พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

พระผงรูปเหมือนหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์

ออกวัดสำโรง พิมพ์กนกข้างลายเถาวัลย์ ปี2515
องค์นี้เจ้าของเดิมเก็บบนหิ้งพระ วางบนหนังสือพิมพ์โดนน้ำจึงเห็นกระดาษติดมาด้านหลัง รับประกันแท้สากล

บูชา 800 บาท

 

พระผงพิมพ์พระประทานพร หลังยันต์หมึก(น้ำเต้า) วัดสรรเพชญ์ เจ้าคุณนรอฐิธานจิต ปี13

บูชา 600 บาท

พระวัดสรรเพชญ จัดสร้างโดย พระอาจารย์ทองเจือ ธัมมธีโร วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ คุณหมอสุพจน์ ศิริรัตน์
ที่ได้รับอนุญาต จากท่านเจ้าคุณนรฯ ให้สร้างเพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถวัดสรรเพชญ นครปฐม

พระรุ่นนี้มีหลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ที่เด่นๆ คือ
1. พิมพ์ประทานพร เป็นพระเนื้อผงรูปห้าเหลี่ยม องค์พระนั่งยกมือประทานพร
ด้านหลังปั๊มตรายางเป็นยันต์องค์พระ และมีภาษาไทยกำกับอยู่ข้างล่างว่า “ สุโข วิเวโก ”
2. พิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว เป็นพระเนื้อผงรูปห้าเหลี่ยม ขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ประทานพรเล็กน้อย
องค์พระนั่งสมาธิในซุ้มเรือนแก้วเหนืออาสนะบัวคว่ำบัวหงาย
ด้านหลังปั๊มตรายางองค์พระและมีภาษาไทยเขียนไว้ข้างใต้ว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ”
3. พิมพ์สมเด็จ สร้างไว้หลายแบบ บางพิมพ์มีไม่ถึง 100 องค์
เช่น พิมพ์จันทร์ลอย พิมพ์สาม เหลี่ยมหน้าหมอน แต่ที่สร้างไว้มากมีอยู่ 2 พิมพ์ คือ
1) พิมพ์สมเด็จวัดสรรเพชญ เป็นพระสมเด็จฐาน 3 ชั้น มีพระพักตร์ชัดเจน ด้านหลังเป็น
ยันต์องค์พระปั๊มนูน และมีตัวหนังสือว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ” สร้างโบสถ์วัดสรรเพชญ
จำนวนสร้าง พิมพ์ใหญ่พิเศษ (กรรมการ) มีโมเสสและพลอยเมืองจันทร์อยู่ด้านหลัง 200 องค์
พิมพ์ธรรมดา 8,000 องค์
พิมพ์พระประธานพร (พิมพ์เล็ก) 10,000 องค์
2) พระสมเด็จพิมพ์นิยม เป็นพระสมเด็จฐาน 3 ชั้นทั่วไป ด้านหลังปั๊มตรายางรูปองค์พระ
และมีภาษาไทยเขียนไว้ข้างใต้ว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ” แบบเดียวกับพิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว

สำหรับพิมพ์จันทร์ลอย เป็นพิมพ์ที่แจกกรรมการ มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก
1. พิมพ์ใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 ซม.
ด้านหน้า เป็นพระพุทธปางมารวิชัยประทับเหนือสิงห์ตรงกลางกลีบบัว และมีการวางยันต์
ต่างๆ ไว้มากมาย
ด้านหลัง ก็มีการวางยันต์ไว้มากมาย เป็นยันต์ของคณาจารย์ต่างๆ ของนครปฐม และที่อื่นๆ
ด้วย เช่น นะล้อมโลกของหลวงพ่อน้อย ตรงกลางกลีบบัว และยันต์ของหลวงพ่อ
ต่างๆ ไว้ในกลีบบัว ซึ่งสัดส่วนต่างๆ นั้นลงตัวและมีความคมชัดมาก
2. พิมพ์เล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.5 ซม.
ด้านหน้า เป็นพิมพ์พระพุทธมารวิชัยเช่นกัน จะสังเกตได้ว่าเป็นการจำลองจากพิมพ์ใหญ่มา
แล้วได้ว่างยันต์ไว้ด้านล่าง
ด้านหลัง เป็นยันต์ปิดตาล้อมด้วยมังกร

มวลสารประกอบด้วย
1. เส้นเกศาเจ้าคุณนรฯ และผงเสกไตรมาสวัดวิเวกวนาราม (ประมาณปี๊บครึ่ง)
2. ผงลบถม 12 คัมภีร์ ของ อ.รอด สุขเจริญ ได้แก่
- ผงปถมัง - ผงอิทธิเจ
- ผงมหาราช - ผงสุกิตติมา
- ผงนอโม - ผงอาการวัตตาสูตร
- ผงอิติปิโสรัตนมาลา - ผงธรรมคุณ
- ผงสังฆคุณ - ผงพระสิวลี
- ผงพาหุง - ผงนะ 108
3. ผงศิลาธิคุณ หรือ ผงฤาษีผสม ที่เขาเจียก ดีทางรักษาโรค เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด
4. ผงดินสอฤาษี (สีเหลือง) มีอานุภาพทางเมตตา มหานิยม แคล้วคลาด
5. ผงจันทรประภา ทำได้เฉพาะในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 ที่ตรงกับวันจันทร์เท่านั้น มีอานุภาพทางมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อย่างเอกอุ
6. ผงสุริยประภา ผงนี้ทำจากกะลามะพร้าวตาเดียวแกะเป็นรูปราหูอมจันทร์นำมาเสกแล้วเผาตำ
ให้เป็นผง และต้องทำในวันที่เกิดสุริยุปราคาเท่านั้น ผงนี้มีอิทธิคุณทางกันภัยและโชคลาภ
7. แร่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น
- แร่เกาะล้าน ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน กันอสรพิษ
- แร่นกกาสัก (ขี้นกกาสัก) พบมากที่ อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า แร่นี้เกิดจากพระฤาษีได้สร้างนกกาสักขึ้นด้วยอาคม
แล้วให้นกนี้ไปกินแร่ที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ต่างๆ แล้วถ่ายออกมาเป็นแร่นี้
มีคุณทางคงกระพันและแคล้วคลาด
- สะเก็ดดาว หรือ อุลกมณี
- แร่เขาสารพัดดี อยู่บนเทือกเขาสารพัดดี ชัยนาท วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงดนตรีประโคมดัง
- แร่เขาสามยอด
8. พลอยเมืองจันทบุรี
9. น้ำมันหอม 9 กลิ่น ลพ.จ่าย วัดรุ้ง ที่ท่านเสกจนเดือด
10. ผงลพ.สด วัดปากน้ำ และผงพระวัดปากน้ำ รุ่น 1-3 ที่แตกหักชำรุดจำนวนมาก
11. ผงพระชุดเบญจภาคีที่ชำรุดแตกหัก
12. ผงพระกรุเก่าจากที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
13. กระเบื้องโมเสค หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร
14. ผงพระสมเด็จวัดสามปลื้ม

การกดพิมพ์ กระทำโดยพระเณรในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยในขณะกดพิมพ์จะต้องภาวนาว่า “ พระสัมมา อรหัง จุติ ”
เมื่อเสร็จเป็นองค์พระเรียบร้อยแล้วก็นำใส่กล่องห่อด้วยผ้าขาวนำไปให้ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านอธิษฐานจิต
แต่ท่านเจ้าคุณนรฯ กลับตอบว่า
“ ในพรรษานี้จะไม่มีการปลุกเสกพระใดๆ (ที่วัดเทพศิรินทร์) ทั้งสิ้น
ขอให้คุณนำกลับไปไว้ ณ ห้องชั้นบนโรงเรียนภาวนานุสรณ์ พร้อมจัดตั้งอาสนะไว้
เวลา 2 ทุ่มตรง ให้จุดเทียนชัยและธูป อาตมาจะสวดมนต์แผ่เมตตาไปให้ "

พุทธาภิเษก 2 วาระ
วาระที่ 1 ที่วัดชิโนรส กทม. มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม , หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ร่วมปลุกเสก
วาระที่ 2 อธิษฐานจิตเดี่ยวโดยท่านเจ้าคุณนรฯ ซึ่งท่านได้เมตตาปลุกเสกให้ถึง 3 วาระ ด้วยกัน คือ
1) ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้เมตตาปลุกเสกผงวัดวิเวกวนารามให้ตลอดไตรมาสเมื่อ ปี 2511
ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า
เมื่อสร้างเป็นพระเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำมาให้ท่านปลุกเสกอีกก็ได้ เพราะผงนี้เป็นผงวิเศษที่ดีอยู่แล้ว
2) ปลุกเสกโดยญาณ โดยท่านเจ้าคุณนรฯ ได้สั่งให้พระอาจารย์ทองเจือ จัดอาสนะไว้ให้ท่านเพื่อปลุกเสกให้
ซึ่งเมื่อได้จุดธูปเทียนบอกกล่าวนิมนต์ท่านแล้ว ก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทันที คือ
เปลวเทียนที่จุดไว้ลุกสว่างจ้าขึ้น และเอนลู่ไปคล้ายมีลมพัดอย่างแรง
ทั้งๆ ที่ขณะนั้นประตูห้องทุกบานและหน้าต่างปิดหมด
ซึ่งพระอาจารย์ทองเจือได้ทำแบบนี้ตลอดพรรษาปี 2513
3) พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเทพศิรินทร์ กทม. เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513 ซึ่งเป็นการอธิษฐานจิตเดี่ยวครั้งใหญ่และเป็นสุดท้ายของท่านเจ้าคุณนรฯ
ซึ่งเมื่อท่านอธิษฐานเสร็จท่านได้เปล่งเสียงออกมาดังๆว่า
“ พระเมตตา พระมหานิยม พระอุดมลาภ พระมหาลาภ พระมหาอุด พระแคล้วคลาด พระคงกระพันชาตรี พระล่องหนหายตัวได้ ”

หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชญ ท่านมีความสนิทสนมกับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม มานาน
ทั้งได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันตลอดตั้งแต่ตอนที่ท่านเพิ่งย้ายมาอยู่วัดสรรเพชร(สรรเพชญ)
ถ้ามีลูกศิษย์จากอำเภอสามพราน นครปฐมไปกราบไปขอของดีจากหลวงพ่อเงิน
หลวงพ่อเงินท่านจะบอกว่า ไม่ต้องมาไกลหรอก หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชร ท่านก็เก่งไม่เบาเลยทีเดียว
อีกทั้งหลวงปู่เพิ่มยังได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนทดลองวิชากับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ อีกด้วย
รวมทั้งได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกหมู่ของทางวัดกลางบางแก้วหลายครั้งเลยทีเดียว

 

ปิด



พระแก้วมรกต หลวงปู่ดู่ ปี2529

บูชา 1,200 บาท

 

ตะกรุดสาริกาเก่า ไม่ทราบเกจิ

เผื่อท่านใดทราบเกจิ /ชอบ ครับ

บูชา 500 บาท

 

เหรียญท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี ปี2533

บูชา 1,000 บาท

 

พระผงรูปเหมือน ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดโบสถ์สามโคก ปี 2517

ผสมผงเก่าเจ้าคุณนร หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ปลุกเสก

สร้างโดยพระอาจารย์เต็ก วิริยธโร วัดโบสถ์สามโคก ปทุมธานี พระอาจารย์เต็กเป็นศิษย์ท่านเจ้าคุณนรฯอีกองค์หนึ่งที่ได้รับมอบปฐวีธาตุมา ต่อมาท่านได้นำปฐวีธาตุส่วนหนึ่งมาสร้างพระผงฝังปฐวีธาตุวัดโบสถ์สามโคก เพื่อออกในการฉลองหอระฆังครับ รุ่นนี้สร้างจากผงว่าน108 ทั้งผงพุทธคุณซึ่งท่านเ้จ้าคุณนรฯได้อธิษฐานจิตไว้ให้ก่อนมรณภาพ และที่สำคัญบางองค์ได้ฝังพระปฐวีธาตุที่ท่านเจ้าคุณนรฯอธิษฐานจิตไว้ลงที่องค์พระด้วย บางองค์ มีเกษา องค์อธิษฐานจิตหลักๆคือ หลวงพ่อ พรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ โดยได้นำพระชุดนี้มาขอหลวงพ่อพรหมปลุกเสกเดี่ยวให้ที่วัดช่องแค นานถึง 7 วัน และยังได้นำกลับไปปลุกเสกที่วัดโบสถ์ซึ่งเป็นพิธีใหญ่อีกครั้งด้วย

บูชา 500 บาท พร้อมตลับผุก

 

..ลูกอมด้ายขาวสาวพรหมจรรย์หลวงพ่อไล้ วัดเขายี่สาร

ลูกนี้รักหลุดจนเห็นเนื้อลูกอมชัดเจน เนื้อขาวจะเป็นลูกอมด้ายขาว รับประกันแท้สากลทุกสนาม

บูชา **** บาท

ลูกอมในตำนานว่าสุดยอดหายาก พุทธคุณดีทุกด้าน ทั้งเรื่องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ยิ่งเรื่องมหาเสน่ ถึงกับได้ชื่อว่า"ลูกอมขุนแผนแห่งเมืองแม่กลอง"เลยทีเดียว...
...หลวงพ่อไล้ท่านนี้คือหนึ่งในพระอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม โดยหลวงพ่อคงท่านมาเรียนวิชาการทำลูกอม (ลูกอมมหากัน) และวิชากระสุนคต ตามประวัติหลวงพ่อไล้กล่าวว่าท่านเกิดในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๓ เกิดราวปี พ.ศ. ๒๓๘o โดยสันนิษฐานจากบันทึกของวัดเขายี่สารว่า คลองหน้าวัดได้ขุดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๑ ในปลายรัชกาลที่ ๔ โดยหลวงพ่อไล้ เจ้าอาวาส ร่วมกับราษฎรท้องถิ่น คาดคะเนอายุของหลวงพ่อร้ายในขณะขุดคลองนั้นน่าจะมีช่วงวัยประมาณ ๓o ปี และมรณภาพเมื่อ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ขณะมีอายุได้ ๗o ปี...
...วัดเขายี่สาร เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่บนเนินเขายี่สาร เขาแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม ที่บ้านเขายี่สารนี้เคยเป็นชุมชนเก่าแก่ กรมศิลปากรเคยขุดพบเครื่องถ้วยชามสุโขทัย เครื่องถ้วยเวียดนาม เครื่องถ้วยญี่ปุ่น และเครื่องถ้วยของจีน ซึ่งแสดงว่าในสมัยโบราณเคยเป็นท่าเรือติดต่อค้าขายมาในอดีต...
...หลวงพ่อร้าย ประวัติของท่านเลือนรางมาก ทราบเพียงแต่ว่าท่านมีนามเดิมว่า ไล้ เกิดเมื่อ ประมาณปีพ.ศ.2380 เป็นลูกคนจีน เกิดที่บ้าน เขายี่สารนี่เอง โยมบิดา-มารดาไม่ทราบนาม ตอนเด็กๆ ท่านได้เล่าเรียนอยู่ที่วัดเขายี่สาร จนอายุครบบวช ท่านก็ได้อุปสมบทที่วัดเขายี่สาร ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมสายวัดเขายี่สารโดยตรง ต่อมาเมื่อเจ้าอาวาสวัดเขายี่สารมรณภาพ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนต่อมา...
...หลวงพ่อร้ายท่านเป็นพระที่ใจดี ใครขออะไรท่านให้หมด เรื่องชื่อของท่านนั้นเข้าใจว่าเรียกกันไปๆ มาๆ จนเพี้ยนเป็น 'หลวงพ่อร้าย' ซึ่งความจริงท่านชื่อ 'ไล้' หลวงพ่อท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ว่าอะไรเป็นอย่างนั้น ถ้าท่านอวยพรให้ใครมียศถาบรรดาศักดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาก็จะได้เป็นตามนั้นทุกรายไป ในสมัยก่อนแถบวัดเขายี่สารมีงูเห่าชุกชุม มีชาวบ้านถูกงูกัดเป็นประจำ เมื่อมีคนถูกงูเห่ากัดก็มักจะนำมาให้ท่านช่วยรักษา ท่านก็จะถามว่าถูกกัดที่ไหน ถ้าบอกว่าถูกกัดที่เขายี่สาร ท่านก็จะบอกว่า 'งูเห่าบนเขายี่สารนี่มันกัดคนไม่ตายหรอก' แล้วท่านก็จะนำยามาฝนให้กินและพอกแผลไว้ไม่นานแผลก็จะหายสนิท หลวงพ่อร้ายท่านมรณภาพประมาณปีพ.ศ.2451 อายุได้ 70 ปี พรรษาที่ 50...
...สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น คือ “ลูกอม” ลูกอมของท่านเป็นอีกสำนักหนึ่งที่ขึ้นชื่อเสียงโด่งดัง ลูกอมที่ท่านสร้างขึ้นมามี ๒ แบบ แต่ที่พบกันโดยมากคือลูกอมเนื้อผงยา ลูกอมเนื้อผงยาของหลวงพ่อร้าย สร้างขึ้นด้วยวัสดุมวลสารคือยาสมุนไพรที่มีไพลบดเป็นส่วนสำคัญ ไพลแต่ละแว่นก่อนจะนำไปบดนั้นหลวงพ่อร้ายได้ลงอักขระกำกับไว้ จากนั้นจึงนำไปตากแดดจนแห้งแล้วจึงนำไปบดผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ จากนั้นนำไปเคล้ากับรักเป็นตัวเชื่อมประสานยึดเนื้อ ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดประมาณปลายนิ้วชี้ บางก้อนทำห่วงเหล็กหรือห่วงทองแดงฝังลงไปในเนื้อผงลูกอมเอาไว้สำหรับเป็นหูห้อยเชือก หรือสายสร้อยคล้องคอ...
...ลูกอมอีกชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า “ลูกอมด้ายขาวสาวพรหมจรรย์” ที่เป็นเช่นนี้เพราะด้ายที่จะนำมาทำลูกอมนี้หลวงพ่อร้ายจะให้ลูกศิษย์ไปขอด้ายเย็บผ้าจากบ้านของหญิงสาวพรหมจรรย์ ที่มีชื่อเป็นมงคล เช่นชื่อ บุญเรือน บุญช่วย บุญอยู่ ขวัญเรือน แก้ว แหวน เงิน ทอง ฯลฯ แล้วนำมาพันกับกระดาษสาไปเสียบไว้กับปลายไม้ไผ่เสี้ยมปลายขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย หรือนิ้วชี้ แล้วจึงถอดออกนำไปจุ่มรักผึ่งลม ลูกอมทั้ง ๒ ชนิดนี้ เมื่อทำเสร็จแล้ว หลวงพ่อไล้จะรวบรวมนำไปหลุกเสกในอุโบสถ ก่อนนำออกแจกจ่ายแก่สานุศิษย์ที่มาขอ ผู้ขอต้องบอกจุดประสงค์ว่าอยากได้ลูกอมไปไว้ใช้ในทางใด ถ้าต้องการไปในทางป้องกันเขี้ยวงา คงกระพันชาตรี หลวงพ่อร้ายจะให้ลูกอมผงยา หากต้องการในทางโชคลาภ หลวงพ่อร้ายจะให้ลูกอมด้ายขาวสาวพรหมจรรย์ อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีผู้ชายผู้หนึ่งนำลูกอมผงยาไปฝนให้ลูกสาวชาวบ้านคนหนึ่งกินจนเกิดความหลงใหลหนีตามไป สุดท้ายไม่รับผิดชอบขับไล่ไสส่งหญิงสาวคนนั้นไป เมื่อหลวงพ่อร้ายรู้เข้าถึงกลับนำลูกอมที่ท่านทำไว้ซึ่งยังเหลืออยู่ โยนทิ้งทะเลจนหมดสิ้น ทำให้ลูกอมของหลวงพ่อร้ายกลายเป็นของหายากเต็มที...
...ลูกอมของหลวงพ่อร้ายมีประสบการณ์ต่างๆ มากมายครับ นอกจากจะอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยมแล้ว ในสมัยก่อนเขานำมาห้อยคอเด็กๆ แล้วเกิดประสบการณ์ว่าเด็กตกลงไปในแม่น้ำก็ไม่จมครับ ปัจจุบันหาของท่านแท้ๆ ยากครับ

 

ลูกอมกระดาษสา หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี

ลูกอมกระดาษสาลูกนี้ เป็นลูกอมเปลือย (ไม่ถักเชือกสายสิญจน์ยุคต้น)...ดูง่าย กระดาษสา ยับ ย่น เบา เก่าเดิม ตามอายุ รับประกัน

บูชา 2,500 บาท

ลูกอมกระดาษสา หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี ลูกอมสายสิญจน์ของท่าน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " ลูกอมโลกธาตุ " ตามโบราณ มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกว่า " ลูกอมด้ายสาวพรหมจารีย์ " เพราะกรรมวิธีที่ท่านสร้างนั้น ท่านจะลงอักขระหัวใจโลกธาตุบนกระดาษสา ม้วนเป็นแกนกลาง จากนั้นให้สาวพรหมจารีย์มาถือศีล 5 นุ่มขาวห่มขาว ปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานและสวดมนต์ เป็นเวลา 9 วัน จากนั้นท่านก็จะนำสายสิญจน์ที่ท่านไว้ใช้เสกวัตถุมงคลต่างๆของท่าน นำมาให้หญิงสาวที่เหล่านั้นมาพันวนไปทางขวา เพื่อเป็นเคล็ดเสน่ห์เมตตามหานิยม และบริกรรมคาถา 108 จบ เมื่อครบแล้ว ท่านจะนำเสกมาอีกครั้ง จากนั้นโยนเข้ากองไฟ ลูกไหนไม่ไหมไฟ เป็นอันใช้ได้ เป็นอันเสร็จพิธี แล้วนำมาแจกให้ลูกศิษย์ต่อไป... #... วิชาหัวใจโลกธาตุที่หลวงปู่ได้นำมาใช้ลงในลูกอมของท่านนั้น หลวงปู่ยิ้มท่านได้บรรจงค้นคิดวิชาชั้นสูงนี้ขึ้นมา โดยมาจากการที่หลวงปู่ยิ้มได้ไปเรียนวิชาต่างๆจากพระอาจารย์ทุกองค์ที่ท่านได้ไปศึกษามา ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อปลัดทิม วัดบางลี่น้อย , หลวงปู่พ่วง วัดลิงโจน , หลวงพ่อกลัด วัดบางพรม , หลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่อัมพวา , หลวงปู่รอด วัดนายโรง , อาจารย์ทองเฒ่า สำนักเขาออ้อ และองค์สุดท้าย หลวงพ่อกลิ่น วัดหนองบัว ซึ่งเป็นท่านอาจารย์ของหลวงพ่อเงิน บางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า , หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ , หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว , หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก , หลวงปู่เนียม วัดน้อย ฯลฯ มาผสมผสานจนเป็นสุดยอดสรรพวิชาที่รู้จักกันในนามว่าวิชา " โลกธาตุ " เป็นสุดยอดวิชาที่หาอื่นใดเปรียบเทียบได้... #...ลูกอมกระดาษสา เป็นอิทธิวัตถุมงคลชั้นสูง หลวงปู่ยิ้มได้สร้างเอาไว้ตามตำรับพิธีตำราโบราณ ท่านจะพิถีพิถันละเอียดปราณีตในการสร้างมาก พุทธคุณเด่นด้าน เสน่ห์เมตตามหานิยม ...รวมถึงมหาอุด คงกระพันชาตรี ลูกอมนี้ดีทุกด้านครบเครื่องครับ.. ตะกรุดลูกอมที่สร้างจากเนื้อกระดาษสานั้น. ใช้วิธีเขียนคาถาหัวใจโลกธาตุลงในกระดาษสา แล้วม้วนเป็นวง เหมือนเช่นตะกรุดลูกอม

 

เหล็กไหล ขนาดหัวแหวน อ.ชุม ไชยคีรี

จากบทความของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี ได้เคยเขียนไว้ว่า

"พระฤาษีปลัยโกฎ ได้พรรณนาไว้ในพระคัมภีร์โบราณว่า หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้แต่เท่าเมล็ดข้าวโพด หรือเท่าเมล็ดพริกไทย ก็นับได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญญาอภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง

ดังนั้นคุณค่าอันนับเป็นเอนกประการของเหล็กไหลนั้น จึงทำให้มนุษย์เรารู้สืบทอดติดต่อกันมาแต่ครั้งบรรพกาลแล้ว ต่างก็ได้พยายามสืบเสาะหามาไว้เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ด้วยเหตุที่เป็นธาตุสูงสุดของธาตุทั้งปวง เหล็กไหลจึงมักจะซ่อนหลบเร้นตนเองไม่ให้มนุษย์ได้เจอะเจอง่ายๆนัก เว้นแต่จะเป็นผู้มีบุญญาอภินิหารได้เจอะเจอโดยบังเอิญ หรือเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคมแรงกล้าเท่านั้นจึงจะนำเหล็กไหลมาไว้บูชาแก่ตนเองได้

บุราณจารย์แต่ครั้งก่อนท่านกล่าวไว้หากจะให้เกิดประโยชน์แก่ตนไซร้ ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด หรือ เท่าเมล็ดพริกไทย อมไว้ในปากแล้วกลืนน้ำลายตนเองเป็นประจำทุกวัน ทำพิธีใช้อาคมเรียกเข้าไว้ในตัว ร่างกายจะคงทนแก่ปืนผาหน้าไม้ กฤช หอกทองแดง ขวากหนาม สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวงาและมีแรงฟัดขยี้ อาจต่อสู้กับคนหมู่มากและมีแรงมาก แม้จับตัวเราก็ไม่ติด แหวกวงล้อมและกรงขังขื่อคาไปได้ ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะทำให้อายุยืน

อนึ่ง ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด แช่น้ำผึ้งรวงกินเป็นประจำทุกเช้าเย็นจนครบ 7 วัน คงเนื้อคงหนัง 3 เดือนคงกระดูก คงถึงลูกที่เกิดมา 1 ปี หมดโรคภัยนานา 3 ปี เกิดปัญญาเรียนรู้ธรรมจบพระไตรปิฎก 7 ปี กายเบาดังสำลี หมดกิเลส (คัดจากสมุดข่อย 1,000 กว่าปี)

อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ค้นพบเหล็กไหลในป่าลึกทางภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2509 ทำพิธีตัดเหล็กไหลออกเป็นชิ้นเล็กเท่าเมล็ดพริกไทยถึงเมล็ดมะขามแห้ง ออกแจกจ่ายให้คณะศิษย์ทำหัวแหวนไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัว ส่วนหนึ่งฝังไว้หลังพระเนื้อว่านยา 500 กว่าชนิด ทรงขุนแผนออกศึก ทรงรูปอาจารย์วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ฯลฯ"

ชิ้นนี้เดิมติดเป็นหัวแหวนทอง แต่เจ้าของพึ่งถอดขายไป รับประกันแท้ และท่านใดจะบูชาไป เพื่อความมั่นใจ ว่าไม่ได้เมคเรื่องขึ้น สามารถโทรสอบถามเจ้าของเดิมได้เลยครับผม

บูชา *,*** บาท เมื่อก่อนเป็นหมื่นครับ

 

พระร่วงนั่ง กรุเจดีย์ 5 ยอด วัดห้วยเสือ จังหวัดเพชรบุรี หลวงปูศุขปลุกเสข ปี 2464

วัดห้วยเสือ จังหวัดเพชรบุรี เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันอยู่ในเขต อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ในอดีตถือเป็นถิ่นกบดานของเสือร้าย เป็นอำเภอคนดุ แต่ใจถึงไม่กลัวใคร วัดห้วยเสือได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จนถึง พ.ศ. 2462 พระยานิติธรรมธาดา มหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เข้ามาทำการบูรณะปฎิสังขรณ์ จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2464 ท่านได้สร้างเจดีย์ใหญ่ ห้ายอดขึ้น เพื่อทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในการนี้ท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้นเพื่อบรรจุภายในเจดีย์ ห้ายอดเพื่อเป็นพุทธบูชา ด้วยเหตุที่พระยานิติธรรมธาดา ท่านมีความนับถือในหลวงปู่สุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระที่ท่านสร้างขึ้นได้นำไปขอบารมีหลวงปู่สุข ปลุกเสก ก่อนนำมาบรรจุที่เจดีย์ห้ายอดทั้งหมด จากการสอบถามจากเซียนเก่าเพชรบุรี นอกจากพิมพ์พระร่วงนั่ง พระร่วงยืนเหยียบหัวจ้าพยัคฆา พิมพ์สังกัจจายน์ พิมพ์งบน้ำอ้อย ที่ได้สร้างขึ้นพร้อมกัน หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสกสามารถใช้แทนพระหลวงปู่ศุข ที่ออกวัดปากคลองมะขามเฒ่าได้อย่างสบาย แถมพระกรุวัดห้วยเสือ มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในพิมพ์ทรง เล่นหาได้ง่ายมากหลายพิมพ์ อาทิ พระร่วงเหยียบหัวจ้าพยัคฆา พิมพ์พระร่วงนั่ง พิมพ์สังกัจจายน์ งบน้ำอ้อย

บูชา 700 บาท

 

ปิดครับ



ตลับธาตุนิพพานคุณแม่ปี 2507 หายาก

ตลับธาตุที่บรรจุอัฐิธาตุของคุณแม่ไว้ ถือว่าเป็นของศิริมงคลสูง

 

วัวธนูหลวงพ่อสังข์ วัดนากันตม จ.ศีรษะเกษ เนื้อผงว่าน 108 ชนิด ผสมครั่งพุทรา ปิดทองพร้อมจารแห้งด้วยมือ..

มือใหญ่ เปิด 7-8,000

บูชา 5,500 บาท
หลวงพ่อหลวงพ่อสังข์ สุริโย อดีตพระอาจารย์ผู้แก่กล้าวิชาอาคมขลัง เรืองเวทไปด้วยบุญญาอภินิหาร พระเครื่องของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากครับ


ใช้พกติดตัวหรือเดินทางไกลไปรถไปเรือ ออกจากบ้านไปที่อื่นนาน ๆ อาราธนาบอกกล่าวให้เฝ้าดูแลบ้าน ที่อยู่อาศัย ใช้ป้องกันภัยอันตราย..ป้องกันภูตผีปีศาจได้สารพัดครับ

 

ปิดครับ

 

ปิดครับ



ล็อคเก็ตสูนย์กันภัย หลวงปู่สูนย์ ไตรมาส ปี2553

สร้างน้อย หลังจีวรเกศา

บูชา 800 บาท

 

พระผงรูปเหมือนหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ ออกวัดอินจำปา จ.เพชรบุรี

ของดีราคาเบาที่ทันหลวงปู่ โดยในหนังสือพระเครื่องเก่าๆ บอกไว้ว่าทันหลวงปู่โต๊ะปลุกเสกแน่นอน

บูชา 600 บาท

 

ปิด



เหรียญดวงโพธิญาณกำลังแผ่นดิน เนื้อทองสำริด หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)


เหรียญนี้จัดสร้างปี พ.ศ.2551 วัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่รูปลักษณ์หลวงปู่ดู่ และ สมทบทุนเข้า "กองทุนพุทธพรหมปัญโญ" (วัดถ้ำเมืองนะ) อันเป็นประโยชน์ต่อศาสนา และประเทศชาติสืบไป

ทุกเหรียญลงเหล็กจารโดยหลวงตาม้า (พร้อมเลี่ยมกรอบพลาสติก)

ผงมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้อุดก้นเหรียญ

ครั้งแรกและครั้งเดียวของการรวบรวมมวลสารสำคัญกว่า 10 ปีของหลวงตาม้าเพื่อนำมาบรรจุก้นเหรียญ เช่น

- อัฐิธาตุหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

- เกศาของหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า

- ผงจักรพรรดิ (ผงเก่าที่หลวงปู่ได้เมตตามอบไว้)

- พระผงเก่ายุคต้นของหลวงปู่ดู่ที่เก็บรักษาไว้

- ข้าวก้นบาตรของหลวงปู่ดู่

- พระผงเก่าที่หลวงตาม้าสร้าง และและมวลสารที่รวบรวมมากว่า 10 ปี เช่น ชุดผงตะไบชนวนพระ, ชนวนเปิดโลกหลวงปู่ดู่

- มวลสารศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเจ้าตากสิน, สมเด็จพระณเรศวร และองค์มหาราชทุกพระองค์

- ผงธูปหลักเมืองและดินศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัดของประเทศไทย

หลวงตาม้าได้เสกเหรียญทั้งหมดด้วยกำลังแห่ง "พระคาถาจักรพรรดิ" และกำกับลงเหล็กจารด้วยตัวท่านเองทุกองค์ จึงเชื่อมั่นว่าเหรียญ "ดวงโพธิญาณฯ" สามารถนำมาใช้อธิษฐานเพื่อแก้ไขความขัดข้องในวิกฤตปัจจุบัน และนำองค์พระไปใช้ในการกำภาวนาได้เป็นอย่างดี

เหรียญนี้ได้มาเบาเปิดตามที่ได้มาครับ ที่อื่น1,500-2,000ขึ้นแน่นอน

บูชา 1,000 บาท

 

หลวงปู่ทวด รุ่น อรหัง มั่งมี วัดอาวุธวิกสิตาราม มีโค้ด+หมายเลข เลี่ยมพร้อมบูชา

บูชา 400 บาท

 

กรมหลวงชุมพร หลวงปู่แหวน ปลุกเสกปี2520

บูชา 500 บาท

 

เบี้ยแก้แร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดโมลี

ถักเชือกลงรัก ถึงยุคแน่นอน รับประกันทุกสนาม

บูชา 28,000 บาท