ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารระดับสูงขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกมาเตือนวานนี้ (25 พ.ย.) ให้ภาคธุรกิจเตรียมความพร้อมรับมือ “#ภาวะสงคราม” โดยปรับเปลี่ยนสายการผลิตและกระจายสินค้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงถูกแบล็กเมลโดยบางประเทศ เช่น รัสเซีย และจีน
    .
    พล.ร.อ.ร็อบ เบาเออร์ ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายทหารของนาโตชาวเนเธอร์แลนด์ แถลงในงานอีเวนต์ของสถาบันคลังสมอง European Policy Centre ที่กรุงบรัสเซล์ว่า “หากเราสามารถมั่นใจได้ว่า บริการและสินค้าที่จำเป็นทุกอย่างจะถูกส่งมอบได้ตามปกติ นั่นก็คือส่วนสำคัญในมาตรการป้องปรามของเรา”
    .
    เบาเออร์ บอกด้วยว่า การป้องปรามไม่ได้หมายถึงศักยภาพทางทหารเท่านั้น เนื่องจากเครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่างที่มีสามารถนำมาใช้ทำสงครามได้ทั้งหมด
    .
    “เราได้เห็นกันแล้วว่า การก่อวินาศกรรมเกิดบ่อยขึ้น และยุโรปก็เริ่มประสบปัญหาด้านพลังงาน” เขากล่าว “เราคิดว่าเรามีสัญญาอยู่กับก๊าซพรอม (Grzprom) แต่ที่จริงแล้วคนที่ทำสัญญากับเราคือ (วลาดิมีร์) ปูติน โครงสร้างพื้นฐานและสินค้าต่างๆ จากจีนก็เช่นกัน คนที่เราทำสัญญาด้วยจริงๆ ก็คือ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง”
    .
    เบาเออร์ ยังแสดงความกังวลเรื่องที่ยุโรปต้องพึ่งพาสินค้าต่างๆ จากจีน โดยเฉพาะแร่ธาตุหายาก (แรร์เอิร์ธ) ซึ่งถูกผลิตและแปรรูปในแดนมังกรถึง 60% และ 90% ตามลำดับ นอกจากนี้ ก็ยังมีองค์ประกอบทางเคมีต่างๆ ที่ใช้ผลิตยากล่อมประสาท ยาปฏิชีวนะ ยาแก้อักเสบ และยาลดความดันโลหิตซึ่งก็มาจากจีนเช่นกัน
    .
    “เรากำลังไร้เดียงสาถ้าคิดว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะไม่มีทางใช้อำนาจเหล่านั้น ผู้นำภาคธุรกิจในยุโรปและอเมริกาจำเป็นต้องตระหนักว่า การตัดสินใจเชิงพาณิชย์มีผลในทางยุทธศาสตร์ต่อความมั่นคงของประเทศของพวกเขาด้วย” เบาเออร์ กล่าว
    .
    “ภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือภาวะสงคราม และปรับเปลี่ยนสายการผลิตและกระจายสินค้าให้เหมาะสม เพราะในขณะที่กองทัพมีชัยชนะในการรบ แต่เศรษฐกิจต่างหากที่จะทำให้ชนะสงคราม”
    .
    ที่มา : รอยเตอร์

    https://www.facebook.com/share/p/ZSzPyZjY2sFJw1eN/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 26, 2024 พลิกกลับอ่อน! เงินบาทเปิดตลาดขยับอ่อนค่า ยังเผชิญแรงขายทองทำกำไร ราคาทองคำปรับตัวลงจากในตลาดเริ่มคลายกังวลปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
    .
    นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.74 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง“ จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.61 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.60- 34.85 บาทต่อดอลลาร์ นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อยในลักษณะ Sideways Up (กรอบการเคลื่อนไหว 34.47-34.75 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าโดยรวมเงินดอลลาร์จะทยอยอ่อนค่าลง ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ และการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ตอบรับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เลือกสก็อต เบสเซนต์ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีฯ คลังคนใหม่ในรัฐบาล Trump 2.0
    .
    เงินบาทยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากโฟลว์ธุรกรรมทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงหนักกว่า -2.4% ในช่วงคืนที่ผ่านมา หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลปัญหาความขัดแย้งใตะวันออกกลาง จากข่าวอิสราเอลใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่ม Hezbollah
    .
    ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดก็มองว่าหากสก็อต เบสเซนต์ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีฯ คลังคนใหม่ได้จริง ก็จะช่วยลดโอกาสที่รัฐบาล Trump 2.0 จะดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าที่รุนแรง รวมถึง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณมากขึ้น นอกจากนี้ เงินบาทก็อาจถูกกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมน้ำมันดิบ หลังราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่องถึง -3% ในช่วงคืนที่ผ่านมา หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
    .
    สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท มองว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นเริ่มกลับมามีกำลังมากขึ้น หลังราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหนัก ส่งผลให้เงินบาทเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าว แม้ว่าโดยรวม เงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways หรือมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้างก็ตาม ทำให้เงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ได้ ซึ่งหากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้ ก็อาจอ่อนค่าต่อทดสอบแนวต้านสำคัญ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้เช่นกัน โดยการอ่อนค่าของเงินบาทอาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปได้ หลังผู้เล่นในตลาดต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์และขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) แถวโซนแนวต้านดังกล่าวเช่นกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เงินบาทอ่อนไหวต่อทิศทางราคาทองคำพอสมควร ทำให้ เงินบาทก็อาจอ่อนค่าได้เร็วแรงกว่าที่ประเมินไว้ หากราคาทองคำปรับตัวลงหนัก ซึ่งต้องจับตาว่าราคาทองคำจะปรับตัวลงต่อหลุดโซนแนวรับราคาทองคำ (XAUUSD) แถว 2,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (แนวรับถัดไป แถว 2,540-2,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3B0mwVa
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #เงินบาท #ลงทุน #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #ราคาทอง #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/UDdmAvLi2w5bfqtn/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 26, 2024 ทรัมเอฟเฟค ! SCB EIC ประเมินนโยบาย Trump 2.0 ฉุดเศรษฐกิจไทยปี 2568 กดดันการค้า การผลิต และการลงทุน เศรษฐกิจโลกคาดขยายตัวต่ำลงเหลือ 2.5% จากเดิม 2.8%
    .
    ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC เปิดเผยบทวิเคราะห์ เศรษฐกิจโลกจะเริ่มเผชิญความท้าทายจากผลของนโยบาย Trump 2.0 ในปีหน้าว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงอยู่ที่ 2.7% ตามที่ประเมินไว้เดิม โดยจะเติบโตชะลอลงแบบ Soft landing ในช่วงที่เหลือของปี แต่เครื่องชี้เร็วเริ่มสะท้อนความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้นมากหลัง Trump ชนะการเลือกตั้ง SCB EIC ประเมินว่า Trump จะมีอำนาจฝ่ายบริหารที่คล่องตัวขึ้น เนื่องจาก Republican sweep ทั้งสภาบนและล่าง ท่ามกลางระบบตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงมาก อย่างไรก็ดี การกลับมาครั้งนี้ Trump จะต้องเผชิญบริบทโลกที่มีสภาพเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศท้าทายขึ้นกว่าสมัยแรก เช่น เงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูงกว่า รวมถึงเกิดสงครามยูเครนและอิสราเอล ซึ่งอาจกระทบประสิทธิผลการดำเนินนโยบายชุดใหม่ของสหรัฐฯ ได้ SCB EIC จึงประเมินว่า Trump จะดำเนินนโยบายชุดใหม่อย่างมีกลยุทธ์ โดยเร่งดำเนินนโยบายในประเทศตามที่หาเสียงไว้ แต่อาจไม่ได้ทำนโยบายกีดกันการค้าแบบสุดโต่ง
    .
    SCB EIC ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะขยายตัวต่ำลงเหลือ 2.5% (เดิม 2.8%) จากผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 เป็นหลัก โดยมองสมมติฐานนโยบาย Trump 2.0 ในกรณีฐานไว้ดังนี้ คือ 1) สหรัฐฯ จะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนเฉลี่ย 20pp (percentage points) และสินค้าประเทศอื่นเฉลี่ย 10pp ขณะที่ประเทศอื่นจะตอบโต้สหรัฐฯ กลับในอัตราภาษีเท่ากัน ด้านยุโรปกับจีนจะขึ้นภาษีนำเข้าระหว่างกันเฉลี่ย 10pp ทั้งนี้การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจะแตกต่างกันระหว่างกลุ่มประเทศและประเภทสินค้า 2) สหรัฐฯ จะลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ผ่านการต่ออายุ Tax Cut and Job Act อีก 10 ปี (ถึงปี 2577) 3) สหรัฐฯ จะออกนโยบายควบคุมผู้อพยพ ซึ่งจะทำให้ยุโรปหันมาใช้นโยบายนี้ด้วย 4) ชุดนโยบายสำคัญ Trump 2.0 จะเริ่มกระทบเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ถึงระยะปานกลาง 5) ประเทศต่างๆ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Trump 2.0
    .
    SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้หลังตัวเลขไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าที่เคยประเมินไว้ แต่นโยบาย Trump 2.0 จะกดดันการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีหน้า SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็น 2.7% (เดิม 2.5%) จากผลมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวสูงตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวดีในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากอานิสงส์วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวรัสเซียและอินเดีย จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จึงมีโอกาสสูงกว่า 36 ล้านคนที่เคยประเมินไว้
    อย่างไรก็ดี SCB EIC ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยปี 2568 ลดลงเหลือ 2.4% (เดิม 2.6%) จากผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 ซึ่งแนวนโยบายจะเร่งให้เกิดปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และทำให้เกิดการกีดกันการค้าที่รุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบผ่านการค้า การผลิต และการลงทุนเป็นหลัก โดยนโยบายกีดกันการค้าของ Trump 2.0 จะทำให้ไทยมีแนวโน้มนำเข้าสินค้าจีนและขาดดุลการค้ากับจีนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องจับตาประเด็น Unfair trade กับสหรัฐฯ เพราะไทยมีแนวโน้มเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากขึ้นต่อเนื่อง และอาจเข้าข่ายเกณฑ์ด้านอื่นอีกด้วย สำหรับการลงทุนภาคเอกชนไทยในระยะข้างหน้าจะมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของ Trump 2.0 ซึ่งจะทำให้ธุรกิจที่ต้องการย้ายฐานการผลิตจากจีนชะลอแผนการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของนโยบาย Trump ที่อาจขยายนโยบายกีดกันการค้าไปกลุ่มประเทศอื่นๆ ด้วย และอัตราภาษีนำเข้าที่จะเก็บเพิ่มยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยจะมีนโยบายการคลังที่คาดว่าจะทยอยออกมากระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยบรรเทาผลกระทบจาก Trump 2.0 ได้บางส่วนในปีหน้า
    .
    SCB EIC ประเมินว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบ ธ.ค. นี้ ตามการสื่อสารของ กนง. ที่เน้นรักษา Policy space เพื่อบริหารความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจการเงินไทยในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี SCB EIC ประเมินว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% อีกครั้งในการประชุมรอบเดือน ก.พ. 2568 เพื่อผ่อนคลายภาวะการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมและสินเชื่อยังคงชะลอตัวและเริ่มสร้างความกังวลมากขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจไทยจะมีความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้นจากนโยบาย Trump 2.0 ขณะที่ภาวะการเงินโลกในปีหน้าจะผ่อนคลายลงจากปีนี้ได้บ้าง ตามทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก ซึ่งจะเอื้อต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย
    .
    เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเร็วจากดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยอาจอ่อนค่าไปอยู่ที่ราว 34.80-35.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังตลาดประเมินว่า Trump จะขึ้นภาษีนำเข้า และประเทศอื่นๆ อาจตอบโต้กลับ ซึ่งจะทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกราว 3-4% และกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าต่อ สำหรับปี 2568 เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าขึ้นจากภาวะ Risk-on ที่จะทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้าตลาดเอเชียและไทย รวมถึงทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยมองกรอบเงินบาทอยู่ที่ราว 33-34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2568
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3V9D4AC
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #ดอลลาร์ #SCBEIC #ไทยพาณิชย์ #ทรัมเอฟเฟค #เศรษฐกิจไทย #เศรษฐกิจโลก #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/xBmaRSFTcvS6vdRh/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 26, 2024 ตลาดซึม! กรุงไทยประเมินยอดขายรถยนต์ไทยซึมยาว ปี 67-68 ลดลงเกือบ 25% เหตุหนี้ครัวเรือนพุ่ง ฉุดเศรษฐกิจชะลอตัว กดรายได้ดีลเลอร์-เช่าซื้อ
    .
    Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยมีมุมมองต่อยอดขายรถยนต์ไทยในปี 2567-2568 พบว่า อาจอยู่ในระดับต่ำที่ปีละ 6.06.1 แสนคัน ลดลงจากค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 2564-66) เกือบ 25% โดยมีแรงกดดันหลักจาก 1.กำลังซื้อของผู้บริโภคที่แผ่วลง บวกกับปัญหาขาดสภาพคล่องของบางกลุ่ม และ 2.ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาหนี้เสีย และคุณภาพของผู้กู้ยอดขายที่หดตัวรุนแรง จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในแง่ของ 1.รายได้และอัตรากำไรของดีลเลอร์รถยนต์ 2.ยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ และอาจกระทบต่อเนื่องมายังด้านรายได้จากดอกเบี้ยรับของผู้ประกอบการเช่าซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน และยังมีผลต่อการฟื้นตัวและ 3.ยอดผลิตรถยนต์ ซึ่งเบื้องต้นเราคาดว่าจะอยู่ที่ 1.62-1.66 ล้านคันในปี 2567-2568 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังถึง 8-10%
    .
    ขณะที่ในระยะถัดไปยังต้องจับตาตลาดในประเทศที่มีแนวโน้มซึมยาวและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทั้งความนิยมรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยการตัดสินใจซื้อรถยนต์ที่มุ่งเน้นด้านคุณสมบัติ สมรรถนะ และราคา มากกว่าคุณภาพ ภาพลักษณ์ หรือแบรนด์
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3ZdTZnc
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #ตลาดรถยนต์ #กรุงไทย #ยอดขายรถยนต์ไทย #เศรษฐกิจ #หนี้ครัวเรือน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/JaNpq5XaBDeDgGJc/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 26, 2024 เคาะแล้ว! กพช. เคาะอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมัน-LPG เริ่ม 1 ธ.ค. 67 หลังจะครบกำหนด 30 พ.ย.นี้
    .
    นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง ในอัตรา 0.0500 บาท/ลิตร และก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ใช้เป็นก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซไฮโดรคาร์บอนเหลว ในอัตรา 0.0000 บาท/กิโลกรัม โดยเริ่มใช้ 1 ธ.ค.67 เป็นต้นไป เนื่องจากประกาศฉบับเดิมจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.นี้
    .
    ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบข้อเสนอที่ให้กระทรวงพลังงาน เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.44 ในประเด็นเรื่องการปรับองค์กรในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก รับผิดชอบดูแลงานด้านการกำหนดนโยบาย และมาตรการในการป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมและให้หน่วยงานที่มีความประสงค์ขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม ดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณโดยตรง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป จากเดิม ที่ให้กระทรวงการคลัง ต้องรับไปดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
    .
    นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กพช. ยังให้ความเห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 3 ฉบับ (3 ผลิตภัณฑ์) ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องอัดอากาศแบบเกลียว และกระจก และมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน นำร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 3 ฉบับ (3 ผลิตภัณฑ์) เสนอครม.ให้ความเห็นชอบ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/4fHSnZT
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #กพช #กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน #พลังงาน #น้ำมัน #LPG #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/Y4y4U3XVmRXbGAXH/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อสังหาฯปี 67 หดตัวหนัก บ้านใหม่เหลือค้างสูงรอบ 8 ปี หวังมาตรการใหม่ช่วยพยุง
    .
    KKP เผยอสังหาฯปี67 หดตัวหนัก บ้านใหม่เสี่ยงเหลือค้างสูงสุดในรอบ 8 ปีกำลังซื้อหด ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปี 2567 สะดุดหวังมาตรการใหม่ช่วยพยุง
    .
    สายงานสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เผยว่าในปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการชะลอตัวนี้ได้แก่ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของ GDP การปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในระดับสูง และการสะสมของสินค้าคงค้าง (inventory) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่รวมถึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการระดับราคาสูง
    .
    ซึ่งอาจนำไปสู่การอิ่มตัวในตลาดสินค้าระดับนี้ในอนาคต คาดว่าในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสที่จะปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะมีมากขึ้น เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน มาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อาจจะมีความเข้มข้นมากขึ้นจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ตลาดมีการฟื้นตัว รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมจากรัฐบาลใหม่ ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์
    .
    จากการคาดการณ์ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจะลดลง 15% หรือประมาณ 320,000 หน่วย ซึ่งเป็นยอดที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะลดลง 8% และในภาคตะวันออกลดลงถึง 11% สาเหตุหลักมาจากการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงเข้มงวด ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/property/1155201?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจBusiness #กรุงเทพธุรกิจRealestate

    https://www.facebook.com/share/p/RKte7bcJaTKxJFRT/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุตฯ ยานยนต์ไทย ‘สาหัส’ จับตาผู้ผลิตชิ้นส่วนปิดโรงงาน จ่อลดวันทำงานเหลือ 2 วัน/สัปดาห์
    .
    ส.อ.ท.รับอุตสาหกรรมยานยนต์สาหัส หั่นเป้าผลิต 4 แสนคัน หลังยอดขายในประเทศทรุด แบงก์เมินปล่อยกู้ยอดขายในประเทศต่ำสุดรอบ 54 เดือน ส่งออกร่วงทุกตลาด จับตาผู้ผลิตชิ้นส่วนกระอักปิดโรงงาน หลังลดโอที ลดวันทำงานเหลือ 2 วัน สัญญาณร้าย ‘นิสสัน’ เตรียมเลิกจ้างในไทย 1,000 ตำแหน่ง
    .
    อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดลล่าสุดกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานการผลิตรถยนต์เดือน ต.ค.2567 พบว่าการผลิตรถยนต์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ต.ค.) มียอดผลิต 1.24 ล้านคัน เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วลดลง 19.28%
    .
    สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันมีแรงงานรวม 444,000 คน มีผู้ประกอบการ แบ่งเป็นผู้ประกอบรถยนต์ 23 ราย, ผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ 8 ราย , ซัพพลายเออร์ เทียร์ 1 รวม 476 ราย และซัพพลายเออร์ เทียร์ 2 ขึ้นไป 1,210 ราย
    .
    นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ลดประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2567 ลงอีก 200,000 คัน จาก 1.7 ล้านคัน เหลือ 1.5 ล้านคัน โดยปรับลดผลิตขายในประเทศจาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1.15 ล้านคัน เป็น 1.05 ล้านคัน
    .
    ทั้งนี้ ได้ลดยอดผลิตเป็นครั้งที่ 2 จากรอบแรกปรับไป 200,000 คัน เท่ากับปีนี้ลดลงถึง 400,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 240,000 ล้านบาท จากเป้าหมายแรกตั้งแต่ต้นปีตั้งไว้ที่ 1.9 ล้านคัน เพราะยอดขายในประเทศลดลงจากการเข้มงวดให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงิน ซึ่งยอดการผลิตดังกล่าวต่ำสุดใน 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน
    .
    นอกจากนี้การส่งออกลดลงทุกตลาดจากผลกระทบสงครามอิสราเอลกับฮามาสที่อาจกระทบส่งออกตลาดดังกล่าว โดยต้องจับตาตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปเป็นพิเศษ รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบเศรษฐกิจโลกจากสงครามยูเครนกับรัสเซีย ที่อาจขยายประเทศอื่น ซึ่งยอมรับว่าสถานการณ์รถยนต์ไทยค่อนข้างสาหัส
    .
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1155191?anm=
    https://www.facebook.com/share/p/f74eEbZ74J1FN7cx/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UPDATE: เปิดโปงช่องโหว่ภาษีวงการไลฟ์สตรีมมิ่งจีน จากพื้นที่สีเทาสู่การปราบปรามครั้งใหญ่ เมื่อรัฐบาลท้องถิ่นเผชิญวิกฤตรายได้ พร้อมบทเรียนราคาแพงของเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์
    .
    หน่วยงานภาษีระดับท้องถิ่นในจีนเดินหน้าปราบปรามการเลี่ยงภาษีในกลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ไลฟ์ขายของ ท่ามกลางรายได้จากภาษีที่ลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การตรวจสอบภาษีจะเข้มงวดขึ้นในอนาคต
    .
    เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักงานบริหารภาษีแห่งรัฐของจีนประกาศกรณีการเลี่ยงภาษี 3 กรณีที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2020-2023 โดยมีการปรับเงินจำนวนมาก
    .
    ตัวอย่างเช่นในมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน อินฟลูเอ็นเซอร์รายหนึ่งถูกปรับเป็นเงิน 14.31 ล้านหยวน (ประมาณ 68.52 ล้านบาท) จากการหลบเลี่ยงภาษีมูลค่า 8.05 ล้านหยวน (ประมาณ 38.55 ล้านบาท)
    .
    ส่วนในมณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ต้องหารายหนึ่งถูกปรับเป็นจำนวนเงินเกือบ 2 เท่าของภาษีที่ค้างชำระ 7.35 ล้านหยวน (ประมาณ 35.20 ล้านบาท) และในมณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออก ผู้ดำเนินรายการไลฟ์สตรีมมิ่งถูกปรับเป็นเงิน 2.47 ล้านหยวน (ประมาณ 11.83 ล้านบาท) จากการกระทำผิดด้านภาษี
    .
    หน่วยงานกำกับดูแลภาษียืนยันที่จะสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ แต่จะไม่ยอมให้มีการเลี่ยงภาษี “ในฐานะบุคคลสาธารณะ อินฟลูเอ็นเซอร์มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และควรเป็นแบบอย่างที่ดี”
    .
    ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นเผชิญกับรายได้ที่ลดลงจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อินฟลูเอ็นเซอร์กลับทำเงินได้มหาศาล แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกปรับหนักหากเลี่ยงภาษี
    .
    Peng Peng ประธานบริหาร Guangdong Society of Reform กล่าวว่า “รัฐบาลท้องถิ่นอาจเพิ่มการปราบปรามการเลี่ยงภาษี เศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้ธุรกิจเลี่ยงภาษีมากขึ้น และรัฐบาลท้องถิ่นจำเป็นต้องแก้ปัญหารายได้ที่ขาดดุล”
    .
    ในปี 2021 Viya อินฟลูเอ็นเซอร์อีคอมเมิร์ซชื่อดัง ถูกปรับ 1.34 พันล้านหยวน (ประมาณ 6.42 พันล้านบาท) ฐานเลี่ยงภาษี ซึ่งทำให้ชาวเน็ตตั้งคำถามเกี่ยวกับรายได้ที่สูงเกินจริง และการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมในอุตสาหกรรมไลฟ์
    .
    Peng กล่าวว่า การเก็บภาษีอินฟลูเอ็นเซอร์ในจีนยังคงเป็นพื้นที่สีเทา เนื่องจากขาดกฎหมายภาษีที่ครอบคลุมสำหรับธุรกิจใหม่ๆ เช่น การไลฟ์
    .
    รัฐบาลท้องถิ่นกำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเงินจากรายได้ที่ดินและภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ลดลง ข้อมูลจากกระทรวงการคลังระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รัฐบาลท้องถิ่นจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.04 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกิน 1 ล้านล้านหยวนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้
    .
    อ้างอิง:
    https://www.scmp.com/economy/china-...mers-who-evade-taxes-local-economies-struggle
    .
    #TheStandardWealth
    https://www.facebook.com/share/p/jp9M2uKQJ23C1ww7/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช็อกโลก! รัสเซียขู่ตั้ง "มิสไซล์พิสัยกลาง" ในเอเชียแปซิฟิก ตอบโต้ “สหรัฐฯ” นาโตรีบหารือฉุกเฉินด่วน 32 ชาติ+ยูเครน หลัง "มอสโก" ยิง “ไฮเปอร์โซนิกโอเรชนิค”
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ (Sergei Ryabkov) แถลงวานนี้(25 พ.ย)ว่า มอสโกกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจะส่งมิสไซล์พิสัยใกล้แจนถึงพิสัยกลางเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอบโต้สหรัฐฯและญี่ปุ่นหากยังคิดตั้งฐานขีปนาวุธเพิ่ม ขณะที่เลขาธิการใหญ่นาโต มาร์ค รึตเตอ เดินสายบินด่วนเข้าตุรกีวันจันทร์(25 พ.ย)หารือประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูญเครนและปาเลสไตน์ หลังวันศุกร์(22 พ.ย) พบว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่คฤหาสถ์รัฐฟลอริดา ก่อนวันนี้(26 พ.ย)นาโตนาโตเปิดกรุงบรัสเซลส์ประชุมฉุกเฉินเรื่องขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกโอเรชนิค(Oreshnik hypersonic missile)กับยูเครน
    .
    บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานวันนี้(26 พ.ย)ว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ (Sergei Ryabkov) แถลงวันจันทร์(25)ว่า
    .
    รัสเซียกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งมิสไซล์เข้ามาประจำการในเอเชียหากว่า สหรัฐฯยังคงเดินหน้าตั้งฐานขีปนาวุธเพิ่มที่นั่น
    .
    พร้อมกันนี้รยาบคอฟกล่าวต่อว่า ตัวเลือกนี้ถูกหารือโดยบรรดาผู้นำระดับสูงรัสเซียหลายครั้ง
    .
    สื่อสหรัฐฯชี้ว่า การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่รัสเซียระดับสูงแสดงให้เห็นเป็นนัยว่าถึงความเป็นไปได้ว่ารัสเซียจะเข้าสู่ความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังเกิดความตรึงเครียดในการงัดข้อกันระหว่างสหรัฐฯ-จีน
    .
    ในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าว TASS ของรัสเซีย เขาเปิดเผยว่ามีการพิจารณาที่จะส่งมิสไซล์พิสัยใกล้ถึงพิสัยกลางเข้าสู่เอเชียแปซิฟิก
    .
    “แน่นอนที่สุด นี่เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ถูกหารือหลายครั้ง” รยาบคอฟกล่าว
    .
    และเมื่อเขาถูก TASS ถามว่า มอสโกอาจจะตั้งขีปนาวุธรัสเซียขึ้นในประเทศเอเชียหรือไม่
    .
    เขาตอบกลับมาว่า “นี่ดูเหมือนเป็นการตอบสนองระบบอาวุธอเมิกันในภูมิภาคใดของโลกจะเป็นการตัดสินใจล่วงหน้าของขั้นต่อไปของพวกเรา”
    .
    การแถลงของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียออกมาหลังสำนักข่าวเกียวโดรายงานวันอาทิตย์(24)ว่า วอชิงตันและโตเกียวกำลังร่วมกันร่าง แผนฉุกเฉินไต้หวัน ในการติดตั้งหน่วยมิสไซล์อเมริกันขึ้นที่ หมู่เกาะนันเซ (Nansei Islands)ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ยาวจากทางตะวันตกเฉียงใต้จากคิวชูไปจนถึงไต้หวัน และการติดตั้งจะอยู่ที่ฟิลิปปินส์เช่นกัน
    .
    การที่จะมีฐานมิสไซล์อเมริกันชั่วคราวที่หมู่เกาะนันเซจะทำให้อเมริกาสามารถมีการป้องปรามทางมิสไซล์ใกล้ไต้หวันได้มากขึ้น
    .
    สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวญีปุ่นที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ในกรณีเกิดวิกฤตไต้หวัน แผนญี่ปุ่น-อเมริกาจะส่งกองกำลังนาวิกโยธินชายฝั่งสหรัฐฯ ( Marine Littoral Regiment) ซึ่งมีระบบยิงจรวดด้วยปืนใหญ่เคลื่อนที่คล่องตัวสูง HIMARS และระบบอาวุธอื่นๆ สามารถเข้าไปตั้งที่หมู่เกาะนันเซ
    .
    บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า กองทัพสหรัฐฯจะตอบโต้ด้วยการส่งหน่วยพิสัยไกลไปฟิลิปปินส์ อ้างอิงจากสำนักข่าวเกียวโด
    .
    ขณะเดียวกันที่วันอังคาร(26)ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม นาโตจะมีการประชุมฉุกเฉินเรื่องขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกโอเรชนิค(Oreshnik hypersonic missile) ร่วมกับยูเครนหลังมอสโกทำการทดสอบในการสู้รบกับเคียฟเมื่อกลางคืนดึกวันพุธ(21)เพื่อตอบโต้ที่เคียฟใช้มิสไซล์พิสัยไกลของชาติตะวันตกยิงเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    หนังสือพิมพ์มอสโกไทม์สรายงานวันอาทิตย์(24)ว่า ยูเครนได้เก็บรวบรวมซากชิ้นส่วนของมิสไซล์เหนือเสียงระดับ 11 มัคของปูตินและแสดงต่อสาธารณะ สำนักข่าวกรองยูเครน SBU ยอมรับว่าเป็นมิสไซล์รัสเซียที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
    .
    ฟรานซ์24ของฝรั่งเศสรายงานถึงการประชุมนาโตฉุกเฉินวันนี้(26)ว่า
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่นาโตให้ข้อมูลว่า “การประชุมจะเปิดโอกาสเพื่อหารือถึงสถานการณ์ความมั่นคงในปัจจุบันในยูเครนจะรวมรายงานสรุปจากเจ้าหน้าที่ยูเครนผ่านทางวิดีโอลิงค์”
    .
    หลังวันจันทร์(25) เลขาธิการใหญ่นาโต มาร์ค รึตเตอ เดินทางเข้าหารือประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ที่กรุงอังการา และก่อนหน้าในวันศุกร์(22) เขาบินเข้ารัฐฟลอริดาด้วยตัวเองเพื่อพบกับว่าที่ผู้นำอเมริกันคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะ
    .
    อ้างอิงจาก โพลิติโกรายงานวันอาทิตย์(24) สำหรับการพบหารือทรัมป์นั้นไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียดการหารือ กล่าวแต่เพียงว่าเป็นการประชุมในประเด็นต่างๆของความมั่นคงโลก
    .
    แต่ทว่าอาจมองได้จากการหารือระหว่างผู้นำนาโตคนใหม่และประธานาธิบดีตุรกี
    .
    เดลีซาบาห์ของตุรกีรายงานวันจันทร์(25)ว่า ประเด็นหารือทั้งสองอยู่ที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนและปาเลสไตน์
    .
    มอสโกไทม์สของรัสเซียรายงานว่า ในวันพฤหัสบดี(21) ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ รัสเซีย ออกมาข่มขู่โลกตะวันตกหลังยิงโชว์มิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกเหนือเสียงเทคโนโลยีใหม่ “โอเรชนิค” ( Oreshnic)
    .
    โดยชี้ว่า เป็นการเตือนถึงการล้ำเส้นของฝ่ายตะวันตกทั้งสหรัฐฯและอังกฤษที่อนุญาตให้ใช้มิสไซล์ ATACMS และมิสไซล์สตอร์มชาโดว์ ของตัวเองเข้าสู่ดินแดนรัสเซีย และส่งผลทำให้มอสโกรู้สึกถึงความเป็นปรปักษ์หลังเคยกล่าวก่อนหน้าว่า การให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลในสงครามกับรัสเซีย จะทำให้นาโตเข้าสู่สงคราม
    .
    ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้เปิดเผยกับมอสโกไทม์สตามรายงานวันพุธ(21)ว่า รัสเซียยิงมิสไซล์พิสัยกลางที่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบใส่ยูเครน โดยหนังสือพิมพ์รัสเซียชี้ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันน่าจะหมายความถึง “โอเรชคิน(Oreshkin)
    .
    และอ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ยูเครนและพันธมิตรของสหรัฐฯทั้งหลายได้รับรายงานก่อนถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้มิสไซล์เพื่อช่วยให้ประเทศเหล่านั้นเตรียมพร้อม
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันยังอ้างในการให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่ามอสโกมีมิสไซล์นี้แค่หยิบมือและใช้เพื่อต้องการข่มขู่เคียฟ
    .
    เดลีซาบาห์รายงานว่า ในการหารือระหว่างรึตเตอร์และแอร์โดอันนั้นเกี่ยวข้องในสงครามรัสเซีย-ยูเครนและขั้นตอนที่จะถูกนำมาใช้เพื่อยุติการสังหารหมู่ในปาเลสไตน์
    .
    การหารือยังรวมไปถึงมาตรการร่วมกันต่อต้านการก่อการร้ายและประเด็นอื่นๆ อ้างอิงจากสำนักงานด้านการสื่อสารของทำเนียบประธานาธิบดีตุรกี
    https://www.facebook.com/share/p/mfcv2wzqyoyLRRSN/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่ได้อัปเดตข่าวการเคลื่อนที่ของสนามแม่เหล็กขั้วเหนือของโลกมานาน ข่าวที่จะเอามาลงเป็นข่าวจากช่องยูทูปเมื่อ12 วันที่แล้ว เขาบอกว่า ตำแหน่งของขั้วเหนือสนามแม่เหล็กโลกเคลื่อนตัวไป 5.3 ไมล์ จากตำแหน่งเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา จากภาพ ดูท่า สนามแม่เหล็กก็ยังมุ่งสู่ไซบีเรียต่อ ไม่มีแนวโน้มกลับแคนนาดา ช่องนี้ช่วงหลังไม่ค่อยติดตามครับ เหมือนถูกหลอก เพราะเขาบอกว่า ขั้วเหนือไปถึงจุดที่ 40 องศาที่เขากำหนดไว้ สนามแม่เหล็กโลกขะกลับขั้ว แต่พอไปถึง สนามแม่เหล็กก็เหมือนจะติดขัดแถวนั้น และก็มีกสรเคลื่อนตัวย้อนกลับนิดหน่อย ก็มาบอกว่า มีประมาณนักวิทยาศาสตร์ บอกว่า ตำแหน่งขั้วเหนือสนามแม่เหล็กจะกลับแคนนาดา ผมก็หลงเชื่อไปบ้าจี้ลุ้น ว่าสนามแม่เหล๋กโลกจะกลับขั้ว แต่เดชะบุญ พระเจ้ากล้วยทอด ช่วยไว้ ไม่ให้ ข่าวที่ช่องนี้เหมือนหลอกผมมา เป็นจริง สนามแม่เหล็กขั้วเหนือก็เดินหน้าต่อ และดูเหมือนจะโดด เร็วกว่าเดิม ขอให้สิ่งทีาช่องนี้บอกมาไม่เป็นจริง ขอให้ขั้วเหนือสนามแม่เหล็กไปเป็นขั้วใต้สนามแม่เหล็กเร็วๆ น่ะครับ สาธุ ครับ



    Screenshot_2024-11-30-16-11-07-11_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg

    Screenshot_2024-11-30-16-15-05-26_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg

    Screenshot_2024-11-30-16-09-22-04_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg

    Screenshot_2024-11-30-16-09-28-78_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2024
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Dec 2, 2024 ปลดเกือบครึ่ง! ทีสเซนครัพพ์ ยักษ์ธุรกิจเหล็กใหญ่สุดเยอรมนีปลด 11,000 คน ธุรกิจระดับตำนานกว่า 220 ปี เผชิญเหล็กราคาถูกจากจีนตี ตลาดรถอีวีซบเซาในยุโรป

    ทีสเซนครัพพ์ (Thyssenkrupp) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ระดับตำนานในอุตสาหกรรมเหล็กของยุโรปและเยอรมนี และเป็นผู้ผลิตเหล็กที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ภายใน 6 ปีจากนี้ไป หรือภายในปี 2030 จะเริ่มทยอยปลดพนักงานครั้งใหญ่ออกเป็นจำนวนมากถึง 11,000 คน หรือคิดเป็น 40% ของพนักงานทั้งหมด 27,000 คนที่มีอยู่ในบริษัทในปัจจุบัน การปลดพนักงานจะประกอบไปด้วย 2 ระยะ เริ่มจาก ปลดออกจำนวน 5,000 คนภายในปี 2030 และอีก 6,000 คน จะถูกปลดจากการที่ให้บริษัทในเครือแยกออกไปเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับบริษัทแม่อีกต่อไป หรือมีการยุบบริษัท และก่อตั้งขึ้นใหม่ในสายอุตสาหกรรมอื่นๆในอนาคต นอกจากนี้โรงงานที่อยู่ในเครือของบริษัททีสเซนครัพพ์ ได้แก่ โรงงาน Kreuztal-Eichen จะต้องปิดตัวลงไปพร้อมกับการปลดพนักงานจำนวน 500 คนด้วย

    สาเหตุที่มีความจำเป็นต้องปลดพนักงานมากถึง 11,000 คนในครั้งนี้เป็นผลมาจากการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กจากประเทศจีนซึ่งมีราคาถูก และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างตลาด ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในยุโรปนั้น ชะลอตัวอย่างตกต่ำและต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีความต้องการที่จะใช้เหล็กในการผลิตรถอีวี นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายในการตัดลดค่าใช้จ่ายให้ได้ถึง 10% ภายในระยะเวลา 5-6 ปีข้างหน้า ที่สำคัญต้องการที่จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต และปรับปรุงประสิทธิผลของผลผลิต เพื่อที่จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการสร้างต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้

    ทีสเซนครัพพ์ เปิดเผยต่อไปว่า จะต้องมีการปรับลดกำลังการผลิตเหล็กในอนาคต จากระดับในปัจจุบันปีละ 11.5 ล้านเมตริกตันให้ลงมาเหลือเพียง 8.7-9.0 ล้านเมตริกตันต่อปีในอนาคต หรือรถกำลังการผลิตลงกว่า 24%

    ในด้านผลการดำเนินงานนั้น ในปี 2024 นี้ ทีสเซนครัพพ์ตกอยู่ในภาวะวิกฤตโดยไตรมาสที่ 1 ปีนี้ มียอดขายลดลง และต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ที่สำคัญ สถานการณ์ก็ยังยิ่งเลวร้ายลง ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้ ตัวเลขขาดทุนจะอยู่ที่ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 55,400 ล้านบาท ส่งผลให้นายเบิร์นฮาร์ด ออสเบิร์ดซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยกรรมการในคณะกรรมการบริหารอีก 5 คนลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถแก้ปัญหาธุรกิจได้

    ทีสเซนครัพพ์ ก่อตั้งขึ้นในยุค 1800 หรือเมื่อกว่า 224 ปีผ่านมา ในปี 1999 บริษัทเหล็กทีสเซนครัพพ์ควบรวมกับบริษัทผลิตเหล็กร่วมชาติของตระกูลทีสเซน จึงกลายเป็นทีสเซนครัพพ์ขึ้น โดยใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตบันไดเลื่อน ลิฟต์ เรือดำน้ำ เมื่อปี 2015 บริษัทดังกล่าวกลายเป็นบริษัทชั้นนำระดับต้น ๆ ของทั้งเยอรมนี และยุโรป โดยมีบริษัทในเครือกว่า 600 แห่ง และถูกจัดให้เป็นกลุ่มธุรกิจเหล็กใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลก

    ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ทีสเซนครัพพ์มีมูลค่าตลาดที่ 2,400 ล้านยูโร หรือกว่า 87,600 ล้านบาท ซึ่งลดน้อยลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อ 2 ปีผ่านมา

    #เหล็ก #เยอรมนี #ปลดพนักงาน #ตกงาน #ปิดโรงงาน #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/MiP8rwC8YLp2UmN4/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Dec 2, 2024 เฉพาะหนี้เสีย ! สศช.ชี้แนวทางแก้หนี้ ด้วยวิธีแฮร์คัท บัตรเครดิตกลุ่มหนี้เสีย และจำนวนหนี้ไม่สูง รวมกว่า 500 ล้านบาท ช่วยหลุดบัญชีดำ เครดิตบูโร แต่ต้องจ่ายคืนหนี้บางส่วน 10%

    นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงแนวทางการที่เจ้าหนี้กับลูกหนี้เจรจาตกลงกันลดมูลหนี้ที่ติดค้างกันไว้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ที่ค้างไว้ได้ โดยไม่ต้องเป็นหนี้สูญ หรือ แฮร์คัทหนี้ในส่วนของหนี้บัตรเครดิตสำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้ 5,000 – 10,000 บาท ว่าในเรื่องนี้ต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลได้มีการหารือกันแล้วกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยในส่วนนี้จะเป็นลูกหนี้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิตที่เป็นหนี้เสีย (NPL)ไปแล้ว และมีชื่อติดอยู่ในบัญชีเครดิตบูโร โดยการช่วยเหลือนั้นจะให้ลูกหนี้ส่วนนี้กลับมาชำระหนี้บางส่วนและจะปลดชื่อออกจากเครดิตบูโรที่เป็นบัญชีหนี้เสียให้เพื่อให้สามารถกลับมาทำธุรกรรมทางการเงินได้ปกติ

    โดยเมื่อดูจากจำนวนลูกหนี้อาจจะมีจำนวนมากประมาณ 1 ล้านบัญชี แต่ว่ามูลหนี้รวมกันไม่มากอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งหากสามารถแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ก็จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียที่มีปัญหาในส่วนนี้ได้

    ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องอันตรายทางศีลธรรม (Moral Hazard) หรือไม่ นายดนุชา กล่าวว่าลูกหนี้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเฉพาะที่สถาบันการเงินนั้นมีรายชื่อลูกหนี้อยู่แล้วไม่ได้ให้เป็นการทั่วไป ซึ่งไม่ใช่ส่วนที่เป็นบัญชีหนี้บัตรเครดิตปกติทั่วไปด้วยส่วนนี้จะแยกบัญชีออกมาอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีจะต้องมีการนำเสนอ ครม.เห็นชอบในวันที่ 11 ธ.ค.นั้นคาดว่าเป็นเรื่องการรายงานให้ ครม.รับทราบส่วนการดำเนินงานอาจจะต้องใช้งบประมาณบางส่วน และอาจจะมีลูกหนี้บางส่วนที่เป็นของสถาบันการเงินของรัฐที่อาจจะต้องได้รับความช่วยเหลือด้วยซึ่งต้องรอรายละเอียดจากกระทรวงการคลัง

    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #แก้หนี้ #หนี้เสีย #สินเชื่อบัตรเครดิต #การเงิน #NPL #สินเชื่อ #เครดิตบูโร #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/nAkt8sQsECGNkMSs/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Dec 1, 2024 ใช้สิทธิก่อน! พนักงานโตชิบากว่า 3,000 คนแห่เกษียณก่อนกำหนดในญี่ปุ่น สูงถึง 75% ของเป้าหมายลดพนักงานทั้งหมด 4,000 คน

    โตชิบา คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และบริการโลจิสติกส์ชื่อดังระดับโลกจากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า พนักงานที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนดมีจำนวนมากกว่า 3,000 คน หรือคิดเป็น 5% ของจำนวนพนักงานโตชิบาที่ทำงานภายในประเทศญี่ปุ่น และคิดเป็น 75% ของจำนวนพนักงานที่ตั้งเป้าหมายปลด หรือลดกว่า 4,000 คน ซึ่งประกาศไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมผ่านมา

    เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2024 ผ่านมา นายทาโร่ ชิมาดะ ประธานบริษัทโตชิบา ญี่ปุ่น แถลงว่า บริษัทจะปลดพนักงานโตชิบาภายในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 4,000 คน จากที่เคยประกาศว่าจะปลดพนักงานถึง 5,000 คนเมื่อในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งการปลดพนักงานจำนวนมากในครั้งนี้เป็นไปตามแผนในการเร่งปรับโครงสร้างธุรกิจภายใต้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ของโตชิบา ที่มีชื่อว่า เจแปน อินดัสเตรียล พาร์ทเนอร์ หรือ JIP

    สำหรับตัวเลขสรุปสุดท้ายการปลดพนักงานโตชิบาที่มีจำนวนถึง 4000 คนคิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน นอกจากนี้เพื่อเป็นการตัดลดควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องจึงได้มีการเตรียมย้ายสำนักงานของ Toshiba จากที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางธุรกิจของกรุงโตเกียวไปยังเมืองคาวาซากิ ในด้านการคาดการณ์ผลการประกอบการพบว่าตั้งเป้าหมายที่จะมีกำไรเกิดขึ้น 10% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา โตชิบา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และอื่นๆที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เตรียมตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ด้วยการปลดพนักงานจำนวนมากถึง 5,000 คนหรือคิดเป็น 7% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 6,700 คนในประเทศญี่ปุ่น การปลดพนักงานครั้งใหญ่นี้นับว่าเป็นการปลดล็อคงานมากที่สุดในรอบ 9 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเรื่องอื้อฉาวกรณีมีการตกแต่งบัญชีของบริษัทโตชิบาในประเทศญี่ปุ่น (มีต่อหน้า 2/2)

    (หน้า 2/2) สาเหตุในการปลดพนักงานในครั้งนี้ โตชิบาต้องการปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารจัดการช่วงระยะกลางของบริษัท นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์มีผลประกอบการที่ตกต่ำท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้โตชิบามีผลการดำเนินงานขาดทุน 11,900 ล้านเยน หรือกว่า 2,856 ล้านบาท เกิดขึ้นในปีงบประมาณ ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนธันวาคม ปี 2023 ผ่านมา

    การปลดพนักงานในครั้งนี้ฝ่ายบริหารจัดการจะเริ่มพูดคุยกับสหภาพแรงงานในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า จะมีจำนวนตำแหน่งเท่าไหร่ ที่จะถูกปลดออกในแต่ละสายงานธุรกิจ

    อย่างไรก็ตามแผนการปลดงานในเบื้องต้น ระบุว่าพนักงานโตชิบาที่เข้าข่ายถูกปลดออกในครั้งนี้จะอยู่ในส่วนของสายงานสนับสนุนการทำงานของแต่ละสายงานธุรกิจ รวมถึงพนักงานที่ทำงานประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ นอกจากนี้หลังจากมีการปลดพนักงานออกไปแล้ว โตชิบา จะดำเนินการควบรวมและลดขั้นตอนสายการทำงานเพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยจะให้ความสำคัญในการสร้างพื้นฐาน เพื่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะเน้นกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีดิจิตอล

    โตชิบาเปิดเผยเพิ่มเติมว่ามีแผนที่จะควบรวม 4 สายงานธุรกิจเข้ากับสำนักงานใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยสายงานธุรกิจพลังงาน เช่น โรงงานพลังงานพลังงานนิวเคลียร์ สายธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟ รถราง สายงานธุรกิจอุปกรณ์ ใช้งาน เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เซมิคอนดักเตอร์ และสายงานสุดท้ายคือสายงานธุรกิจไอที ทำให้จำนวนพนักงานที่จะถูกปลดออกจะอยู่ในส่วนที่มีสายงานซ้ำซ้อน ได้แก่ ฝ่ายธุรการ ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน รวมถึงจะมีการควบรวมสายปฏิบัติงานของแผนกดังกล่าวดังกล่าวด้วย

    #โตชิบา #ตกงาน #ปลดพนักงาน #ญี่ปุ่น #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/dLutZemmYyLxEjrJ/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UPDATE: ปภ. เตือน 14 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 3-5 ธ.ค. ขอประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ-ทำตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
    .
    วันนี้ (2 ธันวาคม) เวลา 11.30 น. ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศฉบับที่ 1 (319/2567) ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น.
    .
    แจ้งว่าหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2567 ดังนี้
    .
    ◾จังหวัดชุมพร 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร, อำเภอปะทิว, อำเภอท่าแซะ, อำเภอสวี และอำเภอพะโต๊ะ
    ◾จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านตาขุน, อำเภอพนม, อำเภอดอนสัก, อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน
    ◾จังหวัดนครศรีธรรมราช 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขนอม, อำเภอสิชล, อำเภอนบพิตำ, อำเภอท่าศาลา, อำเภอฉวาง, อำเภอช้างกลาง, อำเภอนาบอน, อำเภอทุ่งสง, อำเภอชะอวด และอำเภอหัวไทร
    ◾จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีบรรพต, อำเภอศรีนครินทร์, อำเภอป่าพะยอม, อำเภอกงหรา และอำเภอป่าบอน
    ◾จังหวัดสงขลา 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา, อำเภอหาดใหญ่, อำเภอรัตภูมิ, อำเภอจะนะ, อำเภอเทพา, อำเภอนาทวี, อำเภอสะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย
    ◾จังหวัดปัตตานี 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี, อำเภอโคกโพธิ์, อำเภอยะรัง และอำเภอมายอ
    ◾จังหวัดยะลา 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยะหา, อำเภอกาบัง, อำเภอบันนังสตา, อำเภอเบตง และอำเภอธารโต
    ◾จังหวัดนราธิวาส 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสาคร, อำเภอจะแนะ, อำเภอสุคิริน และอำเภอแว้ง
    ◾จังหวัดระนอง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระนอง, อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ
    ◾จังหวัดพังงา 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคุระบุรี, อำเภอตะกั่วป่า, อำเภอกะปง และอำเภอท้ายเหมือง
    จังหวัดภูเก็ต ทุกอำเภอ
    ◾จังหวัดกระบี่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกระบี่, อำเภอปลายพระยา, อำเภออ่าวลึก, อำเภอเขาพนม และอำเภอคลองท่อม
    ◾จังหวัดตรัง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง, อำเภอสิเกา, อำเภอห้วยยอด และอำเภอย่านตาขาว
    ◾จังหวัดสตูล 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสตูล, อำเภอควนกาหลง, อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง
    .
    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงประสานแจ้ง 14 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังได้ โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้
    .
    ทั้งนี้ กำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่เดิม ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด
    .
    สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน ‘THAI DISASTER ALERT’ และหากได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทาง LINE ‘ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784’ โดยเพิ่มเพื่อน LINE ID: @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
    .
    #TheStandardNews

    https://www.facebook.com/share/p/2KNBL8HsKQMbwpVr/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระวัง! #โดมิโน่ !!! บริษัทสวีเดน #ล้มละลาย จ่อแตะหมื่นแห่ง! สถิติหนักสุดตั้งแต่วิกฤติยุค1990s เสียวลาม! เกิดอะไรขึ้น? #ระเบิดเวลา

    ปีนี้ (ถึงตอนนี้) นับได้ 9,197 แห่ง และคาดว่าสิ้นปีจะแตะหลักหมื่น
    https://www.bloomberg.com/news/arti...t-level-since-1990s-crisis?srnd=homepage-asia

    https://www.facebook.com/share/NEbMBVXudx3k5Dyr/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Japan: ญี่ปุ่นเตรียมขึ้นราคาอาหารและวัตถุดิบหลายพันรายการ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนปีหน้า

    ผู้บริโภคในญี่ปุ่นเตรียมได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาอาหารอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อของชำสูงขึ้น โดย Teikoku Databank บริษัทวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่น ระบุว่า ผู้ผลิตอาหารเตรียมขึ้นราคาสินค้าเกือบ 4,000 รายการระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนปีหน้า โดยบริษัทเหล่านี้โทษว่าเป็นเพราะต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

    Teikoku Databank เปิดเผยว่า ได้รวบรวมข้อมูลราคาจากผู้ผลิตอาหารในประเทศ 195 ราย โดยระบุว่าราคาสินค้ามากกว่า 1,000 รายการจะเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว และแนวโน้มราคาที่สูงขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งปี

    ผู้บริโภคจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่ม 1,251 รายการ ซึ่งเป็นจำนวนสินค้าที่ปรับราคาขึ้นมากที่สุด รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ขนมปังที่ปรับราคาขึ้นมากกว่า 1,220 รายการส่วนอาหารแปรรูปจะมีการปรับราคาขึ้นมากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งรวมถึงอาหารแช่แข็งและผลิตภัณฑ์ข้าวต้ม

    สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาปรับขึ้นคือต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นเช่นเดียวกับปีนี้ แต่ผู้ผลิตอาหารก็อ้างถึงต้นทุนในการจัดจำหน่ายและบุคลากรที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

    ส่วนในปี 2024 มีสินค้าอาหารและวัตถุดิบขึ้นราคาทั้งหมด 12,520 รายการ ซึ่งลดลงประมาณ 60% จากปีก่อน
    —————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #ญี่ปุ่น #อาหาร #วัตถุดิบ #ขึ้นราคา #อาหารญี่ปุ่น
    #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNN
    ได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originals
    ที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals

    https://www.facebook.com/share/p/W3Kq3WLDugEU459a/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์บริการสุขภาพผู้สูงอายุศิริราช สมุทรสาคร สถานที่ เลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เบอร์โทร 034 484 103 เป็นสาขาของโรงพยาบาลศิริราช ช่วงเริ่มเปิดดำเนินการ รับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เห็นบอกว่าเปิดได้ประมาณ 11 เดือนแล้ว ดูแลผู้สูงอายุ

    IMG20241203100257.jpg IMG20241203100554.jpg IMG20241203100712.jpg IMG20241203100842.jpg IMG20241203100905.jpg IMG20241203100917.jpg IMG20241203100943.jpg IMG20241203100958.jpg IMG20241203101049.jpg IMG20241203101149.jpg IMG20241203101255.jpg IMG20241203101318.jpg IMG20241203101339.jpg IMG20241203101609.jpg IMG20241203101634.jpg IMG20241203101653.jpg IMG20241203101701.jpg IMG20241203101737.jpg IMG20241203101755.jpg IMG20241203101812.jpg IMG20241203101821.jpg IMG20241203101838.jpg IMG20241203101852.jpg IMG20241203101930.jpg IMG20241203103544.jpg IMG20241203103612.jpg IMG20241203103650.jpg IMG20241203103730.jpg IMG20241203103743.jpg IMG20241203103754.jpg IMG20241203103910.jpg IMG20241203104040.jpg IMG20241203104313.jpg IMG20241203104320.jpg
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1733261173066.jpg

    ดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลตที่อันตรายอย่างยิ่งในอเมริกาใต้
    ดัชนี UV อยู่ที่ 18 ซึ่งถือว่าสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วน 10 นี่ถือว่าสูงมาก
    https://www.facebook.com/share/p/3t54jEWJx5uYMtKE/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดียูน ซุก ยอล แห่งเกาหลีใต้ ประกาศ 'กฎอัยการศึกฉุกเฉิน' ในวันอังคาร โดยกล่าวหาว่าพรรคฝ่ายค้านพยายามควบคุมรัฐสภา เอนเอียงหาเกาหลีเหนือ และกระทำการต่อต้านรัฐซึ่งทำให้รัฐบาลเป็นอัมพาต
    .
    ปธน.ยูน มีคำประกาศทางโทรทัศน์ โดยให้คำมั่นว่าจะ "กำจัดกลุ่มผู้สนับสนุนเกาหลีเหนือ และปกป้องระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ"
    .
    ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการต่าง ๆ ที่นำออกมาใช้นี้จะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศและกระบวนการทางประชาธิปไตยอย่างไร
    .
    ปธน.ยูน ผู้ซึ่งมีคะแนนนิยมลดลงในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ประสบอุปสรรคในการผลักดันวาระต่าง ๆ ผ่านรัฐสภาที่ครอบครองโดยพรรคฝ่ายค้าน นับตั้งแต่ขึ้นบริหารประเทศเมื่อปี 2022
    .
    พรรคพลังประชาชน (People Power Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลแนวทางอนุรักษ์นิยมของยูน ประสบความติดขัดในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับปีหน้า
    .
    ขณะที่ตัวปธน.ยูน เองได้ออกมาปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้มีการสืบสวนอิสระต่อข่าวอื้อฉาวที่พัวพันกับสตรีหมายเลขหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ จนก่อให้เกิดการวิจารณ์อย่างรุนแรงจากคู่แข่งทางการเมืองของเขา
    .
    มีรายงานว่า พรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้เรียกประชุมฉุกเฉินทันทีหลังคำประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินของปธน.ยูน
    -------------------------------‬
    แหล่งข่าว
    https://www.voathai.com/a/south-korean-president-declares-emergency-martial-law/7885493.html
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/4pVbRhb1FP2TBwvp/
     

แชร์หน้านี้

Loading...