รักออกแบบได้ไทย-เขมรวันวาเลนไทน์

รักออกแบบได้ไทย-เขมรวันวาเลนไทน์

โดย mootie | วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 300px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http%3A%2F%2Fwww.thaihealth.or.th%2Fnode%2F20624&layout=standard&show_faces=false&width=300&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

​

ไม่มีชาติใดบนโลกใบนี้จะกล้าออกมาบอกว่า "ความรักเป็นสิ่งไม่ดี" เพราะในความเป็นจริง "ความรัก" เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดในจิตวิญญาณของมนุษย์เนื่องจากความรักเป็นพลังงานที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละ, การให้, การเอื้ออาทร ฯลฯ


วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ทั่วโลกยอมรับให้เป็น"วันแห่งความรัก" ดังนั้น ในวันนี้จึงเป็นวันที่มีความหมายอย่างมากกับมวลมนุษย์โลก โดยเฉพาะประเทศไทยและประเทศเขมรที่กำลังห่างเหินต่อความรักกันในเวลานี้


หากใครสามารถหยิบยื่นความรักให้กับประเทศไทยและประเทศเขมร ออกมาแสดงความรักต่อกันได้ในวันวาเลนไทน์ คนทั้งโลกคงจะให้การสรรเสริญกันอย่างอึงคะนึง แน่ๆ


เพราะพฤติกรรมของการ "ขาดความรัก" ต่อกันของ2 ประเทศนี้อาจจะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่โตของคนทั้งโลกได้


เมื่อพูดถึงวันแห่งความรักแล้วทำให้นึกถึงกิจกรรมของสสส. ที่เขากำลังจะจัดงานชื่อ รักออกแบบได้ หรือ Story of love ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ณ ลานดิจิทัล gate way สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยโครงสร้างของงานจะประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนที่เป็น เวทีเสวนา, ส่วนที่เป็นนิทรรศการสุขภาวะทางเพศ และส่วนที่เป็นบูธเกม เพื่อให้ความรู้กับเยาวชนสำหรับรายละเอียดในแต่ละส่วนจะมีกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละส่วนดังต่อไปนี้


1.ส่วนเวทีสัมมนา ส่วนนี้จะเป็นการพูด การแสดงความคิด การเรียนรู้กันทางหู โดยใช้หูฟังเรื่องต่างๆ ที่จะบอกเล่าให้ทราบถึงผลสำรวจเรื่องเพศของวัยรุ่นในกทม.ที่จัดทำขึ้นโดยแผนงาน สน.6 ใครที่ผ่านเข้ามา รับทราบตรงนี้ก็จะได้รู้ว่า เด็กวัยรุ่น ในกทม. มีพฤติกรรมทางเพศ เอนเอียงไปทางใดบ้าง และปัญหาจากการที่ค่านิยมของวัยรุ่น กทม.เอนเอียงไปอย่างนั้น มันทำให้เกิดผลของปัญหาขึ้นมาอย่างไรพ่อ-แม่ ผู้ปกครอง หรือแม้กระทั่งตัวของเด็ก เยาวชนเองหากได้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ สิ่งแรกที่ได้ประโยชน์คือ เกิดความฉลาดขึ้นในสมองและประโยชน์อื่นที่ตามมาคือทำให้รู้เท่าทันถึงปัญหา หากปัญหานั้นๆ มันบังเอิญวิ่งมากระทบเรา เราจะได้รู้ทางแก้ รู้ทางหนีทางไล่ หรือรู้จักการป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานั้นๆ


2.ส่วนนิทรรศการสุขภาวะทางเพศ ในส่วนนี้เราต้องใช้ตาดู โดยเขาจะจัดข้อมูลต่างๆ เอามาจัดวางไว้ให้ดูกันทั้งในรูปลักษณ์ของตัวหนังสือและภาพที่ผู้ดูสามารถเกิดความรู้ความเข้าใจ ทั้งที่เป็นเรื่องเข้าใจถูกและเรื่องที่เคยเข้าใจผิดของวัยรุ่นในกรณีการป้องกันตัวเองเมื่อมี sex แบบพลั้งเผลอหรือมีเซ็กซ์เพราะสังคมเพื่อนฝูงพาไป ข้อมูลจากนิทรรศการส่วนนี้จัดทำโดย แผนงานสน. 2 นอกจากนี้ ยังมีการแสดงการบอกเล่าจากประสบการณ์ตรงของพ่อ-แม่ ผู้ปกครองโดยเขาได้เชิญให้อดีตพระเอกเก่า คือ ทูน หิรัญทรัพย์ มาเล่าประสบการณ์ เมื่อต้องรับบทพ่อเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนลูกสาว3 ใบเถา ที่ต้องระวังภัยทุกรูปแบบ และยังแถมเรื่องกลยุทธ์ของการให้ความรู้ความเข้าใจแก่เยาวชนในเรื่องเพศ ในกลุ่มสังคมของตัวเอง เช่น ทักษะการปฏิเสธ เมื่อถูกเชื้อเชิญหรือรุกเร้าให้เข้าสู่ปฏิบัติการเซ็กซ์กับคนที่ตัวเองรักและให้ความสนใจและยังพูดถึง spot การรณรงค์โดยแผนงานสุขภาวะทางเพศจากสสส. สลับกับการร้องเพลง หรืออยากจะนั่งดูหนังก็จะมีหนังสั้น up to me ให้ได้ชมกัน ส่วนคนที่อยากจะได้รับรู้เพื่อเป็นการสื่อสองทางคือได้ทั้งถามและได้คำตอบเขาก็จะมีเวทีร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกันระหว่างองค์การแพธแห่งประเทศไทย สลับกับการพูดคุยกับเด็กแบบตามวัย ตอบไวให้รับรู้กันด้วย


3.ส่วนบูธเกม เป็นการเปิดบริเวณให้เด็กและเยาวชนได้ร่วมสนุกเกี่ยวกับเกมต่างๆ ให้ความรู้และความสนุกที่เกี่ยวข้องการเพศศึกษา โดยภายในบริเวณงานจะจัดให้เป็นกิจกรรมเล่นเกมในซุ้มนิทรรศการให้ทั้งความสนุก ความรู้ และของรางวัลในเกมแรลลี่ ซึ่งในส่วนนี้เชื่อได้ว่าจะเต็มไปด้วยกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มาร่วมสนุกและร่วมรับรางวัลอย่างหนาแน่นทีเดียว ดังนั้น หากใครที่มาชมงานยังเข้าไม่ถึงส่วนนี้ก็คงต้องเลี่ยงไปดูส่วนหนึ่งและส่วนสองก่อน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาวะความแออัดที่จะมีอยู่ในส่วนนี้


ก็อย่างที่บอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีดังนั้น เมื่อวันแห่งความรักมาถึงบรรดาผู้มีรักในหัวใจ หรือต้องการก่อความรักให้เกิดขึ้นในหัวใจก็คงต้องสร้างความรักด้วยสติ ด้วยความรู้ และด้วยหัวใจรักที่แท้จริง


อย่าให้ความรัก ทำให้เราต้องตาบอดแต่จงใช้ความรักให้เป็นเสมือนของทิพย์ที่สามารถดลบันดาลใจให้เราสมกับความสุขและความปรารถนา


และเพื่อให้ความรักเป็นของทิพย์แห่งชีวิต ก็อย่าลืมไปเยี่ยมชมงาน "รักออกแบบได้" กันในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ก่อนวันแห่งความรักหนึ่งวันเพื่อจะได้นำมาออกแบบความรักให้กับตัวเองที่จะก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง


หากเราเก็บเกี่ยวความรู้ และสามารถออกแบบรักให้กับตัวเองได้จากงานดังกล่าววันรุ่งขึ้น 14 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันแห่งความรักเชื่อขนมกินได้เลยว่า รักของคุณจะเป็น "ของทิพย์" ที่สร้างแต่ความสุขและความสมหวังให้กับตัวคุณเองแน่ๆ

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า​