เรื่องเด่น ใครมีวิธีแก้กรรมด่าพระด่าเจ้าบ้าง

การขอขมาพระรัตนตรัย

ผมก็เป็นในบางครั้ง แต่ก็ดึงจิตกลับมา และก็ระมัดระวังไม่ให้จิตคอยคิดเรื่องพวกนี้ แต่สำหรัยผมแล้วคิดว่า "กรรมใดที่เราล่วงเกินไปแล้วนั้นเป็นอดีต เรากลับไปแก้ไม่ได้ แต่เราสามารถสำนึกและขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไป และระมัดระวังไม่ปรามาสในพระรัตนตรัยในคราวต่อไป"

ส่วนมากผมจะขอขมาพระรัตนตรัยทุกวัน วันละหลายครั้งดังนี้

1) ตอนทำวัตรเย็น จะมีบทสวดขอขมาพระรัตนตรัยอยู่แล้ว ดังนี้

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ,

กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระพุทธเจ้า, ด้วยกาย หรือด้วยวาจา ใจ
ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยัง,ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม

กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระธรรม, ด้วยกาย หรือด้วยวาจา ใจ
ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระธรรมในกาลต่อไป

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ

กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระสงฆ์, ด้วยกาย หรือด้วยวาจา ใจ
ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป

2) ขอขมาพระรัตนตรัยก่อนสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ์ และก่อนนั่งสมาธิ

โย โทโส โมหะจิตเต
นะ พุทธัสมิง ปาปะกโต
มยา ขะมะถะ เม
กตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

โย โทโส โมหะจิตเต
นะ ธัมมัสมิง ปาปะกโต
มยา ขะมะถะ เม
กตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

โย โทโส โมหะจิตเต
นะ สังฆัสมิง ปาปะกโต
มยา ขะมะถะ เม
กตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

3) ก่อนนอนและทันทีที่นึกได้ ผมจะไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่อยู่บนหัวเตียงก่อนนอน และขอขมาพระรัตนตรัย หรือขณะที่กำลังคิดปรามาสในพระรัตนตรัย เมื่อนึกได้ก็จะรีบดึงจิตกลับมาและขอขมาพระรัตนตรัย ดังนี้

รัตตะนัตตะเย ปมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต. (ถ้าว่าหลายคน เปลี่ยนเป็น ขะมะตุ โน ภันเต)

 

คือผมเป็นคนหนึ่งที่เคารพและบูชาพระรัตนตรัยอย่างมาก แต่ทุกครั้งที่กราบบูชาหรือ มองพระพุทธรูป หรือทำอะไร ก็ตาม
สมองมันก็ด่าว่า ต่าง ๆ มันคิดในใจนะ ไม่รู้จะทำอย่างงัยดี

+++ วจีจิตตะสังขารณ์ เป็นสังขารจิตชนิดหนึ่ง มีอยู่ในจิตของทุกคน ยังดีที่คุณสามารถ รู้ เห็น มันได้

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ดี มีใครว่ารู้วิธีแก้บ้าง

+++ ให้สังเกตุที่ความเป็น มิจฉาทิฐิ ของมันตลอดเวลา แล้วจะถึงจุดหนึ่งที่คุณรู้สึกว่า จะอยู่ร่วมกันกับมันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว จากนั้นการต่อสู้ระหว่าาง ธรรมะ กับ อธรรม ภายในจิตของคุณจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ

+++ แรก ๆ อาจจะยิงมันหายไป แต่มันก็เกิดอีกในเวลาเผลอ เมื่อเริ่มต่อสู้ใหม่ ๆ มันยังเป็นเสียงอยู่ แต่ต่อไปมันจะเป็นทั้งภาพและเสียงมาด้วยกัน ระยะเวลาในการต่อสู้ จะเริ่มถี่มากยิ่งขึ้นทุกที จนกระทั่งมันไม่ยอมหายไป แต่จะเกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวคุณเกือบตลอดเวลา การต่อสู้จะทวีความรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น ในขณะนั้น ๆ คุณจะรู้ได้ว่า ต่อให้คุณทิ้งร่างกายนี้ไป การต่อสู้นั้นจะยังคงอยู่ จนกว่าการชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะเกิดขึ้น

+++ ในระยะที่การต่อสู้ทางจิตเกิดขึ้นนี้ หากคุณเล่าให้ปุถุชนฟัง เขาย่อมหาว่าคุณเป็นบ้า เพราะในขณะนั้น มันเป็นเรื่องของ จิตเห็นจิต และ กุศลสู้อกุศล ผู้ที่จะฟังรู้เรื่องก็ย่อมมีแต่ พระป่า หรือ ผู้ที่ปฏิบัติอย่างเต็ม ๆ ที่ผ่านการต่อสู้มาแบบนี้เท่านั้น

+++ นานหลายปีมาแล้ว ผมโชคดีที่ได้รับคำเตือนมาจากพระองค์หนึ่งว่า "รู้มั้ย คำว่า ญาณสังวร คืออะไร ถ้ารู้ ก็ให้พึงสังวร ระวังไว้ ไม่งั้นแล้ว คนอื่นเขาจะจับเราส่งโรงพยาบาลบ้าได้ เพราะในขณะนี้มันเป็นเรื่อง อุตตริมนุษย์ธรรม (ปรากฏการณ์อันเกินวิสัยมนุษย์ที่จะรู้ได้) แต่ถ้าเราไม่ทำ มันก็ไม่เสร็จกิจในชาตินี้ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตน หากจะเล่าให้ใครฟัง พึงสังวรไว้ให้ดี" ผมขอฝากคำพูดของหลวงพี่องค์นี้ (พระป่าสายหลวงปู่มั่น) มาเป็นของฝากสำหรับคุณไว้ในที่นี้ด้วย สำหรับผม ใช้เวลา 1 ปีเต็ม ๆ

จะทำอย่างไรดี วันไหนนั่งสมาธิก็สงบหน่อย วันไหนกิเลสฟู มันก็เริ่มอีกแล้ว รบกวนทุกท่านด้วยนครับ ใครรู้วิธีแก้ บอกหน่อยเถอะ ถือว่าเอาบุญ ผมไม่อยากตกนรก นะครับ ..........ขอสารภาพเลย.

+++ สมาธิ เป็นเพียงฐานสนับสนุนเท่านั้น ส่วนการรบกับกิเลส มันเป็นการต่อสู้นอกฐาน
+++ เคล็ดอยู่ที่ ให้สังเกตุที่ความเป็น มิจฉาทิฐิ ของมันตลอดเวลา ลองพิจารณาดูนะครับ

 

ผมก็เคยเป็นครับแต่มันเลยจุดนั้นมานานแล้ว ไม่ต้องห่วงครับเป็นกันเยอะ พอเป็นขึ้นมามันก็เป็นทุกข์ ที่ทุกข์ก็เพราะไม่อยากให้เป็นแต่มันห้ามไม่ได้ ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่มันห้ามไม่ได้ก็เท่ากับเราไม่ได้ทำ ยิ่งไปห้ามก็ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งเป็นทุกข์ เราไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น ถ้าเป็นเราเราจะมาทุกข์ทำไม ฉะนั้นอย่าไปคิดมากให้มันทุกข์ตัวเอง ถ้ามันเกิดขึ้นก็ปล่อยมันเลยครับทำตัวตามสบายๆ ปฏิบัติของเราจิตมันจะด่าอะไรก็ช่างมัน เราไม่ได้ด่าถ้าเราด่าจะมาทุกข์ทำไม ทำใจสบายๆได้เลยครับพุทธศาสนาคือทางพ้นทุกข์การย้ำทุกข์ให้กับตนนั่นไม่ใช่หนทางของพระพุทธศาสนา รู้แล้วก็ผ่านไปมันจะด่าอะไรก็ช่างมัน แค่รู้ไว้ว่าเราไม่ได้เป็นพอ มันเป็นอกุศลในจิต ที่คิดไม่ดี มันคิดของมันเองฉะนั้นเราไม่ได้คิดก็ช่างมันเถอะ ขอขมาพระรัตนตรัยบ่อยๆนะครับ ผมเคยเป็น ผมเคยเป็นคนเกเรมาก เรียกว่าแสบพอตัวเลย พอมาทางธรรมจิตใจทางเก่ามันก็ยังหลงเหลืออยู่ มันก็ผุดขึ้นในใจเป็นธรรมดา ไม่มีอะไรหรอกสบายใจได้ิปล่อยวางมันไปได้เลยครับ

 

ผมก็เป็นนะ ผมใช้วิธี ด่าตัวเองน่ะ เช่น ไอ่โกหก ไอ่ปรินป่อน ไอ่กระหล่อน ไอ่ต่อแหล่

หลักๆคือ เราต้อง หาทางใช้ สติ กับ ทัศนคติ เข้ามาช่วย

สติมีใจจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นอะไรก็ได้ แต่ขออย่าเป็นเล่นเกม เพราะทำให้สมาธิสั้นเพราะมันวอกแวกไปมา ผมคิดเอาเองนะ

แล้วก็พอ ใจของเราสงบๆฟัง เพลงธรรมะ คลิปเสียงพระเทศ

 

อ่านอันนี้ดูนะ

ญาณ - วิกิพีเดีย

สังขารุเบกขาญาณ อันนี้ลองใช้ดู ให้เรานึกอะไรก็ได้ที่เป็นคำตัดความคิด(น่าอ่าน)

*****สังขารุเบกขาญาณ(ญาณที่ ๑๑ เป็นยอดแห่งวิปัสสนาในขั้นโลกีย์)*****

อันล่างนี้ก็ดีนะ ลองดูๆ (ขอให้รอด)

http://www.larnbuddhism.com/grammathan/vipassanayan3.html




แล้วอันนี้ผมว่าได้ผล

 

ไปขมาสิค่ะ แล้วอย่าพูดไม่ดีถึงท่านอีก อิอิ เราก็เป็นจ้า ศรัทธามันหายเพราะหลายๆอย่างเจอกับตัว ตอนนี้คิดแค่ว่า กราบผ้าเหลือง ไหว้ผ้าเหลือง

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=DM3b8J3Hj0o]โรคย้ำคิดย้ำทำ - YouTube[/ame]

ลองฟังอันนี้ดูนะ ช่วยได้ ไปหาหมอที่ศรีธัญญานะ เราก็รักษารู้สึกดีขึ้น

 

เป็นเหมือนกันครับตอนเเรกที่ยังไม่ได้ศึกษาธรรมะนึกว่าตัวเองโรคจิตบ้างเลวบ้าง เเต่ของผมก็คล้ายๆกับท่านเจ้าของกระทู้เเต่ผมเป็นมากหน่อยเวลาเจอผู้หญิงสวยๆจิตทะลึ่งคิดไปถึงการมีอะไรกับเขาเเล้ว พอตอนหลังๆมานี่ที่ผมเริ่มซึมซับพระธรรมก็เข้าใจเหมือนท่านทั้งหลายได้ให้คําตอบมาเเหล่ะครับว่าจิตดวงนี้มันบังคับควบคุมไม่ได้เราได้เเต่ตามดูมัน มันคิดไม่ดีเดี๋ยวมันก็หยุดคิดครับ ไม่ต้องไปเครียดครับ

 

บทขอขมาพระรัตนตตรัย

วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธเจ้า เพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระองค์จงประทานอภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
ข้าแต่พระธรรมอันเจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระธรรมเพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระธรรมจงให้อภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระสงฆ์เพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระสงฆ์จงให้อภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

 

1. ตั้งจิตใจให้แน่วแน่ที่จะอภัย หรืออโหสิกรรม ให้กับภิกษุ สงฆ์ ครูบาอาจารย์ บุคคล .....
ต้องให้เด็ดขาด ไม่รู้สึกเสียดาย
2. ถ้าท่านยังอยู่ก็เอาพวงมาลัยดอกไม้ธูปเทียนไปกราบ ..ถ้าตั้งจิตใจมั่นคงด้วยรักย่อมสำเร็จ
3. ให้ระลึกเสมอว่า คำพูดที่จะกล่าวออกไป เราได้รับพร ก่อนว่าท่านผู้นั้น
4. พยายาม กำหนดลมหายใจ ดูจิตให้บ่อย ๆ และพิจารณา กิริยามารยาท ที่ตัวเองทำอยู่
ให้หาเหตุุ แก้อาการเป็นรายการ ไป เช่น เห็นคนอื่นรวยกว่า ก็อวยพรให้ตนรวย ไม้ต้องสาปแช่เขา เห็นคนอื่นสบายก็อวยพรให้ตนเองสบายแบบท่านนั้นท่านนี้ เห็นอยากได้โน่นอบากได้นี่ก็อวยพรให้ตนเองเข้าไป
5. ให้ระลึกสิ่งที่เป็นกุศลธรรม ทั้งหมด ให้กุศลแด่ท่านเหล่านั้น โดยให้จิตใจเป็นดั่งน้ำที่ใส่สะอาด ที่เต็มไปด้วยรักมากมาย
----------------------------- ( จบ )-----------------------------------

 

วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.
วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.
วันทามิ สังฆัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.
ผมก็เป็นครับ แว็บมาแว็บไป ต้องนั่งฟังบทสวดมนต์ หรือ ท่อง อิติปิโส ในใจ ถึงจะหาย

 

ผมก็เป็นเหมือนกันนะครับ ผมไปที่สถานธรรมของอาจารย์จี้กงแล้วหายด่า มีที่ กทม และจังหวัดอื่นด้วยไปฟังแล้วอธิฐานในใจนะครับว่า อยากหายด่าพระ ขออาจารย์จี้กง ช่วยนะครับ
ถ้าสนใจ ติดต่อถามผมก็ได้ครับที่เบอร์ 0856839226

 

เมื่อขอขมาแล้วจบครับ เพราะที่ผ่านมาไม่เข้าใจ
แล้วเมื่อเข้าใจแล้ว ก็สามารถกราบได้เต็มจิตเต็มใจ
ว่าในพระคุณ3 ยิ่งใหญ่และทำให้ชีวิตทุกคนอยู่ในมือตนเอง
ความจริงสูงสุดมีปรากฎได้เพราะพระองค์ทรงเปิด สิ่งที่คว่ำให้หงาย

 

วิธีละอกุศล

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=IZB_3ZQCMHU]การละอกุศล และ หลักมหาปเทส - YouTube[/ame]