เรียน.... ท่านสมาชิกเวบพลังจิต..... ทุกท่าน.... ผมเองเป็นผู้รู้น้อยด้อยปัญญา.... แต่หากท่านไม่มีอคติใดๆ .....ผมจะขออนุญาตกล่าวถึง..... การตรวจสอบพลังในวัตถุมงคล..... ตามเท่าที่ศึกษามา ......ควรไม่ควรแล้วแต่จะกรุณา...... การตรวจพลังในวัตถุมงคลนั้น .....เรียกว่า.... วิชชา "กายหัตถรังสี" หรือ วิชชา "เดินจิต"..... ต้องรู้หลักในการกำหนดจิต ....ส่งจิต.... และ อธิษฐานจิต..... ด้วย "อุปจารสมาธิ" ...... หากชำนาญเป็น "วสีภาวะ" จะสามารถรู้ได้อย่างรวดเร็วและละเอียดลึกซึ้ง..... สามารถรู้ถึงพิธีกรรมการปลุกเสกหรือการอธิษฐานจิตของครูบาอาจารย์ได้ ........สามารถเห็นรัศมีที่อยู่ภายในวัตถุนั้นๆได้ .......ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง พระบูชา หรือเครื่องรางของขลังใดๆ....... และจะเห็น "รูปนิมิต" ที่สถิตอยู่ภายใน หากปลุกเสกด้วย "การตั้งองค์พระ" หรือ "การตั้งธาตุ" เรียกรูปเรียกนาม อาการ 32 ฯลฯ ...ตามสายวิชชา...... อาจครอบด้วย "นวหรคุณ" หรือ วิมานแก้วพระพุทธเจ้า ตาข่ายเพชร เกราะเพชร มงกุฎเพชร จักรแก้วพระพุทธเจ้า ฯลฯ ดังนี้เป็นต้น .....แต่หากเพียงแค่ทำการอธิษฐานจิตด้วยบารมีธรรม....... ก็จะเห็นแต่เพียง รังสีสว่างสีขาวนวล อันเป็นผลรวมของรังสีทั้งเจ็ดคลื่นความถี่...... บ้างก็มีรังสีต่างๆกันไป....... แต่จะไม่มีรูปนิมิตใดๆ ปรากฏ ......ยกเว้น จะมีการเสกทั้งสองรูปแบบ... จึงจะปรากฏทั้งรูปนิมิตและรังสี.... การตรวจพลังในองค์พระอย่างง่ายๆ ......ก็คือ.... ใช้นิ้วชี้ นิ้วโป้ง และนิ้วกลาง (มือซ้ายจะดีกว่ามือขวา เพราะสัมพันธ์กับสมองซีกขวา อันเป็นด้านของพลังจิต) ......จับสัมผัสองค์พระเบาๆ ......กำหนดจิตให้นิ่ง....... แล้วสังเกตถึงกระแสพลังที่แล่นเข้ามาในตัว หากมีกระแสรุนแรง จนขนลุกชันทั้งตัว หรือ ท่วมศรีษะ แสดงว่ามีพลังสูงมาก..... กระแสที่เยือกเย็นคือพลังแห่งเมตตา... กระแสที่คลุมทั้งตัวคือคุ้มครอง... กระแสที่ทำให้ผิวหนังตึงไปทั้งตัว จนตัวอาจถึงชา คือ คงกระพัน จนถึง ชาตรี ......กระแสที่แผ่ออกไปรอบๆตัวคือแคล้วคลาดปัดตลอด...... (ถ้าจะฝึกจับครั้งแรก ต้องเป็นพระที่มีพลังแรงๆ จึงจะสังเกตรู้ได้ง่ายกว่า) ... ซึ่งวิธีนี้หากเราเดินพลังย้อนเข้ามาในตัว ....จะสามารถกักเก็บพลังในองค์พระได้ .... เป็นการปรับกระแสคลื่นความถี่หรือพลังรัศมีกายทิพย์ของเราให้สว่างขึ้นชั่วขณะหนึ่ง .....หลวงปู่ดู่ กล่าวว่า เป็นการเรียกพระเข้าตัว ......โดยที่พลังในองค์พระหรือวัตถุมงคลนั้นๆ ไม่ได้หายไป ..... เป็นส่วนหนึ่งของ "วิชชาเดินจิต" หรือ จะเรียกว่าเป็น... "วิชชามหาเวทย์ดูดดาว" ...ก็ได้ .......ถ้าจะให้พลังอยู่คงทนยาวนาน ต้องมีคาถากำกับหรือมีสมาธิจิตที่มั่นคง ช่วยให้ "จักระ" ภายในตัวเปิดออก... หากพลังสะสมได้ถึงระดับ จะเกิด "ตาที่สาม" ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ .......และสามารถดึงเอาพลังงานในอากาศและจักรวาลเข้ามาในตัวได้ตลอดเวลา .....(พลังปราณ หรือ พลังจักรวาล หรือ พลังธาตุบริสุทธิ์ ...หรือแม้กระทั่ง....."พลังงานแห่งคุณพระรัตนตรัย"....) และยังมีวิธีตรวจสอบอานุภาพในองค์พระอีกหลายวิธี ....เช่น.... การตรวจด้วยกายทวาร... (เอามือกำพระ แล้วบริกรรมคาถาอัญเชิญ มือจะยกลอยขึ้นเอง แล้วมีท่าต่างๆปรากฏ) ..... การวัดคืบ.... (นำพระมาวางบนมือ แล้วบริกรรมคาถา ทำการวัดคืบ ถ้าพระนั้นดี จะวัดไม่ถึงความยาวของมือตามปกติ ดูเหมือนมือนั้นยืดออกได้) ... ผมเองเมื่อก่อนนั้น ....ชอบศึกษาและสะสมพระเครื่องมาก..... มาตอนนี้ลดละปล่อยวางไปมากแล้ว... จะมีเฉพาะของครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือมากๆ เท่านั้น....... และที่เขียนมาทั้งหมดนี้....... ไม่ประสงค์จะให้ทุกท่านเกิดความงมงายหรือความยึดติดในวัตถุแต่ประการใด..... เพียงแต่ต้องการชี้แจงแสดงเหตุและผลในศาสตร์เหล่านี้เท่านั้น..... ส่วน....... "คุณพระรัตนตรัย" นั้น ...ถือเป็นสิ่งสูงสุด....... " ธรรมะ" นั้น ...ถือเป็นเรื่องที่ควรนำมาใส่ใจมากที่สุด...... และ การศึกษาพระเครื่องที่ถูกต้อง..... ก็คือ..... ต้องศึกษาทั้งในส่วนของ "รูปธรรม" .... (ทั้ง เนื้อหามวลสาร ความเก่า จุดตำหนิ และ พิมพ์ทรง)...... และศึกษาในส่วนของ "นามธรรม" ดังที่กล่าวมาแล้วนั้นแล... อ่านจบ.........กรุณาลบ "อคติ" ออกให้หมดนะครับ.........และหวังว่า.... คงได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ......ส่วนตัวผมเอง นั้น ศึกษาพระเครื่องมาตั้งแต่อายุ 12 ....(เริ่มปฎิบัติด้วย ปัจจุบันอายุ 33) .....อ่านหนังสือพระเครื่องเล่มเก่าๆ มาแทบทุกเล่ม ... (หนังสือใหม่ๆ มีแต่โฆษณา ซะเยอะ) .......ฉะนั้น จึงรู้จักแต่พระเก่าๆ .....พระใหม่ๆ ไม่ค่อยจะรู้ .......ถ้าตำราและพระเครื่องรุ่นเก่ามีมาตรฐานเดียวกัน .....ผมก็มั่นใจว่า..... ผมพอจะดูได้บ้างครับ ...โดยที่ไม่ต้องจับพลัง... หากยังมีข้อสงสัยประการใด ...... ยินดีสนทนาด้วยไมตรีจิต ขอขอบคุณที่อ่าน...สาธุ ปล. อนึ่ง ท่านที่จะฝึก... กรุณาระวังอุปาทานให้มากๆ ด้วย... ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้... หมายเหตุ : ผมฝึกตามแนวสายวิชชาพรหมศาสตร์ ...ผนวกกับวิชชามโนมยิทธิของวัดท่าซุง ...กับ ...วิชชาตั้งองค์พระของหลวงปู่ดู่-หลวงปู่ทวด... และวิชชาครอบจักรวาลของหลวงปู่ใหญ่......... สายอื่นผมไม่ทราบจริง ๆ ครับ......... ต้องกราบขออภัยด้วย... ดี ชั่ว....อยู่ที่...ตัวทำ สูง ต่ำ....อยู่ที่...ทำตัว กัมมุนา วัตตติ โลโก..... สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม....... สองคน......ยลตามช่อง..... คนหนึ่งมอง......เห็น โคลนตม.... อีกคน....ตาแหลมคม.....เห็น ดวงดาว.....อยู่พราวพราย..... ศิลปิน....อย่าดูหมิ่น ศิลปะ..... กองขยะ.....ดูให้ดี.....ก็มีศิลป์...... ผู้ปฏิบัติธรรม นั้น.....ย่อมมองทุกสิ่งเป็น "ธรรม"....เพื่อนำมาสอนใจตัวเอง....ได้ตลอด.....ทุกลมหายใจเข้าออก......นั่นเอง ๆๆๆๆๆๆ ถ้าปล่อย ก็ว่าง... ถ้าวาง ก็เบา... ถ้าเอา ก็หนัก......อมิตตาพุทธ พุทโธ ธัมโม สังโฆ...... ธรรมะสวัสดี...... หมอพล.....ณ......เชียงใหม่ 087-411-7018 ...... ( 12.00 - 18.00 น. ) <!-- / message --> <!-- / message --><!-- attachments -->
น่าสนใจมากครับ เคยเช็กพลังโดยใช้นิ้วจับองค์พระครับ ผมขอความรู้การเช็คโดยการวัดคืบได้ไหมครับ ช่วย pm หรือ mail มาได้ไม๊ครับ ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ dacha2515@hotmail.comh
ขอบคุณ สำหรับความรู้ ครับ ถ้าพูดกันอย่างเปิดอกเลยนะครับ เอาความจริงใจมาพูดกันเลย ผม "เชื่อ" ว่าการตรวจสอบพลังวัตถุมงคล มีอยู่จริง! ผมไม่ได้ปฎิเสธเลยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ หรือ ไม่สามารถมีใครทำได้ เพียงแต่ผม คิดเห็นส่วนตัวว่า... เมื่อมีคนที่ใช้พลังตรวจสอบวัตถุมงคลได้ มีอยู่จริง มันก็ต้องมีคนที่แอบอ้าง หลอกลวง อยู่ด้วย พูดกันตามที่ปรากฎในสังคมปัจจุบันนะครับ ทีนี้ ผมถามต่อ... สมมุติเราจะเช่าพระต่อจากคนอื่น หรือ เราจะตรวจสอบพระอะไรก็ตาม เพื่อการใดๆก็ตาม สิ่งที่เราต้องการก็คือ "ความมั่นใจ" ใช่ไหมครับ ถ้าเราจะใช้วิธี "ตรวจสอบด้วยพลัง" คำถามก็จะเกิดขึ้นได้ว่า... คนที่ตรวจสอบพลังวัตถุมงคลได้ "มีอยู่จริง" แต่... คนที่เราจะให้ตรวจสอบนั้น เชื่อถือได้แค่ไหน? จะหลอกลวงไหม? จะไม่เป็นการอุปทานของเขาเองหรือไม่? เรารู้จักเขาดีพอแล้วหรือ? เขาสำเร็จวิชานี้จริงหรือไม่? และ ที่เราว่ามีอยู่จริง ใช่ คนๆนี้จริงๆ หรือไม่? ฉะนั้น ในเมื่อสังคมยังมีทั้งคนดีและคนชั่ว เมื่อมีคนจริง ก็ต้องมีคนหลอกลวง แล้วเราจะเอาอะไรมาเป็นมาตรฐานได้ล่ะครับ ว่าคนไหนตัวจริง คนไหนหลอกลวงจากความเชื่อของผู้อื่น... เราลองหันมาดูวิธี ตรวจสอบวัตถุมงคลตาม "มาตรฐานสากล" กันสักหน่อยนะครับ วิธีนี้ตรวจสอบจากจุด ตำหนิ แบบพิมพ์ หรืออื่นๆ ซึ่ง อ้างอิง ตรวจสอบได้จริง แต่ก็แน่นอน เมื่อมีคนดี ก็ยังมีคนชั่ว มีแดง ก็ยังมีเหลือง ฉะนั้น พวกมิจฉาชีพ ก็หาหนทางคิดทุจริตในเรื่องนี้ได้เช่นกัน เป็นต้นว่า กรรมการสร้างพระเกิน แบบพิมพ์เดียวกันเปะ แต่ไม่ได้ปลุกเสกจริง เพื่อนำมาเก็งกำไรต่อ เมื่อพระนั้นดังและราคาสูงแล้ว เป็นต้น จะเห็นได้ว่าทั้งสองอย่างก็มีช่องโหว่ให้มิจฉาชีพทั้งนั้น แต่...เราลองดูนะครับ วิธีิไหนช่องโหว่นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่ากัน และ วิธีหลังไหม ที่สามารถตรวจสอบได้ หรือ หาวิธีป้องกันได้ดีกว่า...? เป็นต้นว่า พิมพ์พระอย่างเปิดเผย ทำลายบล๊อคหลังจากปั๊มเสร็จ หรือ วิธีอื่นๆอีกมากมาย ที่จะป้องกันได้ แม้ไม่100% แต่ก็คงได้ผลไม่น้อย รวมทั้ง ครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสก กำกับดูแล กรรมการวัด อย่างดี และกรรมการวัดเหล่านั้น ถ้าเป็นคนดี โอกาสที่จะเกิดขึ้นก็น้อย และถ้าพูดถึงเรื่องดูจุด ดูตำหนิ สมมุติถ้าผมบอกว่า พระหลวงปู่ทวด รุ่น1 อ.ทิม ต้องมีจุดแบบนี้ๆๆๆๆ ผมถามว่า แล้วคนอีกร้อย อีกพัน อีกหมื่น เขาจะเชื่อผมเลยไหม..? ผมไม่ได้เป็นผู้วิเศษ หรือ เป็นญาติของเขา ที่เขาจะเชื่อใจผมได้อย่างไม่ต้องพิสูจน์อะไรเลย ดังนั้น....วิธีการที่ ดูจุด ดูตำหนิ ของสากลนั้น ที่มีผู้คนส่วนใหญ่ ให้การยอมรับ ก็ต้องมีอะไรที่ทำให้คนเหล่านั้น เห็นได้จริง พิสูจน์ได้จริง และ เข้าใจได้ตรงกัน อีกทั้ง คนเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้ปฎิเสธว่าพระที่ไม่เหมือนจะเก๊ทุกองค์ บางองค์ไม่เหมือน แต่มีเหตุการณ์ มีเค้าลางที่พอเชื่อถือได้ เขาก็ว่าของแท้ ก็มี แต่องค์ที่ไม่ใช่ ไม่เหมือนเลย เขาก็ต้องว่าเก๊ เพราะเขาได้ดูของที่แท้ๆมาแล้ว เรื่องแบบนี้ ต้องดูกันเป็นองค์ๆไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูกับคนที่เชื่อถือได้จริงๆ ความรู้จริงๆด้วยนะครับ ก็แบบเดียวกัน "การจับพลังวัตถุมงคล" ก็ต้องอาศัยคนที่ทำเป็นจริงๆเหมือนกัน แต่............... จุดต่างมันอยู่ที่ว่า คนดูวัตถุมงคลตามหลักสากล ถ้าดูไม่เป็นจริงๆ สวดวัตถุมงคลของคนอื่นว่าอย่างโน้นอย่างนี้ คนอื่นๆที่เขาดูเป็น เขายังแสดงความเห็นแย้งได้ ยังพิสูจน์ได้ ถกเถียงกันได้ คนส่วนใหญ่ที่เคยเห็นของแท้ ที่พอดูเป็น ยังอ้างอิง หักล้างกันได้ แต่ "การจับพลังวัตถุมงคล" ถามว่า คนนี้จับพลังได้ บอกว่าจริง อีกคนก็บอกว่าจับพลังได้ บอกว่าไม่จริง แล้วจะเอาอะไรมาพิสูจน์ เอาอะไรมาถกเถียงกัน เอาเหตุผลอะไรมาหักล้างกัน เพราะต่างก็น่าเชื่อถือ และ บอกว่าตนจับพลังพระได้เช่นกัน คือ มันเป็นเรื่องของภายในไงครับ มันพูดกันยาก เถียงอะไรกันได้บ้าง? แต่เรื่องดูตามหลักสากล มันภายนอก ดูกันได้ อ้างอิงได้ ตรวจสอบพิสูจน์ได้มากกว่า และสุดท้าย มีผู้ศึกษาและสนใจจำนวนมาก ทำให้หลักการต่างๆที่พิสุจน์ร่วมกัน ดูร่วมกัน ศึกษาร่วมกัน สร้างมาร่วมกัน แล้วออกมาตรงกัน จึงพอจะเชื่อถือได้ไม่น้อย สรุป การจับพลังวัตถุมงคล อาจจะมีอยู่จริง แต่การที่จะมาตัดสินพระต่างๆได้ ต้องมีมาตรฐานที่พิสูจน์ได้จริง ตามสากล ผมโพสข้อความนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นด้วย ผมเห็นด้วย แต่อยากจะบอกไง ว่าทำไมหลายคนจึงไม่ยอมรับวิธีนี้ เขาทั้งหลายเข้าใจคนที่เชื่อเรื่องแบบนี้ และเขาก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีจริง แต่...คนที่เชื่อเรื่องนี้ ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ทำไม..ถึงไม่เป็นสากล และต้องยอมรับด้วยว่า คนจับพลังได้ไม่จริง ก็ยังมีอยู่มาก ด้วยจิตคารวะ มอส เมืองเพชร
ผมว่า ถ้าให้ดี ต้องยึดหลัก ทางสายกลาง อย่าเอนเอียงไปทาง ศรัทธาคติ หรือ วิทยาศาสตร์ มากไป คนที่ยึดศรัทธาคติมากไป ก็ไม่ดี คนที่ยึดหลักวิทยาศาสตร์มากไป ก็ไม่ดี ต้องใช้ความคิด+เหตุผลให้มากๆ อย่าเชื่ออะไรง่าย เพียงคนอื่นเขาเชื่อ แค่นั้น แต่ต้องยึดหลักสากลครับ เมื่อเราอยู่ในสากล แต่ในความคิดความเชื่อของเรา จะเป็นอย่างไร ก็สุดแท้แต่เราครับ
ถูกต้องแล้วครับ......เห็นด้วยๆๆ.......ขึ้นอยู่กับว่า..... ในตัวละคร นั้น.....ใครจะเป็น หมู........ใครจะเป็น เสือ.......เท่านั้นแหละครับ.......แหะๆ....... สาธุ......ครับ
ขอบคุณครับที่เข้าใจ เพราะส่วนมาก ถ้าผมมาโพสแบบนี้ ก็จะมองว่าผมไม่เชื่อ ซึ่งก็จะดูว่าผมเจตนาไม่ดีไป อย่างที่บอกครับ ผมเชื่อ ว่ามีอยู่จริง และมีคนสามารถทำได้จริง แต่ใครนั้นจะเ็ป็นคนจริง และ จะีมีมากน้อยสักแค่ไหน และ คนที่เราว่าจับพลังได้นั้น ทำได้จริงหรือไม่ แค่นั้นครับ แต่ในเมื่อตรงจุดๆนี้ ต้องดูเป็นคนๆไป และ แต่ละคนต้องดูกันเอาเอง ซึ่งในที่สาธารณะมันต้องการความชัดเจน และ ค่อนข้างพิสูจน์ได้ จึงต้องใช้การดูพระแบบสากลไปก่อน ส่วนใครที่มีวิชาอยู่กับตัว ก็ดูของตนเองเสริมไปได้ครับ เพียงแต่ในที่ที่จะตัดสินให้ชัดเจน มันต้องมีอะไรที่ชี้ชัดได้มากกว่านี้ครับ ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณฝึกฝนวิชานี้ได้จริง ผม...ก็อยากขอฝากตัวไว้เป็นศิษย์ เรียนรู้สักคนนะครับ ได้ไม่ได้ เก่งไม่เก่ง ไม่สำคัญครับ แต่อยากลองศึกษาดูบ้างครับ
สาธุ ผม อยากแนะ นำ ว่า มีวัตถุมงคล ที่หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ. ร้อยเอ็ด ท่านได้อธิษฐานพลังเหนือโลก เหนือจักรวาล และพลังพระอรหันต์ ที่สามารถทำให้คนธรรมดาทั่วไป สัมผัสพลังได้เลย และ สามารถพิสูจน์ พลังนี้ได้ด้วยตนเองครับ สุดยอด มากๆ
เหรอครับ แนะนำผมบ้างครับ ว่าวัตถุมงคลนั้น คืออะไร ผมอยากลองสัมผัสดูบ้าง ส่วนตัว มีล๊อกเก็ต ชานหมาก และ เส้นเกศา หลวงปู่อยู่ครับ อยากได้วัตถุมงคลที่ว่ามีพลัง มาบูชาบ้างครับ ขอบคุณครับ
แต่เท่าที่ผมทราบมานั้น ท่านไม่ให้ตรวจ หรือจับพลัง พุทธคุณ เนื่องจากเหมือนเป็นการท้าทายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งคนปลุกเสกเอง หรือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจากประสบการณ์ของผมก็เคยได้มีโอกาสได้รู้จักกับบุคคลที่สามารถจับพลังพุทธคุณได้จริง โดยที่หากเป็นพระที่มีการปลุกเสกอย่างดี เช่นพระกรุ หรือพระเกจิเก่า ๆ จะสังเกตเห็นขนแขน ขนตัว รวมถึงขนหน้า ลุกชันไปหมด และมีเหงื่อออกเป็นอย่างมาก และกระผมก็เคยเอาพระปลอม ซึ่งเขาไม่รู้ว่าปลอมมาให้เค้าจับพลังดู ปรากฎว่าไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นเลย ซึ่งคนที่จับพลังได้แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีจิตสัมผัสพิเศษ ซึ่งไม่ได้มีในทุกคน แต่ผลข้างเคียงหลังจากจับพลังพุทธคุณของเขาก็คือ กลางคืนจะนอนไม่ได้จะปวดหัว วิงเวียนศรีษะ อาเจียนอยู่หลายเวลา เขาบอกว่าต้องนั่งสมาธิ หาน้ำมนต์รดหัว กว่าจะหายก็เกือบตายเหมือนกัน หากเจอพระที่พลังแรง ๆ ปัจจุบันเขาไม่ยอมจับพลังอีกเลย เพราะมีพระมาเตือนเขาว่าไม่ควรไปจับพลังอย่างนั้น เพราะของจะเข้าตัว รวมทั้งลูกเมียด้วย
ขอเสนอความเห็นด้วยคนครับ เมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการจับหรือสัมผัสพลังพุทธคุณในองค์พระหรือเครื่องรางอื่นๆ แต่เมื่อประมาณปีกว่าที่ผ่านมา ได้เห็นวิธีการตรวจสอบพุทธคุณ โดยการใช้ลูกดิ่งแก้วซึ่งเมื่อลองดูเอง ก็ปรากฏว่าลูกดิ่งที่เราถือมีการเคลื่อนที่ในลักษณะต่างๆ กันตามแนวทางของพุทธคุณที่มีอยู่ ทั้งนี้ผมได้ทำการทดสอบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพิจารณาให้ดีจะพบว่า ในระหว่างที่เรากำลังทดสอบอยู่นั้นเราจะมีสมาธิอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากเราจะต้องคอยสังเกตุ อาการเคลื่อนไหวของลูกดิ่ง ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งการที่เราทดสอบหรือทำสมาธิบ่อยๆ ในที่สุดมันจะส่งผลมายังประสาทสัมผัสภายในร่างการเราได้..........แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ
สวัดดีปีใหม่ครับทุกท่าน ---------------------------------------------------------- ร้านค้าพระเครื่อง ออนไลน์ - พุทธาคุณคุ้มเกล้า - 1 <o>> </o>> ร้านค้าพระเครื่อง ออนไลน์ - พระเครื่องมณีเลิศ - 1
ขอร่วมแชร์ด้วยครับ การตรวจพลังพระเครื่อง ผมอยากให้ดู เจตนา เป็นหลักครับ เจตนา ในการตรวจ เพื่ออะไร หากเจตนา ไม่ดี จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ครับ น้อมใจ ระลึกถึงพระรัตนตรัย คุณครูบาอาจารย์ เทพ เทวดา ทุกๆญาณ ทุกๆพระองค์ ขอขมา ขอเจริญศรัทธา ขอชมบารมี พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พรหมคุณ เทวคุณ