ใต้จมน้ำผลพวงภาวะโลกร้อน

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 19 ธันวาคม 2005.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    ฝนถล่มภาคใต้ไม่หยุด คราชีวิตแล้ว 2 ศพ น้ำพัดหายไปอีก 3 บ้านเรือนราษฎรถูกพัดพัง ผลิตผลทางการเกษตรเสียหายย่อยยับ ถนนหลายสายถูกตัดขาดจนเป็นอัมพาต

    <DD>รถไฟต้องหยุดเดินรถเพราะน้ำเซาะราง หาดใหญ่อลหม่านหวั่นซ้ำรอยปี 43 ขนสิ่งของหนีขึ้นที่สูงพร้อมกักตุนอาหารไว้รับมือ นักวิชาการชี้ผลพวงภาวะโลกร้อน
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้หลังจากที่เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ที่ จ.ยะลา ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ระดับน้ำท่วมสูงใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ยะหา อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา และ อ.รามัน โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 2 และหมู่ 6 บ้านนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา เส้นทางถูกตัดขาด สะพานเสียหาย บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำพัดพาไปหลายหลัง และประชาชนสูญหายไปกับกระแสน้ำ 2 คนยังค้นหาไม่พบ นอกจากนี้สะพานบ้านรานอ ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา ถูกน้ำกัดเซาะคอสะพานชำรุด รถสัญจรไป-มาไม่ได้
    <DD>ที่ จ.นราธิวาส เส้นทางรถไฟในพื้นที่บ้านสะโลว์ หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวที่เอ่อล้นจากแม่น้ำสายบุรีกัดเซาะจนชำรุด รถไฟบางขบวนที่ออกจากสถานีสุไหงโก-ลกต้องหยุดวิ่งชั่วคราว ขณะที่น้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรีไหลลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลกอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งต้องรีบอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง
    <DD>นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่น้ำเซาะทางรถไฟจนเสียหายโดยเฉพาะชุมทางเขาชุมทอง-นครศรีธรรมราช จึงต้องปิดการเดินรถชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุง ทำให้ขบวนรถด่วนจากทุ่งสง-นครศรีธรรมราชหยุดชะงัก และต้องใช้รถยนต์ขนถ่ายผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทาง ขณะนี้จุดล่อแหลมคือเส้นทางจากหาดใหญ่ไปจนถึงจังหวัดพัทลุง เนื่องจากมีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ หากน้ำในคลองอู่ตะเภาเอ่อล้นเข้าท่วมเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จะสามารถขนถ่ายผู้โดยสารจากสถานีไม่ให้ตกค้างได้อย่างแน่นอน
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดสตูล หลังฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. น้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอกับ 1 กิ่งอำเภอ คือ อ.ท่าแพ อ.ควนโดน อ.ควนกาหลง อ.ละงู อ.เมือง และกิ่งอำเภอมะนัง ชาวบ้านต้องอพยพสิ่งของขึ้นไปอยู่บนที่สูง และจากการที่ฝนยังตกหนักต่อเนื่องทำให้ดินพังถล่มลงมาทับเส้นทางสายบ้านป่าพน-ควนกาหลง ทำให้รถสัญจรไม่ได้ นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าฯ สตูล พร้อมด้วยนายสมเกียรติ อินทรคำ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล ได้ออกสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ต่างๆ
    <DD>รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ อ.ควนโดน จ.สตูล น้ำป่าจากเทือกเขาทะลักลงมาท่วมบ้านเรือนที่อยู่สองฝั่งคลองและพื้นการเกษตรเสียหายหลายตำบล แล้วไหลเข้าท่วม ต.ย่านซื่อ อ.เมือง สูง 1 เมตร ขณะที่บ้านนาลุ่ม หมู่ 6 บ้านท่าแพใต้ หมู่ 5 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ น้ำทะเลหนุนเข้ามาสมทบกับน้ำป่าจากพื้นที่ อ.ควนกาหลง ไหลตามคลองบาราเกตุเอ่อท่วมสูง 70 ซ.ม. บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 75 หลัง รถผ่านไม่ได้ ที่ อ.ละงู ต.กำแพง ต.แหลมสน เกษตรกรที่ปลูกแตงโมต้องหมดตัวเพราะน้ำท่วมเสียหายไปกว่า 500 ไร่
    <DD>ที่ จ.พัทลุง ล่าสุดมีน้ำท่วมขังใน 410 หมู่บ้าน 57 ตำบล 10 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 28,058 ครัวเรือน 62,942 คน เสียชีวิตเพราะจมน้ำ 2 คนในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ควนขนุน และสูญหาย 1 คน ในพื้นที่ อ.ปากพะยูน คือ นายสุรศักดิ์ สุขชาญ อายุ 28 ปี ถูกกระแสน้ำพัดหายไป บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำพัดพาเสียหายกว่า 50 หลัง สัตว์เลี้ยง 62,447 ตัว แปลงหญ้า 2,387 ไร่ บ่อปลาและบ่อกุ้ง 6,427 บ่อ และพื้นที่การเกษตร 97,118 ไร่เสียหาย
    <DD>ด้าน จ.ตรัง ในภาพรวมน้ำยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว หลายพื้นที่ยังได้รับผลกระทบจากน้ำป่า การจราจรเป็นอัมพาตไปทั้งเมือง เวลา 11.00 น. ถนนสายตรัง-พัทลุง บนเขาพับผ้า เทือกเขาบรรทัด ช่วงรอยต่อระหว่าง จ.ตรัง-พัทลุง ได้ทรุดตัวอีกหลังเกิดปัญหามาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้รถบรรทุกและรถทัวร์ผ่านไม่ได้ ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายหาดใหญ่-สตูล หรือถนนสายพัทลุง-ทุ่งสง เพื่อเข้า จ.ตรังแทน
    <DD>นอกจากนี้ ถนนรัษฎาก็มีน้ำท่วมหลายจุด เช่น ที่บริเวณหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง 1 โดยเฉพาะที่บริเวณสี่แยกสะพานวังยาว ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ เช่นเดียวกับที่สี่แยกต้นสมอ ตั้งแต่ห้างเทสโก้โลตัสไปจนถึงห้างแม็คโคร ระดับน้ำสูงมากจนรถไม่สามารถผ่านไปยัง จ.สตูลได้ ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายตรัง-กันตังแทน รวมทั้งถนนสายคลองน้ำเจ็ด ก็ประสบภาวะน้ำท่วมขังเช่นเดียวกัน ทำให้ร้านค้าจำนวนมากต้องปิดกิจการ
    <DD>นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากภาวะฝนตกในช่วงวันที่ 8-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมทั้ง 9 อำเภอ ยกเว้นเพียงกิ่งอำเภอหาดสำราญเท่านั้น รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 58 ตำบล 287 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 11,107 ครัวเรือน 33,187 คน ขณะนี้ทางจังหวัดตรังได้ทำการช่วยเหลือเบื้องต้น ด้วยการแจกจ่ายถุงยังชีพไปแล้ว 2,730 ถุง และพืชอาหารสัตว์ 3,600 กิโลกรัม
    <DD>สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในขณะนี้ คือ อ.รัษฎา มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 7 ตำบล 47 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 5,325 ครัวเรือน 15,975 คน รองลงมาคือ อ.ห้วยยอด เสียหาย 16 ตำบล 87 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 4,001 ครัวเรือน 14,245 คน, อ.เมืองตรัง เสียหาย 7 ตำบล 24 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 633 ครัวเรือน 2,218 คน
    <DD>สำหรับที่ อ.ห้วยยอด ถนนสายท่างิ้ว-ในเตา และสายทางเข้าเขื่อนท่างิ้ว มีหินและดินถล่มเป็นระยะทาง 2 ก.ม. ทับบ้านเรือนประชาชน 1 หลัง ทำให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนถนนสายในเตา-วังอ่าง สาย 4270 ช่วงบริเวณภูเขารัง เกิดดินโคลนทรุดตัวและต้นไม้ล้มทับถนน ซึ่งทางแขวงการทางตรังได้ใช้รถไถเกลี่ยตักดินออกบางส่วนแล้ว
    <DD>ส่วนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประชาชนต่างพากันขนของขึ้นไปไว้บนที่สูงเนื่องจากเทศบาลประกาศว่าระดับน้ำในคลองอู่ตะเภากำลังจะล้นตลิ่ง เกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักอย่างในอดีต โดยนายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าฯ สงขลา เตือนให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลมาจาก อ.สะเดา อ.จะนะ และ อ.นาหม่อม หากฝนยังตกต่อเนื่องไปอีก 2 วัน เพราะการระบายน้ำสู่ทะเลสาบสงขลาไม่สะดวกเนื่องจากน้ำทะเลหนุน นายสมพรกล่าวว่า นอกเหนือจากระวังน้ำป่าแล้ว ในพื้นที่ป่าเขา อ.นาทวี อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย ก็สั่งให้เฝ้าระวังแผ่นดินถล่ม เนื่องจากขณะนี้ฝนได้เคลื่อนตัวไปตกมากในพื้นที่ดังกล่าว
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้การเดินรถใน อ.หาดใหญ่ เส้นทางหาดใหญ่-ภูเก็ตต้องระงับชั่วคราว เนื่องจากน้ำท่วมใน อ.นาโยง จนผ่านไม่ได้ ทำให้ผู้โดยสารต้องตกค้างอยู่ที่ อ.หาดใหญ่จำนวนมาก ขณะที่ลานจอดรถในอาคารสูงหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นของห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือสถานที่ราชการ ประชาชนทยอยนำรถไปจอดตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. เนื่องจากกลัวถูกน้ำท่วม
    <DD>นายมนตรี เล็มหมาด พ่อค้าขายผลไม้ในตลาดกิมหยง เปิดเผยว่า ต้องรีบเก็บสินค้าไปไว้บนที่สูงเนื่องจากขณะนี้ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่หลายจุดน้ำท่วมแล้ว กลัวจะซ้ำรอยปี 2543 จึงต้องป้องกันไว้ก่อน หากรอให้วิกฤติก็คงไม่ทัน คนหาดใหญ่เคยพบเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาแล้วจะไว้ใจธรรมชาติไม่ได้
    <DD>นายโสภณ คงเขียว พ่อค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปย่านตลาดสันติสุข กล่าวว่า หลังขนของไปไว้บนที่สูงแล้วก็นัดกับเพื่อนมานั่งเฝ้าแผง เพราะหากน้ำไหลเข้ามาท่วมในเขตเทศบาลก็จะรับมือได้ทัน ขณะนี้ยังไม่รู้น้ำจะมากน้อยแค่ไหน
    <DD>นายวรพจน์ เจริญเกียรติตระกูล ชาวบ้านในเขตถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 กล่าวว่า ได้เตรียมซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรวมทั้งแก๊สสำรองเอาไว้แล้ว เพราะหากน้ำท่วมขึ้นมากว่าจะระบายน้ำได้หมดก็กว่า 2 วัน เพราะพื้นที่ อ.หาดใหญ่เป็นแอ่งกะทะการเตรียมพร้อมถือว่าดีที่สุด
    <DD>ขณะที่นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะทุกโรงแรมในหาดใหญ่ที่มีชั้นจอดรถใต้ดินเตรียมเครื่องสูบน้ำ น้ำมันใช้สำหรับปั่นไฟและอาหารไว้หากเกิดน้ำท่วมขึ้น จากสภาพอากาศขณะนี้ทำให้นักท่องเที่ยวหายไป 20-30% อย่างไรก็ตาม พื้นที่ชั้นในยังไม่น่าห่วงในตอนนี้ แต่พื้นที่ชั้นนอกมีน้ำท่วมแล้ว ล่าสุดผู้ว่าฯ ได้ขอความร่วมมือจัดหาอาหารกล่องไปช่วยเหลือประชาชน โดยโรงแรมขนาดใหญ่ 200 กล่อง ขนาดกลาง 100 กล่อง และขนาดเล็ก 50 กล่อง ซึ่งผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมือ
    <DD>นายอุดม ทิพย์เดโช หัวหน้าโครงการชลประทานสงขลา กล่าวว่า ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองสะเดามี 66.2 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณที่กักเก็บได้สูงสุด 72.584 ล้าน ลบ.ม. จึงยังไม่น่าห่วงสำหรับพื้นที่ใน อ.สะเดา จะไม่มีการเปิดอ่างเพื่อระบายน้ำอย่างแน่นอน แต่ที่น่าห่วงมากที่สุดคือ อ.หาดใหญ่ เนื่องจากเป็นจุดที่น้ำจาก อ.สะเดา ต้องไหลลงคลองอู่ตะเภาจนทำให้เริ่มมีน้ำท่วมบ้างแล้ว ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อม เพราะหากฝนยังไม่หยุดตกก็ไม่แน่ใจว่าปริมาณน้ำจะมีมากแค่ไหน
    <DD>ผศ.ไตรภพ ผ่องสุวรรณ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในปีนี้ว่า เป็นวิกฤติอีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่เคยเกิดมานานแล้ว โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่ามาจากสภาวะที่โลกร้อนขึ้น หลังจากที่กลุ่มประเทศต่างๆ พยายามฉวยโอกาสใช้พลังงานที่มีอยู่บนโลกมานาน สิ่งแวดล้อมถูกทำลายส่งผลให้โลกร้อน น้ำในแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะในมหาสมุทร ทะเลสาบ หรือแม่น้ำลำคลองระเหยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศก่อนจะทำปฏิกิริยากลายเป็นฝนตกลงมาจำนวนมหาศาล
    <DD>ส่วนปรากฏการณ์เอลนินโญและผลพวงจากคลื่นยักษ์สึนามิ รวมทั้งการทำลายหรือบุกรุกทรัพยากรป่าไม้คงไม่เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้มากนัก ในความเป็นจริงแล้วป่าไม้น่าจะช่วยยึดหน้าดินหรือแก้ปัญหาดินโคลนถล่มได้ดีกว่าที่จะดูดซับน้ำฝนที่ตกลงมา ประเทศทั่วโลกควรให้ความสำคัญเรื่องการฉกฉวยผลประโยชน์ด้านพลังงานมาใช้ในเชิงธุรกิจ โดยเฉพาะอเมริกา ในส่วนประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาคงมีส่วนทำให้เกิดปรากฏการณ์โลกร้อนได้น้อยมากหากจะเทียบกับกลุ่มประเทศอื่นๆ
    <DD>ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน" ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ว่า ได้สั่งให้ รมว.มหาดไทย ผู้ว่าฯ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดำเนินการอย่างเต็มที่ มี ส.ส.จากภาคใต้พรรคฝ่ายค้านได้โทรศัพท์มาให้ช่วยเรื่องแจกของช่วยเหลือ ก็สั่งไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราชได้สั่งไปเป็นพิเศษ
    <DD>กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเมื่อเวลา 11.00 น. เรื่องฝนตกหนักในภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนล่างและคลื่นลมแรงในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันแล้วในวันนี้ แต่ยังคงทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล เกิดสภาวะน้ำท่วมในที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา และน้ำล้นตลิ่งในบางอำเภอของจังหวัดที่กล่าวมา
    <DD>อย่างไรก็ตาม สภาวะฝนที่ตกหนักตามแนวเทือกเขาต่างๆ เช่น เทือกเขานครศรีธรรมราช เทือกเขาตะนาวศรี และสันกาลาคีรี จะไหลบ่าลงมาทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมอยู่แล้วได้อีก ประชาชนควรระมัดระวังอันตรายและความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ยังคงมีคลื่นสูง 2-4 เมตร นอกจากนี้คลื่นลมแรงยังคงทำให้เกิดน้ำทะเลหนุนสูง 1-2 เมตร บริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้อีกด้วย ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยใกล้ชายฝั่งทะเลระวังน้ำทะเลหนุนสูงในระยะนี้ไว้ด้วย และในช่วงวันที่ 19-21 ธันวาคมนี้ ปริมาณและการกระจายของฝนในภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่งได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล จะลดน้อยลงเป็นลำดับ อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทย ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปต่อไปได้อีก กับมีลมแรง ประชาชนควรรักษาสุขภาพในระยะนี้ไว้ด้วย.
    </DD>
     

แชร์หน้านี้

Loading...