เบี้ยแก้หลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้ว ถักเชือกลงรัก มาให้บูชาครับ

ประวัติ

หลวงปู่เจือ ปิยสีโล เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2468 (ปีฉลู) ที่บ้านท้ายคุ้ง ต.ไทยยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โยมบิดาชื่อ แพ เนตรประไพ โยมมารดาชื่อ บู่ เนตรประไพ มีพี่น้องเป็นชายล้วน 7 คน ดังนี้

1. นายแถว เนตรประไพ
2. นายเนียม เนตรประไพ
3. นายประสิทธิ์ เนตรประไพ
4. นายประเสริฐ เนตรประไพ
5. หลวงปู่เจือ ปิยสีโล (เนตรประไพ)
6. นายทองปลิว เนตรประไพ
7. นายสำเนียง เนตรประไพ

หลวงปู่เจือ ปิยสีโล เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดประชานาถ (วัดโคกแขก) เมื่อเรียนจบก็ได้ช่วยทางบ้านทำสวนทำนา
หลวงปู่เจือ ปิยสีโล ได้อุปสมบทเมื่อ พ.ศ.2494 อายุได้ 26 ปี โดยมี พระพุทธวิถีนายก ( หลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน ) วัดกลาวบางแก้ว เป็นพระอุปัชฌา พระธรรมธร (มูล) วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูพุทธไชยศิริ ( หลวงปู่ผูก ) วัดใหม่สุประดิษฐารามเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาจากพระอุปัชฌาย์ว่า

 

วันหนึ่งปีไหนจำไม่ได้ ช่วงปลายอายุหลวงปู่เพิ่มแล้ว หลวงปู่เพิ่มท่านเรียก “ พระอาจารย์ใบ ” และ “ หลวงปู่เจือ ” ให้ขึ้นไปพบพร้อมด้วยดอกไม้ธูปเทียน เพื่อถ่ายทอดวิชาเบี้ยแก้และวิชาบางประการให้ทั้งสององค์แล้วกระซิบบอกว่า ถ้าท่านไม่อยู่แล้ว วิชาเบี้ยแก้ จะได้ไม่สูญไปจากวัดกลางบางแก้ว แล้วพูดว่า “ ให้ใบทำก่อน ”
หมายถึงให้พระอาจารย์ใบทำก่อนเหมือนมีความหมายแฝงเอาไว้ในอนาคต เพราะหลังจากหลวงปู่เพิ่มมรณภาพพระอาจารย์ใบก็ทำเบี้ยแก้ได้ประมาณ 1 ปี พระอาจารย์ใบก็มรณภาพจากนั้น “ อาจารย์เซ็ง ” ก็ทำเบี้ยอยู่ได้อีกไม่นานก็มรณภาพจึงถึงวาระของ “ หลวงปูเจือ ”
“ หลวงปู่เพิ่ม ” เหมือนจะรู้ว่าใครจะต้องทำก่อนทำหลัง ท่านจึงสั่งไว้เช่นนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา “ หลวงปู่เจือ ” ทำเบี้ยแก้ไว้มากมายมากกว่าทุกหลวงปู่ของวัดกลางบางแก้วรวมกันทั้งหมด
ด้วยความเมตตาของท่านโดยแท้ที่เบี้ยแก้ของหลวงปู่เจือได้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง แต่ละปีหลวงปู่เจือได้ทำเบี้ยแก้ออกไปนับหมื่นตัว หากจะพิจารณาแล้วเบี้ยแก้ของหลวงปู่เจือที่ผ่านมาได้เดประสบการณ์เล่าลือสืบต่อกันไปทั่วทุกสารทิศ ผู้คนจรดเหนือจรดใต้เดินทางมาเอาเบี้ยแก้จากท่าน ปริมาณหอยเบี้ยแก้ที่ต้องนำมาทำเบี้ยแก้มากมายมหาศาล “ หอยเบี้ยแก้ ” วัตถุดิบสำคัญเหล่านั้นมาจากทะเลแถบอันดามัน ลูกศิษย์พากันไปกว้านซื้อมาครั้งละหลายกระสอบ จนมีคนกล่าวว่า “แทบจะหมดจากทะเลอันดามัน” เรียกว่าหอยเกิดไม่ทัน แต่ละวัน “ หลวงปู่เจือ ” ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำเบี้ยแก้ ตั้งแต่หัวค่ำไปจนใกล้รุ่งจึงได้จำวัด บางวันมีคนมาคุยอยู่จนดึกดื่นไม่ยอมกลับ ท่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องทำเบี้ยตอนดึกกว่าจะเสร็จก็สว่างคาตา เพราะตอนเจ้าจะมีลูกศิษย์ชาวบ้าน จะคอยรับเบี้ยแก้ที่ท่านกรอกเสร็จแล้วเอาไปถักหุ้มใส่ห่วงและลงรัก ค่าจ้างถักเบี้ยตัวละ 50 บาท ท่านต้องทนทำเพื่อให้ชาวบ้านเหล่านี้มีรายได้ค่าถักเบี้ย บางคนถักได้วันละ 10 ตัว ก็มีรายได้ 500 บาท ถ้าท่านทำน้อยก็ไม่พอแบ่งให้คนไปถัก และไม่พอให้คนที่เดินทางไหลมาขอเบี้ยแก้จากท่าน รวม ๆ แล้ว “ เบี้ยแก้ ” ที่ท่านให้ทำบุญนั้น ราคา 400 บาท แทบจะไม่เหลืออะไร เพราะค่าปรอท ค่าหอยเบี้ย ค่าห่วง ค่าถัก บางทีก็ขาดทุนมากมาย เพราะบางคนมาขอท่าน 10 ตัว ถวายไว้ 100 บาท ท่านก็ไม่ว่าอะไรก็ให้ไปด้วยความเมตตา ด้วยความเต็มใจ ไม่เคยปริปากบ่นหรืออารมณ์เสียอย่างไร ลูกศิษย์ที่มาพบเห็นเคยถามท่าน ท่านบอกว่าให้เขาไปเถอะ เพราะเขาอยากได้ไว้ป้องกันตัว เหตุการณ์นี้มีเสมอ หรือมีแทบทุกวันก็ว่าได้ แต่หลวงปู่เจือท่านบำเพ็ญบารมีไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้
“ หลวงปู่เจือ ” ท่านให้อย่างเดียวจนลูกศิษย์หลายคนบอกว่า “ ท่านคือโพธิสัตว์แห่งวัดกลางบางแก้ว ”
“ เบี้ยแก้ ” เป็นวัตถุมงคลของหลวงปู่เจือที่เป็นเอกลักษณ์ของท่าน ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านเบี้ยแก้อย่างน้อยวันละ 50 ตัว ปีหนึ่งมากกว่า 18,000 ตัว ถึง พ.ศ. นี้ เบี้ยแก้ของหลวงปู่เจือน่าจะมี นับแสนตัว เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ ถักด้วยเชือกห่อหุ้มและลงรักที่ทำแบต่าง ๆ ก็มีอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อคราวทำบุญอายุ 80 ปี และตลอดปีต่อมาเพื่อให้มีลักษณะเฉพาะ จึงได้ มีการตอกโค้ด ไว้ที่ห่วงสองข้าง ข้างละ 1 ตัว เป็นลักษณะโค้ด “ นะขึ้นยอด ” และ “ จ.จานขึ้นยอด ” สร้างเป็นห่วงทองคำ 80 ตัว ห่วงเงิน 200 ตัว ห่วงทองแดงประมาณ 30,000 ตัว หลังจากนั้นก็ไม่ตอกโค้ดอีก เนื่องจากโค้ดที่ตอกชำรุดเสียหาย หากจะไปแกะใหม่ก็คงไม่เหมือนเดิม จะทำให้มีความสับสนเกิดขึ้น จึงได้ยุติการตอกโค้ดไว้แค่นั้น
“ เบี้ยแก้ ”
ของหลวงปู่เจือ ปิยสีโล นับว่าเป็นมงคลวัตถุที่ท่านทำมาที่สุด และเผยแพร่ไปมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่า “ หลวงปู่เจือ ” เป็นเถระที่สร้าง “ เบี้ยแก้ ” มากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ นับถึงวันนี้ “ เบี้ยแก้ ” ของท่านสร้างไปแล้วไม่น้อยกว่า 300,000 ตัว เพราะปีหนึ่งท่านสร้างหมื่นตัว ทุวันท่านจะต้องสร้างเบี้ยแก้อย่างน้อย 50 ตัวทุกวัน เพื่อให้เพียงพอแก่คนที่ไปขอเบี้ยแก้อย่างน้อย 50 ตัวทุกวัน เพื่อแก้ให้เพียงพอแก่คนที่ไปขอเบี้ยแก้จากท่าน ลองเอา 50 คูณ 365 วัน เข้าไป 18,250 คือเป็นอย่างน้อยในแต่ละปี และท่านปฏิบัติเช่นนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 ถึง พ.ศ. นี้ก็ 18 ปีเข้าไปแล้ว คราวนี้ลองเอา 18 คูณ 18,250 เข้าไปแล้วจะได้ตัวเลข 328,500 ตัว ในบรรดาสามแสนกว่าคนที่นำไปบูชาสักการะนี้ไม่ใช่ธรรมดาปากต่อปากที่บอกต่อ ๆ กันไป ถึงประสบการณ์และอภินิหารที่เกิดขึ้น ทำให้กิตติคุณ “เบี้ยแก้” ของหลวงปู่เจือแผ่ขยายกว้างขวางออกไปทุกทีถึงวันนี้วันละอย่างน้อย 50 ตัวก็จะหมด แค่ไม่เกิน 10.00 น. ของแต่ละวัน หมดแล้วก็ต้องรอวันใหม่ เพราะท่านก็ทำได้เต็มที่แค่นั้นเอง ต้องกรอกปรอทเองทุกตัว ต้องจารทุกตัว ภารกินนี้ของท่านจะเสร็จสิ้นไม่น้อยกว่า 03.00 น. ของวันใหม่ ไหนจะรับแขก ไหนจะรับนิมนต์ไปงานปลุกเสกพระ เฉพาะปี 2549 ลองไปเปิดสมุดเสกพระ เฉพาะปี 2549 ลองไปเปิดสมุดนิมนต์เสกพระ ปรากฏว่ามีจำนวนปีเดียวท่านไปพุทธาภิเษก จำนวนถึง 91 วัด เฉลี่ยแทบจะวันเว้นวัน บางวันกลับมาจากเสกพระตีหนึ่งตีสองต้องมากรอกเบี้ย จารเบี้ย เพราะท่านบอกว่าเกรงใจคนมาไกลแล้วไม่ได้ “ นี่แหละคืออภินิหารเตตาบารมีของหลวงปู่เจือของจริง ”
หากจะถามว่าอภินิหารเบี้ยแก้มีมากน้อยแค่ไหน ก็ขอสรุปว่า ดูจากผู้คนที่ทยอยไปเอากันไม่หยุดหย่อนนั่นแหละเป็นเครื่องชี้ชัดมิเช่นนั้นเขาจะเอากันไปทำไม จากคำบอกเล่าได้แค่ฟังไว้ไม่ได้บันทึกชื่อตำบลหนแห่งเอาไว้ เพราะไม่คิดว่าจะได้ทำหนังสือหรือโฆษณาอะไร แค่นี้หลวงปู่เจือท่านก็รับไม่ไหวอยู่ล้าเอาเป็นว่าประสบการณ์อภินิหารนั้นมีแน่ทุกทางแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสยต่าง ๆ มีครบเครื่อง ดูจากอิทธิคุณที่ระบุบ่งบอกไว้ในตำรำ ดังนี้
กันถูกกระทำย่ำยี กันคุณผี คุณไสยเวทอาถรรพณ์ ยาสั่ง ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิงมิลงเลย กันไข้ป่าสารพัดผีป่า โป่ง โป้ง ผีเปิ่ง ผีปองกองกอย พาให้ผิดท่าหลงทาง เข้าสิงให้วิกลจริตพลุ่งพล่านเฉียบพลันอยากตายด้วยอัตวินิบาตกรรม ผูกคอล่อพิษ โดดน้ำ ลุยไฟ โดดสูง จูงค่าง ผีเข้าเจ้าสิง ถ้าจริงหาย กันจิตคิดวิกล ด้วยอุปาทาน กันมนตยายำ ย่ำยีด้วยเล่ห์กลมายา สารพัด อุปาทานอันวิกลพิการแล
คาถาเสกเบี้ยแก้
ตั้งนะโม 3 จบ เสร็จแล้วให้ตั้งธาตุ
นะ มะ พะ ทะ ( 3 จบ )
จะ ภะ กะ สะ ( 3 จบ )
เมื่อตั้งธาตุเสร็จแล้ว ให้ภาวนาคาถา 3 จบ ดังนี้
“ อะสิสะติ ธะนูเจวะ
สัพเพเต อาวุธานิจะ
ภัคคะ ภัคคาวิจุนนานิ
โลมังมาเม นะผุสสันติ ”
สู้ไว้ข้างหน้า ไม่กล้าไว้ข้างหลัง เมตตามหานิยมไว้ขวา กันอาวุธศาสตราไว้ซ้าย แขวนคอ แก้ลมเพลมพัด อัมพาต แขน ขา ปาก คอ หลัง ลิ้นกระด้าน ถอนคุณไสยรูปรอยลงบนใบหมอน คลึงแป้งถอนคุณ คลึงปูนถอนพิษ ถอนเสา ถอนพระภูมิ ศาลเจ้า เจว็ด เสมา กำแพง เสกภาวนา สมุหเนยยะ สะมุหะนะติ สะสุหะคะโต สีมาคะตัง พันธะเสมายัง สะมุหะนิตัพโพ เอวังเอหิ นะเคลื่อนโมถอน พุทคลอน ธาเคลื่อน ยะเลื่อนหลุดลอย สวาหะ
“ โลปุสุ สะวิพุ สังภะอะ ” ว่าแต่นารายณ์ถวายจักร 7 ที
ภาวนาก่อนใช้ อะสัง วิสุ โล ปุสะพุภะ พุทธะสังมิ อิสะวาสุ
เอาดอกไม้หลากสี ดอกพุทธรักษา ธูป เทียนบูชา อธิษฐานด้วยขันน้ำมนต์ และอธิษฐานเอาตามใจเถิด แล้วภาวนาต่ออายุ สะธะวิปิ ปะสะอุ 3 ที
บทสักกัตตะวาด้วยก็ดี ผูกขอดชายผ้ากันปืน
อะนิทัสสะนะอัปปะติ ลั่นไกมิออก
อะนิทัสสะนะอัปปะติคา ลูกมิออกลำกล้อง
อะนิทัสสะนะอัปปะติคายะ ลำกล้องแตก
ภาวนาอภัยกรรม ให้คนเกลียด เดียด โกรธ เพ่งโทษ จองเวร ให้หายพยาบาทพยาเวร ต่อแล้วดี กันหายกัน แล.
“ นะเมตตาจะมหาราชา อะเมตตาจะมหาเสยส อุเมตตาจะมหาชะนา สัพพะสิเนหา จะปชิตาสสัพพะสยัง จะมหาลาภัง ราชาโกธังวินัสสันติ ชะนาโกธัง วิสัสสันติ สัพพะโกธัง วินัสสันติ ” 2
วิธีใช้เบี้ยแก้ ( หลวงปู่เจือ ปิยสีโล ) ตั้งนะโม 3 จบ
อิติปิโส ภะคะวา ยาตรายามดี ได้ยามพระศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ แล้วสวดคาถาหัวใจต่อ อะสัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ พุท ธะ สังมิ อิสวาสุ
“ เบี้ยแก้ ” นับแสนตัวของหลวงปู่เจือที่แพร่หลายไปทั่วประเทศ ก่อเหตุการณ์นานาประการอันน่าอัศจรรย์มากมาย มีคนเดินทางไปไต่ถามหลวงปู่เจือกันมากว่า เบี้ยของหลวงปู่ดีทางไหน หลวงปู่ได้แต่เมตตาไม่เคยคุยโม้โอ้อวด นอกจากรอยยิ้ม หรืออย่างมากก็บอกว่า “ ลองเอาให้ใช้ดู ” มีบางรายกระเซ้ากระซี้อยากให้หลวงปู่ตอบว่าดีอย่างไร ใช้อย่างไร หนัก ๆ เข้าจนหลวงปู่นึกอะไรไม่ทราบได้ ท่านกระซิบแผ่วเบาด้วยความเมตตาตอบกับผู้นั้นไปว่า “ ไม่รู้ ฉันก็ไม่เคยใช้ ได้แต่ทำ ”

<!-- InstanceEndEditable -->
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

หลวงปู่กรอกปรอท (ถ่ายผ่านมุ้งลวดครับ เค้าติดป้ายห้ามรบกวนขณะหลวงปู่กรอกปรอท)
พระลูกวัด และชาวบ้านช่วยกันตีเบี้ย, ถักเชือก
ขั้นตอนสำคัญของการทำเบี้ย หลวงปู่ก็ทำเองเห็นแล้วก็รู้สึกศรัทธามากๆ
หลวงปู่อายุมากแล้ว แต่ท่านก็นั่งทำเบี้ยถึงตี 1 ตี 2 ทุกๆ วัน
ท่านบอกกับสื่อมวลชนว่าทำเท่าไหร่ ก็ไม่พอกับความต้องการ
และทราบว่าท่านเพิ่งทำบายพาสมาด้วยในกุฏิของท่านมียาเม็ดแผนปัจจุบันเยอะมาก บรรจุใส่กล่องดูเป็นระเบียบ
สุขภาพของท่านไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่ท่านก็กรอกเบี้ยแบบนี้ทุกวัน


<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

เบี้ยแก้ลงรักถักเชือกหลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้วปลุกเสก ราคา 950 บาท พร้อมส่ง EMS มีมาแบ่งเพียง 2 ตัวครับ เพราะได้มาจากวัดแค่นี้เองครับ คนไปรอเช่าบูชาเยอะมาก มีเท่าไหร่ก็ไม่พอที่จะให้บูชาเลยครับ บางท่านไปช้าเพียงนิดเดียวเบี้ยก็หมด
สำหรับเบี้ย 2 ตัวนี้ หลวงปู่ท่านเมตตาประสิทธิให้อีกครั้งหนึ่งด้วยครับ
ขื่อ โสภณ กวีไตรถพ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุรวงศ์
เลขที่บัญชี 147-4-61522-4
โทร 086 551-2262

 

เบี้ยแก้ลงรักถักเชือกหลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้วปลุกเสก ราคา 950 บาท พร้อมส่ง EMS มีมาแบ่งเพียง 2 ตัวครับ
จอง 2 ตัวครับ

 

คุณ kajit เอาหมดเลยหรือครับ ขอแบ่งสักตัว นะครับ ถ้าให้ ถึงคุณ sophon_ka ผมขอจองด้วยนะครับ หนึ่ง ตัว

ผม pm แจ้งไปให้ทราบแล้วนะครับ

 

รับทราบครับคุณKajit ตกลงเบี้ย 2 ตัวนี้คุณ Kajit ได้ขอจองแล้วครับ
รับทราบการโอนครับคุณKajit พรุ่งนี้เช้าจัดส่งพระให้น่ะครับ

 

คุณ sunthorn Korat ถ้าต้องการขอจอง ผมแบ่งให้ 1 ตัวครับ ผมไปที่วัดกลางบางแก้ว เช่าบูชามาได้ 3 ตัว เลยเอามาแบ่งให้บูชากัน 2 ตัว อีกตัวจะเก็บไว้ใช้เอง
แต่ถ้าคุณ sunthorn Korat อยากได้ไว้บูชา ผมแบ่งให้ก่อนได้ครับ ยังไงช่วยยืนยันด้วยน่ะครับ ว่าจะเอาเบี้ยไหม

 

คุณโสภณ

ผมเข้ามาจองไม่ทันครับ ตั้งใจจะไปบูชาที่วัดแต่ไม่มีเวลาไป ปัจจุบันผมทำงานที่ปราจีนบุรีครับ
ขอแบ่งบูชาสักองค์ได้หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

 

ได้ครับ คุณพีรพรรณ ยังไงก็รบกวนขอชื่อที่อยู่ที่จัดส่ง ให้ผมด้วยน่ะครับ โอนเงินแล้วช่วยแจ้งให้ทราบด้วยน่ะครับ

 

เบี้ยแก้ถักดิ้นทอง เลี่ยมเดิมจากวัด หลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้ว

เบี้ยแก้ถักดิ้นทอง เลี่ยมเดิมจากวัดครับ ประมาณปี 2548 ครับ หลวงปู่เจือเมตตาประสิทธิให้อีกครั้งครับ ราคา 1,500 บาท พร้อมส่ง EMS ครับ
ขื่อ โสภณ กวีไตรถพ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุรวงศ์
เลขที่บัญชี 147-4-61522-4
โทร 086 551-2262

 

หลวงปู่เจือท่านมีเมตตามากจริงๆ ครับ ผมเคยไปหามาแล้ว ไม่ต้องพูดอะไร ต้องการอะไรตั้งใจอธิฐานไว้ เหมือนท่านจะรับรู้หมดจริงๆ ครับ ได้มีโอกาสได้รับยาจินดามณี หรือที่เขาเรียกว่ายาวาสนาจินดามณีมาด้วย รู้สึกโชคดีมาก แถมหลวงปู่ยังจารที่ศีรษะให้ด้วยโดยที่ต้องขอท่านเลย ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงจริงๆ ครับ .... ไม่ถือตัวถือตนเลย... เป็นพระแท้ครับ... ขอรับรองด้วยศีรษะได้เลย.... .. ของส่วนใหญ่ที่ท่านทำก็มีกำลังจิตเต็มเปี่ยมครับ ถ้าใครจับกำลังจิตได้ก็ทดสอบได้เลยครับ.... แต่ถ้าโดนย้อนกลับมาไม่รู้ด้วยน่ะ ... สาธุ สาธุ สาธุ พระดีๆ ที่ทำเพื่อคนรุ่นหลังโดยแท้ครับ สาธุ

 

ยาจินดามณี
ส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดยาที่เป็นองค์พระเครื่อง ท่านสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภาเสด็จมาเป็นประธานปรุง –
ปั้นยา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 แล้วจึงนำยาที่สร้างในครั้งนี้ที่จะเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภาถวายทั้งหมดสร้าง

เป็นพระยาวาสนาจินดามณีขึ้นเป็นครั้งแรก หรือรุ่นแรกของท่าน จำนวนทั้งสิ้น 14 พิมพ์

1. พิมพ์เจ้าสัว
2. พิมพ์นางพญาสะดุ้งกลับ
3. พิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ
4. พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่
5. พิมพ์ซุ้มแหลมใหญ่
6. พิมพ์พระชัยวัฒน์ พิมพ์ต้อ ( ลอยองค์ )
7. พิมพ์นางพญาขาโต๊ะ
8. พิมพ์ลีลามหาเศรษฐี ( หนังตะลุงจิ๋ว )
9. พิมพ์ไพ่ตองหูกระต่าย ( จิ๋ว )
10. พิมพ์หลวงพ่อโต
11. พิมพ์หลวงปู่เจือครอบแก้ว
12. พระปิดตา พิมพ์เงินไหลนองทอง
13. พระปิดตา พิมพ์เมตตามหานิยม
14. พิมพ์ปิดตาเมตตามหาลาภ

ประสบการณ์และอภินิหารของยาจินดามณีนั้น มีผู้เดินทางไปทำบุญยาจำนวนมากที่วัดกลางบางแก้ว ปริมาณเม็ดยาวาสนาจินดามณีที่มีคนนำ
ไปใช้แล้วได้ผลนานาประการนั้น นับได้หลายล้านเม็ด ปีหนึ่งมีผู้มาทำบุญยานับแสนเม็ด ประสบการณ์ทางเมตตามหานิยมและรักษาโรคตามจิต
อธิษฐานตามอุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณี ดังนี้ อุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณี
ถ้าท่านจะรักษาโรค ก่อนอื่นควรจะบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว จึงอธิษฐานจิตระลึกถึงเจ้าตำรับยาจินดามณี มี
สมเด็จพระวันรัตน์ พระหรหมมุนี หลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ ตลอดจนหลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน พระอาจารย์ใบ คุณวีโร แล้วจงทำใจให้แน่วแน่ เสกยา
ด้วยคาถานี้
ตั้งนะโม 3 จบ
พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วินาเสติ อะเสสะโต นะโมพุทธายะ
แล้วจงฝนยากับน้ำรับประทานเถิดจะหายจากโรค ( เว้นไว้แต่โรคบุพกรรมเท่านั้น )
ถ้าท่านจะใช้ในทางเมตตามหานิยมก่อนออกจากบ้านควรจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วทำจิตใจให้แน่วแน่ หยิบเอาพระจินดามณี หรือเม็ดยาจินดามณีขึ้นมาบริกรรมด้วยคาถานี้
ตั้งนะโม 3 จบ
“ มหามณีจินดา ปิยัง มะมะ วิจะสตรี ทาสี ทาสา จะโตมัง เสน่หา ภิริยา ปิโย อิตถีโย อิตถีโย มะมังรักขันตุ สัพพะธา
สิทธิเตชัง มหาลาภัง มหาสิทธิโยจะ ”
ท่านจะเป็นที่รักของคนทั้งปวงแล
พระมหากรุณาธิคุณ
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จไปมนัสการหลวงปู่เจือ ปิยสีโล ณ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี
จ.นครปฐม ถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกได้เสด็จไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2545 เมื่อกราบนมัสการเยี่ยมและถวายสังฆทานกับหลวงปู่เจือแล้วเสด็จ
ชมพิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายกวัดกลางบางแก้ว การเสด็จครั้งนี้หลวงปู่เจือได้ถวายยาวาสนาจินดามณีพร้อมด้วยเบี้ยแก้แก่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์
เจ้าพัชรกิตติยาภา ทรงพอพระทัยการเสด็จไปนมัสการหลวงปู่เจือครั้งนี้มาก และตรัสว่า หากมีโอกาสดีก็จะไปกราบนมัสการอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งแรกที่ปรารภไว้นั้นได้เสด็จมาเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 เวลา 13.30 น. นับเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้เสด็จมา
เพื่อกราบนมัสการและถวายสังฆทานแก่หลวงปู่เจือ และเป็นประธานการสร้างปรุงและปั้นยาวาสนาจินดามณี ณ อุโบสถวัดกลางบางแก้ว หลัง
จากกราบนมัสการพระประธานในอุโบสถแล้ว ทรงรับศีลแล้วเสด็จไปกราบนมัสการหลวงปู่เจือ รับการถวายเครื่องปรุงยาวาสนาจินดามณีจากหลวงปู่
เจือไปถวายยังแท่นบูชาบวงสรวงบูรพาจารย์และฤาษีจินดามณี พระบวงสรวงบูรพาจารย์และฤาษีจินดามณี พระภิกษุ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ จาก
นั้นทรงรับเครื่องปรุงยาวาสนาจินดามณีจากแท่นบวงสรวงไปถวายให้หลวงปู่เจือ ปิยสีโล ทำการบดยาบนแท่นหินตามกรรมวิธีและขั้นตอน บนแท่น
หินดังกล่าวได้จารึก ยันต์ทรงคุณวิเศษมหาจินดามนตราคม และลูกหินที่บดได้จารึกมหายันต์วาสนาบารมีพระพุทธเจ้า หลวงปู่เจือได้ทำการ ร่ายพระ
เวทมหามนตราจินดาพุทธาคมโอสถ แล้วกลิ้งลูกหินบดเครื่องยาให้เข้าเคล้าคลึงเป็นเนื้อเดียวกันพร้อมกันนั้น พระภิกษุสงฆ์ 9 รูป ได้สาธยายพระ
พุทธมนต์วิเศษตามตำรับยาวาสนาจินดามณีครบ 9 จบ หลวงปู่เจือได้ยุติการบดเคล้าคลึงยาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภาเสด็จไป
มนัสการหลวงปู่เจือ ณ แท่นหน้าพระประธานทรงรับถวายยาที่หลวงปู่เจือคลึงเคล้าบนแม่หินแล้วกลับไป ทรงปั้นเม็ดยาจินดามณีพร้อมกับสาธยาย
มนต์กำกับการปั้น ขณะเดียวกับพระภิกษุสงฆ์ 9 รูป ได้สวดมนต์วิเศษกำกับจนเสร็จสิ้นการปั้นเม็ดยาวาสนาจิดามณีเป็นปฐมฤกษ์ จากนั้นพระเจ้า
หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภาถวายยาที่ปั้นเสร็จแล้วแก่หลวงปู่เจือ ปิยสีโล หลวงปู่เจือได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเม็ดยาจนเสร็จสิ้นจึงถวายเม็ด
ยาจินดามณีแก่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา เพื่อนำกลับไป จากนั้นพระเจ้าหลานเธอ ฯ ทรงถวายสังฆทานแก่หลวงปู่เจือ และถวายยา
ที่ปรุงส่วนที่เหลือทั้งหมดแก่หลวงปู่เจือ ปิยสีโล จากนั้นทรงกรวดน้ำและรับถวายพรพระก่อนกราบนมัสการลาหลวงปู่เจือเพื่อเสด็จกลับ
ยาวาสนาจินดามณีส่วนที่เหลือทั้งหมดที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภาถวายให้หลวงปู่เจือครั้งนี้ หลวงปู่เจือปรารภว่าให้นำไป

สร้างพระเครื่องทั้งหมด คณะกรรมการกองทุนปิยสีโลจึงได้พิจารณานำไปสร้างเป็นพระเครื่องทั้งหมด 14 พิมพ์ ดังนี้

1. พิมพ์เจ้าสัว
2. พิมพ์นางพญาสะดุ้งกลับ
3. พิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ
4. พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่
5. พิมพ์ซุ้มแหลมใหญ่
6. พิมพ์พระชัยวัฒน์ พิมพ์ต้อ ( ลอยองค์ )
7. พิมพ์นางพญาขาโต๊ะ
8. พิมพ์ไพ่ตองหูกระต่าย
9. พิมพ์ลีลามหาเศรษฐี ( หนังตะลุงจิ๋ว )
10. พิมพ์หลวงพ่อโตแหวกม่าน
11. พิมพ์หลวงปู่เจือทรงครอบแก้ว
12. พิมพ์ปิดตา เงินไหลนองทองไหลมา
13. พิมพ์ปิดตา เมตตามหานิยม
14. พิมพ์ปิดตา เมตตามหาลาภ

พระเครื่องเนื้อยาวาสนาจินดามณีทั้งหมดที่สร้างไว้ 14 พิมพ์นี้ บางพิมพ์ได้มากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน ในงานทำบุญอายุหลวงปู่เจือครบ
82 ปี ได้ออกมาให้ทำบุญ 4 พิมพ์ คือ พิมพ์เจ้าสัว พิมพ์นางพญาสะดุ้งกลับ พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่ และพิมพ์ปิดตาเมตตามหาลาภ แจกกับ
หนังสือประวัติของท่าน

 

คุณโสภณครับ

ผมโอนเงินไปให้แล้วนะครับ เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. ส่วนที่เกินผมฝากคุณโสภณทำบุญกับหลวงปู่ให้ผมด้วยครับ กรุณาส่งมาที่

พีรพรรณ ตั้งสงบ

1 ม. 2 บ.แอ๊ดวานซ์อะโกร

ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ

จ.ปราจีนบุรี 25140

ขอบคุณครับ

 

เบี้ยแก้ตัวเล็กกว่านี้มีไหมครับสำหรับเด็ดแขวนนะครับ

 

สวัสดีครับคุณต้อมบ้านสวน
เบี้ยตัวเล็กไม่มีเลยครับ ส่วนใหญ่จะขนาดใกล้เคียงกันมาก เพราะต้องกรอกปรอท ให้ได้น้ำหนัก 1 บาทครับ แต่ถ้าให้เด็กแขวนก็ไม่ใหญ่ไปหรอกครับ แต่เด็กๆน่าจะมีแขวนครับ เพราะว่าเหมาะดีมากๆสำหรับเด็กๆครับ

 

สวัสดีครับคุณKajit ผมได้จัดส่งเบี้ยแก้ให้แล้วน่ะครับ หมายเลขไปรษณีย์ คือ EG 0780 8473 7 TH ครับ
ตรวจสอบผลการส่งได้ที่นี่ครับ
http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/Default.aspx

 

จัดส่งเบี้ยไปให้แล้วครับ คุณพีรพรรณ หมายเลขนำส่ง EG 4724 2032 6 TH
ส่วนเงินที่เกินมานั้น ได้ใส่ซองทำบุญให้กับหลวงปู่ไปแล้วน่ะครับ ยังไงก็ขอให้คุณพีรพรรณ อนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ ขออนุโมทนาครับ

 

คุณ sophon_ka ครับไม่ทราบว่ายังจะไปที่วัดกลางบางแก้วอีกเมื่อไหร่ครับ อยากได้ไว้สักตัวแต่เข้ามาไม่ทันครับ หากว่าไปแล้วยังไงก็ช่วยเช่าบูชาให้สัดลูกนะครับ pm มาก็ได้ครับ

 

ขอบคุณมากครับ