ทรงทำหน้าทีพ่อส่งองค์ทีเข้าเรียนวันแรก

ทรงทำหน้าที'พ่อ'ส่ง'องค์ที'เข้าเรียนวันแรก

ทรงทำหน้าที'พ่อ'ส่ง'องค์ที'เข้าเรียนวันแรก



พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเข้าเรียนหนังสือในชั้นอนุบาล 1 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยทรงเข้าเรียนภาคต้น ปีการศึกษา 2551 ของโรงเรียนจิตรลดา เมื่อเช้าวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดเทอม โดยพระองค์ทีทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบ นักเรียนโรงเรียนจิตรลดา ในชุดเสื้อนักเรียนสีขาว ปักพระนามจริงและพระนามเล่นว่า “ทีปังกรรัศมีโชติ มหิดล” (ที) กับกางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมถุงเท้ายาวสีขาว โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯไปส่งพระองค์ที ที่โรงเรียนจิตรลดาด้วยพระองค์เอง พร้อมให้กำลังพระทัยพระองค์ทีว่า “ตั้งใจเรียนนะลูก รู้จักเพื่อนเยอะๆ”
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.35 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงขับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯไปส่ง “พระองค์ที” ที่โรงเรียนจิตรลดา โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ประทับนั่งมาพร้อมพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มีท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ ผู้จัดการและผู้อำนวยการโรงเรียนจิตรลดา พร้อมคณะครู เฝ้ารอรับเสด็จฯ ที่หน้าอาคาร 1
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระองค์หญิงศรีรัศมิ์ฯ ได้ทรงพาพระองค์ที ซึ่งทรงเป็นนักเรียนจิตรลดา รุ่น 53 เสด็จไปยังห้องเรียนอนุบาล 1/1 เพื่อทรงเก็บพระกระเป๋าเป้ในตู้ประจำพระองค์ ซึ่งมีรูป “ไก่” ตรงกับปีประสูติเป็นตราสัญลักษณ์ แล้วจึงเสด็จฯไปยังอาคาร 3 ทรงลงพระนามาภิไธยส่งพระองค์ที ในแบบฟอร์มส่งนักเรียนเข้าโรงเรียน ต่อมาท่านผู้หญิงอังกาบได้ทูลเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จฯเข้าประทับที่ห้องประชาสัมพันธ์ ทูลเกล้าฯถวายแฟ้มบันทึกพระกิจวัตรประจำวันของพระองค์ที และขอพระราชทานพระราชานุญาตแนะนำครูประจำชั้นอนุบาล 1/1
ระหว่างการทำกิจกรรมในศาลาผกาภิรมย์ ท่าน ผู้หญิงอังกาบได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตแนะนำสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ให้เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลได้รู้จัก ในฐานะศิษย์เก่ารุ่น 2 ของโรงเรียนจิตรลดา ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายเด็กๆอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับประทับทอดพระเนตรพระองค์ทีอย่างใกล้ชิดทุกอิริยาบถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พระองค์ทีทรงยืนเข้าแถวร่วมกับพระสหายร่วมชั้นเรียน “พระองค์ที” ทรงมีอารมณ์แจ่มใสเบิกบานและสนุกสนานเป็นพิเศษ เพราะจู่ๆทรงเดินออกจากแถวไปหาท่านผู้หญิงอังกาบ ซึ่งกำลังยืนพูดอยู่บนโพเดียม พร้อมกับทรงขอไมโครโฟนมาพูดเอง ซึ่งท่านผู้หญิงอังกาบได้อุ้มพระองค์ทีขึ้นมา แล้วพระองค์ทีได้รับสั่งเสียงดังฟังชัดต่อหน้าพระสหายว่า “เด็กๆอย่าร้องไห้เลย” ทั้งนี้ ทรงอยากจะปลอบพระสหาย เพราะทรงเห็นพระสหายร้องไห้งอแงกันหลายคน จากนั้นพระองค์ทีทรงร่วมทำกิจกรรมกับพระสหาย จนได้เวลาพักดื่มนมและคุกกี้
ระหว่างนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร ได้รับสั่งถามท่านผู้หญิงอังกาบถึงพัฒนาการในการเรียนของพระองค์ทีอย่างสนพระทัยยิ่ง ทรงมีรับสั่งว่า องค์ทีไม่ดื้อใช่ไหม ธรรมดาท่านไม่ดื้อนะ แต่วันนี้มีคนสนใจเยอะเลยไม่ค่อยมีสมาธิ เท่าที่เห็นองค์ทีดูพร้อมขึ้นเยอะ เพราะผ่านพรีสคูลมาแล้ว เด็กวัยนี้น่าจะปรับตัวได้เร็ว ขณะเดียวกัน ก็รับสั่งฝากฝังด้วยว่า ฝากให้คอยดูแลองค์ทีในแบบเดียวกับที่เคยดูแลพระองค์ขณะเยาว์วัย โดยขอให้เน้นการคุมเรื่องระเบียบวินัย ต้องดุบ้าง อย่า ตามใจจนเกินไป
ด้านพระองค์หญิงศรีรัศมิ์ฯ ซึ่งประทับอยู่ใกล้ๆ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับสั่งเล่าถึงอาการตื่นเต้นของ “พระองค์ที” ว่า สองคืนก่อนวันเปิดเทอม “องค์ที” ทรงเข้าบรรทมเร็วกว่าปกติมาก จาก 4 ทุ่ม ก็ทรงเข้าบรรทมตั้งแต่ยังไม่ 3 ทุ่ม ก่อนนอนบอกลูกว่าพรุ่งนี้ไปโรงเรียนวันแรกนะ ก็จะเล่านิทานให้ ลูกฟัง พอเล่านิทานจบ “องค์ที” หันมาบอกแม่ว่า “ปิดไฟได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้วนะ” พอถึงเช้าวันเปิดเทอม “องค์ที” ก็ทรงตื่นบรรทมตั้งแต่ 7 โมงเช้า ตื่นเต้นกันทั้งแม่ทั้งลูก พอ “องค์ที” แต่งชุดนักเรียนเสร็จ ก็เข้าเฝ้าฯทูลกระหม่อมพ่อ และทรงถามทุกคนว่า “องค์ที” หล่อไหม
สำหรับการเปิดเทอมในวันแรกและวันที่สอง คือในวันที่ 22 และ 23 พ.ค.นั้น นักเรียนระดับอนุบาล 1 จะเข้าเรียนเพียงครึ่งวันเท่านั้นคือ ตั้งแต่เวลา 08.45-11.30 น. แล้วจึงเปิดเรียนเต็มวันในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.45-15.00 น. โดยกิจกรรมการเรียนการสอนจะเริ่มต้นด้วย การเดินแถวไปยังศาลาผกาภิรมย์ เพื่อเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์นะโม 3 จบ ขับร้องเพลงและทำท่าประกอบเพลง “พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินี” ร้องเพลงมาร์ช “จิตรลดา” และท่องปรัชญาของโรงเรียน จากนั้นเข้าสู่กิจกรรมภายในห้องเรียน อันประกอบด้วย การร้องเพลง การเล่นตัวต่อ การนับปฏิทินประจำวัน และการอ่านนิทาน แล้วจึงพักดื่มนมกับคุกกี้ เตรียมพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งในสนามเด็กเล่น และปิดท้ายด้วยการร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน

********************
ที่มา:ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=90779

 

ขอจงทรงพระเจริญ