ครูอาจารย์หลวงพ่อชาญ ชาโน ครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย pis_41, 7 สิงหาคม 2010.

  1. pis_41

    pis_41 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    995
    ค่าพลัง:
    +1,701
    ๑.หลวงปู่เคลือบเป็นคนมอญสักเงี้ยวครึ่งท่อนมีโรคประจำตัวคือ หืดหอบ และริดสีดวง ชอบอมเม็ดมะขามทางแก้มซ้าย เดิมอยู่ที่วัดหนองหญ้านางถูกชาวบ้านแถบนั้นขับไล่ จึงได้ไปอยู่ที่วัดดงเสือเหลือง จังหวัดพิจิตร และกลับไปสร้างหอประชุมที่ที่วัดหนองกระดี่ จังหวัดอุทัยธานี แล้วกลับไปอยู่ที่วัดดงเสือเหลือง สุดท้ายได้มรณะภาพที่วัดแห่งนี้
    หลวงพ่อชาญ ชาโน เมื่อครั้งอายุ ๘ ขวบ โยมพ่อได้หลวงพ่อไปฝากไว้กับหลวงปู่เคลือบ วัดดงเสือเหลือง จังหวัดพิจิตร เนื่องจากขณะนั้นทางบ้านมีกรณีพิพาทกันเรื่องถือครองที่ดินถึงขั้นปองร้ายกันด้วยชีวิต แต่โยมพ่อก็ได้รับการรดน้ำมนต์จากหลวงปู่เคลือบจึงรอดพ้นภยันตรายต่างๆ ได้ หลวงปู่เคลือบเป็นพระปฏิบัติภาวนาหายใจ ยุบหนอ พองหนอล่ำลือกันว่าท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์มาก อีกทั้งยังมีวิชาอยู่ยงคงกระพันเป็นยอด และที่ผู้คนยกย่องท่านคือการบนบานสารกล่าวให้ท่านช่วยเหลือเรื่องราวต่างๆมักจะประสบผลสำเร็จยิ่งนัก ส่วนใหญ่จะแก้บนท่านด้วยเหล้าขาว มะขามเปียก และไข่ต้ม วิชาต่างๆ ได้ถ่ายทอดแก่หลวงพ่อชาญฯ จนหมดสิ้น

    ๒. หลวงพ่อผล จันทโณ แห่งวัดสวนขวัญ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เป็นพระปฏิบัติชอบ พระป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน อาคมขลัง ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเก็บ แห่งวัดสวนลำไย ซึ่งมีประวัติว่าลอยทวนกระแสน้ำได้ หลวงพ่อเก็บ เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท นอกจากนี้หลวงพ่อผลยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออ่อง ที่ร่ำลือกันว่าใช้ม้าพยนต์ในการเดินทางไปในสถานที่นครสวรรค์ ที่มีชื่อเสียงด้านมีดหมอเสกด้วยวิชาอาวุธ ๕ ประการ ซึ่งหลวงพ่อเดิมเป็นลูกศิษย์ได้เรียนวิชามีดหมดด้วยเช่นกัน
    หลวงพ่อเก็บเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกองค์หนึ่ง มีอาคมแก่กล้ามาก ร่ำลือกันว่าท่านได้ตายไป ๔ ถึง ๕ วัน บ้าง หรือ ๗ วันบ้าง แล้วก็ฟื้นขึ้นมาเอง จริงๆ แล้วท่านรักษากรรมฐาน หรือปฏิบัติกรรมฐานนั่นเอง ท่านมีอาคมเกี่ยวกับการปลุกเสกเลขยันต์ วัตถุมงคลของท่านนั้น ชาวบ้านอำเภอลาดยาวย่อมทราบดีกันว่าไม่รองใครเหมือนกันในเรื่อง คงพระกันซึ่งได้ถ่ายทอดวิชาเหล่านี้ให้กับหลวงพ่อชาญฯ ไว้จนหมด ท่านเคยพูดว่า ได้ชาญฯ มึงต้องต่อสู้กับพวกมารอีกมา มึงต้องถือ ( คาถา) ให้มั่น<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    ๓. หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร หลวงพ่อชาญ ชาโนได้เรียนวิชาอาคมของหลวงพ่อเงิน โดยการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษของท่าน ซึ่งในอดีตสมัยนั้น โยมพ่อแก (เลี่ยม) เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร โยมพ่อแก่ของหลวงพ่อชาญฯ เคยเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อเงิน เป็นพี่ชายของหลวงพ่อทอง วัดเขากบ หรือวัดวรนาถบรรพตกลางเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และหลวงพ่อเงินเคยพูดว่า ไอ้เหลี่ยมมึงไปขอเครื่องรางหลวงพ่อทองบ้าง ของของมันขลังดีนะ หลวงพ่อทอง จึงให้สิงห์เป็นงาแกะมาคู่หนึ่ง โยมแม่ของหลวงพ่อชาญฯ เคยใช้แขวนคอสมัยเด็กๆ ซึ่งได้มาจากโยมพ่อแม่ มอบไว้ให้ เมื่อสิงห์หายก็จะจุดธูป ๙ ดอก บอกกล่าวแล้วใช้เนื้อหมูเกี่ยวเบ็ดลากไป มา ตามบริเวณที่คิดว่าหาย หลังจากนั้นจึงปักเบ็ดไว้นอกชายคาบ้าน ถ้าสิงห์หายไม่ไกลเกินไป เมื่อสิงห์ได้กลิ่นหมู พอตกเช้าสิงห์จะมาอยู่ใกล้ๆ เป็นอย่างนี้หลายครั้ง
    หลวงพ่อชาญ ชาโน ได้เรียนวิชาถอนคุณถอนของสะท้อนย้อนกลับไปหาเจ้าของ ถ้าใครถูกคุณไสย หรือโดนของที่เขาทำมาใส่ ถ้าได้กินน้ำมนต์ของหลวงพ่อชาญฯ เข้าไป แล้วจะอาเจียนออกมาภายในไม่กี่นาที และของนั้นก็จะสะท้อนย้อนกลับไปหาเจ้าของที่ทำของใส่คนอื่นทันที วิชาที่หลวงพ่อชาญฯ เรียนมานี้ เพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้โดยเฉพาะ นี่เป็นวิชาหนึ่งที่ขลังมาก เป็นสุดยอดวิชาหนึ่งของหลวงพ่อเงิน ที่ตกทอดถึงหลวงพ่อชาญ ชาโน<o:p></o:p>

    ๔. อาจารย์สมนึก เมื่อฆราวาสที่เรืองอาคมขลังมาก เป็นผู้ที่ฝักใฝ่เรียนวิชาอาคมมาจากหลายครูบาอาจารย์มาก อดีต คือ นักเลง ที่โบราณเรียกว่า เสือ นั่นเองอาจารย์สมนึก ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อขุย แห่งวัดหน้าพระธาตุ และหลวงพ่อขุย แห่งวัดเนินหญ้าไทร ซึ่งหลวงพ่อทั้งสององค์เป็นลูกศิษย์ของหลานพ่อหรุ่น วัดอัมพวัน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงพาอาจารย์สมนึก ไปฝากเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อหรุ่น อีกทอดหนึ่ง
    อาจารย์สมนึกได้เรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อหรุ่น วัดอัมพวัน กรุงเทพฯ ในสมัยนั้น หลวงพ่อหรุ่น โด่งดังมากในเรื่องการ สักยันต์ เก้ายอดซึ่งอาจารย์สมนึกก็ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อหยุ่น เช่นกัน และอาจารย์สมนึกก็ได้สอนหรือถ่ายทอดให้กับหลวงพ่อชาญฯ จนหมดสิ้นและยังคงได้แห่งอานุภาพความคงกะพันและความเข้มขังยิ่งนัก นอกจากนี้อาจารย์สมนึก ยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อดิ่ง แห่งวัดบางวัว และหลวงพ่อดิ่ง เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปาน แห่งวัดคลองด่าน หรือวัดบางเหี้ย นั่นเอง หลวงพ่อปาน มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการเสกเขี้ยวเสือ ด้วยวิชาเสือ ๒ หัวใจ ประกอบด้วยอำนาจราชสีห์ ส่วนหลวงพ่อดิ่ง มีชื่อเสียงทางด้านการสักเสือเผ่นของภาคตะวันออก ถือว่าเป็นองค์แรกของประเทศไทย ต่อมาจึงมีคนนิยมการสักลักษณะนี้จนเป็นที่แพร่หลาย นอกจากนี้ก็มีการแกะเป็นรูปเสือก็มีเหมือนกัน อาจารย์สมนึกเป็นผู้หวงวิชามาก มีเพียงเคยใช้วิชา นะทรหดแก่หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้งในสมัยที่เป็นฆราวาสที่เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่ร่วมเที่ยวด้วยกันมาเท่านั้น สำหรับหลวงพ่อชาญฯ แล้วอาจารย์สมนึก ยกวิชาทั้งหมดให้เรียนทั้งชุดเลย

    ๕. หลวงพ่อคง จัตตมโล แห่งวัดเขาสมโภชน์ จังหวัดลพบุรี หลวงพ่อชาญฯ หัดเนธุดงค์ตั้งแต่ยังเป็นคฤหัสถ์เหมือนกับหลวงปู่เคลือบ ทั้งที่ยังไม่ได้บวชก็ชอบเดินธุดงค์แล้ว หลวงชาญฯ เคยไปกราบมนัสการหลวงพ่อคง ท่านได้เมตตาแก่หลวงพ่อชาญฯ เป็นอันดี และยังแนะนำให้หลวงพ่อชาญฯ นำเอาคำภาวนา พอง ยุบไปใช้บ้างนะ ต่อไปจะได้ช่วยเหลือคนได้ ช่วยต่อพระศาสนาหน่อย หลวงพ่ออยู่ได้ไม่นาน ช่วยเท่าที่ทำได้ แต่ก็ให้พยายามช่วยให้ได้มากที่สุด ขณะนั้นหลวงพ่อชาญฯ นึกในใจว่าจะขอวิชา พอเอ่ยปากจะพูดหลวงพ่อคงก็ได้พูดขึ้นมาก่อนว่า มึงไม่ต้องใช้วิชากูหลอก ของที่มึงเรียนมาก็ดีอยู่แล้วทั้งที่ท่านก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อชาญฯ เรียนอะไรมาบ้าง หลวงพ่อชาญฯ เคารพนับถือหลวงพ่อคงอีกรูปหนึ่ง เพราะเป็นพระปฏิบัติกรรมฐานได้มรรคผลอีกรูปหนึ่ง
    คนโบราณเคยบอกว่าแม้จะได้คาถาบทหนึ่งก็ต้องระลึกถึงบุญคุณว่าเป็นอาจารย์อยู่เสมอ ไม่คิดจะเป็นศิษย์คิดล้างครู ความเจริญย่อมเกิดควรคู่กับผู้ปฏิบัติดี”<o:p></o:p>

    วิชาที่หลวงพ่อชาญ ชาโน ไม่เคยละเลย ก็คือ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัย อายุ ๘ ขวบ ที่อยู่อาศัยกับหลวงปู่เคลือบ ซึ่งหลวงปู่เคยพูดว่าไอ้จุก....เองอยากเห็นนางฟ้าก็ต้องนั่งกรรมฐานนะลูกและหลวงพ่อชาญฯ ก็ปฏิบัติเรื่อยมาไม่เคยขาด ปฏิบัติต่อเนื่องกันมาจนเป็นนิสัย เมื่อทำงานพอมีเวลาว่างและมีเงินเหลือเก็บบ้าง ท่านก็ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามชายแดนของประเทศ ตั้งแต่ยังเป็นฆราวาสเหมือนกับหลวงปู่เคลือบ จนกระทั่งท่านได้มาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เมื่อครั้งที่อยู่กับหลวงปู่เคลือบ หลวงพ่อชาญฯ เคยถามหลวงปู่เคลือบว่าหลวงพ่อผมจะได้บวชเมื่อไหร่ท่านก็ได้มีเมตตาตอบว่า ไอ้จุกเองต้องไปใช้กรรมก่อน เมื่อมีอายุแล้วจะได้บวชแล้วท่านยังได้สั่งเสียอีกว่าไอ้จุก.....ถ้าได้เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว ให้อยู่ระหว่างนครสวรรค์, อุทัยธานี, พิจิตร มึงช่วยโปรดมันหน่อยในภาคกลาง เพราะคนแถวนี้มันเหี้ยเยอะซึ่งหลวงพ่อชาญฯ ก็รับปาก และสำนักสงฆ์ป่ากลางบุญก็คือบริเวณที่หลวงพ่อชาญ ชาโน รับปากหลวงปู่เคลือบไว้ ดังกล่าวนั่นเอง
    เมื่อสมัยวัยรุ่นที่เรียนคาถาอาคมจากหลวงพ่อผล หลวงพ่อผลก็ได้พูดว่า ไอ้ชาญ มึงกับกูมีวาสนาร่วมกันหลวงพ่อชาญฯ ก็ได้ถามว่ามีวาสนาร่วมกันอะไรครับหลวงพ่อท่านทำเสียงดุๆ ตอบว่า เอ๊ะ กูเป็นอะไร เป็นพระใช่ไหม และมึงก็จะได้เป็นพระในอนาคตท่านจึงถ่ายทอดวิชาอาคมให้ และพูดว่าเพื่อเป็นเครื่องยังชีพ ช่วยต่อพระศาสนา แต่พระต้องเขี่ยกิเลศออกให้หมดก่อน”<o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...