เตียวเสี้ยน
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
18 กันยายน 2008
วันที่สมัครสมาชิก:
31 กรกฎาคม 2008
โพสต์:
41
พลัง:
26
อัลบั้ม:
1
Photos:
5

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 26 0
อนุโมทนา 0 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0

แชร์หน้านี้

เตียวเสี้ยน

Active Member

เตียวเสี้ยน เห็นครั้งสุดท้าย:
18 กันยายน 2008
    1. horwang072
      horwang072
      [IMG]
      Good Night & Sweet Dream
    2. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ขอเชิญแม่นางไขอุปทานเราเถิด จะได้รู้ว่าเป็นสิ่งเดียวกับที่แม่นางคิดหรือไม่
    3. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
      บางเวลาเราอาจสร้าง
      บางเวลาเราทำลาย
      และ บางเวลากลับเกิดขึ้นเอง
      ทุกอย่างอยู่ที่กรรมปรุงแต่ง
    4. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในใจของแม่นางแล้วหนอ
    5. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ไม่มีใครเสียอะไรไปโดยไม่ได้อะไรมาหรอก แม่นาง
    6. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      เคลิ้มก็รู้ว่าเคลิ้ม เป็นสิ่งที่ดี จิตจะตื่นเองแม่นาง
      สังเกตุไหม ตอนอ่านแล้วตีความเข้าใจ
      จิตมันปรุงไม่ชอบแล้ว
      เห็นไหม เราอยู่ดีๆ เห็นอักษรสอง สาม บรรทัด จิตเราก็สุขได้ ทุกข์ได้
      อักษรก็อยู่อย่างนั้น
      ตัวเราก็นั่งอยู่อย่างนั้น
      ใจเราก็รู้อยู่อย่างนั้น
      ตาก็เห็นอยู่อย่างนั้น
      แต่ใจกลับเปลี่ยนแปร ถามว่าใจเป็นตัวเราไหมหนอ

      เข้ามาที่เรื่องทำบุญต่อสิ ผมอยากฟัง
    7. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      สิ่งที่ตาเห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่ใจเห็น
      ตัวอักษรก่อตัวเป็นรูปประโยคส่งผ่านตา
      ใจมันก็บันดาลสุดเป็นไป
      ถ้อยคำอาจทำให้ขุ่นก็อย่าพึ่งเคือง
      รองวางใจเป็นกลาง แล้วหยั่งเชิงดูว่าสิ่งที่กล่าวหมายความว่าอะไร
      หากจริงอย่างที่แม่นางปรุง ก็ควรโกรธ
      หากไม่จริง ข้อนี้ควรโกรธมากกว่า
      ว่าจิตเราไหลอีกแล้ว ถูกไหม
    8. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ไม่รับมุขกันเลยแม่นาง ฮือ
    9. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      แม่นางท่านนี้ถนอมวาจายิ่งนัก
      ไม่ต้องกล้วว่าจะหักหาญน้ำใจมิตรหรอก
      เพราะการที่เรายิ่งกล่าว เราก้จะยิ่งเข้าใจ ถูกไหม

      เราไม่ได้ทำบุญที่ใดเลย นอกจากชี้ธรรมเป็น ธรรมทาน
      แม่นางคงชอบทำบุญ ผิวคงสวยน่าชมนัก
      หรือ จะมาแจกซองผ้าป่าเราหรืออย่างไร เร่งบอกมา...หุหุ
    10. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ทุกอย่างดูคล้ายๆเป็นสภาวะธรรมไปหมดแล้ว แม่นาง
      ใจเรามันเป็นกลางๆ อารมณ์ที่มากระทบมีแต่รู้แล้ววาง
      ด้วยรู้ว่า เป็นธาตุหนึ่งมาทำให้ใจพองฟู หรือ แพบลง
      อันหาควรยึดไม่
      ทุกอย่างจึงดูเหมือนเราไม่จริงใจ
      เพราะเข้าใจสภาพจิต เราจึงรู้ธรรมชาติจิตเป็นธรรมดา

      แล้วแม่นางล่ะ เหตุใจจึงเสียเวลามาคุยกับ เสี่ยหลง หนอ
    11. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ไม่พึงกล่าวเช่นนั้น
      ใจจริง เราจริงใจ และ จริงจังที่จะสนทนาด้วย
      แต่ไม่เคยมีผู้ใดก้าวล่วงความเข้าใจในเราเลย
    12. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ก็ได้แต่เข้าใจ แต่ไม่เคยเข้าไปอยู่ในใจอิสสตรีนางใดเลย
    13. ทาคุยะ
      ทาคุยะ
      ไว้ว่างตรงกันคุยกันนะครับ
    14. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      มิกล้า มิกล้า แม่นาง
      เราท่องยุทธภพ ดุจจิตล่องลอยเสพแต่ลำพัง
      การเจรจาย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญ
      เราก็หวังถ้อยคำทางธรรมจากแม่นางท่านนี้ เช่นกัน
    15. ทาคุยะ
      ทาคุยะ
      หงุดหงิดอะไร บอกผมสิ ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึเปล่า
    16. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ไม่พึงกล่าวเช่นนั้น
      ผู้รู้มากกว่าเรามีอีกมาก
      แม่นางเป็นอย่างไรบ้าง
      ตามจิตตัวเองทันไหม
    17. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ทั้งนี้ขณะพิจารณาอาการจิต
      เราจะแจ้งธรรมตามความระเอียด ความตั้งมั่น และความเพียรทบรอบดุจิต
      อารมณ์รูปนาม ก็อย่าง
      อารมณ์ไตรลักษณ์ ก็อย่าง
      อารมณ์สภาวะ ก็อย่าง
      ทุกครั้งที่เข้าไปดู เมื่อจิตรู้จะเกิดการไถ่ถอน และวางอารมณ์เป็นกลางๆ
      คือ ดีก็ไม่เอา ชั่วก็ไม่เอา อนาคต อตีดก็ไม่จริง ไม่มีอะไรน่ายึด

      หากถึงจิตดวงนี้ คือ วางเป็นกลางๆเป็นปัจจุบันในฐานรู้
      หลายท่านอาจพอใจแล้ว กิเลสทำให้หวั่นไหวน้อยมาก
      ตรงนี้ใครจะเข้าไปดับ หรือจะหยุด แล้วทวนไปมาก็ได้
      เพราะจับทางได้แล้ว
    18. ทาคุยะ
      ทาคุยะ
      ผมเข้ามาอ่านในเวปหลายวันแล้ว แต่เพิ่งสมัครวันนี้ครับ
    19. ทาคุยะ
      ทาคุยะ
      คิดมาก คิดลึก คิดไปนั่น
      คิดกันยัน ย่ำรุ่ง ไม่หยุดคิด
      คิดเพ้อ คิดครวญ คิดซ้ำคิด
      ปล่อยวางคิด แล้วจึงรู้ ความคิดนั้น
      มีธรรมมาฝากครับผม เพิ่งแต่งเมื่อกี้
    20. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      เวลาเราโกรธ เรารู้ตัว เนี่ยคือ สติ จิตมันก็ตื่นชั่วขณะ
      เวลาเรารู้ตัวว่าโกรธ แล้วนิ่งตามดูอาการโกรธ นี่คือ สัมปชัญญะ คือระลึก รู้

      ทีนี้ ใหม่ๆสติตามจิตไม่ค่อยทัน ก็ให้ตามรู้ไปเรื่อยๆ จนทันรู้
      หรือ รู้เท่าทันอารมณ์กิเลส ตรงนี้คือรู้เป็นปัจจุบันนะ
      หากดูจนเจนรอบ ดูจนเข้าใจ ดูจนจิตเป็นสมาธิ ตัวนี้เป็นปัญญา
      มีแต่รู้ รู้อาการ กิริยาจิต
      เมื่อดูมากๆเข้า ใจมันจะแยกเอง คือ สิ่งที่รู้ และ สิ่งที่ถูกรู้

      สิ่งถูกรู้ เป็น รูป
      รู้ เป็น นาม

      ก็ให้หาตัวรู้ให้เจอ หมายถึงอาการใจเกิดตรงไหน ก็ให้รู้อยู่ฐานนั้นๆ
      แล้วแยกความรู้สึกออกมา
      สังเกตุไหม โกรธ ก็ไม่ใช่เรา กิริยาจิตมันก็ไม่ใช่เรา
      ตัวรู้มันก้สักว่ารู้อยู่อย่างนั้น ไม่เคยไปเกี่ยวข้องอาการใจเลย
      นั่นแหละ หากเข้าถึงตนนั้น ใจจะคลาดยึดมั่น
      อะไรมากระทบก็เป็นแค่สิ่งที่ถูกรู้แล้วตกไป ครับ
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    " สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา " ขงจื้อ

    ลายเซ็น

    " สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา " ขงจื้อ
  • Loading...
Loading...