เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 25 มกราคม 2025 at 17:43.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,612
    ค่าพลัง:
    +26,464
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5163.jpeg
      IMG_5163.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      176.9 KB
      เปิดดู:
      5
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,612
    ค่าพลัง:
    +26,464
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่หมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ โครงการ ๙ ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ ๑๔ องศาเซลเซียส ใกล้เคียงกับอำเภอทองผาภูมิเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่รู้สึกแปลกแยกเลยว่าเป็นคนละทิศคนละทางกัน

    ในช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพได้ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระภูมิเจ้าที่ให้ช่วยดูแลรักษาบ้านพี่รส ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อจากรสสุคนธ์เป็นจิณณ์ณิภา เนื่องจากว่าศาลเก่าหมดอายุการใช้งานแล้ว ศาลใหม่ที่สั่งมาก็ใหญ่โตมโหฬารเหลือเกิน ช้างม้าวัวควาย ข้าทาสชายหญิง โขนละครมาครบ ส่วนพระชัยมงคลนั้นหล่อด้วยโลหะอย่างดี

    ความจริงแล้วการตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องขอให้พระหรือพราหมณ์ช่วยดำเนินการให้ก็ได้ เพราะว่าเป็นการแสดงออกซึ่งความเคารพนับถือของเจ้าของบ้าน เพียงแต่ว่ามีการจำกัดทิศอยู่สักเล็กน้อย ก็คืออาศัยตัวบ้านเป็นหลัก ถ้าศาลสามารถอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวบ้านได้จะดีมาก ถ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือไม่สามารถที่จะตั้งได้ ก็ให้ตั้งทางทิศเหนือของตัวบ้าน ถ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือ ไม่สามารถที่จะหาที่ตั้งเหมาะสมได้ ก็ให้ตั้งทิศตะวันออกของตัวบ้าน

    เพียงแต่ว่าอย่าให้ใกล้ห้องน้ำหรือว่าหน้าต่าง เนื่องเพราะว่าเทวดาส่วนใหญ่รักความสะอาด ต่อให้ตั้งเป็นการแสดงความเคารพแล้วท่านไม่ได้อยู่อาศัยก็ตาม แต่ถ้าไปตั้งใกล้ห้องน้ำห้องส้วมก็ไม่ใช่เรื่องดี ถ้าอยู่ใกล้หน้าต่าง
    สำหรับบ้านที่ขาดการอบรมขัดเกลาลูกหลาน ก็อาจจะมีการทิ้งข้าวของสกปรกลงมา ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่พอใจได้
    ในเรื่องของเครื่องบวงสรวงนั้น ต่ำสุดให้มีบายศรีปากชาม ข้าวปากหม้อ ไข่ต้ม ปลาช่อนแป๊ะซะ และถั่วลาชมาศ ก็คือถั่วเขียวแกะเปลือกคั่ว ในส่วนอื่นจะมีหรือไม่มีก็แล้วแต่เจ้าของบ้านจะดำเนินการ ส่วนผลไม้ไม่จำเป็นต้องจัดผลไม้ ๕ อย่าง ๙ อย่าง นั่นเป็นพิธีกรรมแบบจีน ถ้าจะใช้ผลไม้ก็เอากล้วยน้ำว้าสุก ส้มโอ มะพร้าวอ่อน เป็นหลัก หลายที่ก็มีขนมต้มขาวต้มแดงอะไรเพิ่มเข้าไปสารพัด ซึ่งเกินความจำเป็นไปมาก
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,612
    ค่าพลัง:
    +26,464
    จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางที่ดูแลรักษาบริเวณนั้นว่า เราขอมาอยู่อาศัยในพื้นที่นี้ รบกวนให้ท่านช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้อยู่เย็นเป็นสุข ปลอดภัยทั้งครอบครัว ถ้าหากว่ามีสิ่งไม่ดีประการใดก็ขอให้ท่านช่วยป้องกันให้ด้วย

    แล้วถ้าจะให้ดีก็คือ ทำบุญถวายสังฆทานอุทิศจำเพาะเจาะจงให้กับพระภูมิเจ้าที่ ท่านจะได้มีกำลังบุญสูง สามารถที่จะช่วยเหลือเราได้มากขึ้น ส่วนการบูชานั้นไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาก เข้านอกออกในยกมือไหว้บอกกล่าวท่านก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าหลายบ้านส่วนใหญ่จะเติมน้ำสะอาดใส่แก้วยกถวายท่าน หรือจัดผลไม้ถวายท่าน ซึ่งความจริงตรงจุดนั้นจะถือว่าเป็นส่วนเกินก็ได้ แต่ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถิด

    แม้พระภูมิเจ้าที่จะเป็นเทวดาหางแถว แต่อย่างไรเสียก็มีบุญญาบารมีมากกว่ามนุษย์หัวแถวอยู่แล้ว ถือว่าเราปฏิบัติตามหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ก็แล้วกัน

    ใครที่บอกว่า "พระภูมิเจ้าที่เป็นเทวดาตีนโรงตีนศาล ไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพ เลี้ยงหมาเสียยังดีกว่า เพราะว่าหมาช่วยเห่าให้เราได้..!" นั่นก็แล้วแต่ท่านเถิด เรื่องพวกนี้ปู่ย่าตายายของเราให้ความเคารพให้ความนับถือมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยแล้ว เราจะไปเจอพวกบรรดาผู้ที่แหกคอก หาความรู้จริงไม่ได้ ใช้แต่อัตโนมติของตน ในการที่จะกล่าวถึงเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็แล้วแต่ท่าน พูดง่าย ๆ ว่าทางใครทางมัน..!

    เรื่องของพระภูมิเจ้าที่นั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เคยเจอพระภูมิเจ้าที่เป็นพระอริยเจ้าระดับพระอนาคามีด้วย เมื่อถามท่านว่าเป็นพระอนาคามีทำไมถึงไม่ไปอยู่พรหมชั้นสุทธาวาส ? ท่านบอกว่าก่อนตายนึกได้ว่าเพื่อนตนเองเป็นพระภูมิเจ้าที่อยู่ จึงคิดที่จะมาหาเพื่อน กลายเป็นว่าต้องมาเกิดเป็นพระภูมิเจ้าที่..!

    ถ้าได้พระภูมิเจ้าที่ระดับนั้นก็เป็นอันว่าหายห่วง เพราะว่ากำลังบุญญาบารมีของท่านมากมายมหาศาลสุด ๆ เราเองมีทาน มีศีล มีภาวนาให้พร้อมมูล อุทิศส่วนกุศลให้กับท่าน ขอการคุ้มครอง มีหวังว่าเราสามารถที่จะอยู่รอดปลอดภัยได้ทั้งชาติ..!

    เรื่องของพระภูมิเจ้าที่นั้น บางสถานที่ไม่ใช่ภุมมเทวดาเพราะว่าเป็นสถานที่สำคัญ ท้าวจาตุมหาราชจึงจัดอากาสเทวดามาดูแลในบริเวณนั้นแทน ไม่ว่าจะเป็นภุมมเทวดาหรืออากาสเทวดาก็ตาม ล้วนแล้วแต่ดูแลพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก ระดับหลายตารางกิโลเมตร ถ้ายิ่งเป็นอากาสเทวดา บางทีก็ดูแลกันข้ามประเทศเลย..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,612
    ค่าพลัง:
    +26,464
    อย่างเช่นเจ้าแม่นภิสราเทวี เป็นต้น รายนั้นครอบคลุมตั้งแต่ทิเบต เนปาลลงมา จนกระทั่งถึงอินเดียตอนเหนือ ใครบูชาแม่เจ้าประคุณก็เป็นอันว่ากวาดเรียบ ถ้าระดับนั้นต้องยกให้เขาเถอะ เพราะว่าพระคุณท่านเป็นอินทกะของท่านปู่ท้าวมหาราช ซึ่งนาน ๆ จะเจอเป็นผู้หญิงสักที รับประกันได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ชั้นจาตุมหาราช แถมยังถึงระดับอินทกะด้วย ถ้าหากว่าเป็นคนก็ต้องแสบสุด ๆ แต่ด้วยความที่ว่าเป็นเทวดา มีความละอายชั่วกลัวบาป แม้ว่าอยากจะสนุกสนานขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องเล่นกันตามสมควรเท่านั้น กระผม/อาตมภาพโดนรายนี้ปั่นหัวมานับครั้งไม่ถ้วน จนเกิดความรอบคอบขึ้นมามากมายมหาศาลทีเดียว

    แล้วสถานที่แห่งหนึ่งก็คือจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากว่ามีสิ่งสำคัญ มีทรัพย์ใต้ดินอยู่มาก อากาสเทวดาที่ดูแลที่นั่นจึงเป็นพระพรหมเสียด้วย แถมยังเป็นอดีตเจ้าเมืองกาญจนบุรีอีกต่างหาก ทำให้กระผม/อาตมภาพที่เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรีมาเกือบครึ่งชีวิตแล้ว อยู่ที่นั่นรู้สึกว่าสะดวกสบายไปเสียทุกอย่าง

    ถ้าหากว่าเป็นเขตในลักษณะแบบนั้น เทพบริวารที่ท่านดูแลอยู่ ก็มักจะเป็นอากาสเทวดาชั้นจาตุมหาราชไปด้วย ทำให้บริเวณนั้นต้องบอกว่าปลอดจากพระภูมิเจ้าที่ที่เป็นภุมมเทวดาไปเลย เหมือนอย่างกับว่ามีทหารตำรวจในระดับพันเอก พลตรีมาเป็นเจ้าของพื้นที่ มือรอง ๆ ลงมาก็ต้องอยู่ในระดับนายพันนายร้อย สำหรับจ่าหรือนายสิบ ก็ต้องไปอยู่เวรไกล ๆ ในที่อื่นแทน เหล่านี้เป็นต้น

    เรื่องของภุมมเทวดานั้นจะว่าไปแล้วท่านมีอานุภาพมาก แต่ด้วยความที่เป็นเทวดามีหิริ - โอตตัปปะเป็นปกติ ท่านจึงได้ทำหน้าที่ตามแต่ท้าวมหาราชจะบัญชาให้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือมาจดบัญชีการทำความดีของบุคคลในเขตที่ท่านดูแลอยู่ในทุกวันพระ แล้วก็ส่งรายงานต่อไปให้ท้าวมหาราชนำไปมอบให้ปัญจสิกขเทพบุตร ซึ่งจะนำไปประกาศในเทวสภาทุกวันพระ

    ถ้าหากว่าวันพระไหนมีบุคคลสร้างบุญ สร้างกุศล ในทาน ในศีล ในภาวนากันมาก ก็จะทำให้ท่านทั้งหลายที่เทวสภามีความรื่นเริงบันเทิงใจว่า เราจะมีเพื่อนฝูงขึ้นมาเกิดร่วมกันเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าวันพระไหนมีคนทำบุญน้อย บางทีเทวดานางฟ้าก็หงอยเหงาไปเหมือนกัน เกรงว่าตนเองจะขาดพรรคขาดพวก ขาดความรื่นเริงบันเทิงใจร่วมกัน เหล่านี้เป็นต้น
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,612
    ค่าพลัง:
    +26,464
    เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นความรู้นอกตำรา ใครจะงัดตำรามาเปรียบเทียบแล้วบอกว่ากระผม/อาตมภาพเพ้อเจ้อก็ช่างท่านเถิด แต่กระผม/อาตมภาพก็เพ้อเจ้อแบบนี้มาตั้งครึ่งชีวิตแล้ว..! เนื่องจากว่าได้รับการฝึกมโนมยิทธิมาตั้งแต่อายุก่อนจะครบ ๒๐ ปี ฝึกซ้อมกันมาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนตอนนี้อายุจะ ๗๐ อยู่แล้ว เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับบุคคลที่ไม่ทิ้งในสิ่งที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนมา สำหรับใครที่ทิ้งร้างไปจนสนิมกิน ไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ตอนนี้อาจจะเกิดความเสียดายในความสามารถส่วนนั้นขึ้นมา

    อีกส่วนหนึ่งก็เป็นพวกที่เพ้อเจ้อเสียจนกลายเป็นประโยคที่คนเขาพูดในเชิงดูถูกว่า "อย่ามโน" เหล่านั้นเป็นต้น แต่เราก็ไม่ว่ากัน เนื่องเพราะว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่กระผม/อาตมภาพได้นำคณะศิษย์ไป แม้ว่าจะเป็นต่างประเทศสุดกู่ปลายตะโกนขนาดไหนก็ตาม เมื่อได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าที่เจ้าทาง ก็รู้สึกว่าสะดวกสบายและปลอดภัยไปหมด

    เพียงแต่ว่าในโครงการที่จะเดินทางไปยังธรรมศาลา หรือธรัมศาลาที่ประเทศอินเดีย เพื่อกราบสักการะองค์ดาไลลามะองค์ที่ ๑๔ นั้น งานนี้เจ้าแม่นภิสราเทวีบอกว่าจะมีปัญหายุ่งยาก แต่ว่าก็ไม่เกินวิสัยที่ท่านจะช่วยเหลือได้

    กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบว่าความยุ่งยากนี้เกิดกับคณะหรือว่าเกิดกับตนเอง แต่ก็จะไปตามกำหนดการที่ได้รับนิมนต์ จากบริษัทเอ็นซีทัวร์ของคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม เนื่องเพราะว่าองค์ดาไลลามะก็อายุกาลพรรษา ๘๐ กว่าไปแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ใกล้ ๗๐ เต็มที ถ้าไม่ไปตอนนี้เกิดมีใครมรณภาพไปเสียก่อน ก็เป็นอันว่าไม่ต้องไปกันเลย..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...