เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 15 ธันวาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันที่ตั้งใจโดยไม่ได้ตั้งใจ คำว่าตั้งใจก็คือจะไปกราบพระพุทธชินสีห์ พระแก้วมรกต และพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้ว ในส่วนที่ไม่ตั้งใจก็คือพอดีตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นวาระอันดีงาม

    เมื่อไปถึงอุโบสถวัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้เปิดพระอุโบสถแต่เช้า เนื่องเพราะว่าเป็นวันพระใหญ่ ทั้ง ๆ ที่วันพระทางปักขคณนาของทางด้านธรรมยุตนั้นไม่ได้ตรงกับวันพระทั่วไป แต่ก็ยังยึดถือว่าการเปิดพระอุโบสถสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักแต่วันพระทางจันทรคติปกตินั้น เป็นหน้าที่ซึ่งทางวัดจะต้องทำ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบสักการะหลวงพ่อโตสุวรรณเขต พระพุทธชินสีห์ พระพุทธรูปฉลององค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และพระพุทธรูปฉลององค์สมเด็จพระพันปีหลวง ตลอดจนกระทั่งพระรูปของสมเด็จพระสังฆราชทั้ง ๓ พระองค์ของวัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร

    กระผม/อาตมภาพเข้าไปถวายพวงมาลัยสักการะแล้ว กราบขอขมาพระรัตนตรัย สวด อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๓ จบ ถวายเป็นพุทธบูชา ต้องบอกว่าเป็นเวลาที่มีความสุขมาก เนื่องเพราะว่าการรำลึกถึงพระพุทธคุณ ไม่ว่าจะเป็นพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณนั้น เป็นอะไรที่ทำให้จิตของเราพลอยว่างจากกิเลสไปด้วย

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระบริสุทธิคุณ ก็คือชำระจิตของตนให้ผ่องใสจากกิเลสได้อย่างวิเศษยิ่ง เมื่อเรารำลึกถึงก็ทำให้สภาพจิตของเราซึ่งใกล้ชิดกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พลอยว่างจากกิเลสไปชั่วคราว ดังนั้น..ในตอนที่กราบพระจึงเป็นตอนที่กระผม/อาตมภาพนั้นมีความสุขมาก เพราะว่าสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์จิตที่ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง ชั่วคราวว่ามีความสุขขนาดไหน พูดง่าย ๆ ว่าถ้าหากว่าไม่มีภารกิจอื่น ก็อยากจะนั่งอยู่แบบนั้นทั้งวันไปเลย..!

    เสร็จสรรพเรียบร้อย อุทิศส่วนกุศลถวายต่อครูบาอาจารย์ องค์ในหลวง สมเด็จพระบรมราชินี พระบรมราชจักรีวงศ์ทุก ๆ พระองค์ เทวดาที่รักษาศาลหลักเมืองทุกแห่ง พระสยามเทวาธิราชทุก ๆ พระองค์ เทวดาที่ปกปักรักษาตนเอง เทวดาทั่วสากลพิภพและพระยายมราชแล้ว ก็ได้ขึ้นรถแท็กซี่ตรงไปยังท้องสนามหลวง

    แม้จะไปเช้าขนาดนั้น ยังมีญาติโยมนั่งรออยู่เป็นร้อยแล้ว..! เมื่อเข้าไปรออยู่ตรงนั้น เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า พวงมาลัยดอกไม้สดที่กระผม/อาตมภาพนำมาเพื่อถวายสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วนั้น ให้ตั้งใจอธิษฐานแล้วใส่พานไว้ทางด้านนอกตรงนี้ ทางด้านในเจ้าหน้าที่จะจัดดอกไม้เอาไว้ให้สำหรับทุกคนแล้ว เป็นดอกไม้สำเร็จรูป พูดง่าย ๆ ก็คือไม่เหี่ยวไม่เฉา
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    กระผม/อาตมภาพจึงรำลึกถึงบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ที่ผ่านพระโอษฐ์ โดยเฉพาะผ่านพระเขี้ยวแก้วทั้ง ๔ องค์ ตลอดจนกระทั่งพระอริยสังฆเจ้าทั้งหลายที่อยู่บนพระนิพพาน กระแสเย็นฉ่ำชื่นใจที่ได้รับนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ความเย็นของอากาศ แต่เป็นความเย็นที่ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง อย่างสิ้นเชิง กระแสความเย็นนั้นแผ่ครอบเป็นรัศมีกว้างใหญ่มาก พูดง่าย ๆ ว่าสนามหลวงก็ยังเล็กเกินไป..!

    เมื่อได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็นิมนต์พระสงฆ์และญาติโยมที่นั่งรถเข็นเข้าไปก่อน กระผม/อาตมภาพไปยืนสวด อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๓ จบ ถวายพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้วด้วยความชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง กระแสเย็นที่ครอบคลุมลงมานั้น ถ้าให้ยืนสวดมนต์อยู่ที่นั่นทั้งวันก็ยินดี..!

    แต่ด้วยความที่ว่ามีพระภิกษุสงฆ์ตามหลังมาอีกเป็น ๑๐ รูป จึงต้องลงมาถวายเครื่องสักการะเอาไว้ยังสถานที่รูปดอกบัวที่เขาจัดเอาไว้รอบด้าน แล้วเดินออกมาเข้าห้องน้ำสำเร็จรูปเคลื่อนที่ ซึ่งมีป้ายระบุไว้ว่า "เฉพาะเจ้าหน้าที่จากสาธารณรัฐประชาชนจีนเท่านั้น" เมื่อใช้ห้องน้ำเสร็จ ก็มารอคณะของตนจนพร้อมแล้ว จึงเดินไปนั่งรออยู่หน้าประตูมณีนพรัตน์ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจวังได้ติดต่อประสานงาน จนสามารถที่จะเข้าไปทางด้านในได้

    ตอนนี้ความชื่นฉ่ำใจที่ได้รับจากพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้วก็ดี องค์หลวงพ่อพระพุทธชินสีห์ก็ตาม อย่างไรเสียก็ไม่เท่ากับองค์พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เนื่องเพราะว่านอกจากองค์พระแก้วมรกต ที่เป็นมิ่งขวัญของคนไทยและผู้นับถือพระพุทธศาสนาทั่วโลกแล้ว ยังมีพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในองค์พระแก้วมรกต ยังมีพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถของวัดพระแก้วแห่งนี้ แล้วยังมีองค์พระแก้ววังหน้า องค์พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระพุทธรูปสำคัญต่าง ๆ อีกจำนวนมาก ที่รายรอบองค์พระแก้วมรกตอยู่อีกเป็นสิบ ๆ องค์

    กระผม/อาตมภาพกราบสวด อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ถวายเป็นพุทธบูชา ๒ รอบ ๆ ละ ๓ จบ เมื่ออุทิศส่วนกุศลเรียบร้อยแล้ว ก็ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ซึ่งให้การดูแลเป็นอย่างดีทุกครั้งที่มาถึง ถ่ายรูปร่วมกันแล้วเดินทางออกมา ปรากฏว่าทางด้านลูกศิษย์ส่งข่าวมาว่า ทางเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งที่เป็น FC วัดท่าขนุน แห่กันมาจะกราบหลวงพ่อเล็ก แต่ว่าไม่ทัน..หลวงพ่อเล็กไปก่อนเสียแล้ว ต้องขออภัยทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    ต้องบอกง่าย ๆ ว่าความตั้งใจโดยไม่ได้ตั้งใจในวันนี้ ทำให้กุศลบารมีใหญ่ทั้งหมดที่ทำมานั้น รู้สึกว่าเย็นฉ่ำชื่นใจจนกระทั่งกลับถึงที่พัก ฉันภัตตาหารเพลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังวัดหัวโพธิ์ หมู่ที่ ๓ บ้านหัวโพธิ์ ตำบลหัวโพธิ์ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อไปอธิษฐานจิตปลุกเสกมงคลให้กับพระอธิการอำนาจ เตชธโร ซึ่งเป็นลูกศิษย์เรียน มจร.ที่กระผม/อาตมภาพเคยสอนมา แล้วก็ยังได้เจอพระปลัดสมชาย ถามิโก วัดเกาะแก้ว ซึ่งเป็นลูกศิษย์อีกท่านหนึ่ง บอกว่าได้นำวัตถุมงคลอย่างโน้นอย่างนี้มาเข้าพิธีด้วย พูดง่าย ๆ ว่ารายงานให้รู้ก่อนว่า กระผม/อาตมภาพต้องติดต่อใครมาเสกบ้าง..!?

    ส่วนที่นึกไม่ถึงก็คือคุณสมชาย กล้าหาญ เจ้าของแผงวัตถุมงคล ซึ่งมักจะไปเปิดแผงจำหน่ายวัตถุมงคลตามงานต่าง ๆ ของคณะสงฆ์ กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า ไปตั้งแผงอยู่ที่วัดวังก์วิเวการาม เพื่อจำหน่ายวัตถุมงคลให้บรรดาพระนิสิตซึ่งเข้ากรรมฐานอยู่ที่นั่นร่วม ๓๐๐ รูป แต่คุณสมชายรายงานว่า "เนื่องจากเห็นโฆษณาว่าหลวงพ่อมาที่นี่ จึงได้ชวนภรรยาเพื่อมาทำบุญด้วย" กระผม/อาตมภาพอวยชัยให้พรไปแล้ว ก็นั่งรับการทำบุญเป็นระยะจากญาติโยมที่มาดักรอ

    ต้องบอกว่าคนหลังเขาอย่างกระผม/อาตมภาพนั้น ไม่เล่นเฟซบุ๊ก ไม่เล่นไลน์ ไม่เล่นอินสตาแกรม แล้วก็ไม่เล่น TikTok ก็เลยตกข่าวไปเสียส่วนมาก ไลน์ที่ใช้อยู่นั้นก็ใช้เพื่องานคณะสงฆ์จริง ๆ จึงทำให้ค่อนข้างที่จะตกข่าวที่เขาแชร์กันในกลุ่มไลน์บ้าง ใน TikTok บ้าง แต่กระผม/อาตมภาพนั้นมารู้ทีหลัง ก็มักจะได้เห็นรูปตนเองที่พรรคพวกเพื่อนฝูงส่งมาให้ดู บางรูปอยู่ในงานที่ตนเองเพิ่งไปถึงแท้ ๆ เพื่อนส่งเข้ามาในกลุ่มไลน์แล้ว ถามว่า "อยู่ที่นั่นใช่ไหม ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจว่า "สื่อโซเชียลสมัยนี้ทำให้ความเป็นส่วนตัวของเราหายหมด"

    ครั้นถึงเวลาก็ไปอธิษฐานจิตปลุกเสกมงคล โดยที่มีพระมหานาคสวดพุทธาภิเษกจากจังหวัดนครสวรรค์มาทำการสวดภาณยักษ์ไปด้วย เมื่อ "พระ" ท่านบอกว่าเต็มแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ถอนจิตออกมาทำน้ำมนต์พรมรอบสถานที่ พร้อม ๆ กับที่พระมหานาคสวดจบพอดี
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    ต้องบอกว่าความ "พอดี" แบบนี้มีอยู่เสมอ ๆ ซึ่งพระเกจิอาจารย์อื่นท่านไม่ค่อยจะ "พอดี" กัน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น มีพระ มีพรหม มีเทวดา หรือครูบาอาจารย์สงเคราะห์ ถ้าท่านบอกว่า "เต็มแล้ว" ก็คือเต็มแล้ว "พอแล้ว" ก็คือพอแล้ว "ให้ทำน้ำมนต์" ก็รีบทำน้ำมนต์ ตอนอธิษฐานจิตพรมน้ำมนต์ให้ว่าคาถาบทไหน ก็ต้องว่าไปตามนั้น

    งานนี้ยังมีพิเศษที่ท่านให้เทน้ำมนต์ลงไปในถังใบมหึมา ๓ - ๔ ใบที่ทางเจ้าภาพเตรียมไว้ เพื่อที่จะให้บรรดาผู้ที่มาเข้าพิธีสวดภาณยักษ์ได้นำไปใช้รักษาโรคประหลาดต่าง ๆ ที่ทางแพทย์สมัยใหม่รักษาไม่ได้ แล้วคนหัวใหม่ก็สงสัยว่า "ทำไมน้ำมนต์ถึงรักษาโรคได้ ?"

    ต้องบอกว่า
    ร่างกายของคนเรานั้นเป็นน้ำถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ในเมื่อน้ำในร่างกายเสียก็ต้องเอาน้ำดีเติมเข้าไป แม้ว่าการเติมน้ำดีนั้น บางทีก็ไม่ได้ดื่มเข้าไป แค่พรมภายนอกเท่านั้น ก็ทำให้น้ำเสียส่วนใหญ่ในร่างกายกลับกลายเป็นน้ำดี อาการเจ็บไข้ได้ป่วยจากน้ำเสียก็เลยหายไปด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ดังนั้น..ท่านใดที่ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่านเถิด เนื่องเพราะว่าบุคคลที่เชื่อถือและหายป่วยจากโรคประหลาดที่แพทย์สมัยใหม่ไม่สามารถจะหาสาเหตุได้นั้น มีมากต่อมากด้วยกัน

    ครั้นรับไทยธรรมและบอกลาพระอธิการอำนาจ เตชธโรแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางกลับสู่ที่พัก เพื่อเตรียมที่จะไปรับภารกิจต่อไป

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...