สวรรค์ล่มที่"เดอะเวิลด์" ทะเลกลืนกินหมู่เกาะเทียม"ดูไบ!"

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 1 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    สวรรค์ล่มที่"เดอะเวิลด์" ทะเลกลืนกินหมู่เกาะเทียม"ดูไบ!"

    จันท์เกษม รุณภัย




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ภาพถ่ายมุมสูงปาล์ม ไอส์แลนด์ (ซ้าย) กับ เดอะเวิลด์ (ขวา)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มนุษยชาติขึ้นชื่อในเรื่องของการ "ปรับตัว" เพื่อความอยู่รอด

    และในหมู่ชนชาติที่ชื่นชอบการ "เนรมิต" สภาพแวดล้อมแบบสุดขั้วคงหนีไม่พ้น "นครดูไบ" เมืองเศรษฐีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ "ยูเออี" ซึ่งพยายามเอาชนะธรรมชาติด้วยการผสานความรู้ด้านเทคโนโลนีสมัยใหม่เข้ากับการออกแบบสถาปัตยกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจ

    บ้านเมืองเพียบพร้อมด้วยรีสอร์ต-โรง แรมหรูทะลุดาวห้าดวง และบรรยากาศความร่ำรวยแฝงอยู่ในทุกอณูของมหานคร ดูไบ ซึ่งผู้นำชื่นชอบผุดอภิมหาโครงการก่อสร้างสุดท้าทายออกมาอวดชาวโลกอยู่เป็นระยะๆ

    รวมถึงหนึ่งในอภิมหาเมกะโปรเจ็กต์สะท้านโลกอย่าง "เดอะเวิลด์" หรือโครงการสร้างหมู่เกาะมหัศจรรย์ที่เกิดจากการถมทรายกว่า 321 ล้านลูกบาศก์เมตร และหินหนัก 31 ล้านตันลงไปในทะเล จนมีอาณาเขตกว้าง 6 กิโลเมตร ยาว 9 กิโล เมตร

    ล้อมรอบด้วยแนวกั้นคลื่นเป็นระยะทาง 232 กิโลเมตร

    ตั้งอยู่นอกชายฝั่งนครดูไบไปราว 2.4 กิโลเมตร ใกล้กับตึกระฟ้า "บูจ์ คาลิฟา" ซึ่งครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลกปัจจุบัน

    นอกจากนั้น ยังมีระบบคมนาคมเชื่อมต่อเกาะเดอะเวิลด์กับแผ่นดินใหญ่ดูไบ ด้วยร่องน้ำลึก 4 สาย



    สภาพภูมิประเทศบนเกาะแต่ละแห่งของ "เดอะเวิลด์" จัดสรรให้เป็นทั้งพื้นที่ตากอากาศส่วนตัว รีสอร์ต พลาซ่า และแหล่งรวมธุรกิจชั้นนำ

    ระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดถูกจัดวางไว้ใต้น้ำ

    มีระบบ "เครื่องสูบน้ำจืด" คอยจ่ายน้ำบริสุทธิ์เลี้ยงคนบนเกาะ ระบบไฟฟ้าผ่านสายเคเบิลใต้น้ำวางสายมาจากแผ่นดินใหญ่ โดยขนาดของแต่ละเกาะนั้นมีตั้งแต่ 14 ตารางกิโลเมตร ไปจนถึง 42 ตารางกิโลเมตร มีระยะห่างระหว่างเกาะราว 100 เมตร

    จุดเด่นหมู่เกาะเดอะเวิลด์ คือเกาะแต่ละแห่งซึ่งถูกถมด้วยทรายจะมี "รูปร่างเหมือนประเทศนั้นๆ" ตามการตั้งชื่อ ตลอดจนการจัดเรียงของเกาะจะอิงตามตำแหน่งตามทวีปต่างๆ บนแผนที่โลกด้วย โดยจะสังเกตเห็นชัดเจนเมื่อมองลงมาจากบนฟ้า
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    1.แนวทางการพัฒนาอสังหาฯ บนเกาะฝรั่งเศสและสเปนในเดอะเวิลด์
    2.วิธีถมทรายสร้างเกาะเดอะเวิลด์
    3.-5.แบบโครงการจัสมิน การ์เดนส์ รีสอร์ต ที่เตรียมสร้างบน "เกาะประเทศไทย" ในเดอะเวิลด์



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เกาะแต่ละแห่งจะมีชื่อประเทศต่างๆ ในโลก มีไว้เพื่อให้ "อภิมหาเศรษฐีชั้นนำ" ได้นำเงินมาละลายเพื่อจับจองไว้เป็นแหล่งตากอากาศประดับบารมีอันเพียบพร้อมไปด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก

    ว่ากันว่าเกาะเดอะเวิลด์กว่าร้อยละ 70 มีผู้ซื้อไปเรียบร้อยแล้ว จากจำนวนทั้งหมด 300 เกาะ



    โครงการเดอะเวิลด์เริ่มก่อสร้างในปี 2546 และมีกำหนดเสร็จสิ้นในปี 2556 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 9 แสนล้านบาท

    เดิมทีหมู่เกาะเดอะเวิลด์ถูกหมายมั่นปั้นมือให้เป็นอนุสรณ์ของโลกต่อไปอีกหลายยุคหลายสมัย

    แต่ล่าสุดปัจจัยหลายๆ อย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คาด...เมื่อดูไบต้องตกกระไดพลอยโจนไปกลับวิกฤตเศรษฐกิจโลก อันมีต้นเหตุมาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ หรือ "แฮมเบอร์เกอร์ ดีซีส" ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา!

    ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ใน "ยูเออี" ดิ่งลงเหวถึงร้อยละ 58 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551

    แม้แต่รัฐวิสาหกิจระดับบิ๊ก "นักฮีล พร็อพเพอร์ตีส์" ผู้รับผิดชอบโครงการหมู่เกาะเทียมรูปต้นปาล์ม "ปาล์ม ไอส์แลนด์", หมู่เกาะรูปกาแล็กซีทางช้างเผือกและระบบสุริยจักรวาล "เดอะยูนิเวิร์ส" และอภิมหาโครงการหมู่เกาะเทียมใหญ่ที่สุดในโลกแห่งอ่าวเปอร์เซีย "ดูไบ วอเตอร์ฟรอนต์" อันลือลั่นถึงกับกระเป๋าแห้งไม่มีเงินชำระหนี้สินประจำปี ต้องขอผ่อนผันเลื่อนชำระหนี้เงินกู้ มูลค่ากว่า 8.89 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทนักลงทุนนั้นล้มกันระเนระนาด ส่วนที่รอดมาทั้งแบบมีฟูกหรือไม่นั้นก็ต่างพากันรัดเข็มขัดตัวเองกันหมด

    รวมไปถึงโครงการล่าสุดของนาคีล อย่างเดอะเวิลด์ด้วยที่ต้องล่าช้าและเริ่มมีปัญหา

    กระทั่งการก่อสร้างชะงักลงอย่างสิ้นเชิงไปตั้งแต่เดือนธ.ค. ของปีที่ผ่านมา

    เหลือแต่เพียงผืนทรายรกร้างว่างเปล่าตั้งตระหง่านอยู่นอกชายฝั่ง มีเพียงเกาะ "ประเทศกรีนแลนด์" ซึ่งมีเจ้าของเป็น องค์สุลต่าน โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม กษัตริย์แห่งดูไบและนายกรัฐมนตรีของยูเออี โดยเกาะดังกล่าวจัดเป็นเกาะต้นแบบ เสมือนบ้านตัวอย่างตั้งตระหง่านอยู่กลางแปลงที่ดินโล่งๆ ที่รายล้อมอยู่รอบๆ

    ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังมีรายงานออกมาด้วยว่า บรรดาผืนทรายสวยตามเกาะต่างๆ ในกลุ่มเดอะเวิลด์กำลัง "ยุบตัว" เพราะโดนน้ำทะเลกัดเซาะและดูดกลับลงใต้ทะเลอาหรับไปเรียบร้อย โดยตามร่องน้ำระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่นั้นเริ่มตื้นเขินและเต็มไปด้วยทรายโคลนจากชั้นหินระดับรากฐาน!



    กรณีเกาะเดอะเวิลด์ถูกทะเลกลืนกินนั้นกลายเป็นข่าวใหญ่โตระดับโลกรับปีใหม่ ภายหลังจากบริษัท "เพนกวิน มารีน" ผู้ครองสิทธิบัตรสัญญาเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากระหว่างเกาะเดอะเวิลด์กับแผ่นดินใหญ่ยูเออี พยายามถอนตัวออกจากธุรกิจเกาะสวรรค์แห่งนี้

    โดยเดินเรื่องฟ้องร้องไม่ขอจ่ายค่าเช่าสัญญามูลค่า 50 ล้านบาทต่อปี เนื่องด้วยแทบไม่มีผู้ใช้บริการไปยังหมู่เกาะดังกล่าว

    นักวิเคราะห์หลายฝ่าย ระบุว่า อภิมหาเมกะโปรเจ็กต์สะท้านโลกเดอะเวิลด์ถึง "จุดจบ" เรียบร้อยโรงเรียนดูไบ!

    ส่วนข้อมูลสำรวจจากสำนักข่าวรอยเตอร์ คาดว่า ราคาตลาดอสังหาริมทรัพย์ของยูเออีจะดิ่งลงอีกร้อยละ 10 ในอีก 2 ปีข้างหน้า

    อย่างไรก็ตาม นายเกรแฮม โลเว็ตต์ ตัวแทนบริษัทนักฮีล พร็อพเพอร์ตีส์ ผู้รับผิดชอบอภิมหาโครงการเดอะเวิลด์ ยืนยันว่า โครงกานี้ยังไม่ยุติ เพียงแต่อยู่ในขั้นวิกฤตโคม่า พร้อมให้คำมั่นกับเพนกวิน มารีน ว่า การลงทุนในโครงการดังกล่าวจะฟื้นตัวอย่างแน่นอน โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนการเสียสละ นายโลเว็ตต์ ย้ำว่า เพนกวิน มารีน ยังมีโอกาสที่จะทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์

    "นี่เป็นโครงการระยะยาว 10 ปีที่แค่เกิดภาวะล่าช้า โครงการนี้จะเสร็จสิ้นอย่างแน่นอน" นายโลเว็ตต์ ให้ความมั่นใจในที่ประชุม ผู้ถือหุ้นโครงการ



    ด้านโฆษกบริษัทนักฮีลฯ ปฏิเสธคำกล่าวของ นายริชาร์ด วิล ม็อธ-สมิธ ทนายความบริษัทเรือข้ามฟากเพนกวิน มารีน ซึ่งระบุว่า พบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการทรุดตัวลงของเกาะเดอะเวิลด์ โดยตอบโต้ว่า ข้อมูลจากการสำรวจในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ไม่พบการ "กัดเซาะขั้นร้ายแรง" จนต้องมีการถมทรายใหม่

    นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะในวงการก่อสร้างของดูไบ

    แต่แผ่ขยายลุกลามออกไปถึงบรรดามหาเศรษฐีทั่วโลกที่นำทรัพย์มโหฬารของตนมาจับจองว่าที่เกาะสวรรค์นี้ไว้ด้วย

    อาทิ นายจอห์น โอ′โดแลน ผู้ซื้อเกาะเดอะเวิลด์ในชื่อ "ประเทศไอซ์แลนด์" มูลค่ากว่า 1.18 พันล้านบาท ถึงกับก่อเหตุฆ่าตัวตาย เนื่องจากบริษัทของตนล้มละลายในปี 2549 จากวิกฤตซับไพรม์สหรัฐ

    ส่วนอีกคน คือ นายซาฟี คูราชี ผู้ซื้อเกาะ "ประเทศอังกฤษ" มูลค่ากว่า 2.1 พันล้านบาท ถูกศาลดูไบพิพากษาจำคุก 7 ปี ฐานจ่ายเช็กเงินสดเด้งในโครงการเดอะเวิลด์

    คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เมื่อโครงการเกาะสวรรค์สะท้านโลกของดูไบต้องเจออุปสรรคทั้งด้านเศรษฐกิจและธรรมชาติถึงขั้นนี้แล้ว..

    ผลสุดท้ายจะ "รอด" หรือ "ล่ม" ในที่สุด!?!

    -----------
    ข่าวสดออนไลน์
    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdNaTB3TVE9PQ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. navyrayong

    navyrayong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +528
    สวยจังเน้อ .... ... ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...