ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เมคดอลล่าร์เกรทอะเกน

    ทรัมป์ออกมาส่งสัญญานว่า ต้องการให้เฟดดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบ

    "ผมเป็นคนเชื่อในดอกเบี้ยติดลบ...ผมรู้สึกอย่างมากว่าเราควรที่จะมีดอกเบี้ยติดลบ" ทรัมป์กล่าว

    "I'm a believer in negative rates … I feel strongly we should have negative rates," the US president said.

    เจโรม เพาแวลล์ ประธานเฟดออกอาการไม่เห็นด้วยกับทรัมป์ในเรื่องนี้ แต่ก็เชื่อไม่ได้เพราะว่านโยบายดอกเบี้ยติดลบเป็นสิ่งที่ถูกวางเอาไว้แล้วเหมือนกับที่ญี่ปุ่นและยุโรปที่กำลังดำเนินการอยู่

    ดอกเบี้ยที่เฟดกำหนดเอาไว้เวลานี้อยู่ที่ 0%-0.25% ขยับอีกทีดอกเบี้ยจะเข้าแดนลบ

    ดอกเบี้ยติดลบจะทำให้อเมริกาเกรทอะเกน เพราะว่าเวลาคนอเมริกันเอาเงินไปฝากเงินกับแบงค์จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แบงก์แทนที่จะรับดอกเบี้ยจากแบงก์

    ในขณะเดียวกัน นักลงทุนจากประเทศต่างๆที่ถือดอลล่าร์จะได้ดอกเบี้ยติดลบเป็นการตอบแทนความเชื่อมั่นในดอลล่าร์ที่จะไม่มีวันล่มสลาย เพราะว่าทรัมป์จะได้ออกพันธบัตรดอกเบี้ยติดลบมาก่อหนี้ และล้างหนี้...เอากับลุงทรัมป์เขาซิ

    Cr:Thanong FanClub
    ข่าวต้นฉบับ: sputniknews.com

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #หยวนดิจิตอลหมากนี้รุกฆาตดอลล่าร์จริงหรือไม่ ??
    .

    ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หยวนดิจิตอล หรือ... ‘DCEP’(#DigitalCurrencyElectronicPayment)
    เป็นหนึ่งหัวข้อสำคัญที่ทั่วโลกพากันตื่นตัวมาก แม้แต่ประเทศไทยก็มีบทวิเคราะห์มากมายเกี่ยวกับหยวนดิจิตอล หลายคนมองไปถึงกระทั่งว่า หยวนดิจิตอลนี้จะมาทำให้ดอลล่าร์หมดค่าหมดความหมายลงไป คำถามคือ ดอลล่าร์จะถึงจุดจบเพราะการเกิดของหยวนดิจิตอลจริงหรือไม่ ??
    .

    ก่อนตอบคำถามนี้ได้ เรามาดูลักษณะของหยวนดิจิตอล หรือ’DCEP’กันก่อน ว่าแท้ที่จริงมันคืออะไร
    .

    หยวนดิจิตอล คือเงินหยวนระบบใหม่ที่ประเทศจีนคิดค้นขึ้นบนเทคโนโลยี #DistributedLedgerTechnology ซึ่งความจริงแล้วเบื้องหลังเบื้องลึกของเทคโนโลยีที่จีนคิดค้นขึ้นก็ไม่ได้เปิดเผยมากไปกว่านี้เท่าไหร่นอกจากระบบนี้เป็นระบบรวมศูนย์ และยังไม่ใช่เทคโนโลยีบล็อคเชน แต่ใจความสำคัญของการกำเนิดหยวนดิจิตอล คือการที่ 1 หยวนดิจิตอล จะต้องมี 1 หยวนกระดาษ ผูกอยู่ด้วยกัน ในขณะที่หยวนกระดาษถูกเก็บรักษาไว้ หยวนดิจิตอลก็ออกไปโลดแล่นอยู่ในกระเป๋าเงินอิเล็กโทรนิค หรือ ‘E-Wallet’ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น E-Wallet ของรัฐบาลก็ดี หรือ E-Wallet ของภาคเอกชนอย่างเช่น #WeChatpay หรือ #Alipay ก็ดี ใครก็ตามที่มี E-Wallet เหล่านี้ สามารถเก็บหยวนดิจิตอลได้ทั้งหมด
    .

    ดังนั้น ในมุมของผู้ใช้งานหยวนดิจิตอล เรียกได้ว่าความรู้สึกไม่มีอะไรแตกต่างจากตอนที่ใช้งานหยวนอิเล็กทรอนิคที่ใช้อยู่ในทุกวันนี้ผ่าน E-Wallet เลย เพราะสุดท้าย คนจีนเวลาใช้เงินก็ยังคงโอนเงิน จ่ายเงิน ชำระเงิน ผ่านทาง E-Wallet บน Platform อยู่ดี การใช้เงินที่เป็น #PhysicalMoney หรือเงินกระดาษที่หยิบจับได้ วันนี้กลายเป็นเรื่องไม่สะดวกสำหรับชาวจีนไปแล้ว ดังนั้น การมาของหยวนดิจิตอล เพียงเป็นการเปลี่ยนระบบหลังบ้าน จาก หยวนอิเล็กทรอนิคให้กลายเป็นหยวนดิจิตอล ส่วนวิธีการใช้เงิน และการขยายเครือข่ายของเงินหยวน ยังคงดำเนินหน้าต่อไปบนการใช้ ‘Platform Economy’ให้เป็นประโยชน์ และแผ่ขยายอิทธิพลของ #YuanEcosystem ออกไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง
    .

    อย่างไรก็ดี แม้การมาของหยวนดิจิตอลจะน่าประทับใจบนความล้ำหน้าของฟาก ‘Regulator’(รัฐบาลและธนาคารกลาง) ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาระบบการเงินในประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความพยายามตีความหยวนดิจิตอลให้ยิ่งใหญ่เกินเลยกว่าความเป็นจริง ดังนั้น เพื่อตอบคำถามว่าหยวนดิจิตอลจะทำให้สิ้นสุดยุค #DollarStandard หรือไม่ เรามาดูข้อเท็จจริงดังนี้
    .

    1. หยวนดิจิตอล มีหยวนกระดาษค้ำประกันในอัตราส่วน 1:1 ดังนั้น มูลค่าของหยวนดิจิตอล จะมีเท่ากับมูลค่าของหยวนกระดาษในตลาดโลก และมูลค่าของหยวนกระดาษยังคงถูกผูกติดกับระบบ’Dollar System’เพราะเหตุนี้ การเกิดขึ้นของหยวนดิจิตอล จึงไม่ได้ไปทำลายรากฐานของ Dollar System แต่อย่างใด เพราะข้างหลังหยวนดิจิตอล ยังคงต้องพึ่งพามูลค่าของหยวนกระดาษ
    .

    2. หยวนดิจิตอล จะเป็นเงินแบบใหม่ที่ไหลเวียนอยู่ในระบบการเงินของประเทศจีนผ่านแพลตฟอร์มทางการเงินต่างๆ ดังนั้น ในการเคลื่อนย้ายเงินหยวนบน ‘หยวน Ecosystem’ จะมีความง่ายมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง รวมทั้ง ‘PBOC’ สามารถเห็นความเคลื่อนไหวและปริมาณของเงินหยวนได้ทะลุปรุโปร่งมากขึ้น ดังนั้น หากประเทศจีนสามารถขยาย ‘หยวน Ecosystem’ นอกประเทศจีนได้ ปริมาณการใช้หยวนย่อมมากขึ้น แน่นอนว่าความพยายามในการเพิ่มปริมาณหยวนในระบบการเงินโลกย่อมเป็นการคุกคามดอลล่าร์ที่ปัจจุบันไหลเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจโลกราวๆ 60% -70% แต่อุปสรรคที่ขวางทางประเทศจีนก็มีอยู่ นั่นคือสภาวะของเงินหยวนที่ยังไม่เปิดเสรีอย่างเต็มที่ การควบคุมปริมาณและการไหลเวียนของเงินหยวนอยู่ในระดับที่เข้มข้น แม้นโยบายของจีนจะมีแนวโน้มในการเพิ่มความเสรีของการไหลเวียนบนเงินทุน แต่ในภาคปฏิบัติแล้ว การผ่อนคลายการควบคุมเงินหยวนของจีนเป็นไปอย่างช้ามากๆ ทำให้การถือครองเงินหยวนสำหรับนักลงทุนต่างประเทศมีความเสี่ยงบนการควบคุมของรัฐ และเป็นอุปสรรคในการเพิ่มปริมาณการใช้หยวนในระบบเศรษฐกิจโลก
    .

    ที่สำคัญที่สุด การมาของหยวนดิจิตอล หรือ DCEP หนึ่งในคุณลักษณะที่ภาคเสรีนิยมหวาดกลัวที่สุดคือการติดตามควบคุมเงินจากภาครัฐ แต่นี่เป็นคุณลักษณะสำคัญของ DCEP ที่จะทำให้’PBOC’หรือธนาคารกลางแห่งประเทศจีน สามารถเข้าถึงข้อมูลในทุก transaction และยังถูกสงสัยอีกว่า PBOC จะสามารถเคลื่อนย้ายเงินใน E-Wallet ได้ตามใจชอบหรือไม่ แม้ทางการจีนจะออกมาปฏิเสธเรื่องการดึงเงินออกจาก E-Wallet แต่บนจิตวิทยาของตลาดยังคงมีความกังวลเรื่องนี้อยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รับบทเรียนการถูกอายัดบัญชีไม่ให้เคลื่อนย้ายเงินหยวนออกนอกประเทศในปี 2016 ทำให้นักลงทุนมีความระแวดระวังในการถือหยวนมากขึ้นไปอีก
    .

    แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะหมดไปถ้าหากจีนสามารถขยาย หยวน Ecosystem และทำให้เงินหยวนถูกใช้จริงในระบบเศรษฐกิจได้ อีกทั้งหากต่อไป หยวน Ecosystem ไม่ใช่แค่ Payment Platform แต่เป็น Investment platform ด้วย หยวนก็สามารถเป็นที่ต้องการและเพิ่มปริมาณการใช้ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่นี่เป็นเรื่องที่จะต้องใช้เวลาอย่างมาก ไม่ใช่จะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างปุบปับในอีก 1-2 ปีข้างหน้า และยิ่งไม่สามารถจะเพิ่มปริมาณหยวนในระบบให้เทียบเท่าดอลล่าร์ได้อย่างแน่นอน
    .

    3. หยวนดิจิตอล เกิดมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การบริหารเงินหยวนทั้งระบบ บนข้อมูลการเคลื่อนที่และปริมาณเงินในระบบ ธนาคารกลางสามารถเห็นการกระจายตัวของเงิน สามารถเห็นเงินที่ผลักเศรษฐกิจไปข้างหน้า และสามารถเห็นเงินที่ฉุดเศรษฐกิจให้ถอยหลัง ดังนั้น หากเมื่อก่อน หน้าที่ธนาคารกลางทั่วโลกมีเพียงแค่การปรับสมดุลของปริมาณเงินในระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยและการพิมพ์เงิน มาวันนี้ PBOC ไม่เพียงแต่จะสามารถปรับสมดุลของปริมาณเงินได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทันท่วงทีมากขึ้น แต่ยังสามารถบริหารการกระจายเงินได้อย่างเหมาะสม เพราะเหตุนี้ การนำหยวนดิจิตอลมาใช้ จะทำให้ประเทศจีนมีความมั่นคงทางด้านระบบการเงินมากขึ้น
    .

    อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนกำเนิดหยวนดิจิตอลได้ ไม่ได้หมายความว่าประเทศอื่นจะเกิดเงินดิจิตอลตามประเทศจีนไม่ได้ ประเทศอังกฤษก็ดี IMF ก็ดี หรือแม้แต่ประเทศไทยเอง ก็มีการศึกษาเรื่องเงินดิจิตอลและต้องการนำระบบเงินดิจิตอลมาใช้ ดังนั้น ในอนาคตคาดว่าจะมีอีกหลายๆ ประเทศที่ตามการนำร่องของประเทศจีนในเรื่องเงินดิจิตอล แม้แต่ดอลล่าร์เอง สุดท้ายเพื่อจะแข่งขันกับประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ก็ต้องนำตัวเองเข้าสู่ระบบเงินดิจิตอลเช่นเดียวกัน แต่การนำระบบเงินเข้าสู่ระบบดิจิตอล ไม่ได้หมายความว่าการคงอยู่ของดอลล่าร์จะหายไป ตราบใดที่ดอลล่าร์ยังสามารถคงสถานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และยังคงเป็นเงินที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายที่สุดในระบบเศรษฐกิจ ข้างหลังเงินดิจิตอล ดอลล่าร์ก็ยังคงสามารถมีบทบาทสำคัญได้อยู่ดี
    .

    4. ปัญหาของดอลล่าร์ในวันนี้คือประสิทธิภาพของดอลล่าร์ในการสร้างความเจริญเติบโตบนเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่การเกิดขึ้นของหยวนดิจิตอล ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาหลังจากธนาคารกลางสหรัฐนำนโยบายพิมพ์เงินมาใช้ เงินดอลล่าร์จำนวนมากก็ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก แน่นอนว่าดอลล่าร์เหล่านั้น ส่วนหนึ่งสร้างความเจริญเติบโตให้กับโลกใบนี้อย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน เงินจำนวนมหาศาลอีกส่วนหนึ่ง ก็ไปอุ้มบริษัทที่ไม่เติบโตให้ยังคงสามารถอยู่ต่อไปได้ ทำให้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ควรจะเติบโตได้มากบนบริษัทที่มีการเติบโต กลับถูกฉุดรั้งด้วยบริษัทที่ไม่สร้างการเติบโต หรือที่ถูกเรียกว่า #ZombieCompany
    .

    จากสถานการณ์นี้ ทำให้ประสิทธิภาพของเงินดอลล่าร์ลดลงมาเรื่อยๆ มูลค่าบนเศรษฐกิจที่แท้จริงเติบโตต่ำ ในขณะที่มูลค่าบนตลาดเงินตลาดทุนกลับสูงขึ้นและเฟ้อขึ้นเพราะเงินไปกองกันอยู่ในตลาดเงินตลาดทุน แทนที่จะถูกนำมาลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเศรษฐกิจจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโลกมาพบกับสภาวะของโลกระบาด เกิดเศรษฐกิจล็อคดาวน์ ทั้งรัฐบาลและธนาคารกลางสหรัฐผู้ควบคุมปริมาณเงินดอลล่าร์ก็พยายามเพิ่มปริมาณดอลล่าร์ในระบบด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยมาที่ 0 และมีการพิมพ์เงินเพิ่มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่การเพิ่มปริมาณเงินรอบนี้ ไม่สามารถเพิ่ม #Productivity ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้ ดังนั้น เงินที่ใส่ลงมาคือเงินที่จะด้อยมูลค่าเพราะด้อยประสิทธิภาพ หากสหรัฐไม่อาจบริหารปริมาณดอลล่าร์เพื่อสร้างการเจริญเติบโตให้เศรษฐกิจได้ ดอลล่าร์ก็มีโอกาสที่จะพบกับปัญหาใหญ่ในอนาคต
    .

    จะเห็นได้ว่า ปัญหาของดอลล่าร์ก็คือปัญหาของดอลล่าร์ หยวนดิจิตอลไม่ได้มาทำให้ดอลล่าร์มีปัญหา แต่ปัญหาเกิดจากการบริหารดอลล่าร์ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การจะกล่าวว่าหยวนดิจิตอลจะมาทำให้ดอลล่าร์หมดมูลค่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ยกยอหยวนดิจิตอลจนเกินจริง เพราะความเป็นจริงคือไม่มีใครสามารถทำให้ดอลล่าร์หมดมูลค่าได้นอกจากรัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐที่ดำเนินนโยบายผิดพลาดมาเป็นระยะเวลายาวนาน
    .

    ท้ายที่สุด ก่อนจบบทความนี้ อยากทิ้งท้ายไว้ว่า การเกิดขึ้นมาของหยวนดิจิตอลเป็นจุดกำเนิดของการเริ่มต้นระบบเงินดิจิตอลทั่วโลกก็จริง แต่หากสุดท้าย หากเบื้องหลังเงินดิจิตอลยังคงเป็นเงินกระดาษบน’Dollar System’ดอลล่าร์ก็จะยังคงมีบทบาทในอนาคตต่อไป ดังนั้น หยวนดิจิตอลที่มีหยวนกระดาษข้างหลัง จึงไม่ได้เป็นภัยต่อดอลล่าร์เท่ากับการที่ดอลล่าร์สูญเสียคุณสมบัติในการขับดันเศรษฐกิจ สุดท้าย หาก’Dollar System’ไปต่อไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าดิจิตอลหยวนจะมาแทนที่ แต่มีความเป็นไปได้มากกว่าที่อาจจะมีการจัดตะกร้าเงินกันใหม่เพื่อรีเซ็ตมูลค่าของเงิน และทำให้เศรษฐกิจโลกสามารถเดินต่อไปได้อีกครั้งหนึ่ง
    .

    Cr : BlackboxByMei
    ข่าวต้นฉบับ: www.scmp.com

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขอศาลล้มละลาย-พ้นรัฐวิสาหกิจ ถกด่วน 18 พ.ค.อุดรูรั่ว-ยกเครื่องปิดปัจจัยเสี่ยง (คลิป)
    “อนุทิน” เผย นายกฯเห็นด้วยกับแนวทางฟื้นฟูกิจการของการบินไทยตามแนวทางคมนาคม ที่ให้ศาลล้มละลายกลางเข้ามาเป็นตัวกลาง เพื่อบริหารหนี้สิน เผยตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว ฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดี
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
    ..

    “อนุทิน” เผย นายกฯเห็นด้วยกับแนวทางฟื้นฟูกิจการของการบินไทยตามแนวทางคมนาคม ที่ให้ศาลล้มละลายกลางเข้ามาเป็นตัวกลาง เพื่อบริหารหนี้สิน เผยตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว ฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอย ล่าสุดนายกฯเรียกประชุม คนร.ด่วน! เช้าวันที่ 18 พ.ค.เพื่อพลิกมติเดิม ส่วนคมนาคมชงแผนฟื้น ‘การบินไทย’ ปรับพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจก่อนยื่นศาลขอล้มละลาย ด้านการบินไทยจนมุมเปิด 23 จุดเสี่ยงทำสะดุดธุรกิจไปต่อไม่ได้

    ไฟเขียวเข้ากระบวนการศาลล้มละลายกลาง
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการบินไทยเข้าหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยใช้เวลาหารือประมาณครึ่งชั่วโมง โดยนายอนุทิน เปิดเผยว่า ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเลือกที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะมุ่งสู่การปรับโครงสร้างโดยการเข้าแผนฟื้นฟูตามกระบวนการของศาลล้มละลายกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเห็นไปในทางเห็นด้วยที่จะให้ฟื้นฟูกิจการการบินไทยถือเป็นวิธีการที่สวยที่สุด “สิ่งที่หารือกันเบื้องต้นในขณะนี้ การบินไทยถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ หากเลือกวิธีการให้คลังไปค้ำประกันเงินกู้ก้อนใหม่หรือหาเงินทุนเพื่อจะมาลงเพิ่มเติมก็ลำบาก จึงน่าจะเหลืออยู่วิธีการเดียวคือการฟื้นฟูกิจการการบินไทยอย่างมีขั้นตอน ไปพร้อมๆกันกับการปรับโครงสร้างผู้บริหารการบินไทย”

    ส่วนกรณีที่การบินไทยทำแผนฟื้นฟูมาแล้วหลายรอบแต่ยังไม่ได้ผล นายอนุทินกล่าวว่า ที่
    ผ่านมาเป็นแผนการฟื้นฟูกิจการภายใน ไม่ใช่แผนการฟื้นฟูหนี้ แต่ในครั้งนี้มองถึงการฟื้นฟูหนี้ที่มีอยู่ ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ ซึ่งในพระราชบัญญัติล้มละลาย ในหมวดฟื้นฟูกิจการ คนที่ยื่นฟื้นฟูกิจการไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหนี้อย่างเดียว เจ้าหนี้ที่มีหนี้มากกว่า 10 ล้านบาทก็สามารถยื่นขอให้ฟื้นฟูกิจการได้ เรื่องนี้ต้องแข่งกับเวลา

    เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้วก็เป็นเรื่องของเจ้าหนี้และลูกหนี้โดยมีศาลเป็นผู้กำกับ และจะต้องมีผู้ทำแผน เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจการ บริหารจัดการบริษัทนั้นๆก็จะอยู่กับผู้ทำแผนที่ศาลเป็นผู้แต่งตั้งโดยเป็นความเห็นชอบทั้งจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ ผู้ทำแผนต้องมีหน้าที่เจรจากับเจ้าหนี้ และทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมา ถ้าตกลงกันได้ก็ไปโหวต ที่ศาล หลังจากนั้นผู้ทำแผนก็หมดหน้าที่ไปเป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนที่ต้องทำตามแผนฟื้นฟูกิจการ

    “วันนี้เราต้องเร่งหาข้อสรุปในตัวนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าต้องฟื้นฟูกิจการ ถ้าไม่ฟื้นฟูเราไปต่อไม่ได้ ตอนนี้มีสถานการณ์โควิด-19 สายการบินก็ไม่ได้บิน เดินทางประเทศต่างๆก็ไม่ได้ สายการบินในประเทศรายได้ก็หายไปมาก ผมคิดว่าตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว การฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอยกันบ้าง เพียงแค่ก้าวเดียว ก็จะเดินหน้าไปได้ 5 ก้าว แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นกระทรวงคมนาคมที่ผมกำกับดูแล เพียงได้แต่เสนอเท่านั้น แต่ทั้งหมดอยู่ที่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะกระทรวงการคลังก็ต้องไปพูดคุยกันอีกที”

    เมื่อถามว่าการที่กระทรวงการคลังไม่มาร่วมหารือด้วยมีนัยอะไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คงต้องไปถามนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ดู อย่างไรก็ตามหากพูดถึงผู้ถือหุ้น ถ้าในบริษัทนั้นๆ มีส่วนของทุนเป็นลบ ใบหุ้นก็ไม่มีราคาอะไร เจตนารมณ์ของการฟื้นฟูกิจการภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลาย หลักการคือเมื่อคนสะดุดล้มด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แทนที่จะขายทรัพย์สินหรือขายทอดตลาด แล้วนำมาแบ่งเฉลี่ย อาจจะได้คนละนิดหน่อย แต่การให้โอกาสในการฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎกติกามารยาทใหม่ทั้งหมด กิจการนี้ก็อาจจะรอด ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แนวทางที่นายอนุทินนำเสนอนายกรัฐมนตรี จะแตกต่างจากแนวทางของกระทรวงการคลังที่จะเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ก้อนใหม่ให้การบินไทย วงเงิน 54,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมติของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่เห็นชอบร่วมกันทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ฉะนั้นเมื่อมีการพลิกมติตามแนวทางใหม่ นายกรัฐมนตรีจึงเรียกประชุม คนร.ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เพื่อให้มีมติใหม่ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

    ปรับบินไทยพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ทางกระทรวงการคลัง จะหารือเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยมีประเด็นสำคัญคือการบินไทยจะต้องพ้นจากสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อให้สามารถยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งให้เข้าสู่กระบวนการล้มละลายทางกฎหมายได้

    ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเห็นว่าการยื่นขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น เบื้องต้นเห็นว่าจะต้องยื่นขอเข้ากระบวนการทั้งในศาลไทย และศาลของสหรัฐฯ เพราะการบินไทยมีสินทรัพย์ส่วนหนึ่งอยู่ในต่างประเทศ และให้บริการทำการบินระหว่างประเทศ หากไม่มีการคุ้มครองก็อาจจะถูกยึดสินทรัพย์และเครื่องบินจากเจ้าหนี้ในต่างประเทศได้

    อย่างไรก็ตาม หากสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ การบินไทยสามารถยื่นต่อศาลในประเทศไทยเพียงแห่งเดียว โดยครอบคลุมความคุ้มครองไม่ให้ถูกยึดทรัพย์ในต่างประเทศก็สามารถทำได้แนวทางดังกล่าวนี้

    การบินไทย โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้จัดทำรายละเอียดของแผน และจะไม่มีการให้เงินกู้หรือค้ำประกันเงินกู้โดยกระทรวงการคลัง แต่หากจะมีการอัดฉีดเงินกู้ก็จะต้องเป็นหนี้บุริมสิทธิ์

    ส่วนประเด็นการทำให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจถือว่ายากมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลัง เพราะคงไม่มีกลุ่มทุนรายใดที่จะยอมเข้ามาถือหุ้นในขณะที่การบินไทยจะต้องเดินเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อทำแผนฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ ตามมติเดิมของ คนร.อนุมัติแนวทางฟื้นฟูการบินไทยที่กระทรวงการคลังจะทยอยอัดฉีดเงินกู้ ขณะเดียวกันก็จะลดสัดส่วนถือหุ้นจากปัจจุบันถืออยู่ 51.03% โดยจะให้กองทุนวายุภักษ์ และธนาคารออมสิน เข้ามาถือหุ้นแทนตามสัดส่วนที่ลดลง แต่หากหันมาใช้แนวทางฟื้นฟูของคมนาคมก็คงไม่สามารถให้ 2 หน่วยงานเข้ามาถือหุ้นแทนได้แล้ว

    นอกจากนั้นหากที่ประชุม คนร.เห็นด้วยกับแนวทางของกระทรวงคมนาคมก็คาดว่าจะสามารถนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 19 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ได้มีการทาบทามอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ของรัฐรายหนึ่งเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย หลังจากที่นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม ได้ลาออกจากตำแหน่ง และยังไม่มีผู้เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยขณะนี้นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการ รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว

    ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในการประชุม คนร.ที่จะมีขึ้น 18 พ.ค.นี้จะมีการหารือตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเสนอล่าสุดได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปจัดทำรายละเอียดของแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในที่ประชุมของ คนร.ให้มีความสมบูรณ์รอบด้านมากที่สุด

    เปิดปัจจัยเสี่ยง 23 จุด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ยังเห็นว่าจำเป็นจะต้องแก้ไข-ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรใหม่ : Reorgani zation ก่อนเข้าศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการให้กับการบินไทยนี้ สำนักงาน คนร.เปิดเผยว่ามีอยู่ทั้งสิ้น 23 ปัจจัย ได้แก่ 1.ปรับปรุงข้อมูลการซ่อมบำรุงที่เดิมอาจทำไม่ครบถ้วน รวมถึงการขายเครื่องบิน และเครื่องยนต์จึงต้องมีการวิเคราะห์เพิ่มเติม เนื่องจากติดระเบียบราชการ 2.ปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางการบิน เริ่มจากเส้นทางบินระยะยาว : การบริหารจัดการเส้นทางบินที่ไม่ทำกำไร หรือ ไม่มีเครื่องบินที่ต้องการนำไปบริการในเส้นทางที่มีศักยภาพมากกว่า

    3.ปรับปรุงแผนบริหารจัดการฝูงบิน รวมถึง แผนการขายเครื่องบินซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจเสนอราคาซื้อที่ต่ำมาก 4.ปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการพาณิชย์ การต่อต้านของกลุ่มมาเฟียเดิม และหรือ ผู้แทนจำหน่ายที่เสียผลประโยชน์จากการขายบัตรโดยสารแบบ Single Price 5.ปรับปรุงการปฏิบัติงานและต้นทุนกระบวนการทำงานด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี ที่ผ่านมาการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นไปตามแผน และผู้บริหาร ระดับสูงไม่สามารถเข้าใจระบบการจัดการด้านนี้

    6.ปรับปรุงการปฏิบัติการและบริหารต้นทุนเพื่อสร้างประสิทธิภาพของฝ่ายช่าง และปรับรูปแบบให้รองรับการดำเนินธุรกิจให้เป็นเชิงพาณิชย์นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ในฝ่ายช่าง 7.ปรับปรุงการปฏิบัติการ และบริหารต้นทุนโดยออกแบบโครงสร้างการซ่อมบำรุงใหม่ให้รองรับการให้บริการเชิงพาณิชย์ของธุรกิจอุตสาหกรรมการบินในระดับสากล

    8.โครงการตามกลยุทธ์ด้านการปรับปรุงการปฏิบัติการและต้นทุน (ปรับปรุงประสิทธิภาพฝ่ายช่างและปรับรูปแบบให้รองรับ การดำเนินธุรกิจให้เป็นเชิงพาณิชย์ การปรับเปลี่ยนผลตอบแทนการทำงานตามระดับผลิตภาพ Pay Per Productivity ของฝ่ายช่าง พร้อมให้ปรับรูปแบบรองรับให้การทำงานฝ่ายช่างสามารถตอบสนองกิจกรรมเชิงพาณิชย์ต่างๆได้มากกว่าการซ่อมบำรุงอากาศยานของการบินไทย ไทยสมายล์ นกแอร์ และสายการบินอื่นๆ

    9.ปรับกลยุทธ์การปฏิบัติงาน และบริหารต้นทุนของฝ่ายช่างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ปรับรูปแบบให้สามารถรองรับการดำเนินธุรกิจให้เป็นเชิงพาณิชย์ การบริหารการเปลี่ยนแปลง และสร้างแรงจูงใจแก่บุคลากรได้ 10.ปรับปรุงการปฏิบัติการ และบริหารต้นทุนในการพัฒนาความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นๆ) 11.ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้กระชับ

    12.ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรโดยเฉพาะจำนวนพนักงานให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต 13.ปรับกลยุทธ์ด้านการจัดกลุ่มธุรกิจของบริษัทเริ่มตั้งแต่ฝ่ายช่าง : ปรับปรุงธุรกิจการซ่อมบำรุงอากาศยานเชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง 14.จัดกลุ่มธุรกิจของบริษัทในฝ่ายช่าง : ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินลำตัวกว้าง 15.จัดกลุ่มธุรกิจฝ่ายบริการภาคพื้น ปรับรูปแบบกระบวนการทำงานของพนักงานในฝ่ายภาคพื้น 16.จัดกลุ่มธุรกิจฝ่ายบริการภาคพื้นโดยปรับปรุงบริการห้องรับรองพิเศษ และห้องฉุกเฉินในภาวะไม่ปกติ 17.จัดทำกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์

    18.จัดกลุ่มธุรกิจการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ 19. ศึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตของกลุ่ม Business Unit ใหม่ 20.เพิ่มประสิทธิภาพครัวการบินเพื่อให้ผลการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในการเสิร์ฟอาหารร้อนบนเครื่องบิน 21.ทำครัวการบินไทยให้เป็น Smart Kitchen 4.0 22.จัดกลุ่มธุรกิจของครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ 23.จัดครัวการบินไทยสาขาต่างๆใหม่เพื่อสามารถทำกำไรให้สูง.

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความน่ากลัวของคลื่น ‘โควิด-19’ ลูกที่ 2 กำลังจะถาโถมชาวโลกอีกครั้ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มทรงตัว และหลายๆ ประเทศเตรียมตัวเข้าสู่การใช้ชีวิตแบบ "ปกติใหม่" (New Normal)

    ซึ่งการมาของการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 นี้ ค่อยๆ เกิดขึ้นในบางประเทศแล้ว แม้ไม่ได้มาตู้มเดียวเหมือนระลอกแรก แต่ก็สร้างความกังวลและความวิตกให้กับรัฐบาลของแต่ละประเทศ เพราะตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา มักจะพบการแพร่ระบาดในรูปแบบที่ "ไร้ต้นตอ" รู้กันอีกทีก็พบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว แต่หากถามว่า "ติดจากใคร?" กลับไม่มีคำตอบ ...

    ล่าสุด การแพร่ระบาด ‘โควิด-19’ ระลอกที่ 2 เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ สร้างความหวาดระแวงทั้งชาวเกาหลีเอง ยันชาวต่างชาติที่ได้รับรู้ข่าวดังกล่าวนี้ เพราะตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย จากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันอยู่ที่หลักร้อย ก็ลดลงเหลือเพียงหลักสิบ เตรียมกลับมาใช้ชีวิตแบบ "ปกติใหม่" (New Normal)

    แต่เพียงแค่การเริ่มต้นกลับมาใช้ชีวิตปกติใหม่ กลับต้องย้อนสู่ "วังวนแห่งความกลัว" อีกครั้ง!!

    ‘ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์’ ขอพาคุณผู้อ่านไปลำดับเหตุการณ์พร้อมๆ กัน

    ก่อนอื่นนั้น คงต้องย้อนกลับไปวันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2563 ชายวัย 29 ปี ปรากฏผลตรวจยืนยันเป็น "บวก"

    ซึ่งนั่นหมายความว่า "เขาติดเชื้อโควิด-19"

    เมื่อทำการสอบสวนโรคก็พบว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม และล่วงเลยไปจนถึงวันถัดไป ชายวัย 29 ปี ได้เดินทางไปสังสรรค์ที่คลับภายในย่านอิแทวอนถึง 3 แห่ง!!

    "ย่านอิแทวอน" ที่ว่านี้ ถือเป็นแหล่งสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีคนพลุกพล่าน และยังเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

    นี่คือ จุดเริ่มต้นการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน (Cluster) ที่เรียกว่า ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’

    หลังจากนั้น 3 วันถัดมา ในวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม รัฐบาลเกาหลีใต้ออกคำสั่ง "ปิด" คลับและบาร์มากกว่า 2,000 แห่ง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่ให้แผ่ขยายเป็นวงกว้าง และอาจหนักหนาสาหัสกว่าระลอกแรกที่ผ่านมา

    ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความที่ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ เกิดมาจากย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืน หลายคนปกปิดชื่อจริงและเบอร์โทรศัพท์ จึงทำให้การทราบตัวตนของบุคคลที่เข้ามาท่องเที่ยวในย่านนี้เป็นไปได้ยากและมีความซับซ้อน

    ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้จึงได้เคลื่อนกำลังพลกว่า 8,500 นายทั่วประเทศ ออกปฏิบัติการเชิงรุกแข่งกับเวลาและการส่งต่อเชื้อของโควิด-19 ที่รวดเร็ว ด้วยการลงพื้นที่ไล่ติดตามยืนยันตัวตนบุคคลที่เคยไปย่านอิแทวอน

    โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ‘ปาร์ค วอน ซุน’ นายกเทศมนตรีกรุงโซล ได้ออกมาเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า "หากกรุงโซลสูญเสีย ประเทศก็สูญเสียด้วย”

    หลังพบว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสะสมที่มีความเชื่อมโยงกับ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ นั้นเกิน 100 รายแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และยังแซงหน้า ‘คลัสเตอร์คอลเซ็นเตอร์’ (Call Center) ที่มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 97 รายในช่วงเดือนมีนาคมอีกด้วย

    นับว่า ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ กลายเป็นการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ณ เวลานี้

    ขณะที่ ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันสะสม ณ วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563 ก็อยู่อันดับที่ 43 รวม 11,018 ราย และเสียชีวิตสะสม 260 ศพ

    นอกจากมาตรการเชิงรุกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้ทำอะไรอีกบ้างในการปราบปรามและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19?

    หาคำตอบผ่าน "รายงานของนายกเทศมนตรีกรุงโซล" ไปพร้อมๆ กัน

    เบื้องต้น ตัวเลขบุคคลที่เคยเดินทางไปย่านอิแทวอนในช่วงเวลาเดียวกับชายวัย 29 ปี ที่ทางนายกเทศมนตรีกรุงโซลสืบทราบ มีประมาณ 11,000 ราย ซึ่งต้องมีการไล่ติดตามเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนให้ได้โดยเร็ว

    ซึ่งวิธีการที่นายกเทศมนตรีกรุงโซลหยิบยกมาใช้ เช่น การติดตามผ่านข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ จากนั้นส่งข้อความ หรือ เอสเอ็มเอส (SMS) แจ้งข้อมูลเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นเข้ามารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างเร่งด่วน และยังติดตามผ่านข้อมูลการทำธุรกรรมบัตรเครดิต ซึ่งทำให้พบบุคคลที่เคยไปย่านดังกล่าวในช่วงเวลานั้นเพิ่มอีก 500 รายชื่อ

    และจากรายงานของหน่วยงานด้านสาธารณสุขของกรุงโซล พบว่า ณ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา กว่า 7,000 รายที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว

    แต่ก็ยังเหลืออีกประมาณ 2,000 รายที่ยังไม่ได้รับการยืนยันตัวตน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังไล่ติดตามแล้ว และสำหรับบุคคลใดที่มีการยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปจะต้องเข้ารับการสอบถามโดยเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ และได้รับข้อความยืนยันอีกครั้ง

    เรียกได้ว่า การติดตามเส้นทางการติดต่ออย่างเข้มงวดและการตรวจสอบหาเชื้อโควิด-19 อย่างแข็งขัน เป็น "กุญแจแห่งความสำเร็จ" ในการรับมือการแพร่ระบาดของประเทศเกาหลีใต้

    โดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขก็ได้ทำโครงร่างวิธีการที่ประเทศเกาหลีใต้ใช้ในการปราบและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ลงใน Detailed Playbook ด้วย ซึ่งประชาชนเองก็มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือด้วยการบันทึกข้อมูลแหล่งที่ตั้งหรือหมุดหมายการเดินทางด้วยการใช้ฟังก์ชัน "Timeline" (ไทม์ไลน์) บน Google Map แอปพลิเคชันของกูเกิล ซึ่งพวกเขาสามารถแบ่งปันหรือแชร์ข้อมูลเพื่อใช้ในการแกะรอยการติดต่อ หากเจ้าหน้าที่รัฐมีความจำเป็นต้องนำไปใช้สอบสวนโรค

    สำหรับแพลตฟอร์มการแกะรอยการติดต่อ หรือที่เรียกว่า Contact Tracer ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการรวบรวมข้อมูลจาก 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการด้านโทรคมนาคม และอีก 22 บริษัทบัตรเครดิต ซึ่งช่วยให้ภาครัฐสามารถแกะรอยเคสผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น

    กลับมาที่ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ อีกครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังประเทศเกาหลีใต้ประกาศแนวทางเกี่ยวกับ "ความปกติใหม่" (New Normal) ที่เรียกว่า "Everyday Quarantine" ที่ออกแบบมาเพื่อให้ประเทศเดินหน้ากิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจ ในการฟื้นฟูช่วงระหว่างที่ประเทศมีความเสี่ยงโควิด-19 น้อย

    แต่ยังไม่ทันได้หยิบมาใช้ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ ก็ปรากฏออกมาซะก่อน แถมยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน และเสี่ยงมาก กลายเป็นความท้าทายใหม่ในการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งก่อนที่จะมีการพัฒนา "วัคซีนไวรัสโคโรนา"

    และนี่ยังเป็นลางสังหรณ์ที่สร้างความวิตกกังวลอย่างรุนแรงให้กับประชาชน ว่า รัฐบาลอาจมีการดำเนินการ "ยกเลิกและเพิกถอน" นโยบายดังกล่าว เพื่อที่จะคงอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของช่วงอันตรายที่ผ่านมา

    เพราะจากแหล่งต้นตอของ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ ที่เป็นสถานบันเทิง มีความเป็นไปได้ว่า ฝูงชนจำนวนมากที่อยู่ภายในสภาพแวดล้อมของคลับและบาร์มีความเสี่ยงสูงมากที่จะแพร่เชื้อสู่ชุมชน โดยจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ที่เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่า SAR-CoV-2 สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายเป็นพิเศษในสถานที่ที่มีการชุมนุมและรวมตัวกัน ดังเช่น คลัสเตอร์คอลเซ็นเตอร์

    ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างแข็งขันในการแกะรอยบุคคลมากกว่า 1,000 รายที่มีความเชื่อมโยงกับ ‘คลัสเตอร์อิแทวอน’ โดยปราศจากการ "ปิดเมือง" หรือ "ล็อกดาวน์" (Lockdown) อย่างเข้มข้น ของประเทศเกาหลีใต้นั้นตรงกันข้ามกับวิธีการของประเทศจีนอย่างสิ้นเชิง และยังแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่มีการจัดการเก็บตัวเลขด้วยการจำกัดวงของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพื่อฟื้นฟูและกลับสู่สภาพปกติในเร็ววัน

    เช่น เมืองซูหลาน ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลจีลิน หลังมีรายงานการแพร่ระบาดภายในประเทศ 11 รายเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานท้องถิ่นก็ออกมาตรการปิดเมืองบางส่วนทันที คล้ายกับกลยุทธ์ของเมืองทางตอนเหนือของฮาร์บินที่มีการปิดเมืองเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลายราย และที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของประเทศจีน ก็มีการวางแผนป้องกันการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ด้วยการดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในชาวเมือง 11 ล้านคน หลังพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน หรือ คลัสเตอร์ (Cluster) ที่ได้รับเชื้อมาจากแหล่งชุมชนที่พักอาศัย เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม และวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา

    ไปดูกันที่อีกซีกโลกอย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ กันบ้าง

    รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันสะสมที่มีจำนวน 1.4 ล้านรายแล้ว ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ และเป็นสิ่งที่เราเองก็ต้องรู้เอาไว้

    … เพราะโควิด-19 (COVID-19) ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-Commerce) สร้างผู้ชนะและผู้แพ้อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ผู้เล่นจะปรับตัวได้ทัน

    1. ร้านค้าที่ปิดกิจการชั่วคราว อาจต้องถึงคราวปิดกิจการถาวร

    หมายความอย่างไร?

    บริษัทด้านการลงทุนในสหรัฐฯ มองว่า ไม่ว่าพวกเขาจะยังคงปิดร้านอยู่ หรือกลับมาเปิดอีกครั้งทันทีหลังผ่อนคลาย แต่สุดท้ายแล้วในปี 2568 ร้านค้าในสหรัฐฯ มากกว่า 100,000 แห่งจะต้องปิดตัวลงอย่างแน่นอน

    2. ห้างสรรพสินค้าอาจต้องจากลาเร็วกว่าเดิม

    หมายความอย่างไร?

    การแพร่ระบาดโควิด-19 จะทำให้ห้างสรรพสินค้าสูญเสียรายได้ค่าเช่ามากกว่า 90% ของจำนวนผู้เช่าร้านค้าทั้งหมด และศูนย์กลางการช็อปปิ้งบางแห่งที่เร่งกลับมาเปิดใหม่ภายใต้แนวทางปฏิบัติการทางสาธารณสุขที่ไม่แน่นอนนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะต้องหายไป

    3. ฝันร้ายของเหล่าแฟชั่นดีไซเนอร์อิสระ

    หมายความอย่างไร?

    นับจากนี้ แบรนด์เล็กๆ อาจมีการปฏิบัติงานภายใต้ข้อจำกัดทางด้านงบประมาณที่อาจต้องมีการรัดกุมมากขึ้น ซึ่งส่วนมากมักจะใช้กำไร 1 ไตรมาส เป็นงบประมาณในการลงทุนครั้งต่อไป และสำหรับแบรนด์ทั้งหลายก็ขอบอกว่า การต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดกำลังจะมาถึงแล้ว

    สุดท้าย 4. บางครั้งการส่งเสริมการขายอาจไม่เพียงพอ

    หมายความอย่างไร?

    ‘จูเมีย’ บริษัทแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ในแอฟริกา รายงานว่า กว่า 7% ของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ มีรายได้อยู่ในภาวะตกต่ำ แม้ว่าจะมียอดคำสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านค้าเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าก็ตาม

    https://www.thairath.co.th/scoop/1845334

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บีบไต้หวันอยากร่วม WHA ต้องยอมรับจีนเดียว
    กรณีไต้หวันถูกกีดกันจากการเข้าไปมีบทบาทในองค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องด้วยแรงกดดันจากรัฐบาลจีนที่มองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ยังคงเป็นปมขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วัคซีนโควิด-19 คืบหน้า ทดลองกับลิงได้ผลดี สหรัฐฯ เตรียมทดลองครั้งใหญ่กับคน
    นักวิจัยวัคซีนโควิด-19 เผยข่าวดีหลังทดลองวัคซีนกับลิง พบลิงที่ฉีดวัคซีนมีไวรัสในปอดน้อยกว่า ขณะที่สหรัฐฯ เผยเตรียมทดลองกับมนุษย์ครั้งใหญ่เดือนกรกฎาคมนี้ เชื่อปลายปีหรือมกราคมปีหน้าอาจได้ใช้
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
    ..
    การทดลองดำเนินการโดยแบ่งลิงเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 และอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ฉีด แล้วให้ลิงได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลปรากฏว่า พบไวรัสโควิด-19 ในปอดและทางเดินหายใจของลิงที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 น้อยกว่ากลุ่มลิงที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

    ผลการทดลองนี้ทำให้ดูเหมือนว่า วัคซีนโควิด-19 มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปอดบวมเมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ในการวิจัยยังพบว่า วัคซีนดังกล่าวไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่มนุษย์จะตอบสนองต่อไวรัสในแบบที่อาจส่งผลทางลบต่อร่างกายด้วย

    แม้การทดลองนี้จะยังไม่ผ่านการทดสอบซ้ำจากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ รวมถึงยังไม่มีการตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า ร่างกายของมนุษย์จะตอบสนองได้เช่นเดียวกับลิง แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างศาสตราจารย์สตีเฟน อีวานส์ จาก The London School of Hygiene & Tropical Medicine ก็ชี้ว่า การทดลองนี้มีคุณภาพสูงและให้ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น

    ในขณะนี้มีหลายประเทศกำลังพัฒนาวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 จะพัฒนาเสร็จภายในปลายปีนี้ ซึ่งล่าสุด ดร.ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เปิดเผยว่า เป้าหมายการพัฒนาวัคซีนของสหรัฐฯทคือพยายามให้มีวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนมกราคมปีหน้า โดยอาจนำมาใช้ได้ในกรณีฉุกเฉินตั้งแต่เดือนธันวาคม

    ผู้อำนวยการ NIH ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีวัคซีนโควิด-19 2 ชนิดที่มีความคืบหน้าไปมาก โดยในจำนวนนี้ 1 ชนิด จะเริ่มทดลองกับมนุษย์โดยการใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวนมากในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนวัคซีนอีกชนิดจะมีการทดลองตามมา
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    30 ล้าน * 5000 บาท * 3 เดือน = 450,000 ล้านบาท

    เราไม่ทิ้งกัน
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศด้วยความยินดีว่า รัฐบาลนี้สามารถจ่ายเงินเยียวยาประชาชนกว่า 30 ล้านคนโดยตรง ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนสามารถทำได้มาก่อนเลย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์หมดมู้ดคุยกับจีนจากเหตุโควิด
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณความสัมพันธ์ที่แย่ลงกับจีนจากวิกฤติโควิด-19 โดยเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ บิสซิเนส เน็ตเวิร์ก ว่าตนรู้สึกผิดหวังมากกับความล้มเหลวของจีน
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หรือจะจบยุคเศรษฐีน้ำมัน
    .
    ราคาน้ำมันที่ตกต่ำต่อเนื่องมายาวนานประกอบกับการต่อสู้เรื่องราคาที่ปัจจุบันทำให้น้ำมันราคาติดลบทำให้ซาอุดิอาระเบียเศรษฐีน้ำมันตลอดกาลต้องหันมาขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มกับประชาชนเป็น 3 เท่าจาก( 5 เปอร์เซ็นต์เป็น 15 เปอร์เซ็นต์)นอกจากนี้ยังตัดเงินอุดหนุนรายเดือนของประชาชนอีกด้วย
    จุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐีน้ำมันก็คือการระบาดของโควิด19 ทำให้รายได้ของบรรดาเศรษฐีน้ำมันตกลงอย่างมาก จากเดิมที่ถูกกดราคาเพราะมีผู้ค้าน้ำมันรายใหม่ๆจากสหรัฐอเมริกามาแข่งขัน พอโควิดเข้ามาทำให้ความต้องการน้ำมันลดลงอย่างมหาศาลจนติดลบ
    เดิมทีเดียวประเทศเศรษฐีน้ำมันเหล่านี้มีเงินที่เหลือเฟือจากการขายน้ำมันและเงินเหล่านั้นใช้ในการดูแลประชาชนสร้างความมั่นคงมั่งคั่งแก่ผู้ปกครองประเทศและความอยู่ดีเป็นดีของประชาชนในประเทศนั้นๆ แต่หลังจากราคาน้ำมันที่ตกลงทำให้รายได้พวกเขาลดลงและต้องตัดรายจ่ายต่างๆราคาสินค้าก็เริ่มสูงขึ้นจนทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนหลายคนเชื่อว่าหากเรื่องนี้ยังเป็นไปในระยะยาวโอกาสเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในหมู่เศรษฐีน้ำมันอาจเกิดขึ้นอีกเหมือนคราว อาหรับสปริง

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อบอุ่นหรือสยอง
    .
    ร้านอาหารที่มีชื่อแห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกาได้นำหุ่นจำลองผู้คนมาไว้ในร้านเพื่อกั้นระหว่างลูกค้าตามมาตรการ social distancing โดยทางร้านบอกว่าจะให้ ผู้คนรู้สึก สะดวกใจและมีคนพร้อมช่วยเหลือ(will add a touch of whimsy and help)
    อย่างไรก็ดีหลายคนมองแล้วบอกว่ารู้สึกกลัวและนึกถึงภาพยนตร์สยองขวัญเก่าๆ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สวีเดนสวนทางชาติอื่นๆในยุโรป ทั้งการประกาศไม่ล็อคดาวน์และว่ากันจริงตามจริงเขาไม่สนับสนุนให้คนสวมหน้ากากอนามัยด้วย
    ปัจจุบันสวีเดนเป็นหนึ่งในชาติที่มีการติดต่อของโกวิทย์ 19 ในระดับที่ค่อนข้างจะรุนแรงเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่การที่เขามีความรุนแรงของการระบาดน้อยกว่าอิตาลีก็ทำให้คนสวีเดนส่วนหนึ่งมองว่าพวกเขามาถูกทาง



     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จำกัดเวลาเข้าห้างฯไม่เกิน 2 ชั่วโมงเริ่มแล้ว
    .
    ที่นำมาเป็นตัวอย่างแอพพลิเคชั่นของเดอะมอลล์ โดยผู้ที่จะเข้าใช้บริการห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์จำเป็นจะต้องลงทะเบียนก่อนและแอปพลิเคชันจะ ลงทะเบียนเวลาไว้ว่าท่านจะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงเมื่อใกล้ครบ 2 ชั่วโมงมันจะร้องเตือน
    และมันสามารถจองเวลาเดินห้างได้เนื่องจากห้างสรรพสินค้าใน ยุคที่จะเปิดขึ้นมาใหม่นี้จะมีการจำกัดจำนวนคนที่เดิน ดังนั้นท่านสามารถที่จะจองคิวเพื่อไปเดินห้างได้
    และนี่คือ New Normal

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อ 0:00 ของวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ระบบทีวีของทั้งประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจานทึบหรือการปลูกหรือแม้แต่ระบบทีวีดิจิตอล ได้ปรับให้มี DLTV ซึ่งเป็นทีวีเพื่อการศึกษาเพื่อรองรับการเรียน ออนไลน์และทางไกล ของเด็กๆ ในช่วงที่โรงเรียนอาจจะยังเปิดปกติให้เด็กเข้าไปเรียนที่โรงเรียนไม่ได้

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    COVID-19 surcharge ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากร้านอาหาร
    .
    กลายเป็นอย่างไรไว้รอบที่จะจ่ายพวกอเมริกาเมื่อมีผู้มาใช้บริการนั้นๆแล้วสงสัยว่าทำไมร้านอาหารจึงคิดค่า COVID-19 surcharge
    ตามปกติร้านอาหารในอเมริกานั้นจะมีการคิด ทิป ภาษีและอื่นๆแยกจากราคาอาหาร เท่งค่ะคุณเห็นอาหารเขียนไว้ว่า 10 ตอนจ่ายจริงคุณอาจจะต้องจ่าย 12-15 เพราะภาษีและสวนอื่นๆ และที่ผ่านมาไม่มี COVID-19 surcharge
    เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นและอะไรอีกหลายๆอย่างในช่วงระบาดโค
    วิด19 ทำให้ทางการอนุญาตให้ร้านค้าสามารถคิด COVID-19 surcharge ได้แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกร้านคิดค่านี้ ปัจจุบันยังเป็นแค่บางร้าน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิงโต2ตัวได้รับการช่วยเหลือจากการถูกทารุณ มาพบรักกันที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็เกือบตายทั้งคู่ ตัวผู้เจ้าของเลี้ยงไว้หาเงินจากนทท.ที่ขอถ่ายรูป ผอมโซ เป็นโรคกระดูกและเครียดกัดหางตัวเองจนด้วน ตัวเมียมาในสภาพใกล้ตาย เดินไม่ได้ มีปัญหากล้ามเนื้อและเส้นประสาท
    ตัวผู้มาจากลาสเวกัส รัฐเนวาดา ตัวเมียมาจากรัฐเท็กซัส

    ขอบคุณอาสาและจนท.ที่ช่วยให้สองชีวิตนี้รอดตายและได้พบความสุข แต่คงไม่มีโอกาสได้รู้ว่าชีวิตในป่าตามธรรมชาติเป็นอย่างไร

    เมื่อไหร่บางคนจะเลิกเบียดเบียนและทารุณสัตว์
    ส่วนคนที่ลุ้นให้มีลูกสิงโตน่ารักๆออกมาดูโลก ต้องบอกว่าตัวเมียทำหมันเรียบร้อยแล้วจึงมีลูกไม่ได้ แต่คงมีกันและกันตลอดไป

    ขอบคุณภาพจาก: Susan Adams/Tracey Fandre/In-Sync Exotics
    In-Sync Exotics/Gretta Antrican/Lakshmi Nathan
    .


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
    ผ่านร่างกม.เยียวยาโควิด-19 มูลค่า $3 ล้านล้าน

    รอยเตอร์ – สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณเยียวยาเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ท่ามกลางการต่อต้านจากทำเนียบขาวและแกนนำรีพับลิกันที่ขู่จะขัดขวางร่างกฎหมายดังกล่าวในชั้นวุฒิสภา

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000051069

    #สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ #ผ่านร่างกม_เยียวยาโควิด19 #มูลค่า3ล้านล้านดอลลาร์

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19
    ไทยติดเชื้อเพิ่ม o ราย
    เสียชีวิต 0 ราย
    เสียชีวิตสะสม 56 ราย
    16 พฤษภาคม 2563
    .
    #mgronline #covid19

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดื่มสุราฆ่าเชื้อโควิด ปรัชญาขี้เมาอย่าไปเอากับมัน

    คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/sport/detail/9630000050547

    #ดื่มสุราฆ่าเชื้อโควิด

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนยอมรับสั่งห้องแล็บทำลายตัวอย่างโคโรนาไวรัส!!
    ในช่วงต้นการระบาด

    เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - จีนเปิดเผยในวันศุกร์(15พ.ค.) ได้สั่งการให้ห้องปฏิบัติการวิจัยที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้ทำลายตัวอย่างของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงต้นของการแพร่ระบาด แต่ทำไปเนื่องด้วยเหตุผลความปลอดภัยทางชีวภาพ

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000051026

    #จีน #ห้องแล็บจีน #เชื้อโคโรน่าไวรัส

    ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โวยวายซ้ำๆว่าปักกิ่งปฏฺิเสธมอบตัวอย่างไวรัสจากคนไข้เมื่อครั้งที่โรคร้ายนี้เริ่มแพร่ระบาดในจีนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และอ้างเจ้าหน้าที่จีนได้ทำลายตัวอย่างไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงต้นๆของการแพร่ระบาด

    หลิว เติงเฟิง เจ้าหน้าที่แผนกวิทยาศาสตร์และการศึกษาแห่งคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยว่าที่พวกเขาต้องสั่งให้เหล่าห้องปฏิบัติการวิจัยที่ไม่ได้รับอนุญาตทำลายตัวอย่างไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและป้องกันภัยรอง อันมีต้นตอจากเชื้อโรคที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

    "ความคิดเห็นต่างๆนานาของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบางคนอยู่นอกบริบทและมีเจตนาสร้างความสับสน" เขากล่าวระหว่างแถลงสรุปในปักกิ่ง พร้อมบอกต่อว่าเมื่อได้รับรายงานอาการป่วยคล้ายโรคปอดอักเสบเคสแรกในอู่ฮั่น "สถาบันวิชาชีพระดับชาติต่างๆจึงได้ดำเนินการหาทางระบุตัวเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว"

    "บนพื้นฐานของการวิจัยอย่างครอบคลุมและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เราตัดสินใจจัดให้เชื้อโรคนี้อยู่ในระดับ 2 หรือก่อโรครุนแรง และกำหนดข้อบังคับด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ต่อการเก็บตัวอย่าง ขนส่งตัวอย่างและกิจกรรมการทดลองต่างๆ รวมถึงทำลายตัวอย่าง"

    หลิว บอกว่าข้อบังคับดังกล่าวเป็นไปตามกรอบการปฏิบัติมาตรฐานของจีน สำหรับบริหารจัดการกับตัวอย่างเชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งไม่ควรบริหารจัดการโดยห้องปฏิบัติการต่างๆที่มีมาตรฐานดำเนินงานไม่เป็นไปตามข้อบังคับเหล่านั้น

    เชื้อโรคระดับ 2 คือเชื้อโรคสามารถแพร่เชื้อในหมู่มนุษย์หรือสัตว์ หรือระหว่างมนุษย์กับสัตว์ และก่อโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างเช่นโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง(ซาร์ส) และไข้ทรพิษ

    ความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันลุกลามบานปลายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่พวกเขาต่างกล่าวหากันไปมาเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของไวรัส ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วมากกว่า 300,000 ศพ และจีนกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติให้ยอมให้มีการสืบสวนต่อแนวทางรับมือกับโรคระบาดใหญ่ของพวกเขา

    คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เริ่มสืบสวนไวรัสเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม และแจ้งองค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในวันเดียวกัน จากนั้นในวันที่ 3 มกราคม องค์การอนามัยโลกได้ข้อสรุปว่าไวรัสดังกล่าวไม่ใช่เชื้อโรคระบบทางเดินหายใจที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และวันที่ 9 มกราคม พวกเขาระบุว่ามันมีต้นตอจากโนเวล โคโรนาไวรัส ก่อนตั้งชื่อว่าอย่างเป็นทางการว่า SARS-CoV-2 และเรียกโรคที่เกิดจากไวรัสนี้ว่า "โควิด-19"

    ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และพอมเพโอ กล่าวหาจีนปกปิดและบริการจัดการผิดพลาดในช่วงต้นของการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันพอมเพโอยังระบุด้วยว่าปักกิ่งไม่ยอมมอบตัวอย่างตั้งแต่เนิ่นๆ ตัวอย่างที่จะสามารถนำไปใช้สำหรับพัฒนาวัคซีน

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สวนทางสวีเดน!
    เดนมาร์กไม่พบผู้เสียชีวิตจากโควิดเป็นวันแรกตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.

    รอยเตอร์/mgronline - เดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศแรกในยุโรปที่เริ่มเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป รายงานมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นศูนย์ในวันศุกร์ (15 พ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม สวนทางกับชาติเพื่อนบ้านอย่างสวีเดน ที่ใช้นโยบายภูมิคุ้มกันหมู่สู้การแพร่ระบาด ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    อ่านต่อ>>

    #เดนมาร์ก #สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด #ยุโรป #สแกนดิเนเวียน

     

แชร์หน้านี้

Loading...