"พุทธอินเตอร์" กับ "ดร. เชอร์รี่" ผู้รักเมืองไทย

ในขณะที่อุณหภูมิบ้านเรา ทั้งอากาศและภาวะการเมืองร้อนระอุ แต่ไม่ได้ทำให้สตรีผู้หนึ่งที่มาอาศัยในเมืองไทยอย่าง “ดร.เชอร์รี่ คาร์เธอร์ สก็อต” นักจิตวิทยาหน้าสวย และโค้ชด้านการบริหารระดับโลก และเป็นนักเขียนหนังสือขายดีอันดับ 1 แห่งนิวยอร์กไทมส์ อีกทั้งเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษากับคนเพื่อให้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างสัมฤทธิ์ผล รวมทั้งเป็นอาจารย์คนนักศึกษาทั่วโลกในมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (ประเทศไทย)


<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ดร.เชอร์รี่ คาร์เธอร์ สก็อต</TD></TR></TBODY></TABLE>



ดร.เชอร์รี่ เคยให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งกับโอปรา วินฟรีย์ ,CNN,Today showรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ครั้งทั่วโลก และยังเป็นคอลัมนิสต์ เขียนสารคดี ในนิตยสาร Newsweek , People, Readers Digest ,Cosmopolitan ฯลฯ รวมทั้งงานวิทยากรอีกหลายประเทศทั่วโลกมองผิวเผินเธออาจเป็นเพียงนักวิชาการธรรมดาที่นอกจากใบหน้าสวยแล้ว ยังดูภูมิฐานและมีความเป็นผู้นำ

หากแต่เมื่อ M-Light ได้พูดคุยกับเธอ จึงพบว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ ทั้งในชีวิตที่รักเมืองไทย ใส่ใจในวิถีพุทธ และแนวคิดการบริหารธุรกิจในวันที่สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายที่ฟังแล้วต้องบอกว่าเธอรักเมืองไทยมากกว่าคนไทย “บางคน” เสียอีก

“ดร.เชอร์รี่” คือชื่อสั้นๆที่ใช้ในการสนทนา ภาพแรกที่เราได้เห็น การแต่งกายเรียบร้อย สไตล์อาจารย์ แม้รูปร่างลักษณะ ภาษา ที่ดูเป็นฝรั่ง หากแต่คำทักทายของเธอที่มีให้เราคือ “สวัสดีค่ะ” แล้วยกมือไหว้ 8-9 ปี กับการเข้ามาตั้งรกรากในเมืองไทยและซื้อบ้านที่เกาะลันตา จ.กระบี่ และในวันขึ้นบ้านใหม่ ฝรั่งหัวใจรักไทยคนนี้ก็นิมนต์พระตามแบบฉบับคนไทย และเธอก็น้อมรับว่าวิถีพุทธคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เธอ “ศรัทธา”

Thailand ดินแดนที่แสนประทับใจ

คนไทยหลายคนอาจไม่แน่ใจว่า เมืองไทยคือเมืองที่น่าอยู่หรือไม่ในตอนนี้ ทั้งปัญหาการเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม หากแต่สำหรับ “ดร.เชอร์รี่” กลับพูดให้คนไทยที่นั่งสัมภาษณ์เธอขนลุกทีเดียวเมื่อเธอบอกว่า เมืองไทยคือดินแดนสวรรค์สำหรับเธอ และสิ่งที่ทำให้ประทับใจคือการรักษาของหมอที่ทำให้ไม่ต้องผ่าตัดเข่าจนถึงทุกวันนี้

“สิ่งที่ดีใจและทำให้อยากมาอยู่เมืองไทยคือคนไทยน่ารัก ครอบครัวของฉันมีปัญหาเรื่องเข่าที่จะต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวเข่า พี่สาวคนโตของฉันเป็นทั้งคู่เลย ต้องผ่าตัดที่อเมริกา แต่ฉันพอมาเมืองไทยหมอก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดนะ แค่ปรับให้มันตรงคือการดัดนั่นเอง ที่อเมริกาทำไม่ได้ มาที่นี่มีความสุขมากไม่ต้องผ่าตัด ที่ยุโรปอเมริกาไม่มี ต้องเปลี่ยนใหม่หมด แต่ประทับใจมาก มันอบอุ่นการดูแลที่ได้สัมผัสมันคือสิ่งสวยงาม แล้วก็คิดว่านี่คือของขวัญจากประเทศไทย”...ดร.เชอร์รี่ พูดถึงเมืองไทยด้วยแววตาเปี่ยมสุข

ศรัทธาในวิถีพุทธ

ดร.เชอร์รี่บอกว่าเธอชื่นชมคนไทย และน้อมรับวิถีปฏิบัติหลายอย่างมาใช้ในชีวิต รวมไปถึงวิถีพุทธ ที่เธอบอกว่า เคยนั่งสมาธิ ฝึกจิตมาแล้ว และในวันขึ้นบ้านใหม่ของเธอ เธอยังนิมนต์พระมาทำพิธีแบบชาวพุทธอีกด้วย

“ฉันเคยไปนั่งสมาธิวิปัสสนา แต่ว่าฉันเป็นคริสต์คาทอลิกนะครอบครัวปลูกฝังมาแบบนั้น แต่ไม่ใช่คนเคร่งศาสนา ต้องเข้าโบสถ์ โตขึ้นมาในครอบครัวคาทอลิก แต่มาเมืองไทยได้สัมผัสกับเรื่องของจิต ก็เลยคิดว่าที่เมืองไทยมีการสอนแบบนี้ดีจังเลย เราสัมผัสได้ ไม่ได้เกี่ยงเรื่องศาสนานะ นับถือศาสนาอะไรก็ได้ แต่อยู่ที่ใจนะ ตอนไปนั่งสมาธิก็รู้สึกดีมากบ้านของฉันที่เมืองไทยนิมนต์พระมาสวดตอนขึ้นบ้านใหม่ คือคนไทยใจดีมาก แล้วฉันเองก็ไม่รู้สึกแตกต่างเลย เพื่อนบ้านก็ให้การต้อนรับดีมาก แล้วฉันก็รักเมืองไทยมาก”

และผลจากการทำงานและสอนหนังสือ และฝึกสมาธิ ทำให้เธอไม่ใช่สาวขี้หลงขี้ลืมแม้ว่าในชีวิตจะทำอะไรหลายอย่าง ขับรถไปกลับกรุงเทพฯ-ชะอำ เพื่อสอนหนังสือทุกวันก็ทำมาแล้ว...“ฉันขับรถเองนะ ไปกลับที่เว็บสเตอร์ที่ชะอำ ฉันยังไม่แก่ ยังสาวอยู่ (หัวเราะ) สมาธิค่อนข้างดี”

“ความสำเร็จ” เริ่มจาก “จิต” ที่คิดดี

ดร.เชอร์รี่ เขียนหนังสือชื่อ “If life is a game,these are the rules : Ten rules for being human” ตีพิมพ์ 14 ครั้ง ใน 40 ภาษาทั่วโลก แต่เมื่อถามว่าในภาวะบ้านเมืองเราย่ำแย่ เศรษฐกิจขยายตัวเนิบช้า อีกทั้งปัญหาด้านอื่นที่รุมเร้า จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้อย่างไร เธอบอกว่า ทุกอย่างอยู่ที่ “ใจ” และ “วิสัยทัศน์”

“สิ่งที่สนใจคือความสำเร็จของคนอื่น อยากรู้ว่าความสำเร็จของคนอื่นเป็นอย่างไรแล้วมีหนังสืออีกเล่มคือกฏของความสำเร็จ ได้แปลมาเป็น40ภาษา ดีใจและเป็นเกียรติมากและรู้สึกว่าคนในโลกนี้ก็มีความคิดที่อยากจะสำเร็จแต่ต่างกันที่เขามองอย่างไร อยากสำเร็จ มุมมองอาจจะไม่เหมือนกัน”

“จริงๆความสำเร็จมันมีเป็นร้อยวิธีเลยนะ แต่ว่าเอาไปวิธีเดียวก่อนในตอนนี้ คือก่อนเข้านอนให้คิดว่าตลอดวันที่ผ่านมา มีสิ่งดีๆเกิดขึ้น มีอะไรบ้าง คิดถึงสิ่งดีๆที่เริ่มอยู่ แล้วให้มันเป็นพลังในแง่บวก เพราะถ้าคิดแต่เรื่องปัญหามันจะมีแต่แง่ลบ แล้วก่อนนอนให้ทำแบบนี้มันจะฝึกให้เราเป็นคนเชิงบวก”

“ช่างอ่าน” ถึง “ช่างรู้”

เพราะหมวกหลายใบที่ต้องสวม ทั้งนักเขียน อาจารย์ นักวิชาการ วิทยากร ทำให้ดร.เชอร์รี่เผยว่า ความรู้ที่เกิดอยู่ที่เราเลือกรับข้อมูล หากแม้นอยากได้สาระก็ต้องเลือกหนังสือที่มีประโยชน์มาศึกษา และกว่าจะได้หนังสือออกมาสักเล่มต้องศึกษามาอย่างดีแล้ว

“ตั้งแต่ตอนเด็กไม่เคยคิดว่าจะเป็นนักเขียน แต่ว่าเมื่อโตขึ้น แล้วมาเขียนเล่มหนึ่งเนี่ยเลยรู้ว่าชอบ แล้วเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก เป็นคนขี้สงสัย อยากรู้ อยากค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ไม่ใช่ว่าอ่านอะไรก็ได้ ก็เลือกอ่านวิชาการ เรื่องเศรษฐกิจอะไรต่างๆ วิธีการเขียนต้องวิจัยมาดีแล้ว ต้องรู้จริง คือฉันเป็นขี้สงสัยอยู่แล้ว แล้วชอบหาความจริง อ่านแล้วศึกษาแล้วก็เอามาเขียน อย่างเขียนเรื่องความสำเร็จ ถ้ารู้ว่าความสำเร็จมันสำคัญกับเราอย่างไร มันถึงจะรู้ว่าความสำเร็จคืออะไร แล้วค่อยเขียนออกมาได้”

ผู้หญิงกับภาวะผู้นำ

ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้หญิงเก่งในภาระหน้าที่มากมาย หากแต่ ดร.เชอร์รี่บอกว่า กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ ก็ผ่านชีวิตการฝ่าฟันต่อสู้กับผู้ชายในเวทีสาธารณะและการใช้ชีวิตมาไม่น้อย และนั่นคือแรงผลักดันที่ทำให้เธออยากบอกสาวไทยทั้งหลายว่า เมื่อมีความสวยพร้อมมากกว่าหลายประเทศในโลก ก็ควรมีความแข็งแกร่งในการใช้ชีวิตเช่นกัน

“ฉันไม่เคยคิดมาเปลี่ยนคนไทยเพราะคนไทยมีอะไรหลายอย่างดีอยู่แล้ว ฉันไม่ได้มาเปลี่ยนแต่ฉันมาเรียนรู้วิธีการจากคนไทยมากกว่า ผู้หญิงไทยในมุมมองของฉันคือสวยมาก แต่ว่าผู้หญิงต่างชาติไม่ค่อยสวย เวลามองแล้วสาวไทยมีความงดงาม สวย แต่ถ้าหากจิตใจมีความเข้มแข็งก็จะดีมาก และควรเป็นไปแบบนั้น อยากให้ผู้หญิงไทยข้างในจะต้องแกร่ง ไม่ใช่ข้างนอกมันสวยอย่างเดียว”

“ก็ใช่ว่าชีวิตฉันจะง่ายไปหมดนะ กว่าจะมีวันนี้ก็เคยเจอวีรกรรมไม่มีคนสนใจ ทำเหมือนไม่มีตัวตน อภิปรายหน้าชั้นแต่ก็ไม่มีใครสนใจก็เลยต้องกระแอมว่า ขอโทษนะ ฉันยืนอยู่ตรงนี้สนใจฉันหน่อย คือการจะพูดให้คนสนใจมันอาจต้องมีเทคนิค และจริงใจ แล้วก็ใส่อารมณ์ขันเข้าไปด้วย คนถึงจะให้ความสนใจ”

“ครอบครัว” ความสำเร็จสูงสุดของชีวิต

ใกล้วันสงกรานต์ ประเพณีปีใหม่ของชาวไทย และหนึ่งในวันนั้นคือวันครอบครัว สำหรับ ดร.เชอร์รี่ ความสำเร็จที่มากกว่าหน้าที่การงาน คือความภูมิใจที่เลี้ยงลูกสาวคนเดียวของเธอ วัย 28 และสามีที่พร้อมเคียงข้างเธอตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา

“ลูกสาวคือความสำเร็จในชีวิตอันดับหนึ่ง และอันดับสองคือสามี” ...ดร.เชอร์รี่ตอบแบบไม่รีรอหลังถามว่าความสำเร็จของเธอคือสิ่งใด และคำตอบที่ได้รับคือการมีครอบครัวที่มีความสุขของเธอ แม้ว่าวันนี้ลูกสาวอาจไม่ได้เดินตามทางที่เธอขีดไว้ แต่ในความดื้อรั้น เธอยังมีความรักและความปรารถนาดีให้ลูกเสมอ

“ฉันมีลูกสาวคนเดียว อายุ 28 เป็นสาวแล้ว นิสัยนี่เขาเก่งเรื่องเรียน ภาษาเขาก็เก่งพูดได้ 4 ภาษา แน่นอนว่าสอนลูกยากกว่าสอนนักศึกษาเยอะเลย (หัวเราะ) ตีหรือทำโทษมั้ย เขาก็มีความคิดของเขา ตอนอายุ 16 เขาบอกกับฉันว่า แม่หนูรู้ว่าวันหนึ่งหนูจะเป็นเหมือนแม่นะ แต่ ณ เวลานี้ หนูต้องต่อสู้กับแม่ไปก่อน (หัวเราะ)” ….

***

“ทุกข์อยู่กับเราไม่นาน”
กำลังใจจาก ฝรั่งหัวใจไทย

“เข้าใจว่าสภาพจิตใจและปัญหามันเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ในการทำธุรกิจต้องมีวิสัยทัศน์ มันถึงจะรู้ว่าเราจะไปทางไหน ถ้าไม่มีมันก็ไม่รู้จะไปทางไหน เราต้องมีความชัดเจนว่านี่คือสิ่งที่เราต้องการ ความกล้ามันจะมาเอง ถ้าเราไม่มีวิสัยทัศน์เลยก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย ฝันให้ไกล ไปให้ถึง”

“หลายคนอาจไม่กล้าลงทุน ไม่กล้าทำอะไร แต่ขอให้เชื่อมั่นในสิ่งที่เราเลือกแล้ว เชื่อในตรงนั้นแล้วให้มีความคิดว่าสิ่งต่างๆที่ไม่ดี มันต้องผ่านพ้นไป แล้วช่วงนี้มันอาจดูแย่แต่มันไม่ได้แย่ตลอดไป ไม่มีใครทุกข์ตลอดไป”...เชอร์รี่ คาร์เตอร์ สก็อต

ประวัติ

ชื่อ ดร.เชอร์รี่ คาร์เตอร์ สก็อต
เกิด 30 พ.ค. 1949
สัญชาติ อเมริกา
การศึกษา ปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ มลรัฐโคโลราโด (University of Denver,Colorado)

มหาวิทยาลัยดิจอง ประเทศฝรั่งเศส (University of Dijon,France)

ปริญญาโทและปริญญาเอกด้านบริหารจากอเมริกา มหาวิทยาลัยฟิลดิง เกรดดูเอต (Fielding Graduate University)

อาชีพ นักเขียน นักจิตวิทยา วิทยากรที่ออกรายการทีวีและวิทยุมากกว่า 500 ครั้งทั่วโลก อาจารย์สอนระดับปริญญาตรี-โท ของมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ และผ่านการอบรมสัมมนามามากมาย

งานอดิเรก ขับเครื่องบินจนมีความเชี่ยวชาญ , ดิ่งพสุธา ,กอล์ฟ ,ว่ายน้ำ ,สกี, ล่องแก่ง ฯลฯ


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

 

สุดยอดเลยครับ

หน้านับถือมากๆ... คนเราเนียก็แปลก

มองเห็นแต่สิ่งลอบตัว เห็นแต่ของคนอื่นดี แต่ไม่เคยเห็นสิ่งดีๆในตัวเอง

อย่าที่คุณเชอร์รี่เขาว่า...ประเทศไทยหน้าอยู่ คนไทยน่ารัก

แต่เราคนไทยกลับมองไม่ค่อยจะเห็นกัน

 

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยครับ นับเป็นบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ นำมาซึ่งความสุข สงบ ความสำเร็จในชีวิต
----------------------------------------