><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2114.พระกรรมฐานผู้ซ่อนเร้นมากด้วยอภิญญาของจริง(New2)
    รูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ศิษย์ลป.มั่น,ศิษย์พอจ.จวน ยุคสร้างสะพานขึ้นภูทอก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    646JpE.jpg
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม บ้านนาเจริญ จ.บึงกาฬ เนื้อว่านผสมผงมหาพุทธคุณ มหาอนันตัง(มวลสารมากมายเกินบรรยายตามแบบฉบับ อ.อำพล เจน) ใต้ฐานฝังแผ่นทองฝาบาตร ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 รังสรรค์ผลงานโดย อ.อำพล เจน อัครศิลปินแห่งสำนักห้วยไผ่

    อธิษฐานจิต : ( 6 สค 54 – 13.13 น. )
    หลวงปู่ทองสาอธิษฐานจิตปลุกเสกรูปเหมือนรุ่นแรกขององค์ท่าน โดยใช้เวลากำหนดจิต 9 นาที ไม่รวมเวลาสวด
    ท่านตั้งใจเสกรุ่นนี้เป็นที่สุด ปกติทุกครั้งที่เคยเห็นท่านเสก อย่างมากก็แค่ 5 นาที , วางกล่องพระลงตรงหน้าก็นั่งหลับตาเสกเลย คราวนี้แปลก ท่านสวดก่อน แว่วๆว่าเป็นการสวดตั้งธาตุ แล้วจึงนั่งกำหนดจิตนิ่งสนิท แทบไม่เห็นอาการไหวของลมหายใจ

    สรุปจำนวนที่ถวายหลวงปู่
    - เนื้อทองทิพย์ 1,289 องค์
    - เนื้อว่าน 4,069 องค์
    หลวงปู่จะไม่เอาออกมาจำหน่าย ท่านจะแจกฟรี ได้ยินว่าจะเอาไว้แจกผ้าป่า

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม
    ท่านเป็นพระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ที่เก็บตัวซ่อนเร้นไม่ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอก อยู่ป่าอยู่เขาที่วิเวกเงียบสงัด ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) แต่ก็ทันพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ในขณะที่ยังเป็นสามเณร เราท่านอาจไม่รู้จักท่าน แต่ในหมู่พระกัมมัฐฐานโดยมากรู้จักท่านทั้งนั้น

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม เล่าว่า เหตุที่ท่านได้มาอยู่วัดป่าจิตตวิทยาราม ซึ่งเป็นวัดร้างนั้นเพราะ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ( วัดภูกระแต ) มีบัญชาให้ท่านมาบูรณะและรักษาวัดร้างให้กลับคืนเป็นวัดดี

    เมื่อวานนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (23 มกราคม 57)
    คือวันที่หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม ถึงกาลมรณภาพ
    แต่เดิมหลวงปู่ทองสาเป็นพระเก็บตัวเงียบ ใครนิมนต์ไปปลุกเสกพระที่ไหนก็ไม่ไป เห็นกล้องถ่ายรูปจะเดินหนี ใครขอถ่ายรูปก็ไม่ให้ถ่าย หลังจากพรรษาอายุมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงอนุโลมให้
    ในที่สุดแล้ว เพียงไม่นานปี ท่านก็จากหมู่ศิษย์อย่างไม่มีวันกลับ

    เกี่ยวกับหลวงปู่ทองสา
    ทราบมาจากคำบอกเล่าของท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ว่า แต่เดิมท่านเป็นพระที่ปิดตัวเงียบเชียบ แม้กระทั่งการถ่ายรูป ท่านก็มักจะเลี่ยงไม่ยอมถ่าย การปลุกเสกต่างๆก็ไม่ใคร่ทำ แต่ครั้นได้พบกับท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ ท่านกลับอนุโลม จะด้วยลูกตื้อ หรืออะไรก็มิทราบได้ (ในกรณีนี้เหมือนกับอีกหลายกรณีที่ครูบาอาจารย์ที่ว่าไม่เสกๆ แต่สุดท้ายก็เสกให้ เช่น สาธุใหญ่คำจันทร์ เป็นอาทิ) จนเป็นที่มาแห่งมรดกขลังหลายอย่าง ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นว่า มหากศปฤาษี, พระนาคเกี้ยวใหญ่, ตระกรุดหัวใจพระปาฏิโมกข์, พระพิราพ, ล๊อกเกต รวมถึงพระรูปเหมือนรุ่นแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
    คนที่สัมผัสกับท่านจะรู้สึกถึงความสงบ สะอาด ร่มเย็น ด้วยท่านมีกริยาสุภาพ พูดน้อย เสียงเบาบางครั้งท่านผู้เฒ่าต้องสะกิดคนข้างๆว่าท่านพูดอะไร เพราะฟังไม่ถนัด ส่วนเรื่องการปลุกเสกนั้น แลเห็นถึงความตั้งใจของท่านมาก อย่างเมื่อครั้งท่านปลุกเสกพระพิราพ ท่านก็เสกเป็นเวลานานจนจำวัดที่หน้ากล่องพระนั่นเลย หรือพระรุ่นอื่นๆ ท่านก็เสกอย่างตั้งใจ เอาจนพอใจ อย่างพระกศปมหาฤาษี ท่านออกปากเองว่า "เมตตาหลวง" เป็นต้น
    ดังนั้นในยุคนี้จึงมั่นใจได้ว่า หลวงปู่ทองสา เป็นอีกองค์ที่สร้างขลังแบบบินเดี่ยวได้ไม่แพ้ใคร รุ่นนี้คักๆๆหลายครับ



    # หลวงปู่ทองสา ร่วมสร้างสะพานไม้ภูทอก
    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม เป็น ๑ ในพระ ๒๐ รูปที่ไม่ตกใจกลัวความสูง
    ท่านเล่าว่า..มีพระไม่กี่รูปที่จะต้องโหนตัวลงสู่หน้าผา ลอยอยู่กลางอากาศ เพื่อตอกสกัดหินเพื่อจะฝังเสาค้ำสะพานไม้ที่ภูทอก
    หลวงปู่คงไม่ทราบว่า สะพานไม้ขนาบหน้าผา ไต่ขึ้นสู่ยอดภูทอก ซึ่งท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการร่วมสร้างนั้น ปัจจุบันคือสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆที่ผู้คนยกย่อง ถือเป็นผลงานน่าทึ่งเท่าที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถทำได้
    หลวงปู่ทองสาอาจมีคุณวิเศษในการทำของหนักให้กลายเป็นเบา
    ครั้งหนึ่งที่วัดภูผาแดง ชาวนาไถคราดถูกเศียรพระพุทธรูปสัมฤทธิ์หัก และนำเอาเศียรพระพุทธรูปนั้นมาถวาย
    หลวงปู่ได้ถามถึงส่วนที่เป็นลำตัวของพระพุทธรูป ..แต่ชาวนาบอกไม่ทราบ.. พบแต่เศียรเท่านั้น
    ท่านจึงให้ชาวนาพาไปดูบริเวณที่พบเศียรพระพุทธรูป ซึ่งเป็นนาน้ำท่วม
    ท่านยืนเพ่งดูอยู่อึดใจเดียว
    พระพุทธรูปที่เป็นส่วนลำตัวก็ลอยบุ๋งขึ้นมาเหนือน้ำอย่างน่าอัศจรรย์

    ผมมีวาสนาได้เห็นพระพุทธรูปทั้งองค์ที่พระลูกวัดทำการต่อเศียรแม้ไม่แนบเนียนแล้วด้วย
    เป็นพระพุทธรูปศิลปลาว ที่เรียกว่าเชียงรุ้ง หน้าตักประมาณ ๗ นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์เขียวคล้ำ ดูเก่าแก่เอาการ


    # ย้ายศาลา 40ต้นเพียงข้ามคืน
    หลวงปู่ทองสาพำนักอยู่วัดที่มีเรื่องศาลาผีดุ ซึ่งผมได้เขียนไปแล้วเมื่อหลายฉบับก่อน ซึ่งศาลาหลังนี้เป็นศาลาโบราณมีมาตั้งแต่สมัยก่อนที่หลวงปู่จะมาอยู่ที่นี่

    เมื่อไม่นานมานี้ เสาศาลาผุกร่อนไปมากโดยเฉพาะส่วนที่ฝังอยู่ในดิน หลวงปู่จึงคิดจะบูรณะซ่อมแซมเพื่อรักษาศาลาไว้ใช้งานได้ต่อไป ท่านไปขอแรงชาวบ้านให้มาช่วยย้ายศาลาครั้งแรก ชาวบ้านก็เฉย ไปขอครั้งที่ 2 และ 3 ก็เฉย

    ปรากฏว่า ในคืนวันหนึ่ง คืนเดียวผ่านไปชาวบ้านจึงเห็นว่า ศาลาเขยื้อนไปจากที่เก่า 10 เมตร ได้อย่างไรไม่รู้

    ศาลานี้ใหญ่โตมาก จุคนได้ร่วมพันคน
    เท่านั้นแหละชาวบ้านจึงได้แห่กันเข้ามาช่วย ซึ่งเวลานี้ก็เทปูนรองรับเสาศาลาและยกศาลากลับมาตั้งไว้ที่เดิมแล้ว
    ตอนยกศาลากลับที่เก่าเป็นเรื่องโกลาหลใหญ่โต ต้องใช้กำลังคนและเครื่องมือช่วยอย่างเต็มที่จึงย้ายได้
    ถามหลวงปู่ว่าท่านย้ายศาลาเองได้อย่างไร ท่านว่า “ใช้ไม้งัดเอา”
    วัดนี้ส่วนใหญ่หลวงปู่อยู่เพียงลำพังองค์เดียวแต่วันที่ย้ายศาลานั้น มีพระลูกวัดอยู่ด้วยอีก 2 องค์รวมกับหลวงปู่เป็น 3 องค์ น่าแปลกประหลาดใจว่าทำได้อย่างไร

    เรียกว่ากับศาลาไม้ที่มีเสาขนาด 1 คนโอบ 40 ต้น แค่ไม้ก็งัดให้เขยื้อนไปได้



    # รับแขกลึกลับยามวิกาล
    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ทองสาเดินทางมาพร้อมกับลูกศิษย์จากจังหวัดบึงกาฬ มาพักอยู่ในป่าเขตอำเภอโขงเจียม ซึ่งศิษย์ทางจังหวัดอุบลฯนิมนต์ท่านมาดูพื้นที่สำหรับจะตั้งขึ้นเป็นวัด

    ลูกศิษย์ที่เดินทางมากับหลวงปู่ ได้กระซิบบอกสารวัตร เทวินทร์ กองพร สภ.อ. โขงเจียม ว่าถ้าจะนอนพักใกล้กับหลวงปู่.. อย่าหลับ.. ดึกๆมักจะมีอะไรดีๆ

    สารวัตร เทวินทร์ จึงแอบปูเสื่อ นอนอยู่ใต้ถุนกุฏิที่หลวงปู่ทองสาจำวัด

    ตกดึกได้ยินเสียงเหมือนหลวงปู่ลุกขึ้นมาพูดคุยกับใครไม่ทราบ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องสนทนาธรรมที่ทั้งลึกทั้งพิสดาร

    ภายหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ จึงเรียนถามหลวงปู่ว่า ที่กุฏิกลางป่านั้น ท่านคุยกับใครอยู่ทั้งคืน หลวงปู่ตอบว่า.. “ไม่ได้คุยกับใครหรอก.. เฮาชอบนอนละเมอ..”

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - คัดลอกจากงานเขียนท่านอาจารย์อำพล เจน


    สภาพสวยคราบฝาไขว่านคราบเดิมๆ เก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณdanaitorn จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2021
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2115.ยอดของดีของพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ(๖)
    พระสมเด็จ หลวงพ่อสร้อยบาตรโต พุทธคุณครอบจักรวาล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6BzS3a.jpg

    พระสมเด็จ หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว (หลวงพ่อบาตรโต) จังหวัดสระบุรี เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2503 หลวงพ่อสร้อย วิจาโร คือพระอรหันต์อีกหนึ่งรูปในนั้น ท่านมีฤทธิ์ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย เพียงแต่ว่าปฎิปทาของท่านคือ ซ่อนตัวหลบเร้นซุกซ่อน เปรียบเหมือนช้างเผือกในป่าใหญ่ ไม่ได้ยุ่งสุงสิงกับใคร หากใครหาพระที่มีพลังวิเศษ พลังศักดิ์สิทธิ์ พระของหลวงพ่อสร้อยเนี่ยแน่นอน ท่านเสกเดี่ยว ประจุจนท่านมั่นใจ ท่านจึงแจกแก่ศิษย์ และท่านว่าการสร้างพระแต่ละอย่างแจกใครก็ตาม จะเสกส่งเดชทำเล่นไม่ได้ เสียชื่อครูบาอาจารย์ เพราะคนที่จะมาเป็นครูบาอาจารย์ คนที่เป็นลูกศิษย์เค้าเคารพนับถือคือมอบกายถวายชีวิตแขวนพระท่านด้วยความเคารพนับถือและศรัทธา หากทำไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์จริงไม่ขลังจริงเค้าเอาไปแขวนเอาไปตายเป็นอะไรไปท่านก็ว่าจะเป็นบาป ของของท่านเชื่อได้จริงขอให้มั่นใจได้ว่า ศักดิ์สิทธิ์จริงทำจริง ดีจริง ทั้งนอกและใจ เจตนาก็บริสุทธิ์

    หลวงพ่อสร้อย ... พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    เล่าโดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    เคยพบพระองค์หนึ่งในสมัยปัจจุบันนี้ คือ พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๕ ต่อกัน
    พระรูปนั้นมีชื่อว่า "พระสร้อย"
    ท่านบอกว่า ท่านเป็นชาวจังหวัดสระบุรี ไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อนเลย
    แม้หนังสือไทยนี้ ปกติท่านก็อ่านไม่ออก

    ท่านว่าเมื่อท่านอายุได้ ๗ ปี มีพระในถ้ำเขตสระบุรีท่านหนึ่ง ไปเยี่ยมโยมท่านที่บ้าน
    เมื่อพระรูปนั้นจะกลับถ้ำ ได้ออกปากชวนท่านไปอยู่ด้วย
    ท่านก็ขออนุญาตโยมหญิง - ชายจะไปอยู่กับพระรูปนั้น
    โยมทั้งสองก็อนุญาตด้วยความเต็มใจ

    ท่านเล่าให้ฟังว่า
    เมื่อไปอยู่กับพระรูปนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ
    เพราะในถ้ำนั้นมีพระอยู่ ๒ - ๓ รูป
    ท่านบิณฑบาตกลับมาแล้ว ท่านฉันจังหันเสร็จ
    ต่างก็บูชาพระ แล้วนั่งภาวนากันตลอดวันตลอดคืน ไม่ใคร่มีเวลาพูดคุยกัน
    ท่านก็สอนให้ท่านอาจารย์สร้อยภาวนาด้วย ทำอยู่อย่างนั้นจนครบบวช
    พระที่ท่านพาไปก็พาออกมาบวชที่บ้าน บวชแล้วก็พากลับมาอยู่ถ้ำ นั่งภาวนาตามเดิม

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ ท่านป่วย
    ได้เดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่บางกะปิ พระนคร
    ใครจะนิมนต์ท่านเข้าไปในชายคาบ้าน ท่านไม่ยอมเข้า
    ต่อมาพลเรือตรีสนิท เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือไปพบเข้า มีความเลื่อมใส
    นิมนต์ให้มารักษาตัวที่กรมแพทย์ทหารเรือ ให้พักอยู่ที่ตึก ๑ เป็นตึกคนไข้พิเศษ
    อาจารย์สร้อยนี่เป็น ... พระพิเศษ

    ปฏิปทาของท่านอาจารย์สร้อย ที่มาอยู่ที่กรมแพทย์ทหารเรือก็คือ
    ตอนเช้า ท่านจะต้องออกบิณฑบาตทุกวัน ท่านมีบาตรของท่านมาลูกหนึ่ง
    ไปยืนเอาบาตรแขวนไว้ ที่ต้นมะฮ็อกกานี
    ข้างประตูเข้ากรมแพทย์ทหารเรือ เวลาเข้าไป ไอ้ต้นนี้มันจะอยู่ซ้ายมือ ชิดประตู ต้นใหญ่มาก
    ยืนหลับตาประเดี๋ยว ... ก็เอาบาตรมา
    ตามปกตินายทหารประจำตึก เขาจะเก็บบาตรไว้
    แล้วเขาจะเช็ดจะขัดจะถูเป็นอย่างดี พอเช้าท่านจะมาเอา
    เขาตรวจดูว่า ไม่มีอะไรเขาก็ส่งมาให้
    เวลาท่านเอาบาตรไปแขวน ... ท่านก็ยืนหลับตา
    คนเขาผ่านไปผ่านมา มันไม่ใช่ป่านี่ คนเดินกันไขว่เทียว

    ตอนเช้า ทุกคนก็เห็นว่า ... ท่านยืนหลับตาเฉยๆ บาตรก็แขวนที่กิ่งมะฮ็อกกานี
    สักประเดี๋ยวหนึ่งท่านก็กลับ สะพายบาตรกลับไป ส่งให้นายทหารหัวหน้าตึก
    ก็ปรากฏว่า ... มีข้าว ประมาณ ๒ - ๓ ทัพพี
    แล้วมีดอกไม้แปลกๆ ๑ ดอกทุกวัน ดอกใหญ่เกือบจะเต็มบาตร
    แต่ไม่รู้ว่าดอกอะไร ไม่มีใครรู้จัก ... เป็นแบบนั้นทุกวัน

    สำหรับท่าน อาจารย์สร้อย ปรากฏภายหลังว่า ... รู้ภาษาได้ทุกภาษา
    มีนายทหารมาพูดแบบนั้น แล้วพูดถึงปฏิปทาบางอย่างของท่าน
    ดู ๆ แล้วคล้ายจะ ... ไม่ใช่พระธรรมดา
    ที่ว่า ... ไม่ใช่พระธรรมดา คือ คิดว่าพระองค์นี้จะเป็น "พระอริยเจ้า"
    เวลานั่งพูดคุยกับใคร ท่านไม่ได้นั่งหลับตาปี๋ ทำท่าเป็นคนเคร่งครัดมัธยัสถ์ไม่ใช่ยังงั้น
    แสดงตัวเป็นกันเองตามปกติ พูดแบบกันเองธรรมดาๆ
    แต่ว่าทรมานเอานายทหารไม่กินเหล้าไปหลายคน

    ฉันสงสัยเหลือเกินละว่า พระองค์นี้จะเป็น ... "พระอริยเจ้า"
    สำหรับ พระอริยเจ้า มีอยู่ ๔ ประเภทด้วยกัน
    ว่ากันเฉพาะ พระอรหันต์ คือมี
    - สุขวิปัสสโก
    - เตวิชโช ( วิชชา ๓)
    - ฉฬภิญโญ (อภิญญา ๖)
    - ปฏิสัมภิทัปปัตโต (ปฏิสัมภิทาญาณ)

    สำหรับพระอริยเจ้าที่เป็น ... พระสุขวิปัสสโก
    ประเภทนี้ ไม่มีบทบาทอะไรทั้งหมด
    หมายความว่า ละกิเลสได้แบบเงียบๆ
    ผีสางเทวดา ... ท่านก็ไม่เห็น
    นรกสวรรค์ ... ท่านก็ไม่เห็น
    แต่ว่า จิตสงัดจากกิเลส

    สำหรับท่าน "เตวิชโช"
    อันนี้ได้ ทิพยจักขุญาณ กับ ปุพเพนิวาสนุสติญาณ คือว่า
    สามารถจะเห็นผี เห็นเทวดา เห็นสวรรค์ เห็นนรก เห็นพรหมโลก เห็นนิพพาน ได้ตามอัธยาศัย
    แล้วก็สามารถระลึกชาติได้ ชาติของตัวเองเคยเป็นอะไรมาบ้างรู้หมด

    ต่อไปก็ "ฉฬภิญโญ" (อภิญญา ๖) อันนี้ ... แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
    สำหรับ "ปฏิสัมภิทัปปัตโต" ก็แสดงได้อย่างกับท่านอภิญญา ๖
    แต่มีกรณีพิเศษโดยเฉพาะ เอาอย่างที่แปลกที่สุดคือ
    รู้ภาษาทุกภาษาโดยไม่ต้องเรียน นี่ก็ว่ากันอย่างย่อๆ
    รู้ภาษาทุกภาษาทั้งหมดโดยไม่ต้องเรียน
    ภาษาคน ภาษาสัตว์ ... รู้หมด

    ทีนี้สำหรับ "หลวงพ่อสร้อย" องค์นี้
    อาตมาสงสัยว่า จะเป็น พระอรหันต์ ขั้นปฏิสัมภิทัปปัตโต
    ก็เลยบอกบรรดาท่านนายทหารว่า เอายังงี้ก็แล้วกัน
    สำหรับพระอรหันต์มี ๔ แบบ สำหรับแบบอื่นเราจะพิสูจน์ได้ด้วยการทดลองอย่างอื่น
    แต่องค์นี้ฉันสงสัยว่เป็น ปฏิสัมภิทาญาณ

    ลองดูนะ ไม่แน่นัก ถามว่าพวกคุณนี่น่ะพูดภาษาอะไรได้บ้าง เอาภาษาที่ถนัด
    บางคนก็บอกว่า ภาษาอังกฤษผมเก่ง
    บางคนบอกว่า ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน
    ภาษาจีน เพราะเคยเป็นลูกจีน
    แล้วก็ภาษาแขก บังเอิญมีนายทหารแขกอยู่คนหนึ่ง พูดภาษาแขกเร็วปรื๋อ
    เรียกว่าได้กันหลายๆ ภาษา
    เมื่อได้กันแล้วซักซ้อมกันดีแล้ว ก็ส่งเข้าไปทีละคน
    คนไหนถนัดภาษาอะไร เข้าไปหาท่าน
    พูดภาษาแบบนั้น พูดภาษาที่ตนถนัด
    พอเขาเข้าไปพูด จะเป็น ... ภาษาอะไรก็ตาม
    หลวงพ่อสร้อย ... ตอบภาษานั้นได้อย่างชัดเจน
    คล้ายๆ กับเป็นเจ้าของภาษาเอง ทุกภาษา
    ในที่สุด พวกนายทหารถามว่า หลวงพ่อเรียนมาจากไหน
    ท่านบอกว่า ท่านไม่ได้เรียน
    อยู่ในถ้ำนั่น ... เจริญสมาธิมันเกิดความรู้สึกขึ้นเอง
    เขาถามว่า ในเมื่อเขาพูดภาษาอื่น หลวงพ่อมีความรู้สึกยังไง
    ท่านก็บอกว่า มีความรู้สึกเหมือนเขาพูดภาษาไทย
    เวลาที่จะตอบไปก็เหมือนกัน
    มีความรู้สึกว่า ... ตอบเป็นภาษาไทย
    นี่แหละท่านผู้ฟัง

    สำหรับ ท่านอาจารย์สร้อย ... มีกรณีพิเศษ แปลกแบบนี้
    แล้วต่อมาพวกนายทหารแจ้งให้ทราบว่า ท่านกำหนดเวลาตาย
    ท่านบอกว่า ใครจะเอาอะไรก็เอา ท่านจะตายเดือนนั้นเดือนนี้
    ถ้าจะต้องการอะไร ให้ไปหาท่านก่อน
    คนที่ไปก็ได้ของดีพิเศษมาทุกคน คือว่า
    มีคำสั่งมอบหมายสมบัติชิ้นสำคัญนั่นก็คือ
    ให้รู้จักเป็นคนมีจิตเมตตา ให้มีเมตตาเป็นปกติ มีกรุณา มีมุทิตา มีอุเบกขา
    แล้วก็มีการให้ทานการสงเคราะห์ รู้จักรักษาศีล
    สำหรับศีลอย่าให้ขาดตลอดชีวิต
    แล้วให้รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะตาย

    นี่สมบัติชิ้นสุดท้าย ... ที่ "หลวงพ่อสร้อย" มอบให้แก่บรรดานายทหารที่มีความเคารพในท่าน
    และเมื่อพวกนายทหารได้รับมาแล้ว ก็มาบอกให้อาตมาทราบ
    อาตมาก็บอกว่า ... นั่นเป็นของดีที่สุด
    ที่คุณจะไปเอาพระ เอาตะกรุด อะไรนั่นก็ดีเหมือนกัน
    ถ้าหากพวกคุณแขวนพระไว้แต่คุณประพฤติตัวเป็นโจร พระท่านก็ไม่เอาด้วย
    เพราะหากว่าพระเป็นโจร พระก็ศีลขาด
    ถ้าหากว่า คุณเอาพระแขวนคอไว้แล้ว ... ใจคุณเป็นพระ
    หรือว่าคุณไม่มีพระแขวนคอ แต่ว่า ... ใจคุณเป็นพระ
    ถึงแม้ว่าร่างกายคุณเป็นฆราวาส แต่ "ใจคุณเป็นพระ" แล้ว
    ก็ชื่อว่า คุณเป็นพระทั้งตัว พระนี่แปลว่า ผู้ประเสริฐ


    สภาพสวยเดิมพระเนื้อดินกดพมิพ์โบราณ มีกดไม่ติดบ้างตามขอบตามมุมครับ พระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณหายห่วง เมตตาค้าขาย โชคลาภมหานิยมดีนักแล แบ่งให้บูชา 399 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณdanaitorn จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2021
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$





    2116.ปลิงไม่ได้กินเลือด(A) พระอม หลวงพ่อหอม วัดบางเตยกลาง
    ของดียุคสงครามโลกปี84 ลพ.จงเมตตาปลุกเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระอม พิมพ์พระพุทธ หลวงพ่อหอม วัดบางเตยกลาง จังหวัดปทุมธานี เนื้อดินผสมผงวิเศษ(ผงลบยันต์ “นะ” ต่าง ๆ ยันต์ต่าง ๆ อันเป็นตำราที่เล่าเรียนมาจากพระอาจารย์) ท่านสร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.2484 ช่วงประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเจตนาการสร้างขึ้นเพื่อแจกญาติโยม และชาวบ้านแถบย่าน จ.ปทุมธานี ที่ได้มาขอให้วัตถุมงคลไว้คุ้มครองจากภัยสงคราม

    นอกจากหลวงพ่อหอมจะปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ท่านยังได้นิมนต์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาปลุกเสกพระชุดนี้ด้วย เนื่องจากหลวงพ่อหอมท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อจงอีกรูปหนึ่ง

    พระอม คือ ผู้คนที่มีพระอมของท่านจะแคล้วคลาดอันตรายทุกคนด้วยชาวสามโคกมีอาชีพในการทำอิฐมอญเผาและก็ทำนา ชาวบ้านเล่าสู่กันฝังว่าเมื่อใดที่ลงไปในน้ำมักจะใช้พระอมของหลวงพ่อหอมที่มีขนาดเล็กอมไว้ใต้ลิ้นทำให้ปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่มากับน้ำแม้กระทั้งปลิงดูดเลือดยังไม่เกาะ

    ประวัติและปฏิปทา
    หลวงพ่อหอม รามธมฺโม
    วัดบางเตยกลาง (เปิ้ง)
    ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    ปฏิปทากิตติคุณศีลวัตร "พระครูธีรานุวัตร" หรือ "หลวงพ่อหอม รามธมฺโม" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดบางเตยกลาง (เปิ้ง) ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หนึ่งในพระปฏิบัติดีรูปหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี

    "หลวงพ่อหอม" นามเดิม เปรื่อง นามสกุล ศีลปี แต่ชาวบ้านตำบลบางเตย นิยมเรียกท่านว่า "หอม" เกิดที่ตำบลบางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี บิดาชื่อ แปลก ศีลปี เป็นชาวฝั่งธนบุรี แถวสามแยกไฟฉายตรงข้ามวัดรวก มารดาชื่อ เปลื้อง (ใจทน) เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    หลวงพ่อท่านเป็นบุตรโทน อาชีพทำนาและค้าขาย เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2459 ในวัยเด็กหลวงพ่อหอมเรียนหนังสือไทย ที่โรงเรียนวัดจันทร์กะพ้อ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จนจบ ม.1 ปัจจุบันเรียกว่า ชั้น ป.5 แล้วลาออกไม่ได้เรียนต่ออีก พอโตวัยหนุ่มได้ช่วยบิดามารดาค้าขาย

    จนมีอายุครบ 21 ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดไผ่ล้อม ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมี พระอธิการจ่าง เกสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเจริญ ญาติวังโส อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมลำดับต่อมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการช่วง อดีตเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "รามธมฺโม"

    เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2481 ได้จำพรรษาอยู่วัดไผ่ล้อม เรียนพระปริยัติธรรมกับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ จนสอบได้นักธรรม หลวงพ่อหอมมีความสนใจในด้านทำพระเครื่องมาก จึงเรียนวิชาทำพระเครื่องทำตะกรุดและวัตถุมงคลต่างๆ ทุกชนิด เรียนกับอาจารย์มาตลอด ท่านจำพรรษาอยู่วัดไผ่ล้อม 5 พรรษา พอดีเจ้าอาวาสวัดบางเตยกลางว่างลง ท่านเจ้าคุณพระปทุมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในขณะนั้น และญาติโยมที่วัดบางเตยกลางได้ไปนิมนต์ท่านให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางเตยกลาง เมื่อปี พ.ศ.2486 ขณะนั้นหลวงพ่อมีอายุ 27 พรรษา 6

    วัดบางเตยกลาง (วัดเปิ้ง) ตั้งอยู่ใจกลางอำเภอสามโคก วัดกับที่ทำการอำเภอสามโคกห่างกันประมาณ 200 เมตร ถนนเดียวกันคือ ปทุม-สามโคก-เสนาอยุธยา วัดอยู่ติดถนน ชุมชนส่วนมากจะเป็นคนไทยเชื้อสายมอญ (รามัญ)

    วัดบางเตยกลางเดิมชื่อว่า "วัดแค" สร้างเมื่อปี พ.ศ.2330 ในสมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมาชาวมอญอพยพหนีสงครามมาพึ่งโพธิสมภารอยู่กับคนไทยที่เมืองสามโคก วัดนี้จึงมีสภาพเป็นวัดมอญแปลง และชาวบ้านคนไทยเชื่อสายมอญชอบเรียกว่า "วัดเปิ้ง"

    ต่อมาพระยาอำภัยมหัยสวรรค์กลับจากรบกับเงี้ยว ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดลิ้มกลีบอำภัยมหัยสวรรค์" (ลิ้มกลีบเป็นภรรยาพระยาอำภัยมหัยสวรรค์) ต่อมามีการเปลี่ยนชื่ออีกเป็น "วัดบางเตยกลาง" จนถึงปัจจุบัน แต่ชาวบ้านยังเรียกติดปากว่า "วัดเปิ้ง" อยู่บ้าง

    หลังจากได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางเตยกลาง แล้วท่านได้เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมมากในขณะนั้น โดยสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอระฆัง และสร้างอุโบสถหลังใหม่หมด

    หลวงพ่อหอมเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมากองค์หนึ่ง ท่านนิยมสร้างพระเครื่องมาก มีทั้งพระสมเด็จ พระอม ตะกรุด เหรียญและพระพิมพ์ต่างๆ มากมาย ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อหอมได้รับความนิยมอย่างมาก โดยท่านปฏิบัติอยู่ในศีลเคร่งครัดมาก จนชาวบ้านนับถือมาก

    ท่านดูแลวัดวาอารามสั่งสอนลูกศิษย์และญาติโยมให้เป็นคนดีมาตลอดไม่เคยขาดตกบกพร่อง ท่านจะสอนทั้งพระเณรลูกศิษย์ ญาติโยมทุกคนเสมอภาพกันหมด แต่ชาวบ้านกลัวท่านมาก เพราะท่านจะดุ สอนให้เป็นคนดีทำสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่เคยกลัวใครว่าท่านเลย ท่านเคยพูดว่า "ทำให้เขาไปสวรรค์" สอนสิ่งที่ถูกต้องจนชาวบ้านนับถือท่านมาก เพราะท่านมีเมตตากับทุกคน จึงสอนให้ลูกศิษย์ญาติโยมเป็นคนดีโดยไม่นิ่งเฉย สอนอยู่เสมอมาจนถึงปัจจุบันนี้

    ชาวบ้านนิยมนำพระเครื่องและวัตถุมงคลทุกอย่างของหลวงพ่อหอมติดตัวตลอดเวลา ท่านได้ทำพระเครื่องวัตถุมงคลยมีพุทธคุณสูงมาก ท่านจะลงคาถาที่ท่านได้เรียนจากอาจารย์มาโดยใช้พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ส่วนมากแล้วกำกับด้วย คาถา อักขระขอมว่า กัม กะ ระ นัง ทุกอย่าง กัม กะ ระ นัง นี้คือ การกระทำของตัวเราเองทำอย่างไรได้อย่างนั้น

    เคยมีคนถามหลวงพ่อหอมว่า "วัตถุมงคลของหลวงพ่อใช้ในด้านไหนเมตตาหรือคงกระพัน"

    หลวงพ่อหอมบอกว่า "อธิษฐานเอาเองใช้ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเราขาดการนึกถึง คุณบิดา คุณมารดา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็เหมือนเราแขวนดิน" เพราะฉะนั้น หลวงพ่อหอมจะบอกให้นึกถึงและปฏิบัติต่อบิดา มารดา เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ดีชีวิตก็ดีขึ้นเจริญขึ้น

    หลวงพ่อหอมมีอายุ 90 ปี 69 พรรษา ลูกศิษย์และญาติโยมจึงพร้อมใจกันจัดงานทำบุญอายุ 90 ปีขึ้น และฉลองวิหารกับหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อหอมด้วยในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2549

    หลวงพ่อหอม ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคชรา สิริอายุรวม 91 พรรษา 70 ก่อนหน้านี้ คณะศิษยานุศิษย์ได้นำหลวงพ่อหอม เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนนทเวช เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2550


    สภาพสวยเดิมคราบเก่าจากการเก็บรักษา พิมพ์คมชัดลึก ของดีราคาเยาว์พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 199 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6BYXKQ.jpg
      6BYXKQ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240.2 KB
      เปิดดู:
      344
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2023
  5. danaitorn

    danaitorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2015
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +252
    ขอบูชา 2114,2115
     
  6. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,510
    ค่าพลัง:
    +9,414
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2117.โชคลาภวาสนาเมตตาดีนักแลเสกบนแพกลางน้ำ พระกริ่งปทุม
    ลป.หงษ์,ลป.คำพันธ์,ลป.ธรรมรังษี ปลุกเสกมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6fNS8k.jpg

    6fN4cE.jpg
    พระกริ่งปทุม วัดโพธิ์พฤกษาราม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538 เนื้อทองแดงรมดำ

    จัดสร้างโดย
    พระครูประภัสร์คณารักษ์ (หลวงพ่อจันทร์ ปภัสสโร) วัดโพธิ์พฤกษาราม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

    ประกอบพิธีพุทธาภิเษกกลางแม่น้ำมูล
    โดยมีพระเถราจารย์ที่ร่วมปลุกเสก อาทิ
    1.) หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมดินจ.สุรินทร์
    2.) หลวงปู่ดี วัดหนองจอก จ.นครราชสีมา
    3.) หลวงปู่โป๊ะ วัดบ้านบิง จ.ศรีสะเกษ
    4.) หลวงปู่ฤทธ์ วัดชลประทานราชดําริ จ.บุรีรัมย์
    5.) หลวงพ่อเขียว วัดโพธิ์ศรีธาตุ จ.สุรินทร์
    6.) หลวงพ่อสวน วัดเขาพนมสวาย จ.สุรินทร์
    7.) หลวงพ่อเพ็ง วัดพรมเทพ จ.สุรินทร์
    8.) หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน จ.สุรินทร์
    9.) หลวงปู่พวน วัดช้างหมอบ จ.สุรินทร์
    10.) หลวงพ่อพา วัดโพธิ์ทอง จ.สุรินทร์
    11.) หลวงพ่อจรินทร์ วัดปราสาทเทพนิมิตร สุรินทร์
    12.) หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม
    13.) อ.เปล่ง บุญยืน ฆารวาสจอมขมังเวทย์แห่งเมืองสุรินทร์เจ้าของตำรับ พราย 59 ตน

    พระกริ่งปทุมรุ่นนี้เด่นทางด้านโชคลาภ เมตตา พระกริ่งหลวงปู่ธรรมรังษี ออกวัดโพธิ์พฤกษาราม มีแบบกริ่งหน้าจีนและกริ่งจอมสุรินทร์ วัดโพธิ์พฤกษารามได้นิมนต์พระเกจิดังในสุรินทร์และหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นหนึ่งในพระที่มาปรกในวันนั้น ทั้งหมดต้องนั่งปรกในแพเล็กๆ กลางแม่น้ำมูลที่ อ.ท่าตูม สร้างขึ้นเพื่อรองรับพระ 1 แพ ต่อ 1 รูป เหตุการณ์ปรกพระเป็นปกติจนกระทั่งถึงรอบที่หลวงปู่ธรรมรังษีนั่งปรก ในเวลานั้นมีพระดังมากๆในสุรินทร์นั่งปรกด้วย ปรากฎว่า แพที่หลวงปู่ธรรมรังษีนั่งปรกนั้นมีปลากระโดดอยู่รอบๆแพเต็มไปหมด ตลอดจนหลวงปู่นั่งปรกเรียบร้อย แต่แพอื่นกลับสงบนิ่ง ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว
    ท่านกล่าวว่าพระรุ่นนี้ท่านใช้มนต์จินดามณี(เรียกเนื้อเรียกปลา)ในการเสก จึงทำให้พระเครื่องรุ่นนี้เด้นด้านทำมาหากิน ค้าขาย ไม่อดไม่อยาก โชคลาภวาสนา



    สภาพสวยเดิมคราบเก่าจากการเก็บรักษา พิมพ์คมชัดลึก ของดีราคาเยาว์พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณPump จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2021
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2118.ครกลอยกล่องเดิม พระสมเด็จยันต์เก้าอาจารย์
    หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม สุดยอดมวลสารกรรมวิธีโบราณ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    tyqb51-jpg-jpg.jpg

    thumb-25ab_5812d92d-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-8573_5812d92d-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระสมเด็จยันต์เก้าอาจารย์ รุ่นครกลอย หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื้อผงมหาพุทธคุณ หลังยันต์เก้าอาจารย์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2536 *** มีกล่องครบสมบูรณ์นะครับพอดีผมลืมถ่ายรูปกล่อง

    เพื่อเป็นการตอบแทนแก่บรรดาพุทธบริษัทที่มีจิตศรัทธาบริจาคสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญเป็นวิหารทาน โดยหลวงพ่อวิชัยได้รวบรวมผงพุทธคุณต่างๆมาสร้างเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาพระสมเด็จยันต์เก้าอาจารย์ เป็นพระชุดหลักของวัดถ้ำผาจม เป็นพระสมเด็จรุ่นแรกที่หลวงพ่อท่านตั้งใจจัดสร้างด้วยตัวเอง
    อนึ่งมวลสารต่างๆ เหล่านี้ได้รับอนุญาติจากพระคณาจารย์ทั้งหลายโดยถูกต้อง เพื่อนำมาสร้างพระผงสมเด็จวัดถ้ำผาจมและ หลวงพ่อวิชัย ท่านได้ทำการโขลกผสมผงทั้งหมดด้วยตัวท่านเอง คำว่า 'ครกลอย' นั้นก็มาจากตอนที่ท่านกำลังตำผงมวลสารเพื่อนำมากดพิมพ์พระอยู่นั้นเอง ครก ก็ได้ลอยติด สาก ขึ้นมาเองครับ และมีคนถ่ายภาพได้ทันพอดี ท่านบอกว่าเพราะมวลสารได้ที่หรอกมิใช่ปาฏิหารย์ใดๆ (หรืออภิญญาของท่านก็ไม่ทราบ) ครกเลยลอยติดสากขึ้นมา เลยเป็นชื่อที่มาของพระสมเด็จรุ่นนี้

    มวลสารที่นำมาจัดสร้างพระสมเด็จ รุ่นยันต์เก้าอาจารย์ (ครกลอย)
    - จีวรหลวงปู่เทพโลกอุดร
    - เกศา จีวร แป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    - เกศา น้ำมนต์ ชานหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    - ยาฉุน หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
    - เกศา ผงพุทธคุณ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
    - ผ้าห่มพระธาตุเจดีย์ สมัย ร.5 วัดเฉลิมพระเกียรติ
    - มวลสารจากพระประธาน วัดศาลารี จ.นนทบุรี
    - ผงสุพรรณ จาก จ.สุพรรณบุรี
    - ผงพุทธคุณ สมเด็จพระสังฆราช สุก (ไก่เถื่อน) วัดพลับ
    - ผงพุทธคุณ จาก สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดเบญจมบพิตร
    - เกสรดอกไม้เสก จาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดตรีทศเทพ
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดเบญจมบพิตร
    - ข้าวสารหิน
    - ผงฤาษีตาไฟ ที่ หลวงพ่อวิชัย ท่านได้มาจากการธุดง
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดอาวุธ
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดสุทัศน์
    - ข้าวก้นบาตร พระอาจารย์ถาวร วัดปทุมวนาราม
    - ผงพุทธคุณ จาก หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล

    วาระการอธิษฐานจิต
    วาระที่ : 1
    - โดยการปลุกเสกพระสมเด็จรุ่นนี้ มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมตตาปลุกเสกให้เป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2536

    วาระที่ : 2
    - นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก โดย หลวงพ่อวิชัย เขมิโย และเกจิคณาจารย์หลายท่าน ณ อุโบสถ วัดถ้ำผาจม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2536

    หลวงพ่อวิชัย เขมิโย เดิมชื่อ วิชัย คล่องแคล่ว เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2488 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ตอนเด็กอาศัยอยู่กับยาย ต้องทำงานหนักแต่เด็กลำบากมาก จนเมื่ออายุได้ 17 ปี ได้บวชเป็นสามเณรแล้วได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย จนได้บวชเป็นพระภิกษุในที่สุด หลังจากบวชท่านได้ออกธุดงค์ไปสถานที่ต่างๆ และเข้าอบรมพระพัฒนาทางจิตเป็นประสบการณ์ในชีวิตของพระป่า ที่มีอุดมคติอุดมการณ์ความมุ่งหมายเป็นสัจจะแน่วแน่ ตรงตามพระพุทธองค์ท่านทรงปราถนาให้สาวกและพุทธศาสนิกชนปฎิบัติ ปฎิปทาของหลวงพ่อวิชัย เต็มไปด้วยความวิริยะอุตสาหะ ซื่อสัตย์ มั่นคงในพระพุทธศาสนาโดยแท้ มิได้อาลัยแก่ร่างกายและชีวิตควรเป็นที่น่าเคารพนับถือ เคารพสักการะแก่พุทธศาสนิกชนทั้งปวง

    หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ท่านเป็นพระกรรมฐานที่ทรงคุณอีกรูปหนึ่งในปัจจุบัน ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาจม ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ท่านเป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ หลวงตามหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด กล่าวรับรองว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลกอีกรูปหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - http://www.web-pra.com/Shop/Alin-Amulet/Show/849070


    สภาพสวยกล่องเดิมๆ รุ่นมาตรฐานพิมพ์หลักของหลวงพ่อวิชัย สุดยอดมวลสารโขลกเองแบบโบราณจนครกลอยพุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ เนื้อดีพิมพ์ดีของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณVanda1541 จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2023
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363



    $$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$$$






    2119.ชุดมงคลกล่องเดิม หลวงพ่อเกษม เขมโก

    ครูบาอริยเจ้า แห่งสุสานไตรลักณ์

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    เหรียญรุ่นบารมีท่วมท้น เนื้อทองแดงรมดำ และ พระผงที่ระลึกอายุครบ 82ปี เนื้อผงพุทธคุณ หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักณ์ จังหวัดลำปาง ดำเนินจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2536

    หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ทรงอภิญญาบารมี ตนบุญแห่งลานนาไทย ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส เดินทางมุ่งหน้าสู่สุสานป่าช้า สถานที่ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัยของท่าน หลวงพ่อเป็นพระอริยะสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาที่ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์แห่งมหาพุทธานุภาพ ซึ่งสร้างประสบการณ์มากมายให้กับผู้ที่ใช้บูชา วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดีที่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไป

    สภาพสวยกล่องเดิมครบชุด พระดีมีคุณค่าน่าบูชาสะสมมาก รับประกันความสวยเดิมๆ ได้ไปไม่สวยส่งคืนได้เลยครับผม แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2023
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,605
    ค่าพลัง:
    +30,886
    AW503415_00.gif
     
  12. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,605
    ค่าพลัง:
    +30,886
    5485.gif
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###

    https://palungjit.org/threads/กระทู...ามกระทู้ไว้จะไม่ผิดหวัง.661373/#post-10867359

    #############




    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม


    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง
    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663

    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363




    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$





    2120.
    พระกรรมฐานผู้ซ่อนเร้นมากด้วยอภิญญาของจริง(New3)
    รูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ศิษย์ลป.มั่น,ศิษย์พอจ.จวน ยุคสร้างสะพานขึ้นภูทอก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม บ้านนาเจริญ จ.บึงกาฬ เนื้อว่านผสมผงมหาพุทธคุณ มหาอนันตัง(มวลสารมากมายเกินบรรยายตามแบบฉบับ อ.อำพล เจน) ใต้ฐานฝังแผ่นทองฝาบาตร ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 รังสรรค์ผลงานโดย อ.อำพล เจน อัครศิลปินแห่งสำนักห้วยไผ่

    อธิษฐานจิต : ( 6 สค 54 – 13.13 น. )
    หลวงปู่ทองสาอธิษฐานจิตปลุกเสกรูปเหมือนรุ่นแรกขององค์ท่าน โดยใช้เวลากำหนดจิต 9 นาที ไม่รวมเวลาสวด
    ท่านตั้งใจเสกรุ่นนี้เป็นที่สุด ปกติทุกครั้งที่เคยเห็นท่านเสก อย่างมากก็แค่ 5 นาที , วางกล่องพระลงตรงหน้าก็นั่งหลับตาเสกเลย คราวนี้แปลก ท่านสวดก่อน แว่วๆว่าเป็นการสวดตั้งธาตุ แล้วจึงนั่งกำหนดจิตนิ่งสนิท แทบไม่เห็นอาการไหวของลมหายใจ

    สรุปจำนวนที่ถวายหลวงปู่
    - เนื้อทองทิพย์ 1,289 องค์
    - เนื้อว่าน 4,069 องค์
    หลวงปู่จะไม่เอาออกมาจำหน่าย ท่านจะแจกฟรี ได้ยินว่าจะเอาไว้แจกผ้าป่า

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม
    ท่านเป็นพระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ที่เก็บตัวซ่อนเร้นไม่ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอก อยู่ป่าอยู่เขาที่วิเวกเงียบสงัด ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) แต่ก็ทันพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ในขณะที่ยังเป็นสามเณร เราท่านอาจไม่รู้จักท่าน แต่ในหมู่พระกัมมัฐฐานโดยมากรู้จักท่านทั้งนั้น

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม เล่าว่า เหตุที่ท่านได้มาอยู่วัดป่าจิตตวิทยาราม ซึ่งเป็นวัดร้างนั้นเพราะ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ( วัดภูกระแต ) มีบัญชาให้ท่านมาบูรณะและรักษาวัดร้างให้กลับคืนเป็นวัดดี

    เมื่อวานนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (23 มกราคม 57)
    คือวันที่หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม ถึงกาลมรณภาพ
    แต่เดิมหลวงปู่ทองสาเป็นพระเก็บตัวเงียบ ใครนิมนต์ไปปลุกเสกพระที่ไหนก็ไม่ไป เห็นกล้องถ่ายรูปจะเดินหนี ใครขอถ่ายรูปก็ไม่ให้ถ่าย หลังจากพรรษาอายุมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงอนุโลมให้
    ในที่สุดแล้ว เพียงไม่นานปี ท่านก็จากหมู่ศิษย์อย่างไม่มีวันกลับ

    เกี่ยวกับหลวงปู่ทองสา
    ทราบมาจากคำบอกเล่าของท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ว่า แต่เดิมท่านเป็นพระที่ปิดตัวเงียบเชียบ แม้กระทั่งการถ่ายรูป ท่านก็มักจะเลี่ยงไม่ยอมถ่าย การปลุกเสกต่างๆก็ไม่ใคร่ทำ แต่ครั้นได้พบกับท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ ท่านกลับอนุโลม จะด้วยลูกตื้อ หรืออะไรก็มิทราบได้ (ในกรณีนี้เหมือนกับอีกหลายกรณีที่ครูบาอาจารย์ที่ว่าไม่เสกๆ แต่สุดท้ายก็เสกให้ เช่น สาธุใหญ่คำจันทร์ เป็นอาทิ) จนเป็นที่มาแห่งมรดกขลังหลายอย่าง ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นว่า มหากศปฤาษี, พระนาคเกี้ยวใหญ่, ตระกรุดหัวใจพระปาฏิโมกข์, พระพิราพ, ล๊อกเกต รวมถึงพระรูปเหมือนรุ่นแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
    คนที่สัมผัสกับท่านจะรู้สึกถึงความสงบ สะอาด ร่มเย็น ด้วยท่านมีกริยาสุภาพ พูดน้อย เสียงเบาบางครั้งท่านผู้เฒ่าต้องสะกิดคนข้างๆว่าท่านพูดอะไร เพราะฟังไม่ถนัด ส่วนเรื่องการปลุกเสกนั้น แลเห็นถึงความตั้งใจของท่านมาก อย่างเมื่อครั้งท่านปลุกเสกพระพิราพ ท่านก็เสกเป็นเวลานานจนจำวัดที่หน้ากล่องพระนั่นเลย หรือพระรุ่นอื่นๆ ท่านก็เสกอย่างตั้งใจ เอาจนพอใจ อย่างพระกศปมหาฤาษี ท่านออกปากเองว่า "เมตตาหลวง" เป็นต้น
    ดังนั้นในยุคนี้จึงมั่นใจได้ว่า หลวงปู่ทองสา เป็นอีกองค์ที่สร้างขลังแบบบินเดี่ยวได้ไม่แพ้ใคร รุ่นนี้คักๆๆหลายครับ



    # หลวงปู่ทองสา ร่วมสร้างสะพานไม้ภูทอก
    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม เป็น ๑ ในพระ ๒๐ รูปที่ไม่ตกใจกลัวความสูง
    ท่านเล่าว่า..มีพระไม่กี่รูปที่จะต้องโหนตัวลงสู่หน้าผา ลอยอยู่กลางอากาศ เพื่อตอกสกัดหินเพื่อจะฝังเสาค้ำสะพานไม้ที่ภูทอก
    หลวงปู่คงไม่ทราบว่า สะพานไม้ขนาบหน้าผา ไต่ขึ้นสู่ยอดภูทอก ซึ่งท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการร่วมสร้างนั้น ปัจจุบันคือสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆที่ผู้คนยกย่อง ถือเป็นผลงานน่าทึ่งเท่าที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถทำได้
    หลวงปู่ทองสาอาจมีคุณวิเศษในการทำของหนักให้กลายเป็นเบา
    ครั้งหนึ่งที่วัดภูผาแดง ชาวนาไถคราดถูกเศียรพระพุทธรูปสัมฤทธิ์หัก และนำเอาเศียรพระพุทธรูปนั้นมาถวาย
    หลวงปู่ได้ถามถึงส่วนที่เป็นลำตัวของพระพุทธรูป ..แต่ชาวนาบอกไม่ทราบ.. พบแต่เศียรเท่านั้น
    ท่านจึงให้ชาวนาพาไปดูบริเวณที่พบเศียรพระพุทธรูป ซึ่งเป็นนาน้ำท่วม
    ท่านยืนเพ่งดูอยู่อึดใจเดียว
    พระพุทธรูปที่เป็นส่วนลำตัวก็ลอยบุ๋งขึ้นมาเหนือน้ำอย่างน่าอัศจรรย์

    ผมมีวาสนาได้เห็นพระพุทธรูปทั้งองค์ที่พระลูกวัดทำการต่อเศียรแม้ไม่แนบเนียนแล้วด้วย
    เป็นพระพุทธรูปศิลปลาว ที่เรียกว่าเชียงรุ้ง หน้าตักประมาณ ๗ นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์เขียวคล้ำ ดูเก่าแก่เอาการ


    # ย้ายศาลา 40ต้นเพียงข้ามคืน
    หลวงปู่ทองสาพำนักอยู่วัดที่มีเรื่องศาลาผีดุ ซึ่งผมได้เขียนไปแล้วเมื่อหลายฉบับก่อน ซึ่งศาลาหลังนี้เป็นศาลาโบราณมีมาตั้งแต่สมัยก่อนที่หลวงปู่จะมาอยู่ที่นี่

    เมื่อไม่นานมานี้ เสาศาลาผุกร่อนไปมากโดยเฉพาะส่วนที่ฝังอยู่ในดิน หลวงปู่จึงคิดจะบูรณะซ่อมแซมเพื่อรักษาศาลาไว้ใช้งานได้ต่อไป ท่านไปขอแรงชาวบ้านให้มาช่วยย้ายศาลาครั้งแรก ชาวบ้านก็เฉย ไปขอครั้งที่ 2 และ 3 ก็เฉย

    ปรากฏว่า ในคืนวันหนึ่ง คืนเดียวผ่านไปชาวบ้านจึงเห็นว่า ศาลาเขยื้อนไปจากที่เก่า 10 เมตร ได้อย่างไรไม่รู้

    ศาลานี้ใหญ่โตมาก จุคนได้ร่วมพันคน
    เท่านั้นแหละชาวบ้านจึงได้แห่กันเข้ามาช่วย ซึ่งเวลานี้ก็เทปูนรองรับเสาศาลาและยกศาลากลับมาตั้งไว้ที่เดิมแล้ว
    ตอนยกศาลากลับที่เก่าเป็นเรื่องโกลาหลใหญ่โต ต้องใช้กำลังคนและเครื่องมือช่วยอย่างเต็มที่จึงย้ายได้
    ถามหลวงปู่ว่าท่านย้ายศาลาเองได้อย่างไร ท่านว่า “ใช้ไม้งัดเอา”
    วัดนี้ส่วนใหญ่หลวงปู่อยู่เพียงลำพังองค์เดียวแต่วันที่ย้ายศาลานั้น มีพระลูกวัดอยู่ด้วยอีก 2 องค์รวมกับหลวงปู่เป็น 3 องค์ น่าแปลกประหลาดใจว่าทำได้อย่างไร

    เรียกว่ากับศาลาไม้ที่มีเสาขนาด 1 คนโอบ 40 ต้น แค่ไม้ก็งัดให้เขยื้อนไปได้



    # รับแขกลึกลับยามวิกาล
    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ทองสาเดินทางมาพร้อมกับลูกศิษย์จากจังหวัดบึงกาฬ มาพักอยู่ในป่าเขตอำเภอโขงเจียม ซึ่งศิษย์ทางจังหวัดอุบลฯนิมนต์ท่านมาดูพื้นที่สำหรับจะตั้งขึ้นเป็นวัด

    ลูกศิษย์ที่เดินทางมากับหลวงปู่ ได้กระซิบบอกสารวัตร เทวินทร์ กองพร สภ.อ. โขงเจียม ว่าถ้าจะนอนพักใกล้กับหลวงปู่.. อย่าหลับ.. ดึกๆมักจะมีอะไรดีๆ

    สารวัตร เทวินทร์ จึงแอบปูเสื่อ นอนอยู่ใต้ถุนกุฏิที่หลวงปู่ทองสาจำวัด

    ตกดึกได้ยินเสียงเหมือนหลวงปู่ลุกขึ้นมาพูดคุยกับใครไม่ทราบ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องสนทนาธรรมที่ทั้งลึกทั้งพิสดาร

    ภายหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ จึงเรียนถามหลวงปู่ว่า ที่กุฏิกลางป่านั้น ท่านคุยกับใครอยู่ทั้งคืน หลวงปู่ตอบว่า.. “ไม่ได้คุยกับใครหรอก.. เฮาชอบนอนละเมอ..”

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - คัดลอกจากงานเขียนท่านอาจารย์อำพล เจน


    สภาพสวยคราบฝาไขว่านคราบเดิมๆ เก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6TIbNW.jpg
      6TIbNW.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.2 KB
      เปิดดู:
      222
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2023
  15. วิจิตร กณะโกมล

    วิจิตร กณะโกมล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +351
    โอนแล้ว 500 บาท
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363



    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$$$$






    2121.กันมหาภัยกันนิวเคลียร์ มงคลวัตถุแห่งพระคาถาวันโลกดับ
    พระนาคปรกร่มเย็น หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย พุทธคุณกันนิวเคลียร์และสรรพภัย

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    พระนาคปรกร่มเย็น หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย ดำเนินการจัดสร้างโดย คุณอำพล เจน แห่งสำนักห้วยไผ่ เนื้อผงมหาพุทธคุณ,ผสมผงเกสร, ผสมว่าน,ผงขี้เหล็กไหล และมวลสารอื่นๆอีกมากมาย ใต้ฐานฝังของอาถรรพ์ และกดโค๊ด(ยันต์สี่เหลี่ยมกันภัย)

    วัตถุประสงค์การจัดสร้าง : เพื่อนำปัจจัยในการบำรุงวัดธาตุมหาชัยทั้งหมด

    พุทธลักษณะ
    เป็นพิมพ์พระสังกัจจายณ์ปิดตาทรงสังฆาฏิ ประทับบนบัลลังก์งู
    ด้านหลัง : บรรจุหัวใจพระคาถาวันโลกดับ บทเดียวกับในตะกรุดที่ฝังชุดพิมพ์พระโพธิบุญญา

    ใต้ฐาน : ประทับยันต์สี่เหลี่ยมกันภัย ของหลวงปู่คำพันธ์(ผูกและย่อมาจากพระคาถาที่ประทับในพระธาตุพนม) พร้อมทั้งบรรจุผงตะไบทอง, พลอยกิมบ่เสี้ยง, ก้อนและผงขี้เหล็กไหล, ว่านมหามงคล


    โดยทำพระขึ้นทั้งหมด 3 พิมพ์ คือ พิมพ์พระนาคปรกร่มเย็น, พิมพ์พระโพธิบุญญา(พระประธานวัดแก่งตอย) กับพิมพ์พระปิดตาบัลลังก์งู (ฐานเป็นงู) จำนวนการสร้าง พิมพ์ละไม่เกิน 2,000องค์ โดยเฉพาะพระปิดตาบัลลังก์งู ได้ถวายหลวงปู่คำพันธ์เพื่อบำรุงวัดธาตุมหาชัยทั้งหมด ท่านที่ต้องการพระปิดตาบัลลังก์งูต้องไปขอรับเองที่วัดธาตุมหาชัย

    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ
    เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยว ในระหว่างพรรษาโดยดำเนินการปลุกเสกระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม ถึง 25 พฤศจิกายน ปีพ.ศ.2539 พระชุดนี้จึงเป็นชุดที่ลงไว้ด้วยพุทธคาถาวันโลกดับ ซึ่งเป็นบทที่หลวงปู่ใช่ในการอธิษฐานจิตวัตถุมงคลอย่างแท้จริง


    คาถากันภัยของหลวงปู่ขาวมีดังนี้
    “ทิตะศีลาคันธะมังกะโร กะระกะลาสาสะติ โสตะถิโหคะหะคะเน”


    ข้อมูลจาก : งานเขียนของคุณอาอำพล เจน ... จากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 339 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2540ปรกร่มเย็นกับหัวใจพุทธคาถาวันโลกดับ

    สภาพสวยเดิม พิมพ์คมยันต์ชัดลึกไม่ผ่านการใช้งาน มีกดไม่ติดบ้างเล็กๆน้อยๆ มวลสารอันศักดิ์สิทธิ์แห่งการเคารพบูชา ผสมผสานกับงานศิลป์ชั้นครูของ คุณอำพล เจน ด้วยแล้วลงตัวสุดๆ แบ่งให้บูชา 1,499 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6i2u-jpg.jpg
      6i2u-jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.2 KB
      เปิดดู:
      357
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2022
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2122.เกษาเยอะๆ พระผงของขวัญรูปเหมือน
    หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน อริยะสงฆ์ศิษย์ ลป.เสาร์,ลป.มั่น

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6wfBub.jpg
    พระผงของขวัญรูปเหมือน หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา ออกวัดวะภูแก้ว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ( หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ผู้เริ่มดำเนินการก่อสร้างวัดวะภูแก้ว หลักสูตรการจัดอบรมพัฒนาจิต ) เนื้อผงพุทธคุณ ผสมเกษา ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2532

    วัดวะภูแก้ว
    ตั้งอยู่ ณ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่ปลูกฝังคุณธรรมแก่เยาวชนไม่น้อยกว่าปีละหมื่นคน

    พ.ศ. 2523 พระสุวรรณ อินฺทสีโล ได้เดินธุดงค์มาปักกลดโปรดชาวบ้านบริเวณน้ำตกวะภูแก้ว ชาวบ้านเกิดความศรัทธาเลื่อมใส จึงอาราธนานิมนต์ท่านให้สร้างวัดขึ้น ท่านจึงได้นำความไปปรึกษากับพระอาจารย์คือ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งที่ พระชินวงศาจารย์ เมื่อหลวงพ่อได้ฟังคำกราบเรียนจากพระสุวรรณนั้นแล้ว จึงได้ออกไปสำรวจดูสถานที่แต่ยังไม่ได้ตกลงใจที่จะเลือกบริเวณที่จะสร้างวัด จนกระทั่งชาวบ้านวะภูแก้วมาแสดงความจำนงขอถวายที่ดินของตนเพื่อใช้เป็นสถานที่ขอสร้างวัด และปวารณาตัวที่จะช่วยหลวงพ่อสร้างวัด หลวงพ่อจึงตอบตกลงโดยให้พระสุวรรณทำหน้าที่เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์และมีองค์หลวงพ่อเป็นประธานสงฆ์

    โครงการอบรมพัฒนาจิตเยาวชน ซึ่งจัดขึ้นที่ วัดวะภูแก้ว ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เป็นโครงการที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2533 โดยทางโรงเรียนเป็นผู้ดำริ และขอให้ผู้รับผิดชอบการอบรม (ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม) ช่วยจัดอบรมให้ที่ วัดวะภูแก้ว
    การอบรมในช่วง 2 ปีแรก จัดเพียงปีละ 2 – 3 รุ่น และเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เป็นปีละ 10 – 20 – 30 รุ่น จนถึงปัจจุบันเฉลี่ยปีละ 40 รุ่น เนื่องจากได้รับผลเป็นที่น่าพอใจ กล่าวคือ นักเรียนที่ผ่านการอบรมจำนวนมาก มีผลการเรียนดีขึ้นและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้นมาก
    หลักการและเหตุผล
    ชีวิตมีองค์ประกอบของธาตุ 2 ส่วน คือ ร่างกายและจิตใจ โดยหลักวิทยาศาสตร์ ร่างกายจัดอยู่ในพวกสสาร ซึ่งโดยธรรมชาติ เป็นรูปธรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงได้ มีความเสื่อมและสูญสลายไปในที่สุด ส่วนจิตใจเป็นพลังงานซึ่งมองไม่เห็นเป็นรูปร่าง แต่ก็เป็นสภาพที่มีอยู่และไม่อาจถูกทำลายได้ ชีวิตที่มีคุณภาพจะต้องมีความสมบูรณ์และแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งคุณภาพชีวิตดังกล่าวสามารถสร้างขึ้นได้โดยการบริหารกายและบริหารจิต
    โดยสภาพที่เป็นอยู่ มนุษย์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับกายมากกว่าจิตหลายเท่า และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ใส่ใจกับเรื่องของจิตเลย วิถีชีวิตจึงเกิดความไม่สมดุล มุ่งเน้นการบำรุงบำเรอความสุขทางกาย ทุ่มเทเงินทองเพื่อความสวยงามของร่างกายและความมั่งมีด้านวัตถุ จนก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวและสังคมหลายด้าน ความเสื่อมโทรมด้านจิตใจคือคุณธรรมนั้นจะนับว่าอยู่ในขั้นวิกฤตก็ว่าได้ การแก้ปัญหาดังกล่าว หากยังละเลยเรื่องของ “จิต” ก็ยังเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด เพราะ “จิต” หรือ “ใจ” เป็นบ่อเกิดของความดีและความชั่วทั้งปวง ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ” การพัฒนาจิตจึงเป็นรากแก้วของการพัฒนาทุกเรื่อง ดังที่มีผู้กล่าวว่า “จะปลูกพืชต้องเตรียมดิน จะกินต้องเตรียมอาหาร จะพัฒนางานต้องพัฒนาคน การพัฒนาคน (ทรัพยากรมนุษย์) ต้องเริ่มที่การพัฒนาจิต จะพัฒนาอะไรก็ติดถ้าจิตไม่พัฒนา” ดังนั้น งานพัฒนาจิตจึงมีความสำคัญอย่างมากที่ทุกคนควรจะนำไปใช้เป็นหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนาสังคม
    โครงการอบรมพัฒนาจิต ณ วัดวะภูแก้ว มูลนิธิสายธารธรรม ในความอุปถัมภ์ของพระราชสังวรญาณ(พุธ ฐานิโย) และศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติวัดวะภูแก้ว เห็นความสำคัญและคุณค่าของการพัฒนาจิตเพื่อช่วยแก้ปัญหาของปัจเจกบุคคลซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม จึงได้จัดโครงการพัฒนาจิตมาอย่างต่อเนื่อง


    สภาพผิวหิ้งเก่าเก็บ เกษาเยอะ แบ่งให้บูชา 199 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณJae จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2021
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2123.สมปรารถนากันนิวเคลียร์(H) เหรียญพระพิฆเนศร์
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน พระอรหันต์เจ้าผู้สำเร็จวิชารัตนจักร

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6t4u-jpg.jpg
    เหรียญพระพิฆเนศร์ เทพแห่งความสำเร็จ หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน จ.อยุธยา เนื้อทองทิพย์ ตอกโค้ดกำกับ จำนวนการสร้าง 233 เหรียญ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 โดยคณะชมรมศิษย์เก่าดนตรีไทย ร่วมกับทางคณะศิษย์ขอร่วมสร้างไว้เพื่อบูชากันในกลุ่มลูกศิษย์ทางชมรม จึงมีจำนวนสร้างไม่มากนัก

    จำนวนการสร้าง
    - เหรียญเนื้อทองคำ 9 เหรียญ
    - เหรียญเงินลงยา 159 เหรียญ โดยแบ่งออกมีทั้งหมด 3 สี คือ ลงยาสีเขียว 39 เหรียญ, ลงยาสีน้ำเงิน 50 เหรียญ, ลงยาสีแดง 70 เหรียญ
    - เหรียญเนื้อทองแดงเนื้อทองฝาบาตรและเนื้อทองทิพย์สร้างรวม 699 เหรียญ ( เนื้อละ 233 เหรียญเท่านั้น )


    พุทธคุณ
    - วัตถุมงคลที่หลวงปู่ชื้นอธิษฐานจิต ท่านประกาศไว้ว่า สามารถป้องกันได้ถึงจรวดปรมณู และรังสี และเปี่ยมด้วยพุทธคุณในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และเจริญก้าวหน้า

    คำอาราธนาพระเครื่อง
    ให้อาราธนาว่าดังนี้ ข้าพเจ้าขอพระบารมีคุณ
    พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ เป็นที่พึ่ง......... หรือ
    พุทธัง ฤทธิ ธัมมัง ฤทธิ สังฆัง ฤทธิ ชัยยะมังคะลัง
    เอหิ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ จิตตัง มะมะ เอหิ


    ให้ท่านอาราธนาทุกเช้าค่ำแล้วท่านจะสำเร็จตามความปรารถนาตามที่ท่านอธิษฐาน

    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ชื้น พุทธสโร
    หลวงปู่ชื้น พุทธสโร มีนามเดิมว่า "ชื้น" เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2450 เป็นบุตรของนายจัน และนางหงิม นามสกุล “ยอดฉิม” เป็นชาวหมู่บ้านไฝต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยครอบครัวได้ประกอบอาชีพด้านกสิกรรม เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่ออายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงอายุ 18 ปี จึงลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปี

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    หลวงปู่ได้อุปสมบท ณ วัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกาะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” ท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 3 จึงสอบได้นักธรรมตรี ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้ แล้วเบนเข็มทิศไปหาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์วัดเกาะลอย ซึ่งทั้งวิชาไสยเวทย์และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้รักษาตนเองได้ จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง ได้ออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีเรื่อยมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมาหยุดจำพรรษาที่วัดญาณเสนในปัจจุบันนี้

    ณ อารามแห่งนี้ ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์และวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สาย หรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมา โดยพึงพอใจกับวิชาความรู้ที่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านช่วยปัดเป่า บรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกัน ช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์สายและพระอาจารย์ชื้นเป็นที่ร่ำลือถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาท่านทั้งสองจะช่วยสงเคราะห์ได้หมด ชื่อเสียงขจรไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้เกิดเป็นโรคเหน็บชา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ยาไทยยาเทศกี่ขนานก็เอาไม่อยู่ เมื่อล่วงรู้เกียรติศักดิ์ของหลวงพ่อชื้น จึงเดินทางมาให้ท่านรักษา ท่านเสกไพรไปให้ทานปรากฏว่าหายเป็นปลิดทิ้ง เขาจึงกราบเรียนท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค นางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพฯ พร้อมถวายตัวเป็นโยมอุปัฎฐาก แต่เมื่อท่านไปปรึกษากับพระอาจารย์สาย ได้รับเหตุผลและแง่คิดมากมาย จนทำให้ต้องบอกปฏิเสธไป ต่อมาพระอาจารย์สายได้ลาสิกขาบทออกไป ทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่อย่างลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันจะมากขึ้นทุกวัน จึงเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม ทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม

    ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปลักกลดอยู่ที่หน้าวัดกุฎีทอง มีญาติโยมขึ้นกันมากมาย ปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้นเป็นที่โจษขานกันมากโดยในวันพระจะไม่พูดกับใครเลยและจะไม่ฉันอาหารใดๆทั้งสิ้น ส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารก็จะมีเพียงกลด จีวรและรองเท้าเก่าๆ ส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนที่ทำจากกะลาเท่านั้น มารู้ภายหลังว่าพระอาจารย์รูปนั้นคือ “พระอาจารย์เสน เตชธัมโม ธุดงค์มาจาก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิด เพื่อสัมผัสและพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า “ท่านเดินผิดทางแล้ว” พระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านนำคำพูดนั้นมาทบทวน และค่อยใช้สติสมาธิพิจารณาถึงความหมาย จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรม ทั้งสองท่านก็ปรารถณาเป็นศิษย์-อาจารย์กัน ทบทวนศีล พระธรรมวินัยต่างๆ โดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราไสยศาสตร์วิชาอาคมต่างๆที่เล้าเรียนมาตั้งแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้น จึงกลับมาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสน พร้อมทั้งนิมนต์ให้ผู้เป็นอาจารย์มาจำพรรษาที่วัดญาณเสน จากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดี แต่ท่านก็ไม่สนใจยังคงมุ่งหน้าที่จะมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษฎ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้น เวลาฉัน ปัสสาวะและขับถ่ายเท่านั้น ชั่วเวลาเพียง 24 วัน จากการเริ่มปฏิบัติท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชา“รัตนจักร” พร้อมกันนั้นท่านก็ถูกร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้พิจารณาในปฏิปทาที่เพี้ยนๆเป็นต้นว่า ชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้างของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบอย่างไรก็ไม่ห้ามปราม หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ จะมาอยู่ในวัดสร้างความสกปรกอย่างไรท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น จึงมีมติให้ปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่ชื้นท่านก็มิได้อนาทรร้อนใจใดๆทั้งสิ้น เพียงขอทางคณะสงฆ์ว่า การตั้งเจ้าอาวาสให้ตั้งจากพระที่มาจากวัดญาณเสนเท่านั้น ในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมทั่วไปก็ยังคงเคารพนับถือหลวงปู่ชื้นไม่มีเสื่อมคลาย ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื้นที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่าน หลวงปู่จะอัญเชิญพระรัตนจักรมาสถิตในวัตถุมงคลนั้นๆเสมอ

    หลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร มรณภาพอย่างสงบในวัย 97 ปี ภายในกุฏิตึกทรงธรรม ต่อหน้าลูกศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูแลใกล้ชิด หลังจากอาพาธมานานด้วยโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เมื่อ 17 มิ.ย. 2546

    เล่นแร่แปรธาตุ
    ในสมัยนั้นบรรดาเกจิอาจารย์นิยมเล่นแร่แปรธาตุ โดยนำโลหะต่างชนิดกันมาผสมกัน เพื่อให้เป็นทองคำให้เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ผสมโลหะ 5 อย่าง 7 อย่าง 9 อย่าง ออกมาเป็นสัตตโลหะ นวโลหะ อย่างเช่น หอกของหลายชุมพล ปลายหอกทำด้วยสัตตโลหะ ใครที่ว่าเหนียว เมื่อเจอโลหะผสมก็เปื่อยเป็นเนื้อต้มทีเดียว หลวงพ่อชื้น ท่านก็ลองวิชาของท่านเหมือนกัน นำโลหะมาผสมได้เนื้อเหลืองทางทองคำก็มี เนื้อเหลือบใสแดงขาวก็มี ท่านเรียกโลหะของท่านว่า เนื้อลูกแก้ว ท่านผสมไว้มากมายใต้ถุนกุฏิ เมื่อใครมาขอท่านก็หลอมเป็นลูกอมเล็ก ๆ ให้พกติดตัว ผู้ที่ได้ไปก็แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ถ้าวันใดว่าง ๆ ท่านก็จะให้ศิษย์ไปหาตะปูสังฆวานรตามเจดีย์ร้างเก่า ๆ มาหลอมรีดเป็นตะกรุด ผู้ได้ไปก็มีความคงกระพันชาตรี มหาอุด หยุดลูกปืน จนท่านทำให้แทบไม่หวาดไหว

    พระธุดงค์มาสอนธรรมะเพื่อความหลุดพ้น
    ต้นปี พ.ศ. 2500 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาที่วัดญาณเสน พบกับ หลวงพ่อชื้นเข้าโดยบังเอิญ ท่านอาจารย์ทั้งสองเกิดถูกอัธยาศัยกัน จึงได้สนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมย่อมรู้ญาณซึ่งกันและกัน เพียงสนทนากันไม่กี่ประโยคก็ทราบได้ว่ามีความรู้เพียงใด บำเพ็ญเพียร มามากเพียงใด

    อาจารย์ต้องการศิษย์….ศิษย์ต้องการอาจารย์
    พระธุดงค์เปรยขึ้นมาว่า ที่ท่านชื้นได้ร่ำเรียนวิชามานั้น ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในวัตถุ ต้องปล่อยปละละวาง ละความโลภ โกรธ หลง ทั้งปวง พร้อมทั้งแนะนำธรรมะ และข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกหลายข้อ ตามแนวทางของพระพุทธองค์หลวงพ่อชื้น จึงได้กราบขอเป็นศิษย์ พระธุดงค์รูปนั้นก็มิได้ปฏิเสธ และพูดว่า “นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล” นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม มีพระธุดงค์รูปนั้น ได้นั่งสมาธิคุมไปด้วย

    ความสำเร็จ
    จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือน กับอีก 27 วัน หลวงพ่อชื้น ท่านก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ว่าจิตใจสบายและสงบขึ้น และในคืนวันที่ 27 นั้นตอนใกล้รุ่งที่โคนต้นโพธิ์ หลวงพ่อชื้น ท่านได้ยินเสียงเหมือนคนหว่านทรายมารอบ ๆ ตัวท่าน จึงลืมตาถาม พระธุดงค์ พี่เลี้ยงว่า “นั่นเสียงอะไร” พระธุดงค์ จึงตอบว่า “ผีประจำต้นโพธิ์มันจะเข้าต้นไม้ มันไล่ท่านแล้ว” คืนต่อมาหลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลาง องค์พระทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจ เต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

    พระอาจารย์มรณภาพ
    หลังจากวันนั้นแล้วพระธุดงค์องค์นั้นก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า หลวงพ่อชื้น เล่าว่า พระธุดงค์องค์นี้ ชื่อ หลวงพ่อเสน เตชะธัมโม เป็นชาวโคราช อำเภอสูงเนิน มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็ก ๆ กับพระยาท่านหนึ่ง ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดบรมนิวาส ได้เล่าเรียนพระปริยัตธรรม วิปัสสนากรรมฐานอยู่กับ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) จนกระทั่งมีความคงแก่เรียน จึงได้ออกรุกขมูลธุดงค์หาความวิเวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งบำเพ็ญเพียรถึงขั้นสูงสุดหลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบ ก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอมหลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

    - หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน"

    - หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา

    - หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น

    - หลวงปู่แหวน วัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

    - ผมเคยถามท่านด้วยตัวเองว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ (เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้) ท่านตอบว่า "ได้" และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้!

    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณpnt014 จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2021
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2124.หนุนดวง เรียกทรัพย์ กันอัปมงคล ท้าวเวสสุวรรณ
    หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง เข้มขลังพุทธาคมสายสำนักวัดประดู่ทรงธรรม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6wl6jg.jpg
    รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ โชคดีปลอดภัย หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จังหวัดชลบุรี ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542 เนื้อทองแดงผิวไฟ ใต้ฐานยิงโค้ดเลเซอร์ สุดยอดแห่งความร่ำรวย อธิษฐานจิตปลุกเสก โดยหลวงพ่อยงยุทธ สวยเข้มขลัง

    ขอขอบคุณที่มาข้อมูลจาก

    : https://www.web-pra.com/shop/itsda/show/1308617

    หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี
    พระครูธรรมกิจโกวิท" หรือ "หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี มีเมตตาธรรมสูง มักน้อยถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มขลังอาคมที่แก่กล้า
    นามของท่านจึงขจรขจายไปไกลทั่วภาคตะวันออก

    ท่านมีนามเดิมว่า จำปี แก้วไพรำ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2470 เขตอำเภอไชโย จ.อ่างทอง บิดา-มารดา ชื่อ นายเชียงและนางถุงเงิน แก้วรำไพ มีพี่น้อง 5 คน
    เมื่อช่วงวัยเด็ก ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดอ่างทอง จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

    ต่อมาท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ยงยุทธ" หลังจากนั้นได้เดินทางมาศึกษาต่อที่โรงเรียนแถวฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 ก่อนที่จะทำงานที่วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
    เมื่ออายุ 23 ปี ท่านตัดสินใจบวชตั้งใจลางาน 15 วัน ณ วัดบ้านป่า อ.ไชโย จ.อ่างทอง โดยมีพระครูโกวิทนวการหรือหลวงปู่โห้ เจ้าอาวาสวัดวงษ์ภาศนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิบูลสังฆกิจ เจ้าคณะอำเภอไชโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอธิการตี๋ เจ้าอาวาสวัดประสาท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมโกสโล

    แต่เมื่อครบกำหนดลางาน 15 วัน ปรากฏว่า พระยงยุทธไม่ยอมลาสิกขาบท ตัดสินใจบวชต่อ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย อีกทั้งมุ่งมั่นฝึกฝนกัมมัฏฐาน จนเกิดความสุขสงบทางใจ
    ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐาน จากหลวงปู่ลิ้ม วัดไทรใต้ จ.นครสวรรค์ และครูจาบ สุวรรณ เป็นฆราวาส เชี่ยวชาญด้านกสิณมาก

    ในปี พ.ศ.2502 ท่านได้ออกเดินธุดงค์ผ่านมา จ.ชลบุรี พบว่าบริเวณเขาไม้แดงนั้น มีความร่มรื่นอาณาบริเวณเงียบสงบ ท่านตัดสินใจจะสร้างวัดที่เขาไม้แดง
    หลวงพ่อยงยุทธ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูธรรมกิจโกวิท หลวงพ่อยงยุทธ เป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อยงยุทธจึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ รูปหล่อ ฯลฯ ได้รับความเลื่อมใสจากบรรดาทหารหน่วยต่างๆเป็นอย่างมาก

    หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล ได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2545 เวลา 05.45 น. สิริอายุ 75 ปี 2 เดือน พรรษา 52 เนื่องจากท่านก็มีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เนื่องด้วยโรคถุงน้ำดีอักเสบและโรคหัวใจ ทางวัดได้บรรจุร่างท่านไว้ในโลงแก้ว ตั้งในกุฏิของท่าน เพื่อให้คณะศิษย์ได้มากราบไหว้ สังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ร่างกายแห้งแข็งคล้ายหิน
    ปูชนียาจารย์ ของหลวงพ่อ
    ท่านเป็นผู้ที่ไฝ่หาความรู้ชอบศึกษาวิชาอาคมตั้งแต่สมัยเด็กๆ จึงได้เรียนหลัดวิปัสนา กัมฐานจากครูบาอาจารย์มากมาย ทั้งที่เป็นญาติของหลวงพ่อเองและพระนักวิปัสนาอื่นๆด้วย อาจารย์ ที่สอนวิปัสนากัมฐานให้มีกลายองค์ ดังนี้

    1.หลวงปู่โห้ วัดประสาท อำเภอไชโย อยุธยา
    ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นญาติของหลวงพ่อเอง

    2. หลวงปู่ลิ้ม วัดไทรใต้ จังหวัดนครสวรรค์
    ท่านเป็นอาจารย์ด้านกรรมฐาน ท่านเก่งด้านวิปัสนาในสมัยนั้นมีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งหลวงปู่ลิ้มไปนั่งกัมมัฏฐานอยู่ในป่าเล็กๆ ใกล้ทางรถไฟ ปรากฏว่า รถไฟไม่สามารถแล่นผ่านไปได้ เมื่อมีเสียงคลเอะอะมากมายกลวงปู่ลิ้มจึงคิดได้จึงถอดจืตออกจากกัมมัฏฐาน รถไฟจึงสามารถแล่นต่อไปได้ ซึ่งท่านได้สอนกัมมัฏฐานและวิชาคาถาอาคมให้หลวงพ่อจนหมดสิ้นเพราะว่าหลวงปู่ลิ้มท่านมีศักดิ์เเป็นตาของหลวงพ่อ

    3.ครูจาบหรือก๋งจาบ
    ฆราวาสผู้เรื่องวิชา ลูกศิษย์ของหลวงพ่อศรี วัดประดู่ทรงธรรม ผู้สืบสายวิชาสาย วัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา (อาจารย์จาบ ท่านนี้ยังเคยเป็นคนช่วยหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ให้รอดตาย จากการถูกหมอไสยศาสตร์บังฟัน ซึ่งตอนนั้น ทุกคนลงความเห็นกันว่า หลวงพ่อปาน ไม่รอดแน่ มีทางเดียว ต้องไปตามก๋งจาบ มารักษา พอก๋งจาบมาก็เอายายอดไม้ ตามตำราของท่านให้กิน หลวงพ่อปานจึงหายเป็นปกติ)

    4.หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ อำเภอมหาราช อยุธยา
    พระเกจิจอมขมังเวทย์ชั้นครู แห่งทุ่งมหาราช เป็นพระเกจิอาจารย์ที่สำเร็จวิชาอภิญญาชั้นสูง เป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ เป็นพระอาจารย์ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, ท่านเป็นอาจารย์ของ อาจารย์จาบ สุวรรณ (ก๋งจาบ)

    5.หลวงปู่สม เจ้าตำหรับมีดบินอันลือลั่น
    หรือพระอาจารย์สม ที่เรา-ท่านรู้กันดี หลวงปู่สมองค์นี้ ท่านไม่ได้อยู่วัดใดวัดหนึ่งแต่ท่านจะพักอาศัยอยู่ตามถ้ำ จากถ้ำนี้ไปถ้ำนั้น เพื่อเรียนวิชาอาคมจากผนังถ้ำ (จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อยงยุทธท่านเล่าให้ฟัง) วิชาอาคมที่หลวงพ่อได้ร่ำเรียนกับหลวงปู่สมอีกวิชาหนึ่งคือ วิชาการรักษาโรคด้วยปรอท(หรือการเรียกปรอท) และแพทย์แผนโบราณด้วยโดยใช้สมุนไพร ส่วนวิชาการเรียกปรอทนั้น ท่านรักษาโดยการให้ปรอทเข้าไปกินของเน่าเสียในร่างกาย เพื่อรักษาโรคน้ำเหลืองเสียและโรคมะเร็ง


    ท้าวเวสสุวรรณ
    เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ เป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง โดยในคัมภีร์เทวภูมิ กล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจาก พระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย


    ความหมายของชื่อ “ท้าวเวสสุวรรณ” นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน
    คนไทยรู้จักท้าวเวสสุวรรณ ในนามของ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” หรือในชื่อ “ธนบดี” แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ “ธเนศวร” แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวงเทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือจำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย

    พุทธคุณ
    - เด่นมาก ด้านมหาอุตม์ คงกระพัน แคล้วคลาดป้องกันภัย เหนียวยันต์กระดูก เหนียวทุกรูขุมขน
    - เด่นมาก ด้านทำมาค้าขายและดูดทรัพย์รับโชคดีบูชาแล้วมีแต่รวย อีกทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม คนรักคนเมตตา นารีอุปถัมป์ หญิงรัก ชายหลง มีเสน่ห์มากๆ จนคนต้องมอง ต้องถามหา
    - เด่นมากด้านเสริมวาสนาบารมี เจริญก้าวหน้าในการทำงานทุกอาชีพ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ปกครองลูกน้องบริวาร คนเกรงใจ เป็นมหาอำนาจ
    - เด่นมากด้านป้องกันภูตผีวิญญาณร้าย คุณไสยมนต์ดำของอาถรรพ์ต่างๆ ขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้ายพร้อมทั้งหนุนดวงค้ำชะตา กลับร้ายกลายเป็นดี สะท้อนย้อนกลับผู้คิดร้าย เห็นผลดีนักแล
    - จึงมีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่อธิษฐานใช้ ทั้งเหนียว คงกระพัน อำนาจ แคล้วคลาดเมตตา มหานิยม ค้าขาย โชคลาภ ป้องกันคุณไสยวิญญาณร้ายต่างๆ ป้องกันสิ่งอัปมงคล สะท้อนสิ่งที่ไม่ดีกลับสำหรับคนที่คิดไม่ดีกับเรา อธิษฐานได้ 108 ประการ


    สภาพสวยพร้อมกล่องกำมะหยี่เดิมๆจากวัด พิมพ์สวยคมโค้ดชัดลึก ของดีมีประสบการณ์ของหลวงพ่อดีขลังทุกรุ่น ผู้บูชาจริงๆเท่านั้นที่จะทราบได้ แบ่งให้บูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณtana_kan จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...