แจกฟรี"พระพิฆเนศวร เทพแห่งความสำเร็จ"รุ่นสร้างอุโบสถวัดดอยเทพนิมิตร

ในห้อง 'แจกฟรี แต่มีค่าส่ง' ตั้งกระทู้โดย omyimphon, 27 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. omyimphon

    omyimphon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    2,638
    ค่าพลัง:
    +2,386
    แจกฟรี"พระพิฆเนศวร เทพแห่งความสำเร็จ"รุ่นสร้างอุโบสถวัดดอยเทพนิมิตร

    [​IMG]

    ดวงตราพระพิฆเนศ เนื้อผงว่านเทพทาโร รุ่น"สร้างอุโบสถ" ปี50 วัดดอยเทพนิมิตร จ.เชียงราย พิธีการบวงสรวง เททอง และเทวาภิเษกพระพิฆเนศ รุ่น"สร้างอุโบสถ"

    ครั้งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2549 พิธีปลุกเสกชนวนโลหะและมวลสาร ณ พุทธสถานชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ กรุงเทพมหานคร
    ครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2550 บวงสรวงองค์พระพิฆเนศ เททอง และปลุกเสกชนวนมวลสาร ณ วัดดอยเทพนิมิตร จ.เชียงราย
    ครั้งที่ 3 วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2550

    10.09 น. พิธีบวงสรวงองค์พระพิฆเนศและปวงเทพเทวา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล
    13.09 น. พิธีเทวาภิเษก ณ พุทธสถานชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นประธานจุดเทียนชัย และนั่งปรกพร้อมพระคณาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย เช่น

    - ครูบาน้อย เตชปัญโญ จ.เชียงใหม่
    - หลวงปู่ละมัย จ.เพชรบูรณ์
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา
    - หลวงปู่ทองดี วัดใหม่ห้วยปลาย จ.พิจิตร
    - หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน จ.นนทบุรี
    - หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ จ.นนทบุรี
    - หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
    - หลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน จ.นครปฐม
    - หลวงปู่บุญมา วัดถ้ำโพงพาง จ.ชุมพร
    - หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี
    - หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม จ.นครสวรรค์
    - พระอารารย์อ๊อด วัดสายไหม จ.กรุงเทพ
    - พระอาจารย์อ๊อด วัดหน้าพระเมรุฯ จ.พระนครศรีอยุธยา
    - พระอาจารย์สายเขาอ้อ จ.พัทลุง
    - ฤๅษีเกศแก้ว จ.หนองบัวลำภู
    - และพระคณาจารย์ชื่อดังอีกมากมายจากทั่วประเทศ ฤๅษี พราหมณ์ และอาจารย์ฆราวาสผู้ชาญพระเวทย์

    เทวาภิเษกร่วมกันป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

    ด้านหน้าของดวงตราพระพิฆเนศ รุ่น “สร้างอุโบสถ” เป็น พระพิฆเนศปางประทานพรหรือความสำเร็จ มี 4 กร ทรงตรีศูล งา บ่วงบาศ และประทานพร ประทับบนลายเมฆ รอบพระองค์ประทับ มีพระราหู 8 ตัวเรียงกันเป็นทักษิณาวัตร และมีตรา12นักษัตร ร่ำรวยมิรู้ยากจน ผู้บูชาจะประสบแต่โชคลาภและร่ำรวยตลอดกาล


    ตำนานพระพิฆเนศ

    เชื่อกันว่า ลัทธิการบูชาพระคเณศนั้น น่าจะมาจากชนพื้นเมืองดั้งเดิมของอินเดีย ซึ่งเป็นลัทธิการบูชาสัตว์ หรือลัทธิแห่งชัยชนะเหนือธรรมชาติ ชนพื้นเมืองของอินเดีย เชื่อกันว่าหนูเป็นสัญลักษณ์ของความมืด พระคเณศทรงขี่หนูจึงหมายถึงชัยชนะของแสงอาทิตย์ที่ขจัดความมืดให้สิ้นสุดลง พระคเณศอาจจะมีต้นกำเนิดมาจากการเป็นเทพประจำเผ่าของคนป่า ที่อาศัยอยู่ในป่าเขาอันกว้างใหญ่ของอินเดีย คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับฝูงช้างอันน่ากลัวจึงเกิดการเคารพในรูปของช้าง เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองและพัฒนาต่อมาเป็นเทพชั้นสูงของชาวอารยันต่อมาได้พัฒนาเป็นเทพผู้ขจัดซึ่งอุปสรรค มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหัวหน้าของเทพที่มีเศียรเป็นสัตว์ทั้งหลาย จนกระทั่งมีการรจนาปกรณ์ให้เป็นโอรสของพระศิวะเทพและพระนางปราวตีในเวลาต่อมาแต่ในแง่ของคัมภีร์ทางศาสนาพราหมณ์ได้บรรยายจุดกำเนิดของพระคเณศไว้หลากหลายตำนานตามความเชื่อในแต่ละลัทธิ พอจะสรุปเป็นหลักๆได้ดังนี้

    ตำนานที่ 1. พิฆเนศวรปราบอสูรและรากษส

    อสูรและรากษสได้ทำการบวงสรวงพระศิวะจนได้คำพรจากพระศิวะหลายประการ ยังให้เหล่าอสูรกลุ่มนี้ฮึกเหิมก่อความเดือดร้อนเป็นอันมาก พระอินทร์จึงทรงนำเทวดาทั้งหลายไปเข้าเฝ้าอ้อนวอนต่อพระศิวะ ขอให้พระองค์สร้างเทพแห่งความขัดข้องขึ้น เพื่อขัดขวางความพยายามของอสูรและรากษส พระองค์จึงทรงแบ่งส่วนกายหนึ่งให้เกิดบุรุษร่างงามจากครรภ์ของพระนางปราวตีและตั้งพระนามว่าวิฆเนศวร เพื่อทำหน้าที่ขวางทางอสูร รากษส และคนชั่วมิให้ทำการบัดพลีเพื่อขอพรจากพระศิวะ ทั้งยังเป็นผู้เปิดทางอำนวยความสะดวกต่อเทวดาและคนดีเพื่อเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ

    ตำนานที่ 2. ปราวตีนำเหงื่อไคลปั้นเป็นลูก

    ครั้งหนึ่ง ชยาและวิชยา พระสหายของนางปราวตีได้แนะนำว่าปกติพระนางมักจะต้องใช้บริวารของพระศิวะอยู่เป็นประจำ ถ้าหากพระนางจะมีบริวารเป็นของตนเองก็คงจะดีไม่น้อย พระนางเห็นด้วย จนวันหนึ่งขณะที่ทรงสรงน้ำอยู่ตามลำพังก็ทรงนึกถึงคำพูดของพระสหายจึงได้นำเอาเหงื่อไคลออกมาสร้างบุรุษรูปงาม สั่งให้ไปยืนเฝ้าทวาร มิให้ใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นอย่างนี้มาหลายเพลา จนวันหนึ่งพระศิวะได้เสด็จมา ฝ่ายลูกก็ป้องกันแข็งขัน โดยไม่รู้ว่านั่นคือพ่อพระศิวะโกรธก็เลยสั่งให้ภูติและคณะของตนเข้าสังหารทวารบาลพระองค์นั้น บ้างก็ว่าพระศิวะพุ่งตรีศูลตัดเศียรลูก บ้างก็ว่าพระวิษณุเทพที่มาช่วยรบนั้นใช้จักรตัดเศียร ความทราบถึงพระนางปราวตีจึงเกิดศึกใหญ่ระหว่างเทพและเทพีขึ้นบนสวรรค์ฝ่ายฤาษีนารอดอดรนทนไม่ได้ จึงได้เป็นทูตสันติภาพขอเจรจากับนางปราวตีเพื่อสงบศึก นางบอกว่าจะสงบศึกก็ต่อเมื่อลูกของนางฟื้นเท่านั้น

    พระศิวะจึงสั่งให้เทวดาเดินทางไปทิศเหนือ ให้เอาศีรษะของสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่พบมาต่อกับโอรสของนางปราวตี ปรากฏว่าเทวดาได้เศียรของช้างซึ่งมีงาเพียงข้างเดียวมา เมื่อพระคเณศฟื้นขึ้นมา ทราบความจริงว่า พระศิวะคือพระบิดาก็ตรงเข้าไปขอโทษเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พระศิวะพอใจมากประสาทพรให้พระคเณศมีอำนาจเหนือภูติผีทั้งหลายและทรงแต่งตั้งให้เป็นคณปติ

    ตำนานที่ 3. ขวางทางคนชั่วไปเทวาลัยโสมนาถและโสมีศวร

    พระนางปราวตีทรงเอาน้ำมันที่ใช้ในการสรงน้ำมาผสมกับเหงื่อไคลปั้นเป็นรูปคนแต่มีเศียรเป็นช้างจากนั้นได้เอาน้ำจากพระคงคาปะพรมให้มีชีวิตขึ้น เพื่อทำการขัดขวางแก่คนชั่วที่จะไปบูชาศิวะลึงค์ที่เทวาลัยโสมนาถและเทวาลัยโสมีศวรเพราะคนเหล่านี้หวังจะไปล้างบาปเพื่อมิให้ตกนรกทั้งเจ็ดขุม ด้วยเหตุนี้ การที่วันคเณศจาตุรถี นิยมเอารูปปั้นพระคเณศมาจุ่มน้ำหรือนำเทวรูปปูนชิ้นเล็ก ๆมาทิ้งตามแม่น้ำคงคา ชะรอยจะมาจากความเชื่อที่ว่าน้ำจากแม่พระคงคาจะทำให้พระคเณศมีชีวิตขึ้นมานั่นเอง

    ตำนานที่ 4. พระคเณศ กฤษณะอวตาร

    พระนางปราวตีมเหสีของพระศิวะไม่มีโอรส พระศิวะจึงทรงแนะนำให้พระนางทำพิธีปันยากพรต (พิธีบูชาพระวิษณุเทพ ในวันขึ้น 13 ค่ำเดือนมาฆะ) มีระยะเวลากำหนด 1 ปีเต็มและเมื่อครบกำหนด พระนางจะได้โอรสซึ่งเป็นพระกฤษณะอวตารไปจุติ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามคำตรัสของพระศิวะ ทวยเทพทั้งหลายมาร่วมอวยพรในกลุ่มเทพเหล่านี้มีพระศนิ (พระเสาร์) รวมอยู่ด้วย เมื่อพระศนิเหลือบมองพระกุมารทันใดนั้นเศียรกุมารก็ขาดจากพระศอกระเด็นไปยังโคโลกซึ่งเป็นวิมานของพระกฤษณะพระวิษณุจึงเสด็จไปยังแม่น้ำบุษปุภัทรเห็นช้างนอนหัวไปทางทิศเหนือจึงตัดเศียรช้างกลับมาต่อให้กับเศียรกุมารที่หายไป ตำนานนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สร้างโดยกลุ่มที่นับถือพระกฤษณะเป็นใหญ่


    บทสวดมนต์และคาถาบูชาพระพิฆเนศ

    บทสวดมนต์และคาถา สำหรับบูชาพระพิฆเนศนั้นในแบบดั้งเดิมโบราณ มีเป็นร้อยๆ กว่าบท..
    และแบบสมัยใหม่ที่มีการดัดแปลงความหมายให้เหมาะสม ก็มีอีกหลายพันบทตามแต่ละประเทศ ลัทธิ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป(เช่นในประเทศไทย ก็มีการประพันธ์บทสวดพระพิฆเนศขึ้นมาใหม่หลายบทเช่นกัน)

    สามารถเลือกสวดบทใดๆได้ตามความสะดวก หรือเท่าที่จำได้
    ควรเริ่มต้นจากการสวดบทเดียว จากนั้นให้ท่องจำและศึกษาเพิ่มเติมจนสามารถสวดได้หลายๆบทในแต่ละบทสวด จะสวดบูชาแค่รอบเดียวหรือสวด 3 , 5 , 7 , 9 จบก็สามารถทำได้แต่ชาวฮินดูไม่มีการกำหนดตายตัวว่า มนต์บทใดจะต้องสวดกี่รอบสามารถเลือกสวดมนต์บทใดๆ ก่อน-หลัง ได้ด้วยตนเองจากนั้นจึงขอพร

    ชาวพุทธสามารถตั้งนะโม 3 จบแล้วค่อยสวดมนต์บูชาเทพทางพราหมณ์ได้แต่ผู้นับถือศาสนาพราหมณ์จะเริ่มสวดบูชาพระพิฆเนศเป็นอันดับแรกแล้วต่อด้วยการสวดบูชาเทพองค์อื่นๆที่นับถือเพิ่มเติม
    คาถา บทสวดบูชาพระพิฆเนศที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด อันได้แก่

    - โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา (เป็นบทสวดหลัก)

    - โอม กัง คณปัตเย นะมะฮา
    (บทสวดของอินเดียเหนือ)

    - โอม พิไลยาร์ พิไลยาร์ นะโม นะมะฮา
    (บทสวดของอินเดียใต้)

    - โอม เหรัมภะ ยะนะมะฮา
    (หมายถึง ขอบูชามหาเทพผู้ยิ่งใหญ่)

    - โอม เอกทันตะ ยะนะมะฮา
    (หมายถึง ขอบูชาเทพผู้มีงาข้างเดียว)

    - โอม กัง คณปติ ชารานัม กะเนชา
    (หมายถึง ขอบูชาเทพผู้ทรงเป็นเกราะกำบังข้าพเจ้า)

    - โอม วักกระตุณฑา ฮัม
    (หมายถึง ขอนมัสการเทพผู้มีงวงยาวโค้ง)

    - โอม ชยะคเณศา / ชยะคเณศา / ชยะคเณศาเทวา
    ออกเสียงตามไจยกาเนช มนตราได้ว่า- โอม ไจย กาเนชา ไจย กาเนชา ไจย กาเนชา เดวา
    (หมายถึง ขอชัยชนะจงมีแด่องค์พระพิฆเนศ)

    - โอม ศรี มหา คณาธิ ปัตเย นะมะฮา

    - โอม พระพิฆเณศวร สิทธิประสิทธิเมมหาลาโภ
    ทุติยัมปิ พระพิฆเณศวร สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
    ตะติยัมปิ พระพิฆเณศวร สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ(บทสวดของไทย)

    - โอม นะโม พระคเณศายะ /นะโมนะมะ คันธะมาละ
    สิทธาหะนัง กะพะมะนะ / สัมมาอะระหัง วันทามิ(บทสวดของศิลปากร)

    - โองการพินทุ นาถัง อุปปันนัง
    พรหมมะโน จะอินโท พิฆเณศวรโต มหาเทโว
    อะหัง วันทามิ สัพพะทา / สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยังประสิทธิเมฯ
    (บทสวดของไทยและที่ปรากฎ ณ ศาลพระพิฆเนศ เซ็นทรัลเวิลด์ราชประสงค์)

    - มหาเทวะ มหาสลัม มหาวะศะการัม
    พระพิฆเณวา สะวะลัม พรหมมานัง
    วิญญานัง โอม ทูปัง ทีปัง / มะนะสะการัม บุปผัง ญะลา ผลังนิล
    (บทสวดของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ)

    - โอมปารวตี ปัตตเย ฮาราฮารา ฮารา มหาเทวา
    คาชะนะนัม ภูตะคณาธิเสวะตัม / กะปิตะชัมพู ผะละจารุภักษะณัม
    อุมาสุตัม โศกะวินาศะ การะกัม / นะมามิ วิฆเนศวะระ ปาทะ
    (บทสวดดั้งเดิมของอินเดียโบราณ) ความหมาย :พระพิฆเนศทรงเป็นสิ่งสูงสุดทรงมีเศียรเป็นช้าง
    ทรงมีสาวกมากมาย พระองค์ทรงโปรดผลมะขวิดและผลหว้า (บางตำราว่าผลชมพู่)
    พระองค์ทรงเป็นบุตรแห่งพระแม่ปารวตี
    ทรงเป็นผู้ทำลายความทุกข์ยากและความเจ็บปวด
    ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการ เทพผู้ทรงมีพระบาทดั่งดอกบัว


    ค่าจัดส่งองค์ล่ะ 99 บาทครับ มี20องค์ หมดแล้วหมดเลยครับผม

    ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ได้เข้ามาดูบ่อยๆนะครับ เพราะช่วงนี้เด็กๆใกล้สอบครับ มัวแต่เตรียมข้อสอบให้เด็กๆครับผม ส่วนเรื่องการจัดส่งของก็ทยอยส่งให้เรื่อยๆนะครับ ไม่ต้องกังวลตอนนี้แพ็คของเสร็จแล้วประมาณ50กว่าท่าน ก็จะทยอยส่งให้เรื่อยๆนะครับ ส่วนถ้ามีอะไรสอบถาม ก็โทรเข้ามาถามไถ่กันได้นะครับ อนุโมทนาทุกๆท่าน......

    ธนาคาร กสิกรไทย
    เลขที่บัญชี 2262368478
    รัฐพล ทาระศักดิ์
    ออมทรัพย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...