เสด็จพระองค์หญิง ทรงเปิดห้องน้ำนมแก่ข้าราชบริพาร

เสด็จพระองค์หญิงทรงเปิดโครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พร้อมประทานพื้นที่ในวังศุโขทัยจัดเป็นห้องน้ำนมแก่ข้าราชบริพารเพื่อเป็นต้นแบบ พร้อมรับสั่งการให้นมแม่แก่ลูกถือเป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงทางหนึ่ง ขณะที่พระองค์ทีฯ มีน้ำหนัก 7.6 กก. และเพิ่งทรงหย่านม


เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 9 ธันวาคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จลง ณ บริเวณศาลานิตราภิรมย์ ในวังศุโขทัย ทรงตัดริบบิ้นเพื่อทรงเปิด "โครงการสานใยรักจากแม่สู่ลูก" ซึ่งเป็นโครงการในพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ โดยมี พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เป็นประธานโครงการ และกราบทูลรายงานถึงความเป็นมาของนิทรรศการโครงการนี้
"โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก" เกิดมาจากพระปณิธานอันแน่วแน่ที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ จะทรงเลี้ยงดูพระโอรสด้วยพระกษีรธาราของพระองค์เอง เฉกเช่นแม่ทั่วไปตั้งแต่ขณะตั้งพระครรภ์แล้วนั้น จนถึงเวลานี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้รับการถวายพระกษีรธาราจากพระมารดานานถึง 7 เดือน ทรงมีพัฒนาการทั้งทางด้านพระวรกาย พระหทัย และพระอารมณ์ครบถ้วนสมบูรณ์
ด้วยความมั่นพระทัยว่าน้ำนมแม่ถือเป็นอาหารหลักของพระโอรส ตั้งแต่แรกประสูติจนปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการถวายอาหารเสริมแล้วก็ตาม ทั้งนี้ การถวายพระกษีรธารานั้น มิได้มีผลกระทบต่อพระกรณียกิจต่อพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ แต่ประการใด ยังคงปฏิบัติพระภารกิจได้เป็นปกติ ซึ่งทำให้ประจักษ์ได้ว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น นอกจากจะมีคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยตรงต่อลูกแล้ว ยังมิได้เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตและการปฏิบัติภารกิจของผู้เป็นแม่แต่อย่างใด
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ จึงทรงมีพระดำริที่จะสนับสนุนให้แม่ทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่แม่จะทำได้ จึงทรงมีพระดำริในการจัดตั้ง "โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก" ขึ้น เพื่อที่จะสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชบริพารในพระองค์ที่เป็นแม่ของลูก และปฏิบัติหน้าที่ถวายงาน โดยเฉพาะข้าราชบริพารในพระองค์ที่พักอาศัยในพื้นที่จังหวัด 193 ถ.ราชวิถี เขตดุสิต ได้ให้นมลูกโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ถวายงานแต่ประการใด เป็นการสนองพระปณิธานในเบื้องต้น ก่อนที่จะขยายผลไปสู่ชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเขตพระราชฐาน ประชาชนโดยทั่วไป หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่อๆ ไป
ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ พระชนมายุ 34 พรรษา ในวันที่ 9 ธันวาคม 2548 นี้ จึงถือเป็นก้าวแรกของโครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก โดยประทานพื้นที่ภายในวังศุโขทัย เพื่อจัดเป็น "ห้องน้ำนมแม่วังศุโขทัย" ให้แก่ข้าราชบริพารในพระองค์ที่เป็นแม่ของลูก เพื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่ถวายงานในวังศุโขทัยได้ โดยสามารถบีบเก็บตุนน้ำนม และนำส่งกลับไปให้ลูกที่บ้านพักได้ดื่มตามเวลา
ทั้งนี้ บรรยากาศในพิธีเปิดโครงการ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ และพระองค์ทีฯ ได้เสด็จทอดพระเนตรกิจกรรมภายในนิทรรศการอย่างสนพระทัย โดยเฉพาะทรงสนพระทัยตู้เย็นที่มีน้ำนมแม่แช่แข็งไว้ และการจำลองการให้นมแม่ โดยตลอดเวลาพระองค์ทีฯ ทรงมีพระอารมณ์ดี และทรงสนพระทัยนิทรรศการไปพร้อมกับทูลกระหม่อมพ่อที่ทรงอุ้มไว้แนบพระวรกาย
นอกจากนี้ ในระหว่างการทอดพระเนตรนิทรรศการ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ยังทรงพระกรุณาให้พระองค์ทีฯ ได้ทรงเล่นและหยอกล้อกับ ด.ช.วรโชติ วัย 3 เดือนครึ่ง ลูกชายของนางวราภรณ์ ศรีหจันทร์ แม่บ้านจังหวัด 193 ที่มารอรับเสด็จ ซึ่ง ด.ช.วรโชติ กินนมแม่ตั้งแต่เกิด จนทำให้ขณะนี้มีน้ำหนักกว่า 7 กิโลกรัมแล้ว
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ รับสั่งกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ (9 ธ.ค.) ถือเป็นวันเปิดตัวเบื้องต้นของโครงการนี้ เพราะเป็นวันดีวันที่ 9 โดยศูนย์ จะเปิดจริงในวันที่ 29 เมษายน 2549 ซึ่งครบรอบ 1 พรรษาพระองค์ทีฯ ศูนย์นี้จะจัดทำขึ้นเพื่อเป็นสวัสดิการข้าราชบริพาร โดยจะยังไม่ทำใหญ่ แต่ทำเพื่อเป็นต้นแบบให้หน่วยงานอื่นมาดู ซึ่งหากหน่วยงานใดมีศักยภาพก็สามารถทำตามได้ เช่น มีมุมปั๊มนม เวลาแม่ทำงานก็ให้เอาลูกไปได้ด้วย
นอกจากนี้ พระวรชายาฯ ยังได้รับสั่งถึงพระองค์ทีฯ ว่า ขณะนี้พระองค์ทีฯ มีน้ำหนักประมาณ 7.6 กิโลกรัมแล้ว และเพิ่งหย่านม เนื่องจากพระวรชายาฯ ทรงเป็นโรคข้อ และต้องเสวยยาเป็นประจำ และยังรับสั่งอีกว่า การให้น้ำนมแม่แก่ลูกถือเป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงได้ในทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ระหว่างเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ พระองค์ทีฯ ทรงติดทูลกระหม่อมพ่อมาก จนพระวรชายาฯ รับสั่งพร้อมสรวลว่า "แม่ให้นมแม่ แต่ติดทูลกระหม่อมพ่อ" จากนั้นทั้งสามพระองค์จึงเสด็จกลับยังที่ประทับ



ที่มา : คมชัดลึก