เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 ธันวาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,785
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,563
    ค่าพลัง:
    +26,402
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,785
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,563
    ค่าพลัง:
    +26,402
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ อากาศที่ทองผาภูมิกระโดดขึ้นมาที่ ๒๒ องศาเซลเซียส หมอกท่วมทั้งเมือง..! ทำให้งานบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ - งานวันชาติ - วันพ่อแห่งชาติ ของอำเภอทองผาภูมิ อยู่ในบรรยากาศที่งดงามมาก

    พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ซึ่งเจริญพระพุทธมนต์ นำโดยพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ตามด้วยกระผม/อาตมภาพ และบรรดาพระครูสัญญาบัตร ตลอดจนกระทั่งพระครูฐานานุกรมและพระมหาเปรียญทั้ง ๑๐ รูปนั้น ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพเองเป็นผู้ที่ไวต่อเชื้อโรคทั้งปวง เพราะว่าไม่มีภูมิคุ้มกันตนเอง แต่ในพิธีหลวงจะให้ไปใส่หน้ากากอยู่รูปเดียวก็ไม่ใช่เรื่องงาม ซ้ำหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอท่านยังเป็นหวัด เพราะว่าอากาศเปลี่ยนอีกด้วย จึงต้องทำหน้าชื่นตาบาน รับเชื้อหวัดไปแต่โดยดี..!

    ครั้นเสร็จจากพิธีเจริญพระพุทธมนต์แล้ว ยังมีการใส่บาตรจากบรรดาส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ท่านทำเป็นปกติก็คือ อยู่หัวแถวทางด้านแถวแรก ใส่บาตรให้หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอแล้ว ก็วิ่งมาต่อท้ายแถวที่สอง ซึ่งกระผม/อาตมภาพนำแถว เพื่อที่จะมาใส่บาตรกระผม/อาตมภาพ ตามความเคยชินของท่าน ที่ต้องใส่บาตรหลวงพ่อวัดท่าขนุนให้ได้ทุกครั้ง

    ในเรื่องของการทำบุญใส่บาตรทั้งหลายเหล่านี้นั้น จะว่าไปแล้วก็ถือว่าเป็นสังฆทาน เนื่องเพราะว่าทุกคนจะไม่ทราบว่าตนเองจะได้ใส่บาตรพระรูปไหน จนกว่าพระท่านจะเข้าแถวแล้วเดินมาถึง

    เสร็จจากตรงจุดนั้น กระผม/อาตมภาพก็ต้องกลับมาวัดท่าขนุน เพื่อทำพิธีบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๙/๒๕๖๗ ของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน)
    ให้ผู้ที่สมัครบวชรุ่นนี้ ซึ่งงานนี้เป็นครั้งแรกที่กระผม/อาตมภาพจัดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ก็คือตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗ ไปถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๗ หัวท้ายแล้วรวม ๖ วัน ๕ คืน ซึ่งคร่อมวันทำงานอยู่ ๒ วัน ทำให้มีบุคคลเข้าร่วมปฏิบัติธรรมน้อยไปสักนิดหนึ่ง
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,785
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,563
    ค่าพลัง:
    +26,402
    แต่ว่าในช่วงที่เป็นวันหยุดก็จะมีผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมเสริมขึ้นมาเอง เพียงแต่ว่าท่านที่อยู่ไม่ครบตามโครงการ ก็ไม่ได้รับวุฒิบัตรผู้ปฏิบัติธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน) พูดง่าย ๆ ว่าปฏิบัติธรรมรับกุศลไปอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยืนยันการปฏิบัติธรรมของตนเอง

    แล้วกระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งยาวลงมาตัวเมืองกาญจนบุรี ออกไปทางอำเภอพนมทวน เข้าอำเภอกำแพงแสนของจังหวัดนครปฐม เพื่อไปบรรยายถวายความรู้แก่พระผู้บวชถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ของวัดสี่แยกเจริญพร หมู่ที่ ๔ ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งพระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ท่านจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๑๕ แล้ว ปีนี้เมื่อคัดบรรดาผู้ที่ไม่ผ่านการอบรมก่อนบวชออกไป ก็ยังมีผู้ที่ผ่านการบวชเข้ามาถึง ๕๗ รูป..!

    กระผม/อาตมภาพต้องมาบอกกล่าวให้ทุกท่านเข้าใจว่า เราท่านทั้งหลายตั้งใจบวชเพื่อถวายพระราชกุศล การที่จะถวายสิ่งของต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราต้องหาสิ่งของที่ดีที่สุด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็ต้องประพฤติปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เราจะได้มีบุญกุศลอันเลิศ ถวายต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งพวกเรารักเป็นอย่างยิ่ง

    การบวชนั้นเป็นโอกาสอันดียิ่งที่เราจะสร้างมหากุศลใส่ตัว นอกจากอานิสงส์การบวช ซึ่งถ้าเกิดเป็นเทวดาจะอยู่ได้ถึง ๖๐ กัปแล้ว เราทำคุณงามความดีอะไร ยังดีกว่าการทำในตอนเป็นฆราวาสนับแสนเท่า ก็คือเป็นฆราวาส ถ้าหากว่าเราให้ทานประมาณแสนครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าเราให้ทานตอนที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ ๑ ครั้ง..! เหล่านี้เป็นต้น

    ทุกคนจึงควรที่จะประพฤติปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เผื่อว่าถ้าเราอยู่ต่อไปได้ก็จะได้เป็นหลักชัยในพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าเราอยู่ไม่ได้ สึกหาลาเพศไป ต้นทุนมหาศาลที่ได้จากการบวชระยะสั้นนี้ ก็จะช่วยให้ท่านทั้งหลายมีทางชีวิตซึ่งคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา

    เปรียบกับทางโลกง่าย ๆ ก็คือ คนมีเงินทำอะไรก็สะดวกไปหมด ในทางธรรมนั้น คนมีบุญทำอะไรก็สะดวกไปหมด แต่ว่าท่านทั้งหลายต้องระมัดระวัง
    แม้ว่าเราสร้างความดีจะมีอานิสงส์เป็นแสนเท่าของชีวิตฆราวาสก็ตาม แต่ถ้าเราเผลอทำความชั่ว ก็จะมีเวรกรรมมากกว่านับเป็นแสนเท่าของชีวิตฆราวาสเช่นกัน..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,785
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,563
    ค่าพลัง:
    +26,402
    ตรงนี้ทำให้หลายท่านทำหน้าพิลึก อาจจะเป็นเพราะว่ามีการล่วงละเมิดสิกขาบทเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปแล้ว เพราะว่าเป็นพระใหม่ ยังจดจำศีล ๒๒๗ ข้อได้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วก็บวชมาตั้งแต่วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๗ มาถึงวันนี้ก็เริ่มเข้าสู่วันที่สี่แล้ว

    แต่ว่าไม่เป็นไร ให้ทุกคนตั้งใจแสดงคืนอาบัติในท่ามกลางสงฆ์ แล้วตั้งหน้าตั้งตารักษาสิกขาบทให้สมบูรณ์บริบูรณ์ต่อไป กุศลบารมีที่ท่านได้กระทำ ก็จะได้ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ อย่างเต็มที่ แล้วในขณะเดียวกัน ก็ยังเสริมให้ทางชีวิตของท่านมีแต่ความสะดวกความคล่องตัวอีกด้วย

    เมื่อจบการบรรยาย รับไทยธรรมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ถวายปัจจัยทั้งหมดคืนให้กับพระครูเทพไป รับมาแต่กระเช้าใบเดียว แล้วก็วิ่งไปเยี่ยมพระวิปัสสนาจารย์ ซึ่งเข้าอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพพระวิปัสสนาจารย์ของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งมีพระวิปัสสนาจารย์วัดท่าขนุน ทั้งของสำนักเองและไปแทนสำนักอื่นอยู่หลายรูป แต่ว่าทั้งหมดทุกรูปทุกสำนักที่เข้ารับการอบรม ก็รู้จักมักคุ้นกันแทบทั้งนั้น ดังนั้น..
    กระผม/อาตมภาพจึงไม่พยายามที่จะเสนอหน้าเข้าไปมากนัก เพราะว่าผู้ที่กำลังนั่งภาวนา หรือว่าเดินจงกรมอยู่ ท่านอาจจะเสียสมาธิ แม้ว่าจะเสียสมาธิด้วยความยินดีที่กระผม/อาตมภาพเข้าไปเยี่ยมก็ตาม แต่ก็ทำให้จังหวะการปฏิบัติธรรมของท่านไม่ต่อเนื่องได้

    เมื่อเยี่ยมและเซ็นเยี่ยมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้กลับเข้าสู่ที่พัก ซึ่ง
    กระผม/อาตมภาพยังมีงานต่อเนื่องอีกหลายวัน โดยได้มอบหมายหน้าที่ให้กับพระวิปัสสนาจารย์ประจำสำนักปฏิบัติธรรมวัดท่าขนุน ดูแลผู้ปฏิบัติธรรมในช่วงนี้แทน คงจะกลับไปเพื่อที่จะร่วมภาวนาพระคาถาเงินล้านในวันที่ ๑๐ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการบวชปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้

    แต่ขณะเดียวกันก็จะมีงานประชุมองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ซึ่งกระผม/อาตมภาพรับหน้าที่ประธานรุ่นมา ๓ วาระแล้ว ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เนื่องเพราะว่าครั้งนี้ การประชุมนั้นวนเวียนกลับมาที่วัดท่าขนุนเป็นเจ้าภาพอีกวาระหนึ่ง ต้องบอกว่าเป็นวาระที่เหมาะสม เพราะว่าทางด้านอำเภอทองผาภูมิช่วงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๗ นั้น ก็น่าจะมีบรรยากาศงดงามที่ทำให้ผู้ไปติดใจไปตาม ๆ กัน
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,785
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,563
    ค่าพลัง:
    +26,402
    โดยเฉพาะหลวงพ่อวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) ท่านเจ้าคุณพระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) ก็ดี หรือว่าหลวงพ่อวัดหนองโพ พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ ก็ตาม ท่านไปไหนก็จะมีคณะติดตามไปด้วย ญาติโยมทั้งหลายคงจะติดใจบรรยากาศของอำเภอทองผาภูมิ และคงมีการแวะเวียนมาอีกในภายหลัง

    โดยเฉพาะระยะนี้ กระผม/อาตมภาพกำลังให้พระภิกษุฝ่ายสาธารณูปการของวัดท่าขนุน ติดตั้งโครงสร้างสำหรับแขวนโคมรับปีใหม่ ๓,๐๐๐ ดวง บริเวณรอบอุโบสถวัดท่าขนุน จากที่ประมาณต้นทุนเอาไว้ที่ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ตอนนี้ทั้งโครงสร้าง ทั้งสายไฟ ตลอดจนดวงโคมและไฟประดับสะพานแขวนหลวงปู่สาย ทะลุไปที่ ๗๐๐,๐๐๐ บาทเศษแล้ว..! ต้องใช้คำว่าหมดเท่าไรไม่ว่า
    เพื่อที่ญาติโยมทั้งหลายจะได้มีจิตใจระลึกถึงว่าได้ไปวัดท่าขนุน ได้เห็นสิ่งที่สวยงาม ถือว่าเป็นอนุสติ โยงใจให้ท่านทั้งหลายคิดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ต่อไปในภายหน้า

    เหมือนอย่างครั้งที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านถามกระผม/อาตมภาพว่า "จะไปสหรัฐอเมริกาด้วยหรือไม่ ?" กระผม/อาตมภาพเรียนว่า "ขอสละสิทธิ์ครับ เพราะว่าค่าตั๋วเครื่องบินตั้ง ๔๐,๐๐๐ กว่าบาท หลวงพ่อพาคณะไปใหญ่ขนาดนั้น เสียค่าตั๋วเครื่องบินเป็นล้าน ๆ หลวงพ่อคิดว่าคุ้มหรือครับ ?"

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านตอบกลับมาชนิดที่กระผม/อาตมภาพใบ้กินไปเลยว่า "ถ้าหากว่าสามารถทำให้บุคคลมีจิตเกาะพระนิพพานได้แม้แต่คนเดียวก็คุ้ม เพราะว่าเงินล้านซื้อพระนิพพานไม่ได้..!"

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพที่เป็นลูกศิษย์ก็ขอเลียนแบบปฏิปทาครูบาอาจารย์ ก็คือยอมสละเงินเกือบ ๑ ล้านบาท เพื่อประดับไฟรับปีใหม่ ให้ต่อเนื่องกับโครงการของเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ญาติโยมที่มาเที่ยวงานถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ๒๕๖๗ งานสวดมนต์ข้ามปี และงานใส่บาตรสร้างกุศลรับปีใหม่ ๒๕๖๘ ของวัดท่าขนุน ก็จะได้เห็นในสิ่งที่สวยงามติดตาติดใจเป็นอนุสติ ระลึกถึงได้ก็เป็นเครื่องประกันคติ คือที่ไปของท่านทั้งหลายในภายหน้าอีกด้วย

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...