พระวิริยะแห่งพระนัดดา

พระวิริยะแห่งพระนัดดา<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->องค์หริภา เปิดพระทัยถึงการทรงงานที่รัก อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-บำรุงพุทธศาสนา



และทรงคาดหวังให้การทรงงานครั้งนี้ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอยากให้คนไทยมีความสนใจศิลปวัฒนธรรม

นับ แต่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงสำเร็จการศึกษาจากคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็ทรงอุทิศพระองค์ให้กับการทะนุบำรุงพุทธศาสนาและศิลปกรรมของชาติ โดยทรงนำวิชาความรู้ จากการศึกษามาปฏิบัติพระกรณียกิจ ในการบูรณปฏิสังขรณ์ วิหารปฏิบัติธรรมและปรับแต่งภูมิทัศน์โดยรอบของวัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านห้วยชมพู ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และในระหว่างดำเนินการนี้ องค์หริภา ก็ทรงมีพระดำริจัดทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้น เพื่อนำเงินสมทบค่าใช้จ่ายต่างๆของวัด เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา



โดย องค์หริภา ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ซึ่งมีชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธา มาร่วมกันทำบุญถวายเงินเข้าวัดเป็นจำนวนถึง 1,234,567 บาท หลังจากนั้น องค์หริภา ในฐานะองค์ประธาน โครงการบูรณะวิหาร วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ ได้รับสั่งเล่าถึงความคืบหน้าของโครงการฯที่ทรงมีพระดำริบูรณะพระวิหารใหม่ ทั้งหมด โดยคงรักษาโครงสร้างของอาคารเดิมไว้ ซึ่งเบื้องต้นทรงใช้ทุนทรัพย์ ส่วนพระองค์ในการดำเนินงาน ขณะนี้การ บูรณะในส่วนพระวิหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินงานเกี่ยวกับพระประธานที่กำลังสร้างอยู่ ส่วนการออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์โดยรอบวัดเสร็จไปแล้ว 80% จิตรกรรมฝาผนังเสร็จ 30%



ในส่วนของจิตรกรรม ฝาผนังนั้น องค์หริภา รับสั่งเล่าว่า ทรงเป็นผู้ออกแบบ โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาล จักรราศี และเรื่องพระมหาชนก จากพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และที่เลือกเรื่องพระมหาชนกนั้นเพราะไม่อยากซ้ำใคร เรื่องพระมหาชนก มีเนื้อหาที่น่าสนใจ เป็นจิตวิทยาที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อแก้ปัญหาในโลกได้หลายอย่าง และเป็นหลักธรรมที่ง่ายที่สุด แต่คนก็ไม่สามารถทำได้ ฉะนั้นเป็นการท้าทายอย่างหนึ่งที่จะสื่อให้คนเข้าใจการทำงาน ตรงนี้ พระองค์ทรงมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงกราบบังคมทูลถามถึงงานที่ทรงทำด้วยว่า สื่อความหมายถูกต้องตามพระราชประสงค์ไหม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเป็นกำลังใจและพระราชทานคำแนะนำตลอด



นอกจากนี้ องค์หริภา ทรงมีรับสั่งถึงงานอื่นๆที่ทรงทำด้วยว่า พระองค์ทรงงานหลายอย่าง ไม่ได้ทำที่วัดนี้เพียงแห่งเดียว ทรงช่วยเหลือบูรณะด้านศิลปวัฒนธรรมที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร และวัดหนองน้ำขุ่น จ.ระยอง การที่ทรงสนพระทัยงานด้านจิตรกรรมฝาผนัง ทั้งๆที่ทรงเรียนมาทางด้านภาพพิมพ์นั้น เป็นเพราะทรงชื่นชอบงานศิลปะที่มีแรงบันดาลใจ จากการเสด็จไปตามภาคต่างๆของประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และอีสาน ทรงเห็นว่าศิลปะไทยน่าสนใจและมีเสน่ห์ในตัวเองชวนให้หลงใหล โดยเฉพาะศิลปะล้านนา ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ รวมทั้งงานด้านจิตรกรรมฝาผนัง และจากการที่อยากทรงงานด้านนี้ องค์หริภา จึงทรงเข้าศึกษาต่อปริญญาโทด้านจิตรกรรม สาขาศิลปะไทย ที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อยู่ในขณะนี้

นอกจาก นี้ องค์หริภา ยังได้รับสั่งถึงขั้นตอนการทรงงานของพระองค์ด้วยว่า พระองค์ทรงงานตั้งแต่ รวบรวมข้อมูลและเสด็จลงพื้นที่เอง พร้อมทั้งต้องทรงทำความเข้าใจกับชาวบ้านและท้องถิ่นด้วย เพื่อให้ได้ทราบถึงเจตนาของการทำงานและเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันว่า คณะของพระองค์เข้ามาทำงานเพื่อรับใช้ ไม่ได้มาเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ โดยพระองค์อยากให้คนในท้อง ถิ่นได้มีส่วนร่วมในการเก็บรักษา และทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อเป็นสมบัติของพวกเขาเอง



การทำงานก็ ย่อมมีปัญหา มีคนมาต่อว่าบ้าง คิดว่าจะมาเปลี่ยนแปลงอะไร หรือคิดว่าเด็กๆมาเล่นอะไรกัน ก็ต้องอดทนใจเย็น ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า เรามารับใช้คนเชียงใหม่ ไม่ได้มาทำงานเพื่อเครดิต มาทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา มีการพูดจากันในทีม ซึ่งบางทีก็ได้เรียนรู้จากการทำงานที่ผิดพลาด บางครั้งก็มีท้อใจบ้าง แต่ทุกคนก็ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด สำหรับกำลังใจในการทำงาน ก็ยึดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นกำลังใจทุกอย่าง ไม่เคยทูลพระองค์ท่าน แค่ตอนเข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านทรงยิ้มให้ก็หายเหนื่อย แม้ตอนนี้ จะได้นอนวันละ 4 ชม. ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน อยู่ต่างจังหวัดที่เชียงใหม่ สกลนคร และระยอง การได้ทำงานที่ต่างจังหวัดก็มีความสุข คนเรามีความสุขที่ได้ทำงานที่ตนเองรัก แม้งานจะไม่ได้เงิน แต่ทำเพื่อประ-โยชน์ชาวบ้าน องค์หริภา ทรงเปิดพระทัยถึงอุปสรรคในการทรงงาน

สุดท้าย นี้เมื่อทูลถามถึงความคาดหวังในการทรงงานครั้งนี้ องค์หริภา รับสั่งว่า อยากทรงงานเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอยากให้คนไทยมีความสนใจศิลปวัฒนธรรม ซึ่งศิลปวัฒนธรรมไทยไม่เหมือนใครในโลก และคนทั่วโลกเขาต้องมาดูที่เมืองไทย อยากให้เจ้า ของท้องถิ่นหวงแหน และอนุรักษ์เอาไว้.
--------
ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/life/2357



---------------------
พระวิริยะแห่งพระนัดดา

​

ในการทรงงาน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงมีความมุ่งมั่นอย่างสูง เพื่อให้งานทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ ลุล่วงตามเป้าประสงค์ แม้ทรงบัญชาให้ส่วนต่าง ๆ สนองตามพระประสงค์ได้ หากแต่ทรงลงดูแลในขั้นตอนการจัดเตรียมด้วยพระองค์เอง
ก่อนถึงวันงานทอดผ้าป่า ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย. ทรงร่วมประชุมกับคณะทำงาน ณ กองบิน 41 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงค่ำล่วงเช้าวันใหม่ เพื่อวางแผนงานให้สมบูรณ์พร้อม

​

แม้ว่าทรงบรรทมไม่กี่ชั่วโมง แต่ในวันศุกร์ที่ 24 เม.ย. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จยังวัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ ตั้งแต่ช่วงเช้า ทรงร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ในการนำพรรณไม้มาลงเพิ่มเพื่อความร่มรื่นรอบวัด และจัดทำสวนสมุนไพร รวมทั้งการศึกษาสรรพคุณเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ของพืชสมุนไพรบริเวณรอบวัดส่วนลึกด้านใน พื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งพืชและสัตว์จำนวนมากอาศัย โดยครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่พระดำเนินทรงสำรวจ ทรงเคยถูกแมงป่องต่อยมาแล้ว

​

ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว คณะทำงานล้วนเหงื่อซึมทั่วกาย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ซึ่งทรงฉลองพระองค์ไม่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ทรงเผชิญกับความร้อนเหมือนทุกคน ขณะเตรียมงานในวิหาร ไม่โปรดให้ตั้งพัดลมมาที่พระองค์โดยตรง ทรงให้เผื่อแผ่แก่คณะทำงานโดยทั่วถึง ทรงเลือกใช้วิธีนำผ้าซับพระพักตร์ชุบน้ำแข็งทรงเช็ดพระพักตร์เป็นระยะ ทว่ายังไม่สามารถผ่อนความร้อนเท่าไรนัก จึงทรงเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหญ่ขึ้น นอกจากทรงใช้ซับพระพักตร์แล้ว ยังทรงโปะพระศอ คลุมพระเศียร กระทั่งเมื่อความเย็นในผ้าคลายลง จึงพระดำเนินไปทรงชุบน้ำแข็งอีกครั้งเรื่อยไป มิได้ทรงเรียกหาให้ผู้ใดทำถวายแต่อย่างใด
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงช่วยคณะทำงานยกโต๊ะ ติดแผ่นภาพร่างอาคารต่าง ๆ ของวัดบนผนังในวิหาร เพื่อเตรียมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในวันงานทอดผ้าป่า ทรงใส่พระทัยในทุกรายละเอียด ทั้งที่ทรงเริ่มพระประชวรจากอากาศร้อนจัด พระพักตร์แดงเรื่อ หากแต่ไม่ทรงปริพระโอษฐ์ให้คณะทำงานกังวล
ทั้งที่ เมื่อช่วงสายพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระดำเนินยังบ่อน้ำทิพย์ในการหารือถึงการจัดทำสวนสมุนไพร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณบ่อน้ำทิพย์ แต่เมื่อทรงได้ยินผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ถามพระสหายในพระองค์เกี่ยวกับการนำน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งมีน้ำซึมออกมาตลอดทั้งปี เข้าสู่ระบบฝายเพื่อหมุนเวียนรดเลี้ยงสวนสมุนไพร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงพระกรุณาธิคุณเสด็จนำผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ไปชมบ่อน้ำทิพย์ด้วยพระองค์เอง และพระดำเนินนำขึ้นชมรูปปั้นพญานาค พร้อมรับสั่งถึงตำนานความเชื่อพญานาคองค์นี้ตามที่ชาวบ้านเล่าสืบต่อกันมา
คณะทำงานในพระองค์เล่าว่า คืนวันศุกร์ที่ 24 เม.ย. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงประชุมร่วมกับคณะทำงานกระทั่งถึงเวลา 04.00 น. ของวันเสาร์ที่ 25 เม.ย ด้วยการทรงงานหนักท่ามกลางภาวะอากาศร้อนอบอ้าว และทรงพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทรงพระประชวรไข้หวัดยิ่งขึ้น

​

ทว่า ด้วยภาระรับผิดชอบ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงฝืนพระอาการประชวร เสด็จทรงปฏิบัติภารกิจในฐานะทรงเป็นประธานงานทอดผ้าป่าสามัคคี และแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนกระทั่งลุล่วง
ด้วยความสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ผู้ทรงสืบสานงานพระศาสนาและงานศิลป์แห่งแผ่นดินสยาม ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพร....ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.

---------

http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=1&Template=1<!-- google_ad_section_end -->