><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. Peterbn

    Peterbn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +298
    จอง 1611
     
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    $$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$



    $$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$



    เริ่มจองได้เเล้วครับ รายการจะมีมาเพิ่มเติมเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้จะ Updateให้ทั้งวันเลยครับ

    ขอบพระคุณมากครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2020
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,605
    ค่าพลัง:
    +30,886
    หวัดดีครับ.jpg
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,605
    ค่าพลัง:
    +30,886
    ยามเช้ากาแฟ.jpg
     
  5. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    ขอจองครับ
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###


    https://palungjit.org/threads/กระทู...ามกระทู้ไว้จะไม่ผิดหวัง.661373/#post-10867359


    #############




    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง

    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663

    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
     
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2020
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1614.ผิวไฟแดงเดิมๆ(2) เหรียญเสมาหลังยันต์มหาจินดามณี
    หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เมตตาค้าขายโชคลาภดีนักแล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6iRz.jpg
    เหรียญเสมาหลังยันต์มหาจินดามณี หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน จังหวัดอ่างทอง เนื้อทองแดงผิวไฟ ตอกโค้ด "ท" จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549

    "ยันต์มหาจินดามณี"
    เป็นยันต์ที่ช่วยเรื่องค้าขายโชคลาภได้อย่างดีเยี่ยม เป็นมนต์สายพุทธคุณ สุดแท้แต่ผู้ใช้จะอธิษฐานเอา ยันต์นี้เหมาะแก่คนที่ทำธุรกิจการค้า การขาย หรือการติดต่อประสานเรื่องการงาน เป็นเมตตามหานิยม ให้คนเมตตาอุปถัมภ์ค้ำจุนช่วยเหลือ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ ความเจริญ ในทุกด้าน ทั้งเรื่องเงินทองและการงาน จะทำให้มีกินมีใช้ตลอดไม่ขาดมือ ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง

    อัตโนประวัติ “หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี”

    มีนามเดิมว่า ทรง วารีรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2466 ตรงกับวันพุธ แรม 14 ค่ำ เดือน 8 ปีกุน ณ บ้านม่วงเตี้ย ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
    โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายกอง และนางจัน วารีรักษ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย

    ๏ การศึกษาเบื้องต้นและการอุปสมบท ช่วงวัยเยาว์ ได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดยางมณี (ชวนประชาสรรค์) ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่อมาได้เข้ารับราชการเพียงระยะเวลาสั้นๆ โดยยังคงช่วยเหลือครอบครัวหาเลี้ยงชีพ ประกอบกิจการค้าขาย เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2486 ณ พัทธสีมาวัดยางมณี ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยมีพระครูสุกิจวิชาญ (หลวงพ่อชวน) วัดยางมณี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการสุวรรณ วัดไร่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการชั้ว วัดตูม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ๏ การศึกษาพระปริยัติธรรมและสรรพวิชาอาคม หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อชวนระยะหนึ่ง จากนั้น ได้ย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดไร่และวัดศาลาดิน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสวดพระปาติโมกข์ได้อย่างคล่องแคล่ว ขณะเดียวกัน ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาอาคมจากหลวงพ่อชวน วัดยางมณี, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์, หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ศึกษาโหราศาสตร์กับหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย พระเกจิดังแห่งยุค ได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ท่านได้เรียนวิทยาคมจากตำราโบราณที่รับสืบทอดจากบรรพบุรุษ จนเชี่ยวชาญสามารถเขียนอ่านอักษรขอมได้ หลวงพ่อทรง เคร่งครัดปฏิบัติและชอบการปลีกวิเวก หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิชาอาคมต่างๆ ตามที่ได้ร่ำเรียนและได้รับการถ่ายทอดมา จนมีความชำนาญในวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีพลังสมาธิญาณอย่างน่าอัศจรรย์


    ๏ การมรณภาพ อย่างไรก็ดี ด้วยสังขาร คือ อนิจจัง เป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ครั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 เวลาประมาณ 21.00 น. หลวงพ่อมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยหอบ หายใจขัด เนื่องจากมีกิจนิมนต์มาก เมื่อลูกศิษย์เห็นว่าอาการไม่ดี จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง แพทย์ได้ทำการรักษา แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ในที่สุด เมื่อเวลา 22.50 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 ท่านได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการท่อปัสสาวะอักเสบ มาก่อนหน้านี้ สิริอายุรวม 83 พรรษา 62

    สภาพสวยเดิมผิวไฟแดงวิ้งๆ พระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณหายห่วง เมตตาค้าขาย โชคลาภมหานิยมดีนักแล แบ่งให้บูชา 270 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณพลานุภาพ จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2020
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1615.สุดยอดมหาพิธีและมวลสารหลังยันต์นิยม(๒) พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ วัดช่องลม
    ลพ.คล้าย,ลพ.ทบ,ลพ.เขียน,ลป.เฮี้ยง,ลพ.อั้น,ลป.โต๊ะ ร่วมปลุกเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6isR.jpg
    6giz-jpg.jpg
    6gin-jpg.jpg
    พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อดินผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายอย่างพิถีพิถัน หลังปั้มโค้ดยันต์ตรีนิสิงเห ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2502-2503 และเสร็จสิ้นวาระพิธีพุทธาภิเษกสมบูรณ์ทุกประการเมื่อปี พ.ศ.2506 ซึ่งนอกจากนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ทั้งสองวาระแล้ว ก่อนหน้านั้นหลวงพ่อไซร้ ท่านก็ทำการปลุกเสกเดี่ยวมาตลอด ( หลวงพ่อไซร้ ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคคยาราม(หาดงิ้ว) ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ และเรียกท่อนซุงใหญ่มาสร้างโบสถ์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ยุคแรกๆของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และก็เป็นพระสหมิกธรรมกับหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ พิจิตร )

    มวลสารพิมพ์พระ
    - เนื้อดินผสมผงเหล็กน้ำพี้
    - ผงพุทธคุณ
    - ดินขุยปูที่ปากรูหันไปทางทิศตะวันออก
    - ชิ้นส่วนพระกรุเนื้อดินที่แตกหัก
    - เนื้อว่านศักดิ์สิทธิ์มากมาย
    - ผงตะใบ สีเงิน สีทอง และมวลสารอื่นๆอีกมากมาย

    นอกจากนั้นยังมี พิมพ์หลวงปู่ทวด, พิมพ์แม่น่าสุโขทัย, พิมพ์นางพญาเล็ก
    ด้านหล้ง : จะมีทั้งหลังยันต์ ตรีนิสิงเห,ยันต์กงจักร และหลังเรียบ ส่วนพระปี2502 ยังไม่พบหลังยันต์กงจักรมาก่อน

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระครั้งที่ : 1
    - เมื่อปี พ.ศ.2505 นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกของ หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
    โดยเกจิดังมาร่วมปลุกเสกถึง 9 รูป ดังนี้
    1. หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม
    2. หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย
    3. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    4. หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร
    5. หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า(อรัญญิกาวาส)
    6. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม
    7. ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    8. หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว

    9. ครูบาบุญโสม วัดหัวข่วง

    วาระครั้งที่ : 2 (นำเข้าพิธีพระเครื่องชุดภูธราวดี ของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ รักราชเดช)
    - เมื่อ 24 เมษายน พ.ศ.2506 ทำพิธีพุทธาภิเศก ณ.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม มีทั้งพราหมณ์ พระไทย พระจีน พระญวน ในนิกายต่าง ๆ รายนามพระคณาจารย์ต่าง ๆ เท่าที่รวบรวมได้ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเศกของพระเครื่องชุดภูธราวดี อาทิ
    1. สมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประธานพิธีที่หน้าองค์พระปฐม
    2.พระมหาวีรวงศ์-พิธีเดียวกับสมเด็จพระสังฆราช
    3. พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ
    4. พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน
    5. หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
    6. อาจารย์นำ วัดดอนศาลา ( ขณะเข้าพิธียังเป็นฆราวาสอยู่และมีรูปถ่ายปรากฏเป็นหลักฐาน)
    7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    8. หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    9. หลวงปู่เพิ่ม วัดกลาบางแก้ว
    10. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    11.หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์
    12.หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน
    13.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    14.พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ฯ
    15.หลวงพ่อคล้าย (วาจาสิทธิ์) วัดสวนขันธ์

    16.หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ฯลฯ
    นอกจากนี้มีเกจิฯ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าพิธีพุทธาภิเษก ทั้ง 3 ครั้ง และไม่ได้มีหลักฐานบันทึกไว้ฯลฯ นอกจากนี้มีเกจิฯ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    : https://lanpothai.blogspot.com/2013/05/1117-2505-2556-60.html
    : http://www.phangpra.com/pageputaravadee.html



    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อไซร้
    พระครูนิกรธรรมรักษ์ ติสฺสโร นามเดิม ไซร้ ทิพยาวงษ์ เป็นบุตรคนที่ 5 ของขุนนิกรรักษา กับนางแท่น ทิพยาวงษ์
    วัน เดือน ปีเกิด วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2436 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเส็ง ที่บ้านหนองเหี้ย ตำบลหาดงิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม 7 คน หลวงพ่อไซร้ในสมัยหนุ่มหน้าตาดี มีสง่าราศี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาด อัธยาศัยดี สงบเสงี่ยม กิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย มีเมตตาธรรมต่อผู้อื่นเสมอ ก่อนอุปสมบทได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์วัดอยู่กับหลวงพ่อฮวบ เจ้าอาวาสวัดสามัคคยาราม และได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาไทย และภาษาขอมจาก หลวงพ่อฮวบ จนมีความรู้แตกฉาน และยังมีความชำนาญนำไปใช้ในการศึกษาธรรมะได้เป็นอย่างดี

    ต่อมาได้ออกจากวัดหาดงิ้ว กลับไปอยู่บ้านช่วยเหลือบิดามารดา ในการประกอบอาชีพทำนาทำไร่อยู่ได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่งอายุได้ 16 ปี ด้วยนิสัยใฝ่เรียนรู้ด้านธรรมะ และมีความรักความศรัทธาเลื่อมใสในสมณเพศ จึงได้ขอบรรพชาเป็น สามเณรกับ พระอธิการก้อน เจ้าอาวาสวัดช่องลม เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2452

    การบรรพชาอุปสมบท หลังจากบวชเป็นสามเณรจนกระทั่งอายุครบ 20 ปี จึงได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดช่ิองลม ต.หาดงิ้ว อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2456 มี พระอธิการขีด วัดกุมภีร์ทอง ต.บ้านด่าน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจ้อน เป็นกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการป้อม เป็นอนุสาวนาจารย์

    บำเพ็ญสมณะธรรม
    หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อไซร้ตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรมเอาใจใส่กิจวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง ไม่ยอมละทิ้งการงานของพระภิกษุและสามเณร ซึ่งในพระพุทธศาสนามีอยู่ 2 อย่างคือ 1.คันถะธุระ การศึกษาพระธรรมวินัย อันเป็นส่วนปริยัติ 2.วิปัสสนาธุระ การเรียนพระกัมมัฎฐาน ทั้งที่เป็นสมถะและวิปัสสนา อันเป็นสายปฏิบัติและปฏิเวช ซึ่งท่าน สนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นเหตุให้เจริญทางด้านจิตใจ ท่านได้อยู่ปฏิบัติพระอุปัชฌาย์ที่วัดกุมภีร์ทองเป็นเวลา 4 พรรษา
    หลังจากนั้นจึงได้ย้ายไปจำพรรษาต่อที่วัดดอยแก้ว ต.แสนตอ อ.เมือง และที่วัดหาดงิ้ว ได้ศึกษาวิทยาคุณไสยศาสตร์กับ หลวงพ่อฮวบ ที่วัดหาดงิ้ว จนมีความรู้อย่างแตกฉาน จึงได้ย้ายไปอยู่วัดช่องลมในเวลาต่อมา ซึ่งพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี(เรือง) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนนในสมัยนั้น ได้พิจารณาเห็นว่าหลวงพ่อไซร้ เป็นที่เคารพนับถือของ บรรพชิตและคฤหัสถ์ จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2462 สืบต่อมา

    การทำนุบำรุงศาสนา....
    ภายหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม ท่านได้เอาใจใส่ในการก่อสร้าง และปฏิสังขรณ์ เสนาสนะ วางระเบียบแผนผังของวัดที่ท่านพำนักจนเป็นที่เรียบร้อย ดังปรากฏหลัฐานมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น หอไตร กุฏิเจ้าอาวาส อุโบสถ หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ พระวิหาร เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กำแพงรอบวัด โรงเรียน ปริยัติธรรม และโรงเรียนประชาบาลวัดช่องลม การก่อสร้าง และการปฏิสังขรณ์ดังกล่าว รวมทั้งอุโบสถของวัดหาดงิ้ว ศาลาการเปรียญวัดสามัคคยาราม และอุโบสถของวัดดอยท่าเสา เป็นต้น

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อไซร้
    เงินทุนที่ท่านได้มาใช้จ่ายในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์นี้ ส่วนใหญ่เกิดมาจากการจำหน่ายวัตถุมงคลของท่าน เช่น เหรียญ รูปเหมือน แหวนรูปท่าน ตะกรุด ฯลฯ ให้กับประชาชนเช่าบูชา เงินที่ชาวบ้านบริจาคทำบุญก็มีแต่เป็นส่วนน้อย
    วัตถุมงคลของท่านที่ทำขึ้นเองก็ดีหรือมีผู้อื่นนำมาถวายให้ท่านปลุกเสกให้ก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นของที่มีอาุนุภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ปรากฏต่อลูกศิษย์และชาวบ้านทั่วไป แม้แต่คนที่นับถือศาสนาอื่นๆยังแขวนพระเครื่องและตะกรุดของหลวงพ่อไซร้ ติดตัวตลอด เพราะท่านเป็นพระที่มีสมาธิจิตสงบนิ่งมั่นคงมากในเวลาปลุกเสก ประกอบกับผู้รับไปบูชามีจิตใจเชื่อมั่นเคารพนับถือในวิทยาคุณของท่านด้วย

    หลวงพ่อไซร้หรือพระครูนิกรธรรมรักษ์ ท่านมีเมตตาธรรมเป็นอุปปัญญาประจำใจไม่เลือกชั้นวรรณะใครมีธุระก็ติดต่อได้ทุกเวลา อัธยาศัยกว้างขวางเคารพในการปฏิสันถาร วาจาอ่อนน้อมน่าบูชายิ่งนัก ใครจะขอให้ปลุกเสกเลขยันต์ทำน้ำมนต์ ท่านทำให้ทุกอย่าง จนหาเวลาว่างของตนเองไม่ได้แม้แต่ยามอาพาธท่านยังยอมเสียสละเวลาและชีวิต เพื่อผู้อื่นโดยถือคติธรรมตามรอยพระพุทธองค์ว่า ผู้เสียสละ คือ ผู้ชนะแล้ว หมายถึง การเอาชนะใจตนเองถือเป็นการชนะเลิศเพราะว่าไม่มีทางกลับมาแพ้ได้อีกต่อไป

    หลวงพ่อไซร้ มรณภาพเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2507 สิริอายุรวม 71 ปี พรรษา 51 ปี


    สภาพคัดสวยๆคมๆ สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีกดไม่ติดกดไม่เต็มน้อยมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แตกหักค่อนข้างเยอะเพราะเนื้อแก่มวลสารมาก ของดีพิธีใหญ่หลายวาระคงไม่ต้องบรรยายให้มากความ แบ่งให้บูชา 555 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)






    (คุณshaj จองแล้วครับ)







    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2020
  10. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    ขอจองครับ
     
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1616.สมปรารถนากันนิวเคลียร์(C) เหรียญพระพิฆเนศร์
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน พระอรหันต์เจ้าผู้สำเร็จวิชารัตนจักร

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6aNJ.jpg
    เหรียญพระพิฆเนศร์ เทพแห่งความสำเร็จ หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน จ.อยุธยา เนื้อทองทิพย์ ตอกโค้ดกำกับ จำนวนการสร้าง 233 เหรียญ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 โดยคณะชมรมศิษย์เก่าดนตรีไทย ร่วมกับทางคณะศิษย์ขอร่วมสร้างไว้เพื่อบูชากันในกลุ่มลูกศิษย์ทางชมรม จึงมีจำนวนสร้างไม่มากนัก

    จำนวนการสร้าง
    - เหรียญเนื้อทองคำ 9 เหรียญ
    - เหรียญเงินลงยา 159 เหรียญ โดยแบ่งออกมีทั้งหมด 3 สี คือ ลงยาสีเขียว 39 เหรียญ, ลงยาสีน้ำเงิน 50 เหรียญ, ลงยาสีแดง 70 เหรียญ
    - เหรียญเนื้อทองแดงเนื้อทองฝาบาตรและเนื้อทองทิพย์สร้างรวม 699 เหรียญ ( เนื้อละ 233 เหรียญเท่านั้น )


    พุทธคุณ
    - วัตถุมงคลที่หลวงปู่ชื้นอธิษฐานจิต ท่านประกาศไว้ว่า สามารถป้องกันได้ถึงจรวดปรมณู และรังสี และเปี่ยมด้วยพุทธคุณในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และเจริญก้าวหน้า

    คำอาราธนาพระเครื่อง
    ให้อาราธนาว่าดังนี้ ข้าพเจ้าขอพระบารมีคุณ
    พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ เป็นที่พึ่ง......... หรือ
    พุทธัง ฤทธิ ธัมมัง ฤทธิ สังฆัง ฤทธิ ชัยยะมังคะลัง
    เอหิ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ จิตตัง มะมะ เอหิ


    ให้ท่านอาราธนาทุกเช้าค่ำแล้วท่านจะสำเร็จตามความปรารถนาตามที่ท่านอธิษฐาน

    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ชื้น พุทธสโร
    หลวงปู่ชื้น พุทธสโร มีนามเดิมว่า "ชื้น" เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2450 เป็นบุตรของนายจัน และนางหงิม นามสกุล “ยอดฉิม” เป็นชาวหมู่บ้านไฝต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยครอบครัวได้ประกอบอาชีพด้านกสิกรรม เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่ออายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงอายุ 18 ปี จึงลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปี

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    หลวงปู่ได้อุปสมบท ณ วัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกาะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” ท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 3 จึงสอบได้นักธรรมตรี ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้ แล้วเบนเข็มทิศไปหาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์วัดเกาะลอย ซึ่งทั้งวิชาไสยเวทย์และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้รักษาตนเองได้ จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง ได้ออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีเรื่อยมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมาหยุดจำพรรษาที่วัดญาณเสนในปัจจุบันนี้

    ณ อารามแห่งนี้ ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์และวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สาย หรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมา โดยพึงพอใจกับวิชาความรู้ที่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านช่วยปัดเป่า บรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกัน ช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์สายและพระอาจารย์ชื้นเป็นที่ร่ำลือถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาท่านทั้งสองจะช่วยสงเคราะห์ได้หมด ชื่อเสียงขจรไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้เกิดเป็นโรคเหน็บชา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ยาไทยยาเทศกี่ขนานก็เอาไม่อยู่ เมื่อล่วงรู้เกียรติศักดิ์ของหลวงพ่อชื้น จึงเดินทางมาให้ท่านรักษา ท่านเสกไพรไปให้ทานปรากฏว่าหายเป็นปลิดทิ้ง เขาจึงกราบเรียนท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค นางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพฯ พร้อมถวายตัวเป็นโยมอุปัฎฐาก แต่เมื่อท่านไปปรึกษากับพระอาจารย์สาย ได้รับเหตุผลและแง่คิดมากมาย จนทำให้ต้องบอกปฏิเสธไป ต่อมาพระอาจารย์สายได้ลาสิกขาบทออกไป ทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่อย่างลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันจะมากขึ้นทุกวัน จึงเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม ทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม

    ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปลักกลดอยู่ที่หน้าวัดกุฎีทอง มีญาติโยมขึ้นกันมากมาย ปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้นเป็นที่โจษขานกันมากโดยในวันพระจะไม่พูดกับใครเลยและจะไม่ฉันอาหารใดๆทั้งสิ้น ส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารก็จะมีเพียงกลด จีวรและรองเท้าเก่าๆ ส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนที่ทำจากกะลาเท่านั้น มารู้ภายหลังว่าพระอาจารย์รูปนั้นคือ “พระอาจารย์เสน เตชธัมโม ธุดงค์มาจาก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิด เพื่อสัมผัสและพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า “ท่านเดินผิดทางแล้ว” พระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านนำคำพูดนั้นมาทบทวน และค่อยใช้สติสมาธิพิจารณาถึงความหมาย จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรม ทั้งสองท่านก็ปรารถณาเป็นศิษย์-อาจารย์กัน ทบทวนศีล พระธรรมวินัยต่างๆ โดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราไสยศาสตร์วิชาอาคมต่างๆที่เล้าเรียนมาตั้งแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้น จึงกลับมาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสน พร้อมทั้งนิมนต์ให้ผู้เป็นอาจารย์มาจำพรรษาที่วัดญาณเสน จากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดี แต่ท่านก็ไม่สนใจยังคงมุ่งหน้าที่จะมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษฎ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้น เวลาฉัน ปัสสาวะและขับถ่ายเท่านั้น ชั่วเวลาเพียง 24 วัน จากการเริ่มปฏิบัติท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชา“รัตนจักร” พร้อมกันนั้นท่านก็ถูกร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้พิจารณาในปฏิปทาที่เพี้ยนๆเป็นต้นว่า ชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้างของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบอย่างไรก็ไม่ห้ามปราม หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ จะมาอยู่ในวัดสร้างความสกปรกอย่างไรท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น จึงมีมติให้ปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่ชื้นท่านก็มิได้อนาทรร้อนใจใดๆทั้งสิ้น เพียงขอทางคณะสงฆ์ว่า การตั้งเจ้าอาวาสให้ตั้งจากพระที่มาจากวัดญาณเสนเท่านั้น ในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมทั่วไปก็ยังคงเคารพนับถือหลวงปู่ชื้นไม่มีเสื่อมคลาย ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื้นที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่าน หลวงปู่จะอัญเชิญพระรัตนจักรมาสถิตในวัตถุมงคลนั้นๆเสมอ

    หลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร มรณภาพอย่างสงบในวัย 97 ปี ภายในกุฏิตึกทรงธรรม ต่อหน้าลูกศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูแลใกล้ชิด หลังจากอาพาธมานานด้วยโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เมื่อ 17 มิ.ย. 2546

    เล่นแร่แปรธาตุ
    ในสมัยนั้นบรรดาเกจิอาจารย์นิยมเล่นแร่แปรธาตุ โดยนำโลหะต่างชนิดกันมาผสมกัน เพื่อให้เป็นทองคำให้เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ผสมโลหะ 5 อย่าง 7 อย่าง 9 อย่าง ออกมาเป็นสัตตโลหะ นวโลหะ อย่างเช่น หอกของหลายชุมพล ปลายหอกทำด้วยสัตตโลหะ ใครที่ว่าเหนียว เมื่อเจอโลหะผสมก็เปื่อยเป็นเนื้อต้มทีเดียว หลวงพ่อชื้น ท่านก็ลองวิชาของท่านเหมือนกัน นำโลหะมาผสมได้เนื้อเหลืองทางทองคำก็มี เนื้อเหลือบใสแดงขาวก็มี ท่านเรียกโลหะของท่านว่า เนื้อลูกแก้ว ท่านผสมไว้มากมายใต้ถุนกุฏิ เมื่อใครมาขอท่านก็หลอมเป็นลูกอมเล็ก ๆ ให้พกติดตัว ผู้ที่ได้ไปก็แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ถ้าวันใดว่าง ๆ ท่านก็จะให้ศิษย์ไปหาตะปูสังฆวานรตามเจดีย์ร้างเก่า ๆ มาหลอมรีดเป็นตะกรุด ผู้ได้ไปก็มีความคงกระพันชาตรี มหาอุด หยุดลูกปืน จนท่านทำให้แทบไม่หวาดไหว

    พระธุดงค์มาสอนธรรมะเพื่อความหลุดพ้น
    ต้นปี พ.ศ. 2500 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาที่วัดญาณเสน พบกับ หลวงพ่อชื้นเข้าโดยบังเอิญ ท่านอาจารย์ทั้งสองเกิดถูกอัธยาศัยกัน จึงได้สนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมย่อมรู้ญาณซึ่งกันและกัน เพียงสนทนากันไม่กี่ประโยคก็ทราบได้ว่ามีความรู้เพียงใด บำเพ็ญเพียร มามากเพียงใด

    อาจารย์ต้องการศิษย์….ศิษย์ต้องการอาจารย์
    พระธุดงค์เปรยขึ้นมาว่า ที่ท่านชื้นได้ร่ำเรียนวิชามานั้น ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในวัตถุ ต้องปล่อยปละละวาง ละความโลภ โกรธ หลง ทั้งปวง พร้อมทั้งแนะนำธรรมะ และข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกหลายข้อ ตามแนวทางของพระพุทธองค์หลวงพ่อชื้น จึงได้กราบขอเป็นศิษย์ พระธุดงค์รูปนั้นก็มิได้ปฏิเสธ และพูดว่า “นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล” นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม มีพระธุดงค์รูปนั้น ได้นั่งสมาธิคุมไปด้วย

    ความสำเร็จ
    จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือน กับอีก 27 วัน หลวงพ่อชื้น ท่านก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ว่าจิตใจสบายและสงบขึ้น และในคืนวันที่ 27 นั้นตอนใกล้รุ่งที่โคนต้นโพธิ์ หลวงพ่อชื้น ท่านได้ยินเสียงเหมือนคนหว่านทรายมารอบ ๆ ตัวท่าน จึงลืมตาถาม พระธุดงค์ พี่เลี้ยงว่า “นั่นเสียงอะไร” พระธุดงค์ จึงตอบว่า “ผีประจำต้นโพธิ์มันจะเข้าต้นไม้ มันไล่ท่านแล้ว” คืนต่อมาหลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลาง องค์พระทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจ เต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

    พระอาจารย์มรณภาพ
    หลังจากวันนั้นแล้วพระธุดงค์องค์นั้นก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า หลวงพ่อชื้น เล่าว่า พระธุดงค์องค์นี้ ชื่อ หลวงพ่อเสน เตชะธัมโม เป็นชาวโคราช อำเภอสูงเนิน มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็ก ๆ กับพระยาท่านหนึ่ง ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดบรมนิวาส ได้เล่าเรียนพระปริยัตธรรม วิปัสสนากรรมฐานอยู่กับ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) จนกระทั่งมีความคงแก่เรียน จึงได้ออกรุกขมูลธุดงค์หาความวิเวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งบำเพ็ญเพียรถึงขั้นสูงสุดหลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบ ก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอมหลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

    - หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน"

    - หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา

    - หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น

    - หลวงปู่แหวน วัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

    - ผมเคยถามท่านด้วยตัวเองว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ (เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้) ท่านตอบว่า "ได้" และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้!

    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณสักการะ จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2020
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1617.พระกรรมฐานผู้ซ่อนเร้นมากด้วยอภิญญาของจริง(๑)
    รูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ศิษย์ลป.มั่น,ศิษย์พอจ.จวน ยุคสร้างสะพานขึ้นภูทอก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6ihB.jpg
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม บ้านนาเจริญ จ.บึงกาฬ เนื้อว่านผสมผงมหาพุทธคุณ มหาอนันตัง(มวลสารมากมายเกินบรรยายตามแบบฉบับ อ.อำพล เจน) ใต้ฐานฝังแผ่นทองฝาบาตร ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 รังสรรค์ผลงานโดย อ.อำพล เจน อัครศิลปินแห่งสำนักห้วยไผ่

    อธิษฐานจิต : ( 6 สค 54 – 13.13 น. )
    หลวงปู่ทองสาอธิษฐานจิตปลุกเสกรูปเหมือนรุ่นแรกขององค์ท่าน โดยใช้เวลากำหนดจิต 9 นาที ไม่รวมเวลาสวด
    ท่านตั้งใจเสกรุ่นนี้เป็นที่สุด ปกติทุกครั้งที่เคยเห็นท่านเสก อย่างมากก็แค่ 5 นาที , วางกล่องพระลงตรงหน้าก็นั่งหลับตาเสกเลย คราวนี้แปลก ท่านสวดก่อน แว่วๆว่าเป็นการสวดตั้งธาตุ แล้วจึงนั่งกำหนดจิตนิ่งสนิท แทบไม่เห็นอาการไหวของลมหายใจ

    สรุปจำนวนที่ถวายหลวงปู่
    - เนื้อทองทิพย์ 1,289 องค์
    - เนื้อว่าน 4,069 องค์
    หลวงปู่จะไม่เอาออกมาจำหน่าย ท่านจะแจกฟรี ได้ยินว่าจะเอาไว้แจกผ้าป่า

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม
    ท่านเป็นพระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ที่เก็บตัวซ่อนเร้นไม่ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอก อยู่ป่าอยู่เขาที่วิเวกเงียบสงัด ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) แต่ก็ทันพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ในขณะที่ยังเป็นสามเณร เราท่านอาจไม่รู้จักท่าน แต่ในหมู่พระกัมมัฐฐานโดยมากรู้จักท่านทั้งนั้น

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม เล่าว่า เหตุที่ท่านได้มาอยู่วัดป่าจิตตวิทยาราม ซึ่งเป็นวัดร้างนั้นเพราะ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ( วัดภูกระแต ) มีบัญชาให้ท่านมาบูรณะและรักษาวัดร้างให้กลับคืนเป็นวัดดี

    เมื่อวานนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (23 มกราคม 57)
    คือวันที่หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม ถึงกาลมรณภาพ
    แต่เดิมหลวงปู่ทองสาเป็นพระเก็บตัวเงียบ ใครนิมนต์ไปปลุกเสกพระที่ไหนก็ไม่ไป เห็นกล้องถ่ายรูปจะเดินหนี ใครขอถ่ายรูปก็ไม่ให้ถ่าย หลังจากพรรษาอายุมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงอนุโลมให้
    ในที่สุดแล้ว เพียงไม่นานปี ท่านก็จากหมู่ศิษย์อย่างไม่มีวันกลับ

    เกี่ยวกับหลวงปู่ทองสา
    ทราบมาจากคำบอกเล่าของท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ว่า แต่เดิมท่านเป็นพระที่ปิดตัวเงียบเชียบ แม้กระทั่งการถ่ายรูป ท่านก็มักจะเลี่ยงไม่ยอมถ่าย การปลุกเสกต่างๆก็ไม่ใคร่ทำ แต่ครั้นได้พบกับท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ ท่านกลับอนุโลม จะด้วยลูกตื้อ หรืออะไรก็มิทราบได้ (ในกรณีนี้เหมือนกับอีกหลายกรณีที่ครูบาอาจารย์ที่ว่าไม่เสกๆ แต่สุดท้ายก็เสกให้ เช่น สาธุใหญ่คำจันทร์ เป็นอาทิ) จนเป็นที่มาแห่งมรดกขลังหลายอย่าง ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นว่า มหากศปฤาษี, พระนาคเกี้ยวใหญ่, ตระกรุดหัวใจพระปาฏิโมกข์, พระพิราพ, ล๊อกเกต รวมถึงพระรูปเหมือนรุ่นแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
    คนที่สัมผัสกับท่านจะรู้สึกถึงความสงบ สะอาด ร่มเย็น ด้วยท่านมีกริยาสุภาพ พูดน้อย เสียงเบาบางครั้งท่านผู้เฒ่าต้องสะกิดคนข้างๆว่าท่านพูดอะไร เพราะฟังไม่ถนัด ส่วนเรื่องการปลุกเสกนั้น แลเห็นถึงความตั้งใจของท่านมาก อย่างเมื่อครั้งท่านปลุกเสกพระพิราพ ท่านก็เสกเป็นเวลานานจนจำวัดที่หน้ากล่องพระนั่นเลย หรือพระรุ่นอื่นๆ ท่านก็เสกอย่างตั้งใจ เอาจนพอใจ อย่างพระกศปมหาฤาษี ท่านออกปากเองว่า "เมตตาหลวง" เป็นต้น
    ดังนั้นในยุคนี้จึงมั่นใจได้ว่า หลวงปู่ทองสา เป็นอีกองค์ที่สร้างขลังแบบบินเดี่ยวได้ไม่แพ้ใคร รุ่นนี้คักๆๆหลายครับ



    # หลวงปู่ทองสา ร่วมสร้างสะพานไม้ภูทอก
    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม เป็น ๑ ในพระ ๒๐ รูปที่ไม่ตกใจกลัวความสูง
    ท่านเล่าว่า..มีพระไม่กี่รูปที่จะต้องโหนตัวลงสู่หน้าผา ลอยอยู่กลางอากาศ เพื่อตอกสกัดหินเพื่อจะฝังเสาค้ำสะพานไม้ที่ภูทอก
    หลวงปู่คงไม่ทราบว่า สะพานไม้ขนาบหน้าผา ไต่ขึ้นสู่ยอดภูทอก ซึ่งท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการร่วมสร้างนั้น ปัจจุบันคือสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆที่ผู้คนยกย่อง ถือเป็นผลงานน่าทึ่งเท่าที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถทำได้
    หลวงปู่ทองสาอาจมีคุณวิเศษในการทำของหนักให้กลายเป็นเบา
    ครั้งหนึ่งที่วัดภูผาแดง ชาวนาไถคราดถูกเศียรพระพุทธรูปสัมฤทธิ์หัก และนำเอาเศียรพระพุทธรูปนั้นมาถวาย
    หลวงปู่ได้ถามถึงส่วนที่เป็นลำตัวของพระพุทธรูป ..แต่ชาวนาบอกไม่ทราบ.. พบแต่เศียรเท่านั้น
    ท่านจึงให้ชาวนาพาไปดูบริเวณที่พบเศียรพระพุทธรูป ซึ่งเป็นนาน้ำท่วม
    ท่านยืนเพ่งดูอยู่อึดใจเดียว
    พระพุทธรูปที่เป็นส่วนลำตัวก็ลอยบุ๋งขึ้นมาเหนือน้ำอย่างน่าอัศจรรย์

    ผมมีวาสนาได้เห็นพระพุทธรูปทั้งองค์ที่พระลูกวัดทำการต่อเศียรแม้ไม่แนบเนียนแล้วด้วย
    เป็นพระพุทธรูปศิลปลาว ที่เรียกว่าเชียงรุ้ง หน้าตักประมาณ ๗ นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์เขียวคล้ำ ดูเก่าแก่เอาการ


    # ย้ายศาลา 40ต้นเพียงข้ามคืน
    หลวงปู่ทองสาพำนักอยู่วัดที่มีเรื่องศาลาผีดุ ซึ่งผมได้เขียนไปแล้วเมื่อหลายฉบับก่อน ซึ่งศาลาหลังนี้เป็นศาลาโบราณมีมาตั้งแต่สมัยก่อนที่หลวงปู่จะมาอยู่ที่นี่

    เมื่อไม่นานมานี้ เสาศาลาผุกร่อนไปมากโดยเฉพาะส่วนที่ฝังอยู่ในดิน หลวงปู่จึงคิดจะบูรณะซ่อมแซมเพื่อรักษาศาลาไว้ใช้งานได้ต่อไป ท่านไปขอแรงชาวบ้านให้มาช่วยย้ายศาลาครั้งแรก ชาวบ้านก็เฉย ไปขอครั้งที่ 2 และ 3 ก็เฉย

    ปรากฏว่า ในคืนวันหนึ่ง คืนเดียวผ่านไปชาวบ้านจึงเห็นว่า ศาลาเขยื้อนไปจากที่เก่า 10 เมตร ได้อย่างไรไม่รู้

    ศาลานี้ใหญ่โตมาก จุคนได้ร่วมพันคน
    เท่านั้นแหละชาวบ้านจึงได้แห่กันเข้ามาช่วย ซึ่งเวลานี้ก็เทปูนรองรับเสาศาลาและยกศาลากลับมาตั้งไว้ที่เดิมแล้ว
    ตอนยกศาลากลับที่เก่าเป็นเรื่องโกลาหลใหญ่โต ต้องใช้กำลังคนและเครื่องมือช่วยอย่างเต็มที่จึงย้ายได้
    ถามหลวงปู่ว่าท่านย้ายศาลาเองได้อย่างไร ท่านว่า “ใช้ไม้งัดเอา”
    วัดนี้ส่วนใหญ่หลวงปู่อยู่เพียงลำพังองค์เดียวแต่วันที่ย้ายศาลานั้น มีพระลูกวัดอยู่ด้วยอีก 2 องค์รวมกับหลวงปู่เป็น 3 องค์ น่าแปลกประหลาดใจว่าทำได้อย่างไร

    เรียกว่ากับศาลาไม้ที่มีเสาขนาด 1 คนโอบ 40 ต้น แค่ไม้ก็งัดให้เขยื้อนไปได้



    # รับแขกลึกลับยามวิกาล
    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ทองสาเดินทางมาพร้อมกับลูกศิษย์จากจังหวัดบึงกาฬ มาพักอยู่ในป่าเขตอำเภอโขงเจียม ซึ่งศิษย์ทางจังหวัดอุบลฯนิมนต์ท่านมาดูพื้นที่สำหรับจะตั้งขึ้นเป็นวัด

    ลูกศิษย์ที่เดินทางมากับหลวงปู่ ได้กระซิบบอกสารวัตร เทวินทร์ กองพร สภ.อ. โขงเจียม ว่าถ้าจะนอนพักใกล้กับหลวงปู่.. อย่าหลับ.. ดึกๆมักจะมีอะไรดีๆ

    สารวัตร เทวินทร์ จึงแอบปูเสื่อ นอนอยู่ใต้ถุนกุฏิที่หลวงปู่ทองสาจำวัด

    ตกดึกได้ยินเสียงเหมือนหลวงปู่ลุกขึ้นมาพูดคุยกับใครไม่ทราบ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องสนทนาธรรมที่ทั้งลึกทั้งพิสดาร

    ภายหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ จึงเรียนถามหลวงปู่ว่า ที่กุฏิกลางป่านั้น ท่านคุยกับใครอยู่ทั้งคืน หลวงปู่ตอบว่า.. “ไม่ได้คุยกับใครหรอก.. เฮาชอบนอนละเมอ..”

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - คัดลอกจากงานเขียนท่านอาจารย์อำพล เจน


    สภาพสวยคราบฝาไขว่านคราบเดิมๆ เก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2020
  13. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    ขอจองครับ
     
  14. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,712
    ค่าพลัง:
    +5,791
    จองครับ
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2020
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    30/03/2563



    คุณraewat
    - EMS เลขที่ EW870982554TH

    ---------------------------------------


    คุณจัมโบ้เอ
    - EMS เลขที่ EW870982545TH

    ---------------------------------------

    คุณphraedhammajak
    - EMS เลขที่ EW870982568TH
    ---------------------------------------




    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com



    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363



    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$





    1618.กันมหาภัยกันนิวเคลียร์ มงคลวัตถุแห่งพระคาถาวันโลกดับ
    พระนาคปรกร่มเย็น หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย พุทธคุณกันนิวเคลียร์และสรรพภัย

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระนาคปรกร่มเย็น หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย ดำเนินการจัดสร้างโดย คุณอำพล เจน แห่งสำนักห้วยไผ่ เนื้อผงมหาพุทธคุณ,ผสมผงเกสร, ผสมว่าน,ผงขี้เหล็กไหล และมวลสารอื่นๆอีกมากมาย ใต้ฐานฝังของอาถรรพ์ และกดโค๊ด(ยันต์สี่เหลี่ยมกันภัย)

    วัตถุประสงค์การจัดสร้าง : เพื่อนำปัจจัยในการบำรุงวัดธาตุมหาชัยทั้งหมด

    พุทธลักษณะ
    เป็นพิมพ์พระสังกัจจายณ์ปิดตาทรงสังฆาฏิ ประทับบนบัลลังก์งู
    ด้านหลัง : บรรจุหัวใจพระคาถาวันโลกดับ บทเดียวกับในตะกรุดที่ฝังชุดพิมพ์พระโพธิบุญญา

    ใต้ฐาน : ประทับยันต์สี่เหลี่ยมกันภัย ของหลวงปู่คำพันธ์(ผูกและย่อมาจากพระคาถาที่ประทับในพระธาตุพนม) พร้อมทั้งบรรจุผงตะไบทอง, พลอยกิมบ่เสี้ยง, ก้อนและผงขี้เหล็กไหล, ว่านมหามงคล


    โดยทำพระขึ้นทั้งหมด 3 พิมพ์ คือ พิมพ์พระนาคปรกร่มเย็น, พิมพ์พระโพธิบุญญา(พระประธานวัดแก่งตอย) กับพิมพ์พระปิดตาบัลลังก์งู (ฐานเป็นงู) จำนวนการสร้าง พิมพ์ละไม่เกิน 2,000องค์ โดยเฉพาะพระปิดตาบัลลังก์งู ได้ถวายหลวงปู่คำพันธ์เพื่อบำรุงวัดธาตุมหาชัยทั้งหมด ท่านที่ต้องการพระปิดตาบัลลังก์งูต้องไปขอรับเองที่วัดธาตุมหาชัย

    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ
    เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยว ในระหว่างพรรษาโดยดำเนินการปลุกเสกระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม ถึง 25 พฤศจิกายน ปีพ.ศ.2539 พระชุดนี้จึงเป็นชุดที่ลงไว้ด้วยพุทธคาถาวันโลกดับ ซึ่งเป็นบทที่หลวงปู่ใช่ในการอธิษฐานจิตวัตถุมงคลอย่างแท้จริง


    คาถากันภัยของหลวงปู่ขาวมีดังนี้
    “ทิตะศีลาคันธะมังกะโร กะระกะลาสาสะติ โสตะถิโหคะหะคะเน”


    ข้อมูลจาก : งานเขียนของคุณอาอำพล เจน ... จากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 339 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2540ปรกร่มเย็นกับหัวใจพุทธคาถาวันโลกดับ

    สภาพสวยเดิม พิมพ์คมยันต์ชัดลึกไม่ผ่านการใช้งาน มีกดไม่ติดบ้างเล็กๆน้อยๆ มวลสารอันศักดิ์สิทธิ์แห่งการเคารพบูชา ผสมผสานกับงานศิลป์ชั้นครูของ คุณอำพล เจน ด้วยแล้วลงตัวสุดๆ แบ่งให้บูชา 1,999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6i2U.jpg
      6i2U.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.2 KB
      เปิดดู:
      471
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2021
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1619.ยอดประสบการณ์คุณคือคนแรกที่สัมผัส(A)เหรียญหยดน้ำ ภ.ป.ร
    หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง พระเถราจารย์สายพระกรรมฐานหลวงปู่มั่น

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6i3x.jpg
    เหรียญพิมพ์หยดน้ำ พระพุทธรูปสุโขทัยปางมารวิชัย ภ.ป.ร หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อนวโลหะรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 ผลิตโดยกองกษาปณ์กรมธนารักษ์

    พุทธลักษณะ
    ด้านหน้า : เป็นรูปพระพุทธรูปสุโขทัยปางมารวิชัยเต็มองค์ มีตราพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร จารึกข้อความว่า " ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำสุขมาให้"
    ด้านหลัง : มีรูปหลวงปู่แหวนครึ่งองค์ มีข้อความว่า สุจิณโณ 2525


    ประสบการณ์ของเหรียญรุ่นนี้
    ที่มาหนังสือพิมพ์บ้านเมือง : http://www.ryt9.com/s/bmnd/1682576


    ประวัติโดย่อ หลวงปู่แหวน
    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เดิมชื่อ ญาณ หรือ ยาน รามศิริ เกิดวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2430 วันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง บ้างก็ว่า บ้านหนองบอน ตำบลหนองใน (ปัจจุบัน เป็น ตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย เมื่อหลวงปู่อายุประมาณ 5 ขวบ พอจำความได้บ้างว่า ก่อนที่มารดาจะเสียชีวิต ได้เรียกไปสั่งเสียว่า "ลูกเอ๋ย แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ จะเป็นกี่ล้านกี่โกฏก็ตาม แม่ก็ไม่ยินดี และแม่จะยินดีมาก ถ้าลูกจะบวชให้แม่จนตายในผ้าเหลือง ไม่ต้องสึก ออกมามีเมีย นะลูกนะ" หลัง จากนั้นมารดาได้ถึงแก่กรรมลง ท่านจึงอยู่ในความดูแลของตากับยายขุนแก้ว อนึ่ง ยายของหลวงปู่ได้ฝันว่า เห็นหลานชายไปนั่งไปนอนอยู่ในดงขมิ้นจนเนื้อตัวเหลืองอร่ามน่าชม จึงได้มาร้องขอให้บวชเช่นเดียวกัน ท่านจึงรับปาก แล้วบวชพร้อมกับหลานยายอีกคน หนึ่ง ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และมีศักดิ์เป็นน้า ยายได้นำหลานทั้ง 2 คน ไปถวายตัวต่อ พระอุปัชฌาย์ที่ วัดโพธิ์ชัย ( มหานิกาย) ในหมู่บ้านนาโป่ง เพื่อฝึกหัดขานนาค ทำการบรรพชาเป็น สามเณรต่อไป


    ด้วยคำพูดของแม่ในครั้งนั้น เป็นเหมือนพรสวรรค์คอยเตือนสติอยู่ตลอดเวลา มันเป็นคำสั่ง ที่ก้องอยู่ในความทรงจำมิรู้เลือน จนในที่สุดท่านก็ได้บวชตามความประสงค์ของมารดาและใช้ชีวิต อยู่ในผ้าเหลืองจนตลอดอายุขัย

    หลวงปู่แหวน มีโรคประจำตัวคือ เป็นแผลเรื้อรังที่ก้นกบยาวประมาณ 1 ซม. มีอาการคัน ถ้าอักเสบก็จะเจ็บปวดมาก และอีกโรคหนึ่ง คือ เป็นต้อกระจกนัยน์ตาด้านซ้าย เป็นต้อหินนัยน์ตาด้าน ขวา หมอได้เข้าไปรักษาเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2518 ซึ่งรักษาแล้ว สุขภาพก็ยังแข็งแรงตามวัย แต่ ต่อมาปี 2519 ร่างกายเริ่มซูบผอม อ่อนเพลีย ฉันอาหารได้น้อย ขาทั้ง 2 เป็นตะคริวบ่อย ต่อมา 2520 สุขภาพทรุด ค่อนข้างซูบเหนื่อยอ่อน เวียนศีรษะถึงกับเซล้มลง และประสบอุบัติเหตุขณะครอง ผ้าจีวรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2522 ซึ่งเป็นวันที่ทางวัดจัดงานผูกพัทธสีมา ส่งผลให้เจ็บบั้นเอวและ กระดูดสันหลัง ลุกไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่ รักษาอยู่เดือนหนึ่ง ก็หายเป็นปกติ แต่เนื่องจากหลวงปู่อายุ มากแล้ว จึงมีอาการอาพาธมาโดยตลอด คณะแพทย์ก็คอยให้การรักษาด้วยดีเช่นกัน จนกระทั่งใน วัน อังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2528 เวลา 21.53 น. การหายใจครั้งสุดท้ายก็มาถึง หลวงปู่ท่านได้ละร่าง อันเป็นขันธวิบากไปด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุได้ 98 ปี

    หลวงปู่แหวนท่านได้อธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆมากมายหลายรุ่น ล้วนมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม

    สภาพสวยซองเดิมไม่เคยแกะออกมา ใหม่ผิวน้ำยาเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก พระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณหายห่วง เมตตาคลาดแคล้วดีนักแล แบ่งให้บูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณsurasakkarun จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2020
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1620.พระกรรมฐานผู้ซ่อนเร้นมากด้วยอภิญญาของจริง(๒)
    รูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ศิษย์ลป.มั่น,ศิษย์พอจ.จวน ยุคสร้างสะพานขึ้นภูทอก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6iWa.jpg
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม บ้านนาเจริญ จ.บึงกาฬ เนื้อว่านผสมผงมหาพุทธคุณ มหาอนันตัง(มวลสารมากมายเกินบรรยายตามแบบฉบับ อ.อำพล เจน) ใต้ฐานฝังแผ่นทองฝาบาตร ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 รังสรรค์ผลงานโดย อ.อำพล เจน อัครศิลปินแห่งสำนักห้วยไผ่

    อธิษฐานจิต : ( 6 สค 54 – 13.13 น. )
    หลวงปู่ทองสาอธิษฐานจิตปลุกเสกรูปเหมือนรุ่นแรกขององค์ท่าน โดยใช้เวลากำหนดจิต 9 นาที ไม่รวมเวลาสวด
    ท่านตั้งใจเสกรุ่นนี้เป็นที่สุด ปกติทุกครั้งที่เคยเห็นท่านเสก อย่างมากก็แค่ 5 นาที , วางกล่องพระลงตรงหน้าก็นั่งหลับตาเสกเลย คราวนี้แปลก ท่านสวดก่อน แว่วๆว่าเป็นการสวดตั้งธาตุ แล้วจึงนั่งกำหนดจิตนิ่งสนิท แทบไม่เห็นอาการไหวของลมหายใจ

    สรุปจำนวนที่ถวายหลวงปู่
    - เนื้อทองทิพย์ 1,289 องค์
    - เนื้อว่าน 4,069 องค์
    หลวงปู่จะไม่เอาออกมาจำหน่าย ท่านจะแจกฟรี ได้ยินว่าจะเอาไว้แจกผ้าป่า

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม
    ท่านเป็นพระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ที่เก็บตัวซ่อนเร้นไม่ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอก อยู่ป่าอยู่เขาที่วิเวกเงียบสงัด ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) แต่ก็ทันพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ในขณะที่ยังเป็นสามเณร เราท่านอาจไม่รู้จักท่าน แต่ในหมู่พระกัมมัฐฐานโดยมากรู้จักท่านทั้งนั้น

    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม เล่าว่า เหตุที่ท่านได้มาอยู่วัดป่าจิตตวิทยาราม ซึ่งเป็นวัดร้างนั้นเพราะ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ( วัดภูกระแต ) มีบัญชาให้ท่านมาบูรณะและรักษาวัดร้างให้กลับคืนเป็นวัดดี

    เมื่อวานนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (23 มกราคม 57)
    คือวันที่หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม ถึงกาลมรณภาพ
    แต่เดิมหลวงปู่ทองสาเป็นพระเก็บตัวเงียบ ใครนิมนต์ไปปลุกเสกพระที่ไหนก็ไม่ไป เห็นกล้องถ่ายรูปจะเดินหนี ใครขอถ่ายรูปก็ไม่ให้ถ่าย หลังจากพรรษาอายุมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงอนุโลมให้
    ในที่สุดแล้ว เพียงไม่นานปี ท่านก็จากหมู่ศิษย์อย่างไม่มีวันกลับ

    เกี่ยวกับหลวงปู่ทองสา
    ทราบมาจากคำบอกเล่าของท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ว่า แต่เดิมท่านเป็นพระที่ปิดตัวเงียบเชียบ แม้กระทั่งการถ่ายรูป ท่านก็มักจะเลี่ยงไม่ยอมถ่าย การปลุกเสกต่างๆก็ไม่ใคร่ทำ แต่ครั้นได้พบกับท่านผู้เฒ่าและอาจารย์เวทย์ ท่านกลับอนุโลม จะด้วยลูกตื้อ หรืออะไรก็มิทราบได้ (ในกรณีนี้เหมือนกับอีกหลายกรณีที่ครูบาอาจารย์ที่ว่าไม่เสกๆ แต่สุดท้ายก็เสกให้ เช่น สาธุใหญ่คำจันทร์ เป็นอาทิ) จนเป็นที่มาแห่งมรดกขลังหลายอย่าง ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นว่า มหากศปฤาษี, พระนาคเกี้ยวใหญ่, ตระกรุดหัวใจพระปาฏิโมกข์, พระพิราพ, ล๊อกเกต รวมถึงพระรูปเหมือนรุ่นแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
    คนที่สัมผัสกับท่านจะรู้สึกถึงความสงบ สะอาด ร่มเย็น ด้วยท่านมีกริยาสุภาพ พูดน้อย เสียงเบาบางครั้งท่านผู้เฒ่าต้องสะกิดคนข้างๆว่าท่านพูดอะไร เพราะฟังไม่ถนัด ส่วนเรื่องการปลุกเสกนั้น แลเห็นถึงความตั้งใจของท่านมาก อย่างเมื่อครั้งท่านปลุกเสกพระพิราพ ท่านก็เสกเป็นเวลานานจนจำวัดที่หน้ากล่องพระนั่นเลย หรือพระรุ่นอื่นๆ ท่านก็เสกอย่างตั้งใจ เอาจนพอใจ อย่างพระกศปมหาฤาษี ท่านออกปากเองว่า "เมตตาหลวง" เป็นต้น
    ดังนั้นในยุคนี้จึงมั่นใจได้ว่า หลวงปู่ทองสา เป็นอีกองค์ที่สร้างขลังแบบบินเดี่ยวได้ไม่แพ้ใคร รุ่นนี้คักๆๆหลายครับ



    # หลวงปู่ทองสา ร่วมสร้างสะพานไม้ภูทอก
    หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิทยาราม เป็น ๑ ในพระ ๒๐ รูปที่ไม่ตกใจกลัวความสูง
    ท่านเล่าว่า..มีพระไม่กี่รูปที่จะต้องโหนตัวลงสู่หน้าผา ลอยอยู่กลางอากาศ เพื่อตอกสกัดหินเพื่อจะฝังเสาค้ำสะพานไม้ที่ภูทอก
    หลวงปู่คงไม่ทราบว่า สะพานไม้ขนาบหน้าผา ไต่ขึ้นสู่ยอดภูทอก ซึ่งท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการร่วมสร้างนั้น ปัจจุบันคือสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆที่ผู้คนยกย่อง ถือเป็นผลงานน่าทึ่งเท่าที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถทำได้
    หลวงปู่ทองสาอาจมีคุณวิเศษในการทำของหนักให้กลายเป็นเบา
    ครั้งหนึ่งที่วัดภูผาแดง ชาวนาไถคราดถูกเศียรพระพุทธรูปสัมฤทธิ์หัก และนำเอาเศียรพระพุทธรูปนั้นมาถวาย
    หลวงปู่ได้ถามถึงส่วนที่เป็นลำตัวของพระพุทธรูป ..แต่ชาวนาบอกไม่ทราบ.. พบแต่เศียรเท่านั้น
    ท่านจึงให้ชาวนาพาไปดูบริเวณที่พบเศียรพระพุทธรูป ซึ่งเป็นนาน้ำท่วม
    ท่านยืนเพ่งดูอยู่อึดใจเดียว
    พระพุทธรูปที่เป็นส่วนลำตัวก็ลอยบุ๋งขึ้นมาเหนือน้ำอย่างน่าอัศจรรย์

    ผมมีวาสนาได้เห็นพระพุทธรูปทั้งองค์ที่พระลูกวัดทำการต่อเศียรแม้ไม่แนบเนียนแล้วด้วย
    เป็นพระพุทธรูปศิลปลาว ที่เรียกว่าเชียงรุ้ง หน้าตักประมาณ ๗ นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์เขียวคล้ำ ดูเก่าแก่เอาการ


    # ย้ายศาลา 40ต้นเพียงข้ามคืน
    หลวงปู่ทองสาพำนักอยู่วัดที่มีเรื่องศาลาผีดุ ซึ่งผมได้เขียนไปแล้วเมื่อหลายฉบับก่อน ซึ่งศาลาหลังนี้เป็นศาลาโบราณมีมาตั้งแต่สมัยก่อนที่หลวงปู่จะมาอยู่ที่นี่

    เมื่อไม่นานมานี้ เสาศาลาผุกร่อนไปมากโดยเฉพาะส่วนที่ฝังอยู่ในดิน หลวงปู่จึงคิดจะบูรณะซ่อมแซมเพื่อรักษาศาลาไว้ใช้งานได้ต่อไป ท่านไปขอแรงชาวบ้านให้มาช่วยย้ายศาลาครั้งแรก ชาวบ้านก็เฉย ไปขอครั้งที่ 2 และ 3 ก็เฉย

    ปรากฏว่า ในคืนวันหนึ่ง คืนเดียวผ่านไปชาวบ้านจึงเห็นว่า ศาลาเขยื้อนไปจากที่เก่า 10 เมตร ได้อย่างไรไม่รู้

    ศาลานี้ใหญ่โตมาก จุคนได้ร่วมพันคน
    เท่านั้นแหละชาวบ้านจึงได้แห่กันเข้ามาช่วย ซึ่งเวลานี้ก็เทปูนรองรับเสาศาลาและยกศาลากลับมาตั้งไว้ที่เดิมแล้ว
    ตอนยกศาลากลับที่เก่าเป็นเรื่องโกลาหลใหญ่โต ต้องใช้กำลังคนและเครื่องมือช่วยอย่างเต็มที่จึงย้ายได้
    ถามหลวงปู่ว่าท่านย้ายศาลาเองได้อย่างไร ท่านว่า “ใช้ไม้งัดเอา”
    วัดนี้ส่วนใหญ่หลวงปู่อยู่เพียงลำพังองค์เดียวแต่วันที่ย้ายศาลานั้น มีพระลูกวัดอยู่ด้วยอีก 2 องค์รวมกับหลวงปู่เป็น 3 องค์ น่าแปลกประหลาดใจว่าทำได้อย่างไร

    เรียกว่ากับศาลาไม้ที่มีเสาขนาด 1 คนโอบ 40 ต้น แค่ไม้ก็งัดให้เขยื้อนไปได้



    # รับแขกลึกลับยามวิกาล
    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ทองสาเดินทางมาพร้อมกับลูกศิษย์จากจังหวัดบึงกาฬ มาพักอยู่ในป่าเขตอำเภอโขงเจียม ซึ่งศิษย์ทางจังหวัดอุบลฯนิมนต์ท่านมาดูพื้นที่สำหรับจะตั้งขึ้นเป็นวัด

    ลูกศิษย์ที่เดินทางมากับหลวงปู่ ได้กระซิบบอกสารวัตร เทวินทร์ กองพร สภ.อ. โขงเจียม ว่าถ้าจะนอนพักใกล้กับหลวงปู่.. อย่าหลับ.. ดึกๆมักจะมีอะไรดีๆ

    สารวัตร เทวินทร์ จึงแอบปูเสื่อ นอนอยู่ใต้ถุนกุฏิที่หลวงปู่ทองสาจำวัด

    ตกดึกได้ยินเสียงเหมือนหลวงปู่ลุกขึ้นมาพูดคุยกับใครไม่ทราบ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องสนทนาธรรมที่ทั้งลึกทั้งพิสดาร

    ภายหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ จึงเรียนถามหลวงปู่ว่า ที่กุฏิกลางป่านั้น ท่านคุยกับใครอยู่ทั้งคืน หลวงปู่ตอบว่า.. “ไม่ได้คุยกับใครหรอก.. เฮาชอบนอนละเมอ..”

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - คัดลอกจากงานเขียนท่านอาจารย์อำพล เจน


    สภาพสวยคราบฝาไขว่านคราบเดิมๆ เก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)






    (คุณพลานุภาพ จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2020
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,279
    ค่าพลัง:
    +14,363
    1622.เล็กดีรสโต พระแม่โพสพ สมเด็จพระพุฒาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม
    ยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ข้าวทิพย์ และมวลสารหลวงปู่ศุข

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    wmbe4j-jpg-jpg.jpg
    พระแม่โพสพ สมเด็จพระพุฒาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ เนื้อผงวิเศษผสมข้าวทิพย์(สีอมแดงแก่ข้าวทิพย์) จำนวนการสร้าง ไม่เกิน 2,000องค์

    พระแม่โพสพรุ่นนี้สร้างและปลุกเสกในโอกาส จัดงานประเพณีกวนข้าวมธุปายาส ณ วัดโพธิ์ศรี ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 16 - 17 พ.ค.2497 โดยอาจารย์ สิสส. หรือ สุธีร์ สอนสลับ(เฮ็ง) ชาวลพบุรีมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ข้างวัดโพธิ์ศรี ได้ไปร่ำเรียนจนเชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ คลุกคลีอยู่ในกรุงเทพโดยเฉพาะในวงการพระสงฆ์ จนเคารพนับถือสมเด็จฯ เป็นอย่างมาก และได้นิมนต์ท่านมาเป็นประธานในพิธีกวนข้างทิพย์ที่บ้านเกิดของตน

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    - เนื้อข้าวพิพย์เพียง 2กะทะ ได้พระทั้งหมดประมาณว่าไม่เกิน 2,000องค์ มีสองวรรณะ คือเหลืองนวลจางๆ(แก่ผง) และ สีเข้มออกส้ม(แก่ข้าวทิพย์) หลังเสร็จพิธีสมเด็จฯท่านได้นำพระแม่โพสพรุ่นนี้กลับไปแจกให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญถึง 300 บาทต่อ 1 องค์
    - ผงขี้เถ้าธูปบูชาพระประธานในพระอุโบสถ 108 วัดทั่วประเทศ
    - ผงพุทธคุณที่สมเด็จฯท่านได้มาจากหลวงปู่ศุข และเกจิอาจารน์ท่านอื่นๆที่ท่านสะสมมาชั่วชีวิต เพราะสมเด็จฯท่านเป็นคนชัยนาทโดยกำเนิด มีความสนิทกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มากชนิดที่เรียกว่า เมื่อใดที่หลวงปู่ศุขมีกิจนิมนต์มาที่กรุงเทพฯ หากท่านไม่ไปพักที่วังนางเลิ้งแล้ว หลวงปู่ศุขจะต้องมาพักที่วัดอนงค์ฯ เสมอ แม้แต่พระปรกใบมะขามของสมเด็จฯนั้น หลวงปู่ศุขกับ สมเด็จฯ ก็ยังได้ปลุกเสกร่วมกัน เป็นต้น


    ปัจจุบันในพื้นที่(วัดโพธิ์ศรี ลพบุรี) จะหาพระพิมพ์นี้ดูได้ยากยิ่งนัก นับได้ไม่เกินสิบองค์ เพราะพระที่แจกในวันงาน แจกให้เฉพาะพระผู้ใหญ่และกรรมการจัดงานเท่านั้น พระส่วนใหญ่ท่านนำกลับมาแจกในกรุงเทพฯ และเวลานี้พระได้กระจัดกระจายไปแบบไม่ทราบที่มา เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก

    พุทธคุณ :
    จากใบฝอยกำกับระบุไว้ว่า มีพุทธคุญเด่นด้านเมตตา และเจริญในโภคทรัพย์ ส่วนประสบการณ์ของผู้ที่บูชาติดตัว เกือบทุกท่านบอกว่า ทำมาหากินคล่อง เจราจาต่อรองใดมักจะได้รับความสำเร็จสมประสงค์อยู่เสมอ สรุปว่าน่าจะมีพุทธคุณเหมือนกับพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม รุ่นอื่นๆ เช่นกัน


    คนในพื้นที่เชื่อกันว่า เนื่องจากข้าวทิพย์เป็นอาหารมื้อสุดท้าย ที่ทำให้พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้ ดังนั้นหากใครได้ทำบุญ หรือบูชาข้าวทิพย์ จึงทำให้ผู้บูชามีอานิสงค์ให้เกิดปัญญา และสามารถหลุดพ้นจากทุกภัย ตลอดจนปัญหาชีวิตต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากนั้นบรรดดาทวยเทพเทวดาต่างๆ ที่ลงมาร่วมสร้างกุศลในพิธีกวนข้าวทิพย์ย่อมประสิทธ์ประสาทพรให้เกิดความสุข ความเจริญแก่ผู้ที่บูชาพระแม่โพสพเนื้อข้าวทิพย์นี้อีกด้วย


    สภาพสวยเก่าเก็บผิวหิ้งเดิมๆ คราบฝ้าไขว่านเดิม ไม่หักไม่ซ่อม พิมพ์คมชัดลึก เนื้อหาสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ราคาเบาหวิวแต่พุทธคุณเกินตัว แบ่งให้บูชา 370 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณพัฒนา จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2020

แชร์หน้านี้

Loading...