เรารู้จักแต่สมถกรรมฐาน แล้ววิปัสสนากรรมฐานละ? ใครู้บ้าง?

กรรมฐานใน 40 กรรมฐาน เป็นสายสมถกรรมฐาน
แต่วิปัสสนากรรมฐานจริงๆ ฝึกยากมาก และอาจ "บ้า"
ได้ง่ายมากๆ

อาทิเช่น

นิรมาณกายเป็นคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แล้วจ้องจับผิดกัน คนหนึ่งเสนอความธรรม คนหนึ่ง
จับผิดข้อธรรมนั้น แยกออกเป็นสองคน ถกธรมในใจ


ซึ่งก็ถ้าทำไม่เป็น ก็ "บ้า" ได้เลยครับ

 

เคร็ดลับคือ ต้องละ "อัตตา" ออกไป และอาศัยความสงบอย่างยิ่ง
หากถูกรบกวน จะเบลอว่าคิดไปถึงไหนแล้ว ช่วงแรกๆ อาจเลอะเลือน
ลืมๆ หลงๆ ว่าทำอะไรไปถึงไหน เพราะต้องแยกสมาธิทรงไว้เป็นคน
สองคน แล้วใช้สติแยกออกมาเป็นกรรมการดูตลอด

ฝึกจากการเล่นหมากล้อมคนเดียว คนหนึ่งคิดว่า "รุก" คนหนึ่งคิดว่า "รับ"
แล้ววางหมากอย่างรวดเร็วห้ามใช้ความคิด ให้ใช้ "จิต" ควบคุม แล้วดูว่า
ฝ่ายรุกยังรุก ฝ่ายรับยังรับ ห้ามเปลี่ยน ห้ามเผลอ

ซึ่งหากสำเร็จวิปัสสนากรรมฐานขั้นนี้ ภูมิธรรมจะสูงอย่างมากและรวดเร็ว
โดยไม่ต้องอาศัยใครมาช่วยพัฒนาอีกเลย

 

วิชชาแบบนั้นไม่มีหรอก ในตำราไม่มีพูดถึงเลย เอามาจากไหน ผิดชัดๆ
ไม่เคยเห็นว่ามี สรุปว่าต้องผิดเท่านั้น ไม่ผิดไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นว่ามี
อย่างจานบินก็ไม่เคยเห็นว่ามี ต้องสรุปว่า ไม่มีเท่านั้น

ไม่จริงครับ วิชานี้ไม่มีจริง อย่าทำ
พระเจ้าตากเข้าวิปัสสนากรรมฐานแล้วเป็นบ้า อย่าทำ อย่าทำ

 

วิชาลับ "ศาสตร์ตันตระ" ขั้นสูง ที่ไม่เคยได้เผยแพร่มาก
ของที่ไม่เคยมีก็มีได้ เช่น ไวรัสแปลกๆ ของที่เคยมีก็สลายได้
เช่นสัตว์สูญพันธุ์ ดังนี้ ธรรมะ คือ อนิจจัง มีเกิดดับ อย่าได้ยึดติด

วิชาเกิดใหม่ก็มี ดับไปก็มี ใครบอกว่ามีแค่ 40 กรรมฐาน?
นั้นมันบันทึกได้ (เฉพาะที่ได้บันทึก) ไว้นานขนาดไหนแล้ว?
เป็นนักธรรม รู้จักอัพเดทข้อมูลไหม? อย่าเอาแต่ท่องตำราเก่า

 

ไม่จริง ผิดเท่านั้น อะไรที่แตกต่างออกไปจากตำราพระไตรปิฏกต้องผิดเท่านั้น
ไม่ผิดไม่ได้ ผิดจากไตรปิฏกคือผิด ไม่มีคือบิดเบือน ผิดเท่านั้น ต้องยึดตำรา
ต้องยึดตำราเท่านั้น ไม่ยึดไม่ได้ ไม่ยึด "ตาย" ตายเท่านั้น ต้องยึด

ใครไม่ยึดตำราขอให้ "ตาย" !

 

วิชานี้ ฝึกประมาณ 20 กว่าปี
กว่าจะสำเร็จสมบูรณ์จริง
ผมเองฝึกตั้งแต่จำความได้
และพัฒนามาเรื่อยๆ ช่วงแรก
ที่ไม่สมบูรณ์ก็ยังพัฒนาความคิดได้
เป็นลำดับ พอเต็มที่แล้ว จะพัฒนาไม่หยุดยั้ง

 

อะไรที่ไม่มีในตำราอย่าแพลงทำ
เตือนก่อนตาย ตัดก่อนวายวอด!

 

พุทธศาสนาใช้หลักการหาความรู้แบบวิทยาศาสตร์
คือ การตั้งสมมุติฐาน เช่น ว่าไม่เกิดอีกได้ไหม?
แล้วทดลองด้วยคนเอง เรียก "ปฏิบัติจิต" หรือฝึกจิต
แล้วค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม บางอย่างเก่า บางอย่างใหม่
แปรเปลี่ยนไปตามแต่ละยุค ยึดติดไม่ใช่ทางวิทยาศาสตร์

 

วิชาเสี่ยงๆ บ้าอย่างนี้คุณเอามาเผยแพร่ได้อย่างไร
แถมไม่พิสูจน์ให้เห็นชัดก่อนว่าปลอดภัยปฏิบัติได้
แบบสายสมถกรรมฐานที่เขามีในตำรา

นอกตำราก็อันตรายทั้งนั้น บ้าจริงๆ

 

การปฏิบัติทางจิต ต้องพิสูจน์ด้วยจิตตนเอง
เมื่อคุณนั่งสมาธิ ไม่ว่าจะมีในตำราหรือไม่มี
ไม่มีใครรู้ได้กับคุณ ว่าคุณ "หลง" หรือ "ยึดติด"
อะไร คุณต้องพึ่งการทดลองทางจิตด้วยตัวคุณเอง
ปฏิบัติ ทดลองเท่านั้น จึงเป็นพุทธศาสนา

ทว่า ทุกกรรมฐานล้วนมีอันตรายทั้งสิ้น
เพราะการปฏิบัติทางจิตระดับลึก ย่อมกระทบโครงสร้าง
ทางจิตเดิมของคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมีอาจารย์แนะนำ
จึงดีกว่าไม่มีแน่นอน แต่เมื่อคุณนั่งสมาธิ อาจารย์จะเข้าไปดูจิต
คุณก็ทำไม่ได้ ส่วนการฝึกนิรมาณกายเป็นสองนี้ คือ การฝึก
เป็นครูและเป็นนักเรียนของตัวเองไปในตัว หากคุณสามารถ
วางตนเป็นกลาง มีสติชัด ปล่อยวางอัตตาได้ หนึ่งกาย
อีกกายหนึ่งคุณจะหลงจะไปฝึกอะไร คุณก็เหมือนมีอาจารย์ประจำจิตตน


เช่นนี้ อาณิสงค์ของการฝึกวิปัสสนากรรมฐานด้วยการนิรมารกายเป็นสอง
นี้จึงช่วยคนได้ดีที่สุด เสมือน "ตนเป็ฯที่พึ่งแห่งตน"

 

ไม่จริง ผมศึกษาอ่านเอา ผมได้ความรู้มากมายแตกฉาน
คุณเดาเอามั่วไปนั่งทางใน นั่งเดาเอาเองทั้งนั้น ผมจำได้
ท่องได้มากมาย ตำราอะไรผมก็อ้างอิงได้ทั้งนั้น

และที่สำคัญ ผมอ้างอิงได้ข้อสรุปทันทีเลยว่า

"คุณผิดแน่นอน"

เพราะมันไม่ในตำราไหนเลย

 

คุณเองก็เป็น "จิตฝ่ายดำ" ของผม ที่ผมได้บันทึกเอาไว้เพื่อศึกษา
การยึดมั่นถือมั่น เพื่อใช้ในการสอนคนที่ยึดมั่นถือมั่นในแบบต่างๆ



คุณคือส่วนหนึ่งของผมนั่นเอง คือ "จิตมาร" ที่ผมจำแลงไว้ และ
คุณจะเติบโตขึ้นแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมเจอฝ่ายมาร เพราะคุณ
จะทำหน้าที่เรียนรู้ "ฝ่ายดำ" จากนั้น ผมนี่แหละ จะหาทางจัดการกับคุณ
ดังนี้ ทุกครั้งที่ผมเจอมาร ผมจึงกล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุณ "จิตดำ"
ที่ผมสร้างไว้

นี่แหละวิชา "นิรมาณกายวิปัสสนาธรรม" ของผม

 

คุณมันบ้าแล้ว

บ้าไปแล้ว ฝึกอะไรมาจนบ้าละเนี่ย? สงสัย ไอ้วิชชาประหลาดที่คุณ
เอามาเผยแพร่มั่วๆ นี่แน่เลย ใครเป็นส่วนเดียวกับคุณ บ้าหรือเปล่า

ผมคือผม ตัวของผม ไม่เกี่ยวกับตัวคุณ ไปดีกว่า ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว...

 

อย่างไรก็ขอบคุณที่สนทนาด้วยนะครับ
เพราะนี่เป็น "การแสดง" เพื่ออธิบาย
วิธีการนิรมาณกายถกธรรมกับตัวเอง
แบบวิธี "นิรมาณกายวิปัสสนาธรรม"


เท่านั้นเอง...

 

แหม...คิดจิตดำ กะคุณจิตขาว...นามสกุลวิเคราะห์ เล่นตลกอะไรกันค่ะ เล่นมากไประวังจะเสียขบวนนะค่ะ

งง อ่ะ เราก็ไม่เก่งวิเคราะห์นะ ถ้าเก่งเราจะตีให้กะจุยเลย 5555

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]

KomAon11, Supernova, ลัก...ยิ้ม, จิตขาววิเคราะห์, จิตดำวิเคราะห์, ปานโสม

----------------------------------------------------------------------------------------

เอ่า แบบนี้ต้องเรียกคุณสายแก้วมาแล้วหล่ะมั๊งเนี่ย

 

หนูยัง ไม่ได้อ่านละเอียด รู้แต่ว่ามี ขาวมีดำ
แค่ดูก็งง กัก ๆ

 

พระเจ้าตากไม่ได้เป็นบ้าโว้ย
ท่านใส่ร้ายบรรพบุรุศข้าด้วยเหตุอันใด้

 

ถูกต้องแล้วพระเจ้าตากมิได้เป็นบ้า มิหนำซ้ำท่านยังบรรลุอรหันต์อีกด้วย การกล่าวล่วงล้ำผุ้เป็นอริยโดยมีได้ศึกษาไตร่ตรองย่อมไม่สมควรอย่างยิ่ง พูดให้น้อยปฏิบัติให้มากจึงดี ดั่งหลวงปู่ทวดกล่าวว่า นิ่งเสีย โพธิสัตว์ ไงล่ะ

 

ส่วนเรื่องวิปัสนากรรมฐานนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าจะมีนิพพานเป็นที่หมายทุกคนต้องรู้จัก ตัวนี้ตัววิปัสสนา ตัวปัญญา ตัวรู้แจ้งแทงตลอด รู้แล้วก็ทำให้ได้อย่ารู้เพียงเพราะเขาว่ามา ถ้ามีเพียงสมถกรรมฐานก็จักได้เพียงฌาณ และ ฤทธิ์ที่เสื่อมได้เท่านั้น จงเพียรปฏิบัติและศึกษาให้รู้ด้วยตนเองเถิด อย่าได้อวดรู้ต่อผู้อื่นเลยเป็นดี. สาธุ