แชร์ประสบการณ์ และคำสอน พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล (พระอาจารย์จิ๊) วัดธรรมิกาวาส ชัยนาท

ลูกขอน้อมกราบในความเมตตายิ่งของพระอาจารย์ที่ชี้แนะแนวทางในการตัดสินใจครั้งนี้ค่ะ

“ให้นึกถึงฉัน” แล้วฉันจะช่วยเอง วันนี้รู้แจ้ง
”เชื่อได้อย่างสนิทใจ”

ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมช่วงหลังมานี้ถึงได้อ่านธรรมะโพสต์ของหลวงปู่แหวนอยู่เนือง ๆ เมื่อทราบภายหลังว่าพระอาจารย์จิ๊ ท่านเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงปู่แหวน จึงหายสงสัยทันที การเดินทางจากหาดใหญ่เพื่อไปชัยนาทครั้งนี้ถูกจัดสรรจากบุญวาสนาเดิมที่จะได้ไปพบพ่อแม่ครูอาจารย์เป็นแน่แท้

กว่าจะมีวันนี้ ต้องผ่านบททดสอบถึงความหนักแน่นอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเวลาและพาหนะที่จะใช้เดินทางไปวัดคังคาว เราโดนกิเลสเล่นงานทางความคิดเยอะมาก แต่ปัญหาก็คลี่คลายเมื่อได้คุยกับพี่ชายท่านหนึ่ง คำพูดที่สกิดใจของพี่เขาทำให้ตัดสินใจว่าต้องไปให้ได้

แล้วเราจะเดินทางไปอย่างไรดีละ คำถามที่มีคำตอบผุดขึ้นมาทันที ลองยกหูโทรชวนเพื่อนดูสิ เผื่อเขาสนใจ ผลคือเพื่อนตอบรับทันทีแม้จะต้องเดินทางไกลจากหัวหิน ขับรถหลายชั่วโมงก็ไม่หวั่นเพราะอยากขอเมตตาจากพระอาจารย์ชี้แนะแนวทางเช่นกัน

อีกหนึ่งบททดสอบ”การรอคอย” หนึ่งชั่วโมงเต็มที่รอเข้าพบ ปกติเราเป็นคนใจร้อน แอบคิดว่า ท่านคงเมตตาสอนให้เรามี”ความอดทนและใจเย็น”
เราตัดสินใจเดินสำรวจบริเวณที่สร้างพระมหาเจดีย์ เห็นด้วยตาเนื้อก็เกิดปิติ ดีใจที่ได้ร่วมบุญนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทำบุญ หรือมวลสารที่ได้ส่งผ่านน้องฟีม ดีใจที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในกุศลนี้

“พระเครื่องรุ่นแรกที่สร้างถวาย จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยก่อสร้างพระมหาเจดีย์ครั้งนี้

ท้ายสุดนี้ขอน้อมโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ สาธุ

 

หลวงปู่พิศดูและครูบาอาจารย์ที่แม้จะดับขันธ์ไปนานแล้วก็มาร่วมอธิษฐานจิตกันมากมาย

เรื่องนี้อาจจะยาวนิดหน่อยเนื่องจากต้องท้าวความย้อนกลับไปช่วงเริ่มสร้างและเรื่องนี้เป็นเรื่องจากปากของครูบาอาจารย์เอง ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์จิ๊เอง หลวงตาคูณ โชติโก ,หลวงปู่วิชัย เขมิโย ท่านเอ่ยปากพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

ย้อนกลับช่วงที่คิดว่าจะเริ่มสร้างเหรียญรุ่นแรก ตัวฟีมเองนั้นมีความศรัทธา วัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี มากเป็นพิเศษ เป็นองค์เอกในใจ เจอประสบการณ์มากับตัว พระที่แขวนคออยู่ทุกวันนี้ หายไปเอง กลับมาเองได้แบบอัศจรรย์ จึงเป็นเหตุผลที่ฟีมคอยบอกพระอาจารย์ว่าเชิญหลวงปู่พิศดูมาด้วยนะครับ

หลังจากเริ่มเปิดรับมวลสารจากทั่วประเทศมีพี่ๆส่งมวลสารกันมาอย่างมากมายรวมทั้งพระของหลวงปู่พิศดูด้วยตัวฟีมเองก็นำอังคารธาตุของปู่ที่เคยร่วมบุญไว้ไปมอบให้พระอาจารย์ด้วย

หลังจากนั้นไม่นานพระอาจารย์ท่านก็โทรมาบอกว่า โอ้ย..มาหาทุกวันเลย มาแกล้งบ้าง มาลูบหัวบ้าง มาเตะบ้าง ฟีมถามทำไม่ปู่มาแบบนั้นละครับ ?

ท่านตอบ … เคยเป็นพ่อลูกกันซะอย่างนั้นเอง ชาติก่อนนู้นเคยเป็นพ่อลูกกัน แต่ชาตินี้ไม่ได้เจอกัน มาเจอท่านตอนไม่อยู่ซะแล้ว มาหาแทบทุกคืน

ได้ยินแบบนี้เองฟีมก็ชื่นใจว่าหลวงปู่ท่านจะต้องมาแน่ๆ แม้ในวันหลอมมวลสารนวะโลหะเต็มสูตรหลวงปู่ก็ยังมีเมตตามาดู ขณะที่หลอมมวลสารอยู่น “พระอาจารย์ท่านบอกว่านั่น…เดินเอาจีวรพาดบ่ามาแล้ว เดินรอบโบสถ์เลย รองเท้าก็ไม่ใส่ 5555 ได้ยินแล้วก็ปิติ พระอาจารย์ท่านจะพูดให้ฟังบ่อยครั้งว่าเวลาปู่พิศมาท่านชอบเดินเอาจีวรพาดบ่า ซึ่งมันตรงกันมากๆกับในวันพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ผ่านมา

หลังจากจบพิธีอธิษฐานแล้วขณะที่หลวงตาคูณกำลังจะลุกจากที่นั่ง ท่านก็เหลือบไปเห็นพระชราองค์หนึ่งเดินไปหาพระอาจารย์จิ๊ หลวงตาคูณท่านปรารภกับสามเณรบอล Phanthawat Khamkasem ว่า “นั่นพระที่ไหนเดินเอาจีวรพาดบ่าไปหาพระครู” โดยที่สามเณรเองก็ไม่ได้มองเห็นเพียงแต่นี้รับทราบสิ่งที่หลวงตาบอก ภายหลังฟีมจึงได้ถามกับพระอาจารย์จิ๊ว่า องค์ที่เดินไปหาคือใคร ท่านตอบว่าหลวงปู่พิศดู

ส่วนอีกองค์หนึ่ง หลวงปู่วิชัยท่านจะนั่งปรกอยู่ทางขวามือของพระอาจารย์จิ๊ ถัดจากหลวงปู่วิชัยจะมีโต๊ะและเก้าอี้ว่างจัดไว้อีก 1 ที่ ระหว่างพิธีพระอาจารย์ท่านก็บอกว่า นั่น…มาแล้ว เอาน้ำไปถวายเร็ว ก็มีโยมเอาน้ำไปถวายที่โต๊ะว่างนั้น ในใจฟีมคิดว่าน่าจะเป็นหลวงพ่อผินท่านมาช่วยอธิษฐานจิต แต่ภายหลังทราบว่าเป็นหลวงพ่อเฒ่า (เจ้าของตำราวิชา มนต์พระกาฬ แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย)

หลังจบพิธีหลวงพ่อวิชัยท่านถามพระอาจารย์ว่า พระแก่ๆที่นั่งข้างๆท่านนี่ใคร พระอาจารย์ท่านจึงตอบไปว่า “หลวงพ่อเฒ่าครับ” หลวงปู่วิชัยเอ่ยปากว่า เก่งมากนะเนี่ย เก่งมากๆ “พระอาจารย์ตอบรับว่า .. หลวงพ่อท่านมาเป็นประทานให้ครับ”

พระอาจารย์ท่านยังเสริมอีกว่า…พิธีนี้ดีมากนะ ดีมากๆ ครูบาอาจารย์มากันเป็นร้อยๆองค์ มาปุ๊บๆไป ปุ๊บๆไป 5 นาทีไป ใครมีพระให้เอามาแขวนนะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องเกินที่ดวงตาของปุถุชนอย่างเราๆนั้นจะมองเห็น แต่ครูบาอาจารย์ท่านพูดให้ฟัง จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแต่จะพิจารณา ตัวฟีมเองเชื่อมากว่าหลวงปู่พิศดูนั้นท่านเมตตามาแน่นอน ท่านเคยบอกไว้ว่า “ต่อให้เราไม่อยู่แล้ว ของเราจะยิ่งศักดิ์กว่านี้อีกหลายเท่า” และท่านก็บอกว่าแม้ว่าท่านจะไม่อยู่แล้ว แค่คิดถึงท่าน ท่านจะมาหา”

ท่านยังคอยดูแลลูกศิษย์อยู่ไม่ไปไหน พระอาจารย์จิ๊พูดให้ฟังบ่อยๆ จนมาได้ยินจากหลวงตาคูณที่ท่านเองก็ไม่เคยได้รู้จักหลวงปู่เลย แต่ท่านก็พูดมาในตอนพิธีถึงลักษณะพระที่เห็น ก็ตรงกับที่พระอาจารย์จิ๊เล่าให้ฟัง ก็คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พระสองรูปจะพูดเหมือนกันโดยที่ไม่ได้คุยกันแม้สักคำระหว่างพิธี....

วัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

หลวงตาคูณ โชติโก วัดวังวารีวน ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

@หลวงพ่อวิชัย เขมิโย

 

#เมื่อวานไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์จิ๊..#14ธค64..
#ได้ถวายแร่เหล็กไหลและมวลสารศักดิ์สิทธิ์ไว้สร้างเหรียญรุ่นแรกและพระผงรุ่นแรกครับ ..#ท่านบอกแค่มวลสานไม่ต้องเสกปืนก็ยิงไม่ออกแล้วครับ
#ท่านบอกต่อไปจะหายากและแพงมากครับมีแต่ผู้คนต่างแสวงหามาครอบครองครับ #พระที่จะสร้างที่จะเสกคือมนต์สะท้อนกลับคือวิชาเดียวกันที่หลวงพ่อกวยวัดโฆษิตารามร่ำเรียนจากวัดค้างคาวนี่แหละครับ
#ถามว่าท่านทักแม่นผมบอกตรงนี้เลยว่าแม่นมากเหมือนตาเห็นเลยครับแค่บอกชื่อนามสกุล ((#ถ้าใครคิดลองของท่านจะบอกวันหน้ามาใหม่น่ะหรือไม่ท่านก็ไม่อยู่วัดเลยครับ))
#ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเล่ามาคือผมไปสัมผัสมากลับตัวเองครับ..#ไม่มีสิ่งอื่นสิ่งใดมาเกี่ยวข้อง..
#โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมรับฟังน่ะครับ..#ขอบคุณครับ...
#ศิษย์มีครูเปรียบเสมือนงูมีพิษครับ.. — feeling blessed with Tippawan Poonkrathok at วัดธรรมิกาวาส(วัดค้างคาว).

 

ขอเล่าเรื่องสู่กันฟังเผยแผ่บารมีพระอาจารย์นะคะ
พอดีเห็นพี่ๆในกลุ่มร่วมสร้างเจดีย์ร่วมบุญต้นเสา10,000บาท เราก็อนุโมทนาสาธุกับพี่ไปในใจเราก็อยากทำบ้างแต่กำลังทรัพย์เราไม่ถึง เราเลยคิดในใจถ้าเรามีบุญที่จะได้ร่วมบุญต้นเสา10000บาทก็คงดีตามกำลังที่จะได้ช่วยพระอาจารย์สร้างเจดีย์ และเราได้สร้างบารมีด้วย
วันนี้วันที่10เม.ย 65 เราได้เห็น วิดีโอ ที่ลูกศิษย์ร่วมกันยกขันธ์ 5 ขอขมาพระอาจารย์และกราบขอความเมตตาให้ท่านทรงธาตุขันธ์อยู่ต่อเพื่อเมตตาโปรดลูกหลาน เราก็ฟังและอธิษฐานด้วย พอท้ายวิดีโอท่านให้ร่วมอายุคนที่เป็นตัวแทนขอขมารวมได้295 เราเลยขอบารมีพระอาจารย์ว่าถ้าลูกมีโชคได้สามตัวลูกจะร่วมทำบุญต้นเสาพระเจดีย์10000บาท และก็เป็นเช่นนั้น สาธุในบารมีพระอาจารย์โปรดลูกหลาน ร่วมบุญฝากคุณฟีมไปถวายให้ค่ะ

 

ฟีมมันชอบลองของ ไม่เจอไม่เชื่อ ชอบพิสูจน์
(รูปภายไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ)

อัศจรรย์แล้ว อัศจรรย์อีก แม้ตัวฟีมเองก็ยังมีข้อโตแย้งตลอดเวลาถึงเรื่องบางอย่าง แต่ข้อเท็จจริงของพระอาจารย์ที่ท่านบอกไว้หรือพยากรณ์ไว้ มันถูกพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ด้วยผลฟิล์ม X-Ray อย่างชัดเจน

พี่หลายๆท่านคงได้เคยอ่านเรื่องราวที่ฟีมเคยพิมพ์ไว้เกี่ยวกับการป่วยของฟิล์มเรื่องปอด จากครั้งนั้นที่เล่าไว้ว่าพระฟีมไปถามพระอาจารย์ว่าตัวฟีมนั้นเป็นอย่างไรบ้างพลางทุบไปที่หน้าอก พระอาจารย์ท่านหลับตาครู่หนึ่งแล้วตอบ…

มันเป็นพังผืดที่ปอดนะ ยังไม่หายกินยาไปก่อน เป็นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็น ซึ่งความจริงคือฟีมเป็นมานานแล้วจริงๆ กินยารักษามาก็เกือบแรมปีจนมาถึงวันที่ถามท่าน นี่คือครั้งแรก

อีกครั้งหนึ่งย้อนไปเมื่อ 1 เดือนก่อนนี้ ฟีมมีนัดกับหมอครั้งสุดท้ายซึ่งความเป็นจริงนั้นฟีมต้องหยุดยาแล้ว เพราะครั้งก่อนจากผล X-Ray คือใกล้หายแล้ว กินยาครั้งสุดนี้ครั้งสุดท้าย แต่ก่อนไปพบหมอ ฟีมก็ไปถามพระอาจารย์ว่าปอดหายหรือยังไง ท่านบอกยัง..ยังเป็นอยู่ มันกลับมาอีก ใช้กรรมไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะช่วย ท่านบอกแบบนั้น

แต่คุณหมอบอกว่าครั้งสุดท้ายแล้ว เราก็ค้านๆในใจว่ามันจะไม่หายหรอ ? เมื่อมาถึงวันพบหมอครั้งสุดท้ายผลปรากฏว่า มันไม่หายจริงๆ และหมอก็ให้กินยาต่อ นี่คืออัศจรรยในอภิญญาของท่านโดยแท้ เห็นโดนไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์สักชิ้น

จนมาวันที่พระอาจารย์ท่านรักษาให้ ท่านเล่าว่าสิ่งที่เป็นอยู่นี่มันได้เกิดจากตัวโรคเอง หากแต่มันเกิดจากการโดนของบางอย่าง ท่านสั่งให้ไปหาบ่องไผ่ตันมาท่านจะทำพิธีให้

เมื่อได้บ่องไผ่มา ท่านก็หยิบบ่องไผ่มาจารยันต์พร้อมอธิษฐานจิตชั่วครู่หนึ่ง แล้วท่านก็เรียกฟีมขยับหันหลังเขามา
พระอาจารย์ท่านเอาบ่องไผ่กดลงมาที่หลังบริเวณปอด พร้อมตอกเบาๆ 3-4 ครั้ง ป๊อก ๆ ๆ และภาพนี้คือสิ่งที่ออกมาจากปอด

ตัวฟีมเอง ก็เหมือนคนทั่วไป พยายามรับรู้ หรือเชื่อในสิ่งตัวเองเห็นเท่านั้น เชื่อแต่ก็จะมีข้อข้องใจต่างๆว่ามันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน หลวงพ่อเองท่านพูดบ่อยๆว่า ฟีมมันชอบลองของ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ มันต้องเจอด้วยตัวเอง ถึงจะเชื่อ และวันนี้ฟีมกำลังถูกต้อนให้เชื่อ เชื่อโดยไม่ต้องตั้งข้อแม้อะไรอีก

นี่คือเรื่องจริง ประสบการณ์จริงของตัวเอง มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ มีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ขอผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ

กลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

 

วันนี้วันพระใหญ่ วันมาฆบูชา ผมได้มีโอกาสเดินทางมากราบพระอาจารย์เป็นครั้งแรก และได้นำปัจจัยมาร่วมบุญสมทบทุนสร้างพระบรมธาตุเจดีย์กับท่านตามกำลัง ได้สัมผัสถึงพลังแห่งความเมตตาอย่างเปี่ยมล้นหาที่สุดมิได้จริงๆ ครับ ความจริงวันนี้ตั้งใจจะมากราบท่านเพื่อร่วมบุญอย่างเดียว เพราะวันนี้ตรงกับวันพระ
ปกติได้ทราบจากการแจ้งในกลุ่มว่าท่านไม่รับตรวจดวงชะตา จึงมิได้คิดจะขอให้ท่านตรวจดวงชะตาให้แต่อย่างใดเลย แต่เมื่อไปถึงและกราบนมัสการท่านครั้งที่ 3 เป็นทีเรียบร้อยแล้ว พอเงยหน้าขึ้นเท่านั้นเอง ท่านก็ถามขึ้นมาว่า มาทำอะไร ผมจึงตอบท่านไปว่า มาถวายปัจจัยร่วมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ครับ ท่านตอบรับว่า เออ ดีๆๆ สาธุ แล้วท่านก็พูดต่อว่า เดี๋ยวสิ้นเดือนหน้าก็ดีขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรนะ จากนี้ไปจะดีขึ้นแล้ว (บอกจากใจจริงเลยครับ ซาบซึ้งในความเมตตาของท่านทีสุดจริงๆ ) จากนั้นผมก็ได้กราบเรียนถามท่านในเรื่องสัพเพเหระอีกหลายเรื่อง ใช้เวลาสนทนากับท่านน่าจะเกินครึ่งชั่วโมง จึงขอตัวลาท่านกลับ #ไฮไลท์ก่อนกลับ ท่านให้ข้อคิด กำลังใจเพิ่มเติมว่า #ขอให้มีจิตใจตั้งมั่นอย่าหวั่นไหวนะ สิ่งที่ท่านเมตตาบอกกล่าวผมเป็นการทิ้งท้ายก่อนกราบลาท่าน ในการพบกันเป็นครั้งแรกที่แสนประทับใจ ประโยคนี้คำตอบมันอยู่ในใจของผมหมดแล้ว

ขอกราบแทบเท้าท่านยกย่อง นับถือเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์อีกหนึ่งรูปตลอดไปครับ

 

บทสนทนาธรรมนี้ ขอเล่าเป็นนิทาน เพื่อป้องกันคนปรามาสพระอาจารย์แล้วจะติดกรรมโดยไม่รู้ตัว

บ่ายอ่อน ๆ ของวันเสาร์หลังงานกฐินผ่านพ้นไปหนึ่งวัน รถยนต์เล็ก ๆ คันหนึ่งแล่นผ่านสะพานข้ามคลองที่มีขนาดพอดิบพอดีกับตัวรถ เมื่อเข้าเขตวัด ที่อื่น จะพบน้องหมาเห่ากันขรม แต่ที่นี่พบการต้อนรับของฝูงลิงมากมาย หากมีเด็กมาด้วยคงตื่นตาตื่นใจไม่น้อยทีเดียว

พระ : วันนี้มีอะไรละ? พระท่านเมตตาเอ่ยถาม (หน้าตาดูอ่อนเพลีย คงเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานกฐินและพูดคุยกับญาติโยมที่แวะเวียนมาหาไม่ขาดสาย)

ลูกศิษย์ : วันนี้อยากกราบขอเมตตาให้ช่วยสงเคราะห์เพื่อนของลูกหน่อยเจ้าค่ะ

พระ : อืม…เป็นยังไง?

ลูกศิษย์ : เพื่อนไม่สบายค่ะ พร้อมเอารูปให้ดู

พระ : (หลังเห็นรูป) หนัก!!! เป็นโรคกรรมของเขา (สีหน้าท่าทางหนักใจ) นี่ปวดหัวอยู่ ปวดหนักมาก อืม… อาการหนักนะ อืม…มันหัวรั้นนะ

ลูกศิษย์ : (หน้าเหวอประหลาดใจครั้งที่1) ใช่ค่ะ ๆ แล้วทำอย่างไรดีเจ้าคะ คุณหมอยังหาสาเหตุไม่พบเลยค่ะ นอนรพ.มาหลายวันแล้ว ไม่ทราบว่าเพื่อนโดนคุณไสยฯ เล่นงานไหมคะ?

พระ : มันเป็นโรคกรรม แล้วก็มีเชื้อราที่สมอง นี่จิตเขาหลุดอยู่นะ แล้วนี่ไปเปลี่ยนโหวงเฮ้งมาด้วยใช่ไหม ? ยิ่งไปกันใหญ่

ลูกศิษย์ : (หน้าเหวอประหลาดใจครั้งที่2) ใช่ค่ะ เขาไปทำตากับปากมาค่ะ ไม่นานนี้เอง พระอาจารย์ช่วยหน่อยได้ไหมคะ สงสารแม่เขากับลูกอีก 2 คน ถ้าเขาต้องเป็นอะไรไป แม่กับลูกเขาไม่รู้จะอยู่กันยังไง

พระ : (สีหน้าหนักใจ) หลังออกจากรพ.ได้ 3 วันให้รีบมาหาฉัน มาให้ได้ ถ้ามาไม่ไหวจริง ๆ เอาเสื้อผ้าเขามา ฉันจะช่วย แต่ให้รีบมา!!! แล้วก็ขอขมากรรมกับพ่อแม่ด้วยนะ จะได้ผ่อนหนัก

ลูกศิษย์ : ลูกขอกราบในความเมตตาของพระอาจารย์ที่เมตตาสงเคราะห์เพื่อนของลูกเจ้าค่ะ

นิทานเรื่องนี้ ตั้งใจเผยแผ่เป็นธรรมทานให้เห็นถึงความเมตตาที่พระอาจารย์มีต่อลูกศิษย์เท่านั้น หาได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นเกียรติยศของใครนะจ๊ะ

 

ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ที่ไปมาเมื่อวันก่อนครับ

ก่อนจะมาผมก็นัดกับฟีมว่าอยากไปจะไปหาพระอาจารย์จิ๊ อยากจะถามท่านว่าทำไมช่วงนี้ชีวิตเจอแต่เรื่อง เลยขับรถมากราบท่าน ระหว่างทางฟีมก็เล่าว่าตอนนี้แม่ป่วยหมอนัดทำ CT Scan เพราะตรวจแล้วเจอเม็ดในไต หมอเลยนัดที่จะทำ CT Scan อีกรอบว่าเป็นอะไรกันแน่ นิ่ว หรือ ก้อนเนื้อ ฟีมบอกว่าจะไปถามพระอาจารย์เหมือนกัน

พอไปถึงช่วงเย็นๆแล้ว ก็นั่งคุยกับพระอาจารย์ สิ่งที่ผมอึ้งเลยก็คือ ตอนที่ฟีมเข้ามากราบแล้วพูดว่าพระอาจารย์ครับจะขอถามเรื่องแม่หน่อย อาจารย์พูดสวนขึ้นมาทันที หื้ม!!! มันเป็นนิ่วในท้องน่ะ ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็อาจจะต้องผ่า แต่มันไม่เป็นไรหรอก ท่านพูดออกมาโดยที่ฟีมมันยังไม่ได้เอ่ยถามอะไรเลยสักคำ เพียงบอกไปว่ามีเรื่องจะขอถามสักหน่อย ทำทุกคนหันมองหน้ากันหมด สุดท้ายท่านก็บอกเอาน้ำอมฤตนั่นกลับไปให้แม่กิน หาบุญพาวาสนาส่ง ก็จะได้ไม่ต้องผ่า ไม่ต้องเจ็บตัว

ส่วนเรื่องของผมเอง ที่ผ่านมาโดนรถชน มีปัญหาเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ท่านบอกว่าเป็นช่วงดวงอับดวงตก เรื่องเปลี่ยนงานท่านบอกว่าให้ทนทำไปก่อน ช่วงหลังเมษาจะดีขึ้น (คิดว่าน่าจะเป็นการเปลี่ยนของดวงเมืองด้วย) ก็มีเรื่องส่วนตัวอื่นๆด้วย

สำหรับผมแวะมาหาพระอาจารย์แบบว่า นึกอะไรไม่ออกก็แวะมาหาท่าน มาพูดคุยมากราบไหว้ มาดูเจดีย์ที่กำลังสร้าง มาเป็นสะพานบุญร่วม มาพาเพื่อนทำหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงเรื่องเหรียญหรือเรื่องต่างๆ ผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากมาย แค่เป็นส่วนร่วมมอบเงินบริจาคทำบุญจากสมาชิกถึงมือท่าน ให้สมาชิกได้รับบุญอิ่มบุญกัน ขอให้มีความสุขกับการได้ทำบุญ ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆคนด้วยนะครับ

 

หลวงพ่อพูดได้ตกใจมากเมื่อวานหลังจากทำบุญก็คุยต่ออีกสักพัก โยก็บอกหลวงพ่อว่า ไม่เคยถูกหวยเลย หลวงพ่อบอกว่า ก็ซื้อมาแล้วนี่นา สองตัวนั่นแหละ โยยังบอกมจริงหรือเปล่าหลวงพ่อ วันนี้ปรากฏ ถูก09 จริงๆ ที่สำคัญหลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าโยซื้อลอตเตอรี่มาแล้ว

 

กราบนมัสการพระอาจารย์
#ถวายปัจจัยร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ 2,000-.บาท
#ถวายน้ำดื่ม 10 โหล
#ถวายข้าวสาร 5 ก.ก. ประสบการณ์ที่ได้พบท่านครั้งแรกในวันนี้
พระอาจารย์ท่านเมตตามาก ท่านเรียบง่าย เข้าถึงท่านได้ง่าย
*มกราคมปีหน้าให้มาหาท่านใหม่นะ
2 เดือนนี้ใช้วิบากไปก่อน
*หมั่นทำบุญตักบาตรอุทิศบุญ กรวดน้ำให้เทวดาประจำตัว
*อาการเจ็บป่วยของสามีเกิดจากเส้นพลิกแล้วอักเสบ หาอะไรคอยประคบจะดีขึ้น
*ให้ภาวนาพระคาถาหัวใจปฏิสังขาโยนี้
#จิปิเสคิ มีคุณค่าวิเศษมาก พระคาถานี้ใช้ได้สารพัด
*บ้านที่อาศัยอยู่ปัจจุบันนี้ดีนะ
*ลูกชาย 2 คน เอาตัวรอดได้ เดี๋ยวจะได้งานเพื่อนจะช่วย ขอให้พอจ.เมตตาช่วยให้เขาได้งาน
*สวดอิติปิโสอย่างที่สวดไปนะดีแล้ว จะได้ไม่ฟุ้ง อย่าไปเครียด วิตกกังวลเกินไป
*ให้ระวังปัญหาในช่องท้อง

มกราคมปีหน้าพวกเราจะขึ้นไปกราบพระอาจารย์และร่วมทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์กับท่านค่ะ

ขอบคุณน้องฟิล์มที่เป็นสะพานบุญให้ครอบครัวพี่ได้มีโอกาสร่วมสร้างบุญในครั้งนี้ค่ะ

 

ขออนุญาตเล่าเรื่องราวอัศจรรย์ใจครับ เมื่อวันเสาร์ที่11มิถุนายน2565ที่ผ่านมา ผมไปหาพระอาจารย์จิ๊ที่วัด ก่อนไปก็ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน อดหลับอดนอนไปกัน ไปวัดหลวงพ่อกวยก่อน ออกจากวัดหลวงพ่อกวยก็ไปหาพระอาจารย์จิ๊ ไปไม่ได้บอกใคร ปกติท่านจะอยู่ที่ศาลาไอ้ไข่ แต่วันนี้ไปไม่เจอ สักพักมีเณรน้อยเดินมาหาผม มาบอกว่าพระอาจารย์ให้มาตามครับ ผมก็ถามไปว่าให้มาตามผมหรอ เณรตอบว่าใช่ครับ

พอเดินไปที่โบสถ์ ท่านก็เรียกเราเลย นะๆมานี่ๆ เข้ามานี่ เราก็งงเลยท่านรู้ได้ไงว่าเรามา ไปไม่ได้บอกใครสักคน พระอาจารย์ท่านเมตตาเอาเหล็กจารหัวให้ แล้วท่านก็เล่าอะไรให้ฟังหลายอย่างครับ บอกเลยว่าแม่นอย่างกับตาเห็น พระอาจารย์นี่เพชรเอกเมืองชัยนาทเลยครับ..
#บารมีพระอาจาย์จิ๊ #ฐานสีโล..#วัดค้างคาว #อำเภอสรรคบุรี #จังหวัดชัยนาท.. — with Tippawan Poonkrathok at วัดค้างคาว บางขุด ชัยนาท.

 

ของหายากยิ่งกว่าสิ่งใด

ที่ผ่านมาแม้จะนั่งรอหลายครั้งแต่พอท่านตัดเสร็จ เล็บที่อยูบริเวณนั้นก็หายไปหมด แม้เราจะนั่งรออยู่ใกล้ๆก็หาไม่เจอ (ไม่รู้ตัดแล้วหายไปไหน)

ครั้งนี้ไม่ยอมพลาด นั่งจ้องกันเลย หล่นปุ๊บหยิบปั๊บ เพราะเคยนั่งรอจนท่านตัดเสร็จแล้วมาเก็บมันจะหายไป (ภายหลังท่านบอกว่า”เขามาเอาไป”

ตัดมาแปปๆเล็บของพระอาจารย์ก็แปรเป็นพระธาตุแล้ว

 

#เรื่องเล่าเคล้าความขลัง พี่ชายมาเล่าไว้ในกลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565

วันนี้ผมขออนุญาตมาเล่าประสบการณ์อัศจรรย์ขององค์หลวงพ่อจิ๊ มาให้พี่น้องศิษยานุศิษย์ทุกท่านได้อ่านกันครับ

หลังจากผมได้มีโอกาสได้ไปกราบท่านหลายรอบ เนื่องด้วยรู้จักท่านจากพี่ที่รู้จักในสายขลังท่านหนึ่ง ได้แนะนำว่าหลวงพ่อจิ๊คือพระดีแท้ พระอภิญญาที่มีวิชาอาคมเข้มขลังเหมือนพระเกจิอาจารย์ในตำนานยุคโบราณ ที่สมควรรีบไปกราบร่วมบุญกับท่าน และท่านยังเป็นศิษย์สายวัดท่าซุง สายปฏิบัติที่ผมศรัทธาอยู่ด้วย ผมก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีครับ

แต่ผมก็ปล่อยเวลามาสักระยะหนึ่ง ด้วยแรกจิตผมยังชั่วอยู่มากนัก เห็นรูปท่านจากในเฟสบุ๊ค ดูแล้วท่านยังเป็นพระอายุไม่มาก จึงยังมีจิตชั่วแอบคิดไม่ศรัทธาท่านอยู่บ้าง ด้วยในอดีตผมเคยหลงศรัทธาพระที่มีลีลาเหมือนจะน่าศรัทธาจนหมดใจ แต่ภายหลังกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมจึงคอยดูรอโอกาสเหมาะอยู่สักพักหนึ่ง

จนกระทั้งมีเวลาว่าง ผมจึงมีโอกาสเดินทางจากผ่านทางชัยนาท จึงได้เข้าไปกราบท่าน แต่วันนั้นกว่าจะได้เดินทางไปถึงได้ มีอุปสรรคขัดขวางมากมายครับ ทั้งรถติดหนัก ทั้งเจอด่านตำรวจ เหมือนกับว่าชีวิตเรากำลังจะเจอสิ่งดีๆ จึงมีมารมาขัดขวางอย่างเต็มที่

พอไปถึงวัดผมรอท่านจนเย็นจนกว่าจะได้พบท่าน แรกเห็นท่าน ท่านยิ้มด้วยความเมตตา ทำให้ผมเกิดความศรัทธาขึ้นอย่างประหลาด ผมและครอบครัวที่มากันนวันนั้น ทุกคนต่างถามคำถามท่านไปหลายคำถาม บางคำถามเรายังไม่ได้ถามท่านก็พูดออกมาแล้ว ทำให้สิ่งที่เคยเป็นที่ขัดข้องสงสัยทั้งหลาย ท่านเมตตาคลี่คลายไปจนหมดสิ้นด้วยความเมตตา

ระหว่างนั้น พี่ชายของผมที่อยู่ต่างจังหวัดได้ฝากดูดวงด้วย ผมได้โทรคุยวิดีโอกับพี่ชายต่อหน้าท่าน ท่านเมตตาตรวจดูด้วยญาณ ทำให้ทราบว่าเวลานี้พี่ชายผมกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก จากการถูกกระทำคุณไสย์มนต์ดำ และช้คุณผีเข้ากระทำย่ำยีพี่ชายของผมและครอบครัวจนย่ำแย่ จากคนบ้านติดๆกันที่เขามีวิชา เนื่องด้วยสาเหตุจากเรื่องที่ดิน ท่านเมตตาบอกว่าให้พี่ชายผมเดินทางมาหาท่านที่วัด แล้วท่านจะทำพิธีการแก้ไขให้ ให้รีบมาก่อนจะสายเกินไป เพราะเขาหวังเอาถึงชีวิตคนทั้งบ้าน

ซึ่งก่อนหน้านี้พี่ชายของผมได้ล้มป่วยลงด้วยอาการปวดไหล่และคออย่างหนัก จนมือชา ปวดจนนอนไม่หลับจนต้องเข้าโรงพยาบาล กินยาก็เพียงแค่ทุเลาแต่ยังไม่ดีขึ้น

หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้นัดแนะพาพี่ชายและครอบครัวเดินทางมากราบท่านอีกครั้ง พอเข้าไปท่านเหมือนรู้ว่าเราจะมา ท่านกำลังนั่งรออยู่แล้ว ท่านเมตตาทำพิธีแก้ของให้ โดยท่านเอาไม้เท้าเก่าที่ลงยันต์ของท่านนำมาแตะที่ศรีษะของพี่ชายผมและครอบครัวของพี่ชาย จนหมดทุกคน ท่านเอาไม้เท้ามาแตะแล้วหลับตาใช้สมาธิ ไม่นานท่านก็บอกว่า อ้าว ไม่มีอะไรแล้ว

และท่านยังให้แนะนำให้พี่ชายของผมย้ายออกมาจากบ้านหลังนี้โดยเร็ว เพราะได้ฝังอาถรรพ์ลงไปในที่ดินของพี่ชายผมก่อนพี่ชายผมจะปลูกบ้านทับลงไป จนบ้านนี้อยู่กันไม่ได้ มีแต่เรืองเดือดร้อน

หลังจากนั้นไม่นานเชื่อไหมครับท่านทั้งหลาย อาการปวดคอไหล่ของพี่ชายผมที่ปวดทรมานมานานหลายเดือนกลับหายไปเป็นปลิดทิ้ง จนพี่ชายผมตกตะลึง และทึ่งด้วยความศรัทธาในตัวหลวงพ่อ

อีกเรื่องหนึ่งครับคือที่บ้านของผมกำลังจะขายที่ดินแปลงหนึ่ง ซึ่งที่ดินแปลงนี้เจ้าที่แรงมาก เป็นดวงวิญญาณเฮี้ยนเฝ้าที่ไม่ยอมไปเกิด ทำให้ที่ดินแปลงนี้ขายไม่ได้สักที

พี่ชายของผมได้ไปพบซินแสท่านหนึ่ง ที่เขาก็คงสัมผัสได้ เขาแนะนำบอกว่าให้ไปเอาทรายจากวัดที่กำลังสร้างเจดีย์ มาให้พระเสก แล้วไปโรยที่ดิน จะขายได้ ทำให้นึกถึงวัดคังคาว ที่หลวงพ่อจิ๊ท่านกำลังสร้างพระเจดีย์อยู่ ผมจึงได้เดินทางไปหาหลวงพ่ออีกครั้ง เพื่อที่จะกราบเรียนขอทรายให้ท่านเสกให้ไปโรยที่ดิน

พอผมไปถึงวัด จอดรถเดินลงไปพบหลวงพ่อกำลังนั่งคุมงานสร้างเจดีย์อยู่หน้ากุฏิ ผมก้มไหว้ท่านยังไม่ทันได้พูดอะไรไป หลวงพ่อจิ๊ท่านกลับพูดส่วนมาว่า "เอ้า ไปตักทรายมา เดี๋ยวจะเสกให้" ทำให้ผมอ้าปากค้างและรีบไปตักทรายมาให้ท่านเสก ผมตักมาได้จำนวนหนึ่งใส่ถุงพลาสติก ยื่นให้หลวงพ่อ ท่านนำทรายไปถือไว้ที่อก แล้วหลับตาเข้าสมาธิเสกให้เพียงไม่กี่อึดใจ แล้วท่านก็ยื่นถุงทรายกลับมาให้ผม

เชื่อไหมครับท่านทั้งหลาย ทรายถุงนั้นที่ผมตักเองกับมือ มันกลับกลายเป็นทรายที่ร้อนจี๋ เหมือนถูกต้มหรือเผามาด้วยความร้อน ผมจับถุงทรายแล้วถึงกับสะดุ้ง อุทานกับท่านว่าทรายร้อยจี๋เลยครับหลวงพ่อ ท่านยิ้มๆ แล้วก็แนะนำบอกคาถาและวิธีการใช้ และท่านยังบอกว่ามาคราวหน้าให้ซื้อทรายมาเข้าวัดด้วย เพื่อเป็นการทดแทนของสงฆ์ จะได้ไม่ติดหนี้สงฆ์

เรื่องสุดท้ายที่ผมจะเล่าคือเรื่องของการลงนะหน้าทองครับ ด้วยตัวผมเองนี้ชอบลงนะหน้าทองเพื่อเสริมราศี โดยก่อนหน้านี้นั้นผมได้ไปทำพิธีลงนะหน้าทองที่หลวงพ่อท่านหนึ่งที่สมุทรสงคราม ท่านทำพิธีเอาทองคำเปลวแท้ๆมาปิดหน้าผากและลงยันต์เฉยๆ ไม่ได้เป่าทอง ซึ่งผมศรัทธาหลวงพ่อองค์นี้เป็นการส่วนตัว ไปลงกับท่านทุกปีครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะท่านแค่ปิดทองเปลวบนหน้าผากเราเฉยๆ แล้วก็เขียนยันต์ถูๆไถๆ ตรงหน้าผากเรา ก็ไม่ได้คิดว่าจะพิเศษอะไร ผมทำไปเพราะทำแล้วรู้สึกชีวิตดีครับ

แล้วพอครั้งนี้ผมได้ไปกราบหลวงพ่อจิ๊ พอได้คุยกับท่านเสร็จก่อนจะกลับ ผมได้กราบเรียนของท่านให้ท่านลงนะหน้าทองให้ ซึ่งผมแอบเตรียมทองคำเปลวมาซะหลายแผ่น กะจะให้ท่านลงให้เต็มที่ พอผมเอ่ยปากกราบเรียนให้ท่านลงทอง หลวงพ่อจิ๊ท่านมองหน้าผมสักพัก แล้วก็มองขึ้นหน้าผากผม แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า "โอย ไม่ต้องลงแล้วแบบนี้ ทองเต็มกระโหลกแล้ว ที่เคยไปลงน่ะ เขาลงไว้ดีแล้ว" เล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ เพราะผมไม่เคยบอกท่านมาก่อนเลยว่าเคยไปลงทองที่ไหนมา แล้วผมถามท่านว่า ทองเข้ากระโหลกผมไหมครับ ท่านบอกว่า " เออ เต็มไปหมดเลย ดีแล้ว ไม่ต้องลงแล้ว" ทำให้รู้ว่าสายตาท่านและญาณทัศนะอันแก่กล้า ท่านสามารถมองทะลุเข้าไปในกระโหลกของเราได้เลยครับ

ยุคนี้สมัยนี้จะหาพระที่เก่งด้วยวิชาอาคม และอภิญญาจิตสูงส่ง ดั่งพระเกจินตำนานโบราณ อย่างหลวงพ่อจิ๊ ในยุคสมัยนี้คงยากเย็นเต็มที่แล้วครับ ท่านเป็นพระที่มากไปด้วยวิชาอาคมมากมาย พลังจิตแก่กล้าด้วยท่านสำเร็จอภิญญาจิต วิชาอาคมของท่านสายเดียวกับหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค สายปฏิบัติของท่านสายเดียวกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำแห่งวัดท่าซุง ครูบาอาจารย์ของท่านมากมาย ทั้งครูในโลกและครูเหนือโลก ใครได้มาพบหลวงพ่อจิ๊ ผมถือว่าท่านมีบุญวาสนามากๆครับ

ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าอาจจะยังมีจิตชั่ว ด้วยกิเลสมานะ ยังไม่ศรัทธาท่าน แต่ตอนนี้ผมกลับต้องเอาหัวของผมก้มลงกราบที่เท้าท่านด้วยความเคารพศรัทธาอย่างหมดใจ หลวงพ่อจิ๊ท่านเป็นพระแท้ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ผู้เปี่ยมเมตตากับศิษย์ทุกคน เป็นพระที่ก้มกราบได้สนิทใจครับ

 

รูปหล่อ คนมาเสกไม่ใช่ธรรมดานะครับ

####วันนี้ฟีมมาเล่านิทานให้ฟังครับ####

ต้องขอย้ำไว้ก่อนว่าคือนิทาน อ่านแล้วโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อ่านแค่พอขำๆ อ่านแค่พอจรรโลงใจพอนะครับ

บ่ายวันนั้นก่อนที่ทางทีมงานรายการหนึ่ง ที่มีพิธีกรนามว่าหมอเอ (นามสมมุติ) จะเข้ามาถ่ายทำรายการ พอจ.บอกว่าวันนี้น้ะ คอยดูนะโบสถ์เปิดไม่ได้หรอก ครูบาอาจารย์มากันเยอะ (มาอธิษฐานวัตถุมงคลรูปหล่อให้)

เวลาผ่านไปจนกระทั่งทีมรายการเข้ามาวัดก็เริ่มถ่ายทำไปสักระยะนึง ก็ไปตรงนู้นที ตรงนี้ที จนเดินมาถึงโบสถ์ ทางผู้ดำเนินรายการขออนุญาตเข้าโบสถ์ แต่ปรากฏว่าประตูโบสถ์ไม่สามารถเปิดได้ แม้จะใช้คนยื้อยุดชุดกระชากกันอยู่สองสามคน ใช้เวลานานราวๆ 5-6 นาทีก็ยังเปิดไม่ได้จนหมอเอต้องเดินไปที่อื่นก่อนแล้วถึงกลับมาที่โบสถ์อีกครั้ง (ความจริงประตูโบสถ์ไม่ได้เปิดยากเลยแม้แต่นิดแค่เอามือผลักก็เข้าไปได้แล้ว)
เชื่อว่าหลายท่านที่ชมรายการอยู่ก็จะเห็นเหมือนกัน

พอจ.ท่านเล่าว่าตอนนั้นสมเด็จท่านลงมาทำให้ (สมเด็จไหนฟีมก็จะไม่ขอเอ่ยนามของท่าน วัดอยู่ย่านวังหลัง) อีกทั้งหลวงพ่อวัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อวัดบางนมโค จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ย้ำอีกครั้งว่านิทาน อย่าไปยึดติดนะครับ ฟีมเพียงอยากเล่านิทานให้ฟังเฉยๆ

 

มนต์พระกาฬ

ใครลูกศิษย์หลวงพ่อกวย ไม่มีวัตถุมงคลของท่าน เอาของฉันไปใช้ได้เหมือนกันใช้แทนกันได้หมด วันงานท่านก็มาลงมนต์พระกาฬให้ สายอยุธยาอีก มาเยอะมากันเป็นร้อยๆองค์ มานั่งแป๊ปๆไป แป๊ปๆไป

วัตถุมงคลที่ได้ไป ให้เอาออกมาใช้นะ อย่าเอาไปเก็บ แล้วจะรู้ว่ามันดียังไง
ข้อมูลจากพี่ : ศริตวรรธน์ ภาสิริวงศ์

 

บทสนทนาธรรมนี้ ขอเล่าเป็นนิทาน เพื่อป้องกันคนปรามาสพระอาจารย์แล้วจะติดกรรมโดยไม่รู้ตัว

บ่ายอ่อน ๆ ของวันเสาร์หลังงานกฐินผ่านพ้นไปหนึ่งวัน รถยนต์เล็ก ๆ คันหนึ่งแล่นผ่านสะพานข้ามคลองที่มีขนาดพอดิบพอดีกับตัวรถ เมื่อเข้าเขตวัด ที่อื่น จะพบน้องหมาเห่ากันขรม แต่ที่นี่พบการต้อนรับของฝูงลิงมากมาย หากมีเด็กมาด้วยคงตื่นตาตื่นใจไม่น้อยทีเดียว

พระ : วันนี้มีอะไรละ? พระท่านเมตตาเอ่ยถาม (หน้าตาดูอ่อนเพลีย คงเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานกฐินและพูดคุยกับญาติโยมที่แวะเวียนมาหาไม่ขาดสาย)

ลูกศิษย์ : วันนี้อยากกราบขอเมตตาให้ช่วยสงเคราะห์เพื่อนของลูกหน่อยเจ้าค่ะ

พระ : อืม…เป็นยังไง?

ลูกศิษย์ : เพื่อนไม่สบายค่ะ พร้อมเอารูปให้ดู

พระ : (หลังเห็นรูป) หนัก!!! เป็นโรคกรรมของเขา (สีหน้าท่าทางหนักใจ) นี่ปวดหัวอยู่ ปวดหนักมาก อืม… อาการหนักนะ อืม…มันหัวรั้นนะ

ลูกศิษย์ : (หน้าเหวอประหลาดใจครั้งที่1) ใช่ค่ะ ๆ แล้วทำอย่างไรดีเจ้าคะ คุณหมอยังหาสาเหตุไม่พบเลยค่ะ นอนรพ.มาหลายวันแล้ว ไม่ทราบว่าเพื่อนโดนคุณไสยฯ เล่นงานไหมคะ?

พระ : มันเป็นโรคกรรม แล้วก็มีเชื้อราที่สมอง นี่จิตเขาหลุดอยู่นะ แล้วนี่ไปเปลี่ยนโหวงเฮ้งมาด้วยใช่ไหม ? ยิ่งไปกันใหญ่

ลูกศิษย์ : (หน้าเหวอประหลาดใจครั้งที่2) ใช่ค่ะ เขาไปทำตากับปากมาค่ะ ไม่นานนี้เอง พระอาจารย์ช่วยหน่อยได้ไหมคะ สงสารแม่เขากับลูกอีก 2 คน ถ้าเขาต้องเป็นอะไรไป แม่กับลูกเขาไม่รู้จะอยู่กันยังไง

พระ : (สีหน้าหนักใจ) หลังออกจากรพ.ได้ 3 วันให้รีบมาหาฉัน มาให้ได้ ถ้ามาไม่ไหวจริง ๆ เอาเสื้อผ้าเขามา ฉันจะช่วย แต่ให้รีบมา!!! แล้วก็ขอขมากรรมกับพ่อแม่ด้วยนะ จะได้ผ่อนหนัก

ลูกศิษย์ : ลูกขอกราบในความเมตตาของพระอาจารย์ที่เมตตาสงเคราะห์เพื่อนของลูกเจ้าค่ะ

นิทานเรื่องนี้ ตั้งใจเผยแผ่เป็นธรรมทานให้เห็นถึงความเมตตาที่พระอาจารย์มีต่อลูกศิษย์เท่านั้น หาได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นเกียรติยศของใครนะจ๊ะ

 

ใครมาขอให้ฉันช่วย ฉันช่วยหมด

พระอรหันต์ก็คน ก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนี่แหละ ใครมาขอให้ช่วยฉันก็ช่วยหมด ช่วยหมดจริงๆ แต่บางทีมันเหนื่อย กว่าจะได้ไปช่วย

บางคนกว่าจะนอนดึกดื่น ฉันก็ต้องมานั่งรอให้หลับเสียก่อน รอจนจิตมันว่างถึงจะเข้าไปได้

บางคนมาหาโดนฉันไล่ โดนด่าใส่ เขาก็เก็บไปยึดติดใจว่าฉันไปดุด่า ไปไล่เขา ที่จริงไม่ใช่ ที่จริงด่าไอ้พวกที่แฝงมาต่างหาก แต่เขาไม่รู้ก็พาคิดไปว่าฉันด่าเขา

เหนื่อย ...ไม่ได้พักได้ผ่อน ทุกวันนอนไม่เคยพอ ร่างกายมันก็เลยแย่ไปหมด

 

เรื่องแปลกไปในพิธีพุทธาภิเษก เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อจิ๊

หลังจาก หลวงตาคูณ พรมน้ำมนต์ให้ญาติโยมเสร็จท่านได้สะกิดผม แล้วท่านก็พูดว่า...ไปๆ ไปต่ออายุให้อาจารย์ แล้วท่านก็พูดขึ้นต่อไปอีกว่า นั้นเห็นไหมมีพระเฒ่าๆเอาผ้าคล้องคอเดินออกก่อนแล้ว พอท่านเดินไปถึง หลวงพ่อจิ๊ ท่านก็พูดขึ้นว่า...ผมมาต่ออายุให้แล้วท่านก็ยิ้ม....พอหลวงตาคูณ พรมน้ำมนต์ลงมือหลวงพ่อจิ๊ ท่านก็รีบยกมือที่ลองน้ำมนต์ ที่องค์หลวงตาคูณพรมให้แล้วลูบหัวสามครั้ง แล้วหลวงตาคูณก็เดินออกมา

หลังจากนั้นช่วงค่ำ ผมมีโอกาสได้สนทนากับ หลวงพ่อจิ๊เลยพูดเรื่อง ที่หลวงตาคูณในพิธีให้ท่านฟัง ท่านตอบผมมาว่า.... นั้นหลวงปู่พิศดู มาหลายรูป หลวงพ่อปาน หลวงพ่อผินก็มา

เรื่องราวที่เราไม่ค่อยได้ยินได้เห็นก็ได้เห็นในพิธีนี้

 

#อยากเล่าประสบการณ์การพบพระอาจารย์ครั้งแรก
ช่วงเดือนมิถุนายน แฟ้มได้มีโอกาสไปติวหนังสือฟรีให้กับน้อง ๆ ที่ชัยนาท พอดีพี่วิทยากรที่มาด้วยกันแนะนำว่า ถ้ามาที่นี้เเล้ว หนูควรแวะไปกราบพระอาจารย์จิ๊เพื่อถวายปัจจัยร่วมสร้างพระเจดีย์กับท่านและสอบถามเรื่องราวในบางเรื่องที่หนูรู้สึกไม่สบายใจ
.
พอไปถึงก็พบคุณลุงกับคุณป้ากำลังปรึกษาพระอาจารย์อยู่ แฟ้มก็ได้แต่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ พอถึงเวลาของตัวเอง ดันลืมคำถามไปหมด ไม่รู้จะถามอะไร เลยถามพระอาจารย์ว่า ชีวิตหนูจะดีขึ้นไหมคะ แล้วความเจริญรุ่งเรืองของสัมมาอาชีพจะเป็นไปในทิศทางไหน ท่านตอบเพียงสั้น ๆ ว่า รอเดือนถัดไป จะดีหมดในทุก ๆ อย่าง
.
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดีขึ้นและลงตัวจริง ๆ แฟ้มก็ได้ร่วมบุญกับทางวัดเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อตอนต้นเดือนได้มีโอกาสไปบวชที่วัดมเหยงคณ์เป็นระยะเวลา 7 วัน หลังจากสึกก็วางแผนว่าจะแวะไปกราบพระอาจารย์ในวันถัดไป
.
ครั้งที่ 2 ที่ได้พบพระอาจารย์ได้นำใบจดทำเบียนการค้าไปให้พระอาจารย์ช่วยเจิมให้ ท่านก็เมตตาลงยันต์ให้ ตอนนั้นไม่มีคนมากราบพระอาจารย์ มีแฟ้มแค่คนเดียว เลยแอบถามพระอาจารย์ว่า หนูจะมีโอกาสรวยไหมคะ ท่านก็บอกว่ารวย คำนี้ทรงพลังมาก ถือเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ในการทำงานของแฟ้มเลย
.
ที่มาเล่าประสบการณ์ในครั้งนี้ จริง ๆ มีเรื่องที่ประหลาดใจหลายอย่าง แต่ไม่อยากพูดออกไป อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตนเองกับพระอาจารย์ ถ้าแวะไปหาท่าน แนะนำให้ใช้กำลังกายช่วยพี่ ๆ ที่กำลังก่อสร้างพระเจดีย์สักนิดก็ยังดีนะคะ ส่วนตัวแอบไปช่วยยกปูนกับตักทรายนิดหน่อย
.
กราบนมัสการพระอาจารย์จิ๊ด้วยความน้อบน้อมแด่พระอริยเจ้าสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยความเคารพ
… ดร. แฟ้ม …