วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รายการที่ 362 เหรียญอายุวัฒนมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 เนื้อนวะโลหะ 1 ใน 150 เหรียญ คัดสวยแชมป์

เหรียญรุ่นนี้มีโค๊ดเฉพาะรุ่นไม่เหมือนรุ่นอื่น เหรียญขนาดกำลังน่าบูชา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 ซ.ม.

ความหมายของยันต์ด้านหลังเหรียญอายุวัฒนมงคล (จิ๊กโก๋เล็ก) ปี 2550

รุ่นนี้หลวงพ่อตัดเมตตาวางรูปแบบยันต์ด้วยตัวท่านเอง
ยันต์ด้านหลังตรงกลางเหรียญเป็นยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ใหญ่ในตำราพิชัยสงคราม เกจิอาจารย์สมัยโบราณและเกจิอาจารย์ชื่อดัง มักนิยมใช้เป็นยันต์ประจำตัว เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีเป็นต้น ยันต์นีมีอนุภาพโดดเด่นในทางคุ้มครองป้องกัน ภัย และเสนียดจัญไรทั้งปวง สมัยโบราณมักจะใช้ทำเป็นผ้ายันต์ติดหัวเสาบ้านเรือน เพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคลเข้ามาในบ้าน ตัวยันต์ตรีนิสิงเห จะประกอบตัวเลขต่างๆ ตั้งแต่ ๑ ถึง ๙ ซึ่งตัวเลขแต่ล่ะตัวจะแทนความหมายแตกต่างกัน และมีอานุภาพแต่ต่างกัน เช่นเลข ๔ คือ นะ มะ พะ ทะ ซึ่งหมายถึง ธาตุทั้ง ๔ เป็นต้น
ส่วนยันต์ที่ล้อมรอบยันต์ตรีนิสิงเหนั้น คือยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์ หรือเรียกอีกอย่างว่า คาถาพระธรรมราช ซึ่งบางตำราบอกว่าใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง อุปเท่มากมาย เรียกได้ว่าฝอยท่วมหลังช้าง ส่วนคาถารอบนอกคือคาถาที่นำมาจากบทคาถามงคลจักรวาลน้อย ที่เกจิอาจารย์ใช้อวยพรลูกศิษย์ลูกหาหรือนำมาสวดทำน้ำมนต์ ๗ วัด ซึ่งประกอบไปด้วย

อายุวัฑฒะโก ความเจริญอายุ
ธะนะวัฑฒะโก ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก ความเจริญสุข

ด้วยยันต์ด้านหลังของเหรียญรุ่นนี้ จึงมีอนุภาพคุ้มครอง ป้องกัน ภยันตรายต่างๆได้สูงมาก และสามารถอธิฐานทำน้ำมนต์หรืออธิฐานขอบารมีให้มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งประสบการณ์ด้านความเจริญก้าวหน้าในชีวิตนี้ก็ได้ยินมาเยอะมากทีเดียว

เหรียญอายุวัฒนมงคลเหรียญนี้เป็นเนื้อนวะโลหะ สร้างทั้งหมดเพียง 150 เหรียญครับ หายาก สภาพคัดสวยแชมป์ พระอาจารย์ทินเมตตาลงเหล็กจารนะมหามงคลด้านหน้าให้แล้ว

มีผู้บูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 363 พระคงหล่อ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551 เนื้อทองแดง 1 ใน 105 องค์

อีกหนึ่งวัตถุมงคลที่แทบจะกลายเป็นตำนาน เพราะด้วยจำนวนการสร้าง และวัตถุประสงค์ที่ดีเพื่อแจกให้กับผู้มาทำบุญกฐิน ซึ่งต้องบอกว่าตกไปอยู่ในมือผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัดและไม่มีออกมาหมุนเวียนกันนานมาดแล้วสำหรับเนื้อทองแดง

ผู้เขียนเคยได้คุยกับผู้รู้ที่วัดท่านหนึ่งท่านก็ได้ให้คำแนะนำว่า นอกจากตะกั่วที่ซึ่มซับพลังงานได้ดีและง่ายที่สุดแล้ว หากต้องการเนื้อหาที่ซึมซับหลังงานของคงกระพันได้ดีให้มองหาเป็นตระกูลพระที่ทำด้วยทองแดง ซึ่งพระคงเนื้อทองแดงนี้ก็จะตอบโจทย์มากๆครับ สำหรับผู้ที่มองหาวัตถุมงคลที่เน้นทางด้านคงกระพันเป็นหลัก

โดยชุดพระคงนี้หล่อที่วัดทั้งหมด
องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้สภาพสวยแชมป์ หากยากมากครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 364 เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548 เนื้อนวะโลหะ หลวงพ่อตัดจารเอง

เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2548 ถือว่าเป็นเหรียญยอดนิยมรองจากเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อตัดครับ ถือว่าเป็นเหรียญที่มีจำนวนการสร้างไม่มาก ในปัจจุบันส่วนของเนื้อเงินราคาเช่าหาก็แซงเหรียญรุ่นแรกไปแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นเหรียญที่เล่นหาได้ง่ายที่สุดเพราะมีหลายโค๊ดหลายลายมือให้เล่นหา

นอกจากนี้ในส่วนของการสร้างก็ถือว่าเป็นรุ่นที่พิถีพิถันมากที่สุดรุ่นหนึ่งเลยครับ เนื่องจากจะมีการนำเอาชนวนต่างๆมากมายไปหลอมและรีดออกมาเป็นแผ่นก่อนที่จะนำไปปั๊มออกมาเป็นเหรียญครับ

ด้านหลังบรรจุยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า ถือว่าเป็นยันต์ใหญ่ที่หลวงพ่อตัดท่านเองก็ชอบมากๆ
ประสบการณ์จะเน้นไปทางคำคูนหนุนดวงชะตา เลื่อนขั้นเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ปกป้องคุ้มครองทั้งจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้มิได้ยกเมฆมาเขียนแต่อย่างใด มีผู้ประสบเรื่องราวต่างๆมาเล่าให้ผมฟังเองก็หลายคน นอกจากนี้ยังเคยมีคนบอกว่าเหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่ “สว่างที่สุด” ของหลวงพ่อตัด วัดชายนาอีกด้วย

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเหรียญของหลวงพ่อตัดวัดชายนาที่จะนำไปอาราธนาบูชาแบบเหรียญเดียวจบ ส่วนตัวผมเองก็ขอแนะนำเหรียญรุ่นนี้ครับ เพราะมากประสบการณ์ เล่นหาง่าย และพิจารณาง่ายที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของเหรียญหลวงพ่อตัด วัดชายนา เรียกว่าเป็น เหรียญดี อนาคตไกลครับผม

เนื้อนวะโลหะสร้างทั้งหมดเพียง 500 เหรียญ โดยเหรียญนี้ตอกโค๊ดวชน. เบนซ์ ซึ่งมีเพียง 200 เหรียญเท่านั้นจากจำนวนสร้างทั้งหมด พระอาจารย์ทินจารเยอะพิเศษ ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ราคามีการขยับขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้ยังพอหามาแบ่งบูชาได้ แต่ในอนาคตไม่รับประกันว่าจะหาสภาพแบบนี้ในราคานี้มาแบ่งปันได้อีกไหม

หากใครมีเหรียญเนื้อนวะโลหะมากกว่า 1 เหรียญลองหยิบมาเทียบผิวดูนะครับ แต่ละเหรียญจะผิวไม่เหมือนกันและมีเสน่ห์ในตัวของตัวเองมากๆเนื่องจากมีการหลอมชนวนมวลสารต่างๆมากมายก่อนที่จะนำไปรีดแล้วปั๊มดังที่กล่าวมาด้านบน

เหรียญที่นำมาแบ่งบูชานี้เป็นเหรียญสภาพคัดสวย ผิวมีเสน่ห์มากๆ ตอก 2 โค๊ด โค๊ดเบ๊นซ์และ ต หยดน้ำ หลวงพ่อตัดเมตตาลงเหล็กจารเอง ซึ่งถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว เผลอๆจะน้อยกว่าเนื้อเงิน ซึ่งหลวงพ่อตัดจารเองทั้งหมดซะด้วยซ้ำครับ

อีกหนึ่งเหรียญที่แนะนำให้บูชาขึ้นคอ และเก็บสะสมได้ เพราะเพดานยังไต่ระดับไปได้อีกไกล สำหรับเหรียญยอดนิยมของสายวัดชายนาครับ

มีผู้บูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 365 สมเด็จสามชั้นรุ่นแรก ปี 2505 เนื้อแก่ว่าน หลวงพ่อตัด วัดชายนา (รายการนี้หายากมากครับ)

ประวัติพระสมเด็จสามชั้นรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา

เริ่มสร้างราวๆปี 2497 หลวงพ่อทดลองทำโดยออกแบบพิมพ์เองผสมเนื้อและผงเอง กดพิมพ์ไว้จำนวน 57 องค์ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธนั่งสมาธิบนฐาน 3 ชั้น ด้านหลังจารมือตัวนะ รุ่นแรกนั้น เนื้อจะออกขาวอมแดง พิมพ์คมชัดละจารด้ายเหล็กลงในเนื้อพระ ส่วนผสมจะมีผง ว่าน ข้าวสุก แป้งมัน กล้วยสุก หลังจากนั้นท่านก็สร้างต่อมาเรื่อยๆ ไม่มีบันทึกจำนวนการสร้างไว้ แต่พอแยกเนื้อในยุคแรกๆได้ จะเป็นพระเนื้ออกสีขาว หรืออมเหลือง หรือเนื้อแก่ว่าน เนื้อแดงน้ำตาลไหม้ผสมผงใบลานเก่า

ต่อมา ปี 2505 ก็มีข้อมูลการจัดสร้างอีกครั้งจากคำบอกเล่าของชาวบ้านและลูกศิษย์หลวงพ่อตัดในยุคแรกหลายๆท่าน ที่รวบรวมมาได้ และข้อมูลจากผู้ที่ช่วยหลวงพ่อกดพระพิมพ์นี้คือคุณลุงทับ สุมกระจิว ซึ่งบวชในยุคนั้น และจำพรรษาที่วัดชายนาในปี 2507 ปัจจุบันท่านก็อายุแปดสิบเศษแล้ว พระชุดนี้จัดสร้างยุคแรกราวๆปี 2505 มีด้วยกัน 2 พิมพ์ พิมพ์พระรอด พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น พิมพ์พระรอดคาดการว่ามีประมาณ 500 องค์ พิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น มีราวๆ 10 บาตรพระหรือประมาณ 1,500 องค์ จะเป็นเนื้อแดงผสมกระเบื้องหลังคาโบสถ์และอิฐกำแพงวัด เนื้อเหลืองผสมว่านที่หลวงพ่อตัดท่านหามาเอง บางองค์จะมีรอยจารด้วยดินสอซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้จารเองทั้งหมด พิมพ์สมเด็จมีกดพิมพ์ 2 หน้าก็มี ปั้นเป็นทรงเล็บมือก็มี

เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี 2505 ถึง ปี 2507 ปลุกเสกอยู่หลายพรรษาด้วยกันกว่าจะนำมาออกแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในช่วงนั้น พระผงชุดนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว บางคนยังนึกว่าเป็นพระของหลวงพ่อทองด้วยซ้ำ พระชุดนี้ประสบการณ์ด้านเมตตาแคล้วคลาดโดดเด่นมาก เมตตาโชคลาภก็ดีเยี่ยม จัดว่าเป็นพระเพียงรุ่นเดียวที่หลวงพ่อตัดท่านหามวลสารเองและกดพิมพ์ที่วัดทั้งหมด เป็นปฐมบทของวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่มีข้อมูลหลักฐานแน่ชัดถึงที่มาที่ไปที่สุดรุ่นหนึ่ง จึงทำให้ในปัจจุบันนี้เป็นที่เสาะแสวงหาแก่ผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัดอย่างมาก



บทสัมภาษณ์ ลุงทับ สุมกระจิว บันทึกไว้เมื่อวันนี้วันที่ 3 พ.ค.2557

ลุงทับ บวชที่วัดเขากระจิว ปี 2507 แต่ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดชายนา เป็นหนึ่งในพระที่ช่วยหลวงพ่อกดพระชุดปี 2507 ในพรรษา

ผู้ถาม : หลวงพ่อตัดท่านมีนิสัยอย่างไรในยุคสมัยนั้น ดุหรือไม่ครับ ?

ลุงทับ : ไม่ดุ แต่เป็นคนตรงไปตรงมา โผงผางเคร่งในพระธรรมวินัย เป็นคนไม่หวงของ เวลาจะแจกอะไรให้ใครก็ให้เป็นถุงๆ แล้วก็บอกว่า “เอาไป เอาไปแจกให้หมด“

ผู้ถาม : หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังไหมว่าไปเรียนวิชาจากที่ไหนมาบ้างครับ ?

ลุงทับ : ไม่เคยบอก แต่ก็พอรู้ แรกๆเริ่มเรียนไสยศาสตร์จากหมอชาวบ้าน ไปเรียนดูที่ทางปลูกบ้านจากหลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ เรียนทำปลัดจากหลวงพ่อไท วัดไทรย้อยด้วย

ผู้ถาม : สมัยก่อน หลวงพ่อทำตะกรุด ปลัดขิกหรือยังครับ ?

ลุงทับ : ตอนนั้นตะกรุดยังไม่ได้ทำ แต่ปลัดขิกทำแล้ว สมัยนั้นรูปทรงไม่สวย มาเริ่มยุคหมอหอมจะสวย หลังๆก็มีช่างไม้เก่ามารับจ้างแกะ ก็จะสวยขึ้นมาอีก

ผู้ถาม : สมเด็จสามชั้น หลวงพ่อเป็นคนดำริให้ทำเองหรือเปล่าครับ ?

ลุงทับ : ใช่ท่านทำเอง แต่ไม่รู้ใครเป็นคนแกะบล็อกมา เป็นบล็อกหินมีดโกน มีอยู่สองบล็อก

ผู้ถาม : หลวงพ่อเป็นคนหามวลสารมาเองหรือเปล่าครับ ?

ลุงทับ : ใช่ หลวงพ่อหามาเองทั้งหมด เป็นพวกผงว่าน108,เกสรดอกไม้,ผงพุทธคุณ มาตำผสมข้าวสุก กับกล้วย มีหลายสี สีน้ำตาล สีแดง สีเหลืองอ่อน สีขาวก็มี

ผู้ถาม : ทำไมสีถึงต่างกันครับ ?

ลุงทับ : สีต่างๆมันมาจากผง จำพวกไขโบสถ์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ผงใบลานที่เป็นคัมภีร์เก่าจากวัดเขากระจิว เอามาเผา เนื้อจะสีออกน้ำตาลดำๆเนื้อ นี่จะมีน้อยที่สุด หายากมีไม่กี่ร้อยองค์ ไม่ค่อยสวยนัก สีเหลืองๆขาวๆจะเยอะที่สุด รองมาก็สีแดง

ผู้ถาม : มีพิมพ์อะไรบ้างครับ ?

ลุงทับ : สมเด็จสามชั้น,พระรอด สองพิมพ์ หนักไปทางสมเด็จ พระรอดสร้างน้อย

ผู้ถาม : ทำเยอะไหมครับ ?

ลุงทับ : ก็หลักพัน ทำทุกวันในพรรษานั้น เช้าเรียนพระวินัย ช่วงบ่ายว่างก็ไปกดพระกัน ใครว่างก็มากด วันหนึ่งก็ได้เป็นร้อย แต่ท่านเอาไปไว้ไหนบ้างก็ไม่รู้ได้ จะฝังกรุไหนก็ไม่รู้ บ้างก็ว่าเอาใส่ในบาตรไปฝังไว้ในป่าช้า

ผู้ถาม : ท่านปลุกเสก หรือให้เกจิอื่นเสกด้วย?

ลุงทับ :ท่านเสกของท่านเองทุกคืน ในห้องท่านจะมีสายสิญจน์โยงเต็มไปหมด กดพระเสร็จก็เอาไปตาก พอแห้งก็เอาเข้าห้องไปปลุกเสก ยังไม่ได้แจกในตอนนั้น แต่เอาออกมาแจกช่วงงานทำบุญผูกพัทธสีมา เมื่อปี 2525 ซะเยอะ

บทสัมภาษณ์ลุงทับทั้งหมดถอดจากคลิปอัดเสียง แล้วข้อมูลประกอบเพิ่มเติมจากลูกศิษย์ยุคเก่าของหลวงพ่อตัดที่ได้รับมอบพระชุดนี้ไป บางองค์มีจารดินสอเดิมๆ บางองค์หลวงพ่อก็เมตตาให้หมึกจารให้ในภายหลัง จึงเป็นข้อสรุปที่แน่ชัดได้ว่าพระชุดนี้หลวงพ่อท่านสร้างเองเสกเองเพื่อมอบให้ลุกศิษย์ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในยุคแรกๆอย่างแท้จริง

ศิษย์ยุคเก่าหลายๆคนก็บอกว่าหลวงพ่อท่านใช้สีในการจำแนกพุทธคุณ เช่นแดง ไปทางแคล้วคลาดคงกระพัน เหลืองแก่ใบว่านก็จะไปทางเมตตามหานิยม แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ อย่างแน่ชัดเป็นเพียงแต่ข้อสันนิษฐานจากประสบการณ์ที่บอกเล่าต่อกันมาเท่านั้น

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 366 พระปิดตาเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปลุกเสกวันเพ็ญ ปี 2550

หนึ่งในพิมพ์ชุดสำคัญของวัดชายนา หลวงพ่อตัดท่านได้นำมวลสารพิเศษตามเคล็ดลับโบราณผสมเพิ่มเติมเข้าไปในเนื้อผงพุทธคุณและว่านต่างๆ มวลสารนั้นก็คือผงเยี่ยวชะนี ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลาย เปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูก เปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี ลองดูเถิด อย่าสงสัยเลย

พระปิดตาองค์นี้เป็นเนื้อว่านผสมเยี่ยวชะนี องค์นี้เนื้อแก่ว่านปละเยี่ยวชะนีจัดๆ สภาพสวยไม่ผ่านการใช้

หลวงพ่อตัดปลุกเสกพิธีเพ็ญ ปี 2550 ซึ่งทางวัดชายนาจะถือว่าเป็นวันที่ปลุกเสกวัตถุมงคลด้านเมตตาขึ้นมากๆครับ โดยชุดนี้จัดสร้างไว้เพียงไม่กี่ร้อยองค์เท่านั้น หายากและนิยมมากๆครับ นานๆจะออกมาหมุนเวียนเปลี่ยนมือ
ด้านหลังที่เห็นเห็นเหลืองๆนั้นเป็นการป้ายผงเยี่ยวชะนีไว้อีกชั้น เพิ่มขึ้นจากการผสมในเนื้อแบบทั่วไป มีฝังแร่เพิ่มเติม พระอาจารย์ทินจารนะเมตตาด้วยหมึกเงินให้แล้วครับ หนึ่งในวัตถุมงคลชุดผงเยี่ยวชะนียอดนิยมที่ราคายังไม่แพงมากและขอแนะนำให้หาเก็บหาบูชาครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 367 ตะกรุดนะโภคทรัพย์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อเงินผสม ปี 2549 ตอก 3 โค๊ด

ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดยันต์นะโภคทรัพย์ เนื้อเงินผสมครับ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งยันต์พิเศษที่หาพบไม่ได้ทั่วไป น่าอาราธนาขึ้นคอ ด้วยความที่วิชามนต์จินดามณีอันลือชื่อของหลวงพ่อนั้นทำให้ตะกรุดมนต์จินดามณีราคาไปไกลมากๆบางดอกทะลุแสนบาทไปแล้วในตอนนี้ ซึ่งศิษย์หลายๆท่านก็เลือกใช้ตะกรุดทางด้านโภคทรัพย์ทดแทนกันได้ เนื่องด้วยวัสดุเองก็ตรงตามตำราว่าให้ใช้โลหะสีเงิน-ทองมาทำ จึ่งไม่แปลกหากหลวงพ่อตัดท่านจะปลุกเสกตะกรุดที่ทางเมตตา-โภคทรัพย์ด้วยมนต์จินดามณีครับ

สำหรับตะกรุดดอกนี้ตอกทั้งหมด 3 โค๊ดด้วยกัน โค๊ด วชน กระโดด โค๊ดนะ และ โค๊ด ต 75 ที่ใช้ในการตอกช่วงปี 2549 เพียงปีเดียว

นอกจากยันต์นะโภคทรัพย์ที่เป็นหลักแล้วก็มียันต์อื่นๆที่ท่านลงไว้เป็นทางเมตตา-โชคลาภล้วนๆ หายากครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

"ลายมือหลวงพ่อตัด และวัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดจารเอง"

กล่าวได้วัตถุมงคลไม่ว่าจะเป็นตะกรุด ปลัดขิก ผ้ายันต์ฯลฯที่เป็นลายมือหลวงพ่อตัดจารเองนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดาศิษย์ผู้เคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่อแทบทุกคน เนื่องจากว่าวัตถุมงคล 99% ที่เป็นการจารมือของวัดชายนานั้น หลวงพ่อตัดจะไม่ได้เป็นผู้จารเอง จะเป็นลายมือของพระอาจารย์ทินซะเป็นส่วนมาก และก็ยังมีลายมือของศิษย์ที่ได้รับการครอบครูให้ช่วยจารบางส่วนทั้งสิ้น

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดจารเองโดยเฉพาะวัตถุมงคลประเภทตะกรุดหรือปลัดขิกนั้นก็จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะหลวงพ่อตัดท่านเขียน จาร ม้วน เสกและเป่าด้วยตัวเอง ในคราวนี้ก็ขอกล่าวถึงเครื่องรางประเภทตะกรุดที่หลวงพ่อตัดจารเองก่อนครับ สำหรับตะกรุดที่หลวงพ่อตัดจารเองนั้น ได้รับการยอมรับจากพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมากมายหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่ออิฏฐ์แห่งวัดจุฬามณี เจ้าตำรับท้าวเวสสุวรรณอันโด่งดัง ก็ได้พบเจอเหตุการณ์ที่หลวงพ่อตัดจารลงบนตะกรุดด้วยคำว่า "สวยๆงามๆ" หลังจากนั้นก็เสกจนตะกรุดหมุนในฝาบาตรให้หลวงพ่ออิฏฐ์ท่านเห็น ท่านก็ได้ตำรวจหมู่บ้านของพื้นที่วัดจุฬามณีไปลองยิง กดจนหมดแม็กก็ยิงไม่ออก

หรือไม่ว่าจะเป็นพระสุปปฏิปัณโณอย่างองค์สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันนั้น เมื่อสมัยหลวงพ่อตัดท่านดำรงสังขารอยู่ ก็ได้บอกให้กับคณะศิษย์ว่า "ถ้าผ่านไปเมืองเพชร ให้แผ่(เตรียม) แผ่นตะกรุดไปให้หลวงพ่อตัดท่านจาร องค์นี้ท่านเก่งตะกรุดมาก"

โดยตัวยันต์ที่หลวงพ่อตัดท่านมะจะนิยมลงไว้ในตะกรุดก็จะมี คาถาพระเจ้า 5 พระองค์, ปวโร(ฉายาของท่าน), คาถามหาอุด, คาถาหัวใจสิวลี อาจจะพบเจอยันต์อื่นๆที่หลวงพ่อตัดท่านลงเป็นพิเศษให้อีกก็ได้ เช่นคาถาพุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษาฯลฯ, คาถาไตรสรณคม, คาถานะเมตตา ซึ่งจะพบเจอได้น้อยมากๆ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลก็จะไม่เกินคุณพระรัตนตรัย ในส่วนของตะกรุดที่ท่านจะจารให้แปลกๆอย่างที่หลวงพ่ออิฏฐ์ท่านได้พบเจอนั้นก็จะเป็นส่วนน้อยมากๆ เนื่องจากขึ้นอยู่กับผู้ขอให้จาร หลวงพ่อตัดท่านจะดูผู้ขอว่าควรจะได้ไปทางใด แนวใด หรือตามแต่ที่ร้องขอ และอารมณ์ท่านในขณะนั้นๆ

มาในยุคสมัยปัจจุบันนี้ ตะกรุดที่หลวงพ่อตัดจารเองจึงขึ้นแท่นตะกรุด 1 ใน 3 ตะกรุดยอดนิยมของวัดชายนา เป็นตะกรุดที่มีราคาและเป็นที่แสวงหาของคนจำนวนมาก จึงไม่แปลกที่จะมีการปลอมลายมือเกิดขึ้น

ในวันนี้ขอนำเสนอตัวอย่างลายมือของหลวงพ่อตัดจารลงบนแผ่นตะกรุดและผ้ายันต์บางส่วนที่ได้รับความนิยม เป็นมาตรฐานนิยมมานานแล้วให้ได้ชมกัน

ลายมือยุคต้น ช่วงปี 2518 ลงไป ซึ่งเป็นลายมือเดียวกันกับที่ปรากฏอยู่ในสมุดบันทึกวิชา พระเวทย์ของท่านที่จดไว้ด้วยลายมือของท่านเอง




ลายมือช่วงยุคกลางจนถึงยุคปลาย ในยุคนี้จะเห็นได้ชัดถึงความพลิ้วของลายมือขึ้นมาก ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของหลวงพ่อตัดในขณะที่จารด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นลายมือมาตรฐานนิยมมาแต่ดั้งเดิม มีธรรมชาติให้เป็นจุดสังเกตุพิจารณาได้ไม่ยาก แต่สำหรับผู้ศึกษาใหม่ ควรระมัดระวังในการเช่าหา เนื่องจากหากเริ่มต้นผิดแล้ว จะทำให้หลงทางได้ง่าย เหมือนประโยคที่ว่า ติดกระดุมเม็ดแรกผิดแล้ว เม็ดต่อไปจะติดให้ถูกก็คงไม่ได้

 

”อยากจนให้เลี้ยงพระ...
อยาก รวยให้เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย...
อยากสุขสบายให้เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่”

คำสอนของหลวงพ่อตัด ปวโร (ท่านเจ้าคุณพระพุทธวิริยากร) อดีตเจ้าอาวาสวัดชายนา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ทำไมเลี้ยงพระเราต้องจนด้วยครับ ท่านก็ไขข้อสงสัยให้กระจ่างว่า

"มึงรู้มั้ย ไอ้พระหลายๆรูปน่ะ มีเงินฝากในธนาคาร มีเก็บไว้ในกุฏิ มีทรัพย์สินต่างๆตั้งเท่าไหร่ คนแห่แหนเอาเงินไปให้ ทั้งที่อยู่ดีมีสุขนอนสบายในห้องแอร์ อยู่ดีกินดียิ่งกว่าคนที่เอาเงินไปให้อีก เอาเงินมาซื้อควายเลี้ยง มึงยังจะรวยเสียกว่าเอาเงินไปให้พระซะอีก ถ้าอยากสุขสบายให้ดูแลพระในบ้านให้ดี พ่อกับแม่นั้นสำคัญที่สุด ถ้าเลี้ยงกายไม่ได้ก็ให้เลี้ยงใจ ...การเลี้ยงกายก็คือให้ท่านอยู่ดีกินดี มีอะไรดีๆ ก็สรรหาให้ท่านกินท่านอยู่ แต่ถ้าเงินไม่มากเลี้ยงกายไม่ไหวก็ให้เลี้ยงใจแทน การเลี้ยงใจก็คือการทำให้พ่อแม่สุขสบายใจ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ท่าน ไม่นำเรื่องปวดหัวมาให้ท่าน แต่ถ้าเลี้ยงกายไม่ได้แสดงว่ามึงเสียชาติเกิด ถ้ามึงคิดจะคบใคร อยากสมาคมกับใคร มึงลองสังเกตุคนๆ นั้นให้ดีๆ ถ้ามันเอาใจใส่พ่อแม่ มันดีแสดงว่ามันใช้ได้ แต่ถ้ามันละเลยหลงลืมพ่อแม่ มึงอย่าได้เอาตัวเข้าไปคลุก มันเปลืองตัว ก็ขนาดพ่อแม่มัน มันยังไม่รักไม่เอาใจใส่ นับประสาอะไรกับมึงล่ะ..."

บทความข้างบนนี้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับคำสอนของหลวงพ่อตัด หลายๆท่านอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว ซึ่งต้นฉบับนั้นได้ถูกบอกเล่าโดย พี่หนึ่ง ธนพรหมสรรค์ หรือหนึ่งสยาม บุตรบุญธรรมของหลวงพ่อตัด ซึ่งเป็นผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งที่ผมให้ความเคารพรัก และยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของหลวงพ่อตัดให้ฟังมากมายครับ

วันนี้จะขอย้อนถึงสมัยที่พี่หนึ่งไปมาหาสู่กับวัดชายนาเมื่อช่วงปี 4กว่าๆ

เรื่องราวของปลัดขิกตัวครู หนึ่งในตัวจ่าฝูง สร้างจากไม้คูณคนผูกคอตายในป่าช้า(หลวงพ่อเคยบอกกับพี่หนึ่งไว้)

ตัวนี้มีลวดผูกตรงท้ายปลัดและมีโซ่ผูกคล้องไว้กับปลัดตัวครูตัวใหญ่ๆยาวๆอีกสองสามตัว เก็บไว้ในตู้ไม้บนกุฏิชั้นบนของหลวงพ่อ

วันนั้นเองพี่หนึ่งเข้าไปทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูและดูดฝุ่นในกุฏิให้ท่าน ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง พอไล่ดูดฝุ่นมาถึงตู้ไม้ใบเขื่อง จู่ๆหลวงพ่อตัดท่านก็ล้วงกุญแจที่ห้อยอยู่ตรงเอวมาเปิดตู้ แล้วท่านก็อมยิ้ม พี่หนึ่งก็ชะโงกหน้าเข้าไปดูเห็นปลัดตัวใหญ่หลายตัวผูกโซ่คล้องติดกันไว้ และได้ถามท่านว่า

"คุณพ่อครับ ทำไมต้องผูกโซ่ล่ามไว้ด้วยล่ะครับ"

ท่านกลับอมยิ้มแทนคำตอบ ไม่พูดอะไร พี่หนึ่งเลยถามต่อไปว่าปลัดเหล่านี้คือตัวจ่าฝูงเหรอครับ ท่านก็พยักหน้า แล้วก็ถามคำถามตบท้ายว่า

"มันหนีเที่ยวได้ใช่มั้ยครับ คุณพ่อถึงต้องล่ามโซ่ไว้แบบนี้"

ท่านตอบผมเพียงสั้นๆว่า "อือ"

แต่สำหรับตัวพี่หนึ่งนั้นขนลุกชูชัน เข้าไปลูบๆคลำๆ ยกมาแบก มากอด เอามาจิ้มหัวตัวเองบ้าง แล้วท่านก็หัวเราะเอิ้กอ้าก บอกว่า "มึงนี่มันก็บ้าเหมือนกันนะ"

แล้วคำถามที่ทำเอาหัวใจพี่หนึ่งพองโตเป็นที่สุดก็เกิดขึ้น

"มึงชอบตัวไหนเลือกไปตัวนึงกูให้มึง"

นี่มือไม้สั่นไปหมด ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินคำตอบนี้จากปากท่าน ตัวนี้ก็รัก ตัวนี้ก็ชอบ ตัวนี้ก็ประทับใจ แต่สุดท้ายก็เลือกได้ตัวนี้มาเพราะขนาดกำลังพอเหมาะ ถูกตาต้องใจเป็นพิเศษตรงหัวปลัดทาแป้งปิดทองเดิมๆไว้หนาเตอะ ผูกผ้าสามสีเอาไว้ด้วย เมื่อเลือกได้แล้วท่านก็ไขกุญแจปลดจากโซ่มอบให้กับพร้อมกับประสิทธิ์ประสาทให้ พี่หนึ่งก้มลงกราบแทบเท้าท่าน ยิ้มทั้งน้ำตาประทับใจเป็นที่สุดในความเมตตาที่ท่านมอบให้ พอทำความสะอาดกุฏิเสร็จเมื่อพลบค่ำก็มานั่งคุยกับท่านต่อที่ด้านหน้ากุฏิ ท่านหยิบปากกาหมึกสีทองมาเขียนตรงท้ายปลัดตัวครูนี้ว่า "มอบให้หนึ่งเน่อ"

หากใครมีปลัดขิกของหลวงพ่อตัดไว้แล้วก็ขอแสดงความดีใจด้วยนะครับ เพราะว่าสำหรับปลัดขิกยุคปัจจุบันที่มีเรื่องราวที่ทันยุค สืบข้อมูล สอบถามได้ชัดเจน ผู้ปลุกเสกเจนจบในวิชาของปลัดขิก ที่"ทำได้"จริงมิใช่เพียง "ได้ทำ" จนลูกศิษย์ลูกหา คนพื้นที่ยอมรับ หรือแม้กระทั่งเซียนใหญ่บนห้างดังที่ชำนาญปลัดขิกยังยอมรับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ปลัดขิกที่ดีที่สุดของประเทศอีกด้วย

 

รายการที่ 368 รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก หลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา จ.เพชรบุรี ปี 2550 เนื้อเจ้าน้ำเงิน

ชื่อของรุ่นจริงๆแล้วนั้นได้ตั้งไว้ว่า

"ตัดอุปสรรค-รับโชคดี"

ชื่อนี้ หลวงพ่อตัดท่านก็ยังเอ่ยปากยังชมว่า

"ชื่อดี"

แต่เมื่อสั่งทำกล่องจนเสร็จก็พบว่า
ทางโรงงานได้ทำผิดพลาด ทำให้ชื่อขาดไป
ชื่อรุ่นนี้จึงเหลือแค่เพียง

"ตัดอุปสรรค"

สำหรับการปลุกเสก หลวงพ่อตัดท่านได้เมตตาปลุกเสกให้ครั้งแรกก่อนเข้าพรรษา บริเวณหน้าโต๊ะที่ท่านนั่งรับแขก
เมื่อหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกจนเสร็จในตอนนั้นแล้ว
ท่านได้ขึ้นเอ่ยว่า...

"รูปเหมือนเนื้อเจ้าน้ำเงินนั้น "แข็ง"
ต้องใช้การอัดพลังให้มากกว่าเนื้ออื่นๆ"

หลวงพ่อตัดท่านจึงสั่งให้ยกกล่องทั้งหมดเข้าไปภายในกุฏิ และเสกต่อให้อีก 1 พรรษา

สำหรับโค๊ดที่ใช้ตอกในรุ่นนี้
"ต" รัศมี ซึ่งหมายถึง บารมีของหลวงพ่อตัดที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ และโค๊ดรูป "เพชร" อันหมายถึง จังหวัดเพชรบุรี

สำหรับด้านพุทธคุณนั้น ประสบการณ์ของหลายๆคนที่บูชา พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ตัดอุปสรรค รับโชคดี จะทำอะไรก็ราบรื่น" สมชื่อรุ่น
นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ ใช้คุ้มครองตัว โดยที่มั่นใจได้ว่ารุ่นนี้ หลวงพ่อตัดท่านได้เอ่ยปากชมว่า "ชื่อดี"
ผ่านการปลุกเสกอัดพลังจากพระอริยะสงฆ์เต็มๆพรรษา
มีจำนวนการสร้างที่แน่นอน ไม่มีเสริมนอกเหนือจากนี้
ราคาเช่าหายังไม่แพงและยังมากด้วยประสบการณ์ในด้าน
"ตัดอุปสรรค-รับโชคดี" สมกับชื่อรุ่นอีกด้วยครับผม

รุ่นนี้ผมพูดได้เต็มปากว่าดีมากๆ และขอแนะนำจริงๆ เพราะส่วนตัวผมเองก็แขวนบูชารุ่นนี้อยู่ครับ แขวนเดี่ยวได้เลยจริงๆสำหรับรุ่นนี้

องค์นี้จารนะมหามงคลกำกับ 3 ตำแหน่งโดยพระอาจารย์ทินใต้ฐานครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 369 ปลัดขิกขนาดบูชา หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550-2551 หลวงพ่อตัดลงหมึกจารเอง ยาว 6.5 นิ้ว ขนาดใหญ่กว่าปกติ

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี

ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกตัวนี้เป็นขนาดบูชา ศิลป์สวย ขนาดยาวกว่าที่เคยพบปกติ 6.5 นิ้ว หลวงพ่อตัดเมตตาจารหมึกตำรับวัดชายนา "กันหะ เนหะ นะ นะ นะ" ลายมือมาตรฐานนิยม พิจารณาง่ายมากครับ

ส่วนมากปลัดขิกขนาดบูชาที่หลวงพ่อตัดลงจารเองนั้นจะไปตกอยู่กับผู้สะสม, พ่อค้าแม่ขายซะส่วนมาก ซึ่งก็มักจะหวงแหน ไม่ออกมาในตลาดทั่วไปบ่อยนัก โดยปลัดขิกตัวนี้สภาพสวยสมบูรณ์มาก ไม่ผ่านการบูชามาก่อน หายากมากครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ