ครั้งแรกของโลกนักกีฬาพิการไทย ปิดอุ้มท้อง 8 เดือน ซิวทองก่อนคลอด

ตะลึง วันนา ลาดี นักกีฬาพิการสาววัย 22 ปี ท้อง 8 เดือนไม่มีใครรู้ ร่วมทัพกีฬาไทยไปแข่งอาเซียนพาราเกมส์ คว้า 2 ทอง 1 ทองแดง ปวดท้องกะทันหัน คลอดลูกสาวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่นักกีฬาคลอดลูกหลังแข่งไม่กี่วัน
เหตุการณ์ไม่คาดฝัน นักกีฬาคนพิการสาวไทย ซึ่งเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ขณะท้อง 8 เดือน และคลอดลูกสาวหลังการแข่งขันเสร็จสิ้นไม่กี่วัน ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทัพนักกีฬาไทยรอที่จะเข้าร่วมพิธีปิดการแข่งขัน ซึ่งจะมีขึ้นในวันดังกล่าว ในช่วงเวลา 14.50 น. น.ส.วันนา ลาดี นักกรีฑา ประเภทขาพิการ วัย 22 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งคว้า 2 เหรียญทองจากทุ่มน้ำหนักหญิง และขว้างจักรหญิง กับ 1 เหรียญทองแดงจากพุ่งแหลนหญิง มีอาการปวดท้องกะทันหัน
ทำให้เจ้าหน้าที่ทีมไทยนำตัวส่งโรงพยาบาลมะนิลา เมดิคอล เซ็นเตอร์ เป็นการด่วน ซึ่งก็พบเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เมื่อแพทย์ตรวจพบว่า น.ส.วันนา ตั้งท้อง 8 เดือนเศษ ทำให้แพทย์เจ้าของไข้ คือ โรซาลินา ฟาดินลา ตัดสินใจนำตัวเข้าห้องคลอดเป็นการด่วน ก่อนที่เวลาประมาณ 18.00 น. น.ส.วันนา คลอดบุตรสาว น้ำหนัก 2,381 กรัม ความยาว 48 ซม. ด้วยวิธีปกติ ซึ่งแพทย์ส่งตัวเข้าตู้อบเพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกาย เนื่องจากเป็นการคลอดก่อนกำหนด
สำหรับ น.ส.วันนา และลูกสาว ซึ่งยังไม่มีการตั้งชื่อนั้น สถานทูตไทยประจำกรุงมะนิลาอาสาดูแล เนื่องจากตามกฎของสายการบิน เด็กแรกเกิดที่จะขึ้นเครื่องบินได้นั้น จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 7 วัน ทำให้ทั้งคู่ต้องอยู่ที่กรุงมะนิลาต่อไป โดยสถานทูตจะเป็นผู้ดูแลและออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่ น.ส.วันนา ติดทีมชาติไปร่วมแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ทั้งที่ท้องแก่ครั้งนี้ ซึ่งตามปกติแล้วจะไม่ได้สิทธิติดทีมชาติ เพราะป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีใครในทีมทราบมาก่อนว่าเจ้าตัวตั้งท้อง อีกทั้งตัว น.ส.วันนา เองก็มีรูปร่างอ้วน ท้วม ซึ่งเป็นบุคลิกโดยทั่วไปของนักกรีฑาประเภทลาน ที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของรูปร่างและกล้ามเนื้อ เพื่อใช้ในการแข่งขันอยู่แล้ว ทำให้ไม่มีใครสังเกตออกว่าเจ้าตัวตั้งท้อง
ส่วนสาเหตุที่เจ้าตัวไม่บอกใครนั้น ก็เนื่องจากตัวของ น.ส.วันนา เอง คิดว่าการเดินทางไปแข่งขันคงไม่เกิดอะไรขึ้น น่าจะกลับมาคลอดทันที่เมืองไทย ไม่คิดว่าจะคลอดก่อนกำหนด ส่วนหนึ่งน่าจะรวมไปถึงการอยากสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ และเงินรางวัลอัดฉีด ที่รัฐบาลตั้งไว้ถึงเหรียญทองละ 25,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของ น.ส.วันนา นั้น ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาของโลก ที่นักกีฬาเดินทางไปแข่งขัน โดยตั้งท้อง 8 เดือน และไม่มีการตรวจพบ ก่อนที่จะคลอดหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันเพียงไม่กี่วัน
พ.อ.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาพิการไทย เปิดเผยว่า สมาคมไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้มาก่อน และสตาฟฟ์โค้ชก็ไม่ได้แจ้งด้วยว่ามีนักกีฬาตั้งครรภ์ร่วมเดินทางมาแข่งขัน โดยเท่าที่ทราบ น.ส.วันนา เพิ่งตั้งท้องเป็นครั้งแรก และเป็นท้องสาว ทำให้ไม่มีอะไรผิดปกติ และนักกีฬาก็เล่นกีฬาได้เหมือนปกติ
"ผมยืนยันว่าการคัดเลือกนักกีฬามาแข่งขัน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน จนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งเมื่อกลับไปถึงเมืองไทย จะเรียกประชุมด่วนหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"
น.พ.จตุรพร ณ นคร ประธานคัดเลือกตัวนักกีฬาพิการ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน กระทั่งได้รับรายงานจากฟิลิปปินส์ ซึ่งทราบว่า พ.อ.โอสถ ประสานกับสถานทูตเพื่ออำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้ น.ส.วันนา แล้ว ส่วนประเด็นว่ามีการปล่อยให้นักกีฬาที่ตั้งท้องไปแข่งขันได้อย่างไรนั้น ก็คงจะต้องมีการสอบสวนต่อไป ขณะที่นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย เผยว่า กรณีนี้ต้องมองกันใน 2 ประเด็นคือ จะต้องมีการสอบสวนสมาคมกีฬาคนพิการว่า ปล่อยปละละเลยให้นักกีฬาที่ตั้งครรภ์เดินทางไปร่วมแข่งขันได้อย่างไร เพราะเป็นการเสี่ยงทั้งแม่และเด็กในกรณีที่เกิดการตกเลือดขึ้น ซึ่งจะทำให้เสื่อมเสียมาถึงประเทศชาติ นอกจากนี้ยังเป็นอุทาหรณ์สำหรับนักกีฬาคนอื่นๆ ในกรณีที่เจ้าตัวพูดว่าอยากได้เงินรางวัลอัดฉีด ที่อาจดูน้อย แต่อาจมากสำหรับคนพิการมาคลอดลูก ซึ่งเจ้าตัวอาจรู้ตัวก็ได้ว่า มีความสามารถพอ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจเสี่ยงที่ไม่ถูกต้อง