><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    ขอจองครับ
     
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    $$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$$$$





    2252.The last พระดีพิธีจตุรพิธพรชัยพิมพ์มาตรฐาน พระขุนแผนผ่าไข่(๔)
    ลพ.กวย,ลป.โต๊ะ,ลพ.นอ ร่วมประจุพลังพิธีใหญ่

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระขุนแผนผ่าไข่ วัดรัตนชัย (วัดจีน) จังหวัดอยุธยา เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518

    พิธีจตุรพิธพรชัย วัดรัตนชัย
    พิธีพุทธาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ จ.ศ. 1337
    เวลา 15.09 น. โหรประกอบพิธีบูชาฤกษ์
    เวลา 16.03 น. – 16.21 น.มหามงคลฤกษ์ ประกอบพิธีจุดเทียนชัย
    เวลา 16.30 น. พระสงฆ์เถระ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ในพิธี ( ในพระอุโบสถวัดรัตนชัย)
    เวลา 19.09 น. พระพิธีธรรม 4 รูปเจริญพระคาถาพุทธาภิเษกพระคณาจารย์ 16 รูป เข้าประจำอาสนะปรก
    ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มาร่วมพิธีมีทั้งหมด 16 รูปคือ
    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)


    สภาพสวยเดิม พิมพ์คมชัดลึกมีหูมีตา พระชุดนี้ใครๆก็รู้ว่าดีแค่ไหน ทั้งเจตานาการจัดสร้างอันบริสุทธิ์,พิธีที่ดีรวมถึงฤกษ์ยามต่างๆ,มวลสาร และพระคณาจารย์ที่ปรกล้วนไม่เป็นรองใคร ปัจจุบันวัตุมงคลพิธีนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และหากเป็นชุดนี้แล้วด้วยยิ่งหายากครับ แบ่งให้บูชา 444 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 890HFu.jpg
      890HFu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      224 KB
      เปิดดู:
      359
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2022
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363




    $$$$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$$$$





    2253.
    มหาพิธีสวยเดิม ซองเก่าผุ เหรียญพระโพธิจักร วัดอโศการาม

    ลป.ตื้อ,ลป.หลุย,ลป.ฝั้น,ลต.มหาบัวลป.สิม ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ


    thumb-14cd_57b3e582-jpg-4106229-jpg-4114908-jpg-4114920-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-77d4_57b3e582-jpg-4106230-jpg-4114909-jpg-4114921-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญพระโพธิจักร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อทองแดงผิวไฟ(เนื้อออกสัมฤทธิ์แก่ทองแดง เพราะเนื้อโลหะวรรณะไม่เหมือนกันเลยในแต่ละเหรียญ) ดำเนินการจัดสร้างโดยคณะศิษย์ท่านพ่อลี ธัมธโร เมื่อวันที่ 25 เมษายนพ.ศ.2508 ขณะนั้นหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดอโศการาม (สร้างพร้อมเหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดบ้านข่า)

    ประกอบพิธีพุทธาเษกใหญ่ ณ วัดอโศการาม
    รายนามคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิต
    - หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
    - หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดบ้านข่า
    - หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม
    - หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
    - หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง
    - หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    - หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
    - หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน
    - หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม
    - หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต
    - หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก
    - พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ําอภัยดํารงธรรม

    - พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดภูทอก เป็นต้น
    เหรียญรุ่นนี้ส่วนหนึ่งได้นำมาบรรจุในพระธุตังคเจดีย์ และบางส่วนได้นำมาแจกเป็นที่ระลึกแก่พระนวกะ ต่อมาเมื่อมีการบูรณะพระธุตังคเจดีย์ จึงได้นำออกมาบูชา เพื่อนำปัจจัยนำมาสบทบกองทุนพระสุทธิธรรมรังษีคัมภีร์เมธาจารย์



    "อรหัง พุทโธ อิติปิโส ภควา นมามิหัง"....คาถาประจำองค์ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


    ธรรมโอวาท ของท่านพ่อลี ธัมธโร
    คนฉลาดย่อมไม่กลืนกินอารมณ์ชั่ว (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)


    คนที่จิตยังไม่สูงเต็มที่ เมื่อใครเขาด่าว่าอะไรก็มักเก็บไปคิด
    คนเราโดยมากสำคัญตนว่าเป็นคนฉลาด แต่ชอบกลืนกินอารมณ์ที่ชั่ว


    อารมณ์ชั่วเปรียบเหมือนกับเศษอาหารที่เขาคายออกแล้ว
    ถ้าเป็นคนอดอยากยากจนจริงๆ จำเป็นจะต้องขอเขากิน ก็ควรกลืนกินแต่อารมณ์ที่ดี
    เปรียบเหมือนอาหารที่ไม่เป็นเศษของใคร


    ตราบใดที่เราทำความสงบให้เรื่องต่างๆ บรรเทาเบาบางไปจากใจได้
    ก็ย่อมทำอารมณ์ของเราให้เป็นไปใน “กัมมัฏฐาน”
    ภาพจากเว็บ ของวัดอโศการาม : http://www.watasokaram.org/index.php/2013-12-12-09-08-31


    สภาพสวยเดิมเสียดายซองเก่าเดิมผุขาดหมดแล้วครับ จึงต้องแกะออกมาถ่ายรูปและทิ้งซองไป ผิวรุ้งเดิมๆพระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ มหาพิธีที่รวมครูบาอาจารย์พระกรรมฐานไว้หลายรูปซึ่งหาได้ยากยิ่ง พุทธคุณหลักล้านราคาเบาหวิว ในสมัยก่อนเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วทางวัดนำมาให้บูชาทำบุญประมาณเหรียญละ 500บาทครับ น่าใช้ครับพระคณาจารย์ที่มานั่งปรกแต่ละท่านสุดยอดทั้งนั้นครับ แบ่งให้บูชา 699 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 89yJzv.jpg
      89yJzv.jpg
      ขนาดไฟล์:
      282.9 KB
      เปิดดู:
      343
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2023
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2254.ยอดประสบการณ์หายาก(๑) พระปิดตาซุ้มประตู รุ่นแรก
    หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ ทายาทพุทธาคมสายตรง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8T07Rk.jpg

    8T0kEn.jpg
    พระปิดตาซุ้มประตู รุ่นแรก หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อผงวิเศษสีเทา เคลือบแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522

    จัดสร้างขึ้น 2 เนื้อคือเนื้อสีเทาจำนวน 2,525 องค์ และเนื้อสีแดงจำนวน 2,525 องค์

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    - ผงใบลานเผาไฟ(ใบลานจากตำราโบราณที่ชำรุด)
    - เกสรดอกไม้
    - ดอกไม้แห้งจากที่บูชาพระ
    - รากรักซ้อนตายพราย
    - รากมะยมตายพราย
    - ยอดสวาท
    - เถาวัลย์หลง
    - เถาเครือหลง
    - กาฝากรักตายพราย
    - รากพุดซ้อน
    - รากมะรุม เป็นต้น

    วาระการปลุกเสก
    - หลวงพ่อฮวด ได้ปลุกเสกเดี่ยว ตลอดไตรมาส ก่อนนำออกให้ทำบุญเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ

    นับว่าเป็นพระปิดตาที่ออกแบบได้สวยงามและสูงด้วยประสบการณ์ทางเมตตามหานิยม โชคลาภ เป็นยิ่งนัก

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - https://palungjit.org/threads/ตามหาคู่แท้-ให้หลวงพ่อท่าน-ภาค-๒-ครับ.296537/page-8#post-4897028
    - https://www.web-pra.com/shop/ray2550/show/1309949
    - https://uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=403&qid=183193


    หลวงพ่อฮวด กัณฑโว วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์
    พระเถระของชาวบ้าน พระเกจินักพัฒนาและยังเป็นพระเถระที่ทรงวิทยาคุณ เป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อคล้าย วัดพนมรอก และอีกหลายคณาจารย์ มีนามเดิมว่า ฮวด พงษ์ทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2447 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรงที่บ้านดอนหวาย อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ทั้งนี้ ครอบครัวได้ย้ายมาประกอบอาชีพที่บ้านหัวถนนใต้ ต.หัวถนน อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

    เมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ.2466 ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดพนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มี หลวงพ่อคล้าย เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาหลวงพ่อคล้ายได้เป็นเจ้าคณะอำเภอท่าตะโก มีสมณศักดิ์ พระนิพันธ์ธรรมาจารย์) ได้ฉายาว่า กัณฑโว
    เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อคล้าย เพื่อปรนนิบัติรับใช้ พร้อมทั้งศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม หลังจากนั้น จึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวถนนใต้

    หลวงพ่อฮวด ได้เริ่มศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมครั้งแรก จากหลวงพ่อคล้าย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ (หลวงพ่อคล้ายเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเดิม สร้างเหรียญทวิภาคีร่วมกัน เมื่อคราวหลวงพ่อเดิม-หลวงพ่อคล้าย ช่วยสร้างพระอุโบสถ วัดพนมรอก เมื่อปี พ.ศ.2483)
    หลวงพ่อฮวดศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับหลวงพ่อเดิม ซึ่งหลวงพ่อมีความใกล้ชิดกับหลวงพ่อเดิม เนื่องจากหลวงพ่อเดิมได้มาช่วยพัฒนาวัดในเขตอ.ท่าตะโกหลายวัด เช่น การพัฒนาวัดทำนบ, วัดหนองไผ่, วัดเขาล้อ, วัดดอนคา, วัดโคกมะขวิด, วัดพนมรอก, วัดหนองหลวง, วัดหัวถนนเหนือ (เหตุที่หลวงพ่อเดิมได้มาช่วยพัฒนาวัดในเขตอ.ท่าตะโกมาก เนื่องจากบ้านหนองโพ-หัวหวายเป็นเขตติดต่อกับบ้านหนองหลวง-หัวถนน) หลายครั้ง หลวงพ่อเดิมได้รับกิจนิมนต์ไปยังที่ใด มักจะชวนหลวงพ่อฮวดร่วมเดินทางติดตามไปด้วยเสมอ

    หลวงพ่อฮวด เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดสายพุทธาคมมาจากหลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว หลังจากนั้น หลวงพ่อฮวดได้เล่าเรียนวิทยาคมกับอีกหลายพระอาจารย์ตามความชำนาญของแต่ละท่าน อาทิ วิชาทำตะกรุดกับหลวงพ่อพุฒ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง, เรียนทำน้ำมนต์กับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา, เรียนทำผงเมตตามหานิยมโชคลาภจากหลวงพ่อศักดิ์ วัดวังกระโดนใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เป็นต้น

    หลวงพ่อฮวด ได้มรณภาพเมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2535 เวลา 08.47 น. ณ วัดหัวถนนใต้ สิริอายุ 88 พรรษา 68

    คณะกรรมการวัด ได้บรรจุศพหลวงพ่อฮวดไว้ในโลงแก้ว ปรากฏว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ ด้วยศพหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย ทั้งที่เป็นโลงแก้วธรรมดา ไม่ได้เป็นแบบสุญญากาศ
    ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี วัดหัวถนนใต้ จะเปิดโลงเพื่อเปลี่ยนผ้าสบง-จีวรหลวงพ่อฮวด เพื่อความเป็นสิริมงคล ปัจจุบัน ศพตั้งไว้บนจัตุรมุขวิหาร วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านตั้งสมญานามให้กับท่านว่า 'พระของชาวบ้าน'


    *** ประสบการณ์ปาฎิหาริย์ ****
    เรื่องราวต่อไปนี้ผมหาข้อมูลมาจาก : เดลินิวส์ 'แฉ่ง บางกระเบา'
    หลวงพ่อฮวดท่านเป็นพระรุ่นน้องของหลวงพ่อเดิม เดินธุดงค์ด้วยกัน พระท่านดีทุกรุ่น ไม่มีปัญหาเรื่องประวัตการสร้าง ลูกศิษย์ดีทุกท่าน ทุกวันนี้หลวงพ่อมรณะภาพไปแล้ว ร่างกายเป็นสีทอง ของดีที่ยังไม่มีใครรู้ไปหามาแขวนนะครับ รุ่นไหนก็ได้ ดีทุกรุ่น

    จัดเป็นอีกเรื่องที่ “เหนือกว่าความเป็นจริง” และเป็นสิ่งที่ “เหลือเชื่อ” เกินกว่าจะอธิบายได้เพราะเป็น “ปรากฏการณ์” ที่ “เหนือธรรมชาติ” จึงนิยมเรียกกันว่า “อภินิหาร” หรือ “เหนือลิขิต?? ประกาศิตฟ้าดิน??” ก็ว่าได้เพราะเรื่องราวเช่นนี้มักจะมีให้เห็นอยู่เสมอผู้เขียนจึงนำมาเสนอ เพื่อให้ทุกท่านที่ “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ได้รับทราบกันว่าเป็นอีก “เรื่องจริง” ที่สามารถพิสูจน์ได้

    โดยเรื่องราวนี้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 44 ปี แต่ก็เหมือนเพิ่งจะผ่านไปไวไวนี้เอง เพราะชาวบ้านแห่ง “อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์” ยังคงร่ำลือกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอมิได้ขาดแม้ว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2507 เวลา 20.10 น.ขณะที่ “ลุงทองสุข พงษ์ทอง” ชาวบ้านหัวถนนใต้ หมู่ที่ 2 ต.หัวถนน จ.นครสวรรค์ กำลังปิดร้านค้าปรากฏมีคนร้าย 3 คนได้บุก “เข้าปล้น” ทำการกวาดทรัพย์สินไปได้หลายอย่างแต่เป็นที่ “อัศจรรย์” เมื่อ “กระป๋อง” ที่ “ลุงทองสุข” ใช้เป็นที่ “เก็บเงิน” จากการขายของในช่วงกลางวันที่ “ตั้งอยู่บนหัวนอน” โจรไม่ได้นำไปด้วยเหตุก็เพราะใน “กระป๋องใบนั้น” มี “เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อฮวดวัดหัวถนนใต้” ที่ลุงทองสุขนำมาใส่ไว้และขณะที่โจรล่าถอยออกจากร้านเพราะได้ทรัพย์สินตาม ที่ต้องการแล้วแต่ “ลุงทองสุข” กลับเกิดเสียดายทรัพย์สินจึงวิ่งตาม เลยถูกโจรยิงกระสุนเจาะเข้าที่หัวไหล่ขวาของลุงทองสุข แต่ปรากฏว่ากระสุนไม่ทะลุผิวหนังเลยเพียงแต่เป็น “รอยไหม้” และบวมเท่านั้นแสดงให้เห็นว่า “เหรียญหลวงพ่อฮวด” มีพุทธานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม

    อีกเรื่องที่ต้องนำมาเสนอคือ “นายชวการ รัตนธีรเดช” เล่าว่าพี่ชายของ “เสี่ยเฮ้า” ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเองและเป็นศิษย์ “หลวงพ่อฮวด” ด้วยมีอาชีพ “ค้าข้าว” จึงต้องตระเวนวขับรถ 10 ล้อไป “ขนข้าว” ตามที่ต่างๆวันหนึ่งขณะขับรถวิ่งมาถึง “สามแยกวิเศษโพธิ์ทอง” ก็ถูกคนร้าย 3 คนใช้ปืน “บุกปล้น” และบังคับให้ขับรถเข้าไปในป่าลึกจากนั้นจึงจับพี่ชาย “เสี่ยเฮ้า” และลูกน้องมัดกับต้นไม้เพื่อรอให้มืดลงจึงจะขับรถขนข้าวหนีไป แต่ระหว่างรอเวลาให้มืดลง “หนึ่งในคนร้าย” ได้ใช้ปืนจ่อเข้าที่ “หัวพี่ชายเสี่ยเฮ้า” พร้อมขู่ขึ้นว่า “ยิงทิ้งซะดีมั้ง ขี้เกียจเฝ้าแล้ว” พี่ชายเสี่ยเฮ้าตัวเย็นเฉียบด้วยความกลัวจึงหลับตาลงแล้วพึมพัมว่า “หลวงพ่อฮวด...ช่วยลูกด้วย” พอสิ้นคำก็ปรากฏเรื่องที่น่าอัศจรรย์เมื่อพี่ชายเสี่ยเฮ้ามองเห็น “หลวงพ่อฮวด” มานั่งลอยเด่นอยู่บนหัวตัวเองทั้งๆที่ยังหลับตาและพอลืมตาขึ้นก็เห็น 3คนร้ายเดินไปที่รถแล้วทำการสตาร์ทรถขับหนีไป พี่ชายเสี่ยเฮ้าจึงแก้มัดตัวเองจนหลุด ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาไปแจ้งความกับตำรวจ

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังติดตามคนร้าย ยังบริเวณที่เห็นคนร้ายขับรถหนีไปจึงพบรถ 10 ล้อ จอดอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจเพราะระยะเว ลาห่างกันตั้ง 3-4 ชั่วโมง แต่คนร้ายกลับขับรถหนีจากที่เกิดเหตุได้ไม่มากนัก โดยสังเกตได้จากรอยล้อรถที่มีการขับวนเวียนอยู่บริเวณนั้นหลายรอบ ในลักษณะหาทางออกไปไม่ได้จึงต้องทิ้งรถหลบหนีไปครั้น “เสี่ยเฮ้า” ทราบเรื่องจากพี่ชายก็ไปกราบ “หลวงพ่อฮวด” พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟังโดยยืนยันกับท่านว่า “เพราะหลวงพ่อไปช่วยพี่ชายจึงไม่ถูกยิงและเอารถไปไม่ได้” แต่ “หลวงพ่อฮวด” ก็นั่งเฉยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “เสี่ยเฮ้า” จึงย้ำถามหลวงพ่ออีกหลายครั้งว่าไฉนจึงไปช่วยพี่ชายได้ที่สุดหลวงพ่อจึงบอก ว่า “ฉันนั่งสมา ธิและแผ่เมตตาไปให้กับลูกศิษย์ทุกคน ดังนั้นถ้าผู้ใดตกทุกข์ได้ยากแล้วระลึกถึงฉัน เขาก็จะมองเห็นฉันเหมือนนิมิตนะ” เสี่ยเฮ้าได้ยินชัดเจนจึงก้มกราบเท้าท่านแบบยอมรับและนับถืออย่างสนิทใจ



    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์เก่าเก็บ พิมพ์คมสวยชัดลึก สุดยอดของดีประสบการณ์เยี่ยมที่ทุกคนให้การยอมรับ แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณJae จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2022
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    2255.
    The last ของจริงขลังจริง เนื้อดำนิยม พระปิดตาอุดมทรัพย์
    หลวงปู่จักร วัดถ้ำเขารังไก่ จอมขมังเวทย์แห่งเมืองสรรค์

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ


    8tgW0k.jpg
    พระปิดตารุ่นแรก หรือพระปิดตาอุดมทรัพย์ หลวงปู่จักร ปิยธัมโม วัดถ้ำเขารังไก่ จังหวัดชัยนาท เนื้อดินผสมมวลสารวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างประมาณปี พ.ศ.2528 สร้างพร้อมเหรียญนาคี ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรกของท่าน สมัยที่หลวงปู่ท่านธุดงค์มาถึงวัดถ้ำเขารังไก้ใหม่ๆ ท่านต้องการสร้างถาวรวัตถุ จึงสร้างวัตถุมงคลออกมาให้บูชาหาปัจจัยในการสร้างวัด

    เป็นพระปิดตายุคแรกๆ ที่หลวงปู่ออกแบบและทำด้วยตัวท่านเองทุกองค์ โดยแกะแบบจากหินลับมีดนำมากดพิมพ์ทีละองค์ ด้านหลังประทับเหรียญนาคี เมื่อกดพิมพ์แล้วเสร็จจะทำการเผาทุกวันครู หลวงปู่บอกว่าจึงจะแรงมาก ทำยากมากพระเสียหายง่าย ต้องทำจนพระแกร่งหลวงพ่อจึงบอกว่าใช้ได้

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    - ผงเหล็กน้ำพี้
    - ขี้เหล็กใหล
    - ผงพระกรุ
    - ดินโป่งจากยอดเขา 9 เขา
    - เนื้อผงว่านต่างๆ ที่หลวงปู่ได้เก็บรวบรวมไว้เมื่อครั้งเดินธุดงค์

    การปลุกเสก
    - หลวงปู่จักร ปิยธัมโม จะปิดถ้ำปลุกเสกเดี่ยว ภายในถ้ำเขารังไก่ตลอดเวลา


    หลวงปู่จักร ปิยธัมโม พระเกจิวัดถ้ำเขารังไก่
    ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน จังหวัดชัยนาทไม่เคยว่างเว้นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ในจำนวนนั้น ปรากฏนาม "หลวงปู่จักร ปิยธัมโม" พระเกจิชื่อดังแห่งวัดถ้ำเขารังไก่ ต.วัดสิงห์ อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท ที่ชาวเมืองชัยนาทให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี

    ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ชอบออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ชอบปลีกวิเวกในถิ่นทุรกันดาร ปฏิบัติธรรมภายในถ้ำอย่างไรก็ตาม หลวงปู่จักร ได้ถึงมรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยวัย 85 ปี
    หลวงปู่จักร เกิดในตระกูลหนังใหญ่ของวัดสว่างอารมณ์ คุณตาของท่าน คือ กำนันพร้อม ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่ออายุได้ 5 ขวบ คุณตาได้ครอบครูเศียรพ่อแก่ฤาษีเพชรฉลูกรรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นครูใหญ่ของคณะหนังใหญ่ เริ่มเป็นหนุ่มนายจักรมีนิสัยไม่กลัวใคร เพราะถือว่าเรียนวิชาดีจากคุณตา ได้ศึกษาวิชาอาคมปลุกเสกข้าวเสกแป้ง พุทธคุณด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม จนลือกันว่าท่านเป็นหนุ่มเนื้อหอมประจำหมู่บ้านในขณะนั้น

    จากนั้นได้อาสารับราชการเป็นทหารรับใช้ชาติ ออกรบสงครามลาว สงครามเวียดนามถึง 4 ครั้ง ท่านเล่าว่า มีครั้งหนึ่งคุมพลทหาร 8 นายเข้าโจมตีข้าศึก ปรากฏเกิดความสูญเสีย สร้างความเศร้าสลดหดหู่ให้กับบรรดาเพื่อนฝูงแนวหลังที่ตั้งหน้ารอคอยการกลับมาของคนในครอบครัว ทุกคนเสียชีวิตหมดเหลือเพียงท่านคนเดียว พอ กลับมาจากศึกสงครามสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจอย่างมาก คือ ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ

    ต่อมาท่านได้ลาครอบครัว เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดวิหารขาว จ.สิงห์บุรี หลังจากบวชได้ 2 พรรษา ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ออกเดินธุดงค์ทันที ระหว่างธุดงค์ได้เรียนวิชากับทั้งครูพระและครูฆราวาสมากมาย อาทิ ศึกษาวิชากับ
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง, หลวงพ่อเชน วัดสิงห์, อาจารย์เนา วัดเสาธงหิน, ครูบา คำหล้า, อาจารย์ฟ้อนดีสว่าง, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อทบ วัดชนแดน, หลวงพ่ออดุลย์ วัดวิหารขาว และหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เป็นต้น ป่าทุกป่าในเมืองไทยท่านได้ธุดงค์ไปเกือบหมด

    ครั้นพออายุได้ 60 ปี หลวงปู่จักรได้มาพักที่ถ้ำเขารังไก่ ซึ่งเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะกับการบำเพ็ญธรรม ประกอบกับอายุมากแล้วจึงอธิษฐานจิตอยู่ ณ วัดถ้ำเขารังไก่แห่งนี้
    ในตอนนั้น เมื่อเสือมเหศวรขุนโจรชื่อดังรู้ข่าวจึงมาถวายตัวเป็นลูกศิษย์ แม้อายุมากถึง 94 ปี ยังแวะเวียนมาร่วมแสดงมุทิตาจิตสักการะหลวงปู่จักรมิได้ขาด ก่อนหน้านั้นช่วงที่หลวงปู่จักรมาอยู่ถ้ำเขารังไก่ใหม่ๆ มีนายทุนได้มาขอให้ท่านออกไปจากถ้ำ เพราะจะขอสัมปทานระเบิดเขาซึ่งเป็นเขาหินอ่อนทั้งเขา ท่านปฏิเสธไม่ยอมออก

    พ.ศ.2539 มีระเบิดมาวางรอบเขารังไก่ 4 ลูก ปรากฏว่าระเบิดถูกจุดชนวนทุกลูก แต่ได้ดับก่อนที่จะระเบิดขึ้น โดยมีตำรวจมากู้ไว้ได้ทัน

    หลวงปู่จักร มีวัตรปฏิบัติอยู่ภายในถ้ำ เดินจงกรมเป็นปกติวิสัย โปรดญาติโยมทุกวัน กล่าวกันว่า วัตถุมงคลหลวงปู่จักร มีพุทธคุณโดดเด่น อาทิ ตะกรุดพรหมค้ำแผ่นดิน เป็นตำราหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่ตกทอดมาถึง หลวงปู่จักรปิดถ้ำประกอบพิธี โดยปลุกเสกแผ่นตะกั่วลงจาร "พุฒค้ำแผ่นดิน" เวลาม้วนเสกต้องตั้งนิมิตเหมือนเสกหน้าพระพรหมค้ำทั้ง 4 ทวีป ตะกรุดดอกนี้ ผู้ใดมีติดตัวจะรุ่งเรืองไม่ตกต่ำ จะมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด
    หลวงปู่จักร ได้มรณภาพลง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี หลังจากที่ท่านนั่งสมาธิกำหนดจิตถึงประมาณตี 4 คณะศิษย์ได้นำหลวงปู่จักร ส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการแต่ด้วยความชราภาพ ทำให้คณะแพทย์ไม่สามารถยื้ออาการเอาไว้ได้ หลวงปู่จักร ได้ละสังขารไปอย่างสงบ สิริอายุ 85 ปี

    ภายหลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป คณะสงฆ์และประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่จักร ทั้งในพื้นที่จังหวัดชัยนาทและจังหวัดข้างเคียง ได้ทยอยเดินทางมารดน้ำศพกันอย่างเนื่องแน่น ทำให้ศาลาการเปรียญที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพหลวงปู่จักรคับแคบลงไปถนัดตา ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง

    ข้อมูลจาก
    - http://www.kobsub.com/PD1123423-สินค้า-พระปิดตาอุดมทรัพย์_รุ่น.html
    - วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7073 ข่าวสดรายวัน คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6


    สภาพสวยขลังผิวหิ้งเก่าเก็บเดิมๆ ของจริงขลังจริงต้องลอง หลวงพ่อทำเองเสกเองเจตนาการสร้างบริสุทธิ์ แบ่งให้บูชา 270 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8tZxhf.jpg
      8tZxhf.jpg
      ขนาดไฟล์:
      394.2 KB
      เปิดดู:
      347
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2024
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2256.Full option(๒) พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ศรีจันทร์ รุ่นพิเศษล้างอาถรรพณ์
    ลป.หมุน,ลป.ทองดำ,ลป.จ้อย ร่วมเศกมหาพิธีของศตวรรษที่21

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8w0edl.jpg

    6evr-jpg-jpg.jpg
    6t4r-jpg-jpg.jpg
    พระผงรูปเหมือน หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ รุ่นพิเศษล้างอาถรรพณ์ หลังประทับยันต์ประจำองค์ พิเศษบรรจุพระธาตุ+ฝังตะกรุดทองฝาบาตร เนื้อผงดำล้างอาถรรพณ์ วัดหลักเมืองพัฒนาราม บ้านรองกอก หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541

    หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโก วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง)
    ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระเถระแห่งยุคเก่าหลายรูป อาทิ
    - สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์(ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต นพวงศ์)
    - สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ติสสเถร(อ้วน ติสฺโส) วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    - หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นต้น

    นามเดิม ศรีจันทร์ จันทิหล้า เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันที่ 18 มกราคม 2447 เกิด ณ บ้านฟากเลย ตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

    : บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2461 ณ วัดศรีชมชื่น ตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โดยมี พระครูหวาด เป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะนั้นท่านมีอายุได้ 15 ปีเต็ม เนื่องจากได้บวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านมีจิตใจรักในทางศึกษามากอยู่แล้ว ท่านจึงเข้าศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม

    ท่านจึงได้ออกเดินทางมาอยู่จำพรรษาที่กรุงเทพฯ และได้พำนักที่วัดสัมพันธวงศ์
    ภายหลังท่านได้รับความเมตตาอันสูงสุดให้ได้แปรญัตติเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต
    เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2462 โดยได้รับพระเมตตาจากพระเดชพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต นพวงศ์) เป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์ พระมหารัชมังคลาจารย์เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    : อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2467 ณ วัดสัมพันธวงศ์ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์ พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    ภายหลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ เจริญข้อวัตรพระธรรมวินัย ตามแบบฉบับท่านผู้รู้ทั้งหลาย อันเป็นเกียรติประวัติแก่ท่านในกาลต่อมาแล้ว หลวงปู่ศรีจันทร์ ท่านได้มีความพยายามที่จะศึกษา หาความรู้แก่ตนเองได้มากขึ้น ในพรรษาปี 2467 หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ ท่านได้พยายามศึกษา พระธรรมวินัยอย่างยิ่งยวดไม่ปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ท่านได้ใช้เวลาส่วนมากทุ่มเทให้แก่การศึกษา ท่านพยายามสนองพระเดชพระคุณของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ที่พระเดชพระคุณเมตตา พึงหวังในตัวของท่านไว้ ความพยายามที่เกิดจากกำลังใจที่ครูบาอาจารย์คอยส่งเสริมท่านนี้ เป็นผลสำเร็จอย่างง่ายดายในปีเดียวกันคือ หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ สามารถสอบนักธรรมชั้นเอก ในสนามหลวงได้เมื่อปี 2467 นั่นเอง หลวงปู่ศรีจันทร์ สมัยอยู่จำพรรษาที่วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ แม้ว่าท่านจะมีการศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม แต่ส่วนลึกของจิตใจท่านในยามนั้น หลวงปู่มีความสนใจประพฤติปฏิบัติภาวนาธรรมมาก และท่านได้เริ่มต้นปฏิบัติทางด้านพระกรรมฐาน ที่วัดสัมพันธวงศ์อีกด้วย สามารถกระทำควบคู่กันไปอย่างได้ผล และมีความชำนาญในสมาธิภาวนามาก

    ท่านได้ถือข้อวัตรไว้อย่างเคร่งครัด เช่น ฉันในบาตร ฉันหนเดียว รักษาความสันโดษ ไม่ชอบคลุกคลีกับหมู่คณะ ถ้าแม้ยามใดว่างจากภารกิจอื่นแล้ว หลวงปู่ศรีจันทร์จะเข้าที่บำเพ็ญเพียร ภาวนาทันที ดังนั้นก่อนที่จะหันเข้าไปอบรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต นั้น หลวงปู่ศรีจันทร์ พอมีความเข้าใจในการปฏิบัติมาบ้างแล้วในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม หลวงปู่ศรีจันทร์ได้ศึกษา มาเป็นตัวหนังสือในข้อธุดงควัตรขณะศึกษาปริยัติธรรม แต่ท่านถือหลักที่ว่ามีความเชื่อธรรม คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า หลวงปู่ศรีจันทร์จึงพิสูจน์และมีความรู้จริงดังการที่ได้พิสูจน์มาแล้วนั้น หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ สมัยเป็นพระมหาได้เทียบด้วยสติปัญญาแล้วว่า "เป็นสถานที่ที่ควรตั้งมหาวิทยาลัย และเป็นวิชาที่ควรบรรจุเข้าในหลักสูตรมหาวิทยาลัยทางโลก

    หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ ภายหลังจากได้รับอุบายธรรมปฏิบัติจากหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านก็มิได้นิ่งนอนใจ หลวงปู่ศรีจันทร์ รีบออกขวนขวายหาทางปฏิบัติธรรมในป่าดงพงไพรต่อไป หลวงปู่ได้เคยออกเดินธุดงค์ โดยไปอาศัยตามป่าภูเขาเงื้อมผาบุกไปตามป่าดงดิบต่างๆ หลายหนหลายแห่งเพื่อบำเพ็ญเพียรภาวนาธรรม หลวงปู่ศรีจันทร์ ได้ถือกำลังใจดำเนินตนไปด้วยความสะดวกราบรื่นไม่ขลุกขลัก ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้วไม่ว่าชนิดใดมากน้อยเพียงใด มันต้องแสดงตัวเป็นข้าศึกของเราตลอดเวลา มันจะสำแดงฤทธิ์เดชของมันให้เห็นอยู่เสมอ ดังนั้น การออกเดินธุดงค์เพื่อขัดเกลามันออกจากจิตใจนี้ หลวงปู่ศรีจันทร์ มีความมานะอดทนเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระนักต่อสู้เป็นนักปฏิบัติธรรม จึงถือว่ากิเลสเป็นข้าศึกแก่ตัวของท่านเอง และเป็นกองทุกข์ที่จะเกิดขึ้นแก่มนุษย์ทุกคน ท่านจึงย่อมไม่นิ่งนอนใจที่จะเลี้ยงกิเลสไว้ ท่านกลับเห็นเสียว่า "ถ้าได้ทำลายเสียให้สิ้นซากลงไปในขณะนี้ ก็จะเป็นที่พอใจอย่างยิ่ง ประเสริฐกว่าจะเลี้ยงไว้ทำพิษแก่ตนเองในภายหลัง หรือในวันอื่นต่อไป

    มรณกาล
    นับเป็นพระสุปฎิปันโนที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองเลย ด้วยคุณความดีที่ท่านได้กระทำตลอดทั้งชีวิต หลวงปู่ศรีจันทร์ได้มรณภาพด้วยโรคตับวาย ไตวาย และหัวใจล้มเหลว วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2540 สิริรวมอายุได้ 93 ปี พรรษา 73


    มวลสารหลักที่ใช้ในการจัดสร้าง ผงมหาจักรพรรดิ
    ธาตุเหล็กไหล พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว หงอนพญานาค แก้วขนเหล็ก เพชรหน้าทั่ง ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด โคตรเหล็กไหลสีเงินยวง ขี้เหล็กไหล เหล็กย้อย เหล็กทรหด หยกพันปี แร่บางไผ่ ผงธนบัตรเก่า ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ (ถลุงแล้ว) แร่เหล็กน้ำพี้ไหลเพชรดำ ขมิ้นหินหมื่นปี ข้าวตอกพระร่วง แก่นไม้สักหินอายุ 160 ล้านปี ลูกมณีโคตร คดกะลา กะลาตาเดียว กะลาไม่มีตา (กะลามหาอุด) มะพร้าวลูกกรอก กัลปังหาดิน ดินโป่ง ดินกลางใจเมือง และน้ำจากศาลหลักเมือง 76 จังหวัด ตะกรุดข้าวสารหิน คดหอย ทรายเสก ผงพระครูเทพโลกอุดร ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงหลวงปู่แหวน ผงจิตรลดา ผงพระปิลันทน์ ผงพระตุ๊กตาวัดพลับ ผงหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ แป้งเสกหลวงปู่อยู่วัดไทรโยง ผงว่านหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา เศษพระหักหลวงพ่อมีวัดมารวิชัย เศษพระหักหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย และวัดต่าง ๆ อีกมากมาย เขากวางคุด น้ำมันมนต์หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา ชานหมากเสกหลวงพ่อดำวัดท่าทอง ดินวิเศษสีเหลือง สมุนไพร 300 กว่าชนิด น้ำมนต์ 100 ตุ่ม หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี ดินวิเศษสีเขียว แร่เงิน แร่ทอง แร่นาค ผงธูปสมเด็จโตวัดระฆัง ผงธูปวัดเกศไชโย ผงธูปหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ผงธูปหลวงพ่อแช่มวัดท่าฉลอม ผงธูปหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวัน แม่ลิ้มกอเนี่ย ผงธูปศาลเจ้าพ่อเสือ ผงธูปวัดเล่งเน่ยยี่ ผงธูปวัดไต๋ฮงกง พระบรมสารีริกธาตุ หินพระธาตุเขา 300 ยอด พระธาตุสิวลีสีขาว พระธาตุสิวลีสีทอง พระธาตุแก้วขวานฟ้าผ่าเนื้อหิน 16 อัน ข้าวสารหินหมื่นปี ข้าวสารดำพันปี ผงมณีรัตนะ โคตรเหล็กไหล (สีดำเงา) แร่เกาะล้าน เหล็กย้อย ลูกมณีโคตร อุกามณี (สะเก็ดดาว) ไม้กลายเป็นหิน ดอกไม้หิน เพชรน้ำค้าง หินเขี้ยวหนุมาน ขมิ้นขาวเปลือกหอย 75 ล้านปี ไม้งิ้วดำ คดปลวก ลูกธนูคนธรรพ์ แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง ผงงาช้าง งาช้างตายพราย งาช้างกระเด็น งาช้างกระดอน ผงเพชรแท้ เศษพลอยเมืองจันทร์ ผงเก่า วัดระฆัง ผงสร้างพระหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ ผงสร้างพระหลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง ผงสร้างพระหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ผงสร้างพระหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อม ผงสร้างพระหลวงปู่นิลวัดครบุรี ผงสร้างพระหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ผงสร้างพระหลวงพ่อเชิญวัดโคกทอง ผงสร้างพระหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย ผงสร้างพระ หลวงพ่อเกษมเขมโกสุสานไตรลักษณ์ ผงสร้างพระอาจารย์ต่าง ๆ อีก 300 กว่ารูป (ซึ่งไม่สามารถลงหมดได้) เศษพระหักของวัดระฆัง เศษพระหักวัดปากน้ำ พระเครื่องเก่าที่ชำรุดอีกเป็นจำนวนมาก ผงตะไบพระกริ่งเนื้อนวะวัดสุทัศน์ ชานหมากหลวงปู่นิลวัดครบุรี ชานหมากหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ผงยาจินดามณีหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ผงจินดามณีหลวงปู่เพิ่มวัดกลางบางแก้ว น้ำมันงาเสกหลวงพ่อคงวัดเขาสมโภชน์ น้ำมันงาเสกแร่บางไผ่ น้ำมันมนต์ไพรดำ น้ำมันมนต์จากคณาจารย์ต่าง ๆ และศาลหลักเมืองทั่วประเทศ ดินกากยายักษ์ ดินพระแม่ธรณี ดินวิเศษสีขาว ดอกไผ่ 70 ปี ว่าน 108 เกสร 108 สมุนไพร 108 ผงยันต์ 108 ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงนรหรคุณ แร่อาถรรพณ์ภูเขาควายประเทศลาว ผงฤาษีผสมแล้ว ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำละว้า ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำม้าร้อง ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำไก่หล่น ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำเนินมะปรางค์ ผงใบลานคัมภีร์คาถาต่าง ๆ ผงเก่าสมัยอยุธยา ผงเก่าสมัยทวาราวดี ใบเสมาศิลาแลงสมัยอยุธยา ผงเก่าที่อยู่ในไหขุดได้ที่ จากวัดร้างอายุหลายร้อยปี ทองคำเปลวจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่วิหาร ตะไคร่พระปรางค์สามยอด ตะไคร่กำแพงเมืองเก่า ดินจากเนินดินพระอรหันต์ ดินจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และสถานที่ปฐมเทศนาจากประเทศอินเดีย (ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง) กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อโสธร กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อชินราช กระเบื้องโบสถ์และวิหารพระแก้วมรกต กระเบื้องโบสถ์และวิหารวัดไร่ขิง กระเบื้องโบสถ์หลวงพ่อโตวัดบางพลีใน กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อเศวตฉัตร์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุพนม ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระปฐมเจดีย์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุและตะไคร่พระบรมสารีริกธาตนครศรีธรรมราชและเจดีบริวารอีก 150 กว่าเจดีย์ ผงตะไบสังฆวานร ผงลูกแก้วสามดวงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ผงลูกแก้วสีชมพู หลวงปู่ดู่วัดสะแก ผงใต้คานหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน ผงหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ผงหลวงพ่อแดงวัดศรีมหาโพธิ์ ผงหลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต ผงหลวงพ่อโอดวัดจันทร์เสนจว.นครสวรรค์ ผงหลวงพ่อสุรเสียงวัดป่าเชิงจาน ผงพระกรุวัดป่าเชิงจาน ไหลคำดำประเทศลาว จีวรหลวงพ่อทองดำวัดท่าทอง ชาดหมากหลวงปู่หงษ์วัดเพชรบุรี ชานหมากหลวงปู่ทิมวัดพระขาว ชานหมากหลวงพ่อพุฒิวัดป่าสาละวัน สีผึ้งหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค (ละลายในน้ำมนต์) น้ำมันมนต์นะหน้าทองหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน
    9 พิธีพุทธาพิเษกใหญ่ พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21)

    1. พิธีใหญ่รุ่นพระกริ่งจอมไทย 7 วัน 7 คืน วัดสุทัศน์ กรุงเทพ ฯ
    2. วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพ ฯ
    3. วัดเวียง อ.ท่าเรือ จว.พระนครศรีอยุทธยา
    4. วัดวสันตาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี
    5. วัดพยัคฆาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี
    6. วัดสับปะรดเทศน์ อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี
    7. วัดศรีสันต์มณฑาราม อ.เมือง จว.สุพรรณบุรี
    8. วัดศรีฐานปิยราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 เม.ย.44
    9. วัดหลักเมืองพัฒนาราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 พ.ค.44


    คณาจารย์ที่อธิฐานจิตเสกเดี่ยวในปี พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21)
    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี วัดบ้านจาน
    2. หลวงปู่ทองคำ อายุ 104 ปี วัดท่าทอง อุตรดิตถ์
    3. หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 วัดบ้านคลองทรายใต้
    4.หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี วัดสระมณฑล
    5. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สวนป่าสมุนไพร
    6. ครูบาอิน อินโท พระครูวรวุฒิธิคุณ อายุ 100 ปี วัดทุ่งปุย
    7. หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย
    8. หลวงปู่โถม กุลปุญโญ อายุ 80 ปี วัดธรรมปัญญาราม
    9. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ อายุ 85 ปี วัดป่าสำราญนิวาส
    10. ครูบาอินตา (พระครูถาวรชัยวุฒิ) อายุ 97 ปี วัดห้วยไทร
    11. พระครูพิศาลธรรมนิเทศ (รองเจ้าคณะอำเภอ) วัดมหาวัน
    12. พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ ครูบาอินทร อายุ 50 ปี วัดสันป่ายางหลวง
    13. ครูบาดวงจันทร์ จันทโร อายุ 89 ปี วัดป่าเส้า
    14. พระครูถาวรศิลคุณ ครูบาอินตา อายุ 94 ปี วัดวังทอง
    15. ครูบาสุข อายุ 79 ปี วัดป่าซางน้อย
    16. ครูบาจ๋อน จันทรสี อายุ 87 ปี วัดป่าตาล
    17. ครูบาศรีนวล นนทกุล อายุ 93 ปี วัดช้างค้ำ
    18. พระครูอภิรักษ์ วัดป่าสามขา
    19. ครูบาคำตั๋น อายุ 94 ปี วัดสันทรายหลวง
    20. พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป อายุ 68 ปี วัดอรัญญวิเวก
    21. ครูบาอิ่นคำ พระครูสันติยานุศาสตร์ อายุ 92 ปี วัดท้าวแท่นหลวง
    22. ครูบาหล้า วัดป่าลาย อายุ 92 ปี
    23. ครูบาจั่นต๊ะรังษ๊ วัดกู่เต้า
    24. ครูบาอิ่นคำ อายุ 83 วัดมหาวัน
    25. ครูบาบุญปั๋น ธมมปญโญ อายุ 94 ปี วัดรุ้งขุ้ม
    26. ครูบาคำ อายุ 66 ปี วัดธรรมชัย
    27. ครูบาดวงดี อายุ 95 ปี วัดท่าจำปี
    28. ครูบาผัด อายุ 76 ปี วัดศรีดอนมูล
    29. ครูบาน้อย อายุ 51 ปี วัดศรีดอนมูล
    30. หลวงปู่เหลือ อายุ 92 ปี วัดท่าไม้เหนือ
    31. หลวงพ่อจ้อย จันทสุวรรณโณ อายุ 88 ปี วัดศรีอุทุมพร
    32. หลวงปู่อุย พระครูนิพาทธรรมวัฒน์ อายุ 84 ปี วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม
    33. หลวงปู่ท้าว อายุ 86 ปี สำนักวชิรกัลยาณ์
    34. หลวงปู่สมควร วิชชาวิสาโล อายุ 85 ปี วัดถือน้ำ
    35. หลวงพ่ออ้วน จรณะวุฑิโฒ อายุ 57 ปี วัดหนองกระโดน
    36. หลวงพ่อบุญนำ ชิตมาโร อายุ 73 ปี วัดนครสวรรค์
    37. หลวงปู่ต่อ (พระครูนิทัศนพลธรรม) อายุ 82 ปี วัดเขาแก้ว
    38. หลวงพ่อสะอาด (พระครูนิวิทฐมณีวงศ์) อายุ 58 ปี วัดเขาแก้ว
    39. หลวงพ่อประเทือง อิทวโร อายุ 63 ปี วัดหนองโพ
    40. หลวงพ่อ เศรียร สุธรรมโม อายุ 69 ปี วัดอินทราราม
    41. พระอาจารย์สมชาย วัดหลักเมืองพัฒนาราม
    42. หลวงปู่บ๊ก (สุวรรณ กัลยาณี) อายุ 92 ปี วัดหนองเนินพะยอม
    43. หลวงปู่ นะ ฐิตปัญโญ อายุ 85 ปี วัดปทุมวนาราม(หนองบัว)
    44. หลวงปู่ มหาโพธิ์ ญาณสังวโร อายุ 82 ปี วัดคลองมอญ
    45. หลวงปู่สำราญ อายุ 89 ปี วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    46. หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ (พระครูอุทัย ธรรมกิจ) อายุ89 ปี
    47. พระเทพรัตนดิลก(ธ.) อายุ 73 ปี วัดเพชรวราราม
    48. พระราชพัชราภรณ์ (ม.)วัดมหาธาตุ อยุ 64 ปี วัดมหาธาตุ
    49. หลวงปู่ปิ่น (พระครูพัชรธรรมโสภณ) อายุ 70 ปี วัดหนองใฝ่
    50. หลวงพ่อเวิน กัลป์ยาณธัมโม อายุ 74 ปี เจ้าคณะ
    51. หลวงพ่ออาคม อินทสโร อายุ 78 ปี วัดดาวนิมิตร
    52. หลวงพ่อศรีนวล สิริมังคโล อายุ 72 ปี วัดสว่างสามัคคี
    53.หลวงพ่อเปรื่อง ฐานังกะโร อายุ 70 ปี วัดสันติวัฒนา
    54. หลวงพ่อทอง จันทศิริ (พระครูสุวรรณวัยวุฒิ) อายุ 98 ปี วัดสามปลื้ม
    55. หลวงพ่อจืด นิมมโล อายุ 63 ปี สำนักโพธิเศรษฐี
    56. หลวงพ่อสมพงษ์ ธีระธัมโม อายุ 66 ปี วัดใหม่ปิ่นเกลียว
    57. หลวงพ่อรอด สิทธิกาโร อายุ 74 ปี วัดวังน้ำเขียว
    58. เจ้าคุณไวย์ อายุ 90 ปี วัดพนัญเชิง
    59. หลวงปู่ทิม อัตตสันโต (พระครูสังวรสมณกิจ) อายุ 88 ปี วัดพระขาว
    60. หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก (พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ) อายุ 81 ปี วัดตะโก
    61.พระครูสังฆรักษ์เฉลิม อายุ 76 ปี วัดพระญาติ
    62. หลวงพ่อเอียด อินทวังโส (พระครูสุนทรยติกิจ) อายุ 73 ปี วัดไผ่ล้อม
    63.หลวงพ่อเพิ่ม อัตตทีโป อายุ 75 ปี วัดป้อมแก้ว
    64. หลวงพ่อจำลอง เขมะนันโท อายุ 77 ปี วัดเจดีย์แดง
    65. หลวงพ่อ สวัสดิ์ โสตถิทัตโต อายุ 84 ปี วัดศาลาปูน
    66. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล อายุ 69 ปี วัดบ้านแพน
    67.หลวงพ่อวงศ์ อายุ 75 ปี เจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ดเขต 2
    68.หลวงพ่อหยด กิติสาโร อายุ 76 ปี วัดเจ้าเจ็ดใน
    69. หลวงพ่ออื้น จันทวรรณโณ อายุ 75 ปี วัดเจ้าเจ็ดนอก
    70. หลวงปู่ บุญนาค ฐานนาโค อายุ อายุ 87 ปี วัดหนองโป่ง
    71. หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม อายุ 77 ปี วัดเกริ่นกฐิน
    72. หลวงปู่ถม ธัมมทีโป (พระครูธรรมโสภณ) อายุ 89 ปี วัดเชิงท่า
    73. หลวงพ่อสารันต์ จันทูปโม (พระครูจันทสิริธรา) อายุ 54 ปี
    74. หลวงพ่อหลิว กตปุญโญ อายุ 78 ปี วัดคุ้งเขาเขียว

    สุดยอดพระเครื่องแห่งกรุงรัตนโกสินทร์สร้างอย่างมากปีละครั้ง จากชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์และหาได้ยากยิ่งจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นำมาบดสร้างเป็นองค์พระจนได้คำขวัญที่ว่ารูปแบบสวย มวลสารดี พิธีการเยี่ยม ประสบการณ์ยอด พระพุทธคุณสูงและได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกจากพระคณาจารย์ชื่อดังมาแล้วหลายครั้งหลายหนจนเกิดอภินิหารย์ และมีประสบการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาแล้วอย่างมากมายทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีกรรมวิธีการสร้างอย่างวิจิตรพิสดารยิ่งนัก ยากที่จะมีใครมาปลอมแปลงให้เหมือนได้


    สภาพสวยเดิม ไม่หักไม่ซ่อม พิมพ์คมชัดลึก เนื้อหามวลสารสุดยอดเยี่ยมพิธีใหญ่ พุทธคุณล้นฟ้าราคาเบาหวิว แนะนำให้เก็บกันนะครับเพื่อความเป็นศิริมงคล ตอนนี้เริ่มหายากแล้วครับลูกศิษย์เก็บกันหมด บอกกันไว้แล้วเดี๋ยวจะมาตามเก็บทีหลังกันนะครับ ไม่สดไม่ใหม่ไม่แท้คืนเต็มครับ แบ่งให้บูชา 444 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณJae จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2022
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2257.สวยๆกล่องเดิม(๑) พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นปรมัตถบารมี
    ผ้าสังฆาฏิของพระอริยะสงฆ์สุปฏิปันโน 22องค์ มหาพิธี 3วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    81cDPv.jpg

    81c2bV.jpg
    81c6NS.jpg
    พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นปรมัตถบารมี หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงพุทธคุณลงทอง จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516-2546

    ทางคณะศิษย์ของหลวงพ่อฯ นำโดย พ.ต.อ. อรรณพ กอวัฒนา ได้มีการจัดทำพระผง “สมเด็จองค์ปฐม รุ่นปรมัตถบารมี” ขึ้น ซึ่งเป็นพระผงที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่า30ปี ในการทำ (เริ่มคิดหาวิธีสร้าง 2516 สำเร็จปี 2546) ที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน เนื่องจาก ต้องนำผ้าสังฆาฏิของพระอริยะสงฆ์ สุปฏิปันโน ที่ส่วนใหญ่เป็นสหายสหธรรมมิกของพระเดชพรคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) หลวงพ่อของพวกเรามาผสมจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้ ประกอบไปด้วย ผงสังฆาฏิของ


    1. พระเดชพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
    2. หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
    3. ครูบาพรหมจักโก (พระสุพรหมยานเถระ) วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    4. ครูบาอินทจักโก (พระสุธรรมยานเถระ) วัดน้ำบ่อหลวง
    5. ครูบาคำแสน (หลวงปู่คำแสนใหญ่) วัดสวนดอก
    6. ครูบาคำแสน (หลวปู่ครูบาคำแสนเล็ก) วัดดอยมูล
    7. ครูบาทิม(ทืม) พรหมเสโน วัดจามเทวี
    8. ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย
    9. ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    10.หลวงปุ่หล้า ตาทิตย์ วัดป่าตึง
    11.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    12.ครูบาชัยยะวงศา วัดนาเลียง
    13.หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรี
    14.หลวงปู่สี ฉันทศิริ วัดถ้ำเขาบุนนาค
    15.หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
    16.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
    17.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
    18.ท่านเจ้าคุณ นรฯ วัดเทพศิรินทราวาส
    19.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง
    20.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
    21.ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์
    22 ท่านอาจารย์โกวิน วัดไผ่รื่นรมย์

    ผ้าสังฆาฏิที่หลวงปู่-หลวงพ่อแต่ละองค์ท่านจะมอบผ้าสังฆาฏิให้มาเพื่อนำมาป่นเป็นผงเพื่อเป็นส่วนหนี่งของมวลสารในพระ ท่านได้ปลุกเศกมาให้แล้ว นั่นหมายความว่าพระผงรุ่นนี้ได้รับพุทธคุณจากพระอริยสงฆ์ทั้ง 22 องค์ ก่อนเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นพระทีท่านทรงฤทธิ์อภิญญาทั้งหมด พระและวัตถุมงคลของท่านล้วนครอบคลุมทุกด้าน ลาภผล เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี กันภัยและเป็นมงคลทุกประการ

    การปลุกเสกและพิธีพุทธาภิเษก
    ครั้งที่ 1
    - หลวงพ่อแขก (พระครูประภาสธรรมาภรณ์) วัดบางระกำ (สุนทรประดิษฐ์) อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ปลุกเสกเดี่ยวเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2546

    ครั้งที่ 2
    - นำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดพระพุทธชินราช) อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2546 ที่ได้จัดพิธีสำหรับพระเครื่องต่างๆ รุ่น สธ.เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนม์พรรษาครบ 48 ปีของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
    โดยพระเกจิทรงคุณ อาทิเช่น
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาวอยุธยา
    - หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
    - หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา
    - พระอาจารย์ไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน อยุธยา
    - หลวงพ่อวุฒิโชค วัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ
    - หลวงพ่อขาว วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา
    - พระอาจารย์วันดี วัดอุบลวนาราม นนทบุรี
    - พระอาจารย์วิเชียร วัดไทรทอง กาญจนบุรี
    - พระอาจารย์สนม วัดท้ายน้ำ พิจิตร

    ครั้งที่ 3
    - นำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง(จันทาราม) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานีเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2547 (เสาร์5)

    รุ่นนี้จะสร้างด้วยกันทั้งหมด 2เนื้อ คือ เนื้อสีแดง และ เนื้อสีขาว โดยพิมพ์ด้านหลังทั้ง2เนื้อจะมีทั้งที่เป็น ยันต์เกราะเพชร และ ยันต์อกเลา (ยันต์พระพุทธชินราช) สำหรับองค์ที่เป็นเนื้อสีแดงผสมชานหมาก ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร จะมอบไห้สำหรับแจกกรรมการ


    สภาพสวยกล่องเดิมๆ ไม่หักไม่ซ่อม พิมพ์คมชัดลึก เนื้อหามวลสารสุดยอดมหามงคล ไม่สดไม่ใหม่ไม่แท้คืนเต็มครับ แบ่งให้บูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2022
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2258.The last ยอดประสบการณ์หายาก(๒) พระปิดตาซุ้มประตู รุ่นแรก
    หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ ทายาทพุทธาคมสายตรง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    81LqWN.jpg

    8t0ken-jpg.jpg
    พระปิดตาซุ้มประตู รุ่นแรก หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อผงวิเศษสีเทา เคลือบแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522

    จัดสร้างขึ้น 2 เนื้อคือเนื้อสีเทาจำนวน 2,525 องค์ และเนื้อสีแดงจำนวน 2,525 องค์

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    - ผงใบลานเผาไฟ(ใบลานจากตำราโบราณที่ชำรุด)
    - เกสรดอกไม้
    - ดอกไม้แห้งจากที่บูชาพระ
    - รากรักซ้อนตายพราย
    - รากมะยมตายพราย
    - ยอดสวาท
    - เถาวัลย์หลง
    - เถาเครือหลง
    - กาฝากรักตายพราย
    - รากพุดซ้อน
    - รากมะรุม เป็นต้น

    วาระการปลุกเสก
    - หลวงพ่อฮวด ได้ปลุกเสกเดี่ยว ตลอดไตรมาส ก่อนนำออกให้ทำบุญเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ

    นับว่าเป็นพระปิดตาที่ออกแบบได้สวยงามและสูงด้วยประสบการณ์ทางเมตตามหานิยม โชคลาภ เป็นยิ่งนัก

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - https://palungjit.org/threads/ตามหาคู่แท้-ให้หลวงพ่อท่าน-ภาค-๒-ครับ.296537/page-8#post-4897028
    - https://www.web-pra.com/shop/ray2550/show/1309949
    - https://uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=403&qid=183193


    หลวงพ่อฮวด กัณฑโว วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์
    พระเถระของชาวบ้าน พระเกจินักพัฒนาและยังเป็นพระเถระที่ทรงวิทยาคุณ เป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อคล้าย วัดพนมรอก และอีกหลายคณาจารย์ มีนามเดิมว่า ฮวด พงษ์ทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2447 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรงที่บ้านดอนหวาย อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ทั้งนี้ ครอบครัวได้ย้ายมาประกอบอาชีพที่บ้านหัวถนนใต้ ต.หัวถนน อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

    เมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ.2466 ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดพนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มี หลวงพ่อคล้าย เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาหลวงพ่อคล้ายได้เป็นเจ้าคณะอำเภอท่าตะโก มีสมณศักดิ์ พระนิพันธ์ธรรมาจารย์) ได้ฉายาว่า กัณฑโว
    เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อคล้าย เพื่อปรนนิบัติรับใช้ พร้อมทั้งศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม หลังจากนั้น จึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวถนนใต้

    หลวงพ่อฮวด ได้เริ่มศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมครั้งแรก จากหลวงพ่อคล้าย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ (หลวงพ่อคล้ายเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเดิม สร้างเหรียญทวิภาคีร่วมกัน เมื่อคราวหลวงพ่อเดิม-หลวงพ่อคล้าย ช่วยสร้างพระอุโบสถ วัดพนมรอก เมื่อปี พ.ศ.2483)
    หลวงพ่อฮวดศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับหลวงพ่อเดิม ซึ่งหลวงพ่อมีความใกล้ชิดกับหลวงพ่อเดิม เนื่องจากหลวงพ่อเดิมได้มาช่วยพัฒนาวัดในเขตอ.ท่าตะโกหลายวัด เช่น การพัฒนาวัดทำนบ, วัดหนองไผ่, วัดเขาล้อ, วัดดอนคา, วัดโคกมะขวิด, วัดพนมรอก, วัดหนองหลวง, วัดหัวถนนเหนือ (เหตุที่หลวงพ่อเดิมได้มาช่วยพัฒนาวัดในเขตอ.ท่าตะโกมาก เนื่องจากบ้านหนองโพ-หัวหวายเป็นเขตติดต่อกับบ้านหนองหลวง-หัวถนน) หลายครั้ง หลวงพ่อเดิมได้รับกิจนิมนต์ไปยังที่ใด มักจะชวนหลวงพ่อฮวดร่วมเดินทางติดตามไปด้วยเสมอ

    หลวงพ่อฮวด เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดสายพุทธาคมมาจากหลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว หลังจากนั้น หลวงพ่อฮวดได้เล่าเรียนวิทยาคมกับอีกหลายพระอาจารย์ตามความชำนาญของแต่ละท่าน อาทิ วิชาทำตะกรุดกับหลวงพ่อพุฒ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง, เรียนทำน้ำมนต์กับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา, เรียนทำผงเมตตามหานิยมโชคลาภจากหลวงพ่อศักดิ์ วัดวังกระโดนใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เป็นต้น

    หลวงพ่อฮวด ได้มรณภาพเมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2535 เวลา 08.47 น. ณ วัดหัวถนนใต้ สิริอายุ 88 พรรษา 68

    คณะกรรมการวัด ได้บรรจุศพหลวงพ่อฮวดไว้ในโลงแก้ว ปรากฏว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ ด้วยศพหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย ทั้งที่เป็นโลงแก้วธรรมดา ไม่ได้เป็นแบบสุญญากาศ
    ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี วัดหัวถนนใต้ จะเปิดโลงเพื่อเปลี่ยนผ้าสบง-จีวรหลวงพ่อฮวด เพื่อความเป็นสิริมงคล ปัจจุบัน ศพตั้งไว้บนจัตุรมุขวิหาร วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านตั้งสมญานามให้กับท่านว่า 'พระของชาวบ้าน'


    *** ประสบการณ์ปาฎิหาริย์ ****
    เรื่องราวต่อไปนี้ผมหาข้อมูลมาจาก : เดลินิวส์ 'แฉ่ง บางกระเบา'
    หลวงพ่อฮวดท่านเป็นพระรุ่นน้องของหลวงพ่อเดิม เดินธุดงค์ด้วยกัน พระท่านดีทุกรุ่น ไม่มีปัญหาเรื่องประวัตการสร้าง ลูกศิษย์ดีทุกท่าน ทุกวันนี้หลวงพ่อมรณะภาพไปแล้ว ร่างกายเป็นสีทอง ของดีที่ยังไม่มีใครรู้ไปหามาแขวนนะครับ รุ่นไหนก็ได้ ดีทุกรุ่น

    จัดเป็นอีกเรื่องที่ “เหนือกว่าความเป็นจริง” และเป็นสิ่งที่ “เหลือเชื่อ” เกินกว่าจะอธิบายได้เพราะเป็น “ปรากฏการณ์” ที่ “เหนือธรรมชาติ” จึงนิยมเรียกกันว่า “อภินิหาร” หรือ “เหนือลิขิต?? ประกาศิตฟ้าดิน??” ก็ว่าได้เพราะเรื่องราวเช่นนี้มักจะมีให้เห็นอยู่เสมอผู้เขียนจึงนำมาเสนอ เพื่อให้ทุกท่านที่ “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ได้รับทราบกันว่าเป็นอีก “เรื่องจริง” ที่สามารถพิสูจน์ได้

    โดยเรื่องราวนี้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 44 ปี แต่ก็เหมือนเพิ่งจะผ่านไปไวไวนี้เอง เพราะชาวบ้านแห่ง “อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์” ยังคงร่ำลือกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอมิได้ขาดแม้ว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2507 เวลา 20.10 น.ขณะที่ “ลุงทองสุข พงษ์ทอง” ชาวบ้านหัวถนนใต้ หมู่ที่ 2 ต.หัวถนน จ.นครสวรรค์ กำลังปิดร้านค้าปรากฏมีคนร้าย 3 คนได้บุก “เข้าปล้น” ทำการกวาดทรัพย์สินไปได้หลายอย่างแต่เป็นที่ “อัศจรรย์” เมื่อ “กระป๋อง” ที่ “ลุงทองสุข” ใช้เป็นที่ “เก็บเงิน” จากการขายของในช่วงกลางวันที่ “ตั้งอยู่บนหัวนอน” โจรไม่ได้นำไปด้วยเหตุก็เพราะใน “กระป๋องใบนั้น” มี “เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อฮวดวัดหัวถนนใต้” ที่ลุงทองสุขนำมาใส่ไว้และขณะที่โจรล่าถอยออกจากร้านเพราะได้ทรัพย์สินตาม ที่ต้องการแล้วแต่ “ลุงทองสุข” กลับเกิดเสียดายทรัพย์สินจึงวิ่งตาม เลยถูกโจรยิงกระสุนเจาะเข้าที่หัวไหล่ขวาของลุงทองสุข แต่ปรากฏว่ากระสุนไม่ทะลุผิวหนังเลยเพียงแต่เป็น “รอยไหม้” และบวมเท่านั้นแสดงให้เห็นว่า “เหรียญหลวงพ่อฮวด” มีพุทธานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม

    อีกเรื่องที่ต้องนำมาเสนอคือ “นายชวการ รัตนธีรเดช” เล่าว่าพี่ชายของ “เสี่ยเฮ้า” ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเองและเป็นศิษย์ “หลวงพ่อฮวด” ด้วยมีอาชีพ “ค้าข้าว” จึงต้องตระเวนวขับรถ 10 ล้อไป “ขนข้าว” ตามที่ต่างๆวันหนึ่งขณะขับรถวิ่งมาถึง “สามแยกวิเศษโพธิ์ทอง” ก็ถูกคนร้าย 3 คนใช้ปืน “บุกปล้น” และบังคับให้ขับรถเข้าไปในป่าลึกจากนั้นจึงจับพี่ชาย “เสี่ยเฮ้า” และลูกน้องมัดกับต้นไม้เพื่อรอให้มืดลงจึงจะขับรถขนข้าวหนีไป แต่ระหว่างรอเวลาให้มืดลง “หนึ่งในคนร้าย” ได้ใช้ปืนจ่อเข้าที่ “หัวพี่ชายเสี่ยเฮ้า” พร้อมขู่ขึ้นว่า “ยิงทิ้งซะดีมั้ง ขี้เกียจเฝ้าแล้ว” พี่ชายเสี่ยเฮ้าตัวเย็นเฉียบด้วยความกลัวจึงหลับตาลงแล้วพึมพัมว่า “หลวงพ่อฮวด...ช่วยลูกด้วย” พอสิ้นคำก็ปรากฏเรื่องที่น่าอัศจรรย์เมื่อพี่ชายเสี่ยเฮ้ามองเห็น “หลวงพ่อฮวด” มานั่งลอยเด่นอยู่บนหัวตัวเองทั้งๆที่ยังหลับตาและพอลืมตาขึ้นก็เห็น 3คนร้ายเดินไปที่รถแล้วทำการสตาร์ทรถขับหนีไป พี่ชายเสี่ยเฮ้าจึงแก้มัดตัวเองจนหลุด ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาไปแจ้งความกับตำรวจ

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังติดตามคนร้าย ยังบริเวณที่เห็นคนร้ายขับรถหนีไปจึงพบรถ 10 ล้อ จอดอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจเพราะระยะเว ลาห่างกันตั้ง 3-4 ชั่วโมง แต่คนร้ายกลับขับรถหนีจากที่เกิดเหตุได้ไม่มากนัก โดยสังเกตได้จากรอยล้อรถที่มีการขับวนเวียนอยู่บริเวณนั้นหลายรอบ ในลักษณะหาทางออกไปไม่ได้จึงต้องทิ้งรถหลบหนีไปครั้น “เสี่ยเฮ้า” ทราบเรื่องจากพี่ชายก็ไปกราบ “หลวงพ่อฮวด” พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟังโดยยืนยันกับท่านว่า “เพราะหลวงพ่อไปช่วยพี่ชายจึงไม่ถูกยิงและเอารถไปไม่ได้” แต่ “หลวงพ่อฮวด” ก็นั่งเฉยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “เสี่ยเฮ้า” จึงย้ำถามหลวงพ่ออีกหลายครั้งว่าไฉนจึงไปช่วยพี่ชายได้ที่สุดหลวงพ่อจึงบอก ว่า “ฉันนั่งสมา ธิและแผ่เมตตาไปให้กับลูกศิษย์ทุกคน ดังนั้นถ้าผู้ใดตกทุกข์ได้ยากแล้วระลึกถึงฉัน เขาก็จะมองเห็นฉันเหมือนนิมิตนะ” เสี่ยเฮ้าได้ยินชัดเจนจึงก้มกราบเท้าท่านแบบยอมรับและนับถืออย่างสนิทใจ



    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์เก่าเก็บ พิมพ์คมสวยชัดลึก สุดยอดของดีประสบการณ์เยี่ยมที่ทุกคนให้การยอมรับ แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณsupachaipnu จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2022
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2259.พระผงหยก พิมพ์วัดปากน้ำ
    หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล พระอริยะเจ้าศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    t5cgae-jpg.jpg
    พระผงหยก พิมพ์วัดปากน้ำ หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล จ.กรุงเทพ เนื้อผงพุทธคุณ ผสมผงหยกจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่(พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย) วัดธรรมมงคล ดำเนินการจัดสร้าง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปีพ.ศ.2536

    เมื่อครั้งที่วัดธรรมมงคล โดยหลวงพ่อวิริยังค์ ได้มีดำริที่จะสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นด้วย หยกเขียว โดยเริ่มต้นเสาะแสวงหาก้อนหยกเขียวดิบ ขนาดใหญ่ พอที่จะนำมาแกะสลักเป็นองค์พระพุทธรูป และ เจ้าแม่กวนอิม ขึ้นนั้น ประมาณปี 34 ก้อนหยกที่ว่าก็ไปพบกันที่เหมืองแห่งหนึ่งในประเทศ แคนาดา น้ำหนักประมาณ 32 ตัน จากนั้นขนย้ายมาประเทศไทย และได้ว่าจ้างช่างแกะสลักฝีมือดีจาก อิตาลี เมื่อ ปี 35 ในการนี้มีค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าหยกและการแกะสลักประมาณ 25 ล้านบาท และค่าก่อสร้างอาคารที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปและองค์เจ้าแม่กวนอิม อีกประมาณ 25 ล้านบาท ทางวัดธรรมมงคลจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นจาก ชิ้นหยกที่เหลือจากการแกะสลักพระพุทธรูปหยกองค์ใหญ่ พระหยกหลวงพ่อวิริยังค์แกะพิมสมาธิ และ ผสมพระเนื้อผง

    สภาพสวยเดิมๆ เก่าเก็บไม่ได้ใช้ พุทธคุณและศิริมงคลดีนักแล แบ่งให้บูชา 199 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณJae จองแล้วครับ)







    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2022
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$



    2260.ของดีไม่มีให้บูชา พระนาคปรกใบมะขามมหาปราบ
    ลพ.สาคร,ลป.ชื่น,ลป.ธรรมรังษี ร่วมเสกมหาพิธี 3วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    [
    พระนาคปรกใบมะขามมหาปราบ จัดสร้างโดย มูลนิธิหลวงปู่ทิม โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ เมื่อปี พ.ศ.

    พระนาคปรกใบมะขามมหาปราบ จัดสร้างโดย มูลนิธิหลวงปู่ทิม โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ เมื่อปี พ.ศ.2544 เนื้อทองแดง พระปรกชุดนี้ปลุกเสกวาระแรกในพิธีพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ ทางมูลนิธิทำออกเพื่อแจกทางคณะศิษย์ไม่ได้มีออกจำหน่าย จึงมีชื่อเรียกจากทางมูลนิธิหลวงปู่ทิมว่า "ปรกมหาปราบ"

    จำนวนการสร้าง
    - เนื้อเงิน 500 องค์
    - เนื้อทองแดง 3,000 องค์

    มหาพิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - ณ อุโบสถวัดละหารไร่ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2546 พิธีพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ พิธีเททองเริ่ม 13.19 น.บัณฑิตอ่านโองการเชิญครูบาอาจารย์ เทพยดาทุกชั้นฟ้า จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ 9 รูปสวดชยันโต พราหม์ลั่นฆ้อน พระเทพคุณาธาร จุดเทียนชัย พระคณาจารย์นั่งปรก 4 ทิศ จากนั้นช่างสมรเริ่มเททอง อากาศซึ่งร้อนอบอ้าวกลับเย็นสบาย ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน แต่ในพิธีกลับไม่มีฝนเลย เกือบ 4 ชม.หลังจากเทพระเสร็จฝนเริ่มตกลงมาปรอยๆ นับเป็นเรื่องอัศจรรย์เพราะรอบๆวัดฝนตกน้ำท่วมอย่างหนัก
    รายนามพระคณาจารย์ดังนี้ อาทิ
    1.หลวงปู่ธรรมรังษี
    2.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับ
    3.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    4.หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง

    วาระที่ : 2
    - เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2546 ณ พระอุโบสถวัดบ้านตาอี พิธีชัยมหานาถ
    รายนามพระคณาจารย์ดังนี้ อาทิ
    1.หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด
    2.หลวงปู่ชื่น วัดตาอี
    3.หลวงปู่ธีร์ วัดจันทราวาส จ.บุรีรัมย์
    4.หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน
    วัตถุมงคลชัยมหานาถสำเร็จด้วยพระมหาบรมเดชานุภาพ มหิธฤทธิ์ อันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระเจ้าศรีชัยวรมันมหาราช ใครมีไว้บูชาอย่าถือว่าเป็นของใหม่ แม้นแต่ครูบาอาจารย์ที่มาร่วมพิธีถึงกับการันตีถึงความแรงความขลังในพิธีนี้ และหลังจากผู้นำวัตถุมงคลชุดนี้ไปบูชาก็ประจักษ์แจ้งถึงอิทธิคุณ มีโชคมีลาภ บางบ้านฮวงจุ้ยไม่ดีนำดวงตราอาถรรพณ์ติดหน้าบ้านกิจการงานก็ดีขึ้นทันตาเห็น บางรายก็ญาติป่วยไม่สบายอาการสาหัสอธิษฐานขอชีวิตจากพระองค์ท่านก็อยู่รอดปลอดภัยอย่างน่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก

    วาระที่ : 3

    - หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกบินเดี่ยวปิดท้าย
    ปรกชุดนี้ปลุกเสกวาระแรกในพิธีพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ ทางมูลนิธิทำออกเพื่อแจกทางคณะศิษย์ไม่ได้มีออกจำหน่าย จึงมีชื่อเรียกจากทางมูลนิธิหลวงปู่ทิมว่า "ปรกมหาปราบ"


    สภาพสวยผิวไฟแดงเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก พระปรกใบมะขามดีพิธีใหญ่ อีกรุ่นที่แนะนำหายากสร้างน้อย แบ่งให้บูชา 444 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2024
  12. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,605
    ค่าพลัง:
    +30,886
    หวัดดีครับ.jpg
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    $$$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$





    2261.
    พลังแห่งพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่(๑)
    พระรอดชัยฤทธิ์
    พิธีใหญ่มหามงคล พระสังฆราช,ลป.ฝั้น,ลป.โต๊ะ,ลพ.ฤาษีลิงดำ ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    b8nszn-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    b8nypv-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    b8nn9s-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    b8nbbn-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    6dfd-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระรอดชัยฤทธิ์ วัดบุพพาราม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อดินผสมชิ้นส่วนชำรุด ของพระรอด กรุวัดมหาวันกรุเก่า, พระคง, พระเปิม,พระเลี่ยง พระซาว, พระสิบสอง ซึ่งเป็นพระกรุอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา หลังกดโค้ดยันต์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 เนื่องด้วยทางวัดมีความต้องการจัดหาทุนในการจัดสร้างหอมณเฑียรธรรม และประจวบกับ

    วาระมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 49พรรษา ในปี 2519 ทางวัดบุพผารามจึงได้จัดสร้างพระพุทธบุพพาภิมงคล เพื่อเป็นที่่ระลึกแก่พระองค์ท่าน ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงเสด็จเททองหล่อพระพุทธบุพพาภิมงคล ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่ และทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธถิเษกอย่างยิ่งใหญ่ โดยพระราชาคณะและพระคณาจารย์ดังแห่งยุค

    **** พระรอดชัยฤทธิ์ พระรอดหนึ่งเดียวที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จ ทำพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เอง มีพลังแห่งพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ****



    พิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันที่ 13 พค 2519 (วันวิสาขบูชา) ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททอง ในหลวงทรงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่

    รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก 49 องค์
    1.สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธฯ
    2.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศฯ
    3.สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักวรรดิ์ฯ
    4.พระวิสุทธิวงศ์ศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
    5.พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตรฯ
    6.พระธรรมวโรดม วัดปทุมคงคา
    7.พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
    8.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
    9.พระเทพวิสุทธิโสภณ เชียงราย
    10.พระเทพวิสุทธี วัดเจดีย์หลวง
    11.ครูบาคำแสน อินทจักโก วัดสวนดอก
    12.ครูบาคำแสน คุณารังกาโร วัดป่าดอนมูล
    13.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    14.ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    15.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาบ่อง
    16.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง
    17.ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
    18.ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
    19.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
    20.ครูบาบุญมี วัดท่าสต๋อย
    21.ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง
    22.ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
    23.ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
    24.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    25.ครูบาจินะ วัดท่าข้าม
    26.ครูบาคำตัน วัดดอนจืน
    27.พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
    28.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    29.พระประสาท วัดจามเทวี
    30.พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธฯ
    31.ครูบาชุ่ม วัดวังมุย
    32.พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
    33.ครูบาเมือง วัดท่าแหน
    34.ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
    35.พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
    36.ครูบาอินโต วัดบุญยืน
    67.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    38.ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
    39.พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
    40.พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
    41.พระญาณมงคล วัดมหาวัน
    42.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    43.หลวงพ่อนอ วัดกลาง
    44.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
    45.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุรามณี
    46.หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
    47.หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง
    48.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    49.พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา

    ผ่านพิธีสวดอุปสานติ :
    - เป็นพิธีเพื่อสงบเคราะห์กรรม เพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน เสริมบารมีแก่ผู้อาราธนาแขวน นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน

    ข้อมูลข่าววัดบุพผาราม
    - https://www.thairath.co.th/content/937420


    สภาพสวยเดิมๆมีกดไม่ติดไม่เต็มบ้าง เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ **** พระรอดชัยฤทธิ์ พระรอดหนึ่งเดียวที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จ ทำพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เอง มีพลังของพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ **** นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน แบ่งให้บูชา 499 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2022
  14. yaboyabo

    yaboyabo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +510
    คุณyaboyabo
    - 2250.สวยกริ๊บกล่องเดิม พระสมเด็จปรกโพธิ์ 9ใบ รุ่นแรก พิมพ์กรรมการ หลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง ศิษย์ ลพ.กวย, ลพ.เชน, ลพ.ทอง
    โอนค่าวัตถุมงคลเรียบร้อยครับ ที่จัดส่ง pm ครับ
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###

    https://palungjit.org/threads/กระทู...ามกระทู้ไว้จะไม่ผิดหวัง.661373/#post-10867359

    #############




    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม


    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง
    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663


    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    $$$$$$$ ปิดรายการ $$$$$$





    2262.ท่านไม่ธรรมดานะเชื่อผม(๑)
    เหรียญสิวลีมหาลาภ
    หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม ผู้มีเมตตาอย่างหาประมาณได้


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    เหรียญสิวลีมหาลาภ รุ่นสร้างเจดีย์ หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อทองแดงนอก ตอกโค้ด "เจดีย์" ยิงเลเซอร์รันนัมเบอร์ 6608 ดำเนินการขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ปี พ.ศ.2556 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสฉลองการสร้างเจดีย์

    หลวงพ่อเอียดท่านไม่ธรรมดานะครับ ผมเคยเจอกับตัวเองเมื่อคราวไปกราบท่าน ให้ท่านจารและเป่ากระหม่อมให้ แปลกที่มีพลังงานไหลเข้ากลางกระหม่อมเราแรงมากลักษณะเป็นคลื่นวิ่งเข้ามา ขนลุกทั้งตัวเลย ท่านเป็นองค์ที่สองที่เป่าให้ผมองค์แรกคือ พระอาจารย์กัณหา ท่านเมตตาของหลวงพ่อใหญ่ท่านจะเย็นเบาสบายคนละแบบกัน เหมือนกับ หลวงปู่จันทา ถาวโร ลูกศิษย์หลวงปู่ขาว (ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ)

    ประวัติโดย่อหลวงพ่อเอียด
    เดิมท่านชื่อ ละเอียด พูลพร ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2471 ณ ตำบลสะพานไทย อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 14 ปี และได้ศึกษาพระธรรมวินัย จนเมื่อปี พ.ศ.2471 ได้อุปสมบท ณ วัดไผ่ล้อม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    ท่านเป็นพระที่ผู้ใดได้เข้ากราบไหว้จะพบว่าท่าน ใจดี พูดจาไพเราะ ใจเย็น เรียบง่าย และยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกๆคน ซึ่งท่านนั้นเปี่ยมไปด้วยความเมตตา และต้อนรับทุกคนด้วยความเสมอภาค พูดคุยกับญาติโยมอย่างเป็นกันเอง และท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มากด้วยพุทธาคม

    ชีวิตเพศบรรพชิต
    หลวงพ่อเอียด ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2485 ณ วัดไผ่ล้อม โดยมีพระครูสุนทรวิหารกิจเป็นพระอุปัชฌาย์ ในขณะที่เป็นสามเณรท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี เมื่ออายุ 16 ปี และสอบนักธรรมชันโทเมื่ออายุ 18 ปี หลวงพ่อเอียดยังสามารถสวดท่องพระปาฏิโมกข์ได้ในขณะเป็นสามเณรได้อีกด้วย และท่านยังช่วยงานวัดทุกอย่างตามที่กำลังและความสามารถของท่านจะทำได้

    อุปสมบท
    หลวงพ่อเอียด ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรจนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบท ในวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2491 ณ วัดไผ่ล้อม โดยมีพระครูสุนทรวิหารกิจ (หลวงพ่อตุ้ม จนฺทโชติ) วัดจันทรารามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถนอม วัดใหม่กบเจาเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูสาธรนวกิจวัดบางบาลเป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านได้จำพรรษาปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระอุปัชฒาย์อาจารย์ และสอบนักธรรมชั้นเอกได้ในพรรษาที่ 3 และท่านยังทำหน้าที่เป็นครูสอบพระปริยัติธรรม จนปี พ.ศ.2497 ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม

    วิชาอาคม
    หลวงพ่อเอียด ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อแจ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น สำหรับหลวงพ่อแจ่มนั้นท่านเป็นพระเถระที่เก่งมากอีกรูปหนึ่งท่านเป็นศิษย์และใกล้ชิดกับหลวงพ่อขันวัดนกกระจาบ ไปมาหาสู่ที่วัดนกกระจาบอยู่เป็นประจำแต่ละครั้งท่านก็จะพาหลวงพ่อเอียดไปด้วย หลวงพ่อเอียดท่านจึงซึมซับวิชาจากหลวงพ่อขันมาโดยตลอด ซึ่งหลวงพ่อขันท่านนั้นเป็นศิษย์หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อขันวัดนกกระจาบยุคท้ายๆ จะเป็นลายมือของหลวงพ่อแจ่ม และลายมือของหลวงพ่อเอียด เนื่องจากลายมือหลวงพ่อเอียดนั้นลงอักขระยันต์ได้สวยงามมาก หลวงพ่อเอียดท่านยังได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า อาจารย์ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว และเรียนวิชากับหลวงพ่ออินทร์วัดเกาะหงส์ หลวงพ่อแจ่มวัดวังแดงเหนือ
    ปัจจุบันหลวงพ่อเอียดท่านละสังขาร ในวันที่ 29 มกราคม 2558 สิริอายุรวม 87 ปี


    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บ ไม่ผ่านการใช้งานบูชาตรงมาจากวัด พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 180 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณสมาชิก จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2023
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    2263.ต้นตำรับพระผงมหาจักรพรรดิ์ พระผงรูปเหมือนมหาจักรพรรดิ์
    มวลสาร108จักรพรรดิ์ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สุดยอดพระดีพิธีจักรพรรดิ์ปี15

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    พระผงรูปเหมือน พิมพ์ใหญ่หน้าหนุ่ม ผสมเกศา หลังยันต์ นะประทับหลังพระวิษณุ หรือ รุ่นพลเอก หรือ พระผงพิมพ์หันข้าง พระครูศีลสารสัมบัน(สำรวย สมฺปนฺโน) เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง ผู้ให้กำเหนิดพระเครื่องพิธีมหาจักรพรรดิ์ พิเศษเนื้อขาวผสมเกศา แก่ผงพระสมเด็จวัดระฆัง และวัดบางขุนพรหม สร้างน้อยมากเนื้อนี้ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย วัตถุมงคลแห่งพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก วันที่ 19 – 20 มกราคม 2515 ณ พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) พิษณุโลก

    ยันต์นะประทับหลังพระวิษณุ
    คือการรวมกันระหว่าง ยันต์เฑาว์พุทธะ และ ยันต์นะมหาอุด หรือ นะซ่อนหาง ซึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังพระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ และพระพิมพ์รูปเหมือนพระครูศีลสารสัมบัน ทุกองค์นั้น เป็นการนำเอาอานุภาพของยันต์ทั้งสองผสานด้วยกัน กล่าวคือ นะ ประทับหลังพระวิษณุ เป็นยันต์หนึ่งใน 108 ยันต์ที่ลงในผ้าประเจียด เป็นมงคลแคล้วคลาด และเป็นเมตตามหานิยม สารพัดจะใช้ได้ทุกประการ และเป็นหัวใจของยันต์พระเจ้าห้ามทุกข์ ป้องกันการถูกกระทำไสยศาสตร์ใส่มนต์ดำ และเป็นยอดยันต์ประทับหลัง ยันต์พิชัยสงคราม ต้องปลุกด้วย อิติปิโสรัตนมาลา จึงจะขลัง โบราณท่านว่ามีค่าควรเมือง สุดท้ายเป็นยอดยันต์ธงมหาอุด ปลุกเสกด้วยพระคาถาภควัม 108 จบ จึงจะทรงกฤษดาอภินิหารยิ่ง


    เหตุผลใดท่านพระครูศีลสารสัมบันจึงเลือกยันต์นี้ อาจจะเพราะพุทธคุณเหลือคณานับของยันต์ทั้งหมดหากรวมกันและกะทัดรัดพอที่จะลง หลังพระเครื่องสักองค์ ก็น่าจะเป็นยันต์ชนิดนี้ที่ดีที่สุด นี้คงเป็นเหตุผลของการเลือกยันต์ นะประทับหลังพระวิษณุ ไว้หลังองค์พระพิมพ์

    ประวัติการสร้างพระแก้วมณีโชติ
    ดำเนินการรวบรวผงพุทธคุณและจัดพิมพ์พระตั้งแต่ปี พ.ศ.2500-2514 โดยท่านพระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สมฺปนฺโน) เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นพระเถราจารย์ที่เก็บสะสมมวลสารไว้มาก จึงได้กราบอาราธนานิมนต์ให้ ท่านพระครูศีลสารสัมบันเป็นแม่งานรับผิดชอบในการจัดสร้างพระเครื่องชนิดผง และดินผสมผงเก่า เพื่อใช้ในการพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก วันที่ 19 – 20 มกราคม 2515 ณ พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) พิษณุโลก ตามความเห็นของเจ้าคุณพระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    มวลสารรวมทั้งหมด 108 ชนิด มวลสาร ทุกองค์เป็นมวลสารสูตร “มหาจักรพรรดิ ๑๕” พระครูศีลสารสัมบัน จึงได้ชื่อว่า มหาจักรพรรดิ เพราะเต็มไปด้วยมวลสารสำคัญทั่วทั้งประเทศมารวมไว้ที่พระเครื่องพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ปี 2515 ทั้งสิ้นและสูตรในการผสมยังเป็นความลับ ทั้งไม่มีพิธีใดๆจะลอกเลียนแบบได้เหมือนสูตรมหาจักรพรรดินี้ได้เลย โดยมวลสารและผงทั้งหมดนี้ ท่านพระครูศีลสารสัมบัน ได้ธุดงค์ จาริกแสวงบุญ รวบรวมมาเรื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง บางครั้งก็มีพระผู้ใหญ่หรือฆราวาสที่ท่านพระครูศีลสารสัมบัน รู้จักมักคุ้นก็จะนำมาฝากหรือถวายจนมีมากมายหลากหลายชนิดมวลสารสาธยายทั้งสิ้นก็ไม่อาจจะกล่าวได้หมด ดั่งคำกล่าวที่ว่า “สาธยาย 3 วันก็ไม่จบ มันเยอะจริงๆ” อาจารย์บุญสม ทั่งมั่งมี อดีตเลขาธิการท่านพระครูศีลสารสัมบัน (ส่วนรายชื่อมวลสารศึกษาเพิ่มเติมจากลิ้งค์ที่แนบมาได้เลยครับ เยอะมาก)


    มหาพิธีพุทธาภิเษกแบบไตรภาคี (ปลุกเสก 3 วาระ 3 สถานที่)

    วาระที่1: วันพุธ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2515
    พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ณ ศาลาพุทธาภิเษกหลังพระอุโบสถ วัดสระแก้วปทุมทอง จังหวัดพิษณุโลก ในพิธีนี้ ท่านพระครูศีลสารสัมบัน เป็นเจ้าพิธีเองได้กำหนดและควบคุมการดำเนินการประกอบ "พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับโบราณพิธีทุกประการตามวิธีการสายพระวิปัสสนาจารย์ โดยมีอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ถวายคำแนะนำ โดยมีการนั่งปรกพุทธาภิเษกสลับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน


    - ประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูศีลสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและจุด เทียนชัย
    - ประธานบริกรรมปลุกเสก 9 รูปตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนี้
    1.พระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก
    2.พระอาจารย์นวล วัดนิมิตรธรรมาราม พิษณุโลก
    3.พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนี) วัดอรัญญิก พิษณุโลก
    4.พระครูอภัยจริยาภรณ์ วัดใหม่อภัยยาราม พิษณุโลก
    5.พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว พิษณุโลก
    6.พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา พิษณุโลก
    7.พระครูประภาสธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก
    8.พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไซ่) วัดจูงนาง (วัดศรีรัตนาราม) พิษณุโลก
    9.หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก

    พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสกทั้งคืน ดังนี้
    1.พระครูศีลสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก
    2.พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก
    3.หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ พิษณุโลก
    4.พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ พิษณุโลก
    5.พระอาจารย์โต วัดสมอแข พิษณุโลก
    6.พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน พิษณุโลก
    7.พระครูวิจารย์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทองวราราม พิษณุโลก
    8.พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา พิษณุโลก

    หมายเหตุ : เจริญพระคาถามหาจักรพรรตราธิราช 108 จบ และคาถาพระอรหันต์ 8 ทิศ 108 จบ


    วาระที่ 2: วันพฤหัสบดี ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2515
    พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ณ พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม. และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการ


    คณะกรรมการพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก
    - ประธานฝ่ายสงฆ์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย
    - ประธานฝ่ายฆราวาส ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย
    - ประธานบริกรรมปลุกเสก พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 109 รูป ดังนี้
    1. หลวงพ่อทอง (พระครูวิริยะโสภิต) วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี
    2. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมมาภรณ์) วัดดอนยาหอม จ.นครปฐม
    3. หลวงพ่อนาค (พระครูจันทรโสภณ) วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพฯ
    4. หลวงพ่อแดง (พระครูญาณวิลาศ) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
    5. หลวงพ่อหอม (พระครูภาวนาณุโยค) วัดซากหมากป่าเรไร จ.ระยอง
    6. หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
    7. หลวงพ่อสด (พระครูวิจิตนชัยการ) วัดหางน้ำ จ.ชัยนาท
    8. หลวงพ่อชื่น (พระครูนนทกิจวิมล) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
    9. หลวงพ่อบุญ (พระครูประดิษฐ์นวการ) วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี
    10. หลวงปู่ทองอยู่ (พระครูสุตาธิการี) วัดใหม่หนองพระองค์ จ.สมุทรสาคร
    11. หลวงพ่อกรับ (พระครูธรรมสาคร) วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
    12. หลวงพ่อเจริญ (พระครูปัญญาโชติ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
    13. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
    14. หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี
    15. พระครูสนิทวิทยการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
    16. พระครูปิยะธรรมโสภิณ (หลวงพ่อคำ) วัดบำรุงธรรม จ.สระบุรี
    17. พระครูกิตพิจารณ์ (หลวงพ่อผัน) วัดราฎร์เจริญ จ.สระบุรี
    18. พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
    19. พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (หลวงพ่อมุ่ย) วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
    20. พระวินัยรักขิตาวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
    21. พระวิบูลเมธาจารย์ วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    22. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
    23. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
    24. หลวงพ่อเผือก วัดสาลีโข จ.นนทบุรี
    25. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯกรุงเทพฯ
    27. พระเทพโสภณ (สมเด็จพระมหาธีราจารย์) (นิยม ฐานิสฺสโร) วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
    28. หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    29. พระครูสาธุกิจวิมล (หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
    30. หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี
    31. พระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    32. พระครูจันทสโรภาส (หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
    33. พระครูโกวิทยาสมุทคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    34. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    35. พระอาจารย์ผ่อง (จินดา) วัดจักรวรรคิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ
    36. พระครูศรีปริยานุรักษี วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่
    37. พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิทย์ วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่
    38. พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อตองคำ จ.เชียงใหม่
    39. หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่
    40. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    41. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    42. หลวงพ่อชุบ วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง
    43. หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
    44. หลวงพ่อเงิน วัดเขาสาก จ.ลำปาง
    45. หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
    46. พระวิบูลวชิรธรรม วัดท่าพุทรา จ.กำแพงเพชร
    47. หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
    48. หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
    49. หลวงพ่อโอด (พระครูนิสัยจริยคุณ) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
    50. หลวงพ่อคัด วัดท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท
    51. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท
    52. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    53. หลวงพ่อดวง วัดทอง จ.สิงห์บุรี
    54. พระครูอาทรสิกขการ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดเกศไชโย จ.อ่างทอง
    55. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดท่าช้าง จ.อยุธยา
    56. พระครูประภาสธรรมคุณ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดวังแดง จ.อยุธยา
    57. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
    58. พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
    59. พระครูสาธรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    60. พระครูวิเศษมงคลกิจ (หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพฯ
    61. พระครูอนุกูลวิทยา (หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงษ์ กรุงเทพฯ
    62. พระครูพิริยกิจติ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    63. พระครูภาวณาภิรมย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    64. พระครูโสภณกัลป์ยานุวัฒน์ (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณ์ กรุงเทพฯ
    65. พระครูพินิจสมาจารย์ (หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี
    66. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    67. พระครูวชิรรังษี วัดมฤคทายวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์
    68. พระครูวชิรคุณาญาณ วัดในกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    69. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    70. พระครูอุดมศีลจารย์ (พ่อท่านเย็น) วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง
    71. พระครูพิศาลพัฒนกิจ (พ่อท่านพระครูปลัดบุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม จ.พัทลุง
    72. พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    73. หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    74. หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร
    75. หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น
    76. หลวงปู่จันทร์ วัดสำราญ จ.อุบลราชธานี
    77. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์
    78. หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    79. หลวงพ่อครูบาตัน วัดเชียงทอง จ.ตาก
    80. หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
    81. หลวงพ่อปี้ วัดบ้านด้านลานหอย จ.สุโขทัย
    82. พระครูคีรีมาสธรรมคุณ วัดวาลุการาม จ.สุโขทัย
    83. พระครูพิลาศธรรมคุณ วัดธรรมปัญญาราม จ.สุโขทัย
    84. พระครูไกรลาศสมานคุณ วัดกงไกรลาศ จ.สุโขทัย
    85. พระอาจารย์พวง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย
    86. พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย
    87. พระครูพินิจธรรมภาณ วัดวังแดง จ.พิจิตร
    88. พระครูธรรมมานิสิทธิ์ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร
    89. พระอาจารย์ชัย วัดกลาง จ.อุตรดิตถ์
    90. หลวงพ่อบุญ วัดน้ำใส จ.อุตรดิตถ์
    91. หลวงพ่อจันทร์ วัดหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์
    92. พระพิษณุบุราจารย์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    93. พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนีวัดอรัญญิก) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    94. พระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สัมปันโน) วัดสระแก้วปทุมทอง จ.พิษณุโลก
    95. พระครูอภัยจริยาภรณ์ วัดใหม่อภัยยาราม จ.พิษณุโลก
    96. พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว จ.พิษณุโลก
    97. พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา จ.พิษณุโลก
    98. พระครูประภาสธรรมมาภรณ์ (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
    99. พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไช่) วัดศรีรัตนาราม จ.พิษณุโลก
    100. หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    101. พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    102. หลวงพ่อเฉลิม วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    103. หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    104. พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ จ.พิษณุโลก
    105. พระอาจารย์โต วัดสมอแข จ.พิษณุโลก
    106. พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน จ.พิษณุโลก
    107. พระครูวิจารณ์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทอง จ.พิษณุโลก
    108. พระอาจารย์นวล วัดนิมิตธรรมาราม จ.พิษณุโลก
    109. พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา จ.พิษณุโลก

    สำหรับน้ำพระพุทธมนต์ที่แช่พระกริ่งเพื่อเข้าพิธี ใช้น้ำจากวัดตูม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นน้ำที่ออกจากพระเศียรพระพุทธรูป ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยใช้ในพิธีชุบพระแสงและเครื่องศัตราวุธ รวมกับน้ำในบ่อน้ำพระพุทธมนต์ วัดพระพายหลวง (บ่อพระร่วง) เมืองเก่าสุโขทัย เป็นต้น น้ำทั้งหมดต้องตักด้วยขันสาคร


    วาระที่ 3 : พิธีพุทธาภิเษกเดี่ยว ณ พระอุโบสถวัดสระแก้วปทุมทอง เมื่อวันที่ 19 – 20 มกราคม 2515 นั้นมีพระเถระที่เดินทางมาไกลได้พักค้างคืนที่วัดสระแก้วปทุมทอง ท่านพระครูฯจึงถือโอกาสนิมนต์นั่งเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษกเดี่ยว อาทิเช่น
    1.พระสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิตร
    2.สมเด็จมหาวีรวงศ์ วัดพระมหาธาตุ
    3.สมเด็จพระวันรัต(สมเด็จป๋า) วัดพระเชตุพน
    4.พระอุบาลีคุณูปามาจารย์ วัดจรรดิราชาวาส
    5.พระวิสุทธิวงศาจารย์(เสงี่ยม) วัดสุทัศเทพวราราม
    6.พระเทพเมธี วัดทองนพคุณ
    7.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    8.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
    9.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    10.หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    11.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    12.หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
    13.หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
    14.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    15.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    16.หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์
    17.พระอาจารย์วิริยังค์ วัดธรรมมงคล
    18.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    19.หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม
    20.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    21.หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ เป็นต้น


    วาระพุทธาภิเษกอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ
    - พิธีมหาพุทธาภิเษกวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2515 ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
    - พิธีเสาร์ 5 มหาพุทธาภิเษก จังหวัดสุโขทัย
    - หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ (ปลุกเสกเดี่ยว)
    - หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง (ปลุกเสกเดี่ยว)
    - พระครูบริหารคุณวัตร (ชม สิรินฺธโร) วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ (ปลุกเสกเดี่ยว)
    - หลวงพ่อทบ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) วัดพระพุทธบาทชนแดน จ.เพชรบูรณ์ (ปลุกเสกเดี่ยว)
    - หลวงพ่อพันธ์ (พระครูประพันธ์ศีลคุณ) วัดบางสะพาน จ.พิษณุโลก (ปลุกเสกเดี่ยว)
    - พระครูวิจารณ์ศุภกิจ (อาจารย์ม้วน) วัดวังทองวราราม จ.พิษณุโลก (ปลุกเสกเดี่ยว)
    เป็นต้น
    หรือถ้าหากมีพระเถระสายวิปัสสนาธุระหรือพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้นเดินทางมาที่จังหวัดพิษณุโลกไม่ว่าจะมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด ท่านพระครูศีลสารสัมบันก็จะนิมนต์เจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษกอย่างนี้เรื่อยมา


    ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูล : เว็บไซต์ ของวัดสระแก้วปทุมทอง จังหวัดพิษณุโลก
    วัดสระแก้วปทุมทอง จังหวัดพิษณุโลก -


    สภาพสวยคราบแป้งลองพิมพ์เดิมๆ ขอบข้างมีเนื้อไม่เต็ม 2จุดเล็กๆครับ เก่าเก็บไม่ได้ใช้ไม่ผ่านการบูชา องค์นี้พิเศษ เนื้อแก่พระสมเด็จวัดระฆังและวัดบางขุนพรหม หายากมาก พุทธาภิเษกแบบไตรภาคีและพิธีจักรพรรดิ์ ด้านพุทธคุณหาที่เปรียบมิได้สูงส่งเกินกว่าพิธีใดๆ สมัยก่อนเล่นเป็นหลวงปู่ฝั้นองค์ละหลายพันครับ ไม่แท้ไม่ทันไม่ใช่คืนเต็มครับ แบ่งให้บูชา 444 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2024
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2264.The last สวยเดิมอนุภาพไร้ขอบเขต เหรียญมหาเทวบรมครู วัดจุฬามณี
    ลป.หมุน,ลป.คำพันธ์,ลพ.อุ้น ร่วมเศก84รูปพิธีใหญ่ 2วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8xOr0e.jpg

    thumb-fc69_5859203c-jpg-4104992-jpg-jpg.jpg

    เหรียญมหาเทวบรมครู หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม เนื้อทองเหลือง หรือ เนื้อบรอนซ์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541-2543 โดยมีกองกษาปณ์กรมธนารักษ์เป็นผู้ผลิต จำนวนสร้าง 10,000 เหรียญ ปลุกเสกยาวนานหลายปี

    จำนวนสร้างเหรียญมหาเทวบรมครู วัดจุฬามณี
    - เนื้อทองคำ 40 เหรียญ
    - เนื้อเงิน 1000 เหรียญ
    - เนื้อทองเหลือง หรือ เนื้อบรอนซ์ 10,000 เหรียญ

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้า :
    ประทับพระนารายณ์ทรงครุฑ , พระอิศวรทรงโค และพรพรหมทรงหงษ์ ตรงกลางพระพิฆเณศ
    ด้านหลัง : ประทับเทวสุวรรณ พรมาสูติเทพ (ท้าวเวสสุวรรณ) พร้อมยันต์รอบเหรียญ อีกสองชั้นมหาเทวบรมครู แห่งวัดจุฬามณี สวยงามทั้งศาสตร์ และศิลป์ที่บรรจงออกแบบได้อย่างสวยงาม

    มหาเทวบรมครู
    -พระนารายณ์ทรงครุฑ
    พระนารายณ์ทรงครุฑ ใน คัมภีร์พราหมณ์ปุราณะ ที่กล่าวไว้ว่า พระศิวะ ทรงมีพระประสงค์ที่จะสร้างสวรรค์และโลกมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่ จึงต้องการผู้ช่วย

    โดยการนำพระหัตถ์ซ้ายมาลูบพระหัตถ์ขวา จนบังเกิดเป็นเทพขึ้นมาองค์ชื่อ พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ พร้อมกับทรงมอบหมายหน้าที่ให้เป็นเทพผู้ทำหน้าที่บริหารและคุ้มครองโลก รวมทั้งปราบปรามผู้สร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์ และชาวสวรรค์ พระนารายณ์ มีกายเป็นสีดอกตะแบก มี ๔ กร ถือศัตราวุธต่างๆ กัน คือ คทา ตรี จักร สังข์ ทรงมงกุฎชัย ประทับอยู่กลางเกษียรสมุทร บนหลังพญานาค ชื่อ อันตนาคราช และทรงใช้ ครุฑ เป็นพาหนะ มีพระมเหสีชื่อ พระลักษมี ** ตามคัมภีร์ยังกล่าวด้วยว่า พระนารายณ์ จะอวตารลงมาเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์ ตามคำสั่งของ พระศิวะ หรือการอัญเชิญของหมู่เทวดา และมนุษย์ การอวตารของ พระนารายณ์ เพื่อมาช่วยมนุษยโลกมีทั้งหมด ๑๐ ปาง และหนึ่งในนั้นก็คือ การอวตารลงมาเป็น พระราม ในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ นอกจากนี้คนไทยยังมีความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ ก็เป็นเทพอวตารพระองค์หนึ่งของ พระนารายณ์ เช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่า เวลา "ในหลวง" เสด็จฯ ณ ที่ใด จะต้องมีการอัญเชิญ ธงครุฑ ไปด้วย หรือหากประทับ ณ ที่ใดก็จะมี ธงครุฑ ปรากฏอยู่ ณ ที่นั้นเสมอ

    รื่องของ พระนารายณ์ทรงครุฑ จึงเป็นความเชื่อของพราหมณ์มาแต่โบราณกาล นอกจากเมืองไทยแล้ว ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีความเชื่อในเรื่องนี้ เพราะอินโดนีเซียเคยนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน ชาวอินโดนีเซีย เรียก ครุฑ ว่า "การูดา" (Garuda) และจะใช้รูป "การูดา" เป็นตราสัญลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งมีรูปเคารพ พระนารายณ์ทรงครุฑ ปรากฏอยู่ทั่วประเทศ

    สำหรับประเทศ กัมพูชา (เขมร) หรือ ขอมโบราณ ก็เคยเป็นแผ่นดินของพราหมณ์มาก่อน โบราณวัตถุในเขมร จึงมีรูปเคารพ พระนารายณ์ทรงครุฑ มานานปี ส่วนใหญ่จะเป็นเทวรูปแบบบูชา (ลอยองค์) ขนาดต่างๆ สร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ สนิมหยก (เขียว) ในส่วนของเทวรูปขนาดเล็กแบบห้อยคอได้ มีน้อยมาก ไม่เคยปรากฏให้พบเห็นมาก่อนเลย

    - พระอิศวร หรือ พระศิวะ (ภาษาอังกฤษ : Shiva) (ภาษาฮินดี: ???) หรือชาวจีนเรียกว่า พระยกอ๋องซ่งเต
    เป็นเทพตามความเชื่อของชาวฮินดู มีพาหนะ คือ โคเผือก ชื่อว่า อุศุภราช พระอิศวรเป็นมหาเทพแห่งการทำลาย มีกายสีขาว แต่พระศอเป็นสีดำเพราะเคยดื่มยาพิษ มีพระเนตรถึง ๓ ดวง ดวงที่ ๓ อยู่กลางพระนลาฎ ซึ่งตามปกติจะหลับอยู่ เนื่องจากพระเนตรดวงที่ ๓ นี้ มีอานุภาพร้ายแรงมาก หากลืมขึ้นเมื่อใดจะเผาผลาญทุกอย่างให้มอดไหม้ ประทับอยู่ ณ เขาไกรลาส อันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล มีมเหสีคือ พระแม่อุมา รูปลักษณ์ของพระอิศวร โดยมากจะปรากฏให้เห็นเป็นชายผมยาว มีพระจันทร์เป็นปิ่นปักผม มีลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์เป็นสังวาล มีงูเห่าพันรอบพระศอ นุ่งห่มหนังเสืออันเป็นเครื่องนุ่งห่มของฤๅษี การบูชาพระอิศวรจะกระทำได้โดยการบูชาต่อศิวลึงค์อันเป็นสัญลักษณ์แทนตัว พระองค์นั่นเอง

    โคที่มีนามว่า อุศุภราช คือ โคเผือกที่เป็นพาหนะประจำขององค์พระศิวะโค อุศุภราช นี้บางครั้งก็มีชื่อเรียกกันไปอีกว่า โคนนทิราช ซึ่งกำเนิดที่ไม่ธรรมดาคือโคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากพ่อโค แม่โคเหมือนกับโคอื่น ๆ
    แต่ทว่ากำเนิดเกิดจากมหาเทพเลยทีเดียวเรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าในการกวน เกษียรสมุทรครั้งยิ่งใหญ่ของทวยเทพทั้งปวงนั้น ก็ได้มีสิ่งวิเศษเกิดขึ้นมากมายหลายสิ่งด้วยกัน และนางโคสุรภีก็เป็นของของวิเศษอีกสิ่งหนึ่งที่ได้จุติขึ้นมาจากการกวน เกษียรสมุทรครั้งนั้น พระกัศยปะนั้นก็มีความต้องการที่จะได้นางโคสุรภีเอาไว้เป็นพาหนะประจำองค์ แต่ทรงติดอยู่เล็กน้อยที่ว่านางโคสุรภีนั้นเป็นโคเพศเมีย หากนำมาเป็นพาหนะประจำองค์นั้น ก็ทรงอยากจะได้โคเพศผู้เสียมากกว่า ดังนั้นพระกัศยปะจึงได้นิรมิตกายเป็นพ่อโคตัวผู้แล้วก็ไปผสมพันธุ์สมสู่กับ นางโคสุรภี จนกระทั่งแม่โคตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกออกมาเป็นโคเพศผู้สีขาวบริสุทธิ์และ มีลักษณะดีตั้งตรงตำราเป็นพิเศษ พระกัศยปะจึงได้ประทานนามให้กับโคเผือกที่เป็นโอรสนั้นว่า นนทิหรือนันทิ และได้ถวายให้เป็นพาหนะประจำองค์คอยติดตามรับใช้พระศิวะมหาเทพสืบต่อมา แต่ในบางคัมภีร์นั้นก็กล่าวถึงประวัติการกำเนิดของโคนนทิราชนี้แตกต่างออกไป ด้วยกล่าวว่าแต่เดิมนั้นโคนนทิราช หรือ โคอุศุภราชนี้เป็นเทพบุตรองค์หนึ่งบนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า ซึ่งทพบุตรองค์นี้ก็มีนามว่านนทิ มีหน้าที่เป็นเทพที่คอยคุ้มครองดูแลบรรดาสัตว์สี่เท้าทั้งปวงที่อาศัยอยู่ใน ป่าใกล้ๆ กับเขาไกรลาส และเทพนนทิที่เป็นเทพที่ครองสัตว์จัตุบาททั้งปวงนั้นก็มักจะนิรมิตองค์เอง ให้กลายเป็นโคเผือก เพื่อให้พระศิวะได้เสด็จประทับไปยังแห่งหนต่าง ๆจนเป็นเสมือนพาหนะประจำพระองค์ไปโดยปริยาย ซึ่งในคัมภีร์โบราณนั้นยังบันทึกไว้ด้วยว่า เทพบุตรนนทิองค์นี้ไม่ได้เป็นคู่เทพที่จะมาแปลงกายเป็นโคให้พระศิวะได้เสด็จ ประทับเป็นพาหนะเท่านั้น แต่พระนนทิ ก็ยังเป็นหัวหน้าแห่งเทพบริวารทั้งหลายทั้งปวงของเทพพระศิวะอีกด้วย บางคัมภีร์กล่าวว่าพระนนทินอกจากจะเป็นเทพผู้ครองสัตว์จัตุบาทหรือสัตว์สี่ เท้าทั้งมวลแล้ว ยังเป็นเทพที่เป็นนักดนตรีอีกด้วย ยังปรากฏว่าได้เคยร่วมนาฏกรรมรำฟ้อนกับองค์พระศิวะบ่อย ๆ โดยรับหน้าที่ตีตะโพนคอยให้จังหวะในขณะที่องค์พระศิวะร่ายรำระบำฟ้อน ในวโรกาสสำคัญ ๆ ต่าง ๆ และนนทิโคพิเศษที่เป็นพาหนะประจำองคืพระศิวะและเป็นหัวหน้าเทพบริวารของพระ ศิวะนี้ยังมีความสำคัญอีกมากมายที่ทำให้บรรดามวลมนุษย์ที่บวงสรวงบูชาพระ ศิวะนั้น ก็จึงได้นิยมบวงสรวงบูชาโคนนทิด้วย โดยยกย่องให้เป็นโคพิเศษ เป็นโคศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนกับเป็นสัญลักษณ์แห่งพระศิวะมหาเทพ ดังนั้นการที่ชาวฮินดูไม่นิยมฆ่าวัวก็เป็นเพราะเคารพยกย่องและบูชาโคนนทิ ซึ่งเป็นโคศักดิ์สิทธิ์สำหรับมวลมนุษย์นั่นเอง ตามเทวลัยหลาย ๆแห่งของลัทธิไศวนิกาย ก็จะปรากฏว่ามีการสร้างรูปเคารพของวัวนนทิไว้ให้ชาวบ้านชาวเมืองได้มา สักการะบูชาด้วย

    บทบาทความสำคัญ พระศิวะทรงเป็นมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล พระองค์จะทรงประทานพรวิเศษให้แก่คนผู้หมั่นกระทำความดี และยึดมั่นในศีลธรรมเท่านั้น หากผู้ใดประพฤติเพื่ออุทิศถวายแก่พระองค์แล้วปรารถนาสิ่งวิเศษใด ๆ ก็ให้พรนั้น พระศิวะจะประทานสิ่งวิเศษให้ในไม่ช้า แต่เมื่อได้พรสมปรารถนาแล้ว วันหน้าหากกระทำผิดไปจากความดีงามคนผู้นั้นจะเกิดวิบัติในชีวิต พระศิวะเทพผู้จะกลายเป็นเทพผู้ทำลายทันที มีความเชื่อกันว่าพระศิวะนั้นสามารถช่วยปัดเป่ารักษาเยียวยาอากาศเจ็บไข้ได้ ป่วยต่าง ๆได้อย่างมหัศจรรย์นัก หากผู้ใดที่เจ็บป่วยหรือต้องการขอพรให้คนในครอบครัวหายเจ็บไข้ได้ป่วย หากบวงสรวงบูชาและขอพรจากพระศิวะ ก็มักปรากฏว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นจะถูกปัดเป่าให้หายไปได้โดยสิ้นในเร็ว วัน ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ได้เช่นกัน

    -พระพรหม
    พระพรหม คือ พระเจ้าผู้สร้าง ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคน พระพรหมจึงเป็นผู้รู้ความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต เหตุการณ์สำคัญของโลกล้วนอยู่ในสายตาของพระพรหม พระพรหมคือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสามตรีมูรติ ทรงรับฟังคำอธิษฐานของผู้ศรัทธาเสมอ ผู้บูชาพระพรหมและทำความดี จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
    พระพรหม มีพระนามหลากหลาย เช่น พระพรหมมา พระพรหมา พระพรหมธาดา ท้าวมหาพรหม ปชาบดี อาทิกวี อาตมภู โลกาธิปดี ฯลฯ สัตว์พาหนะของพระพรหม คือ หงส์

    กำเนิดของพระพรหมมีมากมายหลายตำรา
    ถ้าเป็นคัมภีร์ปุราณะของพราหมณ์ฝ่ายพระวิษณุเป็นใหญ่ (ไวษณพนิกาย) จะกล่าวถึง กำเนิดพระพรหม ว่า พระพรหมถือกำเนิดในดอกบัว ซึ่งดอกบัวนี้ผุดขึ้นมาจากพระนาภี (สะดือ) ของพระวิษณุ นั่นหมายถึง พระวิษณุมีมาก่อนทุกสรรพสิ่ง พระองค์ต้องการสร้างโลก จึงให้กำเนิดพระพรหมขึ้นมาเพื่อภารกิจนี้
    ถ้าเป็นคัมภีร์ปุราณะของพราหมณ์ฝ่ายพระศิวะเป็นใหญ่ (ไศวะนิกาย) จะกล่าวถึงกำเนิดพระพรหมว่า พระศิวะใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งลูกพระหัตถ์อีกข้างหนึ่ง บังเกิดแสงขึ้นมาในพระหัตถ์ พระพรหมก็ออกมาจากแสงนั้นเอง ด้วยเหตุผลที่พระศิวะต้องการสร้างโลก จึงให้กำเนิดพระพรหมขึ้นมาเพื่อภารกิจนี้ ตำนานนี้พระศิวะจึงเป็นผู้มีมาก่อนทุกสรรพสิ่ง
    พระพรหม เป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ ทรงมีอานุภาพในการลิขิตชะตาชีวิต โดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม พระพรหมจึงเป็นผู้คุ้มครองคนดี และลงโทษผู้กระทำบาป ผู้มีกิเลสตัณหา จะถูกพระพรหมลิขิตให้ชีวิตมีแต่ความลำบากยากเข็ญ ผู้มีจิตใจเอื้ออารีย์ต่อผู้อื่น พระพรหมจะบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต การเสียสละต่อส่วนรวมคือการถวายความจงรักภักดีต่อพระพรหม พระพรหมจะบันดาลพรให้ผู้เสียสละนั้นมีแต่ความสุขตลอดกาล

    ผู้ศรัทธาในพระพรหม เมื่อสวดบูชาต่อพระองค์แล้ว พระองค์จะประทานปัญญาในการประกอบอาชีพ ปกป้องให้ห่างจากศัตรู ประทานความแข็งแรง ความรู้แจ้ง ชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ และมอบความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณแก่ผู้นั้น

    พระพรหมทรงโปรดความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีพระทัยอ่อนโยน รักสรรพชีวิตที่พระองค์สร้างมาเสมอ เมื่อผู้ศรัทธาต้องการสักการะ พระพรหมก็โปรดการจัดการอย่างเรียบง่าย มีความตั้งใจ แต่ไม่ใหญ่โตวุ่นวาย พระองค์โปรดให้ลูกศิษย์สวดภาวนาว่า "สัก ชิต เอกัม พรหมมา" หรือ "โอม อาฮัม พรหมมา อัสมิ" เป็นร้อยๆ พันๆ หมื่นๆ แสนๆ เที่ยว และให้นั่งสมาธิตั้งจิตเพ่งไปที่พระองค์ การที่ผู้ศรัทธาได้อยู่กับพระพรหมตามลำพัง นั่งสมาธิและสวดภาวนาให้นานที่สุด พระองค์จะโปรดมาก เพราะพระองค์ทรงสอนว่า การนั่งอยู่กับที่และระลึกถึงพระองค์ บริโภคมังสวิรัติ ไม่ออกไปสร้างสิ่งเดือดร้อนให้ผู้อื่น คือการตอบแทนพระคุณพระพรหมได้ดีที่สุด
    ศาสตราวุธของพระพรหม
    ลูกประคำคือ การสวดมนต์ภาวนาต่อพระพรหมเพื่อแผ่เมตตาไปยังสรรพชีวิต
    ดอกบัวคือ ความสวยงามของธรรมะ ความดีงามพระองค์ทรงสอนให้มนุษย์กระทำในสิ่งที่ดีงามและมีเมตตาต่อผู้อื่นเสมอ
    คัมภีร์คือ การตั้งตนอยู่ในความดีความชอบการศึกษาบทสวดและโยคะเพื่อมุ่งตรงสู่พระผู้เป็นเจ้า
    หม้อน้ำคือ กมัณฑลุ หรือ หม้อกลัศ ที่นักพรตตวงน้ำจากแม่น้ำคงคาไปใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพต่างๆ (น้ำมนต์บริสุทธิ์)
    ศาสตราวุธทั้ง 4 นี้คือศาสตราวุธหลัก แต่ก็ยังมีศาสตราวุธอีกมากมาย
    แล้วแต่ช่างจะจินตนาการปั้นหรือวาด เพื่อเสริมความหมายขึ้นมา เช่น ธนู หอก กระจก
    สังข์ ดาบ มีด กริซ ช้อนตักน้ำมันไฟ จักร คฑา ตลอดจนเครื่องดนตรีต่างๆ

    -พระพิฆเนศ
    พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญายิ่งใหญ่ ผู้ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง พระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากล (Universal God) ที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุดองค์หนึ่งในทั่วโลก
    ไม่ว่าใน อินเดีย เนปาล ภูฏาน ทิเบต มองโกล จีน ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า ไทย เขมร อินโดนีเซีย ฯลฯ พระพิฆเนศ คือเทพเจ้าที่มีปรีชาญาณเฉลียวฉลาด มีฤทธานุภาพมาก และทรงคุณธรรม คอยปราบภัยพาลและอภิบาลคนดี อีกทั้งยังเป็นเทพผู้กตัญญูถึงพร้อมด้วยความดีงาม สมควรแก่การสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง หากใครจะประกอบพิธี หรือทำกิจกรรมใด การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น เปิดกิจการร้านค้า เริ่มการทำงาน ขึ้นบ้านใหม่ ออกเดินทาง หรือแม้กระทั่งการบวงสรวงทำพิธีมงคลต่างๆ ฯลฯ ต้องบอกกล่าวบูชาองค์พระพิฆเนศก่อนเป็นลำดับแรก จึงจะเป็นสิริมงคล และประสบความสำเร็จ
    ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ เชื่อกันว่า พระพิฆเนศเป็นโอรสของ พระศิวะ กับ พระศรีมหาอุมาเทวี (พระแม่อุมา) ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เขียนคัมภีร์มหาภารตะ จากวาจาของพระฤษีวยาส และนับถือกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งการรจนาหนังสือ ดุจเดียวกับ พระสุรัสวดี
    พระพิฆเนศ มีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง อีกชื่อหนึ่งจึงเรียกว่า คชานนท์ มีงาข้างเดียว อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย หูยาน พระวรกายสีแดง สีขาว สีเหลือง ฯลฯ นุ่งห่มภูษาแดง มี ๔ กร ถือบ่วงบาศ ขอสับช้าง และมีเทพศัสตราวุธอีกหลายชนิด ซึ่งได้รับประทานจากพระศิวะ มีพาหนะบริวาร คือ หนู นามว่า มุสิกะ

    พระพิฆเนศทรงหนูบริวาร ชื่อ มุสิกะ
    ชนพื้นเมืองของอินเดีย นอกจากจะมีลัทธิการบูชาสัตว์ หรือลัทธิแห่งชัยชนะเหนือธรรมชาติแล้ว ยังเชื่อว่า หนู เป็นสัญลักษณ์ของความมืด
    พระพิฆเนศทรงขี่หนู จึงหมายถึงชัยชนะของแสงอาทิตย์ ที่ขจัดความมืดให้หมดสิ้นไป เป็นเทพเจ้าผู้ทรงขจัดอุปสรรคทั้งปวง เป็นเทพเจ้าแห่งความรอบรู้ ความฉลาด ความสำเร็จ เป็นเทพประจำเรือน ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ และคุ้มครองป้องกันสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง จึงอาจกล่าวได้ว่า พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งจักรวาล ก็ว่าได้

    การนับถือพระพิฆเนศในเมืองไทย
    พระพิฆเนศได้กลายเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญในศาสนาฮินดู (พราหมณ์) ความศรัทธาเชื่อถือได้แพร่หลายสู่แผ่นดินสยาม ตั้งแต่สมัยโบราณ ปรากฏเป็นรูปประติมากรรมพระพิฆเนศ ณ โบราณสถานหลายแห่ง เช่น ที่เมืองนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ลพบุรี นครราชสีมา ฯลฯ
    พระพิฆเนศ ได้กลายเป็นมหาเทพที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยมากองค์หนึ่ง นับถือให้ท่านเป็นประธานในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ประจำกรมศิลปากร, มหาวิทยาลัยศิลปากร, วิทยาลัยช่างศิลป และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รวมทั้งในพิธีเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ พิธีไหว้ครูนาฏศิลป์ โขน ละคร พิธีไหว้ครูของควาญช้าง พิธีครอบครูเรียนสรรพวิชาต่างๆ ฯลฯ ก็ต้องกล่าวบูชาพระพิฆเนศเสียก่อน จึงจะเป็นสิริมงคล และทำกิจการงาน หรือเล่าเรียนได้สำเร็จ
    ดังนั้น การอธิษฐานขอพรใดๆ ที่ไม่เกินวาสนาบารมี ย่อมสำเร็จได้ทุกสิ่ง พระองค์ย่อมประทานพรให้สมปรารถนาเสมอ เช่น ขอพรด้านการศึกษาเล่าเรียน ขอปัญญาความรู้ ขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ขอด้านการเงินและความรัก ด้านปัดเป่าอุปสรรคทุกข์ภัย และแก้ไขปัญหาต่างๆ ขอให้ทุกอย่างประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะสำเร็จมากน้อยหรือไม่ประการใดนั้น ขึ้นอยู่กับบุญกุศลบารมีของแต่ละคน ที่ย่อมมีไม่เท่ากัน

    -ท้าวเวสสุวรรณ
    ท้าวเวสสุวรรณ เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุ ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือมียักษ์เป็นบริวาร คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็ก เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควาญแก่เด็กว ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจตุมหา ราชิกา มาเฝ้าพระพุทธเจ้าและได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวก ไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่นๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาญ
    ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหกะ ท้าววิรูปักชะ และท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ประจำทิศต่างๆ ทั้งสี่ทิศโดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือ ว่ากันว่าอาณาเขตที่ท้าวเธอดูแลปกครองรับผิดชอบมีอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่ (หัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ) กว่าท้าวมหาราชองค์อื่น

    ท้าวเวสสุวรรณ เป็น เทพแห่งขุมทรัพย์ เป็น มหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง (ในคัมภีร์เทวภูมิ กล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจาก พระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ) นอกจากนี้หน้าที่ของท้าวเวสสุวรรณมีมากมาย เช่น การดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา, ปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน เป็นต้น

    ในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวัง ความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูป ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร

    พระครูโสภิตวิริยากรณ์
    "หลวงพ่ออิฎฐ์" วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม ท่านเป็นศิษย์เอก หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี พระเกจิอาจารย์นามกระเดื่องในอดีต แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง นอกจากนี้หลวงพ่ออิฏฐ์ก็ยังได้เคยศึกษาร่ำเรียนเพิ่มเติมจากพระเกจิชื่อดัง ผู้แก่กล้าพระเวทย์วิทยาคมอีกหลายองค์อาทิ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ และหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ เป็นต้น

    ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลวงพ่ออิฎฐ์มีความรอบรู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านพุทธเวท ไสยเวทวิทยาคม เป็นที่ยอมรับนับถือของสาธุชนทั่วไป ดังนั้น ไม่ว่าจะมีพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญ ณ ที่ใดก็มักจะปรากฏนามหลวงพ่ออิฏฐ์ได้ร่วมในพิธีนั่งปรกปลุกเสกด้วยเสมอ และจากการที่หลวงพ่ออิฏฐ์รอบรู้เชี่ยวชาญในด้านคาถาอาคมอักขระเลขยันต์

    อนึ่ง ในวันที่ 2 - 3 พ.ค. 2542 หลวงพ่ออิฏฐ์ ท่านจึงได้รับเกียรติประวัติให้เป็นผู้ลงยันต์ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราชในแผ่นทองคำ ในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถ วัดศรีมหาธาตุวรวิหาร เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากนั้นก็ได้เลิกลงแผ่นยันต์มหาจักรพรรตราธิราช และจัดสร้างเหรียญนี้ขึ้นโดยมีพระยันต์มหาจักรพรรตาธิราชอยู่ด้านหลังเหรียญ “ เทวบดี ” แทน

    วาระพิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - ประจุพุทธาคมแบบบินเดี่ยวโดย หลวงพ่ออิฎฐ์ วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม ตลอดไตรมาส

    วาระที่ : 2
    - หลวงพ่ออิฎฐ์ วัดจุฬามณี ได้นำเหรียญเทวบดีทั้งหมดเข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธชินราชจำลอง รุ่น ญส.ส. ณ พระวิหารหลวง วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร จ.พิษณุโลก

    พิธีมหาพุทธาภิเษก-สมโภชน์ ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองพิษณุโลก ในรอบปี พ.ศ.2543 ณ วิหารพระพุทธชินราช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2543 พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคุณทั่วประเทศ นั่งบริกรรมปลุกเสก 4 ผลัดๆ ละ 21 รูป รวม 84 รูป นานถึง 12 ชั่วโมง พิธีกรรมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามหลักโบราณจารย์

    รายนามพระคณาจารย์ 84รูปที่ร่วมอธิษฐานจิต อาทิ
    1.หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    2.หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
    3.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    4.หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    5.หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
    6.หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
    7.หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    8.สมุห์อวยพร วัดดอนยายหอม
    9.หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส
    10.หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
    11.หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ
    12.หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    13.หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์
    14.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    15.หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ
    16.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
    17.หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
    18.หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    19.หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพตคีรี
    20.พระมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ
    21.หลวงปู่ธีร์ วัดมิ่งเมือง
    22.หลวงพ่อสวัสดิ์ สำนักสงฆ์เม้าสุขา
    23.หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    24.หลวงพ่อเขียว วัดระเว
    25.หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
    26.หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม
    27.เจ้าคุณจวบ วัดระฆังโฆสิตาราม
    28.หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
    29.เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร
    30.หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว
    31.หลวงพ่อเฉิลม วัดพระญาติการาม
    32.หลวงพ่อพูลทรัพ์ วัดอ่างศิลา
    33.หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
    34.หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    35.หลวงปู่รอด วัดสันติกาวาส
    39.ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล เป็นต้น

    วัตถุมงคล ของ วัดจุฬามณี จะมีบางรุ่น บางพิมพ์ หลวงปู่หมุน ใด้ร่วมปลุกเสกจริงๆ มี 4 พิมพ์ ดังนี้
    1.เหรียญเทวบดี ปี 42-43
    2.เหรียญเทวบรมครู ปี 42-43
    3.เหรียญหนุมานเชิญธง ปี 42-43
    4.เหรียญหล่อนางกวัก ปี 42 -43
    ทั้ง 4 พิมพ์นี้ เป็นพระ ของ หลวงพ่ออิฐ วัดจุฬมณี สร้าง ขึ้น ในปี 42-43 และ ในปี 2543


    สภาพสวยผิวน้ำทองเดิม พิมพ์คมชัดลึก พร้อมกล่องเดิมสวยกริ๊บไม่ผ่านการใช้งาน เหรียญสวยพุทธคุณสูง รับประกันตามกฏ " ไม่สวยไม่แท้คืนเต็ม " พระเกจิอาจารย์ประจุพลังให้ครอบครบทุกด้านครับ แบ่งให้บูชา 1,555 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณromegat จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2022
  19. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,510
    ค่าพลัง:
    +9,414
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    2265.ของดีนอกวัดรุ่นมาตรฐาน พระสมเด็จพิมพ์พระครูมูล วัดราชนัดดา
    ลป.โต๊ะ,ลพ.กวย,ลป.เชื้อ,ลพ.พริ้ง,ลป.หน่าย ร่วมอธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8QKctn.jpg

    8Qc7mP.jpg
    84kjsn-jpg.jpg
    8QgzFJ.jpg 8QgbIV.jpg

    พระสมเด็จพิมพ์พระครูมูล หลังยันต์ตรีนิสิงเห วัดราชนัดดา กทม. โดยพระมหาโกเมส แห่งวัดราชนัดดาเป็นผู้ริเริ่มจัดสร้าง เมื่อทำการกดพิมพ์พระเป็นจำนวนพอแก่ความต้องการแล้วได้จัดพิธีพุทธาภิเศก 2วาระ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2515 เนื้อผงเกสรผสมผงมหาพุทธคุณ จัดสร้างพร้อมกับพระสมเด็จพระพุทธบาทประชารักษ์ วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี

    พระสมเด็จรุ่นนี้พระธรรมรัตนากร(หลวงพ่อใหญ่)เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีในขณะนั้นได้เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างเนื่องจากท่านเห็นว่าวัดพระพุทธบาทยังไม่เคยมีการจัดสร้าง พระพิมพ์สมเด็จมาก่อนเลยและท่านได้เห็นดอกไม้ที่ประชาชนนำมาใส่บาตรพระช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นจำนวนมาก ท่านจึงได้ให้รวบรวมไว้นำมาเป็นมวลสารในการจัดสร้างและอีกวัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อแจกแก่ผู้ที่เข้ามาแสดงมุตาจิตที่ท่าน ได้เลื่อนสมณศักดิ์ และส่วนหนึ่งนำมาจำหน่ายแก่ประชาชนที่มานมัสการรอยพระพุทธบาทในราคาองค์ละสิบบาทเพื่อเป็นที่ระลึก

    การจัดสร้างมีการดำเนินการโดยทางวัดเองเริ่มประมาณในปีพ.ศ.2512 โดยมี “พระมหาโกเมศ” จากวัดราชนัดดาซึ่งมีความสนิทกับท่านพระธรรมรัตนากรเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง และการดำเนินการไม่ได้มีการจัดทำเอกสารในการจัดสร้างแต่อย่างใดแต่ได้มีการถ่ายรูปไว้จำนวนหนึ่งขณะนี้สอบถาม แล้วตั้งแต่เจ้าอาวาสคือท่านพระธรรมรัตนากรมรณภาพแล้วก็ไม่ได้มีผู้ใดสนใจ รูปที่ถ่ายไว้ได้สูญหายไปไม่ทราบว่าไปตกอยู่ที่ใครบ้างถ้าตามพบจะนำมาเสนอต่อไป การกดพิมพ์พระได้ดำเนินการกดพิมพ์กันในบริเวณวัดพระพุทธบาท บริเวณใต้ถุนศาลาทำบุญ ปัจจุบันศาลาหลังนี้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้ทำการรื้อไปแล้วซึ่งน่าเสียดายยิ่งนัก โดยพิมพ์พระเป็นพิมพ์ที่ท่านพระมหาโกเมศจัดหามาเท่าที่ทราบมีประมาณสิบกว่าพิมพ์ โดยเรียกชื่อพิมพ์คล้ายกันกับสมเด็จบางขุนพรหมแต่ได้แกะพิมพ์ให้แตกต่างกันออกไป และการพิมพ์องค์พระทำเป็นแบบสองหน้าก็มี ที่เรียกชื่อเท่าที่พบ

    เมื่อทำการกดพิมพ์พระเป็นจำนวนพอแก่ความต้องการแล้วได้จัดพิธีพุทธาภิเศกที่ศาลาหอเย็นใกล้รอยพระพุทธบาทในปี พ.ศ.2515 ทราบว่าได้ทำพิธีใหญ่มากเกจิอาจารย์ที่มาร่วมในพิธีเท่าที่ทราบมีดังนี้
    - หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    - หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    และยังมีเกจิอาจารย์อื่นๆอีกสอบถามไม่มีผู้ให้คำตอบได้

    และในปีพ.ศ. 2522ได้เข้าพิธีอีกครั้งหนึ่งสอบถามจากผู้ได้ไปนิมนต์ซึ่งได้เดินทางร่วมไปกับพระที่วัดที่จำได้มี
    - หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    - หลวงพ่อเชื้อวัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    - พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุธ)เจ้าคณะจังหวัดอุทัย (องค์นี้งูเห่าแผ่แม่เบี้ยท่านชี้มือสยบเลยจากคำบอกเล่าของผู้ที่ไปนิมนต์ท่าน)
    - หลวงปู่นาค วัดหนองโปร่ง
    - หลวงพ่อสุวรรณ วัดเขาบ่มกล้วย
    - หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู เป็นต้น


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=4644.0


    สภาพสวยเก่าเก็บคราบแป้งลองพิมพ์เดิมๆ พิมพ์คมชัดลึกไม่ผ่านการบูชา ของดีนอกวัดหลวงพ่อกวยที่ราคาสบายกระเป๋าที่น่ามีไว้บูชาสะสมเป็นอย่างยิ่ง แบ่งให้บูชา 500 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...