"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 9 พฤษภาคม 2007.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วันเวลาที่ 11-11


    จักรวาล ได้เผยให้มนุษย์ได้ทราบ ล่วงหน้าแล้วว่า วันแห่งหายนะซึ่งจะชำระโลกสถานหนักคือ วันเวลาที่ 11-11

    ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่นอกระบบเอกภพ พร้อมด้วยดวงจิตจักรวาลจำนวนมาก จะร่วมมือกันส่งคลื่นพลังงานความรักความถี่สูงพร้อมไอเย็นมายังดวงอาทิตย์ ของระบบสุริยะ เพื่อสร้างปฎิกิริยาให้เกิดการระเบิดขึ้นบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ก่อให้เกิดคลื่นความถี่วิทยุและพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กที่เข้มข้นสูงสุด ในรอบหนึ่งหมื่นสองพันปีแผ่กระจายออกมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์ เป็นพายุสุริยะมุ่งสู่ดวงจันทร์และโลก ด้วยอัตราความเร็ว 1 หนึ่งล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคลื่นวิทยุความถี่สูง ซึ่งเป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กเช่นกัน จะเป็นผู้นำทางให้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่เข้มข้นถึงเป้าหมายที่ต้องการได้

    ทันที ที่ดวงจันทร์ได้รับคลื่นพลังงานที่เข้มข้น ซึ่งแผ่ผ่านมาจากดวงอาทิตย์ พลังงานภายในระบบของดวงจันทร์จะถูกอัดกระแทกอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดการรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กที่เข้มข้น ยิ่งกว่าที่ถูกส่งมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์ มันจะดันทะลุจากด้านหนึ่งของดวงจันทร์ที่รับคลื่นพายุสุริยะ พุ่งผ่านมายังดาวโลกอีกทอดหนึ่ง ระหว่างเกิดกระบวนการนี้ สามารถจะรับรู้แรงสั่นสะเทือนทางกายภาพของดวงจันทร์ ได้ไม่น้อย

    พายุแม่เหล็กทั้งที่เดินทาง มาจากดวงอาทิตย์โดยตรง และจากการเสริมพลังของดวงจันทร์บริวารของโลกมีความเข้มข้นสูงมากกว่าปรกติ ส่วนใหญ่จึงสามารถฝ่าแนวแม็กนิโตสเฟียหรือสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งห่อหุ้มบรรยากาศโลกเข้ามาได้ เมื่อพายุจากฟ้าพุ่งผ่านเข้ามาสู่บรรยากาศโลกได้ มันจะพุ่งตัวเข้าอัดกระแทกกับพื้นโลกในทันที

    ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ อันเป็นผลลัพธ์ของกระบวนการที่เกิดขึ้น จากการกระทำทางเทคนิคต่อดาวเคราะห์โลกจากนอกระบบโลก จะก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กในอากาศอย่างรุนแรง ท้องฟ้าวิปริตแปรปรวน และพายุฝนฟ้าคะนองบดบังแสงอาทิตย์อยู่ยาวนาน คลื่นทะเลจะปั่นป่วน ภาวะน้ำท่วมใหญ่จะเกิดขึ้นไปทั่ว ขณะที่สายฟ้าผ่าจะอัดกระแทกมายังพื้นโลกนับครั้งไม่ถ้วน ทุกสิ่งที่ถูกอัดกระแทกมันจะพังทลายลงมากองกับพื้นดินชั่วพริบตาเดียว ไม่ละเว้นแม้แต่สิ่งที่มีชีวิตที่จะต้องล้มลงกับกองเถ้าถ่าน ของซากปรักหักพังเหล่านั้น ผู้ที่เคยสบถสาบานขอให้ฟ้าผ่าตาย แต่ไร้สัจจะพึงระวังตนให้ดี

    นอกจากนั้น ผลการกระทำทางเทคนิคจากนอกระบบโลก ยังจะก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กในอากาศ กลายเป็นพายุหมุนทอร์นาโด รูปกรวยยักษ์ พุ่งเข้ากระแทนพื้นโลกอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน มันจะกวาดชำระทุกสิ่งในเส้นทางการเคลื่อนตัวของมัน ให้กลายเป็นพื้นที่ราบ ตามอำนาจความรุนแรงของมัน ดังที่มนุษย์รู้กันอยู่ภายในชั่วพริบตาเดียว เหตุการณ์ร้ายแรงเหล่านี้ มันจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ และถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีใครคาดเดาได้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ผู้ไม่ประมาทและมีสติเท่านั้น จึงจะมีชีวิตรอดได้ ในท่ามกลางความเลวร้ายที่กล่าวมาแล้ว มนุษย์โลกไม่อาจหลีกเลี่ยงการกระทำทางเทคนิคของจักรวาล อันเป็นปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติที่กล่าวนี้ไปได้

    ดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักรบแห่งแสงสว่าง ผู้ปฎิบัติตนอยู่ในความดีงาม ตามคำสอนของพระศาสดาแท้จริงเท่านั้น จะเป็นดินแดนปลอดภัยบนโลกใบนี้ หลังจากที่โลกเกิดภาวะวิกฤตอย่างต่อเนื่อง จนถึงการชำระโลกครั้งสุดท้าย พื้นแผ่นดินเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้ จะเป็นอาณาเขตแห่งหายะภัยที่มนุษย์โลกคาดไม่ถึง ในวันเวลาที่ 11 นั้นวันเวลาดังกล่าว การกระทำทางเทคนิคจากนอกระบบโลกและการกระทำทางเทคนิคจากในระบบโลกเอง

    มันจะเกิดขึ้นพร้อมกัน คลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กความถี่สูง ที่เป็นพลังเย็นในระดับ 7 จะถูกส่งผ่านเข้ามาพุ่งตรงเข้าหาเป้าหมาย มันจะก่อให้เกิดพายุความเย็นจัดอย่างรุนแรง ครอบคลุมไปทั่วเป้าหมายนั้น ขั้วโลกเหนือและขั้นโลกใต้จะปั่นป่วน แนวแกนแม่เหล็กโลกในใจกลางโลก จะเกิดการบิดตัวอย่างรุนแรงขึ้นพร้อมกัน เพราะมันถูกกระตุ้นให้เกิดการระเบิดขึ้นบริเวณของไหลที่อยู่ด้านบน เพื่อเปลี่ยนทิศทางของแนวแกนไปสู่ตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว

    มันจะทำให้แผ่นดินใหญ่ของทวีป ซึ่งมีมหาสมุทรคั่นกลาง เกิดการบิดตัวอย่างรุนแรงตามไปด้วย ขณะที่โลกจะปลดปล่อยคลื่นพายุแม่เหล็กออกมาอย่างรุนแรง อันเกิดจากการระเบิดภายในนั้น โดยมันจะรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่ เหล็กที่เข้มข้น ดันทะลุผ่านชั้นเปลือกโลกแต่ละชั้นขึ้นมายังพื้นผิวดิน ทำให้แต่ละชั้นของเปลือกโลกซึ่งกำลังบิดตัวอยู่จะถูกคลื่นพลังงานอันมหาศาล กระแทกอัดให้เกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ยิ่งกว่าแผ่นดินไหวครั้งใดๆ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากในใจกลางโลกออกมาสู่พื้นผิวด้านบน โดยใช้ระยะเวลาของกระบวนการเพียง 9 นาทีเท่านั้น แต่การสั่นสะเทือนของแผ่นดินจะต่อเนื่องยาวนานร่วม 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

    ผลที่ปรากฎคือ แผ่นดินบางส่วนของภาคพื้นทวีป จะแยกตัวออกจากกัน ตามรอยร้าวของเปลือกโลก แต่ดั้งเดิมน้ำทะเลจะถาโถมเข้ามาแทนที่ บริเวณที่ราบริมฝั่งทะเลของทวีปนั้นจะจมลงใต้น้ำ ขณะที่บริเวณบางแห่งของเมืองใหญ่ พื้นแผ่นดินจะยุบตัวจมหายลงไปเบี้องล่าง พร้อมวัตถุที่ปลูกสร้างฝุ่นฟุ้งเปลวไฟ หมอกควัน และเสียงกัมปนาทมันจะเกิดขึ้นอื้ออึง ภายในเวลาไม่นานนักความสงบเงียบ จะเริ่มก่อตัวขึ้นหลังจากนั้น 3 วันเต็ม ทั้งหมดที่กล่าวไว้ไม่ใช่มายา.....ไม่ใช่มายา.... มันคือกระบวนการกระทำทางเทคนิคของจักรวาล เพื่อการชำระระบบโลกเป็นครั้งที่ 4 นับแต่มีมนุษย์ดำรงอยู่บนโลกใบนี้


    ที่มา:- หนังสือวันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายะโลก ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL MBA .,M.S.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2020
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำพยากรณ์ของ เจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์

    43c511ca8c8673045ed2c7ba81adb479.jpg
    ภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เป็นความเสียหายมหาศาล ที่ไม่อาจคาดคะเนได้เลย !!!

    ภัยธรรมชาติในครั้งนี้ ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินนับไม่ถ้วน ภัยครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเงียบสงบมาก โดยไม่มีการเตือนให้รู้ตัวก่อนเลย ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่มีใครได้มีโอกาสตั้งตัว

    ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย ภัยครั้งนี้จะคร่าทุกชีวิต โดยไม่มีแบ่งแยกว่าจะรวยหรือจน ภายใน 1 ชั่วโมง ทุกสิ่งจะจมหายอยู่ใต้ท้องทะเล เวลาสั้นๆ ไม่มีความช่วยเหลือ ไม่มีการเหลียวแลจากใครเลย เพราะทุกชีวิตล้วนแล้วแต่ดิ้นรนเอาตัวรอด เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น คาดว่าไม่เกินปี พ.ศ.2555 (เบื้องบนบอกมาว่า หมดเวลาแล้ว สำหรับการเตือนภัย จึงสามารถเกิดภัย ดังที่กล่าวมานี้ได้ทุกเวลา นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป)ไม่น่าคลาดเคลื่อนไปกว่านี้ ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์ จะเกิดขึ้นต้นปีหรือท้ายปีเท่านั้นเอง

    ไม่มีเทพองค์ใดที่จะหยุดทุกสิ่งไม่ให้เกิดขึ้นได้ ทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้วและมันกำลังจะเกิดขึ้น โดยฝีมือของมนุษย์นั่นเอง (ทำลายธรรมชาติ) เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากเกาะภูเก็ตถูกทำลายไปมาก การก่อสร้างของเกาะภูเก็ต เป็นการทำลายรากฐาน ซึ่งเป็นแกนที่มีขนาดเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 9 กิโลเมตร กำลังร้าวและแตกออกจากกัน อีกไม่นานมันก็จะหักและจมลงในทะเล น้ำจะท่วม จะเกิดคลื่นยักษ์ที่ใหญ่ที่สุด

    น้ำจะซัดเข้าหาฝั่งเกือบทุกพื้นที่ของภาคใต้ และจะจมหายอย่างถาวรตลอดกาล ความเสียหายในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศ ที่มีพื้นที่ติดทะเลจะจมหายหมด เพราะฉะนั้นทุกคนจึงควรเตรียมความพร้อมนับแต่บัดนี้ และไปให้พ้นจากพื้นที่อันตรายให้เร็วที่สุด อย่ามัวคิดว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะไม่มีเวลาให้คิดแล้ว ให้ทำเลยถ้าจะทำอะไร โดยไม่ต้องสงสัย เพราะความสงสัยจะทำให้ไม่รอดจากภัยพิบัติครั้งนี้


    การเตรียมความพร้อม

    1.หาแหล่งที่อยู่ใหม่ที่ปลอดภัย (เมืองไทย ยกเว้นภาคใต้ หรือจังหวัดที่ติดทะเล)
    2.เตรียมน้ำดื่มน้ำใช้ อย่างน้อย 6 เดือน
    3.เตรียมอาหารแห้งและยารักษาโรค
    4.เตรียมตะเกียง หรือเทียน ไฟฉายและถ่าน
    5.เตรียมเครื่องนุ่งห่ม
    6.เตรียมจิตใจให้เข้มแข็ง อย่ากลัว อย่าท้อ

    การช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ เป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่บอกต่อชีวิตไม่อับไม่จน...ขอให้ทุกคนมีจิตใจเมตตาปราณี ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อวิกฤติมาถึง...ขอให้ลูกหลานทุกคน จงแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ และจงมีแต่ความสุขความเจริญภายภาคหน้าตลอดไป...

    *คำพยากรณ์ วันที่ 28 เมษายน 2555 เป็นวันมหันตภัย*
    (เบื้องบนบอกมาว่า หมดเวลาแล้ว สำหรับการเตือนภัย จึงสามารถเกิดภัย ดังที่กล่าวมานี้ได้ทุกเวลา นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป)

    ***ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่ต้องส่งต่อ เพราะมันไม่มีผลอะไรกับคุณ ไม่ได้มีคำสาปแช่งใดๆอยู่ในเมลล์นี้ เพียงแค่อยากให้คุณช่วยกัน FW ต่อเพื่อเป็นการเตือนภัยเท่านั้น****


    ที่มา https://sites.google.com/site/sittkomkm/kha-thanay-cea-mae-kwn-xim
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2020
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    2020: The End of Days (ภาพยนตร์เรื่องภัยธรรมชาติ)

    การดู 22,838,853 ครั้ง 14 ม.ค. 2018​

    2020: The End of Days (ภาพยนตร์เรื่องภัยธรรมชาติ - แมชอัป)
    คอลเลกชันของคลิป ที่ฉันตัดต่อใหม่จากภาพยนตร์ภัยพิบัติต่างๆ
    หลังจาก 1100 ความคิดเห็น ที่ส่วนใหญ่ถามเหมือนกัน - "นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่ / คุณรู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดอะไรขึ้นในปี 2020 ฯลฯ " - ฉันตัดสินใจปิดส่วนความคิดเห็นที่นี่ ผู้คนควรพยายามอ่านชื่อเรื่องหรือคำอธิบายก่อนโพสต์ เพราะคำตอบของคุณอยู่ตรงนั้น

    Zeki Laurent Sadic
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บทสรุปหนทางรอดและผู้ที่พึ่งพาได้ Angel/Lightworks

    maxresdefault.jpg

    การที่พวกคุณอ่านบทความ แสดงว่าพวกคุณรู้สึกถึงภัยที่กำลังมา ความกังวล ความหดหู่ รู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก นี้คือเสียงจากภายในตัวคุณ ลองใช้สิ่งนี้ในการหาความจริง ว่ารู้สึกใช่!กับสิ่งนั้นหรือไม่

    สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนิมิตร เห็นไฟ บนฟ้า ระเบิดใต้น้ำ วงแหวนแห่งไฟ บนกองเพลิมมีเลข วันที่ 15th,16th..

    ส่วนสื่อในและนอกผุู้มีญาณ บอกดาวนิบิรุหรือดาวหาง ที่เคยชนโลกในยุคไดโนเสาร์จนสูญพันธ์ุ แต่คราวนี้จะมาแค่เฉียด แต่นำอุกาบาต ฝุ่นพิษ ฝนพิษ มาด้วย..ทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว.สึนามิ น้ำท่วม.ฝนพิษ มาเดือนธันวาคม คลาดเคลื่อนไม่น้อยกว่านี้ มันกำลังมาแล้ว!

    วิธีเตรียมพร้อม/หนทางรอด แบ่งเป็น 2 ส่วน ทำตามนี้..

    1.ก่อนเกิดภัย

    *1.1 เตรียมอาหารแห้ง..น้ำ..ยา..ตะเกียง.เสื้ออุ่น..น้ำมันรถ..พอประมาณ
    *1.2 เตรียมสถานที่หรือจุดหมายที่ปลอดภัย ว่าจะไปในยามเกิดเหตุ(ที่ๆไม่มีคนเยอะ,กิเลสเยอะหรือวิญญาณมืดเยอะ,ที่ๆไม่ใกล้น้ำ,ภุเขาไฟ,น้ำพุร้อน,รอยเลื่อนหรือตึกสูง,ที่ๆไม่ใกล้วงแหวนแห่งไฟ)หรือไปหาคนที่พึ่งพาและปกป้องได้(อธิบายด้านล่าง).แต่ระหวังของปลอม..พระปลอมเจ้าสำนักปลอมหรือเจ้าสำนักผีมนต์ดำ.บางผีดีอาจให้คำแนะนำได้แต่ปกป้องเราไม่ได้...
    หากหาไม่ได้ขอให้เชื่อมั่นในพลังตัวเองแล้วสวดมนต์ ขอพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเสริมสร้างเกาะคุ้มครอง
    *1.3 เตรียมสติ..เตรียมใจจากเรื่องตกใจ แตกตื่นหรือน่ากลัว..หรือการจากลาหรือเสียคนรักคนรุ้จัก

    2.ตอนเกิดภัย

    *2.1 เก็บของแล้วไปยังสถานที่ๆกำหนดไว้
    *2.2 หากหนีไม่ทัน ก็ปิดป้านปิดประตู เกิดไรขึ้นห้ามออกมา..
    *2.3 สวดมนต์-นั่งสมาธิ ให้พระคุ้มครอง เพื่อสร้างเกาะแก้วคุ้มครองตน

    ยุคนี้มี Angel/Lightworks มาเกิดเยอะ Angel/Lightworks 144,000 คน+Angel Earth+.มนุษย์ผู้ตื่นจากกิเลส และอื่นๆที่พึ่งพาได้ มีประมาณล้านกว่าคน ที่จะปกป้องและเตือนสติคุณได้ กระจัดกระจายไปทั่วโลก

    จุดสังเกตุดูผู้ที่พึ่งพาได้ Angel/Lightworks

    คนที่คนอื่นดูว่าบ้า.หลุดโลก.มีสติ.มีโลกส่วนตัวสูง.มีความรักความเมตตาสูง.แต่ไม่สนใจวัตถุ.ความเชื่อ.อำนาจ.ชื่อเสียง.เงินทอง.ค่านิยมสังคมหรือความคิดของคนอื่น(ปัจจัยพวกนั้นคือสิ่งที่ใช้เอาตัวรอดเท่านั้น)

    ผู้ที่ที่เชื่อมั่นในความคิดตัวเองจนถึงที่สุด.ความคิดนั้นต้องดีและไม่ทำร้ายคนอื่น ไม่หวั่นไหวต่อคำดูถูกนินทาหรืออุปสรรคใดๆ.เขาเหล่านี้คือคนที่มีสติและแข็งแกร่ง..เวลาเกิดภัยจะพึ่งพาได้มากที่สุด...

    ไม่ใช่เพราะพวกที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ คนพวกนั้นของปลอม เพราะของจริงไม่จำเป็นต้องใช้อิทธิฤทธิ์หรือโชว์ให้ใครเห็น โชว์ให้ใครเคารพ หรือหลอกเอาเงิน หากหลงเข้าไปในคนพวกนั้น แทนที่จะปกป้อง กลับดูดเอาภัยเข้ามา

    Angel/Lightworks พวกเขาคือนางฟ้าเทวดาหรือจิตวิญญาณที่สูงส่ง ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่มีจิตใจสูงส่ง มีความรักความเมตตาสูง มีความดีความบริสุทธิ์ที่อบอุ่นงดงาม เป็นเกาะคุ้มครองตนอยู่แล้ว บวกกับมีสติ พวกเขารู้ว่าตนจะปลอดภัย และรู้ว่าต้องทำยังไง แม้ไม่มีอิทธิฤทธิ์พวกเขาก็ปกป้อง เตือนสติ ช่วยเหลือและชี้ทางให้พวกคุณได้ ตามภารกิจที่ได้รับมา

    เหตุผลที่ Angel/Lightworks ไม่มีอิทธิฤทธิ์ เป็นเหมือนคนธรรมดา เพราะถูกซ้อนจากคนของความมืด เนื่องจากมีภารกิจซับซ้อนมากมายหลายอย่าง (อ่านรายระเอียดตามโพสเก่าๆ) แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะกลับไปยังตัวตนที่แท้จริง และได้พลังและความทรงจำทั้งหมดกลับมาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

    ลองคิดตามดู นึกถึงคนที่คุณเคยรู้จัก คนใกล้ตัว หรือคนที่นับถือ ว่ามีใครมีคุณสมบัติเหล่านี้ไหม ถามตัวเอง ถามความรู้สึกดู และลองถามเขาคนนั้นดู ว่าจะปกป้องคุณได้ไหม ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่คุณจะเลือกทางเดินเอง และจะไม่เสียใจที่เลือกทางนี้

    ที่บอกไว้คือทางรอดที่ดีที่สุด แต่หากหนีไม่ทัน ไปไม่ทัน หรือไม่มีใครเลย ก็ให้ทำตามที่บอกไว้ อยุ่บ้านปิดประตู สวดมนต์ให้สิ่งศักดิ์คุ้มครอง ขอให้เชื่อมั่นและพึ่งพาตัวเอง.ไม่ใช่ว่าวิธีนี้จะไม่มีโอกาสรอด.เพียงแต่ไม่รุ้.เพราะขึ้นอยุ่กับแต่ละคนแต่ละสถานที่ ว่ามีความเสี่ยงและความกลัวมากน้อยเพียงใด หากคุณมีสติควบคุมความกลัวและสถานที่ไม่อยู่ในจุดเสี่ยง คุณก็จะปลอดภัย

    .ขอให้เชื่อมั่นในวิธีที่ตนเลือกแล้ว ทำให้ดีที่สุดก็พอ.ที่เหลือก็แค่ยอมรับมัน..ขอให้มีสติ..พยายามเอาตัวรอด.แล้วความช่วยเหลือจะมา..ขอให้ปลอดภัย.


    >_<.ST.>_<, 10 พฤศจิกายน 2017

    ที่มา https://palungjit.org/threads/การเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติต่างๆและสงครามนิวเคลียร์.610446/page-40
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2020
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เบื้องบนบอกมาว่า...หมดเวลาของการเตือนภัย
    (แสดงว่าได้เวลาเผาจริงกันแล้วครับ)


    ข้อมูลเตือนภัย จากเพื่อนกัลยาณมิตรสายวัดท่าซุง


    หลวงพ่อบอกว่า ก่อนที่อุกกาบาตจะตกในวันที่ 1 กันยายนนั้น ฝนจะตกก่อน 4 วัน นั่นคือภัยหรือสัญญาณ จะมาปลายเดือนสิงหาคม ตามที่หลายท่านทราบ ราววันที่ 27-28 สิงหาคม อาจจะเป็นฝนตก ไฟดับ ฟ้ามืด หรือภัยอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง) พออุกกาบาตตก วันที่ 1 กันยายน ฝนก็จะตกอีก 3 วัน รวม 7 วัน 7 คืน (ตามที่ทราบกัน)

    หลังจากนั้นจะเกิดอะไรก็รอดูกันเอง ท่านบอกว่าต้องอยู่ในบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 200 เมตร ขึ้นไป ภาคใต้ทั้งหมด ตะวันออกทั้งหมด ภาคกลางตอนล่าง ต้องขึ้นที่สูง เพราะโดนหมด ทางอีสาน มีคนถามถึงขอนแก่น อุดรธานี ท่านบอก ไม่ปลอดภัย เพราะจะมีน้ำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งภัยอื่นๆด้วย

    เท่าที่ผมฟังมานะครับ ขออนุญาตแนะนำ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการเคลื่อนย้ายไปสถานที่อื่นดังนี้ เป็นคำแนะนำจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และเสด็จปู่ท้าวมหาพรหม

    ....ถ้าเป็นบ้านมากกว่า 1 ชั้นขึ้นไปจะดีมาก ให้เลือกแก้ไขที่ห้องชั้นล่างให้มิดชิด โดยซื้อโฟมหนาขนาด 1 นิ้ว มาตีปิดรอบๆชั้นล่างไม่ให้มีอากาศรั่วไหล และปิดทางช่องลมให้มิดชิด ถ้าเป็นห้องแอร์อยู่แล้วยิ่งดีไม่ต้องทำอะไรเพิ่มอีก

    ...แล้วเตรียมน้ำ และอาหารแห้งเช่นอาหารกระป๋อง คุ้กกี้ มาม่า ปลาทาโร่ โอวัลติน ตามจำนวนคนในบ้าน

    ...เตรียมอ๊อกซิเจนกระป๋อง หรือน้ำดื่มที่ผ่านโอโซน (มีอ็อกซิเจน) หรือโซดา (ใช้ดื่มเพื่อกระตุ้นอ๊อกซิเจนในร่างกาย)

    ...เตรียมน้ำมันพืช หรือวาสลีน หรือน้ำมันมะกอก (แล้วแต่กำลังเงิน) เอาไว้ทาตัวให้ชุ่ม แล้วสวมทับด้วยถุงพลาสติกแล้วจึงทับด้วยเสื้อผ้า เมื่ออากาศติดลบ เพราะน้ำมันมีความร้อนแฝง น้ำมันมะกอกจะช่วยให้ร่างกายไม่สูญเสียน้ำ ผิวไม่แห้ง อากาศไม่กระทบผิว และ เลือดจะไม่แข็งตัว
    อื่นๆที่ท่านคิดว่าจำเป็นมีดังนี้

    ...ถุงสำหรับทิ้งของเสียที่ขับถ่ายออกมา ถ้าขาดน้ำชำระล้าง เพื่อป้องกันโรคระบาด

    ...คนที่ติดดื่มน้ำทีละมากๆ แล้วฉี่บ่อยๆ แนะนำให้อมน้ำไว้ 5 วินาที แล้วค่อยๆกลืนจนหมด คราวละ 3-4 อม เมื่อหิวน้ำ จะรู้สึกสดชื่นมาก ร่างกายไม่ขาดน้ำ และไม่ฉี่บ่อย

    ...อาหารแนะนำประเภทคุ๊กกี้ ไมโลโอวัลติน ปลาทาโร่ อาหารกระป๋อง อาหารซอง เนื่องจากน้ำหนักเบาและให้พลังงานสูง ไม่ต้องกินมาก กินพออยู่ได้ จะขับถ่ายน้อยลง

    สรุปได้ว่า ก่อนวันที่ 27 ฝนจะตกแต่เป็นฝนธรรมดา คืนที่ 27 เป็นต้นไป ฝนจะตกหนักต่อเนื่องไปถึง 31 สค. วันที่ 1 กย.ฝนยังตกอยู่และจะมีอย่างอื่นตกมาโหม่งพิภพด้วย

    สมทรง เอื้อจิตสันติ ข้าราชการบำนาญ
    คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.ช.


    ที่มา https://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-194
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หรือจะเป็นจริง ตามคำทำนาย ปู่อินทร์ จะเกิดหายนะ ภัยพิบัติใหญ่ วิบากกรรมของมนุษย์


    17 ต.ค. 2020
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ระวังก๊าซพิษจากภูเขาไฟ (toxic gas)

    6-17-2-1024x536.jpg
    ธุลีหลาก ภูเขาไฟพินาตูโบ ฟิลิปปินส์ พ.ศ. 2534
    ก๊าซพิษ (toxic gas) ในระหว่างที่ภูเขาไฟปะทุ จะมีการปล่อยก๊าซซึ่งเป็นพิษต่อมนุษย์ ออกมาหลายชนิด เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่ามีหลายกรณีของการเสียชีวิตจากภูเขาไฟ มีสาเหตุเนื่องจากการสูดดมก๊าซพิษมากเกินไป เช่น การปะทุของภูเขาไฟลาไค (Laki) ในประเทศไอซ์แลนด์ ปี พ.ศ. 2326 ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้สัตว์เลี้ยง 75% และประชาชน 24% ของทั้งหมดในพื้นที่โดยรอบเสียชีวิต

    นอกจากนี้กรณีทะเลสาบกลางปล่องภูเขาไฟนีออส ในประเทศคาเมรูน ซึ่งที่ผ่านมามีการรั่วซึมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากปล่องใต้ทะเลสาบอยู่ตลอดเวลา แต่ถูกกดทับให้อยู่ใต้ก้นทะเลสาบด้วยมวลน้ำด้านบน จนกระทั่ง พ.ศ. 2529 เกิดการระเบิดของก๊าซ มวลน้ำที่ปนเปื้อนด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไหลลงสู่หมู่บ้านด้านล่าง ประชาชน 1,700 คน และวัวควาย 3,000 ตัว ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาด้านล่างเสียชีวิต


    ที่มา https://www.mitrearth.org/6-17-volcanic-hazard/


    *** ฝัน ****

    ใต้ภูเขาไฟ....เป็นโพรงเหมือนขยายโพรงกระดูก

    สายฟ้าผ่าขนาดยักษ์ Spark จากเมฆดำสู่พื้นดินริมเจ้าพระยาพระรามหก
    จนเปลือกแผ่นดิน ระเบิดแตกออก เป็นเหมือนภูเขาไฟระเบิด ลาวาเปลวไฟสีเขียวใต้โลก ไหลตามลำแม่น้ำ สองฝั่งล่มทลาย ไหลไปตามลาวาแดง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร " 20 มกราคม 2010
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คลื่นลูกแรกมาแล้ว จากดินแดนแห่งแสงสว่าง


    22 ต.ค. 2020
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    21 ธันวาคม 2020 จะเกิดอะไรขึ้น!?



    22 ต.ค. 2020
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วันนี้- สิ้นปี 2020 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง



    14 ก.ย. 2020
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พิบัติกรรม!! สาส์นจาก พระแม่ธรณี กรรม กำลังไล่ล่า ผู้กระทำ ให้แผ่นดินร้อน


    28 ต.ค.2020

     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประเทศไทยจะดีได้ ก็ต่อเมื่อ "เกิดเหตุใหญ่" เสียก่อน !!

    dFQROr7oWzulq5FZUIEttgoZHZD4JEpiYdzVDVp5zqSES0lnbhKup0wRjPzQFv8BOQn.jpg

    ยุคสามร่มโพธิ์ศรี จากคุณอัญญาสิทธิ์


    ถึงคุณ เกษม เรื่อง "สามร่มโพธิ์ศรี" นั้นที่จริงคือเรื่องของพระจักรพรรดิ์ ที่พระศรีฯ จะลงมายกยอพระศาสนา ที่พระศรีฯท่านมาเป็นพระยาธรรมิกราช ปกครองโลก พระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่เป็นคล้ายพระสังฆราชของโลก และพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่คล้ายนายกของโลก โดยมีเหล่า อัญญาสิทธิ์ และ อัญญาธรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ลงมาทำหน้าที่ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปฎิบัติรอพระจักรพรรดิ์ กันทั้งนั้นและมักอยู่ในที่ลี้ลับ แต่ถ้าปฏิบัติจิตถึงก็สื่อกันได้

    รายละเอียดเรื่องสามร่มโพธิ์ศรี ผมกำลังรวบรวมจากคนในคณะหลายๆคน เพราะฟังมา ต่างวาระกัน แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังทีหลังครับ ที่สำคัญก็คือกาลของยุคพระจักรพรรดิ์ ใกล้เข้ามามากแล้ว ครูบาอาจารย์ ท่านมาบอกบ่อยๆให้เร่งปฏิบัติกัน พระศรีฯใกล้จะลงมาทำหน้าที่พระจักรพรรดิ์ แล้ว คำว่า "ใกล้" นี้ ในโลกภายในนั้นหากเป็น 5-10 ปีมนุษย์นั้น ถือว่าน้อยมาก

    ที่ผมกำลังกังวลก็คือ กาลของพระจักรพรรดิ์ จะมาเร็วกว่าที่คิดมาก ครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ผมยังทำไม่เสร็จอีกมาก ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้ว่าเมื่อกาลของพระจักรพรรดิ์ใกล้เข้ามา หายนะจะเกิดขึ้นกับโลก เทวดาเขาจะทำฤทธิ์ โลกจะปั่นป่วนเท่าที่จำได้ ท่านบอกว่า "ประเทศอเมริกาจะเป็นเกาะเป็นแก่ง" ยุโรปต่อไปก็จะหายนะอยู่ไม่ได้ ต้องมาพึ่งแผ่นดินไทย (ต่อไป ไทยกับลาวจะกลับมารวมกัน) ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น หายไป ฯลฯ

    และ ประเทศไทยจะดีได้ ก็ต่อเมื่อ "เกิดเหตุใหญ่" เสียก่อน
    การเมืองไทยคนจะฆ่ากันตายเป็นเบือ แต่ที่เป็นอยู่ทางภาคใต้ตอนนี้คิดว่ายังไม่ใช่เหตุการณ์ที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ เคยถามท่านว่า "ไม่ให้เกิดไม่ได้หรือ" ท่านว่า "ปู่ยีเว่าไว้แล้ว ปานพระเจ้าเว่า เปลี่ยนแปลงไม่ได้"

    หากใครสังเกตดีๆ ลมพายุนั้นคล้ายจักรหมุน หากใครเคยขี่จักรภายในจะเข้าใจว่าเป็นยังไง เท่าที่เห็นตอนนี้คือภายใน ปราบภายใน ก็ล้นออกมาภายนอก ใครมีกรรม เป็นเชื้อสายของพวกที่เขาปราบภายในก็จะได้รับผลกระทบ ถ้าจะไล่ลำดับ ก็ต้องไปตั้งต้นศึกษาระบบจิตวิญญาณที่หมุนเวียนอยู่บนโลกตั้งแต่ยุครามเกียรติ์แหละ

    เอาเป็นว่าพวกอิสลามคือเชื้อยักษ์พวกนึง ฝรั่งก็เชื้อยักษ์อีกพวกนึง ทางเอเชียก็เป็นพวกเทวดา นาค ฯลฯ รวมทั้งลูกผสมเชื้อยักษ์ก็มีเช่นกัน ศาสตร์วิชาการที่มนุษย์ใช้อยู่บนโลกปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นวิชาของพวกเชื้อยักษ์เป็นคนคิด (ยิวกับยักษ์ เป็นภาษาลัญญลักษณ์) สุดท้ายศาสตร์วิชาการที่มนุษย์เอามาใช้ก็จะทำลายเบียดเบียนมนุษย์กันเอง


    ที่มา https://palungjit.org/threads/ข่าวดี-ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์ในปี-2549.1321/page-10
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โลกต่างดาว ในมิติที่ 5

    10978521_790936910996699_3098831199778974232_n.jpg

    #เรื่องราวของคุก และบุคคลที่ต้องโทษสถานเบาในมิตินี้ ตามที่สัญญามาฝากจ้ะ
    (อ่านเหมือนอ่านนิยาย นิทาน ตามจินตนาการกันนะจ้ะ อย่าคิดมาก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) ทิวทัศน์งามนอกโลกต้องโศลกชวนเคลิบเคลิ้มผู้ท่องเที่ยวดังไฟเฉลิม เร่งลุกเหิมสร้างกรรมดี มีโดมแก้วยานลอยฟ้า พสุธาทองเปล่งศรีเพชรนิลจิลในวารี ผู้คนมีอารยธรรม สื่อสารใช้โทรจิต นิ่งสนิทอากาศขัณฑ์บริสุทธิ์เย็นทุกวี่วัน มหัศจรรย์มิติไกล

    บรรยากาศโดยรวม ของมิติที่ 5

    ท้องฟ้าที่นั่นจะเป็นสีม่วงผสมน้ำเงิน มีแสงออโรล่าหรือแสงเหนือสีเขียว มีดวงดาวดวงใหญ่ๆ มากมายอยู่ทั่วท้องฟ้า ซึ่งดวงมหึมา ใหญ่มากๆ ไม่ใช่มองเห็นเป็นดวงเล็กๆ เหมือนของพวกเรานะ

    มีรถไฟลอยฟ้า ย้ำว่าลอยฟ้าไม่มีเพราะว่ามันไม่ต้องใช้รางเลย มีตึกรูปร่างแปลกประหลาดที่ไม่มีในโลกของเรา และโลกของเราก็ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ มีอยู่มากมาย

    การเป็นอยู่จะอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ บ้านเมืองเขายิ่งเจริญเท่าไหร่ เขายิ่งรักษาสภาพแวดล้อมมากเท่านั้น มีทั้งภูเขา น้ำตก ทะเล คนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างดี

    วิวัฒนาการทันสมัยแต่กลับอยู่รวมกับธรรมชาติ โดยไม่มีปัญหา ผู้คนส่วนมากมักจะใส่ชุดสีขาว มีแขน มีปก กันซะส่วนใหญ่ การเดินทางจะใช้การเดินทางแบบยาน

    แต่ละคนจะมียานของตน ซึ่งไม่สามารถขโมยกันได้ ยานจะเล็กใหญ่ สวยไม่สวยขึ้นอยู่กับกำลังการบำเพ็ญของแต่ละคน เวลาจอดยาน เสร็จแล้วเขาจะกดนาฬิกา(แต่มันไม่เหมือนนาฬิกา เป็นตัวอักษรอะไรก็ไม่รู้คล้ายสัญลักษณ์มากกว่า) ตรงข้อมือแล้วยานก็จะหายไป
    เวลาจะเรียกใช้ยานก็ทำแบบเดียวกัน

    น้ำทะเลเวลาโดนแสงจะกลายเป็นสีรุ้งสะท้อนขึ้นมา สวยงามมาก เวลาคลื่นทะเลซัดฟองคลื่นเข้ามา จะกลายเป็นเม็ดเพชรเล็กๆ เต็มชายหาดเลย เวลาเดินย่ำไปกลับไม่บาดเท้า แต่ถ้าหยิบขึ้นมาก็เป็นก้อนเพชรปกติ ส่องแสงประกายงดงาม


    ส่วนหาดทรายจะเป็นสีทองเหลืองอร่าม เพราะว่าทรายนั้นเป็นผงทอง ย้ำว่าผงทองแท้ๆ นะ ทองในโลกอื่นนี่สวยกว่าทองในโลกเรามาก แต่คนที่นั่นไม่มีใครสนใจของพวกนี้กันเลย

    เพราะว่ามันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เขามองเป็นเหมือนของที่ไม่มีค่าอะไร มองเหมือนเป็นก้อนหินธรรมดา

    ใครอยากจะนั่งสมาธิตรงไหนก็ได้ แค่ไม่ขวางทางก็พอ ผู้คนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดีมากเลยจ้ะ

    บ้านเมืองเขาสงบมากๆ เพราะเขาพูดคุยกันทางกระแสจิต เลยไม่มีเสียงอึกทึกครึกโครม จากที่เมย์ใช้กระแสจิตไม่เป็น แต่ไปถึงที่นู่นกลับใช้ได้แฮะ คิดอะไรอยู่คนรอบข้างรู้หมดเลย 555

    อากาศก็บริสุทธิ์เบาสบาย รวมๆแล้วบรรยากาศสวยมาก ไม่อยากกลับมาโลกเราเลยจ้ะ ห้างสรรพสินค้าทุกห้าง ด้านบนจะมีโดมแก้วใส 2 ชั้น ที่สวยงามมากๆ ประดับด้วยเพชรนิลจินดามากมาย

    ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดยภายในโดมชั้นแรกจะให้รถไฟวิ่งเข้าไปรับส่งผู้โดยสารด้านใน เพื่อให้คนเข้าไปสักการะ

    การจะขึ้นโดมแก้วต้องขึ้นรถไฟลอยฟ้าเท่านั้น เพราะมีกฏห้ามนำยานของตนขึ้นไป บ้านเขาไม่มีพระเดินบิณฑบาตร แต่สามารถสร้างบุญกุศลได้จากการสวดมนต์นั่งสมาธิคล้ายๆ บนสวรรค์เลยจ้ะ

    จะบรรลุธรรมได้ก็ต้องลงมาเกิดในโลกของเราเท่านั้น แต่เมย์ไม่เคยขึ้นไปเลย คิดว่าจะขึ้นไป แต่ก็มัวแต่ท่องเที่ยวดูบ้านเมืองเขาเพลินก่อน

    ถนนหนทางจะแบ่งเป็นสามเส้น เรียงเป็นสามชั้น ชั้นบนสุดคือเลนที่วิ่งไวสุด เลนกลางก็วิ่งระดับกลาง เลนล่างสุดก็วิ่งช้าสุด ช้าสุดของที่นู่นถ้าเทียบกับโลกเราก็ 1000 กม./ชั่วโมง ซึ่งมันไวมากกก

    เมย์ยังได้มีโอกาสไปดูโรงจอดยานของตำรวจบ้านเขาด้วย ใหญ่มากเลย ลักษณะยานจะเหมือนกับที่เราเคยเห็นกันคล้ายๆ UFO.และมีบางลำที่มีลักษณะเหมือนเครื่องบินรบบ้านเรา

    แต่สมรรถภาพเหนือกว่าเราเยอะจ้ะ เพราะมันแค่กระพริบตาเราจะไม่เห็นยานอยู่ตรงนั้นแล้ว และมองหาไม่เจอด้วยว่าอยู่ตรงไหน เพราะยานทุกลำสามารถพรางตาได้ด้วย สุดยอดมั้ยจ้ะ

    และก็มีเรือลำเภาลำยักษ์พอๆ กับไทยทานิกเลย ลอยฟ้า ไว้รับส่งผู้โดยสารที่จะข้ามฟากแม่น้ำบางช่วงที่มีพลังแม่เหล็กดึงดูดสูง ซึ่งยานธรรมดาของผู้คนก็ไม่สามารถข้ามได้
    เพราะสมรรถภาพความต้านแรงโน้มถ่วงไม่พอ ส่วนเรื่องคุกนี้เมย์เข้าไปได้

    ในส่วนรอบนอกของที่คุมความประพฤติ ของผู้ที่ทำผิดกฏสถานเบาเท่านั้น คือที่เมย์เห็นจะเป็นตึกสีขาวล้วน รูปทรงเลขาคณิตแบบว่าเอาหลายๆอย่างมารวมกันอ่ะจ้ะ มีบางส่วนกลม บางส่วนสามเหลี่ยม บางส่วนเป็นสี่เหลี่ยมบางส่วนเป็นครึ่งวงกลม เป็นแนวนอนบ้าง แนวตั้งบ้าง เป็นรูปหกแฉกบ้าง เป็นตึกที่ค่อนข้างแปลกประหลาดมากๆ และก็ดูเก๋ไปอีกแบบนะ

    ซึ่งโลกเราคงไม่สามารถสร้างแบบเขาได้ เพราะว่าฐานของตึกนี้เป็นรูปสามเหลี่ยมหัวกลับที่เอาด้านยอดแหลมๆทิ่มลงมา แล้วตรงยอดแหลมก็จะต่อเชื่อมกับลิฟท์แก้ว ที่ไม่ใช้สลิง

    ต่อจากนั้นก็มีศิษย์พี่ชาย-หญิง ที่เป็นไกค์พาเมย์เที่ยวเหมือนทุกครั้งที่มา พาเมย์เดินไปตรงประตูทางเข้าที่มีเจ้าหน้าที่หน้าตาหล่อเหลายืนอยู่สองนาย ที่ยืนยิ้มให้ ศิษย์พี่ทั้งสองอยู่

    (แอบสงสัยนะจ้ะว่าผู้คนในมิตินี้น่าตาดีกันทุกคนเลย แต่ละคนก็มีหน้าตาออกแนวคล้ายๆพวกลูกครึ่งกันซะส่วนใหญ่ และมี แสงออร่าออกมาแต่ไม่เยอะเท่าไหร่อะจ้ะ)

    เจ้าหน้าที่ถามศิษย์พี่ทั้งสองคนว่า วันนี้พาใครมา ขอดูบัตรผ่านด้วย ศิษย์พี่เลยกดอะไรไม่รู้ตรงนาฬิกาข้อมือ ก็มีบัตรคล้ายๆ สมาร์ทการ์ดบ้านเราปรากฏขึ้น ลอยอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา ศิษย์พี่ก็เอาบัตรนั้นสแกนเข้าเครื่อง แล้วประตูแก้วก็เปิดออก แล้วพาเมย์ไปจุดที่ขึ้นลิฟท์

    ในความคิดเมย์ตอนนั้น ก็คิดว่าจะได้ขึ้นลิฟท์แก้วอย่างที่เห็นก่อนเข้ามา คือลิฟท์แทนที่จะค่อยลอยขึ้น แต่ศิษย์พี่กลับพาเมย์มายืนตรงสัญลักษณ์ข้างในวงกลมๆ

    แล้วก็มีเสียงโอเปอร์เรเตอร์เตือนว่าให้จับราวที่ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากพื้นแน่นๆ แล้วพอหมดเสียงเตือนก็มีไฟสีแดงกระพริบสามครั้ง และหลังจากนั้น เมย์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเล่นเครื่องเล่น "ทิ้งดิ่ง" ในสวนสยาม ยังไงยังงั้นเลย

    เมย์งี้กรี๊ดลั่นกำจนแทบที่เกาะแทบจะหักเลยจ้ะ หัวใจเกือบวายตายไปแล้ว ทิ้งลงมาด้วยความเร็วสูงได้สักพัก ลิฟท์ก็ค่อยๆ ชะลอตัว และลงจอดปกติ ราบเรียบไปกับพื้นกลายเป็นสัญลักษณ์วงกลมเหมือนเดิม
    ศิษย์พี่ทั้งสองหัวเราะเยาะขำเมย์กันใหญ่เลย แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่าเดี๋ยวก็ชิน

    (คนในโลกนี้อุปกรณ์เขาไฮเทคและรวดเร็วมากจริงๆ ย้ำว่าเร็วมากกกก เร็วจนมองอะไรไม่ทันไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แต่สายตาพวกเขากลับดีมาก)

    พอออกมายืนนอกวงกลมแล้วเดินมาตามทางลูกศรก็จะเจอกับกำแพงแก้วขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่มากมาย ทำงานกันอยู่ในนั้น มองๆ ดูก็คล้ายๆ แล็บ หรือที่ทำงานในห้องวิทยาศาสตร์อ่ะจ้ะ

    รออยู่หน้าประตูสักพักแล้วเจ้าหน้าที่คนสวยก็เดินมาต้อนรับและขอดูบัตรของศิษย์พี่รวมทั้งสแกนอะไรบางอย่าง คล้ายๆ ว่าย้ำกฏข้อห้ามนะ เข้าไปแล้วห้ามทำผิดกฏนะ

    พอเดินไปตามทางสักพักเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาจนเวียนหัว ก็เข้ามาเจอประตูบานสีขาวทึบๆ ตรงกลางบานประตู มีกระจกใสๆ อยู่ตรงกลาง แล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาบัตรแสกนแล้วก็กดอะไรไม่รู้จึ๊กๆ แล้วประตูก็เปิดออก

    โหยเมย์งี้ตะลึงเลยจ้ะ เอาเมย์มาขังไว้ก็ได้นะ สวยมาก ด้านในยาวเข้าไปสองข้างทางเป็นเหมือนแคบซูล มากมายเรียงราย ด้านในแค็บซูลพื้นที่กว้างมากไม่เหมือนด้านนอกเลย

    ตรงประตูแค็บซูลทุกบานจะเป็นกระจกหนา และมีปุ่มกดรหัสทุกแค็บซูล 1แค็บซูลจะมีผู้ทำผิดคนที่โดนกักบริเวนหรือพูดง่ายๆ ว่าถูกควบคุมความประพฤติอยู่ 1 คน

    ให้นั่งสมาธิสำนึกผิดอยู่ในนั้น ในนั้นจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่างเลย มีโฮมเทียเตอร์ ที่ไฮเทศมากจะพูดไงดีนะ เพราะว่ามันไม่มีในโลกเราเลย

    กำแพงของแคบซูลสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอารมณ์ของผู้ที่อยู่ด้านใน และเปลี่ยนเป็นภาพวิวสวยๆ ได้ตามแต่อารมณ์ของคนๆ นั้นว่าอยากจะให้เป็นยังไง ระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับว่าทำผิดบ่อยแค่ไหน

    พวกเขาเคารพกฏเกณฑ์ของสังคมมากเลยจ้ะ ถ้ามาสายไม่ตรงต่อเวลา 3 ครั้ง จะถูกคุมตัวมากักบริเวณควบคุมความประพฤติที่นี่ เป็นระยะเวลา 1 ปี โกหก 3 ครั้ง ก็โดนกักบริเวณ 1 ปี แต่ถ้าเคยถูกขังมาที่นี่แล้วครั้งนึง ครั้งต่อไปถ้าทำอีกจะโดนขัง 10 ปี ถ้าครั้งที่สามยังทำผิดได้มาอีกจะโดนขัง 30 ปี ระยะเวลาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนครั้งที่ทำผิด

    (แต่คนที่นี่แทบจะไม่โกหกกันเลย เพราะถ้าโกหกอีกฝ่ายนึงจะรู้ทันทีเลย เป็นเรื่องน่าละอายสำหรับพวกเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าโกหกกัน)

    ถึงคุกที่นี่จะสวยงามแค่ไหน แต่คนที่นี่ถือว่า มันเป็นความอัปยศอดสูมาก มันทำให้เสื่อมเสียเกียรติของตนเองและครอบครัว มิน่าคนที่นี่เวลาว่างเขาถึงได้นั่งสมาธิกันทุกที่เลย (โห นี่ขนาดมาสายแค่ 3 ครั้ง) ยังโดนขังตั้ง 1 ปีขนาดนี้ ถ้าทำผิดหนักมากก็จะโดนกักขังในห้องมืดตลอดชีวิต(แต่เป็นห้องมืดที่มีควันเย็นๆสีดำลอยอบอวลอยู่ในนั้นตลอดเวลาอ่ะจ้ะ)ไม่มีสิทธิ์ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย ฟังดูก็น่ากลัวนะจ้ะ

    แต่เมย์ว่าศิษย์พี่เมย์ยังบอกไม่หมดแน่ๆ ต้องน่ากลัวกว่านี้แน่ๆ เลย หลังจากดูคุกเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาออกมา แต่ครั้งนี้ศิษย์พี่รู้ใจพาขึ้นลิฟท์แก้วออกมา ค่อยยังชั่ว วิวคุกที่นี่สวยมากเลยจ้ะ

    แต่ถึงจะสวยยังไงก็เป็นสถานที่ๆคนที่นี่ส่วนใหญ่ ไม่อยากมากัน ศิษย์พี่เคยพูดบอกว่าที่แห่งนี้ เป็นโลกของคนที่มีใจใฝ่สันติมาอยู่กัน บางคนอยากหลุดพ้นก็ต้องลงมาเกิดในโลกเรา

    เพราะโลกของเขาสบายกันเกินไป จากคนดีๆใจบริสุทธิ์ในโลกเขาพอลงมาเกิดในโลกเรา ส่วนใหญ่ก็พากันหลงโลกเหมือนพวกเรานี่แหละจ้ะ ลืมจนหมดสิ้นว่าเราจะลงมาทำอะไร มีจุดมุ่งหมายอะไร

    บางคนจากโลกเขาลงมาเกิด เพื่อถ่ายทอดวิทยาการที่ก้าวหน้าที่โลกเราพอจะทำได้ให้ ใครอยากไปก็ฝึกจิตกันนะจ้ะ แล้วแต่ว่าเราจะได้เจอได้เห็นกับอะไร ตามวาระจิตของแต่ละคนน่ะจ้ะ #

    แต่อย่างแรกที่ต้องฝึกกันเลยคือเลิกพูดโกหกและฝึกจิตให้เป็นผู้มีใจใฝ่สันติ #ไม่มุทะลุ #โมโห #ท้าตีท้าต่อยกับใครทั้งสิ้น

    โลกของเขาถ้าเทียบกับโลกของเรา มิติที่ทับซ้อน หรือมิติคู่ขนาน เมืองหลวงของเขา ตั้งอยู่แถบทางภาคมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนของโลกเราจ้ะ
    แล้วเมย์ก็กลับมาในโลกเดิมในตอนเช้า โดยมีศิษย์พี่ทั้งสองคนมาส่งเหมือนเดิม

    เมย์ ธิดาพรหม

    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/mey-thida-phrhm/brryakas-lok-tang-daw-ni-miti-thi5
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    น้องเมย์ พาท่องโลกมิติที่ 6 ของดาวอังคาร

    10400803_794912887265768_8326900015255496741_n.jpg

    มิติที่6 สมาพันธ์แห่งจักรวาล และหน่วยบัญชาการรบพิเศษระหว่างดวงดาว (สังกัดดาวอังคาร) Confederation of the Universe And Special force army interstellar 5/2/2015

    สวัสดีจ้ะ วันนี้เมย์จะพาท่องโลกมิติที่ 6 ของดาวอังคารกัน ดาวเพื่อนบ้านเรานี่เอง ไม่ไกลจากโลกเราเลย แต่พวกเรามองไม่เห็นเขาง่ายๆหรอกจ้ะ ถ้าเขาไม่อนุญาติให้เห็นก็จะไม่เห็น แล้วก็อยู่กันคนละมิติและคลื่นความถี่ไม่ตรงกันกับของเราด้วย

    จริงๆในมิตินี้ เมย์เคยไปมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนอ่ะจ้ะ แต่ไม่รู้ว่าที่ไหนจนเมื่อวันที่ 5 และวันที่ 7 ที่ผ่านมา ได้ไปอีกทุกอย่างจึงกระจ่างชัด คืนนั้นศิษย์พี่ทั้งสองพานั่งบัวอาสน์วาร์ป ออกมานอกโลกก่อน (วาร์ป คือการหายตัว) เห็นโลกของเราลอยคว้างอยู่ในห้วงจักรวาล ดวงเบ่อเริ่มเทิ่ม ดูงดงามน่าอยู่มาก

    แต่ศิษย์พี่เจียหลงบอกว่า "โลกของเรากำลังป่วย รอเวลาทำการชำระล้างและรีเซ็ทใหม่ เหล่าผู้พิทักษ์หรือผู้มีหน้าที่ ต่างก็กำลังถูกฝึกฝนอย่างหนัก โดยเพื่อนต่างกาแลคซี่อย่างมนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ฝึกให้ เพื่อที่จะคอยช่วยเหลือเหล่ามนุษยชาติ ในตอนที่เกิดมหาภัยพิบัติ เพื่อมนุษย์ที่เหลือรอดน้อยนิดนั้นให้สามารถดำรงเผ่าพันธ์อยู่ต่อไปได้"เมย์ไม่ได้ถามอะไรท่านต่อ

    เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนี้ ศิษย์พี่เหมยฮวาก็พูดต่อว่า "งั้นวันนี้เราไปดูเหล่าผู้พิทักษ์แห่งจักรวาลระหว่างดวงดาว ของดาวอังคาร เขาฝึกซ้อมกันดีหรือไม่ เผื่อจะเป็นประโยชน์อะไรกับทุกคนได้" เมย์รีบตอบตกลงทันที ดี๊ด๊ามาก ดีใจออกนอกหน้า เพราะชอบอะไรที่มันไซน์ไฟร์ 555 ศิษย์พี่พาวาร์ปเข้ามาลอยอยู่ในเขตของดาวอังคาร ที่นี่มีท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ ดวงดาวดวงใหญ่ๆเต็มท้องฟ้าเลย ดูงดงามมาก แต่พื้นดินนั้นดูแห้งแล้ง ไม่มีต้นไม้เลย

    แล้วก็มียานรูปทรงต่างๆบินเข้าบินออกในดาวดวงนี้ตลอดเวลาเลย ในตอนนี้มีมนุษย์ต่างดาวทั้งหญิงและชายรูปร่างเหมือนพวกเราเลยจ้ะ ใส่ชุดรัดติ้ว สีเงินมีเข็มขัดตรงเอว เดินขวักไขว่เต็มไปหมด (เมย์เห็นเขาใส่ชุดแบบนี้กันเมย์งี้หัวเราะก๊ากเลยจ้ะ ในหัวคิดพิเรนอาหารตาเลยนะนี่ ว๊าว รัดติ้วขนาดนี้ เห็นพี่เรียบๆ พี่หื่นเงียบนะจ๊ะ ศิษย์พี่เจียหลงเลยส่งกระแสจิตมาเตือนว่า คิดอะไรอยู่ชาวบ้านชาวช่องเขารู้หมด เลิกคิดอกุศลได้แล้ว พร้อมโยนมะเหงกมาใส่หัวเมย์หนึ่งลูก อย่างเจ็บอ่ะ)

    บางคนเดินทะลุสิ่งของ บ้างหายตัวได้ บางยืดตัวยาวๆได้ ดูวุ่นวายไปหมดเลย แล้วศิษย์พี่ทั้งสองรวมถึงเมย์ด้วยก็เปลี่ยนมาใส่ชุดรัดติ้วเหมือนพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เรื่องเลย แต่เนื้อผ้าโอเคเลยนะ กันร้อนกันหนาวได้ดีมาก และสะดวกคล่องแคล่วมากเวลาขยับกาย ไม่อึดอัดสักนิดเลย ศิษย์พี่เจียหลงนำพวกเราไปพบกับ มนุษย์ต่างดาวหญิงท่านหนึ่ง หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาผมสีแดง ที่อยู่ด้านในตึกหน้าตาประหลาดๆ สีดำทะมึน ที่เห็นอยู่ตรงหน้า

    ท่านทั้งสามพูดอะไรกันไม่รู้จ้ะ แล้วมนุษย์ต่างดาวหญิงก็เอามือวางทาบหน้าอกตัวเอง ศิษย์พี่ทั้งสองก็ทำแบบเดียวกันตอบ แล้วศิษย์พี่เจียหลงก็บอกให้เมย์ทำความเคารพมนุษย์ต่างดาวท่านนั้น แต่เมย์ไม่รู้ธรรมเนียมการทำความเคารพของที่นี่ เมย์เลยย่อถอนสายบัวใส่ซะเลย ศิษย์พี่ทั้งสองกับมนุษย์ต่างดาวหญิงท่านนั้นหัวเราะลั่นเลยจ้ะ (เมย์คิดในใจสงสัยเมย์ทำอะไรเอ๋อๆอีกแล้วแน่ๆเลย)

    มนุษย์ต่างดาวหญิงท่านนั้น เลยเอ่ยออกมาว่า ท่านหญิงราเมนด้าร์ เรามีนามว่า เรย์น่า ชาวดาวอังคารยินดีต้อนรับ (เมย์คิดในใจว่า พูดภาษาเดียวกันได้ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก ให้เมย์เด๋อทำไมอยู่ได้คนเดียว แล้วท่านหญิงราเมนด้าร์นี่ใครหว่า?) เขารู้ความคิดเมย์ ท่านเรย์น่า เลยตอบมาทางจิตว่า ก็นามของท่านนั่นแหละคือ ราเมนด้าร์

    เย๊ย !!! เราเปลี่ยนชื่อตอนไหนหว่าไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ !!! งง พี่ งง !!! ท่านได้แต่พากันยิ้ม ท่านเรย์น่าไม่ได้ตอบอะไรเมย์อีก แต่หันไปพูดกับศิษย์พี่ทั้งสองด้วยภาษาต่างดาวอีกครั้งแทน เมย์รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินเลย ทำไมไม่ให้เมย์ฟังรู้เรื่องด้วยอ่ะ!!! แล้วท่านเรย์น่า ก็หันมาพูดกับเมย์ว่า วันนี้เราจะพาท่านราเมนด้าร์ ดู 2 โซนก่อน (ระหว่างที่ท่านเรย์น่ากำลังอธิบายเราก็ไหลไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่แสงสีฟ้ากำลังนำทางไป)

    โซนแรกเราจะดูการฝึกซ้อม ของเหล่าผู้พิทักษ์จักรวาลระหว่างดวงดาวก่อน โซนที่สอง เราจะพาท่านดูไปดูโรงเก็บรักษาและจอดยานของเรา เมย์ก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นอันว่าเข้าใจ แต่สายตาก็มองสองข้างทางตามไปด้วย น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ในตึกบัญชาการนี้ มีจอยักษ์แบบไร้มวลสาร ในนั้นมีภาษาอะไรก็ไม่รู้ และพิกัดต่างๆเต็มไปหมดเลย ระหว่างทางที่เลื่อนไป หากเจอมนุษย์ต่างดาวท่านต่างๆที่กำลังทำงานอยู่ พวกเราก็จะทำความเคารพกัน โดยเอามือแตะหน้าอกตัวเอง อีกฝ่ายก็จะทำแบบนี้ตอบกลับมาเช่นกัน

    ระหว่างที่เลื่อนมาเรื่อยๆจนถึงโค้งท่านเรย์น่า เอ่ยสั่งระบบด้วยเสียงว่า โซนหน่วยฝึกพิเศษแห่งจักรวาลและดวงดาว แล้วระบบก็ทำการตอบรับก่อนที่พวกเราจะวาร์ปเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง ใหญ่โตมโหราฬมาก ล้อมรอบด้วยกระจกสามารถมองเห็นด้านนอกได้ แต่ก็มีจอแสดงผลยักษ์แบบไร้รูปลักษณ์เช่นเดิม อยู่เต็มห้องนี้ไปหมด พอพวกเราเข้ามาถึงปุ๊บ มนุษย์ต่างดาวทั้งชายหญิงที่ทำงานกันอยู่ในห้องนี้ก็หันมาทำความเคารพพวกเรา เสร็จแล้วพวกเขาก็ทำงานกันต่อ

    ทันทีที่มาถึงเมย์ตะลึงกับภาพด้านนอกกระจกนั่น นั่นมันสงครามสตาร์วอร์ชัดๆ ไม่สิต้องเรียกว่า โคตรอภิมหาสงครามสิ ถึงจะถูก เพราะมันน่ากลัวมากๆๆๆๆ มีทั้งภูเขาไฟระเบิด ยานลอยอยู่ด้านบนคอยยิงแสงเลเซอร์ และระเบิดแสง หลุมยักษ์อีกเยอะแยะตามพื้น สัตว์ประหลาดต่างดาวที่โหดร้ายคล้ายเอเลี่ยนหน้าตาหน้ากลัว บางตัวก็มีปีกบินได้ ที่เหมือนในหนังอีกนับไม่ถ้วน

    เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งชายหญิงนับพัน กำลังต่อสู้เอาตัวรอดแบบสุดๆ บ้างยกดาบเลเซอร์ฟาดฟันกับสัตว์ประหลาด บ้างมีแสงไฟสีฟ้าเกิดขึ้นที่ฝ่ามือคล้ายกงจักร สำหรับปาออกไปฆ่าสัตว์ประหลาดหรือป้องกันตัว บ้างพยายามหายตัวหนีเอาตัวรอด ในระหว่างที่เมย์กำลังดูภาพสงครามการฝึกโหดอย่างตกใจนั้น ก็ได้ยินเสียงท่านเรย์น่า สั่งการทางจิตว่า เพิ่มเป็นสถานการณ์ระดับ 7 (เป็นระดับสูงสุด)

    พอสิ้นสุดเสียงสั่งการ ก็มีอุกกาบาตยักษ์มาจากไหนไม่รู้ ล่วงลงมาจากฟ้า ใส่เหล่าผู้พิทักษ์ ยานยิงแสงเลเซอร์ และปล่อยระเบิดแสง ลงมาอีกนับไม่ถ้วน แล้วภูเขาไฟก็ระเบิดออกลาวามากมายทะลักออกมา แล้วพื้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ มองยังไงก็รู้ว่า ไม่ว่าจะสู้ยังไงก็ไม่มีทางรอด แม้เหล่าผู้พิทักษ์จะมีพลังวิกัน ทั้งตาเลเซ่อร์ เชือกเลเซ่อร์ไร้มวลสาร หายตัวเดินทะลุสิ่งกีดขวางต่างๆได้ก็ตาม แต่เหล่าผู้พิทักษ์ต่างก็บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

    ท่านใดสภาพร่างกายทนไม่ไหว เสื้อเกราะที่สวมอยู่จะส่งสัญญาณเข้ามาในห้องบัญชาการนี้ทันที แล้วก็จะถูกวาร์ปตัวออกมาจากสนามรบจำลอง แล้วถูกส่งเข้าแคปซูล เข้าห้องแล็ปฟื้นฟูร่างกายต่อไป (ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเสียชีวิต เพราะเขารักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้จ้ะ) เมื่อหายดีแล้วก็จะถูกส่งลงสนามฝึกอีก เป็นแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วนเลย เมย์งี้สยอง (ดีที่ว่าชุดที่เขาใส่กันนี้ มีชุดเกราะทับอีกที ป้องกันร่างกายฉีกขาดสองท่อนเวลาโดนแรงระเบิด หรือ เวลาโดนเลเซอร์ยิง แต่ก็ผิวไหม้นะจ้ะ สภาพยับเยินมากทีเดียว)

    เมย์งี้สั่นเลยสะท้านเลย เพราะท่านเรย์น่าบอกกับเมย์ว่า "เดี๋ยวท่านก็ต้องโดนฝึกคล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน" เมย์รีบหันหน้าไปมองศิษย์พี่ทั้งสองเป็นเชิงถามว่าไม่จริงใช่ไหม? ศิษย์พี่ทั้งสองเพียงส่ายหน้าให้ช้าๆ ว่า เรื่องนี้ท่านช่วยไม่ได้จริงๆ เมย์งี้เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นเลยจ้ะ กลัวมาก ยอมรับเลยว่ากลัว ถ้าส่งเมย์ลงไปฝึกก็เท่ากับว่าส่งเมย์ลงไปตายเท่านั้น จะไปสู้อะไรใครเขาได้โหดซะขนาดนี้ (เมย์จะเล่าเรื่องการฝึกโหดนี้ให้ฟังในตอนหน้าจ้ะ)

    แล้วท่านเรย์น่าก็แตะแขนให้เมย์ลุกขึ้น พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ เมย์รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเลยจริงๆ กับสิ่งที่รออยู่ในวันข้างหน้า แล้วท่านก็บอกเมย์ว่า "งั้นเรารีบไปต่อกันที่โซนจอดยานสำหรับภารกิจต่างๆ ของเราดีกว่านะ เพราะท่านหญิงใกล้จะหมดเวลาแล้ว" ครั้งนี้เราไม่ได้ลอยมาเรื่อยๆ ตามทาง แต่ท่านเรย์น่าพาเราหายตัวมายืนหน้าโรงจอดยานเลย โอ้ว มาย กอต มันใหญ่มากกกกกกกกก (เมย์รู้สึกเหมือนตัวเองนี้เป็นบ้านนอกเข้ากรุงเลย)

    นี่มันยิ่งกว่าในหนังอีกนะ ในหนังที่สร้างมาไม่สามารถมาเทียบกับที่นี่ได้เลย ใหญ่อลังการจนไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตรงไหน ตามผนังของโรงจอดมีจอแสดงผลเกี่ยวกับยานแต่ละลำเต็มไปหมดเลย ยานบางลำก็มีคนขับบางคนกำลังขึ้นเตรียมการบิน มีผู้พิทักษ์หนุ่มๆ ดูแลโซนนี้เยอะมาก ยานแต่ละลำใหญ่ขนาดมหึมามาก รูปทรงเยอะมากมาย มีหลายขนาดมากๆ (เมย์ไม่สามารถอธิบายลายละเอียดได้เลย รู้แค่ว่ามันไฮเทคมาก เกินกว่าที่เมย์จะใช้คำถูกและทุกคนจะจินตนาการกันได้ อย่างที่เมย์ลงรูปยานต่างบางส่วนให้ดูในรูปอ่ะจ้ะ)

    ท่านเรย์น่าบอกว่า ที่พวกเราต้องมีสมาพันธ์แห่งจักรวาลและหน่วยบัญชาการรบพิเศษระหว่างดวงดาวนี้ขึ้นมา เพราะว่าในจักรวาลแห่งนี้ มีดวงดาวต่างๆและเผ่าพันธ์ต่างๆอาศัยอยู่มากมายนับไม่ถ้วน มีทั้งดีและร้าย ทางเราตึงต้องมีจุดศูนย์กลางไว้ประสานงานด้านต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดสงครามระหว่างดวงดาว ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้ว และก็มีไว้เพื่อประสานงานช่วยเหลือในดวงดาวต่างๆ ที่เดือดร้อนกำลังประสบภัย

    ดังเช่นโลกของท่านในเวลานี้ด้วยเช่นกัน ทางเราหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวนี้จะพอเป็นประโยชน์ให้แก่ท่านและชาวโลกทุกคน ให้มีสติและเตรียมความพร้อมอยู่ทุกขณะ อย่าได้ประมาท ทางเราไม่สามารถก้าวก่ายกรรมและ วัฏจักรความเป็นไปของมนุษย์ได้ ถึงแม้ว่าเราจะช่วยได้ "แต่มนุษย์อย่างพวกท่านก็ต้องช่วยเหลือกันเองก่อน" ที่จะให้เราชาวต่างดาวช่วย แม้เรื่องราวนี้อาจจะดูน่าเหลือเชื่อในสายตามนุษย์ชาวโลกอย่างพวกท่าน

    แต่สำหรับพวกเราแล้วเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ที่เหลือเป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ท่านราเมนด้าร์ ว่าท่านจะมีความสามรถบอกกล่าวให้ผู้คนเชื่อท่านได้อย่างไร โดยไม่โดนกล่าวหาว่าแต่งนิยายหรือเพ้อเจ้อ ไร้สาระ หลอกลวง หรือบ้า" เมย์ได้แต่ฟังจ๋อยๆ ในหัวไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดอย่างไรเหมือนกัน เวลาวันนี้ของเมย์ไม่พอจึงดูได้แค่ไม่ถึงสิบลำเท่านั้น แล้วศิษย์พี่ทั้งสองก็พาเมย์ร่ำลากับท่านเรย์น่า ทำความเคารพแบบเดิม พร้อมคุยภาษาต่างดาวที่เมย์ไม่เข้าใจอีกนิดหน่อย แล้วท่านเรย์น่าก็หันมามองเมย์ ก่อนศิษย์พี่เหมยฮวาและศิษย์พี่เจียหลงจะเปลี่ยนเป็นชุดเต็มยศของตัวเอง แต่ปล่อยให้เมย์ใส่ชุดรัดติ้วเหมือนเดิมมันน่าน้อยใจนัก แล้วพาซิ่งบัวอาสน์พาเมย์กลับมาถึงบ้านในที่สุด

    คืนนั้นเมย์นอนทำสมาธิเป็นปกติเหมือนทุกครั้งจนผลอยหลับไป จนมาตื่นเอาตอนดึกสงัด เพราะได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกท่านราเมนด้าร์ เมย์ก็งัวเงียขี้ตา พยายามเอาผ้าห่มคลุมโปงเพื่อจะนอนต่อ( พร้อมหงุดหงิดในใจด้วยว่าใครวะ ราเมนด้าร์ ไม่รู้จักไปเรียกที่อื่นนู่นคนจะนอน เสียงดัง รำคาญ !!! ) แต่เสียงเรียกก็ยังไม่ยอมหยุดกลับยิ่งดังก้องเข้าไปในหูเมย์มากกว่าเดิมอีก เมย์เลยต้องลืมตาตื่นขึ้นมา แต่แสงแยงตามาก เลยต้องค่อยๆลืมตามอง ตอนนี้เมย์กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงที่ลอยได้ รูปวงรีสีขาวๆกลางห้อง ในห้องนี้สว่างมากแต่สว่างแบบนวลๆมันไม่ได้ใช้ไฟฟ้าเหมือนโลกเรา แต่มันสว่างได้ไงนั้นเมย์ไม่รู้ ในห้องนี้มีหน้าจอไร้รูปลักษณ์และภาษาแปลกประหลาดเต็มจอ

    เมย์มองไปรอบๆห้อง ก็เจอกับท่านเรย์น่า และมนุษย์ต่างดาวหนุ่มอีกสองท่าน ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลมๆคนละตัวลอยเหนือพื้น แต่ละท่านกำลังมองจ้องเมย์มาอยู่แล้ว เมย์ก็มองอย่าง งงๆว่ามาโผล่ที่นี่ได้ไง แล้วศิษย์พี่ทั้งสองอยู่ไหนล่ะ เมย์ค่อยๆเรียบเรียงข้อมูลทุกอย่างประมวลผลในหัว พอเมย์เริ่มตั้งสติได้ โอ้ว คุณพระช่วย !!! ไม่นะ !!! พาเมย์กลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ !!! ท่านเรย์น่าที่คงรอให้เมย์ตื่นนานแล้ว เลยรีบพูดมาทางจิตว่า ตื่นมาก็โวยวายเลยนะท่านราเมนด้าร์!!! ฟังพวกเราสักหน่อยสิท่าน สงบสติอารมณ์ลงสักครู่

    เมย์เลยพยักหน้าพร้อมเอามือแตะหน้าอกแล้วก้มหัวทำความเคารพกลับไป ท่านเรย์น่าก็ทำแบบเดียวกันตอบกลับมา พร้อมแนะนำมนุษย์ชาวดาวอังคารหนุ่มทั้งสองท่านให้รู้จัก ท่านนึงมีผมสีแดงอีกท่านมีผมสีทองแต่หน้าตาเหมือนกัน ท่านเรย์น่าแนะนำว่าท่านที่มีผมสีแดงนามว่าท่านจีฟาร์ และผมสีทองนามว่าท่านยานาร์ ทั้งสองท่านจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ท่าน

    แทนศิษย์พี่ทั้งสองของท่านราเมนด้าร์ ในระหว่างที่ท่านต้องมาฝึกอยู่ที่นี่ชั่วคราว พอท่านเรย์น่าแนะนำสร็จเมย์ก็แทบจะร้องไห้ (เพราะภาพในหัวจำได้ดีถึงครั้งก่อนที่ได้เห็นเหล่าผู้พิทักษ์เขาฝึกกันว่ามันน่ากลัวขนาดไหน) เมย์ก็ได้แต่ทำความเคารพท่านจีฟาร์และท่านยานาร์กลับไป แล้วท่านเรย์น่าก็ขอตัวไปทำภารกิจของท่าน ปล่อยให้เมย์อยู่กับหนุ่มๆต่างดาวรูปหล่อทั้งสองคน ท่านจีฟาร์ผมแดงเป็นผู้เอ่ยขึ้นมาทางจิตก่อนว่า ท่านราเมนด้าร์มีอะไรจะถามพวกเราก่อนหรือไม่?

    เมย์เลยถามท่านไปว่า บัวอาสน์ของข้าพเจ้านี้หายไปไหน แล้วทำไมข้าพเจ้าไม่มีกายทิพย์เหมือนตอนอยู่กับศิษย์พี่ แต่มาในรูปแบบวิญญาณไม่มีฤทธิ์อะไรเลยแบบนี้? ท่านยานาร์เป็นผู้ตอบกลับมาแทนว่า "เพราะเวลาที่ท่านต้องช่วยผู้คนจริงๆท่านต้องใช้กายเนื้อช่วยน่ะสิ กายเนื้อกับวิญญาณต้องอยู่ด้วยกัน หากกายเนื้อไม่มีวิญญาณท่านก็จะกลายเป็นเพียงซากศพธรรมดา เราจึงดึงจิตหรือนำวิญญาณของท่านมาฝึกแทน เพราะการช่วยเหลือผู้คนบนโลกมนุษย์นั้น ท่านก็ยังต้องใช้กายเนื้อเพราะสองสิ่งนี้คู่กัน ส่วนกายทิพย์นั้นใช้สำหรับเทพ หรือใช้เมื่อเวลาท่านละกายสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว แล้วท่านได้กลับคืนสู่อริยฐานะเดิมของท่าน ท่านถึงจะใช้กายทิพย์ของท่านได้ เราอธิบายเพียงเท่านี้ท่านพอจะเข้าใจหรือไม่"

    เมย์ก็พยักหน้าและบอกว่าข้าพเจ้าเข้าใจแล้ว พร้อมคิดในใจว่า นั่นแสดงว่าเราต้องเริ่มฝึกใหม่หมดเลย ไม่ต่างจากเด็กหัดเขียน ก.ไก่ ซึ่งวิญญาณนี้ไม่มีฤทธิ์อะไรเลย ท่านจีฟาร์ก็พยักหน้าให้เมย์ว่าสิ่งที่เมย์คิดนั้นถูกต้องแล้ว เมย์เลยถามท่านทั้งสองไปอีกว่า แล้วเหตุใดท่านทั้งสองจึงมีหน้าตาเหมือนกันเล่า? ท่านจีฟาร์เมตตาตอบกลับมาว่า เพราะเราคือ"มนุษย์ต่างดาวโคลนนิ่ง ออกมาจากยีนส์ของท่านยานาร์น่ะสิท่าน" เมย์มองเขาตาโตเลย "มนุษย์โคลนนิ่ง" ท่านทั้งสองก็พยักหน้า แล้วท่านจีฟาร์ก็พูดต่อว่า

    "เพราะในช่วงเวลานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างดวงดาวมากมาย ไม่ใช่เฉพาะดวงดาวของท่านเท่านั้น เราจึงต้องมีการโคลนนิ่งเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มกำลังพล ในการออกไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและป้องกันตามดวงดาวและจักรวาลต่างๆ รวมถึงโลกของท่านด้วย และเหตุภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มันก็เป็นความผิดพลาดของมนุษย์โลกเอง แต่จักรวาลก็อ่อนโยนเสมอกับทุกชีวิต เผ่าพันธุ์ของท่านนี้ยังไร้เดียงสานัก ยังมีโอกาพัฒนาได้อีก ท่านจงตั้งใจฝึกเถิดอย่าได้มีความหวาดกลัว เพื่อทุกคนที่ท่านรักและโลกของท่านเอง" เมย์ก็ได้แต่พยักหน้า

    แล้วท่านยานาร์ก็ดีดนิ้วมือ ผนังห้องก็ละลายออก กลายเป็นเมย์มาอยู่ในห้องบังคับยานแทน ในห้องนี้มีคนกำลังวุ่นวายกับจอหลายท่านเลย ทุกท่านพอเห็นว่าท่านจีฟาร์และท่านยานาร์เข้ามา ก็พากันทำความเคารพให้ เมย์ก็ทำความเคารพพวกเขากลับเช่นกัน ท่านยานาร์ หันไปสนใจจอแล้วพูดภาษาต่างดาวสั่งการต่างๆ เมย์ก็ส่งสายตามองนู่นมองนี่ไปรอบๆ เขาบังคับยานกันยังไงหว่า ไม่มีคันเร่งสักอัน ท่านจีฟาร์เลยตอบว่า เราใช้จิตบังคับกัน ยานลำนี้ท่านยานาร์เป็นผู้บังคับการหรือกัปตันนั่นเอง ท่านยานาร์จะใช้จิตลิงค์กับระบบของยาน

    แล้วยานจะตอบสนองด้วยคำสั่งของท่านทั้งทางจิตและทางเสียง เมย์ร้องอ๋อเลยจ้ะ แล้วท่านก็บอกว่ายานลงจอดเรียบร้อยแล้วเราออกไปกันเถอะ ห๊ะ !!! อะไรนะ ลงจอดแล้วหรอ ทำไมเมย์ยังไม่รู้สึกอะไรเลย? แล้วท่านยานาร์ก็เดินยิ้มมาทางที่เมย์กับท่านจีฟาร์ยืนอยู่ เชิงใช้สายตาบอกให้เมย์มองที่พื้น อุ๊ต๊ะ!!! ขาไม่ติดพื้น !!! ทำไมเมย์พึ่งจะสังเกตุเห็นว่ามนุษย์ต่างดาวทุกท่านขาไม่ได้ติดพื้นเหมือนมนุษย์อย่างเรา แล้วท่านก็ยักคิ้วให้ เมย์คิดในใจ น่าหมั่นไส้มาก ท่านเลยตอบกลับมาว่าขอบคุณ !!! อ๊ากกกก เมย์ลืมไปเลยว่า ในมิติพวกนี้เราคิดอะไรคนรู้กันหมด

    แล้วท่านยานาร์ก็บอกต่อว่า "เตรียมตัวเตรียมใจนะท่านราเมนด้าร์ เมื่อท่านก้าวเท้าออกจากยานนี้ไปแล้ว ทางเราจะถือว่าท่านคือมนุษย์ดาวอังคารไม่ต่างจากชาวเรา เราจะฝึกท่านเหมือนดังที่นักรบผู้พิทักษ์ชาวดาวอังคารฝึกกันทุกอย่าง ไม่แบ่งแยก ขอท่านโปรดเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับในกฏทุกข้อของทางเราด้วย" เมย์ไม่ทันได้คิดหรือตอบอะไร ท่านยานาร์ก็ดีดนิ้วอีกครั้งพาเมย์มายืนอยู่ในห้องกระจกที่สามารถมองเห็นการฝึกข้างนอกได้ ห้องเดิมที่เมย์เคยเห็นในครั้งที่แล้วที่เคยมา !!! เมย์พูดได้คำเดียวว่าใจเมย์สั่นมาก ขาสั่นด้วย !!! ติดตามอ่านต่อในตอนหน้านะจ๊ะ

    เมย์พยายามก้าวเท้าถอยออกไปข้างหลัง แต่สายตาก็ยังจ้องมองออกไปยังกระจกเบื้องหน้าอยู่ ไม่อยากเข้าไปในสนามฝึกนั่นเลย ไม่อยากเลยสักนิด พาเมย์กลับบ้านเถอะ !!! แต่ท่านจีฟาร์ กลับตอบมาทางจิตว่า #ท่านราเมนด้าร์ท่านต้องทำตามปณิธานของท่าน ท่านตั้งปณิธานไว้เช่นไรท่านลืมแล้วหรือ? #การจะเป็นหนึ่งในพันพระเนตร #พันพระกรขององค์พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย #แม้แต่พระองค์เองนั้นก็ยังเคยต้องฝึกบำเพ็ญ ถูกกดดันและเสียสละมามากมายเช่นกัน
    #ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นหน้าที่ของโพธิสัตว์น้อย เช่นท่านต้องพิสูจน์ตนแล้ว #ว่าท่านจะรักทุกสรรพชีวิตจริงจริงหรือท่านจะเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียวเท่านั้น เมย์ยืนนิ่งน้ำตาไหลอาบสองแก้ม ความรักตัวกลัวตายก็ยังมีมาก แต่อีกใจก็รักทุกชีวิตเช่นกัน ใจตีกันมั่วไปหมด

    เมย์จึงตัดสินใจเข้มแข็งเลิกร้องไห้ ปาดน้ำตาทิ้ง ถามท่านยานาร์ไปด้วยใจและเสียงที่สั่นๆว่า แล้วข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ในเมื่อตอนนี้ข้าพเจ้าไม่ต่างจากเด็กน้อยพึ่งฝึกหัดเลย ขอท่านเมตตาแนะนำข้าพเจ้าด้วย ท่านจีฟาร์เลยเดินมาใกล้ๆเมย์ แล้วเอานิ้วชี้ของท่านชี้มาทางเมย์ แล้วชุดที่เมย์ใส่ก็กลายเป็นชุดแบบเดียวกับคนที่ดาวดวงนี้เขาใส่กัน
    แล้วท่านก็พูดต่อไปด้วยระหว่างที่เอามือวาดบนอากาศ เป็นภาษาที่เมย์ไม่เข้าใจ

    แล้วก็เกิดเป็นสัญลักษณ์อะไรไม่รู้ขึ้นมา แล้วก็มีแสงสีฟ้าออกมาจากสัญลักษณ์นั้น ก่อนจะกลายเป็นชุดเกราะสีเงินเหมือนที่เหล่าผู้พิทักษ์เขาสวมกันมีแสงสีฟ้าออกมาจากชุดนี้ด้วยตลอดเวลา รวมถึงหมวกที่มีกระจกดำปิดหน้าด้วย ลอยอยู่บนอากาศตรงหน้าเมย์ แล้วท่านก็พูดต่อว่า ท่านราเมนด้าร์ชุดนี้เป็นของท่านแล้ว ท่านสามารถเรียกสวมได้ทุกเมื่อ เมื่อท่านมาถึงดาวดวงนี้ แล้วท่านก็ชี้นิ้วมาที่เมย์ ชุดเกราะก็มาสวมใส่ร่างกายให้พร้อมใส่หมวกให้ทันทีอีกด้วย

    ทันทีที่ชุดถูกสวมใส่เข้ามา ระบบต่างๆในชุดก็ทำงาน จิตใจสามารถเชื่อมกับชุดได้อย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะคิดอะไร ชุดเกราะจะตอบสนองระบบป้องกันออกมาทุกอย่าง ส่วนหมวกที่เมย์เห็นว่าเป็นกระจกสีดำ กลับยิ่งทำให้เมย์มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนมากขึ้น มองทะลุสิ่งของได้และสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตรด้วย. ร่างกายและจิตใจสามารถเชื่อมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับชุดได้อย่างน่าประหลาด เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเมย์

    แล้วท่านยานาร์ก็บอกว่า ท่านสามารถดึงศักยภาพของชุดเกราะนี้มาใช้ได้ก็ต่อเมื่อจิตท่านนิ่ง #จิตที่นิ่งคือจิตที่มีพลัง หากท่านจิตไม่นิ่งศักยภาพที่ออกมาจากชุดจะได้ไม่ถึงครึ่ง ดังนั้นท่านจงมีสติต่อทุกสถานการณ์ต่อไปนี้ ในสถานการณ์ที่ท่านเห็นอยู่นี้นี่แค่สถานการณ์ระดับ 3 ในโลกของท่านเท่านั้น และทุกคนที่เห็นในโซนนี้ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ แต่คือเหล่าผู้มีหน้าที่ ที่ถูกดึงจิตมาฝึกเช่นท่าน เหล่าผู้พิทักษ์จะอยู่อีกโซนนึง เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมทุกอย่างจะเริ่มนับแต่นี้

    5..4..3..2..1..ตู้ม!!!! เสียงดังกัมปนาทภูเขาไฟระเบิด แล้วแผ่นดินก็ไหวสั่นอย่างรุนแรงจนเมย์ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ ต้องนั่งลง ตอนนี้เมย์มาอยู่ในสนามฝึกนี้แล้ว และกำลังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก นั่งนิ่งอยู่กับที่ ในสมองสั่งตัวเองว่าคิดสิ คิด จะทำยังไงเมย์ คิดสิ เสียงศิษย์พี่เจียหลงบอกเข้ามาในจิตว่า มีสติน้องหญิงอย่ารนราน สนใจกับสถานการณ์รอบข้าง และตัดสินใจให้เด็ดขาดฉับไว เมย์เถียงกลับไปว่า สถานการณ์แบบนี้ใครจะมีสติสมาธิได้ แล้วศิษย์พี่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเลย

    แต่ท่านยานาร์กลับสั่งการณ์ลงมาว่า เพิ่มระดับสถานการณ์เป็นระดับ 5 !!!! อ๊ากกกกก ตู้ม !!! ไม่นะแค่ระดับ 3 เมย์ก็จะไม่รอดแล้ว แต่ไม่มีเวลาให้เมย์ตั้งตัวแล้วเพราะบนท้องฟ้ากำลังมีอุกกาบาตลูกยักษ์พุ่งลงมาทางเมย์ เมย์ลืมวิธีการบังคับด้วยจิตทุกอย่างจนหมดสิ้นในเวลานั้น ได้แต่วิ่งหนี สติแตกเหมือนคนบ้า จนระบบของชุดเกราะลิงค์ข้อมูลเข้ามาในหัวเมย์ จนทำให้เมย์สามารถจำวิธีการใช้ได้อีกครั้ง ทีนี้เมย์ลองตั้งสมาธิเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง ตั้งใจใช้จิต"วาร์ป"พาตัวเองหนีรอดอุกกาบาตมาอย่างหวุดหวิด แต่พอเท่านั้นแผ่นดินเริ่มแยก ของลาวาสีส้มพุ่งทะลักขึ้นมาตามแนวแยกของแผ่น

    เมย์มองดูรอบๆทุกคนพยายามเอาตัวรอด และช่วยเหลือผู้คนกันอย่างเต็มที่ ไม่มีเวลาที่ใครจะมาสนใจเมย์ ตึกต่างๆพากันถล่มลงมา แผ่นดินเริ่มยุบลงไป เมย์เริ่มใช้จิตบังคับกระโดนขึ้นเหยียบซากตึก ที่กำลังจะจมกองลาวา เพื่อช่วยลูกหมา 3 ตัว ที่ติดอยู่ตรงนั้น พอไปถึงก็อุ้มลูกหมาทั้งสามตัวขึ้นมา แล้วใช้จิตนึกถึงทุ่งหญ้า แล้วส่งลูกหมาทั้งสามตัวผ่านลำแสงสีฟ้าไปที่นั่นแทน ในขณะที่เมย์กำลังจะวาร์ปตัวเองนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องของเด็กที่ติดอยู่ใต้ตึกนี้ แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน อีกอย่างตึกจะจมลาวาแล้ว จะทันไหม เมย์ลังเลมากว่าจะช่วยเด็กได้ยังไง เลยใช้จิตลิงค์กับชุดเกราะมองทุลุลงไปใต้ตึก ก็เห็นเด็กอ่อนไม่กี่เดือน นอนร้องไห้จ้า อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ แต่ผู้เป็นแม่นั้นน่าจะเสียชีวิตแล้ว !!!

    จิตเมย์ในตอนนั้นคือจะยกซากตึกพวกนี้ ออกไปให้พ้นยังไง เลยตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายที่ตึกจมลงพอดี ใช้วิธีเดียวกันนึกถึงสองแม่ลูกแล้วนึกถึงทุ่งหญ้า แล้วขนส่งผ่านลำแสงสีฟ้าไปเช่นกัน แล้วเมย์ก็วาร์ปตัวออกมาได้ทันอย่างหวุดหวิด แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเมย์ เพราะแผ่นดินที่ตัวเมย์วาร์ปออกมาได้เกิดรอยร้าว ที่เตรียมจะยุบลงไปในไม่กี่วินาทีนี่แล้ว เมย์วาร์ปตัวเองอีกรอบไปยืนในจุดที่เป็นภูเขาแต่แผ่นดินก็ยังไม่หยุดไหว แต่แล้วจู่ๆแผ่นดินก็หยุดไหวซะดื้อๆ

    เมย์คิดในใจตอนนั้นว่ามันต้องมีอะไรอีกแน่ๆ คงไม่ง่ายแค่นี้ ไม่ทันขาดคำ ภูเขาที่เมย์กำลังยืนอยู่กับผู้มีหน้าที่คนอื่นอีกสามคนก็ระเบิดลาวาออกมา #ด้วยแรงอัดและแรงระเบิดนี้ทำให้ตัวเมย์และเหล่าผู้มีหน้าที่ #กระเด็นไปคนละทางตัวเมย์ไปอัดกระแทกกับก้อนหินยักษ์ เจ็บ เจ็บ เจ็บมาก #จนไม่สามารถขยับตัวได้ เมย์คิดในใจว่า ร่างกายต้องแตกหักแน่ๆถึงรวดร้าวขนาดนี้ ในระหว่างที่พยายามจะกำหนดจิตจะรักษาตัวเองอยู่นั้น ก็เกิดลาวาถล่มไหลลงมาอีกรอบ #เมย์พยายามใช้จิตวาร์ปตัวเองแต่ไม่ทันแล้ว เพราะลาวาได้ไหลมาทับเมย์ #ความรู้สึกสุดท้ายคือร้อนมากทรมานมากเจ็บปวดสุดบรรยาก่อนดับมืดไป

    เมย์ลืมตาตื่นขึ้นมามีของเหลวสีฟ้าเหมือนเยลลี่ ที่ห่อหุ้มตัวเมย์อยู่ ห่อตั้งแต่ปลายเท้าจนมิดหน้ามิดหัวเมย์เลย จนไม่สามารถขยับตัวได้ แล้วก็มีแสงสว่างขึ้นมาเหมือนแสงไฟของเครื่องถ่ายเอกสาร แล้วเยลลี่นั้นก็ค่อยๆละลายจนหายหมดไปในที่สุด แต่สิ่งที่เห็นตอนนี้คือเหมือนเมย์นอนอยู่ในแคปซูล แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆแคปซูลค่อยๆเปลี่ยนเป็นแนวตั้ง เมื่อฝาแคปซูลถูกเปิดออกก็เจอท่านเรย์น่า ยืนส่งยิ้มให้ เมย์มองสำรวจตัวเมย์เอง อุ๊ต๊ะ !!!! ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น เมย์อายมากรีบเอามือปิดร่างกายตัวเองเป็นพัลวันเลย พร้อมใช้จิตนึกถึงชุดและชุดเกราะ แล้วเมย์ก็กลับมาอยู่ในชุดพร้อมรบเหมือนเดิม ท่านเรย์น่าเลยพูดขึ้นว่า ทำได้ดีนี่ท่านในครั้งแรก แต่ยังไม่ดีพอ จิตท่านยังไม่นิ่งศักยภาพของชุดจึงมาได้แค่ 20% เท่านั้น

    แต่ดูจากท่าทางของท่านคงไม่เป็นอะไรแล้ว คงพร้อมที่จะลงสนามอีกรอบแล้วสินะ !!!!! ห๊าาาา !!! ต้องลงอีกรอบหรือนี่ พึ่งจะรอดตายมานะ!!! ท่านเรย์น่าเลยพูดว่า ท่านหายดีแล้วนี่ สมควรฝึกต่อได้แล้ว !!! พอจบคำของท่านเรย์น่า เมย์ก็มาอยู่ในสนามฝึกอีกครั้ง !!! ท่านเรย์น่าสั่งการณ์ลงมาในสนามฝึกให้ทุกคนรับรู้อีกครั้งว่า เพิ่มเป็นสถานการณ์ระดับ 7 เมย์ร้อย เฮ้ย เสียงหลงออกมาเลยจ้ะ จบคำท่านเรย์น่าปุ๊บ #พวกเราทุกคนรวมถึงวัตถุต่างๆก็ลอยขึ้นเหนือพื้น แล้วล่วงกระแทกลงมาที่พื้นอย่างแรง

    เสียงร้องระงมของผู้คนที่เจ็บปวดขอความช่วยเหลือดังไปหมด ยังไมทันที่พวกเราจะลุกขึ้น แผ่นดินก็สั่นสะเทือนอีกครั้ง พร้อมรังสีบางอย่างที่แสบตามากสามารถทำให้ทุกคนตาบอดได้ เมย์และผู้มีหน้าที่ทุกคนพยายามตะโกนบอกทุกคนให้หลับตา ยังไม่ทันที่เราจะตั้งตัวก็มีเสียงหวีดแหลมดังแหวกอากาศเข้ามา มันปวดแก้วหูมาก ปวดหัวสุดๆ เหมือนเยื่อแก้วหูจะฉีกขาดออกจากกัน หัวสมองจะระเบิดให้ได้ ในจิตตอนนั้นคิดว่า ตายแน่แล้วจะทำยังไงดีล่ะนี่

    ระบบทำการตอบกลับมาว่า ให้ท่านสั่ง Earplugs (ที่อุดหู) มาอุดหูไว้ เมย์เลยนึกให้มีที่อุดหูมากันเสียง แต่เพราะมีหมวกเกราะอยู่แล้วจึงสมารถลืมตาได้ เมย์เห็นผู้คนนอนเสียชีวิตเลือดออกจากทวารทั้งห้า เกลื่อนเป็นแถวเลย เหล่าผู้มีหน้าที่ทุกคนพยายามช่วยเหลือคนเจ็บลำเรียงไปกับแสงส่งขึ้นยาน ในระหว่างที่พวกเรากำลังช่วยลำเรียงคนเจ็บที่รอดชีวิตอยู่นั้น แผ่นดินก็สะเทือนพื้นแตกออกจากกันอีกครั้ง เมย์ที่กำลังพยายามใช้พลังขนย้ายผู้คนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากขนย้ายพวกเขาผ่านลำแสงขึ้นยานไปแล้ว

    เมย์ก็หันไปตามเสียงเรียกนั้น รู้สึกตะหงิดๆว่าเสียงนี้ทำไมคุ้นๆ เมย์พยามใช้ระบบของหมวกมองหาต้นเสียง เมย์ถึงได้เจอ แม่ !!!
    ที่อยู่ห่างออกไปอีกหนึ่งกิโล กำลังยืนอยู่ข้างๆตึกที่ปรักหักพัง ตรงหัวและจมูกของแม่มีเลือดไหลออกมา !!! ด้วยความตกใจเมย์ตะโกนเสียงดังเรียกแม่ออกมา ใจหายมาก รู้สึกเหมือนจะขาดใจให้ได้ ณ ตอนนั้น เป็นห่วงแม่มาก เมย์รีบวาร์ปไปหาแม่ทันที

    เพราะอุกกาบาตและลูกเห็บยักษ์ มันล่วงลงมาอีกแล้ว พอมาถึงตัวแม่เมย์รีบจับมือแม่เตรียมพาแม่วิ่งหนี แต่ก็มีเสียงเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย ร้องไห้เรียกเมย์ไว้ก่อน ฮ่ือๆพี่สาวช่วยพวกเราด้วย แม่ก็พูดขึ้นว่า เมย์ไปช่วยคนอื่นเถอะลูกแม่ไม่รู้จะอยู่อีกได้นานแค่ไหน เมย์รีบตอบแม่กลับว่า ไม่ !!! ในโลกนี้เมย์เหลือแม่แค่คนเดียว เมย์ไม่มีใครอีกแล้ว ถ้าไม่มีแม่เมย์ก็ไม่ขออยู่เหมือนกัน แม่รีบพูดสวนขึ้นมาว่าคนเราเกิดมาก็ต้องตายทุกคนอยู่แล้วอยู่ที่ว่าจะตายช้ายตายเร็วเท่านั้นเอง รีบไปช่วยคนอื่นก่อนก่อนเถอะลูกแม่จะรออยู่นี่ เมย์เลยบอกให้แม่ยืนรอตรงนี้นะ แม่อย่าไปไหนนะ เมย์รีบวาร์ปไปรวบตัวน้องทั้งสองคน พร้อมวาร์ปกลับมาหาแม่อีกครั้ง

    พร้อมพาแม่และเด็กๆวาร์ปไปยืนในที่ปลอดภัย ในหว่างที่เมย์กำลังจะส่งแม่และเด็กทั้งสองผ่านลำแสงขึ้นยาน ได้เกิดหลุมยุบขึ้นพาเอาแม่และเด็กทั้งสองล่วงลงไปในลาวาร้อนๆในวินาทีนั้น โดยที่เมย์คว้าไว้ไม่ทัน
    เมย์ใจสลายสติแตกเลยตอนนั้น ตะโกนเรียกแม่อย่างสุดเสียง แม่ !!!! น้ำตาไหลนองหน้า ฮื่อๆๆๆ ไหนแม่เคยบอกว่ารักเมย์ไง ทำไมทิ้งเมย์ไว้แบบนี้ ในชีวิตนี้เมย์ไม่เหลือใครอีกแล้วนะ เมย์มีแม่แค่คนเดียว ทำไมทิ้งเมย์ไปแบบนี้ แล้วเมย์จะอยู่ยังไง จะอยู่ต่อไปทำไม ฮื่อๆๆ หากแม่คนเดียวเมย์ยังรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ เมย์ก็ไม่สมควรที่จะไปช่วยใครทั้งสิ้น !!! จะตายก็ช่างมัน เมย์ไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกแล้ว!!! ฮื่อๆๆๆ จะไม่ขอช่วยใครอีกต่อไปแล้ว!!! ในระหว่างที่เมย์กำลังเสียสติ ก็ได้มีอภิมหาคลื่นยักษ์ คลื่นนี้ใหญ่มากๆๆๆๆ สูงยิ่งกว่าตึก 50 ชั้น

    กวาดต้อนกลืนกินชีวิตผู้คนอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีความปราณีใดๆทั้งสิ้น เมย์ไม่แม้แต่จะทำอะไร ไม่แม้แต่จะสู้หรือลุกหนี้ แล้วก่อนที่ความความรู้สึกของเมย์ก็ดับวูบลง คำสอนของแม่ได้แว๊บเข้ามาในหัวว่า "ตอนเด็กๆแม่เคยสอนให้เมย์เข้มแข็งอยู่เสมอ หกล้มแม่ก็ให้ลุกเองแล้วแม่ก็บอกว่าทีหลังก็ระวังให้มากกว่านี้นะต่อไปจะได้ไม่เจ็บอีกและตอนนี้แม่ก็หวังว่าเมย์จะเข้มแข็งแล้วเดินหน้าต่อไปอย่าย่อท้อสู้ต่อไปนะแม่จะเป็นกำลังใจให้ตลอดไปแม่ขอให้เมย์อย่าได้เจ็บอีกต่อไปเลยเพราะคนที่เจ็บกว่าเมย์ก็คือแม่นะลูก..."

    เมย์มารู้สึกตัวอีกครั้ง ในแคปซูลเหมือนเดิม ก่อนที่แคปซูลจะเปิดเมย์ก็ใช้จิตนึกถึงชุด ชุดแบบชาวดาวอังคารก็มาปรากฏบนเรือนร่างเมย์อีกครั้ง พอแคปซูลเปิดออก เมย์ก็ได้พบกับท่านเรย์น่า ท่านจีฟาร์และท่านยานาร์ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลมๆสีเงินลอยได้ อยู่กันคนละมุม เมย์ไม่มีอะไรจะพูดกับพวกท่านทั้งสาม ตาสองข้างของเมย์ยังคงแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตา สถานการณ์ที่เมย์เจอมันเกินกว่าที่เมย์จะคาดคิดและรับไหว ท่านเรย์น่าจึงเอ่ยขึ้น เราเข้าใจความรู้สึกของท่านนะ ท่านราเมนด้าร์ แต่เราจำเป็นต้องให้ผู้มีหน้าที่ทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจรับให้ได้

    เพราะในสถานการณ์นั้น เราอาจจะต้องสูญเสียผู้คนที่เรารักทุกคนไป ต้องอยู่ให้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในวันข้างหน้าก็ตาม ท่านยานาร์จึงเสริมสติให้เมย์ได้คิดต่อว่า นี่แค่บทเริ่มต้นเท่านั้น "หากท่านต้องการจะอยู่เพื่อฉุดช่วยทุกสรรพชีวิตจนกว่านรกจะว่างนั้น ท่านยังจะต้องพอเจออะไรอีกเยอะ ยังจะต้องเจอเรื่องบีบคั้นหัวใจอีกมาก ต้องเสียสละในทุกอย่างในชีวิตที่ท่านมี แม้แต่ชีวิตของท่านเอง และต้องยอมสูญเสียคนที่ท่านรักทุกคนในทุกชาติภพ ตราบจนกว่าจะท่านบรรลุปณิธาน

    นี่แค่บททดสอบเท่านั้น หากท่านต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ ในสถานการณ์จริง ท่านจะทำอย่างไร" เอาล่ะทางเราจะผนึกความทรงจำท่านไว้ ให้ท่านจำได้เพียงเท่านี้ แล้วท่านเรย์น่าก็เอามือมาแตะที่หัวของเมย์ เสร็จแล้วเมย์ก็กลับมาบ้านในตอนเช้า

    ***บทส่งท้ายคัดจากบทความของพี่เต้ยบางส่วน***

    บางสิ่งบางอย่างนั้นไม่ได้รู้ไว้เพื่อตัวเราเอง แต่รู้ไว้เพื่อคนอื่น
    ทุกอย่างมาจากแหล่งเดียวกัน เป็นสิ่งเดียวกัน แค่ก่อรูปไม่เหมือนกันเท่านั้น ทั้งๆที่มีพลังงานสะอาดและไม่เบียดเบียนโลกแต่ทำไมไม่ค้นคว้าหาทางนำมันมาใช้ มนุษย์ทำให้โลกอ่อนแอ..โลกจึงจำเป็นต้องปรับตัวเองด้วยการกำจัดเชื้อร้าย!!! ธรรมชาติให้เวลามนุษย์มามากพอแล้ว ในการกลับตัวกลับใจ หันมาใส่ใจโลก แต่แล้วมนุษย์กลับเพิกเฉยในโอกาสนั้น ทางสมาพันธ์ทราบดีว่าจะเกิดอะไร แต่ถูกสั่งห้ามไม่ให้แก้ไขใดๆทั้งสิ้น..งานที่เหลือคือ รอช่วย และรอฟื้นฟูเท่านั้น

    คนที่ถูกเลือกนั้นจะไม่ได้ถูกอพยพในช่วงเกิดวิกฤติ..เหล่าคนที่ถูกเลือกจะ ต้องวิ่งเข้าใส่ในพื้นที่เกิดเหตุในขณะที่คนอื่นนั้นหนีออก คนที่ถูกเลือก จะมีหน้าที่ช่วยคน รักษาคน และส่งคน แต่จะได้ขึ้นยานหรือถูกส่งตัวไปยังที่ปลอดภัยก็ต่อเมื่อไม่มีใครเหลือให้ช่วยแล้ว (สรุปคือพวกคนที่มีหน้าที่ ต้องลุยกับมหาเหตุการณ์วิบัติ จนกว่าทุกชีวิตที่รอด จะได้รับการช่วยเหลือจนหมด เมย์และผู้มีหน้าที่ถึงจะได้รับการช่วยเหลือให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยต่อไป

    เป็นสิทธิพิเศษที่เพอร์เฟ็คมาก ไม่รับตอนนี้ทันมั้ย อยากจะร้องไห้) คนที่มีหน้าที่ช่วยคนนั้น จะมีบางคน ที่ไม่ได้ขึ้นยานไปในตอนเกิดเหตุ จะต้องมีบางคนอยู่ที่ภาคพื้นดิน ต้องคอยตามหา และตระเวนช่วยคนเท่าที่สามารถ จะทำได้เพียงเคลื่อนย้ายคนขึ้นยานเท่านั้น โดยใช้ลำแสงขนส่ง แต่ตัวเองขึ้นไม่ได้..จะเป็นคนที่ต้องทนอยู่กับทุกสภาวะ ทั้งทางกาย และทางจิต มันจำเป็นต้องเกิด มันเป็นระบบของจักรวาล มันเป็นวงจร หรือวัฏฏะจักร โลกใบนี้เกิดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และเมื่อสิ้นสุดกระบวนการ มนุษย์ก็จะวิวัฒนาการไปอีกขั้น และทุกครั้งก็จะมีเหล่าเพื่อนร่วมแกแลคซี่คอยช่วยเหลือดูแลเสมอ..ครั้งนี้ก็เช่นกัน


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/mey-thida-phrhm/miti-thi-6-txn-thi-1
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝันเห็นภาพของทหารสองกลุ่มยิงต่อสู้กัน

    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL2hlLzAvdWQvMy8xNzQxMy9zbGVlcC5qcGc=.jpg

    Dream_Seer สมาชิก

    สวัสดีครับ นึกว่าผมแปลกอยู่คนเดียว พึ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกครับ ปกติผมเป็นคนปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิวิปัสสนา เคยได้ยินกระแสวันสิ้นโลก มาตั้งแต่ ปี 2000

    ในตอนนั้น ผมได้มีโอกาสไปถามครูบาอาจารย์ ว่า โลกมันแตกในปี 2000 หรือไม่ ท่านก็ตอบว่า ยังหรอก แต่ภัยธรรมชาติมันจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย และ อีกประมาณ 10-13 ปี ท่านก็บอกว่าประเทศไทยเราจะประสบกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงมาก และ จะมีคนตายมาก ผมก็ถามต่อว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ท่านก็บอกว่าให้เร่งปฏิบัติธรรม ถึงเวลาถ้าเราจะรอด กรรมจะกำหนดให้เรารอด แต่ถ้าเราต้องตายก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย และ ผลกรรมที่เราทำมาในอดีต ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล ให้เร่งปฏิบัติธรรมชำระจิตใจ ฝึกสติ วิปัสสนา

    โดยปกติก่อนเข้านอนทุกครั้ง ผมจะนอนดูลมหายใจ จนกระทั้งหลับไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เห็นภาพในฝันเป็นเรื่องหลัก 4 ภาพครับ จึงอยากจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ทุกคนที่นี้

    1) ผมเห็นโลกจากอวกาศ ผมเห็นภาพประเทศไทย ช่วงภาคกลาง บริเวณที่เป็นที่ราบลุ่มรูป "ก" โดนน้ำทะเลท่วมเข้ามาหมด น่าจะไปสุดอยู่แถวๆ ลพบุรี และ สระบุรี ในส่วนของเมืองริมชายฝั่งของประเทศไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน โดนน้ำทะเลท่วมไปหมด ปรากฎเป็นภูมิประเทศแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สงขลา ชลบุรี ภูเก็ต สตูล ปัตตานี นราธิวาส เป็นต้น ในขณะที่ต่างประเทศนั้น ผมเห็น ไต้หวันและญี่ปุ่น เหลือแต่เกาะเล็กๆ ในทะเลเท่านั้น ส่วนชายฝั่งของจีนน้ำก็ท่วมเข้าไปลึกพอสมควร ผมเห็นแต่ภาพ แต่ไม่ทราบสาเหตุ

    2) ผมเห็นภาพของทหารสองกลุ่ม ยิงต่อสู้กันกลางกรุงเทพ และคนในกรุงเทพ ก็พยายามอพยพออกจากกรุงเทพ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว

    3) ในเวลาไล่เลี่ยกันจากเหตุการณ์ในข้อ 2 ผมได้ยินเสียงประกาศจากวิทยุ ว่ามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในประเทศไทย และ บ้านเรือนที่อยู่ตามริมแม่น้ำสำคัญๆ ของไทยถูกน้ำท่วมกวาดหายไปหมด

    4) ผมเห็นภาพของตัวเอง และผู้คนที่เดินบนท้องถนน สูญเสียการทรงตัว ไม่สามารถเดินเหมือนปกติ ผมมีอาการเหมือนตกหลุมอากาศ และหลังจากนั้นก็รู้สึกตัวเองมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ความรู้สึกตรงนั้นจะเหมือนกับเวลาเราขึ้นรถเมล์ แล้วรถเมล์ขับเร็วมาก พอถึงสี่แยกไฟแดงแล้วมันหยุด ตัวเราเหมือนจะปลิวออกไป แล้วตกลงมาด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น

    ส่วนตัวแล้วผมยังคิดว่าเมืองไทย ยังมีพระอริยะ มีพระโพธิสัตว์ ที่มาจุติเพื่อบำเพ็ญบุญบารมีอยู่เยอะแยะ แต่ละองค์ แต่ละท่าน ก็ทิ้งขันธ์เพื่อให้พลังบุญของท่าน บรรเทาเหตุการณ์ร้ายๆ ในประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ปีที่แล้ว องค์หลวงตามหาบัวและสมเด็จวัดชนะ ท่านก็ทิ้งขันธ์ของท่าน ประเทศไทยเรายังมี หลวงพ่อคูณ มีสมเด็จพระสังฆราช และยังมีพ่อหลวงของเรา ผมก็หวังว่าบารมีของพวกท่านเหล่านั้นจะปกปักษ์รักษาประเทศไทย ให้รอดพ้นจากภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย

    ขอให้ทุกท่านในเว็บพลังจิต จนเตรียมตนอยู่ด้วยความไม่ประมาท ประกอบกุศลกรรมเป็นนิจ อย่าได้กังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดเดาของทุกท่านทั้งสิ้น แต่ปัจจัยของการเกิดนั้นมีตัวแปรมากมาย ดังนั้นการทำนายทายทักในเรื่องของวันเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น มีการเปลี่ยนแปลงเสมอครับ ผมบอกทุกท่านได้เลย

    ด้วยเหตุนี้คำทำนายต่างๆ ที่ได้มีการเผยแพร่ออกมานั้น แต่ละคนก็จะเห็นตามญาณทัศนะที่แตกต่างกัน เหมือนตาบอดคลำช้าง แต่สุดท้าย มันก็คือช้างนั้นเองครับ แต่อาจจะเห็นในมุมที่ต่างกันออกไป แต่เมื่อนำคำทำนายต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน ประเด็นก็จะเป็นประเด็นเดียวกัน ดังนั้นอย่าได้หัวเราะหรือดูถูกคำทำนายเหล่านั้น

    11-12-2012, 02:33 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สรุป-ง...17-ธันวาเป็นต้นไปเตรียมตัวให้ดี.384056/page-8
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝันว่าจะมีเหตุจราจล ภายหลังไบเดนชนะ

    ipzaplmOjdHiVvgI_103100.jpg

    สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events

    9 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น.

    ฝันของลูกชายศิษยาภิบาล Sharell Barrera เล่า (เมื่อกรกฏาคม) ว่าจะมีเหตุจราจลภายหลังไบเดนชนะ - ทรัมป์กลับมา และคนทุจริตถูกจับ
    Sharell Barrera เล่า ซามูเอลลูกชายของฉันอายุ 15 ปี ตื่นขึ้นมาและบอกฉันว่าเขามีความฝันที่น่ากลัวเกี่ยวกับการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน เขาบอกว่า แม่..เราคิดว่าทรัมป์จะชนะ ทันใดนั้น Biden ก็ชนะ คะแนนโหวตพุ่งสูงขึ้น และ Biden ได้รับชัยชนะ จากนั้นโลกของเราก็เข้าสู่ CHAOS การจลาจลเลวร้ายมาก มีคนตายทุกที่ ...
    -

    เขาบอกว่าหลังจากนั้นโลกจะเข้าสู่ chaos ความวุ่นวายโกลาหล เกิดขึ้น มีการตายอยู่ทุกหนทุกแห่ง?!

    คำเตือนเกี่ยวกับ TRUMP! และการเลือกตั้งเดือน พฤศจิกายน
    เช้านี้ซามูเอล ลูกชายของฉันอายุ 15 ปี ตื่นขึ้นมาและบอกฉันว่า เขามีความฝันที่น่ากลัวเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ในเดือนพฤศจิกายน เขาบอกว่าแม่เราคิดว่าทรัมป์จะชนะ ทันใดนั้น Biden ก็ชนะ คะแนนโหวตพุ่งสูงขึ้นและ Biden ได้รับชัยชนะ จากนั้นโลกของเราก็เข้าสู่ CHAOS การจลาจลเลวร้ายยิ่งขึ้น มีไฟไหม้ การประท้วงของพวกเขา ไม่มีตำรวจและผู้คนถูกสังหารทุกที่

    จริงๆแล้วเขาอารมณ์เสียมากเมื่อตื่นขึ้นมา เขาบอกว่าแม่ก็เหมือน (คะแนนเสียงเป็นหัวเรือใหญ่) จากนั้นทรัมป์ก็กลับเข้ามา และคนทุจริตก็ถูกจับ! ฉันเชื่อว่าพระเจ้ากำลังส่งคำเตือนมาถึงเรา ในฐานะประเทศในขณะนี้ เราต้องมาร่วมกันลงคะแนนเสียง และอธิษฐานและเราต้องสามัคคีกัน การอธิษฐานสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการในฐานะประเทศคริสเตียน วาระซ่อนเร้นของศัตรูคือการได้ผู้นำที่ชั่วร้ายในรัฐบาลของเรา เพื่อให้พวกเขาสามารถควบคุมและจัดการกับเราต่อไป

    ลองนึกถึงคนชั่วร้ายและคอรัปชั่น ที่ถูกเปิดเผยตั้งแต่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง หลายคนเกือบจะโหวตให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตอนนี้ถูกเปิดเผยว่าเป็นแม่มดและเป็นนักล่าเด็ก เราต้องประกาศว่าทรัมป์จะได้รับชัยชนะและความชั่วร้ายจะถูกเปิดเผยต่อไป

    #Pray ForTrump 2020 WE MUST VOTE ! เพียงเพราะคำทำนาย ไม่ได้แก้ตัวจากการโหวต !!! เราต้องยืนหยัดในชั่วโมงและเวลานี้! นี่เป็นเรื่องร้ายแรง เราประกาศว่า TRUMP จะชนะ โดยการถล่มและไม่มีอาวุธใดที่สร้างขึ้นมาต่อต้าน เขาจะประสบความสำเร็จ


    ที่มา https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นิมิตจากพระเจ้า จะเกิดกลียุคหรือสงครามกลางเมืองในอเมริกา

    img_7661-png.png

    BIBLE CODE: EX:39:10, DEUT:1:36:
    MARCH 01, 2010- COMET IMPACT- UTAH
    DAYTIME - DAYLIGHT- IN THE MORNING
    HOLOCAUST - CATASTROPHE- ANNIHILATION
    SOUTH - PATH - TRAJECTORY - SOUTH
    PREVENTION - PREVENTABLE - STOPPED
    ACTUAL DATE: 15 ADAR 5770 (HC).


    ในปีนี้จะมีอุกกาบาตตกใ่ส่โลก และ Code จากแหล่งอื่น ๆ ก็บอกว่า อุกกาบาตนี้จะใหญ่ขนาดตกใส่มหาสมุทรแอตแลนติก จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์อย่างในหนัง Deep Impact ได้ทีเดียว ต้องรอดูกัน

    ส่วนดาว NIBIRU นั้นก็มีบอกอยู่ใน BIBLE CODE ว่ามันมีอยู่จริง ๆ และกำลังใกล้เข้ามาและจะได้เห็น แม้ตอนนี้จะไม่เห็น BIBLE กล่าวว่า มันเป็นดาวที่หลบ ๆ ซ่อน ผลุบโผล่ ๆ ที่เรียกว่า HIDDEN STAR จึงไม่เห็นตลอดเวลาหรืออยู่ที่เดียวตลอด และยังมี Bible Code ที่กล่าวเตือนถึงการบุกรุกของมนุษย์ต่างดาว(ฝ่ายชั่ว)ด้วย ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลมานำเสนออยู่

    ยังมีเรื่่องที่อยากนำเสนออีกเช่น นิมิตที่พระเจ้าสำแดงให้เห็นว่าจะมีอุกกาบาตใหญ่ 3 ลูก ตกที่อ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย ใหญ่ขนาดทำให้เกิดคลื่นยักษ์อย่างที่ดูในหนัง Deep Impact เลยนั่นแหละ และผู้เ็ห็นนิมิตจากพระเจ้าได้เปิดเผยแผนที่อเมริกาที่จะถูกคลื่นถล่มจนเละ ด้วย

    แนะนำเวปของคริสเตียนคนหนึ่ง ที่เป็นอาจารย์และได้ถอด Bible Code มาเตือนเป็นระยะ ข้อมูลเยอะมาก http://www.satansrapture.com/ ไบเบิลโค้ดปีนี้ถูกหมดทุกรายละเอียดเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เฮติและ ชิลี

    คำทำนายนี้ มาจากนิมิต ไม่ใช่ Bible Code และที่สำคัญต่อมาคือ เขาทำนายว่า จะเกิดกลียุคหรือสงครามกลางเมืองในอเมริกา พร้อม ๆ กับการใช้ Martial Law หรือ พรก. ฉุกเฉิน + กฎอัยการศึก แบบบ้านเรานั่นแหละ และ รัสเซียกับจีนอาจจะถือโอกาสบุกอเมริกา เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ในปีนี้ เรื่องสงครามนิวเคลียร์นี้ กำลังแปลนิมิตที่เขาเห็นมาให้อ่าน อเมริกาจะถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ในเมืองใหญ่ ๆ คนตายเป็นล้าน ๆ

    From : 1p2m [25 กุมภาพันธ์ 2553 23:04]

    ที่มา Bloggang.com : jesdath
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โหรดัง “โสรัจจะ” เตือนคนไทย เตรียมรับมือสงครามใหญ่ ปลายปี 2563


    31 ม.ค. 2020
     

แชร์หน้านี้

Loading...