วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

จองจระกรุดในบาตร

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

หลายๆครั้ง ผู้ศรัทธาใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาอ่านประวัติ ศึกษาวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนาก็มักจะลังเลว่า ควรบูชาอะไรดี ผมจึงขอนำข้อมูลที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพี่บัณฑิต หนึ่งในศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ผู้ซึ่งอยู่ตั้งแต่ก่อนสมัยสร้างตะกรุดเตา หนึ่งในตะกรุดในตำนานของหลวงพ่อตัด เมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยพี่บัณฑิตเองก็เป็นผู้ที่ซื้อแผ่นตะกั่วมาถวายหลวงพ่อเพื่อทำตะกรุดเตาในยุคนั้น โดยปัจจุบัน พี่บัณฑิตเองก็ถูกน้องๆรุ่นหลังยกเป็นคลังความรู้เคลื่อนที่ของวัดชายนาครับ

วัตถุมงคลที่อยากแนะนำ เอาไว้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจนี้ จะเป็นวัตถุมงคลที่พระอาจารย์ทิน ศิษย์เอกหนึ่งเดียวของหลวงพ่อตัดได้"ตาม"ให้พี่บัณฑิตไปเอาไว้ จะมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งความเห็นส่วนตัว พระอาจารย์ท่านคงเล็งเห็นอะไรสักอย่างในวัตถุมงคลรุ่นเหล่านี้ และท่านคงพิจารณาแล้วว่า"ดีจริง"

1. พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2546-2547

(พระขุนแผนรุ่นแรก แขนตรง ปี 2546)

ผู้ที่อยู่ในเวปพลังจิตมาเกิน 10 ปีนั้นมักจะคุ้นตากับกระทู้ "แนะนำขุนแผนที่แรง และเร็วฯ" โดยขุนแผนที่มักจะมีผู้กล่าวถึงอยู่เสมอๆนั้น จะมีขุนแผนรุ่นแรกของหลวงพ่อตัด วัดชายนาเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา เริ่มจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2546 โดยมีการทำเป็นพิมพ์ขุนแผนแขนตรง เนื้อดินผสมผง โดยดินนี้ก็ใช้ดินที่บริเวณวัดชายนานี่เอง หลังจากนั้นก็จึงนำไปเผา ซึ่งจะมีการจารใต้ฐานองค์พระด้วยเลข ๑เนื่องจากชุดแรกนี้ มีการเผาออกมาแล้วพระได้แตกหักเสียหายไปเยอะ เหลือออกมาเพียงราวๆไม่เกิน 200 องค์ จึงได้มีการจัดสร้างขุนแผนแขนตรงเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เขียนด้วยเลข ๑ ที่ใต้ฐาน ซึ่งได้มีการปรับสูตร ส่วนผสมต่างๆ จึงทำให้เผาออกมาแล้วองค์พระค่อนข้างคมชัด สวยงามมากขึ้น โดยข้อมูลการจัดสร้างนั้นจะอยู่ราวๆ 900 องค์ สำหรับการจารยันต์ในขุนแผนทั้งสองชุดนี้ จะเป็นการจารด้วยยันต์ปลายศีล ซึ่งเป็นยันต์ที่ดีทางด้านเจรจาฯ


หลังจากการทำขุนแผนแขนตรงออกมาแล้วนั้น ในปี 2547 ก็ได้มีการแก้บล็อคบริเวณแขนขององค์พระให้มีความอ่อนช้อย ในหมู่ศิษย์มักจะเรียกกันว่า ขุนแผนแขนอ่อน โดยขุนแผนแขนอ่อนนี้ ได้มีการปรับสูตรส่วนผสมที่ลงตัว จึงทำให้การกดพิมพ์และเผาออกมาจะพบเจอที่สวยๆซะส่วนมาก ในส่วนของยันต์ที่ใช้ในการจารด้านหลังขององค์พระ ก็จะมีหลากหลายยันต์ โดยขอจำแนกเป็น 6 ยันต์หลัก อันมี

1.1 ยันต์นะฤาชา

1.2 ยันต์นะหน้าทอง

1.3 ยันต์นะกำเนิด

1.4 ยันต์นะปัดตลอด

1.5 ยันต์นะกะโหลกทองคำ

1.6 ยันต์ปลายศีล

ขอเรียกลำดับที่ 1.1-1.5 ว่าเป็นชุดยันต์พิเศษ

เนื่องจากในบางยันต์นั้น เช่นยันต์นะฤาชา สร้างไว้จำนวนไม่มาก เพียง 20-30 องค์ ขอเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับยันต์นะฤาชาว่ายันต์นี้จะสำเร็จได้จริงก็เมื่อปลุกเสกด้วยพระเกจิที่มีอำนาจจิตขั้นสูงเท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านก็เป็นหนึ่งในพระเกจิที่ทำได้จริง
ในจำนวนการสร้างยันต์พิเศษนี้ จะมีมากที่สุดก็จะเป็นยันต์นะปัดตลอดซึ่งสร้างไว้ราวๆ 200 องค์เท่านั้นครับ
สำหรับยันต์ธรรดา หรือยันต์ปลายศีลนี้ก็จะมีการสร้างไว้มากที่สุดในชุดของขุนแผนแขนอ่อน

นอกจากนี้ยังสามารถพบเจอยันต์แปลกๆอื่นๆได้เพิ่มเติมเนื่องจากมีลูกศิษย์มาช่วยจารในขุนแผนชุดนี้ด้วย โดยศิษย์ที่มาช่วยจารก็ได้เขียนไว้เป็นพิเศษ เป็นของส่วนตัวแต่มีจำนวนไม่มากนัก

รวมๆแล้ว พระขุนแผนรุ่นแรกแขนอ่อน ปี 2547 นี้ จัดสร้างไว้ทั้งหมดประมาณ 3,500 องค์(จำนวนกำหนดแน่นอนไม่ได้ เนื่องจากพระบางส่วนก็ได้มีการแตกหัก เผามาแล้วไม่เต็มบ้าง ก็มีการเก็บไว้เพื่อเป็นมวลสารทำพระต่อไป


ในส่วนของพุทธคุณและประสบการณ์นั้นเคยเล่าไปแล้วก่อนหน้าบางส่วน ก็ต้องบอกว่าครบทั้งบู๊และบุ๋น อยู่ที่ผู้ศรัทธาจะอาราธนาบอกกล่าว เปรียบกับหลวงพ่อตัดท่านให้ไฟมาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่นำไปบูชานั้น จะเอาไป หุง อุ่น ต้ม ทอดฯลฯ
ขึ้นอยู่กับความฉลาดในการอาราธนาของแต่ละท่าน ถ้าจะว่ากันตรงๆนะครับ

สำหรับวัตถุมงคลที่พระอาจารย์ทินท่าน "ตาม" ให้พี่บัณฑิตให้ไปเอาไว้ ยังมีอีก 2 รุ่น เดี๋ยวไว้จะมาลงข้อมูลให้ผู้ศรัทธาได้ศึกษาเพิ่มเติมในคราวหน้า เผื่อเป็นทางเลือกที่แนะนำครับ

ไผ่ บ้านพุทธคุณ

 

รายการที่ 326 ปลัดขิกหลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551
ขนาดบูชา 1 ใน 9 ตัวในตำนาน หลวงพ่อตัดจารเอง

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี

ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกตัวนี้ เป็นปลัดขิกที่หลวงพ่อตัดจารเต็มสูตร ปลุกเสก ใส่ถุงและยื่นให้กับพี่สมบัติ ศิษย์วัดนครอินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ได้สัมผัสหลวงพ่อตัดในช่วงยุคปลายๆของหลวงพ่อ ในชุดนี้จริงๆจะมี 9 ตัวที่หลวงพ่อตัดท่านทำให้ และทั้ง 9 ตัวนั้นก็ได้กระโดดออกจากถุงตอนที่พี่สมบัติรับถุงจากหลวงพ่อหลังจากท่านจารและปลุกเสก ศิษย์หลายๆคนเห็นเหตุการณ์นี้และยืนยันได้หลายคน หลังจากช่วยกันตะครุบปลัดขิกที่กระโดดออกมานั้น หลวงพ่อท่านก็ได้บอกว่า "พวกมึงทำไมไม่ระวังกัน" (ความหมายคือพี่สมบัติรับไม่ดี ทำให้ปลัดขิกหล่นจากถุง) แต่สายตาของคณะศิษย์นั้นไม่ได้เห็นว่ามันแค่หล่นเฉยๆ มันกระโดดให้เห็นกับตา...

เหตุการณ์ลักษณะนี้จะมีมาเรื่อยๆ เช่น ตอนวางปลัดขิกหลวงพ่อตัดบนแท่นเพื่อจะถ่ายรูป ขณะกำลังเล็ง และจะกดชัตเตอร์ ปลัดขิกก็กระโดดลงจากแท่นได้เองต่อหน้าต่อตา เรื่องแบบนี้ได้ยินมาบ่อยมาก แต่ก็ยังทำให้ขนลุกได้เสมอ และทำให้ยิ่งชื่นชอบปลัดขิกของหลวงพ่อตัดมากขึ้นไปอีกครับ

ภายหลังจากที่พี่สมบัติกลับจากวัดชายนามา ปลัดขิกทั้ง 9 ตัวได้ถูกแจกจ่าย กระจายกันไปในคณะ มีตัวนี้ที่พี่สมบัติท่านส่งต่อมาให้กับผม ปลัดขิกตัวนี้ยาว 6 นิ้ว เป็นขนาดบูชาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 327 ตะกรุดเงินผสม หลวงพ่อตัดจารเอง ลายมือมาตรฐานนิยมสุด

หากจะพูดถึงที่สุดของตะกรุดวัดชายนา ก็คงหนีไม่พ้นตะกรุดลายมือหลวงพ่อตัดจารเอง ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝัน ต้องการได้มาบูชาของผู้ศรัทธาหลวงพ่อมากๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น

- ตะกรุด 99% ที่ออกจากวัดชายนาทุกยุค ไม่ว่าจะยุคต้น ยุคกลสง ยุคปลายนั้น หลวงพ่อตัดไม่ได้เป็นผู้จารเอง โดยจะเป็นการจารของพระอาจารย์ทิน เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเป็นหลัก และเป็นการจารจากศิษย์ที่ได้รับการครอบครูจารหลวงพ่อตัดอีกหลายท่าน รวมถึงพระและเณรที่บวชในสมัยนั้นๆช่วยกันจาร หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกเพียงอย่างเดียว

- หลวงพ่อตัดไม่ได้จารตะกรุดให้พร่ำเพรื่อ หากมีผู้ศรัทธานำแผ่นโลหะเข้าไปขอให้หลวงพ่อตัดท่านจารตะกรุดแล้ว ถ้าเข้าไปไม่ถูกเวลาก็จะโดนเอ็ดตะโรออกมาอย่างแน่นอน เพราะหลวงพ่อตัดท่านถือว่าคนไม่มีกาละเทศะ มันไปไม่ถึงไหน

- หลวงพ่อตัดท่านมรณะภาพไปร่วม 11 ปีแล้ว จะหาพระที่เชี่ยวชาญในพระเวทย์ พลังจิตเร็วและแรงเหมือนตัวท่านนั้นก็ไม่ง่าย

นี่ก็เป็นเหตุผลบางส่วนที่ทำไมผู้ศรัทธาจึงใฝ่ฝันตะกรุดที่หลวงพ่อตัดท่านจารเอง โดยตะกรุดที่หลวงพ่อจารนั้น จะพบมากเป็นตะกรุดตะกั่ว เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย รองลงมาก็จะเป็น ทองเหลือง ทองแดง เงินที่เป็นโหะผสม(แปะตั๊ง) ที่ไม่ค่อยจะเจอ และหายากก็คือโลหะมีค่าทั้งหลายเช่น แผ่นเงินแท้ ทองคำแท้ และนาคแท้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือตะกรุดที่เป็นลายมือหลวงพ่อตัดจารเองนั้นจะมีคุณค่ามากๆและเป็นที่หวงแหนสำหรับศิษย์วัดชายนาครับ

ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดเนื้อเงินผสม ยาว 2.5 นิ้ว ขนาดขึ้นคอสบายมาก แนะนำเลยครับ
หลวงพ่อท่านลงด้วยคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ เป็นลายมือมาตรฐานนิยม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 328 ปลัดขิกไม้ประดู่ผูกคอตาย (เจ๊แมว) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548 ชุดกิ่งผูก

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา ปัจจุบันนี้ปลัดขิกไม้ผูกคอหายไปจากท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ไม้ว่าจะถูกเก็บไว้โดยผู้ศรัทธา หรือถูกส่งออกไปต่างประเทศก็มากมายแล้ว ส่งผลให้ปลัดขิกไม้ผูกคอตายเหลือหมุนเวียนในประเทศน้อยเต็มทีแล้ว

ปลัดขิกตัวนี้เป็นปลัดขิกไม้ประดู่ผูกคอตาย หรือศิษย์ในสายนิยมเรียกชื่อกันว่า "เจ๊แมว" คือชื่อของผู้ผูกนั่นเอง ซึ่งชุดนี้จะเป็นชุดของ "กิ่งผูก" ที่ศิลป์จะไม่เหมือนชุดธรรมดา ซึ่งได้มีการทำพิเศษแยกไว้ โดยตัวนี้อยู่ในชุดเล็ก ยาว 3 นิ้ว

แต่ทั้งหมดของชุดกิ่งผูก สร้างไว้หลักสิบ แต่ไม่ถึง 100 ตัว เนื่องด้วยว่ามีการนำกิ่งผูกนั้นไปทำเป็นขนาดบูชา 5 นิ้วขึ้นไปซะส่วนใหญ่ จึงทำให้เหลือไม้มาแกะเป็นตัวเล็กได้จำนวนน้อยครับ

ในชุดนี้ รอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีผ่านตาผมราวๆไม่ถึง 10 ตัวสำหรับปลัดขิกไม้ประดู่ผูกคอตายชุดกิ่งผูกนี้

สภาพสมบูรณ์มาก ไม่ผ่านการใช้ พระอาจารย์ทินจารเหล็กเต็มสูตรจนแน่นทั้งตัวครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับ

 

วัตถุมงคลที่พระอาจารย์ตามให้พี่บัณฑิตไปเอาไว้ ชิ้นที่ 2


ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา




ล็อกเก็ตรุ่นแรกหลวงพ่อตัด วัดชายนา จัดสร้างในปี 2547


มีผู้รู้ของวัดชายนาที่หลวงพ่อตัดให้การยอมรับท่านได้บอกไว้ว่าหนึ่งในวัตถุมงคลที่ใช้สื่อกับหลวงพ่อตัดได้ดีมากๆก็คือรูปถ่าย, ล็อกเก็ตของหลวงพ่อ เนื่องจากหลวงพ่อท่านได้มีการอัดปราณและแบ่งจิตของท่านลงไปในวัตถุมงคลเหล่านั้น


ซึ่งล็อกเก็ตแรกรุ่นนี้เป็นหนึ่งใน 3 วัตถุมงคลที่พระอาจารย์ทินตามให้พี่บัณฑิต ศิษย์เก่าแก่ของหลวงพ่อตัดให้มาบูชาเก็บไว้ ซึ่งท่านว่าผงชุดนี้ดีมาก

คิดว่าผงชุดนี้น่าจะลงตัวที่สุดแล้วล่ะครับ เนื่องจากมีการนำผงที่เหลือจากการอุดไปปั้นเป็นลูกอม, กดพิมพ์ขุนแผนรุ่นสองเนื้อผง และเป็นมวลสารในรุ่นหลังๆมาอีกหลายรุ่น โดยผงที่ผสมมีรายละเอียดดังนี้

1. พระผงสมเด็จครูบาชุ่มและครูบาขันแก้ว 15 องค์
2. ผ้ายันต์ครูบาชุ่ม ปี 2517 2 ผืน
3. ผ้ายันต์ชายธง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม 1 ผืน
4. พระผงพระครูนนท์ 4 องค์
5. พระผง 5 เมตตา หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค 4 องค์
6. พระผงสมเด็จ หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว 2 องค์
7. พระผงสังกัจจายน์องค์ใหญ่ หลวงพ่อกวย 1 องค์
8. พระผงสมเด็จหลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง 4 องค์
9. พระผงสมเด็จหลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาส 20 องค์
10. พระผงหลวงพ่อเกษร วัดท่าพระ 20 องค์
11. พระผงเสด็จกลับ หลวงปู่สุภา 20 องค์
12. พระผงพุทธนิมิต อาจารย์ชุม ปี 2496 20 องค์
13. ผงลูกอมหลวงพ่อโอด วัดจันเสน 5 ลูก
14. ผงลูกอมหลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน
15. ผงพุทธคุณหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
16. ผงพุทธคุณหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่
17. ผงพุทธคุณหลวงพ่อเกรียง วัดวังน้ำเย็น
18. ผงพุทธคุณหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
19. ผงพระธาตุพนม ปี 2518
20. ผงธูปบูชาหลากหลายวัด
21. ผงพุทธคุณหลวงพ่อตัด วัดชายนา
22. เกศาหลวงพ่อตัด วัดชายนา

นี่คือมวลสารที่นำมาใช้อุดล็อกเก็ตรุ่นแรก


โดยมีจำนวนสร้างดังนี้

1. ล็อกเก็ตจัมโบ้ สีขาว ฝังตะกรุดทองคำและพระชัยวัฒน์ สร้างจำนวน 19 องค์
2. ล็อกเก็ตจัมโบ้ สีไข่ ฝังตะกรุดและแผ่นโลหะจารมือตอกโค๊ดตัวนะ สร้างจำนวน 100 องค์
3. ล็อกเก็ตจัมโบ้ สีขาว ฝังตะกรุดและแผ่นโลหะจารมือตอกโค๊ดตัวนะ สร้างจำนวน 130 องค์
4. ล็อกเก็ตครึ่งองค์ ฝังแผ่นโลหะจารมือตอกโค๊ดตัวนะ สร้างจำนวน 300 องค์
5. ล็อกเก็ตเต็มองค์ ฝังแผ่นโลหะจารมือตอกโค๊ดตัวนะ สร้างจำนวน 300 องค์

ซึ่งดูแล้วจำนวนสร้างนั้นก็ไม่ได้มากมายนัก และปัจจุบันหายไปจากตลาดนานมาแล้ว หากผู้ศรัทธาได้พบเจอก็อยากจะแนะนำให้เก็บไว้บูชา ซึ่งพระอาจารย์ทินและศิษย์หลายๆท่านก็พูดได้ตรงกันว่าเป็นวัตถุมงคลที่ดีมากๆรุ่นหนึ่งครับผม

 

รายการที่ 329 ปลัดขิกไม้ข่อยผูกคอตาย(ลุงไสว) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551 ขนาดใหญ่พิเศษ

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา ปัจจุบันนี้ปลัดขิกไม้ผูกคอหายไปจากท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ไม้ว่าจะถูกเก็บไว้โดยผู้ศรัทธา หรือถูกส่งออกไปต่างประเทศก็มากมายแล้ว ส่งผลให้ปลัดขิกไม้ผูกคอตายเหลือหมุนเวียนในประเทศน้อยเต็มทีแล้ว

ปลัดขิกตัวนี้เป็นปลัดขิกไม้ข่อยผูกคอตาย หรือศิษย์วัดชายนามักจะคุ้นหูกันในชื่อ ลุงไสว ประสบการณ์หนาหูครับ ซึ่งโดยปกติแล้วนั้น ขนาดของปลัดขิกไม้ข่อยจะอยู่ที่ราวๆ 2.5-3 นิ้ว ซึ่งตัวนี้มาด้วยขนาดบูชายาว 4.6 นิ้ว หายากมากครับ ซึ่งไม้ข่อยผูกคอตายนี้ก็ถือว่าเป็นไม้ที่พิจารณาได้ง่ายมากๆ จากลักษณะของเนื้อไม้ตามลำตัวและท้ายของปลัด
พระอาจารย์ทินจารเหล็กเต็มสูตรแน่นทั้งตัว สภาพสวยสมบูรณ์มากไม่ผ่านการใช้ครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 330 เหรียญจิ๊กโก๋ใหญ่ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549 เนื้อทองแดงชุบนิกเกิ้ล 1 ใน 500 องค์ พิเศษหลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร 3 ตำแหน่ง

เหรียญโชคดีปลอดภัย ปี 2549 ด้านหน้ายันต์ด้านขวามือหลวงพ่อเป็นนะขึ้นยอดล้อมด้วยหัวใจพระเจ้าห้าพระองค์ ด้านซ้ายมือเป็นนะเศรษฐีล้อมด้วยหัวใจพญาเต่าเรือน ดีเด่นเรื่องเมตตาโภคทรัพย์ การขึ้นโรงขึ้นศาล เกลื่อนความ ไกล่เกลี่ยทำให้คดีความจบเรื่องไป ด้านหลัง ยันต์ตัวกลางด้านบนคือ พุทโธ ล้อมด้วยคาถายอดศีลคือ พุทธะสังมิ ย่อมาจาก พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ บรรทัดต่อมาคือคาถาหัวใจยูงทอง นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ซึ่งเป็นคาถาที่พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่นนิยมสวดบูชา ใช้ป้องกันภัยอันตรายทั่งปวงเป็นเมตตามหานิยม บรรทัดต่อมาซ้ายขวา เขียนว่า พ่อ แม่ อันนี้คือพระอรหันต์ พระพรหม เทวดาประจำตัวลูกทุกคน ส่วนตรงกลางคือยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีฝอยท่วมหลังช้างใช้ได้ 108 ประการ ทั้งอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุด ซ้ายขวาคือ นะชาลีติ หัวใจพระสิวลี โดดเด่นเรื่องโชคลาภ ค้าขาย โภคทรัพย์ ด้านล่างมีนะเศรษฐี เฑาะว์ มีหัวใจอริยะสัจ 4 ทุสะนิมะ เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จของกิจการงานทั้งปวง พร้อมทั้งมีคำอวยพรที่ดีเยี่ยม " ลาภ ผล พูน ทวี" "โชคดี ปลอดภัย"ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับยุคสมัยปัจจุบัน
ในสายผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัด วัดชายนา นิยมเลี่ยมแขวนไว้ที่รถ เนื่องด้วยชื่อรุ่นอันเป็นมงคลคือ “โชคดี ปลอดภัย” และยันต์ด้านหลังเหรียญที่ครบครัน

เป็นอีกหนึ่งเหรียญประสบการณ์สูงเรื่องแคล้วคลาดตั้งแต่เริ่มเปิดให้บูชา และหมดจากวัดอย่างรวดเร็ว เหรียญรุ่นนี้บางส่วนมีวัดดังทางสมุทรสงครามที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อตัด วัดชายนามากๆ ก็ได้ทำบุญไปเป็นจำนวนมาก และนำไปหลอมเพื่อเป็นชนวนในการจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดนั้นหลายร้อยเหรียญด้วยกัน

สำหรับเหรียญนี้เป็นเหรียญเนื้อทองแดงชุบนิกเกิ้ล สร้างเพียง 500 เหรียญเท่านั้น และยังพิเศษที่หลวงพ่อตัดเมตตาลงเหล็กจารให้ 3 ตำแหน่งและเสกกำกับอีกครั้ง หายากครับ สภาพคัดสวยมาก ไม่ผ่านการใช้ ใส่ตลับพร้อมแขวน

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 331 ตะกรุดเงินผสม หลวงพ่อตัดจารเอง ลายมือมาตรฐานนิยมสุด ยาว 5 นิ้ว

หากจะพูดถึงที่สุดของตะกรุดวัดชายนา ก็คงหนีไม่พ้นตะกรุดลายมือหลวงพ่อตัดจารเอง ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝัน ต้องการได้มาบูชาของผู้ศรัทธาหลวงพ่อมากๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น

- ตะกรุด 99% ที่ออกจากวัดชายนาทุกยุค ไม่ว่าจะยุคต้น ยุคกลสง ยุคปลายนั้น หลวงพ่อตัดไม่ได้เป็นผู้จารเอง โดยจะเป็นการจารของพระอาจารย์ทิน เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเป็นหลัก และเป็นการจารจากศิษย์ที่ได้รับการครอบครูจารหลวงพ่อตัดอีกหลายท่าน รวมถึงพระและเณรที่บวชในสมัยนั้นๆช่วยกันจาร หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกเพียงอย่างเดียว

- หลวงพ่อตัดไม่ได้จารตะกรุดให้พร่ำเพรื่อ หากมีผู้ศรัทธานำแผ่นโลหะเข้าไปขอให้หลวงพ่อตัดท่านจารตะกรุดแล้ว ถ้าเข้าไปไม่ถูกเวลาก็จะโดนเอ็ดตะโรออกมาอย่างแน่นอน เพราะหลวงพ่อตัดท่านถือว่าคนไม่มีกาละเทศะ มันไปไม่ถึงไหน

- หลวงพ่อตัดท่านมรณะภาพไปร่วม 11 ปีแล้ว จะหาพระที่เชี่ยวชาญในพระเวทย์ พลังจิตเร็วและแรงเหมือนตัวท่านนั้นก็ไม่ง่าย

นี่ก็เป็นเหตุผลบางส่วนที่ทำไมผู้ศรัทธาจึงใฝ่ฝันตะกรุดที่หลวงพ่อตัดท่านจารเอง โดยตะกรุดที่หลวงพ่อจารนั้น จะพบมากเป็นตะกรุดตะกั่ว เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย รองลงมาก็จะเป็น ทองเหลือง ทองแดง เงินที่เป็นโหะผสม(แปะตั๊ง) ที่ไม่ค่อยจะเจอ และหายากก็คือโลหะมีค่าทั้งหลายเช่น แผ่นเงินแท้ ทองคำแท้ และนาคแท้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือตะกรุดที่เป็นลายมือหลวงพ่อตัดจารเองนั้นจะมีคุณค่ามากๆและเป็นที่หวงแหนสำหรับศิษย์วัดชายนาครับ

ตะกรุดดอกนี้ยาว 5 นิ้ว หลวงพ่อตัดท่านเมตตาลงด้วยคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ ฉายาขององค์หลวงพ่อ และหัวใจพระสิวลี ซึ่งสามารถอาราธนาไปทางเมตตาโชคลาภได้ และยังได้ฉายาของหลวงพ่อตัดที่สามารถอาราธนาได้ทุกทางอีกด้วยครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 332 ตะกรุดนะโภคทรัพย์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549 เนื้อทองฝาบาตร

ตะกรุดส่วนมากของวัดชายนาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปนั้นมักจะเป็นตะกรุดยันต์มหาอุดซะส่วนมาก โดยตะกรุดยันต์ทางด้านเมตตาเช่น ตะกรุดนะหน้าทอง หรือตะกรุดกับทางด้านโภคทรัพย์นั้นจะหาพบยากกว่าปกติครับ บางคนถึงกับต้องแยกว่ายันต์ที่ไม่ใช่ยันต์มหาอุดนั้นจะเป็นพวกยันต์พิเศษ เนื้องจากไม่ใช่ตะกรุดมหาอุดปกติ ในการสร้างออกมาน้อยจึงทำให้ตะกรุดเหล่านี้ไม่สามารถพบเห็นทั่วไป คนมีก็มักจะเก็บกันหมด เพราะเชื่อว่าหากเป็นตะกรุดที่เกี่ยวกับทางโภคทรัพย์แล้วนั้น หลวงพ่อตัดท่านก็จะใช้มนต์จอนดามณีอัดเข้าไปพร้อมกับวิชาทางโภคทรัพย์อีกด้วย

ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดนะโภคทรัพย์ ยาว 2.5 นิ้ว ตอกโค๊ดนะและโค๊ด วชน กระโดด นิยม ขนาดกำลังน่าขึ้นคอ เอาไว้อาราธนาด้านเมตตาโชคลาภค้าขาย เย็นๆ หาไม่ง่ายครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 333 พระปิดตาผงพรายกุมาร หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 ปลุกเสกพิธีวันเพ็ญ

หากมีคำถามว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดมีผงพรายด้วยหรือ? ก็ต้องบอกว่ามีครับ สร้างน้อย และหายากครับ โดยผงพรายกุมารนี้พระอาจารย์ทินได้รับการถวายมาจากพระอาจารย?สมศักดิ์ วัดนครอินทร์ ผู้ซึ่งมีผงพรายกุมารที่แท้จริงแม้แต่หลวงพ่อสาครยังต้องมาเอาผงพรายกุมารจากวัดนครอินทร์เพื่อไปสร้างพระผงพรายกุมารของวัดหนองกรับ
สำหรับวัตถุมงคลเท่าที่ทราบข้อมูลแน่ชัดที่ผสมด้วยผงพรายกุมาร จะมีพิมพ์พระขุนแผน พิมพ์พระปิดตา และลูกอมผงพรายกุมาร แต่ละอย่างมีจำนวนไม่มากครับ พระขุนแผนก็มีหลักสิบ พระปิดตาก็มีหลักร้อยต้นๆเท่านั้น แนะนำว่าให้ดูดีๆ ศึกษาเนื้อพระดีๆเพราะปัจจุบันมีการยัดเป็นผงพรายกุมารกันเยอะครับ

พระปิดตาผงพรายกุมารชุดนี้ หลวงพ่อตัดปลุกเสกในฤกษ์เดียวกันกับพระปิดตาเยี่ยวชะนี คือวันเพ็ญ ปี 2550 วันที่ปลุกเสกของด้านเมตตามหานิยมขึ้นนัก

มีเรื่องเล่าจากคือขณะที่กดพิมพ์พระ ปั้นลูกอมที่ผสมผงพรายกุมารกันอยู่ที่วัดนั้น คนที่ร่วมลงมือสร้างมีสายโทรศัพท์เข้า พอรับสายแล้ว ปลายสายก็ถามมาว่า “อยู่ที่ไหน ทำไมได้ยินเสียงเด็กดังไปหมด” ซึ่งในขณะนั้นเองอยู่ที่วัดมีแต่รุ่นเก๋าๆ ไม่มีเด็กสักคน และเหตุการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่หลวงพ่อตัดปลุกเสกครับ ปัจจุบันไม่ค่อยพบเจอแล้วนะครับสำหรับชุดผงพรายกุมาร เพราะประสบการณ์ด้านเมตตามหานิยมสูง

ปิดตาองค์นี้ฝังตะกรุดหนึ่งดอกและติดจีวรที่หลวงพ่อตัดใช้ครองด้วยครับ สภาพไม่ผ่านการใช้งาน สวยเดิมๆครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ