“พระเทพฯทรงระนาด”ดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ 37

พระเทพฯทรงระนาด ดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ 37

คัคนานต์ ดลประสิทธิ์ รายงาน




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค.ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เป็นเจ้าภาพจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 37 "ดุริยารมย์ อุดมศึกษา"

โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.

และทรงระนาดร่วมกับวงดนตรีเกียรติยศธรรมศาสตร์ บรรเลงเพลงถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ดุริยารมย์ บังคมคัล"

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงระนาดร่วมกับวงดนตรีเกียรติยศของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3 เพลง ได้แก่ เพลงน้ำลอดใต้ทราย เพลงครอบจักรวาล และ เพลงสะสม

นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ยังได้ทอดพระเนตรการบรรเลงเพลงของมหาดุริยางคสถาบันอุดมศึกษา 2 เพลง ได้แก่ เพลงโหมโรงเทิด สธ. และ เพลงชื่นชุมนุมกลุ่มดนตรี

รวมทั้งทอดพระเนตร การเล่าเรื่องเครื่องดนตรีชิ้นเอก

จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสวยพระกระยาหารค่ำร่วมกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงความสำคัญของการจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษาว่า การจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 37 ถือว่าเป็นการจัดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญและยิ่งใหญ่ ซึ่งการจัดงานเป็นการส่งเสริม กระตุ้นให้เยาวชนเกิดความสนใจศิลปวัฒนธรรมของชาติ ส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าและการเรียนรู้กับดนตรีพิธีกรรมของไทยและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เนื่องจากดนตรีไทยไม่ได้เป็นเรื่องของคนรุ่นเก่าเท่านั้น เพราะสังคมได้ฝากความหวังในการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติเอาไว้กับเยาวชน
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


ขณะเดียวกันการจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 37 ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในวาระที่ มธ.ครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย หลังจาก มธ.เคยรับเป็นเจ้าภาพงานดนตรีไทยอุดมศึกษา มาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งถือว่าห่างมานาน

ดังนั้น คิดว่าการประกาศความเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ การเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นสถาบันที่อยู่คู่กับสังคมไทย การรับเป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่งต้องจัดให้ใหญ่ให้มีความสำคัญ จัดให้มีความหมาย ซึ่งน่าจะเป็นบทบาทสำคัญที่มหาวิทยาลัยจะทำได้ และยังสอดคล้องกับวาระครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย

ศ.ดร.สุรพล กล่าวต่อว่า งานดนตรีอุดมศึกษาที่ทำมาในอดีต มีความสำคัญและยิ่งใหญ่หลากหลายแตกต่างกันไป ในครั้งนี้ มธ.รับเป็นเจ้าภาพและถือว่าเป็นโอกาสร่วมเฉลิมฉลองในวาระที่ มธ.ครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย จึงต้องทำให้เป็นงานใหญ่ที่มีความสำคัญและมีความหมาย

สาระสำคัญของงานดนตรีไทยครั้งที่ 37 จะมีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมในงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 37 จำนวนกว่า 80 สถาบัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดที่เคยจัดมา เป็นจำนวนนักศึกษากว่า 3,000 คน ได้ร่วมกันเล่นดนตรีไทย ได้พบปะสังสรรค์ รวมทั้งเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ มธ.ยังได้นำอีก 2 เรื่อง มาทำควบคู่กับงานไปด้วย คือ 1.พยายามทำให้เกิดงานวิชาการดนตรีไทย ซึ่งมีการวิจัย ศึกษาค้นคว้า มีการรวบรวมข้อมูล เรื่องราวต่างๆ หลักๆ ของการวิจัยดนตรีพิธีกรรม เป็นการรวบรวมดนตรีพิธีกรรมได้ยินได้ฟังอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ หรือตามศาสนาต่างๆ ตามงานศพ งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ ที่ยังไม่เข้าใจความหมาย มานำเสนอแบบงานวิชาการ และ 2.ได้เพิ่มการประกวดประชันดนตรีต่างๆ
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


"คงไม่บอกว่าเป็นงานที่ดีที่สุด แต่คงเป็นอะไรที่รวบรวมเรื่องราวที่เกี่ยวกับดนตรีพิธีกรรมของสังคมไทย ซึ่งมีมิติทั้งในด้านวัฒนธรรมและสังคมเยอะมาก การจัดงานนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้แนวความคิดในเรื่องนี้มันตกผลึกเป็นงานทางวิชาการที่ต่อเนื่องไป ไม่ใช่การมาร่วมเล่นดนตรีเพียงอย่างเดียว" อธิการบดี มธ. กล่าว

อย่างไรก็ตาม นับเป็นโชคดีของ มธ. ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน และทรงระนาดร่วมกับวงดนตรีเกียรติยศธรรมศาสตร์ด้วย

ศ.ดร.สุรพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา การจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษาไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่มีการจัดงานที่เวียนวนกันไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมหาวิทยาลัยขอนแก่นรับเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน

การจัดงานในต่างจังหวัด มีระยะความใกล้ไกล ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เคยทรงเป็นประธาน ไม่สามารถเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานได้ เพราะทรงติดพระราชภารกิจหลายประการ รวมทั้งผู้ที่จะเข้าร่วมงานจะต้องมีเวลาอย่างน้อย 2 วัน ถึงจะเข้าชมงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงทำให้การจัดงานในต่างจังหวัดส่วนใหญ่มีความเงียบเหงาและซบเซา

อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้ คิดว่า มธ. มีศักยภาพและความพร้อมสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่หรือการดึงดูดผู้ที่สนใจ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป เข้ามาร่วมงานนี้ด้วย

"คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการศึกษาค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับดนตรีพิธีกรรมของไทย รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติ ตลอดจนสร้างเครือข่าย ความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา นักวิชาการ และนักศึกษาจากภูมิภาคต่างๆ" อธิการ บดี มธ. กล่าว

ศ.ดร.สุรพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ภายในงานยังพบกับนิทรรศการเล่าเรื่องเครื่องดนตรีชิ้นเอก ได้จัดแสดงเครื่องดนตรีที่หาชมได้ยาก และการประชุมวิชาการ เรื่องดนตรีพิธีกรรม ซึ่งได้เลือกผลงานวิชาการเกี่ยวกับดนตรีพิธีกรรมมานำเสนอในรูปแบบพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิชาการในหนังสือการประชุมวิชาการ การบรรยายประกอบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และการบรรยายประกอบการสาธิตด้วย

งานดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ 37 จัดระหว่าง 29-31 ต.ค. ตามมาด้วยงานลอยกระทงธรรมศาสตร์ 75 ปี มธก. ในวันที่ 1-2 พ.ย. ในพื้นที่กว่า 200 ไร่ ของเอเชี่ยนเกมส์ปาร์ก ที่กลายเป็นงานวัดอย่างสมบูรณ์แบบที่มีเครื่องเล่นชนิดต่างๆ อาทิ ชิงช้าสวรรค์ มอเตอร์ไซค์ไต่ถัง ปาเป้า ยิงปืน กิจกรรมบันเทิง เช่น การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปิน ซี้ด 97.5 เอฟเอ็ม การออกร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อป สินค้า "สหกรุ๊ปแฟร์" ในเครือบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ตลาดน้ำแบบไทย

นับเป็นงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ บอกเล่ามิติทางวัฒนธรรมที่เป็นจุดเด่นอีกประการหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่เคียงข้างสังคมไทยมา 75 ปีแล้วได้อย่างชัดเจน

----------

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNUzB3TlE9PQ