้านจำนวนหนึ่งกลับไปช่วยสัตว์เลี้ยงที่ยังมีชีวิตรอดจากเถ้าหนาทึบท่วมเกาะในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นม้า วัว และสุกร

คลิปหนึ่งที่แชร์กันมากบนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวาน เป็นคลิปที่ชายคนหนึ่งพูดกับม้าของเขาด้วยเสียงเหนื่อยหอบว่า “แกยังอยู่ แกยังไม่ตาย อย่าหมดหวังนะ” แต่ไม่มีรายละเอียดว่าสัตว์เหล่านั้นได้รับการช่วยเหลือออกมาได้หรือไม่



ภาพ philippines daily inquirer

ขณะที่สภาบริหารจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งว่า ทางการอพยพชาวบ้านจากหลายเมืองราว 1.8 มื่นคนออกมาก่อน ลำดับต่อไปจะเป็นการอพยพสัตว์ แต่พอจะกลับไปอีกครั้ง ภูเขาไฟก็ปะทุหนักขึ้นจึงเป็นอุปสรรค แต่การบินสำรวจทางอากาศพบว่า พืชและสัตว์ป่าบนเกาะตาอัล ล้มตายเกือบหมด จึงไม่มีเหตุผลที่จะส่งกู้ภัยกลับไป

https://www.komchadluek.net/news/fo...iwaPpYkRlYlLWCKWOCpfMJTjVV8oRFjBSs-UhHC22XKzA

 

โลกแปรปรวน! หิมะตกกลางทะเลทรายซาอุฯ อุณหภูมิติดลบ

ซาอุดิอาระเบีย-ปรากฎการณ์หาดูได้ยาก หิมะตกกลางทะเลทราย หลังอุณหภูมิที่เมืองทาบัค ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดิอาระเบีย ลดต่ำลงกว่าจุดเยือกแข็ง

โดยในหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับพายุ และถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาออกโรงเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงการออกไปใช้ชีวิตข้างนอก เพราะอาจจะไม่คุ้นชินกับหิมะ และเกิดอันตราย
https://news.bectero.com/news/16654...hHJn0BA8qUfQnvW_mrF6jlO4I6NFVVkZnEDMlJAcXr8co

 

Thai Science News ข่าววิทยาศาสตร์ล่าสุด

พบกลไกของเซลล์หนอนตัวกลมที่อาจช่วยยืดอายุขัยมนุษย์ได้มากถึง 500 ปี

https://www.thaiphysicsteacher.com/c-elegans-life-span-human

จากความร่วมมือของเหล่านักวิทยาศาสตร์ MDI biological, Buck Insitiube และมหาวิทยาลัย Nanjing ในจีนพบว่าเมื่อลดการแปลรหัส mRNA แต่ยังคงกลไกพื้นฐานของเซลล์ในหนอน Caenorhabditis elegans พบว่านอกจากริ้วรอยบนผิวหนังของหนอนจะดูเรียบเนียนมากขึ้นด้วยแล้ว อายุการใช้งานของเซลล์โดยรวมก็ดูมากขึ้นเช่นกัน

หนอน C. elegans ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มักใช้เป็นโมเดลในการศึกษายีน เนื่องจากยีนของมันมีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ เช่น โมเดลสำหรับการติดนิโคตินที่มีผลต่อพฤติกรรมในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีราคาถูกในแง่การนำมาผสมและขยายพันธุ์ สามารถจัดเก็บโดยการแช่แข็งได้ เมื่อละลายแล้วยังคงสามารถนำมาทดลองได้ต่อ

หนึ่งในนักวิจัยกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่อายุขัยของมนุษย์อาจขยายเพิ่มมากขึ้น 400 - 500 ปีเลยทีเดียว

Hermann Haller ประธาน MDI biological กล่าวว่า

"แม้เราจะค้นพบว่า C. elegans มีความสามารถในการควบคุมริ้วรอยได้ แต่ก็ยังไม่เคลียร์ว่ากระบวนการนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร"

นอกจากการศึกษา C. elegans เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ลดริ้วรอยแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะนำบำบัดแบบผสมผสานเพื่อรักษาโรคมะเร็งและโรคติดเชื้อเอชไอวีอีกด้วย

ผลงานวิจัยดังกล่าวได้ตีพิมพ์ในวารสารออนไลน์ Cell.com โดยสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า

เมื่อลดการแปลรหัส mRNA ทำให้สารสองชนิดในเซลล์ของหนอน C. elegans ได้แก่ DAF-2 และ RSK-1 ทำงานประสานกันได้ดีขึ้น (Synergistic Interaction) ส่งผลให้อายุการใช้งานของเซลล์โดยรวมมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้กระบวนการประสานการทำงานร่วมกันของเซลล์ (Synergistic Interaction) หมายถึง ผลทางเคมีเมื่อสารสองชนิดทำงานร่วมกันกลับให้ผลที่ดีกว่าการทำงานแยกออกจากกัน ผลการศึกษาดังกล่าวสร้างความหวังให้กับนักวิทยาศาสตร์ว่าอาจเป็นหนทางในการค้นพบยีนที่ควบคุมการชราภาพของร่างกายจนกระทั่งเสียชีวิตได้

ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยเกี่ยวกับการยืดอายุไมโทรคอนเดรีย เนื่องจากไมโทรคอนเดรียเป็นออแกเนลล์ที่อยู่ภายในเซลล์มีหน้าที่ปรับสมดุลพลังงานของเซลล์ พบหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างการเสื่อมสภาพของไมโทรคอนเดรียและการชราภาพของร่างกาย นั่นทำให้นักวิจัยชุดนี้จะพุ่งเป้าการศึกษาบทบาทของไมโทรคอนเดรียร่วมด้วยในอนาคต

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าทำได้จริง การมีอายุขัย 500 ปีนี่ไม่รู้จะน่าดีใจ หรือน่าเบื่อดี ฮ่าๆ

เรียบเรียงโดย Einstein@min | ©thaiphysicsteacher.com

Sources:
[1] Translational Regulation of Non-autonomous Mitochondrial Stress Response Promotes Longevity. cell.com, 2019 : https://www.cell.com/cell-reports/fulltext/S2211-1247(19)30858-7?_returnURL=https%3A%2F%2Flinkinghub.elsevier.com%2Fretrieve%2Fpii%2FS2211124719308587%3Fshowall%3Dtrue
[2] Biologists identify pathways that extend lifespan by 500%. phys.org, 2019 : https://phys.org/news/2020-01-biological-scientists-pathways-lifespan.html

ติดตามผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ที่

แอพ Blockdit : https://www.blockdit.com/thaiscience
Instagram : https://www.instagram.com/thaisciencenews
Twitter : https://twitter.com/Thaiphys
Website : https://www.thaiphysicsteacher.com/

 

ประกาศ มวกเหล็ก เขตโรคระบาด
14 มกราคม 2563 - 14:38 น.




14 มกราคม 2563 ปศุสัตว์ เร่งระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโรคปากและเท้าเปื่อยในโคนม โคเนื้อทุกพื้นที่ ประกาศสระบุรี เป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบคู่ ย้ำเป็นโรคที่รักษาได้ วอนเกษตรกรอย่าตื่นตระหนก พากันขายสัตว์ป่วยทิ้ง ยิ่งจะทำให้การระบาดของโรคขยายวงกว้างขึ้น

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าจากการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในโคนมในอำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่ทำให้มีโคล้มด้วยนั้น พรุ่งนี้(15ม.ค.)จะเปิดศูนย์ปฏิบัติควบคุมโรคในพื้นที่ ระดมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ เวชภัณฑ์ และอาหารเร่งช่วยเหลือเกษตรกร เบื้องต้นส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แนะนำให้เข้มงวดการเข้าออกฟาร์ม ทั้งคนและยานพาหนะตอ้งผ่านการฆ่าเชื้อทุกครั้ง และนำวัวมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคได้ฟรี

ทั้งนี้ได้กำชับปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด และลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรในทุกกรณี ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด และปศุสัตว์อำเภอ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้คำแนะนำกับเกษตรกรแล้ว

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าววว่าสาเหตุการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยในโคนมช่วงนี้ เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลให้หญ้าขาดแคลน โคจึงกินอาหารไม่เพียงพอ สุขภาพอ่อนแอ และติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะการกินฝุ่นข้าวโพดที่มากจนเกินไปส่งผลต่อการย่อยของวัว

ทั้งนี้อำเภอมวกเหล็กมีพื้นที่กว้างและลี้ยงโคนมหนาแน่น มีเกษตรกร 2,390 ราย โคนม 99,897 ตัว เมื่อโคป่วยยังคงมีการ เคลื่อนย้ายสัตว์ ซากสัตว์ เช่น มูลสัตว์ น้ำนม อาหารสัตว์ ตลอดเวลาทำให้การควบคุมไม่ให้โรคได้ลำบาก อีกทั้งเมื่อเกษตรกรพบโคมีอาการผิดปกติไม่แจ้งโรคต่อปศุสัตว์อำเภอ/จังหวัด หรือแจ้งโรคช้า

สำหรับโรคปากและเท้าเปื่อยเกิดจากเชื้อไวรัส ไม่มียาฆ่าเชื้อ แต่เป็นโรคที่รักษาได้ หากเป็นในสัตว์กีบคู่ที่โตแล้ว ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ให้อาหารเพียงพอเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค โคที่เป็นโรคนี้แล้วล้ม มักเป็นโควัยอ่อนหรือมีโรคอื่นแทรกซ้อน จึงย้ำเตือนว่า หากโคมีอาการน้ำลายยืดให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อเข้าดูแลอาการ รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย วัวทั่วไปปีละ 2 ครั้ง ส่วนโคนมปีละ 3 ครั้ง

โดยทางปศุสัตว์มีการฉีดวัคซีนให้ฟรี งดการนำสัตว์เข้ามาเลี้ยงใหม่จากโคที่ไม่ทราบแหล่งที่มา หรือจากพื้นที่ที่มีโรคระบาด หลีกเลี่ยง ให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าฟาร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอกเลี้ยงโคและโรงรีดนม เลือกซื้ออาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าไม่มีโรคปากและเท้าเปื่อยระบาด ที่สำคัญทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคที่โรงเรือน ถังนมและอุปกรณ์ต่างๆ

อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนพ.ย.62 จนถึงปัจจุบัน มีการฉีดวัคซีนให้วัวไปแล้ว 91,842 ตัว สำหรับอาการโรคปากเท้าเปื่อย สัตว์จะมีอาการซึม ไข้สูง น้ำลายไหล มีเม็ดตุ่มใส พุพอง เกิดขึ้นภายในปาก ลิ้น เหงือก เพดานปาก ข้างแก้ม ซอกกีบต่อมาเม็ดตุ่มจะแตกเป็นแผล สัตว์แสดงอาการขาเจ็บ เดินกะเผลก น้ำลายไหลมากขึ้น มีแผลในปาก ลิ้น เท้า และหัวนม

สถานการณ์โรคในจ.สระบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศกำหนดเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบคู่ได้แก่ โค กระบือ แพะ แกะ สุกร หมูป่า และกวางตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.62 ปศุสัตว์อำเภอมวกเหล็กได้ประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว ชนิดโรคปากและเท้าเปื่อยในพื้นที่หมู่ 2 บ้านคลองม่วงใต้ ตำบลลำพญากลาง อำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2563 จนถึง 9 กุมภาพันธ์ 2663 เบื้องต้น มีเกษตรกรแจ้งมาแล้ว 108 ราย มี โคนมร่วมฝูง 5,654 ตัว ที่ป่วย / และรักษาให้หาย โดยเหลือ 897 ตัวที่อยู่ระหว่างการรักษา ซึ่งตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะมีรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ไปเป็นผู้บัญชาการศูนย์ควบคุมโรคด้วยตนเอง รายงานผลปฏิบัติมายังส่วนกลางทุกวัน

“วอนเกษตรกร เมื่อพบว่า โคป่วยให้แจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ อย่าขายโคออกเนื่องจากเป็นโรคที่รักษาได้ การเคลื่อนย้ายโคออกจากฟาร์ม ขณะที่ยังป่วยอยู่ จะทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายออกไปยังพื้นที่อื่นเป็นวงกว้างขึ้น” นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าว

https://www.komchadluek.net/news/ag...UY-K2hYItGJTkPNo8dsvfpuap7-qebUYsgwS0lUFCjsIU

 

แดง วงศ์ทวิชาติ

14/01/2020
#ไวรัสโคโรนา #เชื้อโรคร้ายแรง #ภัยพิบัติโลก
ล่าสุดประเทศไทยประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นรายแรกของประเทศไทย และเป็นรายแรกที่ตรวจพบนอกประเทศจีน

ทำให้เกิดมาตรการเฝ้าระวังกันมากขึ้น เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อดังกล่าวแพร่กระจายเข้าสู่ประเทศไทย

UPDATE: อนุทิน เผยอาการผู้ป่วยไข้โคโรนา อาการดีขึ้น ขอคนไทยอย่าตื่นตระหนก
.
วันนี้ (14 มกราคม) ที่สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมผู้ป่วยชาวจีน ซึ่งติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมได้ให้กำลังใจผู้ป่วย และญาติ
.
หลังการตรวจเยี่ยม อนุทินกล่าวว่า ญาติผู้ป่วยขอบคุณทางการไทยที่ดูแลอย่างดี แต่ก็กังวลว่าผู้ป่วยจะมีอาการเครียดจากโรค จนรับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งทางการไทยขอให้ไม่ต้องเป็นห่วง รับรองว่าจะดูแลอย่างดี และจากการติดตามอาการผู้ป่วย ล่าสุด ผู้ป่วยอาการดีขึ้น ไม่มีไข้แล้ว แต่อยู่ในภาวะวิตกกังวลบ้าง จากนี้ เราจะตรวจละเอียดอีกครั้ง ถ้าหายดีแล้ว สามารถกลับประเทศได้
.
ส่วนอีก 3 รายที่เหลือเป็นเชื้อไข้หวัดธรรมดา ไม่มีเชื้อที่เราเฝ้าระวังอยู่ เนื่องจากมาจากเมืองอู่ฮั่น และมีไข้ จึงจำเป็นต้องแยกมาดูอาการ เมื่อหายแล้วมีความประสงค์จะอยู่เที่ยวต่อก็สามารถเที่ยวต่อได้
.
สำหรับคนไทย ขอให้อย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่นำเสนอออกไป อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องรู้จักป้องกันตนเอง อย่าเข้าใกล้ผู้ที่ป่วย ไอ จาม เป็นการปฏิบัติตนตามปกติ แต่ในช่วงนี้ ต้องกำชับกัน หากมีไข้ รู้สึกผิดปกติ อย่าชะล่าใจ ให้ไปพบแพทย์ สำหรับมาตรการควบคุมโรค ประเทศไทยปฏิบัติตามแนวทางขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัดที่สุด
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo

#ไวรัสโคโรนา
#TheStandardCo.

Cr. คุณมาร์

 

I Green

เตรียมเสนอ ครม.ให้ออกกฎเข้มห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกในวันคี่โดยเด็ดขาดจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. ตรวจเพิ่มรถบัสขนพนักงานบริษัท 6 หมื่นคัน
.
ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมมลพิษ ครั้งที่ 1/2563 ที่มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 14 ม.ค. เห็นชอบการออกมาตรการในการป้องกันและควบคุมสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม
.
ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกกฎข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักรว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามเดินรถในเส้นทางถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกในวันคี่โดยเด็ดขาด
.
แต่อนุญาตให้เดินรถเข้ามาในวันคู่ ช่วงเวลา 10.00 - 15.00 น. ตามมาตรา 144 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจจับได้ ยกเว้นรถบรรทุก 10 ล้อที่บรรทุกอาหารสดเท่านั้น
.
"ร้อยละ 72 ของปัญหาฝุ่นละอองมาจากยานพาหนะ โดยมีรถบรรทุกสินค้าจดทะเบียนในกรุงเทพฯ 140,000 คัน พบเป็นรถบรรทุกใช้เครื่องยนต์ดีเซลมากถึง 99,000 คัน จึงจำเป็นต้องออกกฎเพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นละอองไม่ให้สูงเกินค่ามาตรฐาน ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนจะบังคับใช้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้” นายจตุพร กล่าว
.
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะตรวจเข้มตามบริษัทที่มีกว่า 6 หมื่นกว่าคัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มปริมาณฝุ่นละออง ในส่วนกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ขอความร่วมมือกับโรงงานในช่วงเวลาวิกฤตเพื่อลดกำลังการผลิต 50% ซึ่งผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
.
สำหรับเรื่องห้ามเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในกรุงเทพฯ จะเข้มงวดไม่ไห้มีการเผาโดยเด็ดขาด ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ โดยทั้ง 50 เขต จะตรวจเข้มบริเวณการก่อสร้างด้วย หากฝ่าฝืนสามารถระงับการก่อสร้างได้ทันที ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดก็จะกำชับห้ามเผาในที่โล่งเช่นเดียวกัน
.
นายจตุพร กล่าวว่า จะนำเสนอมติที่ประชุมให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า และจะบังคับใช้ในทันที เชื่อว่าจะช่วยลดฝุ่น PM2.5 ไม่ให้เกินค่ามาตรฐานได้
#igreenstory #ฝุ่นPM2point5

 

Setiawan

#ภูเขาไฟ taal อัปเดต ฟิลิปปินส์ วันที่ 15 มกราคม 2020

ผู้อยู่อาศัยของ taal, batangas กำลังตะลึงเมื่อแม่น้ำ pansipit เชื่อมต่อกับทะเลสาบ taal อยู่ๆก็แห้งขึ้น

รอยแตกยังเพิ่มขึ้นในพื้นดิน สัญญาณของ magma ปีนในปล่องภูเขาไฟ #ภูเขาไฟ taal ตาม phivolcs

 

Setiawan
2 ชม. ·
THE PERFECT ASH 2020

Our prayers for all people in the world who experience disaster

Be Safe & Be Alert ❗

 

Setiawan

เถ้าภูเขาไฟของคุณลึกแค่ไหน?

#ภูเขาไฟ Taal ค.ศ. 2020

 

Setiawan

[ตั้งแต่ 8:00 น.]
สถาบัน Volcanology และ Seismology ของฟิลิปปินส์กล่าวว่าการแจ้งเตือนระดับ 4 ยังคงมีผลบังคับใช้กับภูเขาไฟ Taal

ซึ่งหมายความว่าสามารถเกิดการระเบิดที่เป็นอันตรายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน

หน่วยงานรัฐด้านภูเขาไฟกล่าวว่ามีการบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวทั้งสิ้น 466 ครั้งตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์

หนึ่งร้อยห้าสิบหกของเหล่านี้รู้สึกว่ามีความรุนแรงตั้งแต่ความเข้ม 1 ถึง 5

ในขณะเดียวกันแผ่นดินไหวภูเขาไฟจำนวน 159 หลัง ก็รับรู้ได้ ตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นในวันที่ 14 มกราคมถึง 5 โมงเย็นวันนี้

เกาะภูเขาไฟเป็นส่วนหนึ่งของเขตอันตราย 14 กิโลเมตรที่ประกาศหลังจากภูเขาไฟ Taal ปะทุในบ่ายวันอาทิตย์ อพยพผู้คนหลายพันคน

ใช่สามารถใช้แผ่นรองชั้นใน และผ้าอ้อมเด็กเป็นหน้ากากป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมซัลเฟอร์ที่เป็นพิษจากเถ้าถ่านจากภูเขาไฟทาอัล

#PhilippineStar
[AS OF 8:00AM]
The Philippine Institute of Volcanology and Seismology said that Alert Level 4 is still in effect over Taal Volcano.

This means that hazardous explosive eruption is possible within hours to days.

The state volcanology agency said a total of 466 volcanic earthquakes were recorded since Sunday afternoon.

One hundred fifty-six of these were felt with intensities ranging from Intensity 1 to 5.

Meanwhile, a total of 159 volcanic earthquakes were felt since 5 a.m. on January 14 until 5 a.m. today.

The volcanic island is part of the 14-kilometer danger zone declared after Taal Volcano exploded on Sunday afternoon, displacing thousands of people.

Yes, bra pads and baby diapers can be used as protective masks to avoid inhaling toxic sulfur from the ashfall from Taal Volcano.

#PhilippineStar

 

Setiawan

ในวันที่ 12 มกราคม 2020 ภูเขาไฟ #Taal ตื่นขึ้นจากลาวาและเถ้าที่เงียบสงบ และถูกพ่นออกมาเป็นเวลา 43 ปี ซึ่งเต็มถนนและท้องฟ้าของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีเถ้าละเอียดและก๊าซภูเขาไฟ

แผนที่นี้แสดงความเข้มข้นของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ของสตราโตสเฟียร์ ในวันที่ 13 มกราคม 2563 ตามที่ตรวจพบโดย Ozone Mapping Profiler Suite (OMPS) บนดาวเทียม NOAA-NASA Suomi-NPP

In January 12, 2020, the #Taal Volcano awoke from 43 years of quiet and spewed lava and ash, filling streets and skies of the Philippine island of Luzon with fine ash and volcanic gases.

This map shows stratospheric sulfur dioxide concentrations on January 13, 2020, as detected by the Ozone Mapping Profiler Suite (OMPS) on the NOAA-NASA Suomi-NPP satellite.

 

Setiawan

พายุ #เบรนเดน ไอร์แลนด์ วันที่ 14 มกราคม 2020

 

Setiawan

หิมะถล่มที่น่ากลัวใน dalhousie pardesh ประเทศอินเดีย วันที่ 14 มกราคม 2020

 

Setiawan

อย่างน้อย 57 คนเสียชีวิตหลังจากหิมะถล่มถล่มหมู่บ้านในหุบเขา Neelum ของแคชเมียร์ของปากีสถาน

อีก 15 คนเสียชีวิตในอัฟกานิสถานที่อยู่ใกล้เคียง
At least 57 people died after an avalanche struck a village in Pakistani Kashmir's Neelum Valley.

A further 15 people were killed in neighboring Afghanistan.